ให้ดูที่ " จิต "

อธิบายบอกกล่าว ยังไม่เข้าใจอีก

กลับเข้าใจว่าใช้อารมณ์ ผมเป็นเด็ก ก็เป็นเรื่องของผมครับ

ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวกับคุณตรงไหนเลย

ไม่เข้าใจที่เดือดร้อนขนาดนี้

สาธุครับ

 

ที่ โพส ต่อว่า เขา และ อวดตัวเองว่า ไม่โกรธ เพราะ เคยโดนด่า มากกว่านี้ น่ะ เขาเรียกว่าอวด ดี ครับ มี อัตตา เยอะ รู้ตัวมั้ย การอวดอ้าง ว่าตนเองไม่โกรธ เนี่ย แสดงว่า โกรธ แต่ พยายาม กดไว้ คน จริง เขา ลืมไปเลยว่า เคย โดนใครด่า เขาไม่เก็บไว้หรอก แต่ คุณ ยังเก็บไว้ในใจ แล้ว เอามาอวด ว่า ไม่โกรธ ถ้าคุณ ไม่โกรธ จริง คุณ ลืม มันไปแล้ว..จะบอกให้ เด็ก น้อย

 

เกี่ยวกีับผม โดยตรงเลยครับ..ผม เป็น พุทธบริษัท คนนึง คุณ กล่าวธรรมแบบผิดๆ ผม ยอมไม่ได้ ต้องขอ เอี่ยว..เข้า ใจ ปะ...

สติ และ สัมมปชัญญะ ไม่ใช่ จิต โอเคร ปะ...

ขอ เกี่ยวด้วย นะ หนุ่ม โอ๊ด นะ ถ้ารู้ไม่จริง อย่ามา โม้....

 

ขณะที่คุณโพสอยู่นี้ คุณรับรู้ไหมครับ คุณจดจำไหมครับ

ใช่คุณไหมครับ ที่โพสอยู่นี้ หรือ ว่าเป็นคนอื่น ไม่ใช่คุณ

เห็นหน้าตาไหมครับ ที่กำลังนึกคิดเพื่อโพสอยู่นี้

หากยังไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เข้าใจ คงไม่มีโอกาศได้เห็นอีกแล้วครับ

ขณะนี้ใช้ชื่อนี้แล้วหรือครับ

สาธุครับ

 

เช่นนั้น เชิญคุณอธิบายเรื่อง " จิต " ครับ

อย่าบอกว่าอธิบายไม่ได้นะครับ เพราะบอกว่าที่ผมกล่าวไม่ถูกต้อง

นั่นบ่งบอกว่าคุณรู้ คุณเห็น " จิต "

สาธุครับ

 

พอเอาคำพูดครูบาอาจารย์มายืนยัน ว่า oatthidet เข้าใจสภาวะพ้นตัวตน ไม่เหมือนกับที่ครูบาอาจารย์ท่านได้เจอด้วยตนเอง
oatthidet เงียบไปเลยแฮะ... สงสัยจะกำลังช๊อค...

 

ผมไม่เคยบอกกล่าวเลยว่า ผมไม่มีอัตตา

ผมเคยแต่บอกกล่าวว่า ให้หาตัวตนที่แท้จริงให้พบ

ที่ผมบอกไม่โกรธ เพราะไม่ได้โกรธจริงๆ

แต่ " จิต " มีหน้าที่ รับรู้ และ จดจำ

คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ

สาธุครับ

 

one more...ขอ อิ ที..สำหรับเม้นนี้

มันเสียหายหลาย กิโล 555 กการ ดูสติ ก็ ผิดแล้ว มันไม่มีขั้นตอนนี้ การดูสัมปชัญญะ ก็ผิด มัน ไม่ใช่ หนทาง หรือวิถีแห่งคำสอน พุทธะ หาก เป็นศาสนา พวก เมายา อาจ จะใช่...

สติ แปลว่าระลึกได้ สัมปชัญญะ แปลว่า รู้สึกตัว...
การระลึกได้ ไม่ใช่การตั้งท่า ที่จะไป ระลึก แต่การระลึก คือ การ เกิด ขึ้นเองของความคิด หาก เป็น สามัญสติ จะระลึก เรื่องโลกๆ เรื่องธุระปะปัง หาก เป็น ทางธรรม..ที่เป็น สัมมาสติ ((ย้ำ สัมมาสติ นะครับ)) ต้องระลึก ได้ถึงความเคลื่อนไหว ของวิญญาณ ที่เกิด กับ รูป หหรือ นาม ที่ประกอบในความเป็น ตัวเราเท่านั้น....ชัดเจน นะ

 

ย้อนกลับไปอ่านนะครับ ว่าผมได้โพสไว้อย่างไร

ตอบกันไปก็ไม่จบ ถามกันไปก็ไม่จบ

ต่อให้ผมอธิบายมากกว่านี้ คุณก็ยังไม่เข้าใจว่า

ที่หลวงปู่กล่าวนั้น ผมกล่าวเหมือนตรงไหน

สาธุครับ

 

ขนาดเข้าใจถูกเป็นบางส่วน ยังไม่เข้าใจที่ผมบอกกล่าวเลย

รู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรอยู่ ระลึกได้ไหมว่าตนเองเป็นอะไร

สาธุครับ

 

คำที่อ้างว่า โดนด่าเยอะๆ แล้ว ไม่โกรธ นั่นแหละ เขาเรียกว่าอวดตัวว่า ไม่มีอัตตา..เบื้องหลัง คำอ้าง ของคุณ คือ การ ต้องการ สรรเสริญ จากคนอื่น ว่า คุณเก่ง ที่ ข่มอารมณ์ โกรธได้ 555 เห็น มะ ผม ฉีก ความต้องการ ของคุณให้เห็น 2 ชั้นเลยนะ 1. ต้องการอวด ว่า กด ข่มเก่ง 2. ต้องการ คำสรรเสริญจากคนอื่น ว่า เก่ง ที่ ไม่ โกรธ เพราะ ไม่มีอัตตา

เด็ กโอ๊ด เอย...หัด ต่อไป เยอะๆนะ แต่ ให้หัดเเจริญสติ มากๆนะ...
ผม ห่วงคุณ นะ อย่าแปล เจตนา ผมผิดไปล่ะ

 

รู้สิ ว่า กำลัง จะ สยบ คุณ ไม่ให้ ทำ ความเสียหายแก่ คำสอน ของพระพุทธศาสดา คุณ กล่าว ธรรมมะ แบบผิดๆ โดยอาศัย คำสอนของพุทธศาสนา ามาอ้าง

ใครที่ยังไม่รู้ จริงจะไขว้เขว

 

เช่นนั้น ขอให้คุณสมหวังนะครับ

เชิญคุณเถอะครับ หากทำแล้วสบายใจ

สาธุครับ

 

คนเรานะ อะไร ที่ ไม่ต้องการแล้ว จะทิ่้งไปเลย...ไม่มีทาง คิดถึง ไม่มีทาง ถวิลหา หาก ยังนึกได้ ยัง คิดถึงอยู่ นั่นแสดงว่า ยัง ทิ้งไม่ได้จริง

หาก ไม่โกรธ จะ จำ ไว้ทำไม เล่า หนุ่ม เอ้ย....เพราะ โกรธ ฝังใจ จึง จำไว้ เก็บไว้ จำได้ แม่น ใคร ด่า เราไว้ เรา จะไม่โกรธ แต่เราจะจำไว้ ฮาๆๆๆๆๆ

 

oatthidet ลองอ่านอันนี้ซ้ำๆ อีกทีนึงนะ แล้วดูสิว่า ตัวเองพิมพ์อะไรออกมา

1. ต่อให้ผมอธิบายมากกว่านี้
2. คุณก็ยังไม่เข้าใจว่า
3. ที่หลวงปู่กล่าวนั้น
4. ผมกล่าวเหมือนตรงไหน

มันก็แน่นอนสิครับ ต่อให้คุณอธิบายขยายความให้ตายยังไง มันก็ไม่เหมือนหรอก

ก็คุณบอกว่า จิตที่เป็นสภาวะไร้ตัวตน ไม่สามารถรับรู้อารมณ์ได้
แต่หลวงปู่ดูลย์ท่านบอกว่า มีจิต ย่อมมีการรับรู้อารมณ์ จิตของพระอรหันต์ก็รับรู้อารมณ์

คุณอธิบายขยายความอีก 100 ปี มันก็ไม่เหมือนกันหรอกครับ!!!

จริงๆ แล้ว ประเด็นที่ผมอยากให้คุณสำเหนียกเอาไว้ให้ชัดๆ ลึกๆ ในใจเลยนะ

คือ คุณไม่ต้องมาคิดหรอก ว่าผมแย้งคุณ ว่าผมบอกว่าคุณผิด

แต่ให้คุณพิจารณาให้ดี ว่า ในการปฏิบัติของคุณ ปลายทางที่คุณตั้งไว้ มันไม่ใช่สภาวะนิพพาน มันผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว
หลวงปู่ดูลย์ท่านบอกไว้ชัดเจนแล้ว ถึงสภาวะจิตที่พ้นแล้ว แต่ยังดำรงธาตุขันธ์ ซึ่งมัน ตรงกันข้าม กับสภาวะที่คุณเข้าใจว่าเป็นสภาวะไร้ตัวตน

หากตั้งที่หมายที่จะเดินผิด แล้วมันจะเดินไปถึงได้ยังไง?

พิจารณาดูดีๆ นะ ผมไม่ได้มาแย้งคุณเพื่อประโยชน์ของตัวผมเอง

แต่ผม ยกคำสอนของครูบาอาจารย์ ให้คุณเทียบด้วยตัวเอง ว่าคุณตั้งเป้าหมายถูกที่หรือไม่? แล้วถ้าตั้งเป้าหมายผิดที่ คุณจะไปตกที่ไหน? มันไม่ใช่นิพพานแน่นอน

แล้วถ้าหากคุณเดินทางไปสู่ทางที่ไม่ใช่นิพพาน ด้วยตัวคุณเอง ด้วยวิธีทางของคุณเอง ถ้าคุณบอกว่า คุณอยากไปที่ๆ ไม่ใช่นิพพาน ไม่ฟังคำพูดครูบาอาจารย์ ก็ไม่เป็นไร แต่กรณีนี้คุณกำลังสวมรอย เอาการปฏิบัติของคุณ ที่ไม่เดินไปสู่นิพพาน มาสวมรอยให้คนอื่นคิดว่าเป็นทางไปสภาวะไร้ตัวตน ผม จึงยกคำพูดครูบาอาจารย์ มาเตือนคุณ เพื่อให้คุณไม่หลงทำกรรมหนักไปกว่าเดิม

อันนี้ผมถือว่า หน้าที่ผม ในฐานะ กัลยาณมิตร และ ผู้รักษาพุทธศาสนา ได้สำเร็จลงแล้ว
แต่หากคุณจะยังดื้อดึง พยายามเผยแพร่วิธีปฏิบัติ ที่ไม่นำไปสู่นิพพาน โดยการบอกว่าเป็นทางไป
ก็ให้ถือว่าเป็นกรรมของคุณในการพยายามปิดกั้นมรรคผลผู้อื่น และ บิดเบือนคำสอนพระพุทธองค์ โดยสมบูรณ์แท้ นะครับ

 

คุณเป็นเช่นที่คุณกล่าวมาหรือครับ

ถึงได้เอาตนเองเป็นมาตฐานกำหนดผู้อื่น ว่าต้องเป็นเช่นเดียวกันกับคุณ

สาธุครับ

 

กรุณานำลิงค์มาด้วยครับ จะเป็นพระคุณ

สาธุครับ

 

ผม เคย ฟังพระธรรมเทศนา ของหลวงปู้ เทศน์ เทสรังสี วัด หินหมากเป้ง..ท่านกล่าว ไว้ว่า....

การภาวนา..นั้น มีเจตนา ที่สำคัญ คือ การ หาจิต.....
เมื่อผมฟังคำนี้ ผม ก้ เห็นจริง ตาม ที่หลวงปู่ เทศน์ กล่าวเลย

ท่านกล่าวตรงประเด็น ทุกๆคน ที่หัดภาวนา ล้วน ภาวนา หาจิตทั้งนั้น..
จิตเป็นนามธรรม หา ตัวยากมาก ทีนี้ เรา ภาวนากัน เพื่อ หา จิต ไป เพื่อ อะไร รู้มั้ย..

ผม มาตรองๆ ดู ภาวะแท้ๆของจิต คือ การเกิดๆ ดับๆเรื่อยๆไป หากใคร สามารถ ภาวนา จนเห็น จิตได้ ก็ จะเห็นความเกิด ดับของ จิต เมื่อ สามารถเห็นความเกิด ดับของจิต..ก็ จะ เกิด การปล่อยวางได้ เพราะ ขนาด สิ่งที่ เป้นประธาน คือ จิตนั้น มัน มีภาวะ เกิดดับๆ ประสาอะไร กับสิ่งนอกๆ ที่ท หยาบกว่า จิต จะ ไม่เกิด หรือ ดับไป

คำกล่าว ของพระพุทธองค์ ท่าน เคยกล่าวว่า...
บุคคล เกิดมา 100 ปี หาก ไม่เคยเห็นเกิด ดับ นับว่าเสียชาติเกิด สู้ คน ที่เกิด มาเพียงวันเดียว แล้ว เห้น ความ เกิด ดับ ไม่ได้....

นี่แหละ ที่ผม เห็นจริงตาม ที่หลวงปู่ เทศน์ ท่าน สอนไว้

 

เวรกรรม...มี เถียง 5455555555++++
ใคร ที่ชอบ เก็บ ของไม่ดี ที่ตนเอง ไม่ต้องการ แล้ว ไว้กับตัว เขาเรียกคน บ้า ครับ การ ที่คูณ บอกว่า โดน ใคร ด่าเยอะแยะ แต่ไม่โกรธ แสดงว่า คุณ ชอบ ที่ มีคนด่า คุณ จึงเก็บ ความรู้ เรื่อง ที่ถุก ด่าไว้ในใจ..อย่างนั้น หรอ พ่อ หนุ่ม..555

แหมๆ เก็บ ความีรู้สึก ที่ โดนด่าไว้ แล้ว เอามา เล่า ให้ฟังว่า ไม่โกรธ ..มันแสดง นัยยะ แล้วว่า ต้องการ รักษา คำ ที่โดนด่าไว้เพื่อ เอาไว้อวด ใคร ต่อ ใคร ว่า 555 ข้า เก่ง ที่ไม่โกรธ

 

จิต ที่ไม่แข็งแรงด้วย สติ เวลา มัน โดน กระทบ มันจะปรุงแต่ง ABCDEFG ต่างๆ นาๆ ต้องใช่ สติ คุม แล้วคอยไปดู จิต มันจะไม่ กระโดด ไป กระโดด มา

สาธุ