อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    การเข้าถึงธรรมนั้นเป็นเรื่องฉะเพราะตนจริงๆที่ทุกคนสมควรปฎิบัติให้เข้าถึง แต่การแผ่แผ่คำสอนควรกล่าวคำตถาคต เพื่อการวิเคาระห์หาสิ่งที่ถูกต้องร่วมกัน สิ่งนี้เรียกว่าเป็นบริษัทที่เลิศ ถ้ายึดเอาคำครูอาจารย์แล้วมันหาที่จบไม่ได้ถาเกิดการโตวแย้งกัน ทำให้ทุกวันนี้จึงแตกแยกกันไปเป็นนิกายนั้นนิกายนี้

    เพราะสาเหตุมาจากคำสาวกคนนั้นสาวกคนนี้และไม่ยอมกัน ก็เลยต้องแบ่งแยกกัน ส่วนเรื่องครูอาจารย์ที่แต่ละท่านนับถือก็ควรนับถือกันไป เพราะผมก็มีครูอาจารย์ที่นับถือ แต่ผมเผยแผ่แต่คำตถาคต และศึกษาแต่คำตถาคตฝ่ายเดียว และก็ปฎิบัติด้วยตนเองเพราะตนเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ พระตถาคตเป็นเพียงผู้บอกทาง และสงฆ์ในสรณะแล้วเป็นเพียงผูปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ เผยแผ่ศาสนาโดยนำคำตถาคตไปเผยแผ่เท่านั้นด้วยการบอกกล่าวต่อๆกันไป

    แต่แน่ล่ะครับในความเป็นจริงแลวมันคงเป็นไปไม่ได้ในส่วนนันกคงจะต้องเกิดการสร้างคำพูดเสริมแต่งเข้าไปเพื่อประโยชน์แก่การทำความเข้าใจ พระองค์จึงให้มีการตรวจสอบดั่งที่กล่าวไว้แล้วอย่างไรข้างต้นครับ
     
  2. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    พระไตรปิฏก ยังอยู่
    ครูบาอาจารย์เก่งๆ ยังมี
    อยู่ที่ตัวเราเองแล้ว..
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ที่ท่านกล่าวมาถูกครับ พระสูตรนี้ใหเทียบเคียงเพราะอะไร เพราะการได้ยินไดฟังมานั้นเราจะรูไดอย่างไรว่าถูกหรือผิดถ้าเราไม่เคยศึกษาธรรมะมาท่านเคยได้ยินพระกล่าวเกี่ยวกับเรื่องพิธีกรรมต่างๆมั้ย
    ทำไมถึงมีพิธีกรรมต่างๆมากมายทั้งๆที่พระพุทธเจาไม่เคยสอน แลวภิกษุสงฆ์เอามาจากไหน ก็เอามาจากตำราที่แต่งใหม่หรือที่บอกต่อๆกันมาแบบผิดๆ เห้นหรือยังครับว่าการที่เราแต่งเติมเสริมเข้าไปใหม่ มันเป็นสิ่งที่อันตรายมากท่านทำความเขาใจเรื่องที่พระองค์สั่งไว้เถอะครับท่านจะรูถึวจุดประสงค์ดี ท่านต้องแยกว่าจุดประสงฆ์ของพระองค์ กับความจริงที่เิกิดขึ้นให้ได้ก่อนไม่งั้นจะไม่เขาใจในสิ่งที่ต้องการนำเสนอพุทธวจนครับ
     
  4. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สิ่งที่กล่าวมาคนละเรื่องนะครับ ตองแยกให้ได้นะครับว่่าพุทธวจนนันกล่าวไว้เพื่ออะไร แล้วเราควรทำอย่างไรในฐานะพุทธบริษัทครับ
     
  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คุณควรทำอย่างไร..
     
  6. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    มีศรัทธา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ทำ5อย่างนี้ตามตถาคตบอก หวังได้ทุกอย่างที่ท่านต้องการ
     
  7. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419

    คุณอ่านที่เค้าได้อธิบาย คำว่า สุตตะ ดีๆนะ
    เเล้วกลับไป ที่พระองค์อธิบาย ให้สั่งสมสุตตะ เหมือนสะสมอาวุธ
    จะเห็นว่า คนละทิศ คนละทาง เเถมไปจำเพาะเรื่องปาฏิโมกข์อีกไม่เกียวอะไร

    พอไปอธิบาย สุตตันตะ ก็เอาไปเข้าหัวข้อ สุตตันตปิฏกอีก ไม่ได้เอาเข้าไปในเนื้อความที่พระองค์เเสดงไว้ ว่าให้ศึกษา สุตตะ หรือ สุตตันตะ
    ถ้าให้ดี สุตตันตะปิฏกนั้น. น่าจะได้ชื่อว่า ธรรมปิฏก สะดีกว่า ไม่เช่นนั่นจะเข้าใจว่า อรรถกถา ที่อยู่ในสุตตันตปิฏก. เป็นข้อความลึก มีความหมาย เช่นเดียวกับที่พระองค์เเสดง หรือไปเทียบเท่า
     
  8. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    เป็นธรรมในชั้นไหน หวังได้ทุกอย่าง หมายถึงอะไร
     
  9. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ช่วยยกมาเลยจ๊ะ อยากดูเนื้อหา...
     
  10. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ทุกอย่างหมายความว่าทุกอย่างที่ท่านต้องการ
     
  11. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ...........คุณก็รู้ เรื่องศีกษา เรื่องภาวนา มันเป้นเรื่องส่วนตน..ทำได้ดีแค่ใหนก็อยู่ที่ตน...ถูกใหม?....พอเป็นเรื่องส่วนตน คุรก็เลือก เอาสิ คุณก็เรียนไปสิ...ส่วนคนอื่นอื่น เขาก็เรียนของเขาศึกษาของเขา ถามว่า คุณจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับ สิ่งที่ขัดหูขัดตาขัดใจคุณแล้วคุณจะทำอะไร?....ในบางครั้ง เราก้ไม่โยนิโสมนสิการในบางพระสูตรถูกใหม อย่างเรื่อง กายสมาจาร วจีสมาจาร...เรายังใช้วาจา ย่ำยีคนอื่นใช้ได้อยู่ที่เดียว อิอิ:cool::cool:สำหรับผม ถ้าทุกคน ภาวนาให้ดี(ส่วนตน) ส่วนใหญ่ก็จะดีเอง...อยากเผยแผ่ทำไป แต่ระวัง ...
     
  12. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    พระวจนะเหรอ

    คุณอ้างพระวจนะ เสมอ โดยคำพูดอะไรที่คุณเข้าใจ
    จนใครๆ ต้องขอให้ยกพระวจนะมา
    ถ้าเป็นผู้เชิดชูพระวจนะจริง ยอมยกมาแสดงก่อนอธิบายความเข้าใจ
    หรืออธิบายความเข้าใจโดยยกพระวจนะมาอ้างอิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  13. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ความคิดนี้เกิดกับท่านได้อย่างไร?
     
  14. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    สุตตะ ที่เป็นข้อ1ใน ปริยัติ.
    คุณ ป เอาอรรถกถามาอ้างว่าหมายถึงพระสูตร

    ทว่า ชาดกหรือชาตกะ ที่พระองค์เเสดงไว้ ก็เป็นพระสูตรเช่นกัน นั่น
    ถ้าไม่ได้อ่านชาดกที่เป็นพระสูตร ตัวอย่างเรื่อง พระเวสสันดร. นั้นหมายถึงว่า คุณกำลังอ่านสิ่งที่นอกเหนือจากที่พระองค์ตรัสไว้เท่านั้นเอง
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ในพระสูตรมีทั้ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ...

    ส่วนผู้สั่งสมสุตะ(การฟัง)มามาก
    ก็สะสมได้ทั้ง ..สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ.....

    บุคคล ผู้มีสุตะมาก แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะสุตะ เป็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
    อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลบางคนในโลกนี้มีมาก บุคคลนั้นไม่รู้อรรถ
    ไม่รู้ธรรมของสุตะอันมากนั้น ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม บุคคลอย่างนี้
    ชื่อว่า ผู้มีสุตะมาก แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะสุตะ.

    บุคคล ผู้มีสุตะมาก และได้ประโยชน์เพราะสุตะ เป็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
    อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลบางคนโลกนี้มาก บุคคลนั้นรู้อรรถ รู้ธรรม
    ของสุตะอันมากนั้น เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ผู้มีสุตะมาก และได้ประโยชน์เพราะสุตะ.
     
  16. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ขนาดพุทธวจน ของวัดนาป่าพง กับของครูบาอาจารย์ ยังตัวเลขไม่ตรงกันเลย
    ๑๕๐ หรือ ๒๒๗ .... ยังไม่ลงใจกันได้ นับภาษาอะไร
    คนหากมีทิฏฐิ ตึงเกิน หย่อนเกิน ย่อมลงกันยาก

    แต่ที่ถกกันนี่ เพื่อรักษาสมดุลครับ
     
  17. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Satoranai
    กระทู้ก่อนหน้า เห็นใครไม่รู้แสดง152ด้วย
    และคุณนิว ก็บอกเองว่า ยังตัดสินไม่ได้ทั้งสองฝ่าย
    เอ๊า... ถ้ายังไม่ถึงที่สุด ยังไม่มีการรับรอง
    คนที่ต้องอาบัติทุกกฏตลอดเวลาแน่ๆ (หากผลออกมาตรงข้ามกับที่วางธง) คือฝ่าย150

    ผมเลยถามคุณนิว (เผื่อออกมาแล้วผลเป็นอื่น) ว่า
    ไล่มาตั้งแต่สมัยพุทธภูมิ พระอุบาลี เป็นต้น
    ถึงปัจจุบัน หลวงพ่อชา
    ผู้ที่ท่องปาติโมกข์ 227ข้อ โดยไม่มีคณะสงฆ์ทักท้วง
    ต้องอาบัติอะไรมั้ย?

    เอาแค่คำถามตรงๆ ยังตอบไม่ตรงได้นี่สิ ทำไมมันจะไม่มีปัญหา
    ถ้าคุณกล้าเชื่อผู้นำให้ปาติโมกข์ ๑๕๐ ขนาดนั้น

    ทำไมจะชี้ลงชัดเจนในส่วนนี้ไม่ได้
    หากตรงตามสมมติฐานของสำนักวัดนาป่าพง (ที่ยังไม่ได้พิสูจน์?)
    ๑) พระอุบาลี ก้าวล่วงพุทธองค์ จาก ๑๕๐ ข้อ เป็น ๒๒๗ ข้อ ต้องอาบัติอะไรครับ สังฆเภท???
    ๒) หลวงพ่อชา สอนถูกบ้างผิดบ้าง คือ กล่าวตู่ธรรมของพุทธองค์ ต้องอาบัติอะไรครับ ปราชิก??

    ครับ ทั้งคุณนิว ทั้งคุณโตเกียว
     
  18. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ถกก็คือถกไม่ต้องกล่าวว่าใครจะได้อาบัติอย่างไร เพราะในตำรามีว่าไว้ไม่ตรงกันก็ต้องถกกันต่อไป ส่วนผมไม่ยุ่งเรื่องศิลของพระ เพียงแต่ยกประเด็นว่า พุทธวจนกล่าวไว้ว่าอย่างไรเกี่ยวกับการศึกษา ควรจะดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับตนเอง เกี่ยวกับการเผยแผ่ความรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของพระศาสดานั้นกล่าวไว้อย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ................ผมว่า ผมเข้าใจ กำลังและ กาละเทศะ และประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ในระดับหนึ่ง และเลือก วิธีตามแบบผมที่ อธิบายไปแล้ว ว่าน่าจะดีที่สุดสำหรับผม...อ้อ อีกอย่างหนึ่ง ต้องถามคุณว่า เวลาพระท่านเทศน์ ในเรื่องศิล สมาธิ ....แค่ใหนคุณถึง จะยอมรับและไม่ยอมรับ(แน่นอนคุณต้องกล่าวว่าต้องเปรียบเทียบกับพระสูตร) ส่วนสำรับผมนั้น ผมจะไม่มองพระรูปนั้นด้วยความอคติหรือไม่เข้าใจใดใด...เพราะผมเข้าใจดี ว่าผมฟังท่านแล้วได้ประโยชน์ส่วนใหน...ส่วนใหนไม่ได้...ตัวบุคคลก็คือตัวบุคคล ธรรมก็คือธรรม ส่วนการภาวนานั้นย่อม เป็นปัจจัตตัง อย่างแท้จริง ใช่ ม๊า:cool::cool:
     
  20. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    หลวงพ่อชาทำผิดจากนี้หรือ?
    คำสอนของหลวงพ่อชา สอบลงในสูตรหรือเทียบกับวินัยไม่ได้หรือ?
    ทำไมศิษย์หลวงพ่อชา ที่ชื่อหลวงพ่อคึกฤทธิ์ จึงไม่วางหนังสือคำสอนหลวงพ่อชาในวัดตน
    จนสร้างธรรมเนียมในหมู่สาวกสำนักวัดนาป่าพง ให้ปฎิเสธคำสอนครูจารย์หลวงพ่อชาเสียล่วงหน้า

    คณะสาวกวัดนาป่าพง นำครูจารย์หลวงพ่อชาไปปะปนกับ กลุ่มผู้มีมิจฉาตู่พระธรรมเพื่ออามิส ได้อย่างไรหรือ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...