อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    แสดงว่า เขาอยู่ที่สว่างเลยมีเงา ??

    แต่ส่วนตัวของเรา
    แปลว่าจองพื้นที่ ไม่อยากให้ใครแทรก
     
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เงามีประโยชน์ให้ความร่มเย็น
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เงาจะมาคู่กับความสว่างเสมอ
     
  4. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ผู้ที่มีความสว่างมาก จะให้ความร่มเย็นแก่สรรพสัตว์ได้มาก
     
  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ดีเนอะ เข้ากันดีจ๊ะ
     
  6. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ลำบากใจเหมือนกัน เมื่อพบว่าการเสวนากับสำนักนาป่าพง มีเงื่อนไขมากโขอยู่
    จะว่าไปปุถุชนอย่างเราๆท่านๆนี่ไม่ต้องพูดถึง
    เพราะ ขนาดอริยสาวกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
    สำนักนาป่าพงยังบอกเลยว่า "สอนนอกรีต"

    กล่าวคือ ไม่สอนด้วยพุทธวจนที่แท้จริง _ นอกรีต
    นอกรีต _ ไม่ต่างไปจากเจ้าลัทธิอื่น

    หมายความว่า พระสงฆ์ในองค์รัตนตรัย
    สำหรับสำนักนาป่าพง คือ พระสมณโคดม เท่านั้น
    ไม่สามารถรวมสงฆ์อริยสาวกได้ เพราะบังอาจสอนนอกรีต ว่างั้น

    และยืนยันได้ว่า
    ในสำนักนาป่าพง ไม่มีหนังสือคำสอนของหลวงพ่อชา
    มีเพียงพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ และพุทธวจนฉบับวัดนาป่าพง
     
  7. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    เอาแค่150หรือ152 หรือ227 สำนักนาป่าพงยังไม่สามารถสรุปได้
    แต่เลือกสวดปาติโมกข์150ข้อ แทน227ข้อ เช่นที่หลวงพ่อชาดำเนินมา

    ถามว่า จากมุมมองของสำนักวัดนาป่าพง
    หลวงพ่อชาและคณะสงฆ์วัดหนองป่าพง ต้องอาบัติทุกกฏหรือไม่?
    หลวงพ่อชาสอนสั่งเทศนาสิ่งที่ขัดแย้งกับพุทธวจน ใช่หรือไม่? ถ้าใช่แล้ว หลวงพ่อชาต้องอาบัติอะไร?
     
  8. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    เขาสรุปได้ครับ สรุปว่า 150 ถ้วน
    ถามว่า สรุปจากไหน สรุปจากพระสูตร เช่น วัชชีปุตตสูตร เสขะสูตร
    แต่แปลกตรงที่ว่า ไม่ยอมรับ พุทธวจนจากพระวินัย ที่ให้แสดง อนิยตะ กับ เสขิยะด้วย

    เหตุผลก็คือ จำนวนตำแหน่งในพระสูตรที่บอกว่า 150 ถ้วนมีเยอะกว่า
    แล้วมาบอกว่าพระวินัยกับพระสูตรขัดแย้งกัน เลยเชื่อตามจำนวนที่มากกว่าในพระสูตร

    อีกอย่างคงเป็นเพราะเขาไม่ฟัง อะไรทั้งสิ้น แม้กระทั่งพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้ายกย่อง เป็นเอตทัคคะด้านพระวินัย
    รวมถึงพระอรรถกถาจารย์ที่อธิบายเรื่องเหตุการณ์ในพระสูตร ว่า 150 ข้อนั้นเกิดก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน เพียงเพราะ ท่านเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า แต่ไม่ใช่พระพุทธเจ้า

    รวมถึงไม่ฟังเหตุผลของ พระผู้เชี่ยวชาญบาลีอย่างพระ อ.ปยุต ที่อธิบายว่า 150 ถ้วนนั้นแปลผิด ที่ถูกต้องแปลว่า มากกว่า 150 ข้อ ทั้งๆที่ท่านปยุตก็ยกตัวอย่างและอธิบายรูปศัพทธ์ชัดเจน แต่เขาได้หาฟังไม่ ยังยึดมั่น ว่า 150 ถ้วนโดยที่ไม่รู้ถึงรากศัพท์บาลีจริงๆ
     
  9. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เงาเราร่มเย็นพอหรือยัง คนเรานะมีเงาเหมือนกันแต่ค่าของเงาต่างกัน
     
  10. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    คุณtokyoo2 ว่าอย่างไรครับ. ไม่พหูสูตรแต่ก็มีสิทธิ์?
     
  11. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    คุณนิวว่า ต้องพหูสูตรด้วยใช้มั้ยครับ. ถึงจะตรงตามเงื่อนไข
    รู้หลายบท แล้วจึงจะสามารถแทงตลอด1บท
     
  12. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    รบกวนท่านพระ ธรรมะ เมตตาแสดง
     
  13. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    กระทู้ก่อนหน้า เห็นใครไม่รู้แสดง152ด้วย
    และคุณนิว ก็บอกเองว่า ยังตัดสินไม่ได้ทั้งสองฝ่าย
    เอ๊า... ถ้ายังไม่ถึงที่สุด ยังไม่มีการรับรอง
    คนที่ต้องอาบัติทุกกฏตลอดเวลาแน่ๆ (หากผลออกมาตรงข้ามกับที่วางธง) คือฝ่าย150

    ผมเลยถามคุณนิว (เผื่อออกมาแล้วผลเป็นอื่น) ว่า
    ไล่มาตั้งแต่สมัยพุทธภูมิ พระอุบาลี เป็นต้น
    ถึงปัจจุบัน หลวงพ่อชา
    ผู้ที่ท่องปาติโมกข์ 227ข้อ โดยไม่มีคณะสงฆ์ทักท้วง
    ต้องอาบัติอะไรมั้ย?
     
  14. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ท่านศึกษาธรรมะยังไม่พ้นเรื่องสิกขากจะงงกับเรื่องเหล่านี้ ข้อเดียวอย่างหลวงปู่มั่นกล่าวไวนั้นล่ะสุดยอด แต่เรื่องการเผยแผ่กับการเข้าถึงธรรมะนั้นต้องแยกกันให้ตรง แต่ผมกไม่ทราบได้ว่าใครจะตรงต่อธรรมแท้อย่างไร
     
  15. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    ถามผมเหรอ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นันแหล่ะครับใครแทงตลอดธรรมบทนี้ก็ไปไหนต่อไหนได้สบาย ส่วนจะครบบทหรือไม่อย่างไรก็ว่าไป
     
  16. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ^
    ^
    คนอะไรแม้แต่ภาษาไทยชัดๆ ยังจะเล่นลิ้นดิ้นมันออกไปอีก

    แค่นี้คนก็เข้าใจผิดกันไปมากมายแล้ว

    ตรงไหนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า"บรรลุธรรม"

    ชัดๆนะจำเอาไว้ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า "บรรลุคุณวิเศษ"โว้ย

    แล้วไอ้คุณวิเศษนี่อะนะ

    ฤาษี ชีไพร สมัยก่อนพระพุทธเจ้าจะอุบัติขึ้นมาก็มีคุณวิเศษทั้งนั้นหรือว่าไม่จริง?

    อย่าพยายามโยงเอาคุณธรรมความดี กับคุณวิเศษเข้าเป็นเรื่องเดียวกันเลย

    ถ้ามันเหมือนกัน เหมือนกันยังไง ตอบแบบชัดๆนะ

    อย่าพูดแต่ในสิ่งที่อยากพูดเท่านั้น

    คุณก็คิดเองเออเองไปเรื่อยนะ เทพไม่จำเป็นต้องอยู่สวรรคเท่านั้น

    จำกัดแค่นั้น ไม่รู้สึกว่าคับแคบไปหน่อยหรือ?

    แค่ที่บอร์ดนี่ก็สารพัดเทพ สารพัดพรหมเต็มไปหมดแล้ว55+

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    คุณวิเศษในที่นี้ท่านหมายถึงเอาความเป็นคุณธรรมชั้นอริยะครับ เพราะท่านกล่าวถึงการศึกษาพระธรรมครับท่าน พิจารณาดีๆครับท่าน ไม่ใช่ไปเป็นฤษีครับ

    ย่อมระลึกได้หรือว่า เราได้ประพฤติพรหมจรรย์ในกาลก่อน
    เธอกล่าวอย่างนี้ว่า ท่านผู้นฤทุกข์ สติบังเกิดขึ้นช้า แต่ว่าสัตว์นั้นย่อมเป็นผู้บรรลุ
    คุณวิเศษ เร็วพลัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย สหายสองคนเล่นฝุ่นด้วยกัน เขามาพบกัน บางครั้งบางคราว
    ในที่บางแห่ง สหายคนหนึ่งพึงกล่าวกะสหายคนนั้นอย่างนี้ว่า สหาย ท่านระลึกกรรมแม้นี้ได้หรือ
    เขาพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราระลึกได้ เราระลึกได้ ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้น เหมือนกันย่อมเล่าเรียน
    ธรรม ฯลฯ ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ
    เร็วพลัน ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นอานิสงส์ประการที่ ๔
    แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจแทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ ๔ประการนี้ แห่งธรรมทั้งหลายที่ภิกษุฟังแล้วเนืองๆ คล่องปาก
    ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ อันบุคคลพึงหวังได้ ฯ

    สีแดงคือการประพฤติพรหมจรรย์ ประพฤติพรหมจรรย์คืออะไรครับ
    สีน้ำเงิน ศึกษาธรรม แล้ว บรรลุคุณวิเศษท่านหมายความว่าอะไรครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  18. tokyoo2

    tokyoo2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2012
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +419
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุไม่รู้จักท่าเป็นอย่างไร? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัย
    นี้ ไม่เข้าไปหาแล้วไต่ถาม สอบถาม กะภิกษุทั้งหลายที่เป็นเถระ เป็นพหูสูต เป็นผู้รู้หลัก(นิกาย)
    ทรงธรรม(ทรงจำบท) ทรงวินัย ทรงมาติกา ตามกาลอันควรว่า ภาษิตนี้เป็นอย่างไร เนื้อความแห่งภาษิตนี้
    เป็นอย่างไร ภิกษุทั้งหลายผู้มีอายุนั้น จึงไม่เปิดเผยข้อความที่ยังลี้ลับ ไม่ทำข้อความที่ลึกให้ตื้น
    ไม่บรรเทาความสงสัยในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัย อันมีอย่างเป็นอเนกแก่ภิกษุนั้น ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย ภิกษุไม่รู้จักท่าเป็นอย่างนี้แล.


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    เเนะนำให้อ่านอีก. ไม่ต้องรีบ


    [๑๖๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสุคตหรือวินัยของพระสุคตยังดำรงอยู่ในโลก พึงเป็น
    ไปเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์
    เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็พระสุคตเป็นไฉน
    ตถาคตอุบัติขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
    เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งไปกว่า เป็นศาสดาของ
    เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้ตื่นแล้วเป็นผู้จำแนกธรรม ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้คือพระสุคต
    ดูกรภิกษุทั้งหลายก็วินัยของพระสุคตเป็นไฉน(ระเบียบเเห่งถ้อยคำ) พระสุคตนั้นย่อมทรงแสดงธรรมอันงามใน
    เบื้องต้นงามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ
    บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้คือวินัยของพระสุคตดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสุคต
    หรือวินัยของพระสุคตยังดำรงอยู่ในโลก พึงเป็นไป เพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อสุขแก่ชน
    เป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลกเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์
    ทั้งหลาย ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความ
    เสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม ๔ ประการเป็นไฉน
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเล่าเรียนพระสูตรอันเรียนกันมาผิดลำดับ ด้วยบทและพยัญชนะที่ตั้งไว้ผิดแม้อรรถแห่งบทและพยัญชนะที่ตั้งไว้ผิด
    ย่อมมีนัยผิดไปด้วย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๑ ย่อมเป็นไปเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อ
    ความเสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม ฯ
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายเป็นผู้ว่ายาก ประกอบด้วยธรรมอันทำให้เป็นผู้ว่ายาก
    เป็นผู้ไม่อดทน ไม่รับคำพร่ำสอนโดยเคารพ ดูกรภิกษุทั้งหลายนี้เป็นธรรมข้อที่ ๒ ย่อมเป็นไป
    เพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม ฯ
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุเหล่าใดเป็นพหูสูต เล่าเรียนนิกาย ทรงธรรม ทรงวินัย ทรง
    มาติกา ภิกษุนั้นไม่บอกพระสูตรแก่ผู้อื่นโดยเคารพ เมื่อภิกษุเหล่านั้นมรณภาพลง พระสูตรย่อมมี
    รากขาดสูญ ไม่มีที่พึ่งอาศัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นธรรมข้อที่ ๓ ย่อมเป็นไปเพื่อความฟั่นเฟือน
    เพื่อความเสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม ฯ
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นพระเถระ เป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน
    เป็นหัวหน้าในการก้าวลง ทอดธุระในวิเวก ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุ
    ธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง หมู่ชนผู้เกิดมาภายหลังย่อมดำเนินตาม
    อย่างภิกษุเหล่านั้น แม้ชนผู้เกิดมาภายหลังนั้น ก็เป็นผู้มักมาก มีความประพฤติย่อหย่อน เป็น
    หัวหน้าในการก้าวลง ทอดธุระในวิเวก ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุ
    ธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๔ ประการ
    นี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเสื่อมสูญแห่งพระสัทธรรม ฯ
     
  19. Enjjoy

    Enjjoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +184
    เป็นผู้ปฏิบัติธรรม อย่าปล่อยให้อกุศลเจริญ
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ู^
    ^
    ก็บอกแล้วว่า หัดดูบริบทก่อนหน้าก้ไม่คิดจะดู

    เล่นตีความเองตามชอบใจ ใช้ได้ที่กันไหนหละ

    ใครที่ไปบวชเนกขัมมะ ใช่ไปพฤติพรหมจรรย์หรือไม่? ตอบด้วย

    เจ้าเล่ห์หน้าดูเลยนะ เสียหายถึงครูบาอาจารย์หมด

    ก็เล่นเอาเฉพาะอนิสงส์ข้อ๔ ที่กล่าวถึงพระอริยะเจ้า

    พระพุทธพจน์ก็ชัดเจนว่า ให้คอยระลึกถึงกรรมที่เคยได้กระทำไว้ในกาลก่อน

    คือพรหมจรรย์ที่ตนเองเคยประพฤติ ปฏิบัติไว้ใช่หรือไม่?

    อย่าคิดเองเออเองสิ ไม่ตรัสตรงไหนเลยว่าจะหลุดพ้นณ.ที่ตรงนั้น

    ดูบริบทต่อมาให้ดีๆสิ ไอ้ฯลฯที่ย่อไว้ก็ชัดเจนในตัวแล้ว

    "ธรรม ฯลฯ ย่อมเป็นผู้บรรลุคุณวิเศษ"

    ขนาดท้ายพระสูตร พระพุทธองค์ยังทรงกลัวว่าผู้ศึกษาจะเข้าใจผิดได้

    จึงตรัสว่า"อันบุคคลพึงหวังได้" คือตั้งความหวังไว้ใช่หรือไม่?

    ไม่ได้ตรัสว่า"อันบุคคลพึงได้โว้ย" ถ้าพึงได้ อันนี้แน่นอน

    หวังได้ ได้ไม่ได้ยังไม่รู้ ก็โมเมไปซะงั้นว่าได้แล้ว55+

    ทำไมจึงดิ้นกันจัง ถ้าธรรมะของพระพุทธเจ้าง่ายๆ สบายๆ และลัดสั้นขนาดนั้น

    พระพุทธองค์ทรงประพฤติ ปฏิบัติ ด้วยพระพุทธองค์เองแล้่ว

    ไม่ใช่ต้องรอให้คนที่ขานนาคเข้ามาบวช เป็นผู้บอกให้รู้หรอก ใช่หรือไม่?

    และช่วยตอบแบบความเข้าใจตนเองด้วยว่า ใช่เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะอะไร?

    ไม่ใช่เอาพระพุทธพจน์ที่ตีความเอาเองตามชอบใจ มาตอบแทน

    ไม่รู้จริงหรือว่าแกล้ง...ไปซะงั้น อะไรๆในโลกล้วนเรียกว่าธรรมทั้งสิ้น

    อกุศลธรรม กุศลธรรม โลกียธรรม โลกุตตรธรรม กุปปธรรม อกุปปธรรม

    เฮ้อ!!! ตกลงจะเอาธรรมแบบไหนไปศึกษา ก็เล่นเหมาโหลเลยนะ เก้อยากจริงๆ

    ปล. อ่านไม่เข้าใจจริงหรือแกล้งโง่ คำว่าคุณวิเศษนั้นมีมาก่อนพุทธกาลโว้ย

    คุณธรรมส่วนคุณธรรม คุณวิเศษส่วนคุณวิเศษมันคนละเรื่องกันเลย จำไว้ด้วย

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...