ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

สวัสดียามดึกค่ะ คุณลุง เข้ามาศึกษาและให้กำลังใจคุณลุงและผู้ร่วมศึกษาทุกๆท่านค่ะ

 

เดี๋ยวเข้าไปแอดเป็นเพื่อนในกลุ่มด้วยละกันครับคุณJoni

 

ครับ เรื่องจริงอย่างที่พี่ modpong บอก ตอนหนุ่ม ๆ ผมทำงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ผมไปหาเพื่อนที่ห้วยขวาง ซึ่งเรียนอยู่ที่ หอการค้า สวยจริง ๆ ครับ แหม่ม สาว สาว สาว รวมถึง นักมวยแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท WBC สด จิตรลดา ก็เรียนที่นี่ครับ สาว ม.กรุงเทพฯ นั้นก็น่ารัก เปรี้ยว อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงความหลังตอนหนุ่ม ๆ ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่

 

...หวัดดี..หลานลินน์..DEKWATPA..และน้องกำธร........
....มาทำขอบพระ..กันต่อ.....

..............เมื่อใบมีด..ซึ่งขณะนี้..ทำหน้าที่เป็น..แผ่นวัสดุแบน..ที่ทำการกด..ที่เนื้อพระ..ด้านข้าง
..สิ่งที่ตามมา..คือ..แรงกด..จะกระจาย..เข้าเต็ม..จุดสัมผัส(คือ..ด้านข้างทั้งหมด)..แล้วกระจาย
ต่อเข้าไปในเนื้อพระ..จน..ไปถึง..ที่ด้านข้างฝั่งตรงข้าม..ซึ่งจะมีแรงต้าน..จากใบมีดอีกอันที่...
ตั้งรับไว้..เฉยๆ..(ไม่ได้กด)...แรงก็..จะสะท้อน..กลับไปทางเดิม..โดยที่เมื่อกลับไปเจอใบมีดที่..
กดเข้าไป..เนื้อพระ..ถูกบังคับให้..ขยายตัวเนื่องจากแรงนี้..แต่เนื่องจากด้านล่าง..ถูกพื้น..และ
คมมีดที่กดติดพื้น..ล็อคไว้..มันจึง..ขยายตัวไม่ได้..เนื้อพระจึง..พยายาม..ขยายในจุดที่ง่ายที่สุด
..ก็คือ..ขอบพระด้านบน..เพราะ..ไม่มีอะไรมาบังคับ..เนื้อจึง..ขยายปลิ้นขึ้นมา..ด้านบน...แรง
กระทำ..ที่อัดอยู่ในเนื้อ..ก็ลดลง..ทำให้..การขยายตัว..ในส่วนอื่นก็น้อยลงด้วย....
....สิ่งที่ปรากฏ..ก็คือ..เนื้อจะปลิ้นขึ้นตามแนวใบมีดที่กด..เป็นสันนูนขึ้นมา..แบบเดียวกับ...
พระต้นแบบ....ส่วนที่ผมบอกว่า..อยากให้ปลิ้นง่ายขึ้น..ถ้าเนื้อค่อนข้างแห้ง..ให้ตัด..ไม่ดิ่ง
..คือ..ตัดให้เฉียงเข้าไปด้านล่าง(..สอบเข้า..)หน่อยนึงนั้น..เพราะ..จะทำให้พื้นที่ผิวสัมผัส
..ลดลง..เมื่อตอนเรากด..เรากดเข้าไปตรงๆ..ด้านบนจะสัมผัส..มีดก่อน..การกระจายแรง
น้อยกว่า..ทำให้..เนื้อส่วนบน..รับแรง..มากกว่า..เนื้อมันเลย..ปลิ้นขึ้นไปได้ง่ายกว่า..(ซึ่ง
ถ้า..ทดลองทำเอง..จะเห็นได้ชัด..)..........
.........ผมมาลอง..คิดวิธี..ที่จะทำให้เข้าใจง่าย..ดู...ก็ต้องเลือก..วัสดุ..อุปกรณ์..และวิธีการ
ให้มัน..ง่าย..และไม่ยุ่งยาก..ดังนี้...
..........วัสดุ.....
...วัสดุ..ที่..ผมแนะนำให้..เอามาใช้..เป็นเนื้อ..หาง่ายครับ..เลือกเอา..มี ๒ อย่าง...
.....๑. ดินน้ำมัน
.....๒. ทุเรียนกวน
.....แป้งโรยพิมพ์..ก็..เหมือนเดิม....แป้งเด็ก......
....แบบพิมพ์.....
...เราไม่ได้เน้น..องค์พระ...ฉะนั้น...
..ก็..กล่องใส่พระพลาสติกให้เป็นกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า(ที่ใส่พระ..มาจากวัด)
..เป็นใช้ได้..ขนาดอย่าให้เล็กกว่า..พระต้นแบบ....แกะ..ฝากล่อง..และ..ก้นกล่อง
ออกจากกัน..เลือกเอา..แต่..ฝา(ที่เป็นพลาสติกใส)..เพราะไม่หนามาก......ฝน..
กระดาษทราย..ให้ความหนา(วัดจากด้านใน)..ใกล้เคียง..กับ..พระต้นแบบ...
....ทำแบบที่จะทำให้เกิด..เส้นกรอบพิมพ์.....
(....ขั้นตอนนี้..ถ้าใครขี้เกียจ..ไม่ต้องก็ได้..แต่เวลาทำออกมา..แล้วมันจะเกิดภาพ
ที่ใกล้เคียงความจริง....)
.....เอา การ์ดแต่งงาน..(กระดาษแข็ง..ที่หนาหน่อย..อะไรก็ได้)..มา..แล้วเอาฝากล่องพระ
ที่จะมาเป็น..แม่พิมพ์คว่ำหน้าลง..แนบกระดาษแล้วลากเส้นโดยรอบ..แล้วเอาฝากล่อง
ออก..ลากเส้นขนานชิดๆเส้นเดิม(ห่างกัน..เท่าๆกับ..ความหนาฝา)..ตลอดทั้งสี่ด้าน
...แล้ว..ลากเส้นขนานอีกเส้นโดยรอบเช่นกัน..ด้านใน..โดยให้ห่างจาก..เส้นที่แล้ว
ประมาณ ครึ่ง..ซม...ใช้cutter...ตัดตาม..เส้นที่สอง..และ..เส้นที่สาม..มันจะออกมา
เหมือน..กรอบรูป...ทากาว..แล้วใส่ลงไปที่..ติดก้นฝาที่จะใช้เป็นแม่พิมพ์......
...ส่วนแม่พิมพ์ก็จะเสร็จ............
...............ต่อตอนหน้าครับ..............

 

...พี่ว่า..ในเว็บต่างๆ..มีเรื่องเล่า..พร้อมพระเครื่องรุ่นต่างๆ..ของท่านทั้ง ๒ องค์..เพียบอยู่แล้ว..พี่เองก็..รู้พื้นๆมาก..รายละเอียด..น้อยกว่าเขา...ก็เลยต้องขอตัว...
...แต่เรื่อง..ราคาเล่นหาแรง..นี่..ความจริง..มีการเก็งกันมานานแล้ว..หลังจาก
ความเฝือของ..บางขุนพรหม ๐๙ , ๑๗...รวมถึงการกลับมาเล่น..วัดระฆัง ๑๐๐ปี
...เพราะความที่เล่นยาก..มีการออกข่าว..ทั้งลวง..ทั้งจริง..จนคนเล่น..งง..
............นักเก็งมืออาชีพ(..มืออาชีพ..ย้ำชัดๆ..มีสื่อเป็นผู้ช่วย)..ฉวยโอกาศ
คนไปเห่อเล่นทางโน้น...พระทั้งสองหลวงพ่อ..ก็ราคาพื้นๆ(..เป็นอย่างนี้..มา
นาน..เป็น ๔๐ ปีแล้ว)...กว้านไว้เพียบ..เพราะถูกมาก..ยิ่งของหลวงพ่อหิน
ยิ่งถูกใหญ่..เรียกว่าไม่มีราคาเลย..ว่าอย่างงั้น...แต่..ทั้งสองมีจุดเด่น..คือสาย
วัดระฆัง..แถม..ถ้าพระผงของท่าน..จะมีผสมผง..สมเด็จวัดระฆัง..ด้วย(ดูสมเด็จพระครูมูล วัดสุทัศน์..เป็นตัวอย่าง)..แถมถ้ารู้หลักจุดมองแล้ว..ดูง่าย..
...ก้มีการแย็บ..จากทางสื่ออยู่เรื่อยว่า..จะไปเล่นทำไม..พวกนั้น..แพงก็แพง
ดูก็ยาก..ปัญหาเยอะ..สู้นี่ไม่ได้..มีผงสมเด็จเหมือนกัน..ผู้ปลุกเสกก็สายวัดระฆังแท้..อีกต่างหาก..แถมประสพการณ์ก็มีมานานนม...ถูกด้วย....
....ทำให้ตลาดเริ่มเคลื่อนไหว..มาเล่นของดี..ดุไม่ยาก..ราคาถูก..กัน..เมื่อ
DEMANDมาก..ราคาก็ขยับไปเรื่อยๆ...พี่เองก็คาดไว้มาไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปีแล้ว
ว่า..เดี๋ยวต้องกลับมาแรง....

 

อรุณสวัสดิ์ครับอ้ายมด ซำบายดีนะครับผม
กลับมาเข้าเีรียนรอบเช้าครับผม
เสียดายอยู่ไกลวัดไปหลายเติบ เลยไม่ได้เก็บกะเขาเลย:'(

 

...หวัดดี..พลศิริ..และ..Joni...
.......................................
...ที่มา..ที่ไป..แล้วทำ(เอง)ยังไงละ...
...........................................
...........................................................................................
.......สำหรับ..รูปร่างของกรอบ..ก็มีผลเหมือนกัน.....
...การใช้วิธีนี้..จะเหมาะกับ..กรอบพระ..ที่เป็น..รูปโค้ง(แต่..ถ้ากรอบมี..
ขนาดเล็กไม่ถึง ๑ นิ้ว..ก็ไม่มีปัญหาอะไร)....หรือ..กลม..จะทำง่าย..แต่
..สำหรับ..กรอบแบบสี่เหลี่ยม(..แบบพระสมเด็จ)..หรือ..สามเหลี่ยม..
..ก็จะยากขึ้นมาหน่อย...เพราะการจะผ่านั้น..จะใช้เวลานานกว่า..
(เพราะ..อะไร..ผมจะบอกตอนหลัง)........และต้องระวัง..มากกว่า...
.....ถามว่า...ทำไม..เราไม่ไถแนวตั้งไปเลย(ไถเอาปีกออก)..ในกรณีที่พระเลี่ยม
แบบไม่มีใส้กลาง..หรือ..เรียกว่าเลี่ยม ๒ชั้นธรรมดา(มีแต่..ฝาหน้า
กับ..ฝาหลัง )...ตอบว่า..อย่าลืมหลงประเด็นว่า..เราพูดถึงการเอา
พระที่ชำรุด..หรือ..เนื้อเปราะ..ออกจากกรอบ......
.....การที่ใช้ตะไบ..ไถแนวตั้งนั้น..จะสร้างความสั่นสะเทือนต่อเนื่อง
กับ..กรอบพระ..มากกว่า..ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ..ถ้าเราไถเอาปีกออก
..เราจะใช้ตะไบ๘ค่ำ..ทำไม..เราก้ใช้ตะไบใหญ่ไปเลย..เพราะกินได้ลึก
(ฟันจะหยาบกว่า..แม้คุณจะเลือกแบบฟันละเอียดก็ตาม)...ก็นี่ละครับ
คือสาเหตุ..เมื่อฟันหยาบ..ก็จะสะเทือนกว่า..แถม..เราไถอคริลิค..๒ ชั้น
..ก็จะทำให้การสั่นสะเทือนนาน...พระที่ร้าวอยู่แล้ว..ก็จะมีโอกาศร้าว
มากขึ้น..เพราะแรงสั่นจากกรอบ..มันจะ..ถ่ายเข้าไป..ศู่พระ....
.....ต่างจากการใช้ตะไบ๘ค่ำ..ไถในแนวนอน..เราไถผ่าน..อคริลิค..ชั้นเดียว
..แล้ว..เราไถไป..ช้าๆ..แล้วต้องคอยหยุดดู..เป็น..ระยะๆ..ว่า..จะทะลุรึยัง..
..ฟันก็ละเอียดกว่า...ดังนั้น..การสั่นสะเทือนเกิดน้อยมาก..ซึ่งจะไม่
เป็นอันตราย..กับ..พระที่ชำรุดอยู่............................
........................................................................................................
.....เราจะมาเริ่มกันเลย....ผมจะเล่าวิธีการแบบทั่วไปก่อน(..กรอบพระโค้ง)
....หลังจากจบแล้ว..ผมจะบอกเทคนิค..สำหรับ..ผ่ากรอบเหลี่ยม..ตอนหลัง
.................................................................................................................
.......เริ่มต้น...เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม...(โป๊ะไฟ..อย่าลืม)......
......เอาพระขึ้นมาส่อง..ทั้งหน้า..หลัง...โดยดู..ความห่าง..ของ..ส่วนที่เป็น
เนื้อพระ..กับ..ปีกของกรอบด้านใน(พ้นจากนี้คือด้านในของกรอบ..ส่วนที่เป็นช่องว่าง
แล้วก็เป็น..ขอบขององค์พระจริง)...ดูว่า..จุดไหน..ที่เนื้อพระ..อยู่ใกล้ปีกของ
กรอบด้านในมากที่สุด..ถ้ามีใกล้มากใกล้เคียงกันหลายจุด..ก็..เอา คัทเตอร์ขูดให้
เป็นรอย(Marking)ไว้...กันเผลอ.....แต่ถ้า..ห่างตลอด..ก็ไม่ต้องห่วงมาก....
....ถ้าเป็นกรอบ..ลักษณะที่ ๑ หรือ ๒ ..เราก็..ผ่าฝาด้านไหนก็ได้..ถ้าแบบที่๔...
ต้องผ่า..ทั้งสองฝา..แต่ถ้า..เป็น แบบที่ ๓ เราจะผ่าที่..ฝาหลัง.......
.....เริ่ม(อย่าลืม..เอาห่วงพระออกก่อน)..วางพระลงที่ผ้าขนหนู..จับกรอบพระ
ที่ปีก(อย่ากด..ฝาหน้า..บอกไปแล้ว)..เตรียมตะไบ๘ค่ำให้พร้อม..จับให้ด้าน
แบน..อยู่ด้านล่าง..ค้านโค้งอยู่ข้างบน..............
...................ต่อตอนหน้าครับ.......................

 

สวัสดีครับพี่ วันจันทร์ ขอย้อนอ่านสักนิดครับ....

 

สวัสดีครับคุณอา...และสมาชิกทุกท่าน มาติดตามบทความ ความรู้สาระดีๆเหมือนเดิมครับ

 

ซำบายดียามฮ้อนครับผม

 

แหล่มครับคุณครู คราวที่แล้วตอนรมดำ ผมลองกับทุเรียนสด คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นทุเรียนกวนดูมั่ง ทำไปชิมไป เข้าท่าดี 555+

 

...หวัดดี...ดินสอ..เฉียวฟง..พลศิริ..และ Mastertest....
...มาตัดขอบพระ..กันต่อ....

.................ไอ้ที่ผม..เอาของ..สองอย่างนี่มาแทน..เพราะ ๑ คือ..ที่ผมเล่าไป..ตั้ง
แต่ตอนสมัยที่..ผมทำแล้ว..ผมลองแบบ..ว่าใช้ได้..หรือ..ไม่โดยใช้..ดินน้ำมัน...
ซึ่ง..สภาพมัน..จริงๆ..ก็แตกต่างบ้าง..แต่ก็..พอทดแทน..กันได้..ข้อดี..คือ..ทำแล้ว
...ถอด..ออกมาจากพิมพ์..แต่ยังไม่ได้ตัด....เพราะมีความจำเป็นอื่น..ต้องไปทำก่อน..
..มีธุระด่วน..ต้องไปไหน..หรือ..ต้องไปพูดโทรศัพท์..นานๆ..หรือ..ง่วงนอนไว้..ทำพรุ่งนี้
ต่อ......ก็ไม่ต้อง..กังวล..เพราะไม่ใช่ปูน...ยังไง..ก็ไม่แข็ง..................
.........ส่วน..อีกตัว...ก็เช่นกัน..ผมเป็นคนชอบกิน..ทุเรียนกวน..เวลากินทีไร..จะนึกถึง..
เนื้อพระทุกที..เพราะนอกจากจะเหนียวดี..แล้ว..ยังมีความไม่สม่ำเสมอ..อีกต่างหาก
..เพราะจะมี..ไอ้เนื้อเล็กๆ..ขาวๆ..แข็งๆ..ปนอยู่ด้วย..ก็..เลยเอามาลอง..พอใช้แทนกันได้
........ก็..ง่ายๆ..เตรียมมีดบาง..๒ ด้ามไว้...เตรียมที่..ไว้เคาะ..ของตัวอย่างออก..(..ผมใช้
คำว่า..ของตัวอย่างแล้วกัน..เพราะไม่ใช่พระ...ความจริงที่ผมทำเริ่มต้นนั้น..ผมก็เรียกผิด
ไปหน่อย..เพราะ..ไม่มีรูปพระ...).....
ขั้นตอน..การทำ...
๑ ...เอาแป้ง..ใส่ในแบบ..และ..ที่ๆจะเคาะ..ออก..เอาปากเป่า..ให้ติด..กระจายทั้ง
หมด...
๒ ...เอา..วัสดุที่เตรียมไว้..มาใส่ในแบบ..อัดใส่ให้เต็ม..ไม่ต้องอัดแน่น..เพราะเป็น
พลาสติกใส..มองดู..พอเห็นว่า..เต็มดี..ก็พอ....
๓ ..คว่ำแบบ..แต่อย่าให้..แบบติดพื้น..แล้วเอานิ้วเคาะ..หลังแบบ..จนตัวอย่าง
ร่วงลงมา..ที่ๆเตรียมไว้....
๔. จะเห็นว่า..ตอนนี้..ที่อยู่ตรงหน้าเป็น..วัสดุสี่เหลี่ยมผืนผ้า..แบนๆ..ด้านที่ปรากฏ
คือ..ด้านที่อยู่ก้นแบบ..มีเส้นแนว..กรอบพิมพ์..ปรากฎอยู่..ระดับพื้นภายในเส้น..กรอบ
พิมพ์จะสูงกว่า..ระดับที่อยู่ด้านนอก(ไปจนถึง..ริมขอบ)......(ด้านใน..หนากว่า..ด้านนอก)
๕ ..เอามีด..มาจรด..ตามแนวที่ตัด..คือ..ห่างจากเส้นกรอบพิมพ์..ประมาณ ๑-๒ มิลลิเมตร
(ลองครั้ง..แรกๆ..ให้แนวขนาน..เส้นกรอบพิมพ์ไว้ทั้งหมด)..แล้วกดตัดลง..ตรงๆ..อย่าเฉือน
เด็ดขาด..กดมีดติดพื้น..แล้วลากเอา..ส่วนขอบที่ถูกตัดออกไป..ด้านนอก...ทำเหมือนกัน
ทั้ง ๔ ด้าน...
๖ ...เอาแป้ง..เป่าใส่ใบมีดทั้ง..๒ เล่ม...อันนึง..เอาไว้กด..อันนึงเอาไว้..ยัน...
๗ ..ตั้งใบมีด..ให้ตรงดิ่ง..จรดใบมีด..ด้านที่จะยันก่อน..ให้ใบมีด..แนบกับเนื้อตัวอย่างไว้
(..ใบมีด..ต้องกดให้..คมติดกับ..พื้น...ไม่งั้นเนื้อจะปลิ้นออก..ด้านล่าง..เช่นเดียวกับ
ใบมีดที่เราจะใช้กด...)..มีดอันนี้..เข้าที่แล้ว..ไม่ต้องขยับอีก..ตั้งไว้เฉยๆ
๘ ..เอามีดอีกอัน..จรดที่ฝั่งตรงข้าม..แนบกับเนื้อเช่นกัน...แล้วค่อยๆ..กดเข้า..ช้า..พยายาม
ให้..แนวตัด..เข้าไป..ใกล้..เส้นกรอบพิมพ์มากๆ..แต่อย่าให้ทับ...
๙. จะเห็นว่า..ขอบด้านบนที่..เรากด..จะยกตัวขึ้น..เป็น..สัน..เสร็จแล้ว..ค่อยๆ..ยกใบมีดขึ้น..
...ทำเช่นเดียวกัน..ทั้ง ๔ ด้าน...๒ ด้าน..แรกที่..กดเข้า..ก็จะกลายเป็น..ด้านที่เอาไว้..ยันในภาย
หลัง..เช่นเดียวกัน..ด้านที่ถูกยัน..๒ ครั้งแรก..ก็..จะมาถูกกดในภายหลัง....
...............ลองทำ..หลายๆที..แล้วดูEFFECT..ที่เกิดขึ้น..ถ้า..นักเรียน..ตัดขอบไม่ให้ขนานกับ..
เส้น..กรอบพิมพ์เป๊ะ..เอียงนิดๆ..แต่ตอนกด..ขอบเข้าไป..พยายามให้ขนาน..เส้นกรอบพิมพ์
ด้านที่ห่างกว่า..เนื้อก็จะปลิ้นขึ้นมากกว่า..หรือ..สูงกว่า....
......ลองตัด..ไม่ให้..ตั้งฉาก..(ไม่ดิ่ง)..คือตั้งมีดตัด..ขอบให้..กินด้านล่างมากกว่าด้านบน
(หรือ..สอบเข้าไป)..แต่เวลากด..ตั้งมีดตรง(ดิ่ง)..จะเห็นได้ชัดว่า..เนื้อจะปลิ้นขึ้นมากกว่า
แบบตัดฉาก(ดิ่ง)..อย่างเห็นได้ชัด.....
....................ต่อตอนหน้าครับ........


......ขอแนะนำ..เพิ่มเติมหน่อย..
เนื่องจากทุเรียนกวนสมัยนี้..ดีไป..คือ..มันไม่ค่อยมี..ไอ้ขาวๆขุ่นๆ..เยอะ..เหมือนสมัยก่อน....
...ผมแนะนำให้ไปซื้อ..ถั่วลิสงคั่ว..หรือ..ทอด..ก็ได้..ถุงละ ๕ บาทมั้ง...
...เทออกมา..ลงบนเศษผ้า..แล้วก็เอา..ฆ้อนทุบ..ให้แหลก..แต่อย่าให้มันละเอียด..เป็นผง..ส่วนที่เป็นผงละเอียดเอาออก..ใช้แต่ขนาดประมาณ ๑-๒ มม...เอามาคลุกในทุเรียนกวน..พอประมาณ..ไม่ต้องเยอะ..จะได้ใช้เป็นตัวแทนเม็ดปูน

 

สวัสดีค่ะคุณลุง สบายดีนะคะ
คุณสมบัติไม่ผ่านการเป็นนักเรียนของคุณลุงเนื่องจากไม่ค่อยมีเวลามาศึกษาแบบต่อเนื่้อง
แต่มาให้กำลังใจ และ ขอบคุณ คุณลุงที่ได้เขียนเรื่องราวดีๆ ฝากไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ค่ะ

 

สงสัยเสร็จงานแล้วคงจะรับประทานไม่ได้นะครับอ้ายมด
เพราะทั้งแป้ง และมวลสารสารพัดเลย ทุเรียนกวนเนื้อนี้คงไม่อร่ิิอยครับ
ซำบายดียามที่คิดว่าฝนจะตกแรงครับ นิดเดียวเอง ไม่มากอย่างที่คาดไว้

 

สวัสดีเช้าวันอังคาร ตอนรับอาการร้อนเหมือนเดินครับคุณอา........

 

..หายไปนานเลย..ลุงยังคิดถึงอยู่นะ...เปลี่ยนรูปAvatarคราวนี้..ถูกใจ..Sitting bull...ใช่มั้ยนี่..รูปนี้ไม่เคยเห็น..แต่ขอให้เป็นNative American แล้วกัน..ชอบทุกรูป

 

...อ๊ะ..อ๊ะ..ไม่รู้อะไร...ทุเรียนกวน..ผสมถั่วลิสง..อร่่อย..อย่าบอกใคร..ลองทำดู..ทั้งหวาน..และเพิ่มความมัน..แถบ..มีกรุบๆๆ...กินแล้วลืม..รสดั้งเดิมเลย...

 

นึกภาพตามซะน้ำลายสอ เลยครับ อูยยย อา ย่อย ...