ลักษณะ "ว่าง" เป็นหลักธรรมขั้นใดครับ

ลักษณะ "ว่าง" เป็นหลักธรรมขั้นใดครับ?

 

..........................

 

ถ้า ว่างๆ ว่างๆ แล้วก็ไปแถบบาร์สีม่วง นั่นก็ว่างแบบ "ขี้ลอยน้ำ" ไง

 

..ถ้าว่างจาก"งาน"เป็นธรรมระดับโลกียะ ..
..ถ้าว่างจาก"อัตตา" เป็นธรรมระดับโลกุตระ..

ท่านผู้ถาม"ว่าง"จากสิ่งใดขอรับ?

 

ว่างก่อน.....เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป.....ว่างหลัง

รู้ว่า ว่างหลัง จากที่ดับไป คือ ว่างแบบไม่รู้
รู้ว่า ว่างก่อน ที่ จะเกิด คือ ว่างแบบรู้ความจริง ค่ะ

 

ถามแปลกๆนะขอรับ ลักษณะ"ว่าง" อะไรว่างหรือขอรับ มือว่าง ปากว่าง สมองว่าง ใจว่าง
ถ้าเป็นลักษณะการว่างของสมองและใจ ไม่ใช่หลักธรรม แต่เป็นหลักปฏิบัติถึงชั้น เอกัคคตา คือ ใจมีสมาธิขอรับ
คำว่าไม่ใช่หลักธรรม นั้น หมายความว่า ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติธรรมโดยตรง แต่เป็นการปฏิบัติโดยอ้อม เพราะ การปฏิบัติสมาธิ จัดเป็น ธรรม ในข้อ พรหมวิหารสี่ และ โดยอนุโลมจัดอยู่ใน ธรรมข้อ อิทธิบาทสี่

 

ว่างคือไม่มีค่ะ... แต่เพราะความไม่มียังอยู่ ก็ต้องปฎิบัติต่อไปนะค่ะ...

 

สุญญตวิโมกข์ กล่าวถึงการเข้าถึงสภาวะแห่งความว่างของพระอรหันต์ทั้งหลาย ไว้ ๓ ประการ คือ (๑)อนิมิตนิพพาน คือ การเข้าถึงความว่างจากนิมิตทั้งปวง (วัตถุ) (๒)อัปปณิหิตนิพพาน คือ การเข้าถึงความว่างจากความดิ้นรนกระวนกระวาย (๓)สุญญตนิพพาน คือ การเข้าถึงความว่างจากความยึดมั่นถือมั่นทังปวง ทั้ง ๓ ประการนี้ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์

 

กายว่าง
หรือเวทนาว่าง
หรือจิตว่าง
หรือธรรมว่างละขอรับ

ว่างอย่างที่หนึ่งคือมีสังเขตแล้วไม่มีอะไรเลย
ว่างอย่างที่สองมีสังเขตและเต็มไปหมดเลยว่าง

ยังมีไม่มีสังเขตอีกหรือไม่อย่างไรขอรับ

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว

 

ความว่าง เป็นหลักธรรมขั้นใด ขอช่วยตอบว่า
เป็นขั้นใดไม่ทราบ แต่จัดได้ว่า ความว่างเป็นหลักธรรมในชั้นโลกิยะ หรือโลกุตระธรรมก็ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่า ความว่างนั้น เป็นความว่างในอะไร หรือความว่างนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ความว่างนั้น มีสภาวะว่างอย่างไร แล้วความว่างนี้ท่านยังเห็นด้วยปัญญาขั้นสูงอีกหรือไม่ว่า ความว่างขั้นสูงนั้น มีหรือไม่มี และถ้ามีเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามี ถ้าไม่มีเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่มี ถ้าพูดตามหลักตรรกะ ความว่างมีสองอย่างคือ
ความว่างภายนอก และความว่างภายใน

มี3ลักษณะคือ
1มันว่างของมันเองเป็นธรรมชาติของมัน
2มันว่างได้เพราะ เราทำให้มันว่าง
3มันว่างได้เพราะมีสิ่งอื่นขัดเกลาขจัดให้มันว่าง

สุดท้ายอันความว่างนี้ มีที่มาที่ไปมีสภาวะที่อธิบายได้กว้างยิ่งนักครับ ผู้เข้าถึงธรรมและอาศัยอยู่ด้วยความว่างย่อมมีปัญญาจำแนกแจกแจงได้โดยปริเฉทครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ท่านฟางไหม้ว่างขอรับ
กระผมขอว่าต่อ

กายว่างๆนี้เบาๆแล้วหรือไม่.......ปิติเกิด
เวทนาว่างแล้วสี่หรือไม่...........หลุดไปแล้วไม่รู้สึก
จิตว่านี้ประภัสระ...................หกอยู่เลยขอรับ
ธรรมว่างนี้.........................แปดแล้ว

ของที่มีอยู่หากท่านเข้าใจหมดรู้หมดกินได้หมดจนเต็มไปหมดข้างใน
ของที่มีอยู่ข้างในท่านเอาออกมาล้างได้หมดทำความสะอาดหมดข้างนอก

คงไม่มีอะไรเหลือแล้วหรือไม่ขอรับ

ขอท่านทั้งหลายจงปรมัตถ์
และวิมุติในชาตินี้กันไหมขอรับ

ฟังแล้วมึน
แล้วง่วงเหงาหาวนอนเลยหรือไม่

ขอทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ

 

คำว่าว่างนี่ว่างยังไงครับ ว่างแบบ อกิญจัญญายตนฌาณ ที่เป็นอรูปฌาณ อันนี้เป็นการเห็นว่างแบบ โลกียธรรม ธรรมดาครับ แต่ถ้าเห็นความว่างจริงตามอริยสัจสี่และสามารถบอกได้เต็มปากเต็มใจว่า สัมมาทิฏฐิ ว่ามีความหมายว่าอะไร ไม่ได้เพียงแต่บอกว่า คือ การเห็นชอบ นี่เป็นการเห็นอาการว่างตามโลกุตตระฌาณ
เพราะผมเองก็เคยมองเห็นว่าอะไรก็ว่างไปหมดเหมือนกันครับ และก็เพิ่งมารู้ที่หลังว่ามันคืออาการว่างในแบบของ อากิญฯ ธรรมดาๆ แล้วก็เสื่อมหมดครับเพราะคิดว่าตัวเองถึงแล้ว แต่กลับตอบไม่ได้ว่าสัมมาทิฏฐิคืออะไร
สิ่งเดียวที่สามารถเอามาเช็คได้ว่าเราเห็นว่าว่างจริงหรือไม่ คือ เรายังโลภ โกรธ หลง ยังมีอารมณ์แฝงด้วย โลกธรรมหรือไม่ นี่ครับเช็คได้ แล้วก็เอาสังโยชน์ทั้ง 10 มาวัดว่าเราเหลืออะไรอีกไหม แต่ถ้าเรายังต้องการมันก็ยังไม่พ้นโลกหรอกครับ

 

ต่อให้ได้แปดก็ไม่ใช่หนทางแห่งการพ้นทุกข์หรือไม่อย่างไรครับ
เพราะทุกข์นี้เรื่องทางโลก
จะพ้นทุกข์ทางโลกนี้ควรทำอย่างไร

 

ใช่ครับ ต่อให้ได้ฌาณแปดทั้ง รูปฌาณ 4 และ อรูปฌาณ 4 ก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะทำให้เราพ้นทุกข์ได้ครับ เพราะว่าฌาณเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่งที่ใช่กล่อมจิตให้เชื่องแต่เมื่อมันเชื่องแต่ไม่ได้ใส่ปัญญาเข้าไปก็ไม่อาจจะพ้นทุกข์ได้ เหมือนหมาที่ทำให้เชื่อง แต่จะสั่งให้นั่ง ให้นอน ตามที่เราปราถนาไม่ได้ครับ พระพุทธเจ้าท่านจึงได้สอนให้เราเจริญใน ศีล สมาธิ และปัญญาไงครับ ส่วนปัญญาที่เราจะใส่เข้าไปก็คือว่า เราเป็นใคร เรามาจากไหน และอะไรที่ทำให้เราทุกข์ ชี้ให้จิตเราเองเห็นว่าทุกข์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นมาจากกายที่เราเข้ามายึดว่ามันคือเรา เราคือมัน ตามแบบที่หลวงปู่ฤาษีลิงดำสอนล่ะครับ และบอกว่าสิ่งที่เหลือเพียงสิ่งเดียวคือ จิต ส่วนอีกสิ่งที่ไม่เหลือคือ กาย ครับเพราะกายนี้ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ท่องเป็นเพียงทฤษฏีแต่มาจากการเห็นจริง เพราะฉะนั้นถ้าเราเห็นว่า จิตนี้ว่างจากกาย และเห็นอารมณ์ใจหรือจิต ที่เห็นและยึดกายว่าเป็นของเราด้วย จึงจะสามารถละความยึดออกได้ ถึงจะเป็นการเห็นความว่างตามอริยมรรคมีองค์แปดครับ
หรือว่าเอาตามหลักที่พระพุทธเจ้าสอนพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ก็ได้ครับ เพราะท่านเพียงแค่สอนว่า อะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ อะไรคือการดับทุกข์ และอะไรคือวิธีที่จะปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ตามหลักหัวใจของพระพุทธศาสนาจริงๆ
ตัวผมเองตามหาความจริงของพระพุทธศาสนาที่ไม่มีอะไรเข้าไปเจือปนจริง มีแต่ปัญญาล้วนๆนี่ ผมก็ใช้เวลาทั้งหมด 14 ปี จนได้ไปเจอกับที่ๆหนึ่งที่พอจะบอกได้ทางพ้นทุกข์นั่นต้องทำอย่างไร ผมถึงเพิ่งจะพอเข้าใจได้ว่า อะไรคือความหมายของ สัมมาทิฏฐิ ตามคติของพระพุทธศาสนา

 

ว่าง
น่าจะแปลว่าขณะนั้น
ไม่มีภาระ หรือบรรทุก ใดๆ

 

ถ้าเป็นยานพาหนะ
ก็มียานพาหนะอยู่
แต่
ว่าง

ถ้าเป็นเวลา
ก็เวลายังมีอยู่
แต่
เวลา
ว่าง

น่าจะเป็นคำวิเศษ
คุณศัพท์
อะไรซักอย่าง

 

ที่สุดไม่มี

ลบทั้ง ฑิ....ฏ....ฐิ
เพราะตรงนี้คือวัฏฏ
หากท่านหยุดวัฏฏนี้ได้
ท่านก็ยังไม่ว่างอีก
เพราะเป็นสังเขต
ธรรมใดไม่เป็นสังขด.........ยากันยุงหรือกำยานจุดแล้วไม่ดับ
มีอยู่หรือไม่อจิณไตย
หอยความจริงเจริญมาทางปากหอยม่ได้ขดไปทางหาง

เอาละขอรับท่านมีวัฏฏเพียงสองเอง
ง่ายเข้าแล้ว
ปัจจัยนั้นเหลือสอง
ทำสองให้หายเหลือขอบ
หลายท่านเท่าที่ผมดูมาถึงตรงนี้แต่ไม่ทะลุสักที
เพราะยังไม่สุทธิ
เพื่อจะมาเป็นพุทธ
แต่อย่าประมาทในความประมาณขอรับ
หากเข้าไปด้วยความอยาก
ผลคงออกมาสวยเหมือนสะพริ้งที่อียิป

เอาเป็นว่าตามดูตามรู้ได้เท่านั้นแหละขอรับ
มากไปเอามาวางข้างถนน
ของสูงค่า

ปัจจัยะตาขอรับ
หากท่านพอมีเวลาช่วยดูแลผู้ด้อยด้วยขอรับ
ผมวาสนาน้อย
มาตามกาลไปตามกาล

ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้ว

 

จริงๆแล้วในสัญญาณ
สัญญะหละที่แปลว่าจำได้

ว่าง
ถือเป็น
signal ชนิดหนึ่ง

 

Signals and slots - Wikipedia, the free encyclopedia
ภาษา ประสาน พลาซ่า บร๊ะซา
แปลว่า ผนึก

ความว่างก็เป็นขอบ
ของนิเสธของมัน

ถ้าเราจะเห็นอย่างนั้น

สุดขอบที่เราจดจ่อ
พอหมดสภาพรับรู้

ก็ว่าง
ว่างจากสิ่งที่เราจดจ่อ
แต่เป็นอะไรก็ได้
เป็นธาตุน้ำธาตุดินธาตุลมธาตุไฟ
ก็ได้

แค่เราจ่ดจ่อกะอะไรซักอย่าง

และหมดปัจจัยที่สิ่งนั้นจะต่อเนื่อง
มันก็เกิดความว่างจากสิ่งนั้นๆ

 

เช่นว่างจากพระพุทธศาสนา
ก็คือความว่าง