บาปกรรม - จงใจแพร่เชื้อ HIV

เรื่องนี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมงานของผม ซึ่งผมนำเรื่องนี้มาเล่าเป็นอุทาหรณ์ แก่คนที่รักสนุกแต่ไม่รู้จักป้องกัน ไม่ได้มีเจตนาซ้ำเติมผู้ป่วย HIV แต่อย่างใด

...เมื่อวานนี้ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่ที่ทำงาน ประมาณช่วงเวลา ตี 1 กว่าๆ ว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกผมพยายามฆ่าตัวตาย ด้วยการผูกคอตาย แต่พี่คนนี้เขาไปช่วยไว้ทัน และได้นำตัวเขาส่งโรงพยาบาลแล้ว ผมจึงตรงปรี่ไปที่โรงพยาบาลนั้นทันที พร้อมๆกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ เมื่อเพื่อนผมพื้นแล้ว เขาก็เอาแต่ร้องไห้ เอาแต่พูดว่าอยากตาย ทำไมไม่ปล่อยให้ผมตาย ผมและเพื่อนๆ พี่ๆที่ทำงานหลายคนก็ไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเพื่อนคนนี้ไม่เคยมีความลับเลย มีอะไรก็จะเล่าให้ฟัง ทุกคนจึงไม่เข้าใจว่าปัญหาอะไร ที่จะสามารถบีบบังคับให้ผู้ชายที่ร่าเริง เฮฮา ต้องมาอยากตายได้

พอถามหนักเข้าๆ เขาก็เผยออกมาว่า "เราเป็นเอดส์" ทุกคนเหมือนถูกฟ้าผ่า ช็อค ไม่คิดว่าคนที่ถึงจะไม่ดีเลิศประเสริฐศรี แต่ก็ไม่ถึงกับชั่วร้ายอะไร เพียงแค่มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆคนหนึ่งอย่างเขา กลับต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้... เขาเล่าให้ฟังว่าช่วงงานเลี้ยงบริษัท ที่พวกเราพนักงานไปฉลองกันในผับแห่งหนึ่ง เขาได้เจอผู้หญิงที่หน้าตาดีมากๆ แล้วนัดเจอกันเป็นการส่วนตัวในเวลาต่อมา และมีสัมพันธ์ทางเพศภายในการทำความรู้จักแค่ วันเดียว...

ทุกครั้งที่เขาจะมีอะไรกับเธอ เธอก็จะพูดเสมอว่า "ไม่ต้องใส่ถุงนะ ฉันเจ็บ" เพื่อนผมก็ไว้ใจ ไม่ใส่ถุงยางฯตามที่เธอขอ เพราะคิดว่าเธอไว้ใจได้ ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดี การแต่งตัวที่ดูเลิศหรู แต่พอหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้ว เธอก็มาพูดทีหลังว่าเธฮมีสามีอยู่แล้ว แต่สามีของเธอทำงานต่างจังหวัด เธอเหงาและอยากทำการบ้าน ก็เลยหาคนช่วย การมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนผม จึงไม่ใช่การผูกมัดแต่อย่างใด แรกสุดเพื่อนผมดีใจมาก ที่ไม่ต้องมีพันธะผูกพันธ์ ได้ความเสียวและความมันส์แบบฟรีๆ จึงไม่ติดใจในเรื่องนี้ และเลิกราขาดการติดต่อกันไป

แล้วเมื่อวันก่อนที่บริษัทมีการตรวจสุขภาพประจำปี ของพวกพนักงานในบริษัท มีทั้งการตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด ความดัน ฯลฯ แต่เพื่อนผมกลับถูกหมอเรียกไปพบเป็นการส่วนตัว หลังจากนั้นเขาก็ดูซึมเศร้า และก่อเหตุดังกล่าวขึ้น...

ผมและเพื่อนๆเมื่อรู้เรื่องแล้ว ก็รีบติดต่อไปยังผู้หญิงคนนี้ทันที ด้วยการกดโทรศัพท์ไปหา แต่คนที่รับสายไม่ใช่นางตัวร้ายคนนั้น กลับเป็นผู้ชายเสียงแก่ๆ คนที่โทรไปพยายามขอเรียนสายกับนางตัวร้าย แต่ผู้ชายคนนี้กลับบอกว่า "มายุ่งอะไรกับเมียกู มึงเป็นใคร" คนที่โทรไปจึงพูดออกมาว่า "ก็เมียคุณน่ะเป็นเอดส์ แล้วก็เอาเอดส์มาติดเพื่อนผม เมียคุณต้องรับผิดชอบ!" ผู้ชายคนนั้นเงียบไปพักนึง ก่อนที่จะตะโกนคุยกับคนข้างๆว่า "เห้ย! มีคนบอกว่ามึงเป็นเอดส์อ่ะ จริงรึเปล่าเนี่ย?" แล้วก็มีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาว่า "อ้าว ก็ใช่อ่ะดิ" ผู้ชายคนนั้นตวาดใส่ "เห้ย มึงทำอย่างนี้ได้ไง..." แล้วก็ตัดสายทิ้งไป พวกเราหลังจากพูดคุยกันแล้วจึงเดาๆเอาว่า ผู้ชายในสายก็ไม่น่าจะใช่สามีของนางมารร้ายคนนี้หรอก คงคิดว่าเขาให้เอาก็ต้องเป็นเมีย เลยเรียกใช้สรรพนามนั้นอย่างเต็มปาก

แต่คำถามที่เกิดขึ้นในหัวพวกเราคือ ผู้หญิงคนนั้นไม่กลัวบาปกลัวกรรมบ้างหรือไง ตัวเองเป็นโรคร้ายแต่กลับทำตัวร้ายกาจ แพร่เชื้อทำร้ายคนอื่นอย่างหน้าตาเฉย ใช้รูปร่างหน้าตาเป็นเหยื่อล่อให้ติดกับ อาจจะทำเพื่อความสะใจ หรืออาจจะอยากแก้แค้นอะไรซักอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยคือ... "หรือคนที่ผิด อาจเป็นเพื่อนผมเองต่างหาก" ???

...ผู้หญิงคนนี้จะได้รับผลกรรมอย่างไร? ทั้งในชาตินี้ ชาติหน้า และโทษในนรกจะเป็นอย่างไร (เพราะเดาๆว่าคงไม่ได้ไปสุขติภูมิแน่ๆ) แล้วเพื่อนผมทำกรรมอะไรมา ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ครับ?

 

เรื่องนี้ สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก คือ"ทำใจ"ค่ะ

 

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับเพื่อนของนายด้วยนะ ระบำมาร แต่มันคงเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆคนได้ดี ..
เรื่องกรรม เราอย่าไปใส่ใจเลย ใครทำอย่างไรก็ได้แบบนั้น และหากไม่มีกรรมร่วมกันมาคงไม่ได้เจอกันแน่ๆ ..
เราว่ามาอยู่กับปัจจุบันดีกว่า ... เดี๋ยวนี้เป็นโรคนี้ หากเข้าการรักษารับยาบำบัดและหันมาใส่ใจสุขภาพ คือออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ สามารถอยู่ได้นานถึง 10-20 ปี เลยทีเดียว ไม่ใช่โรคร้ายที่เป็นแล้วต้องตายในเวลาอันสั้น นอกจากบางรายที่เป็นระยะสุดท้าย หรือเคสอื่นๆ ...
กำลังใจ สภาพจิตใจนั้นสำคัญมากนะ เราอยากให้ ระบำมาร เอาธรรมะเข้าช่วยเพื่อน เขายังมีเวลาทันทำความดีอยู่มาก เขายังสามารถสร้างบุญกุศลได้อีกเยอะ พยายามชักชวนและแนะนำเพื่อน เอาสิ่งที่ดีที่สุดในโลกนี้มอบให้เขา ชี้ให้เขาเห็นและยอมรับกฎแห่งกรรม หากทำได้ จะเป็นกุศลติดตัวเพื่อนนายไปสู่ภพหน้า และแม้แต่ตัวระบำมารเอง
บุญรักษาค่ะ สาธุ

 

คล้ายกับการวางยาพิษฆ่าคน แต่เป็นประเภทวางทีละน้อยๆจนเหยื่ออ่อนแอลงเรื่อยๆจนตายไปเอง ก็เหมือนฆ่าคนโดยเจตนานั้นแหละ เธอใช้กิเลสที่เย้ายั่วล่อให้เหยื่อบินมากินเอง กว่าจะรู้ว่ามีพิษก็สายไปเสียแล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วย เอดส์รักษาไม่หายแต่มีโอกาสอยู่ได้นานกว่ามะเร็ง(บางชนิด) แต่ต้องหมั่นรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจให้ดี ก็สามารถมีชีวิตแบบปกติได้ ส่วนเธอจะได้รับผลกรรมยังไงไม่รู้ รู้แต่ว่าผลกรรม(การกระทำ)ของเธอ ทำให้เธอติดเอดส์และสร้างกรรมต่อด้วยการฆ่าคนและผิดศีลซ้ำไปเรื่อยจนกว่าจะคิดได้หรือร่างกายไม่อำนวยให้สร้างกรรมได้อีก ขอให้เพื่อนคุณใช้วันที่เหลืออย่างมีประโยชน์และมีความสุข ก็จะต่อกรรมดีให้ตัวเองต่อไปได้ตรงกันข้ามกับเธอ ;k07

 

โทษของผู้หญิงไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆๆโทษของน้องผู้ชายที่ติดเอดส์ เพราะ1.กินเหล้า(เลยขาดสติ-หน้ามืด-เขาไปในที่อโคจรเอง)2.กาเมผิดศิลข้อ3 สรุบคือต้องโทษตัวเอง โทษคนอื่นได้ไง เวลานัดแนะกันไปเสบกามก็เต็มใจทำชั่วกันทั้ง2ฝ่าย อยากกินของฟรีเอง ก็ต้องยอมรับของแถม คิดในทางพุทธศาสนาน้องผู้ชายในอดีตชาติคงจะเคยไปทำเค้าไว้เหมือนกัน ชาตินี้เลยต้องโดนบ้าง กงกรรมกงเกวียน อีกเรื่องที่คาใจคือ "ไม่ต้องใส่ถุงนะ ฉันเจ็บ" ถามตรงๆใช้ถุงอะไรอะ คงไม่ใช่ถุงก๊อบแก๊บนะ

 

ไม่ทราบครับ อาจเป็นถุงปุ๋ย ^^

 

ผมเห็นพูดกันเรื่องถุงพอดี ผมก็มีคำถามคาใจอยู่เหมือนกัน ตกลงจุดประสงค์ที่เค้าสร้างถุงยางขึ้นมานี่เพื่อให้มนุษย์เสพกามโดยไม่ต้องคิดมาก ว่าเป็นเมียใคร ลูกใคร จะมากแค่ไหนก็ได้ถ้ายังมีถุงอยู่ แถมยังไม่ต้องรับผิดชอบ ตั้งหน้าตั้งตา มีกิจจกรรมกันอย่างเดียว หรือครับ ถ้างั้นถุงยางเข้าข่ายเป็นเครื่องมือในการกระทำบาปหรือเปล่าครับ สงสัยมาก

 

ถ้าขนาดของถุงปุ๋ย ถึงจะใส่ไม่ใส่อะไรก็คง(โคตะระเจ็บ)จริงๆด้วยrabbit_run_away

 

ฮา เหอะพี่ :boo:

 

จากเท่าที่อ่าน ผู้หญิงคนนี้เขาก็มีกลุ่มเป้าหมายนะ
1. เป็นคนที่ชอบเที่ยวในแหล่งอโคจรทั้งหลาย
2. เป็นคนรักสนุก ไม่ชอบการผูกมัด แบบที่คุณบอก ได้ฟรีๆนั่นแหละ

โทษแต่ผู้หญิงฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกหรอก เธอจะติดมาจากไหน ถ้าไม่ติดมาจากผู้ชาย

ในความคิดเธอคงคิดว่า ในเมื่อติดมาจากผู้ชาย อาจจะเป็นแฟน หรือใครที่เธอไว้ใจ แล้วเขามักมาก รักสนุก ไม่ยั้งคิด แล้วเธอต้องมารับเคราะห์ด้วย แล้วเธอผิดอะไร

เธอก็เลยอยากให้กลุ่มเป้าหมายติดเชื้อบ้าง โทษใครไม่ได้หรอก เพราะไม่มีใครผิด
ผิดที่ความประมาทมากกว่า

1. เพราะลืมนึกถึงความตาย
2. เพราะเห็นรูปสวย
3. ลืมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหมด ทั้งๆที่เราเป็นชาวพุทธ (รวมถึงข้าพเจ้าเองด้วย)

เมื่อผลของกรรมส่งผล อย่าไปซ้ำเติมด้วยการคิดอยากตายเลย ไม่มีประโยชน์
แล้วยังเป็นโทษกับตัวเองอีก เป็นปาณาติบาต ทำให้พ่อแม่ เพื่อนพี่น้องเสียใจ

มาเข้าถึงธรรมแบบพี่คนนี้ดีกว่าค่ะ

http://palungjit.org/threads/ป่วยเข้าโรงพยาบาลติดเชื้อ-hiv-กับการทดสอบมโนมยิทธิของผม.317731/

มาปฏิบัติให้เข้าถึงธรรม จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก ไม่ต้องมา่ทุกข์อีก
(ข้าพเจ้าก็ยังทำไม่ได้เช่นกัน) แต่ถือซะว่า ยึดเอาวิกฤติมาเป็นโอกาส
ถ้าเราถึงธรรมได้ ต่อให้วิกฤติเป็นอะไร มันก็คุ้มนะ ว่าไหม

 

คำแนะนำที่ดีมาก ๆ เลยครับ ขอเพิ่มให้ลองหมั่นสวดมนต์บท "โพชฌังคปริตร" และนั่งสมาธิทุกวัน แต่ให้ทำด้วยใจจริง ๆ นะครับ พร้อมกับรับประทานยาที่ทางแพทย์จัดให้มา เผลอ ๆ อาจหายได้นะครับ

<TABLE class=Wga_Details border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 align=center><TBODY><TR><TD class=WgaGradient bgColor=#fcf4b5 rowSpan=2><TABLE border=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD>โพชฌงค์เป็นหลักธรรมหมวดหนึ่งที่อยู่ในบทสวดมนโพชฌังคปริตร ถือเป็นพุทธมนต์ที่ช่วยให้คนป่วยที่ได้สดับตรับฟังธรรมบทนี้แล้วสามารถหายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ ที่เชื่ออย่างนี้เพราะมีเรื่องในพระไตรปิฎกเล่าว่า พระสัมมาสัมพุทธเจา้ได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหากัสสปะที่อาพาธ พระองค์ทรงแสดงสัมโพชฌงค์แก่พระมหากัสสปะ พบว่าพระมหากัสสปะสามารถหายจากโรคได้ อีกครั้งหนึ่งพระองค์ได้ทรงแสดงธรรมบทนี้แก่พระโมคคัลลานะซึ่งอาพาธ หลังจากนั้น พบว่า พระโมคคัลลานะก็หายจากอาพาธได้
ในที่สุด เมื่อพระพุทธองค์เองทรงอาพาธ จึงตรัสให้พระจุนทะเถระแสดงโพชฌงค์ถวาย ซึ่งพบว่าพระพุทธเจ้าก็หายประชวร
พุทธศาสนิกชนจึงพากันเชื่อว่า โพชฌงค์นั้น สวดแล้วช่วยให้หายโรค ซึ่งในพระไตรปิฎกกล่าวว่า ธรรมที่พระองค์ทรงแสดง เป็นธรรมเกี่ยวกับปัญญา เป็นธรรมชั้นสูง ซึ่งเป็นความจริงในเรื่องการทำใจให้สว่าง สะอาดผ่องใส ซึ่งสามารถช่วยรักษาใจ เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับร่างกาย เนื่องจากกายกับใจเป็นสิ่งที่อาศัยกันและกัน
หลักของโพชฌงค์เป็นหลักปฏิบัติทั่วไปซึ่งไม่จำกัดเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น เพราะโพชฌงค์แปลว่าองค์แห่งโพธิหรือองค์แห่งโพธิญาณเป็นองค์แห่งการตรัสรู้ซึ่งเป็นเรื่องของปัญญา

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD bgColor=#ebcf70 vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE border=0 width=500 align=center><TBODY><TR><TD>

- บทแปล -



​

</TD></TR><TR><TD>โพชฌงค์ ๗ ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ ๗ ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวงตรัสไว้ชอบแล้ว อันบุคคลเจริญแล้วกระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน

ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก จึงทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม โรคก็หายได้ในบัดดล
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชาเอง (พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแลถวายโดยเคารพ ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ.
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ขอมนต์สัมโพชฌง ที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ช่วยให้เพื่อนคุณระบำมาร หายจากโรคนี้นะครับ

 

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
คำสอนสอนนี้ใช้กับคนที่กระทำให้เราได้รับผลร้าย
แม้กระทั่งกับคนที่กระทำยังให้หยุดเลย
นี่ได้รับผลร้ายแล้ว มาแพร่ให้บุคคลอื่น
ไม่ว่าคนนั้นจะดีหรือไม่อย่างไร
ก็ไม่มีเหตุต้องไปทำร้ายเขา
จะเป็นการก่อกรรมให้เพิ่มขึ้นแก่ตนเอง
ผู่หญิงท่านนั้นน่าจะทำใจ และหาความสงบให้กับชีวิต
มากกว่าที่จะก่อกรรมหนักประหนึ่งการฆ่าบุคคลอื่นครับ

 

แนะนำให้เพื่อนคุณ ท่านน้ำว่านหางจระเข้ดูนะ มีโอกาสดีขึ้นๆ แนะนำให้ทานทุกวันๆ วันละ 1 แก้ว 30 ซีซี น้ำว่านหางจระเข้ล้วน 99.67 เปอร์เซ็นต์
http://www.tullife.com/catalog.php?idp=15#.UF9lBu7n85g

 

ถุงยางฯ เป็นของตาย ส่วนคนที่ใช้ คือของเป็นครับ มันก็มีหน้าที่แค่ กักน้ำคัดหลั่ง และอสุจิไว้ภายใน ป้องกันเชื้อโรคด้านนอกถุงยางฯ ฯลฯ มันมีหน้าที่แค่ 2 ด้าน ส่วนจุดประสงค์นั้นสุดแล้วแต่คนที่จะเอาไปใช้อ่ะครับ บางคู่สามี-ภรรยา ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร ก็ต้องพึ่งเจ้าถุงยางนี้ไปก่อน คำถามนี้คำตอบมันไม่ต่างจากมีดหรอก งั้นมีดหั่นผักคงมีไว้ฆ่าคนตายล่ะมั๊งครับ เพราะถ้าคนมันจะฆ่ากัน ต่อให้มีดสังกะสีเหลาดินสอ มันก็ใช้ฆ่ากันได้

 

มีถุงก็ติดอยู่ดี จูบกัน น้ำลาย เขาอาจจะมีเวรกรรมต่อกันก็ได้ เขาก็เลยมาเอาคืน

 

อ่านดูก้ผิดทั้งคู่นะคะ โดยเฉพาะผู้ชาย ก็รู้ๆอยู่ถ้าไม่ป้องกัน
ผลเสียข้างหน้ามันจะมีอะไรบ้าง โตๆกันแล้ว

ผู้ชายบางคนกะจะฟันเขาเอามันส์ใช้แต่จู๋คิด ไม่ใช้สมองคิดแบบนี้โทษใครไมได้นอกจากตัวเอง แต่พูดถึงเดี๋ยวนี้ก้มียาต้านนะคะ เพื่อนดิฉันก็มีคนเป็น ทุกวันนี้ก็เห็นร่างกายแข็งแรงดีคะ จะสิบปีแล้ว ยังปกติดีอยู่เลย ปลอบเพื่อนคุณว่าอย่าคิดมากเลยนะคะ อย่าคิดฆ่าตัวตายเลย คนไม่เป็นเอดส์ก็ตายได้เหมือนกันอาจจะตายไวกว่าด้วยซ้ำ ชาตินี้ได้เกิดเป็นมนุษย์ได้พบกับพระพุทธศาสนาแล้วเร่งสะสมความดีให้มากๆก่อนตายดีกว่าคะ

 

สหรัฐฯ อนุมัติยาตัวใหม่ สตริบิลด์ ยารักษาเอดส์ หาย

ทุกปัญหายังมีความหวัง เป็นกำลังใจให้คับ ลองเข้าไปดูเผื่อจะมีกำลังใจขึ้น

 

สติสำคัญมากครับ คนเราพอขาดสติเรื่องไม่ดีก็เกิดขึ้นได้เสมอครับ ตอนนี้กำลังใจสำคัญมากๆสำหรับเพื่อนครับ ให้กำลังใจแล้วบอกให้เพื่อนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง
ไม่แน่ในอนาคตอีก 2 -3 ปีอาจมียารักษาโรคนี้ได้ครับ สู้ๆๆครับ

 

แล้วของน้องชายผมละครับ ความผิดอยู่ที่ใคร รักษามะเร็งหมดไป7ล้านกว่าเป็นลูคิเมียร์ทั้งครีโม สารพัด โดนเข็มเจาะตามตัวนี่ระบมรักษามานานหลายปี แต่โรงพยาบาลถ่ายเลือดให้ได้รับ hiv มา แล้วก็ปกปิดน้องผมผอมลงทุกวันๆ แล้วโรงบาลก็ได้เงินค่ารักษาไปและเอาเชื่อนี้ให้น้องชายผม ตอนถ่ายเลือด ทำไมเป็นถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ค่ารักษาแพงที่สุดในประเทศกลับสับเพร่า ชีวิตเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนนึงเนี่ย รักษาก็ยังเอาเงิน แต่ไม่รับผิดชอบอะไร กลับโยนความผิดให้สภากาชาติ เป็นถึงโรงพยาบาลระดับนี้

 

อย่าว่ากล่าวหรือโทษใครเลยครับ ขอให้อโหสิกรรมต่อกันเมตตาปราณีที่ผ่านมาให้ถือว่าเป็นบทเรียน จากนี้ไปตั้งใจสร้างกุศล สร้างบุญบารมี น้อมนำเอาพระพุทธพระธรรมและพระสงฆ์เป็นที่พึ่งน้อมนำพระไตรรัตน์เอาสู่ใจสู่จิตแล้วเราจะพบความจริงคือ อริยสัจ4 ว่าเป็นจริงแท้แน่นอนแล้วเราท่านทั้งหลายจะได้กลับไปสู่จิตเดิมแท้ของเราคือ สุญญตา