ภาพเด็กคลอดออกมา เห็นของสงวนแม่เต็มๆ นี่คือสื่อสอนธรรมะแนวใหม่

เดี๋ยวนี้มีการสอนของพระหลายรูป
สอนให้รักแม่
สอนให้เห็นว่าการเกิดเป็นทุกข์
ด้วยภาพ ที่เด็กทารกกำลังคลอดออกมา แค่นั้นก็ไม่เท่าไหร่
มีภาพอวัยวะสงวนของแม่ เป็นประธานอยู่กลางภาพชัดเจน

เซ็นเซ่อร์สักหน่อยก็ไม่มี

เรารับรู้การสอนเด็กของพระ ด้วยภาพสื่อการสอนแบบนี้ก็ทึ่งๆ เหมือนกัน
และแล้ว การนำเสนอทางเฟรสบุ๊คของพระก็กำลังเกิดขึ้น
แบบภาพการคลอดเด็กมีจิ๋มแม่อันเบ้อเร่อ ไม่มีเซ็นเซ่อร์
ก็ว่อนไปทั่วในคนที่เป็นเพื่อนกับพระในเฟรสบุ๊ค

เรามาบ่นๆ ไปงั้นแหล่ะ เพราะเรามันตามไม่ทัน
กับสื่อการสอนธรรมะแบบนี้ ได้แต่ทึ่ง

 

บางอย่างเราก็แก้ไขอะไรไม่ได้จริงๆ

แต่ว่า
ขอดูบ้างจิ --

 

ไม่กล้าเอามา เด๋วโดนแบรนแน่ๆ เราทำโฟโต้ช้อปไม่เป็น

ลูกของเราเค้าเป็นเด็กวัยรุ่น เค้าก็ถามเราว่า
แม่...การสอนธรรมะ เค้าสอนกันแบบนี้เหรอ

 

เป็นโอกาสในการสอนลูก ชี้ให้เขาเห็นว่าควรเก็บเอาแต่เพชรอย่าไปเอากรวดเอาหินติดตัวไปเพราะมันจะหนักเสียเปล่า ยิ่งมีตัวอย่างลูกหลานดูจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น อนโมทนาสาธุ ครับ

 

รูปธรรม นามปธรรม อย่าไปคิิดไรมากครับ

 

จิ๋มบัีนลือโลกแบบนั้นเห็นก็ไม่เกิดอารมณ์หลอกคุณ ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนะ เราว่าเป็นเรื่องธรรมชาติดีออก เด็กๆจะได้รู้ว่าเราเกิดมาได้อย่างไร ต่อไปจะได้ไม่ไปทำร้ายจิ๋มคนอื่น เพราะจิ๋มมีคุณท่วมหัว .....

 

เคยดูแล้ว หมอพงศักดิ์ ตั้งคณา ชอบเปิดให้ดู ดูแรกๆก็ซึ้ง พอดูบ่อยๆชักเซงมันชินจนหายซึ้งแล้ว เลยเปรี่ยนไปดูทงอี สนุกกว่าเยอะ อิอิ

 

รูปนี้แหล่ะเอามาจากเฟรสพระสอนเรื่อง การเกิดเป็นทุกข์

เราอาจจะไม่คุ้นกับสื่อการสอนธรรมะแบบนี้ก็ได้

ขอบคุณค่ะทุกท่านที่ชี้แนะ ขอบคุณอย่างสูงค่ะ

 

ลืมบอกไปค่ะว่า

เรามาให้ลูกทำเซ็นเซ่อร์สีดำคาดปิดเองนะคะ

ที่พระใช้ภาพนี้เป็นสื่อการสอนธรรมะ

ไม่ได้คาดแถบสีดำค่ะ

 

คนเราเกิดมาจากกามณ์ ตัณหาความอยากเป็นเชื้อแห่งการเกิดของคนของสัตว์ เหมือนเมล็ดข้าวเมล็ดพืช หากยังเป็นเชื้ออยู่ก็สามารถงอกเงย แพร่พันธุ์ต่อไปได้อีก รูปกายของคนชาย,หญิงจึงต้องมีราคะตัณหาเป็นตัวดึงดูดกันให้เกิดเชื้อเพื่อแพร่พันธุ์ โดยเมื่อเกิดมาแล้วก็มีตัวอวิชชา ครอบใจไว้ไม่ให้รู้ไม่ให้เห็นอีก จึงเกิดๆตายๆ เป็นกรรมจักรอยู่อย่างนี้ จิตใจหรือจิตวิญญาณทุกดวงแท้จริงเหมือนกันหมด ไม่แยกชาย,หญิง ที่เมื่อเกิดมามีรูปกาย วิบากกรรมจึงเป็นตัวจำแนกเพศ ให้มีสองเพศชาย,หญิง เพื่อที่จะดึงดูดเข้าหากันแล้วแพร่เชื้อแห่งรูปกายสังขารที่เรียกว่า คนและสัตว์ด้วย กามณ์ ราคะตัณหา และตัวการที่ร้ายสุดคือมีอวิชชามาครอบงำไว้จนมืดบอดกันอยู่ทุกวันนี้ แล้วไฉนเลยเชื้อนี้จะหมดไปได้ง่ายๆจริงใหมครับท่านทั้งหลาย ขอให้เจริญในธรรมทุกๆท่านนะครับ....สาธุ....สาธุ

 

เอิ่มมม คือผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ เนื่องจากผมเป็นบุคคลากรการแพทย์ ผมเห็นแบบนี้จนค่อนข้างชินแล้ว ฝรั่งหรือหลายๆประเทศที่ไม่ค่อยมีข่าวข่มขืนอะไรพวกนี้ เขาสอนให้เด็กดูสอนให้เด็กรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ประเทศเขาจึงเกิดเหตุการข่มขืนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับบ้านเรา

อีกอย่างเพราะประเทศไทยเราเอาแต่ปิดบังไม่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศเด็กอย่างเต็มที่เด็กเลยอยากรู้อยากเห็น จึงไปหาคลิบ หารูปโป๊ในเว็บไซต์(ซึ่งในเว็บไซต์นี่ เราไม่สามารถเซ็นเซอร์ได้) นั้นก็เป็นส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาในสังคมคือ ข่าวข่มขืนหรือท้องในวัยเรียนไงครับ

แล้วในช่วงก่อนๆผมสังเกต จะมีโฆษณา ยืดอกพกถุง รณรงค์การใช้ถุงยาง ซึ่งผมเห็นว่ามันเปนเรื่องดีนะ เพราะเราห้ามเด็กไม่ให้มีเพศสัมพันธุ์ไม่ได้ แต่เราได้แต่แนะนำให้มีการ safe sex ได้ แต่นักวิชาการส่วนหนึ่งกลับเห็นว่า เป็นการส่งเสริมเด็กให้มีเพศสัมพันธุ์ ซึ่งการปิดบังหรือไม่ให้ความรู้ อีกทั้งยังทำให้เด็กมองว่าเป็นเรื่องหน้าอาย ทำให้เด็กไม่กล้าไปซื้อถุงยาง เด็กจึงแอบมีอะไรกัน ผลที่ตามมาคือ ติดโรคหรือว่าท้อง

การที่พระเปิดให้ดูนั้น พระไม่ได้สอนให้เกิดอารมณ์ทางเพศ แต่สอนให้ให้รู้ว่าการเกิดมาของคนเรามันยากนัก กว่าแม่จะคลอดมาได้แม่ทรมาณแค่ไหน (ทั้งโดนตัดโดนฉีก)


ในแง่ความคิดผมนะไม่จำเป็นต้องเซนเซอร์อะไรหรอก เด่วมันจะเหมือน เซนเซอร์หน้าอกโงกุน ชิสุกะอาบน้ำ หรือว่าการ์ตูนทั้งหลายแหล่ที่ ช่อง 9 เอามาออกอากาศ แค่ให้สถาบันครอบครัวและโรงเรียนสอนให้เด็กสังเคราะห์ความคิดว่าอะไรควรทำอย่างไร ถ้าทำแล้วจะเกิดอะไร ต้องแก้ปัญหาอย่างไร ดีกว่า ที่จะมาคอยปิดหูปิดตา เพราะสื่อสมัยนี้มันกว้าง สร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดดีกว่าการคอยห้ามโน้นนี่นั้น

ครับจากความคิดเห็นของผมใครไม่เห้นด้วยก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

การสอนเรื่องเพศศึกษา ทำไมต้องล้วงลึกไปถึงเรื่องการเห็นอวัยวะเพศ ทำไมไม่สอนแค่ให้รู้เรื่องการปฏิบัติต่อกัน ระหว่างเพศ สิ่งใดควร ไม่ควร เน้นถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงาม กริยามารยาท และวัฒนธรรม ก็น่าจะพอแล้ว

พอเอ่ยถึงคำว่าเพศศึกษา จะได้ไม่ตัองนึกถึงภาพอวัยวะในร่างกาย ให้นึกเห็นภาพกริยามารยาทที่อ่อนหวาน และความดีงาม การรักนวลสงวนตัว ดีกว่าเยอะ
ไม่ใช่เรื่องต้องปิดบัง สมัยนี้เด็กมันอยากรู้ก็เปิดหา ศึกษากันเอง เราเพียงแต่มาแนะนำว่า สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร ก็จะไปด้วยกันได้

 

เรื่องที่ท่านกล่าวมานี้สำคัญที่สุด ในความคิดเห็นของดิชั้นค่ะ
เราขาดเรื่องเหล่านี้มานาน คุณผู้พันกล่าวมาถูกต้องหมดค่ะ

แต่ถ้าจะสอนในด้านสรีระร่างกาย ก็ให้วิชาสุขศึกษาเหมาไปสอนจะดีกว่า

 

ค่ะ ตรงที่เป็นอักษรสีแดง
มีภาพประกอบให้ดูทุกขั้นตอน ถ้าครูเป็นผู้สอนในโรงเรียน ก็ไม่เป็นไรค่ะ

แต่ในวัด พระควรทำหน้าให้เหมาะสม คือ นำพระธรรมมาแสดงแก่เด็ก
ตามสมควรที่เด็กจะเข้าใจได้ ไม่ใช่มาแจกภาพแบบนี้ให้เด็กดู
พระแจกให้เด็กๆ ดูค่ะ ในการเข้าค่ายวันแม่

แต่คนที่ควรทำหน้าที่นี้ คือ ครู มากกว่า พระ
ถ้าครูมาสอน เราจะไม่มีปัญหาเลยค่ะ

แต่พระใช้สื่อการสอนแบบนี้ เราบอกตรงนะคะ
เรายังรับไม่ได้ค่ะ

เพราะพระท่านมีสิ่งที่สูงสุด คือ พระธรรม
นำมาพูดให้เด็กซึ้งถึงพระคุณแม่ดีกว่าค่ะ เยอะแยะไปที่จะนำมาคุย
ชักจูงเด็กให้เข้าหาความดีงาม

แล้วพระธรรมของพระพุทธองค์ก็มีคำสอนให้เข้าใจ ถึงคำว่าทุกข์
การเกิดเป็นทุกข์ แค่เห็นเด็กทารกเกิดใหม่ ก็พอแล้วค่ะ สำหรับพระ
ไม่ต้องมีอวัยวะเพศก็ได้ มันจำเป็นนักหรือสำหรับพระ ต้องสื่อให้ถึงขนาดนี้

 

คลอดที่บ้านแน่เลย..มีผ้าขาวม้า และไม่มีผ้ารพ.ปกปิดส่วนใดเลย มือที่ยื่นมารับไม่ใช่หมอพยาบาล..เก่งจังธรรมชาติมาก

 

ไม่ใช่ผ้าขาวม้า แต่น่าจะเป็นเสื้อลายสก๊อต
ฝรั่ง ถ้าไม่มีสีดำคาดจะรู้ว่าเป็นฝรั่ง ไม่ใช่บักสีดา

 

ตกลงภาพจากเฟสบุ๊ค หรือเปล่าครับ ขอลิงค์หน่อยสิครับ

 

ใช่ๆ..เพิ่งมาเห็นทีหลัง..
ฝรั่ง..นึกแล้วเชียว เห็นผมเด็กแดงๆ แล้วอีกอย่างถ้าแม่ไทย..น่าจะมีผ้าถุงหรือผ้าติดตัวบ้าง..