จะฝึกมโนมยิทธิ ต้องเตรียมใจหรือสมาธิระดับไหนครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ๐Novice๐, 14 สิงหาคม 2012.

  1. ๐Novice๐

    ๐Novice๐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    62
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +357
    อยากทราบนะครับว่า จะฝึกมโนมยิทธิ ต้องฝึกสมาธิให้ได้ ระดับฌานที่เท่าไหร่ครับ และจะต้องได้วิชชา3 ก่อนไหมครับ ขอรบกวนผู้มีประสบการณ์หน่อยครับ . . .


    *** ตอนนี้ยังไปไม่ถึงไหนเลยครับ อานาปานสติยังมีอาการบังคับลมหายใจ[อย่างหนัก] ยังแก้ไม่ตก ใครเคยประสบอย่างนี้แล้วผ่านไปได้ ช่วยแนะ วิธีตั้งอารมณ์ให้หน่อยนะครับ
     
  2. aroonoldman

    aroonoldman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +462
    ขอแนะนำให้ไปฝึกที่บ้านซอยสายลมหรือที่วัดท่าซุงก่อนนะครับ

    ไปรับการอบรมและวิธีฝึกจะได้เข้าใจ

    ส่วนตอนนี้ก็ซ้อมลมหายใจไปก่อน หายใจเข้านึก นะมะ หายใจออกนึก พะธะ

    ให้คล่องก่อน สาธุ
     
  3. merumas

    merumas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +222
    ใช้อารมณ์แค่ขนิกสมาธิ (สมาธิเล็กน้อย) ค่ะ
    แล้วก็อย่าเครียด อย่าอยาก ให้ทำใจสบายๆค่ะ
     
  4. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,047
    อาฌาปา เรื่องบังคับลมหายใจผมฝึกก็เป็น ให้พยายามละอารมณ์นั้นเสีย เพราะจะติดใจจนแกะไม่ออก (ชิน) แต่ละคนหาทางแก้ไม่เหมือนกันต้องหาทางแก้ตามกำลังใจตัวเอง สำหรับผมก่อนนั่งจะรู้ว่าเราจะบังคับลมหายใจ ผมจะแก้ด้วยการกลั้นลมหายใจจนกว่าร่างกายจะทนไม่ไหวและหายใจของมันเอง คือ ปล่อยให้ร่างกายหายใจตามสภาพของมันเอง ไม่ให้จิตเข้าไปบังคับลมหายใจ เป็นแบบนี้ไม่ถึงนาทีจิตก็ทรงตัว ที่เหลือก็เอาสติตามรู้ไปแค่นั้น ถ้าเผลอบังคับลมหายใจอีกก็แก้อีก ผมลองมาหลายวิธี วิธีที่คิดว่าง่ายคือสร้างงานให้จิตซะ อย่าให้มันมายุ่งกับลมหายใจมากนักคือ ทรงภาพพระเอาไว้ เอาวิธีฝึกกสิณมาควบนั่นแหล่ะ แต่ก็ต้องดูกำลังใจตัวเองด้วยนะว่า จิตยุ่งมากไปไหม ถ้าทำแล้วกำลังใจตัวเองไม่ทรงตัวทำยากก็เอาแต่ลมหายใจพอไม่ต้องทรงภาพพระ (แต่ควรลองฝึกสักเดือนก่อน ถ้าทำไม่ได้จริงๆ ค่อยเอาแต่ลมหายใจ จำอารมณ์ตอนไม่บังคับลมหายใจไว้ด้วย เพื่อให้จิตมันชินกับอารมณ์ธรรมชาติแทน)

    ส่วนการเตรียมใจก่อนจะฝึกมโนมยิทธิ ก็ไม่มีอะไรแค่เบื่อร่างกายก็พอ ระดับสมาธิก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อย่ายากรู้ยากเห็นในระหว่าฝึกก็พอ (เคล็ดลับในการฝึกกรรมฐานคือ อยากได้มันจะไม่ได้ ไม่อยากได้มันจะได้ครับ)
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ได้ฌานก็ดี
    ยังไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
    อยู่ว่างๆก็กำหนดรู้ลมหายใจ หายใจเข้านึกว่า นะมะ หายใจออกนึกว่า พะธะ
    ฝึกแค่นี้แหละ จะได้ฌานหรือไม่ได้ฌานก็ไม่เป็นไร
    แต่ฝึกให้มีความสุขอยู่กับอารมณ์สมาธิที่ปฏิบัติ

    ถ้าจะไปฝึก สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ศรัทธา และ ตั้งใจ
    ศีล ๕ ต้องพร้อม นิวรณ์ต้องรู้จักระงับ
     
  6. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    อันดับแรกศีลต้องบริสุทธ์ ถ้าเป็นฆราวาสก็ศีล 5
     
  7. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    น่าจะเป็นอาการกลัวตายมากกว่านะคะ พอลมหายใจเบาๆ ไป หรือรู้สึกว่าลมหายใจหายไปก็ตกใจรีบกลับมาหายใจใหม่
    ลองแก้โดยก่อนนั่งสมาธิให้อาราธนาศีล +ขอขมาพระรัตนตรัย +สมาทานกรรมฐานตามแบบของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุงที่ให้ไว้


    คำขอขมาพระรัตนตรัย






    <CENTER></CENTER><CENTER>นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุท ธัสสะฯ ( ว่า ๓ จบ )

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ





    </CENTER><CENTER><DD>หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรือทางวาจาก็ดี และด้วยเจตนา หรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี

    </CENTER>

    <DD>ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่นิพพานด้วยเทอญ


    ......

    คำสมาทานพระกรรมฐาน


    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)


    <DD>อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจชามิ<DD>


    <DD>ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    </DD>
    <DD>ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด




    <DD>
    โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
    ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา



    </DD>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...