ดูไว้นี้สิถึงจะเรียกว่าที่สุดของ ... ลพ.ชาญณรงค์ อภิชิโต

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ฅนขลัง_๑๖, 16 มกราคม 2012.

  1. TOFFY_BLUE

    TOFFY_BLUE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +701

    [​IMG]
    ท่านคนบางพรม
    ขอบคุณความรู้และเรื่องราวในครั้งเก่าที่เล่ากี่ครั้ง ต้องอ่านย้อนไปมา
    แบบไม่รู้เบื่อจริงๆค่ะ ขอแบ่งประสบการ์ณอย่างต่อเนื่องนะค่ะ
    ส่วนของหนูเอง ได้มาแบบบังเอิญญาติบูชามาจากพี่หนุ่มและแนะนำ
    ให้เขามาดูและติดตามค่ะ
    กะว่าลูกชายโตจะให้ลูกชายใช้แน่นอน ตอนนี้รอเจ้าของตัวจริง
    เติบโตอีกหน่อย จึงใคร่สอบถามค่ะ
    ว่ามีวิธีบูชา หรือ การนำพระท่านมาเก็บรักษา อย่างไรบ้างหรือเปล่า
    แบบเป็นพิเศษๆ หรือ การใช้ต้องมีขันธ์ 5 รับท่านด้วยมั้ย ขอบคุณค่ะ
     
  2. ก้องครับ

    ก้องครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,447
    ค่าพลัง:
    +10,648
    เข้ามารอฟังเรื่องราวของหลวงพ่อจากพี่ คนบางพรม ต่อครับ

    ^^
     
  3. jew2554

    jew2554 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +124
    ขออนุญาติเฝ้าติดตาม ฟังเรื่องราวดีๆ ของครูบาอาจารย์ ด้วยคนครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องๆ อย่างผมได้เกิดความศรัทธา และเชื่อมั่นได้ว่ายังมีครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่งอยู่เสมอครับ
     
  4. Marquis_M

    Marquis_M เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +543
    และแล้วผมก็มีความหวังอีกครั้ง


    ผมเป็นคนนึงรักและเคารพหลวงพ่ออภิชิโตครับ จากความบังเอิญหลายๆครั้งจนผมคิดว่ามันไม่บังเอิญแล้วล่ะ ผมเป็นคนรุ่นหลังที่ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับท่านเลยรุ้เพียงว่าท่านเป็นศิษย์ในดง หลายครั้งที่ติดตามอ่านข้อมูลจากหลายที่สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่มีความจริงใดๆปรากฎ

    เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติครูบาอาจารย์ที่เคารพ ขอก้มกราบขอความกรุณาจากพี่ด้วยครับ ช่วยพิจรณาลงข้อมูลเรื่องจริงที่พอจะเปิดเผยได้ให้คนรุ่นหลังอย่างผมได้รับรู้บ้างนะครับ

    (ความบังเอิญนึ่งที่เกิดกับผมในเรื่องวัตถุมงคลของท่าน คือ ผมได้รับมาจากหลายคนหลายที่โดยที่ครั้งแรกๆยังไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าเป็นของท่าน จนมีการมาแบ่งให้บูชาในเวปผมจึงได้รุ้ว่าที่ผมมีอยู่คือ สมเด็จรุ่นแรกและรุ่นสุดท้าย)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. บางแสน

    บางแสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,535
    ค่าพลัง:
    +8,273
    ขออนุโมทนากับผู้นำเรื่องราวมาลงให้ความรู้ด้วย ผมเคยเห็นชื่อท่านมานานจากบทความเรื่องพระครูโลกอุดร ที่เขียนโดยคุณปถม..มานานเกือบยี่สิบกว่าปีแล้ว..วันนี้ได้มาเจอเรื่องของท่านอภิชิโตอีกครั้ง..ขอติดตาม ฟังเรื่อราวดีๆจากพวกท่านอีกครับ..ขอบคุณมาก..
     
  6. ราหูอมจัน

    ราหูอมจัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +563
    รอตามติด ติดตามประสบการณ์ วัตถุมงคล หลวงพ่ออภิชิโต ครับ
     
  7. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ผมมีเหรียญเบญจพิทักษ์ พระพุทธสิริกาญจโนภาษ วัดกาญจสิงหาสน์ ( วัดทอง ) อยู่หนึ่งเหรียญ ที่เห็นเป็นคราบสีเขียว มีคนบอกผมว่าเป็นคราบที่เกิดจากการแช่น้ำมนต์ เหรียญนี้แท้หรือไม่ อย่างไรสร้างออกจากวัดทอง ปีใหน สมาชิกท่านใดทราบกรุณาแนะนำด้วยครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. thepsurasak

    thepsurasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +113
    มาช่วยเชียร์ครับ:cool:
     
  9. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ไปพบเจอมา เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ดีมากๆ ก็เลยนำมาลงให้เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านได้ศึกษาครับ
    พระเครื่อง-วัตถุ มงคลแบบต่างๆที่หลวงพ่ออภิชิโตได้สร้างขึ้นมานั้นมีไม่กี่อย่าง และถือว่าท่านสร้างของไว้น้อยมาก
    เมื่อเทียบกับวัตถุมงคลที่กำเนิดจากพระเกจิดังๆในอดีตที่ผ่านมา ทั้งๆที่พระอาจารย์ชาญณรงค์มีอำนาจจิตแกร่งกล้า
    เกินคาดเดาและมีปาฏิหาริย์ เหนือพระเกจิอีกมากมายหลายองค์ในยุคสมัยนั้น เพราะท่านเป็นทั้งศิษย์ในดงและ
    อาจารย์ในดงพร้อมๆกัน แต่ที่ท่านทำไว้น้อยด้วยเพราะของที่ท่านทำเองนั้นจะก่อให้เกิดเรื่องเหนือ โลกในวันหน้าและกลัวว่า
    จะมีคนนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในทางที่ถูกที่ควร และคนที่ควรจะได้สงเคราะห์มีไม่มากนักและไม่ใช่ทุกคนไป
    วัตถุมงคลของท่านที่ยอมรับในสากลและถือเป็นสิ่งที่ท่านทำไว้ด้วยตัวเอง มีรูปแบบ มีเอกลักษณ์ และมีมาตรฐานชี้ชัด
    และนิยมเสาะหากันมานานแล้วคือ

    -สมเด็จรุ่นแรกปี 2485 กรุวัดลาดบัวขาวโดยสมภารยอด เจ้าอาวาสยุคนั้นขอท่านสร้าง
    -สมเด็จดำสร้างไว้เป็นครั้งแรกเพียงไม่กี่องค์
    -สมเด็จขาว
    -สมเด็จน้ำตาล
    -สมเด็จเขียวสร้างและปลุกเสกในถ้ำที่ลพบุรี
    -สมเด็จแดง สร้างครั้งแรกเมื่อ 2493 มีทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่
    -พระบูชา “พระพุทธเมตตา” จำนวนน้อยมาก
    -พระผงปี 16 และพระสมเด็จฝังพระธาตุมีสร้างไว้ประมาณเพียง 100 กว่าองค์
    -พระเนื้อผงรุ่นสุดท้ายปี 2529 เป็นรุ่นที่ท่านใส่มวลสารอันเป็นที่สุดลงไปทั้งหมด
    -เหรียญรูปเหมือนเนื้อทองเหลือง จากกองกษาปณ์ มีพิมพ์เดียว เนื้อเดียว
    -เหรียญพระพุทธ “เบญจพิทักษ์” มีเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียว มีแบบเดียว

    เปรียบเทียบกับ พระเกจิในยุคนี้หรือในยุคนั้นก็ตามที หากอภิญญาจิตกล้าแข็งเหลือล้ำและวิชาอาคมสุดยอดแบบท่าน
    ระดับปรมาจารย์แบบนี้ จะต้องมีวัตถุมงคลสร้างไว้สัก 100 รุ่นเป็นอย่างน้อย แต่ด้วยตบะบารมีที่ลือกันว่าท่านดุ
    และความเป็นคนจริงของท่าน ทำให้ไม่มีใครกล้ารบกวนขอสร้างและท่านก็ไม่ให้สร้าง ท่านไม่ยินยอมให้ศิษย์สร้างรูปของท่าน
    ในวัตถุมงคล แต่ให้นำรูปพระพุทธมาใส่แทนเสมอมา จะมีก็แต่เหรียญเนื้อทองเหลืองของกองกษาปณ์เหรียญเดียว
    ที่เป็นวัตถุมงคลในรูปแบบสัญลักษณ์ตัวแทนของท่านโดยตรง ดังนั้นเหรียญนี้ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในรูปเหมือน
    ตัวแทนของท่านอาจารย์ชาญ ณรงค์หรือหลวงพ่ออภิชิโต

    อีกทั้งท่านตั้งใจปลุกเสกอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้เสียชื่อท่าน โดยปลุกเสกครั้งละเหรียญก่อนจะนำไปทำพิธีเชิญหลวงตาดำ
    และพระในดงทั้งหมดมา ร่วมปลุกเสกและท่านกำหนดจิตอธิษฐานปิดท้ายเหรียญรุ่นนี้ รวมการปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้กว่าจะครบทั้งหมด
    ก็กินเวลาหลายปี ถือเป็นเหรียญดีและหายาก เหรียญแทบทั้งหมดจะตกอยู่กับศิษย์ของท่านโดยไม่มีตกอยู่กับเซียนพระหรือ
    ร้านค้าพระ หากจะมีออกมาสู่ภายนอกบ้างก็เพราะได้รับการแบ่งปันออกมาจากกลุ่มคนที่ได้รับ แจกในยุคนั้น
    หรือเป็นข้าราชการในยุคสมัยนั้น คนที่ได้รับไปเห็นว่าทองเหลืองที่เป็นเนื้อเหรียญไม่เรียบเนียนสวยงาม ก็เอาไปกะไหล่ทองใหม่
    หรือเอาไปพ่นทรายให้สวยงามจนต่างจากเหรียญสภาพเดิมๆ (เพราะความแข็งของเนื้อทองเหลืองออสเตรเลีย)
    แต่แทบทุกเหรียญจะมีตำหนิบนพื้นผิว ทั้งเป็นรอยหลุมเล็กๆ รอยขีดและเส้นเล็กๆบนผิว
    หรือรอบแตกรานเล็กๆน้อยๆแทบทุกเหรียญ ของปลอมจะมีขนาดหดเล็กกว่าของแท้และตัดขอบต่างกันมาก


    พระผงรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่ออภิชิโต มี 4 พิมพ์ คือสมเด็จพิมพ์ใหญ่ สมเด็จพิมพ์คะแนน พระพิมพ์นางพญาและพิมพ์พระปิดตา
    รวมทุกพิมพ์แล้วมีประมาณเพียง 2500 องค์ เท่านั้น โดยสร้างขึ้นเพื่อหาเงินไปบูรณะวัดอัมพวัน จ.หนองคาย
    โดยพระมหาเหลื่อมเป็นผู้ขอสร้าง มีพิธีสร้างและปลุกเสกที่วัดเงิน ตลิ่งชัน โดยหลวงพ่อเป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวด้วยกายเนื้อ
    ตลอดพรรษาทุกวันไม่เว้นแม้แต่ วันเดียว และยังเชิญพระในดงทุกองค์มาร่วมปลุกเสกพระรุ่นนี้
    รวมทั้งท่านอาจารย์ใหญ่คือหลวงตาดำ อภิมหาปรมาจารย์ของพระในดงผู้เรืองฤทธิ์ สิ่งมงคลและทุกอย่างที่เป็นของอาถรรพ์
    ในโลกนี้ ท่านได้นำมาใส่ไว้ในการสร้างพระรุ่นนี้ทั้งสิ้น เพื่อให้เป็นที่สุดของพระเครื่องในยุคหลังกึ่งพุทธกาล
    ที่จะรอสร้างปาฏิหาริย์ในวันหน้าเมื่อบ้านเมืองถึงคราวยุคเข็ญ เท่าที่สอบถามและดูรายละเอียดที่มีการบันทึกไว้ในมวลสาร
    ต่างๆของพระรุ่นสุด ท้ายปี 2529 เอาแค่ที่จำได้มีดังนี้

    -พระสมเด็จวัดระฆัง ที่เป็นสมบัติตกทอดจากตระกูลท่าน
    -พระสมเด็จบางขุนพรหมจำนวนมากทั้งที่หักและสภาพดี
    -พระสมเด็จวัดเกศจำนวนหนึ่งกระป๋องนมตราหมี
    -พระพุทโธน้อยของคุณแม่บุญเรือน (ทั้งสองท่านรู้จักกันดี)
    -พระของขวัญวัดปากน้ำ(ท่านสนิทกับหลวงพ่อสดดี)
    -พระและผงของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต
    -ผงพระวังหน้าและผงจากกรุวัดพระแก้วที่ได้มาจากหลังคาโบสถ์
    -ผงวิเศษและดินอาถรรพ์จากในดง ที่ท่านไปนำมาเพื่อใช้สร้างพระรุ่นนี้โดยเฉพาะ
    -ทราย จากขั้วโลกเหนือ ที่เป็นทรายเสกของพระอุปคุต ท่านลงทะเลน้ำแข็งไปเอามาโดยจีวรไม่เปียกน้ำต่อหน้าคนทั้งลำเรือ ส่วนที่เปียกน้ำเป็นเฉพาะทรายที่ท่านเอาจีวรห่อขึ้นมาจากทะเล
    -ใส่เขาปลาวาฬขั้วโลก(เป็นกระดูกที่งอกขึ้นบนหัวคล้ายเขาม้ายูนิคอร์น) ที่เจ้าสัวใหญ่มอบให้มา
    -ใส่ปากกา ปากเหยี่ยว จมูกเสือ เป็นเคล็ดวิชาแก้อาถรรพ์
    -ใส่ผงเขี้ยวทั้ง9 และผงเขาทั้ง 5 เพื่อแก้และกันอาถรรพ์ในป่าในดง
    -ใส่ทองอำพัน ใส่แก้วโป่งข่าม แก้วขนเหล็ก แก้และกันอาถรรพ์โลกวิญญาณ
    -ใส่ผงวิเศษที่ผู้มีบุญสูงศักดิ์ของเมืองไทยประทานมอบให้โดยเฉพาะ
    -ผงว่านสบู่เลือด ผงจ่าว่าน ผงไพรดำ
    -ใส่พระและผงจากกรุพระเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเทวดานำมามอบให้ท่าน
    -ใส่ผงจากการสร้างพระวัดลาดบัวขาวปี 2485 ที่กดไม่ทันฤกษ์และเก็บรักษาไว้
    -ผงก้นกรุพระวัดชนะสงคราม
    -ผงจากพระและผงกรุวัดสามปลื้ม
    -ผงกรุพระวัดราษฎร์บูรณะ
    -ใส่พระสมเด็จแดง สมเด็จดำ สมเด็จเขียว ที่เหลืออยู่ทั้งหมด
    -ผงจากเจดีย์เมืองหงสาวดี ประเทศพม่าที่เป็นผงพันปีจากโลกลี้ลับ
    -อีกหลายอย่างที่ผมจำไม่ได้แล้ว แต่ละอย่างล้วนหายากและเป็นของในตำนาน
     
  10. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ในพิธีสร้างพระเครื่องปี 2529 นี้ มีพราหมณ์ผู้จัดการบวงสรวงพิธีชื่อพราหมณ์แป๊ะ ซึ่งเป็นศิษย์อีกคนหนึ่งของท่าน
    ที่เรียกเข็มจากใต้น้ำได้ แก้อาถรรพ์วิชาได้ เป็นผู้ทำพิธีต่างๆตั้งแต่ต้นจนเสร็จ พระเครื่องรุ่นนี้ท่านสร้างไว้เพื่อให้เกิดปาฏิหาริย์ต่อผู้ใช้บูชา
    เพื่ออำนวยผลต่อคนในยุคหน้าที่สังคมเสื่อมทรามและโลกถึงคราวพบเคราะห์กรรม ใช้ป้องกันนิวเคลียร์ กันภัยจากรังสีร้ายแรง
    ท่านได้ใส่อาคมที่กันได้ในวิชาอาคมทั้ง 18 อักขระภาษา เช่นกูโบ๊ส แขก มอญ ละติน ขอม ฯลฯ กันไว้ทั้ง 10 ทิศทั้ง
    วันเปิด-วันปิดของคนบูชา ป้องกันคุณไสย ป้องกันการคัดถอนวิชาอาคมในตัว มีพยานรู้เห็นหลายคนว่า พระเครื่องรุ่นนี้ท่านปลุกเสก
    จนพระทั้งหมดลอยขึ้นจากพื้น (บางคนบอกว่าท่านเสกจนพระบินได้) ในพิธีปลุกเสกนั้น ไฟฟ้าในวัดทุกดวงได้ดับลงขณะ
    ท่านกำหนดสมาธิจิตจรดปากกาลงบนแผ่นจารเพื่อทำ พิธี โดยที่ไฟฟ้านอกวัดไม่ดับเลย เมื่อท่านปล่อยจิตเป็นปกติไฟฟ้า
    ก็ติดทุกดวง คนยุคนั้นและคนทั้งบางละแวกนั้นจะรู้จักพระรุ่นนี้ว่า”พระรุ่นไฟดับ”

    ท่านบอกกับศิษย์ ว่า พระรุ่นนี้ท่านจะทำทิ้งทวนในสรรพวิชาที่เรียนมาให้ดีที่สุดเพื่อคนในรุ่น หลัง จะสร้างของวิเศษ
    ไว้ในแผ่นดินให้โลกจารึกไว้ และจะไม่ให้ศิษย์หรือคนที่นับถือท่านต้องตกต่ำด้อยค่ากว่าใครๆ ศิษย์ของท่านบอกตรงกันว่า
    พระชุดนี้ไม่เป็นรองใครในแผ่นดินและกันได้ทุกอย่าง จะก่อปาฏิหาริย์มากในวันหน้า พระชุดนี้มีหลายสี
    เช่นสีขาวๆจะแก่ผงวิเศษต่างๆ สีขาวปนแดงอ่อนจะแก่พระสมเด็จแดงชุดสุดท้ายที่หลวงพ่อเทใส่ครกตำลงไปด้วย(หา ยากมาก)
    สีเทาเข้มๆอมน้ำมันจะแก่มวลสารอาถรรพ์และสมเด็จเขียว สีน้ำตาลอ่อนจะแก่ว่านยาจากในป่าในดง
    สีขาวปนเทาอ่อนๆจะเป็นเนื้อมาตรฐานของพระรุ่นนี้

    เมื่อ เสร็จพิธีปลุกเสกครบหนึ่งพรรษาแล้ว ลูกศิษย์ของท่านระดับเจ้าสัวหลายท่านที่รับรู้การสร้างพระเครื่องรุ่นนี้
    ได้มอบเงินให้กับวัดอัมพวัน จ.หนองคายเพื่อช่วยบูรณะตามต้องการ และเก็บพระรุ่นนี้แทบทั้งหมดไว้จนกระทั่งปัจจุบัน
    ทำให้มีพระรุ่นนี้ออกมาหมุนเวียนในตลาดพระไม่มากนัก มีออกมาเมื่อไรก็หายไปทันทีในราคาบูชาที่สูงมากจนน่าตกใจ
    กับพระเครื่องใหม่ๆ ที่คนยังไม่รู้ประวัติดีพอแบบนี้ จนถึงวันนี้ วันที่ท่านผู้เก็บพระเหล่านี้ไว้ ได้เมตตาพวกเราชาวเวปพลังจิต
    ที่เน้นการร่วมทำบุญสร้างสาธารณะกุศลมากกว่าจะมองหากำไรเล็กๆน้อยๆ จึงเรียกผมไปพูดคุยและแบ่งของวิเศษค่าควรเมือง
    แบบนี้มาให้จำนวนหนึ่ง ทั้งๆที่มีเซียนพระมีระดับไปอ้อนวอนของแบ่งปันทั้งหมดโดยไม่เกี่ยงราคา
     
  11. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ในอนาคตเร็วๆนี้ จะใช้บูชาก็ไม่ผิดหวังตามต้องการ หากใครรู้ประวัติการสร้างทั้งหมดหรือทราบปาฏิหาริย์ของ
    หลวงพ่ออภิชิโตทั้ง หมด รับรองว่าจะวางพระหลักแสนที่เคยเก็บเคยถือครองไปอีกหลายอย่าง
    เพราะเกินครึ่งของเกจิดังๆในยุคนี้ ท่านลองวิชามาแล้วทั้งสิ้นและหลายท่านยอมรับแก่หลวงพ่อโดยไม่มีข้อกังขา
    ที่ยังไม่อยากเอ่ยชื่อพระเกจิเหล่านั้นก็เพราะกลัวจะสะเทือนใจแก่เหล่าลูก ศิษย์ที่เคารพนับถือ

    แต่แท้ที่จริงแล้ว ผมมิได้เจตนาจะนำประเด็นการลองวิชากับพระเกจิต่างๆมาเป็นจุดนำสร้างความ ศรัทธาอย่างใดทั้งสิ้น
    แต่อยากชูประเด็นความเป็นพระอภิญญาที่แก่กล้าด้วยฌานสมาบัติและเป็นของจริง ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ต่อหน้าคนจำนวนมาก
    ให้โลกได้จดจำ รวมทั้งความรัก ความเป็นห่วงศิษย์รุ่นต่อๆมาและการสร้างของขลังที่หาผู้ทำได้ดีเท่าแบบนี้ มาบอกกล่าวต่อกัน
    และสิ่งที่ท่านทำปาฏิหาริย์มามากมายนั้น ล้วนมีการบันทึกไว้ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล เอกสารหนังสือต่างๆครบถ้วน
    คนที่อยู่ร่วมในการทำปาฏิหาริย์ต่างๆเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ก็หลายคน

    แม้แต่หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี ยังยกย่องและยอมรับว่า พระพุทธรูปที่หลวงพ่ออภิชิโตเสกให้นั้น
    เป็นที่สุดของพระบูชาแห่งยุคแล้ว จะหาที่ไหนทำเสมอเหมือนได้ยาก โดยเหตุนี้เกิดเมื่อครั้งที่นายทหารท่านหนึ่งยศนายพล
    ได้ขออนุญาตสร้างพระ พุทธรูปบูชาจำนวนหนึ่ง ให้ชื่อว่า”พระพุทธเมตตา” เมื่อท่านเสกให้แล้วก็นำไปออกให้บูชาหาเงินทำบุญ
    ที่อุทัยธานีและที่ อุตรดิตถ์ มีคนบูชาและนำไปที่วัดท่าซุง อุทัยธานี เมื่อหลวงพ่อฤาษีฯได้พบพระบูชานี้เข้า
    จึงให้ศิษย์ของท่านมาตามเก็บไปบูชาอีกสิบกว่าองค์โดยบอกว่า พระบูชาที่สร้างอย่างสมบูรณ์และทำได้ดีแบบนี้ ในโลกนี้จะหาคน
    ทำได้ยากหรืออาจไม่มีอีกแล้ว (เรื่องนี้จะมีบันทึกในหนังสือทั้งชื่อ ยศของผู้สร้าง วันเวลาโดยละเอียด สามารถสอบทานเรื่องจริงได้เลย)

    เคยมีผู้นำพระผงรุ่นสุดท้ายนี้ไปให้พระอาจารย์ชื่อดังสายวิปัสสนาศิษย์สาย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตรวจรังสีจิตในองค์พระผงรุ่นสุดท้าย
    ของหลวงพ่ออภิชิโต พระอาจารย์ท่านนั้นถึงกับสะดุ้งและบอกว่า "ในโลกเรายังมีคนทำของได้ดีสมบูรณ์แบบอย่างนี้อีกหรือ สูงค่าจริงๆ .........."

    พระ เครื่องต่างๆของหลวงพ่ออภิชิโต มีเรื่องเล่ามากมายที่เหนือธรรมดาปกติของสังคมโลกทั่วไปและเป็นมานานแล้ว
    แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักกันนัก ถามหากันโดยไม่มีข้อมูลที่แท้จริงหรือมีข้อเปรียบเทียบของตัวอย่าง เมื่อโอกาสดีๆมาถึงแล้ว
    ในเวลานี้โดยหลวงพ่ออภิชิโตและศิษย์รุ่นเก่าๆของท่าน เมตตาและต้องการมอบสิ่งเหล่านี้กับผู้มีวาสนา
    มีจังหวะและเวลาที่ลงตัวพอเหมาะพอดีกัน แล้วพวกเราจะไม่อยากได้ของที่ท่านทำเตรียมไว้ให้ตั้งแต่ครั้งอดีตแบบนี้บ้าง
    หรือ หากวันเวลาผ่านไปอีกสักเล็กน้อย ท่านจะรู้ว่า บางครั้งเรื่องบังเอิญนั้นเกิดขึ้นเพราะความไม่บังเอิญ

    พระสมเด็จรุ่นแรกวัดลาดบัวขาวปี 2485 มีอุปเท่ห์การใช้มากมายและท่านใส่วิชาทั้งหมดที่เรียนมาจากในดง
    พระรุ่นนี้ออกแนวไปทางอิทธิฤทธิ์ พระรุ่นสุดท้ายจะออกแนวไปทางบารมีและบุญฤทธิ์ อย่างหนึ่งที่หลวงพ่อแนะนำไว้คือ
    ท่านลงกันและแก้วิชาไสยดำ การกระทำคุณไสยไว้ครบถ้วน ท่านยังเอาพระสมเด็จวัดลาดบัวขาวไปวางไว้บนหน้าจั่วของศาลา
    ที่แยกสำราญรา ษฏร์เพื่อแก้เคล็ดวิชาทางไสยเวทย์ และบอกว่าใครที่มีบ้านในตำแหน่งผิดหลัก มีบ้านที่ร้อนรุ่มอยู่ไม่ปกติ
    หรือจะสร้างบ้านหลังใหม่ ให้นำพระสมเด็จรุ่นนี้ไปเลี่ยมแบบเปิดหน้า(ให้อากาศธาตุสัมผัสพระโดยตรง ได้)
    และวางไว้บนเสาเอกหรือบนจั่วหลังคา จะคุ้มบ้านหลังนั้นไปชั่วลูกชั่วหลาน ส่วนพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายมีอุปเท่ห์การใช้อย่างไร
    จะมาบอกอีกทีหนึ่งโดยเฉพาะการทำน้ำมนต์

    พระผงรุ่นสุดท้ายปี 2529 ของหลวงพ่ออภิชิโต จะมีสี่แบบ
    -สมเด็จพิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) มีพิมพ์เดียว ไม่มีพิมพ์ฐานแซม ทรงเจดีย์ หรือเส้นด้าย
    -สมเด็จพิมพ์คะแนน เป็นแบบพิมพ์ใหญ่เช่นกัน แต่มีขนาดเล็กสวยงามพอเหมาะ
    -สมเด็จนางพญา ทรงสามเหลี่ยม มีรูปแบบเดียว ทรงเดียวกับนางพญาอกนูนพิษณุโลก
    -พิมพ์พระปิดตา รูปแบบคล้ายพระปิดตาหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

    หรียญเนื้อทองเหลืองรูปเหมือนของท่าน จัดสร้างโดยกองกษาปณ์
    เป็นเหรียญรูปเหมือนท่านเพียงหนึ่งเดียวที่สร้างไว้ ใช้อธิษฐานดีมาก
    มี3เหรียญ3 ลักษณะแต่เป็นเนื้อเดียวกัน บล๊อคเดียวกันสร้างพร้อมกัน
    -แบบเดิมๆตามธรรมชาติ
    -แบบกะไหล่ทองมาใหม่
    -แบบพ่นทรายให้สวยงาม

    พระพิมพ์ใหญ่มีน้อยครับ พิมพ์คะแนนและพระนางพญามีหลายองค์ เจ้าของเดิมเป็นศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่ออภิชิโต
    ท่านเก็บรักษามาตั้งแต่เสร็จพิธีปี 2529 เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ยอมแบ่งออกมาให้คนวงนอก ที่ผ่านๆมาก็มีเพียงศิษย์หลวงพ่อด้วยกัน
    แวะเวียนมาแบ่งครั้งละองค์สององค์ แต่บางครั้งพระพิมพ์ใหญ่ก็ไปโผล่บนห้างในราคาแพงมาก

    คุ้มครองด้านแคล้วคลาด คงกะพัน เป็นพื้นฐานของวิชาการปลุกเสกและจะมีทุกองค์ในพิธีเดียวกัน เรื่องเหนือกว่าวิชาธรรมดาทั่วๆไปคือ
    เมตตาค้าขาย มหาเสน่ห์ เสริมบารมี ที่ยากจะทำได้หรือหาคนทำได้จริงน้อยมากคือ วิชาส่งเสริมความก้าวหน้า เสริมวาสนา ค้ำดวงชะตา
    ที่จะมีต่างๆกันแล้วแต่การกำหนดจิตอธิษฐานของพระเกจิที่ทำไว้

    พระสมเด็จ เด่นทางเสริมชะตา หนุนวาสนา อำนาจ บารมี ทำไว้ให้ผู้ชาย
    พระพิมพ์นางพญา เด่นทางเสริมมหาเสน่ห์และส่งเสริมบารมี ทำไว้ให้ผู้หญิง
    พระพิมพ์คะแนน ทำไว้ให้ทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิงใช้ได้เหมือนๆกัน

    พระรุ่นแรกนี้ท่านทำไว้ก่อนยุคเข็ญ เพื่อค้ำคูณหนุนดวงคนบูชาและท่านใส่วิชามหาสะท้อนและมนต์พระกาฬ
    ใครคิดร้ายหรือทำอะไรเรา ให้วางอุเบกขาไว้และบอกกล่าวต่อพระที่แขวนอยู่ และภายในไม่นานนักคนๆนั้น
    จะพบความวิบัติฉิบหายอย่างแรง คนใส่พระรุ่นนี้ห้ามไปแช่งใครโดยพละการเด็ดขาด
     
  12. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    เรื่อง ราวของหลวงพ่ออภิชิโตมีมากมาย เล่าสามวันก็ยังไม่ได้ครึ่งของเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งแทบทุกเรื่องมีบันทึกไว้จากคนรุ่นเก่ายุคนั้น
    และมีเทปบันทึกที่หลวงพ่อเล่าให้ศิษย์ฟัง จึงอยากเก็บเป็นบันทึกจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อเป็นตำนานของแผ่นดิน ส่วนที่อยากแนะนำให้หา
    พระเครื่องของท่านมาติดตัวไว้ ด้วยเพราะมีหลายอย่างที่น่าเก็บมาพิจารณาและทั้งการสร้าง การปลุกเสกก็แตกต่างจากการ
    สร้างครั้งไหนๆที่เคยมีมา เมื่อหลวงพ่อท่านปลุกเสกพระนั้น ท่านทำโดยใส่ทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์เต็มที่ไม่มียั้ง
    เสร็จแล้วยังอาราธนาพระอาจารย์ในดงผู้เป็นต้นสายพระในดงทุกรุ่น(หลวงตา ดำ)ให้ช่วยปลุกเสกกำกับให้ด้วยเป็นพิเศษ
    การปลุกเสกของท่านก็เดินกสิณครบทั้งดิน น้ำ ลม ไฟและอัดใส่ไล่ไปทีละวิชาจนครบทุกหมวดหมู่สำหรับพระเครื่องในแต่ละรุ่นโดย
    เฉพาะในรุ่นสุดท้ายที่ท่านรู้ดีว่าสังขารของท่านไม่เที่ยงแล้ว

    พระเครื่องโดยทั่วไป จัดสร้างแบบจำนวนมากเพื่อต้องการรายได้มาบูรณะวัดวาอารามและ ไม่เน้นใส่มวลสารดีๆอย่างจริงจัง
    อย่างมากก็แค่ผงพุทธคุณสักก้อนหนึ่งเท่านั้นก็พอ แต่พระเครื่องของหลวงพ่ออภิชิโตนั้น ใส่พระสมเด็จวัดระฆัง
    บางขุนพรหม พระปากน้ำ และพระอื่นๆเป็นกำเป็นกระปุก และสารพัดของที่เราๆไม่อาจหามาได้แน่นอนในชาตินี้
    แต่ด้วยศิษย์ของท่านในยุคสมัยนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนมีเงินและมีตำแหน่ง หน้าที่การงานแทบทั้งสิ้น
    จึงสรรหามามอบให้หลวงพ่อเพื่อร่วมทำกุศลได้

    ทั่วๆ ไปของพระเกจิต่างๆจะใช้วิธีการปลุกเสกโดยอำนาจจิต โดยการอธิษฐานด้วยบารมีธรรม หรือโดยเวทมนต์คาถาต่างๆ
    แต่ของหลวงพ่ออภิชิโตนั้น ท่านทั้งใช้อำนาจจิต ใช้การอธิษฐาน ใช้วิธีขอพลังจากครูบาอาจารย์อันเป็นที่สุดของสายวิชาต่างๆ
    ใช้วิชาในดงที่เรียนมาจนเจนจบเพื่อบรรจุลงในพระเครื่องของท่าน ทำไว้ทั้งป้องกันและแก้ไข ลงวิชากันคัดกันถอนอาคมเสร็จสรรพ
    ลงป้องกันอันตรายครบทั้ง 7วันและทั้ง 10ทิศ (เพิ่มทิศเบื้องบนและทิศเบื้องล่างจากทิศทั้งแปด)ลงป้องกันวิชาอาคมจาก
    สายวิชาอื่นครบทุกแขนง ลงกันฟ้าผ่า กันคุณไสย กันกระทำ กันถอนวิชาและอีกสารพัด

    ทุกวันนี้แม้ท่านจะละสังขารไปแล้ว กายเนื้อท่านอยู่ในที่อันสงบในสถานที่เฉพาะส่วนบุคคล แต่กายทิพย์ท่านยังตะเวนไปตาม
    กระแสจิตของเหล่าลูกศิษย์ที่กราบระลึกถึงท่าน จิตของท่านไวมากแค่เรากราบและระลึกนึกถึงท่านเท่านั้น
    เราจะรับรู้ได้ว่าท่านรับทราบแล้ว หากใครมีพระเครื่อง มีภาพถ่ายของท่านอยู่ในครอบครอง ลองทำดูก็ได้ว่าจริงไหม
    ผมเองแม้ไม่ทันได้พบเจอท่าน ไม่มีวาสนาได้กราบท่านโดยตรงเมื่อท่านยังทรงขันธ์อยู่ แต่หลายครั้งในเวลานี้ท่านก็มาให้กราบได้เช่นกัน
    หลายๆอย่างท่านชี้ช่องให้กระทำและพบเจอสิ่งที่ใฝ่ฝัน อยากบอกว่าพระเครื่องทั้งหลายที่ผมนำมาแบ่งปันให้บูชาครั้งนี้
    ล้วนมาจากท่านต้องการสงเคราะห์คนอย่างพวกเราในกลุ่มนี้ มีเหตุให้ได้เจอได้แบ่งปันมาจากศิษย์รุ่นใหญ่ของท่าน
    จะเล่ามากไปก็จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่เรื่องที่ดูบังเอิญสำหรับบางท่าน อาจเกิดขึ้นจากสิ่งที่ไม่บังเอิญก็ได้

    พระผงใหม่ๆที่ดูธรรมดาๆของท่าน แต่มีราคาแพงๆเป็นพิเศษ จะเป็นเนื้อแบบพิเศษที่เลือกกดไว้เฉพาะกลุ่มลูกศิษย์วงในใกล้ชิด จะมีข้อที่สังเกตง่ายๆคือ
    1. พระสมเด็จที่แก่ผงของสมเด็จแดง เนื้อจะออกสีแดงเรื่อๆอมชมพูมีไม่เกิน 20 องค์
    2. พระผงที่แก่ผงวิเศษของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) เนื้อจะออกขาวฟูๆมีไม่เกิน 50 องค์
    นอกนั้นก็ดูสภาพความสมบูรณ์เป็นหลัก แต่ทุกองค์ดีเท่าเทียมกัน และดีจริงแท้แน่นอน พระผงของท่านอภิชิโตทั้งปี 2485 และปี 2529 ล้วน
    กดมือโดยไม่ได้ใช้เครื่องปั๊มเครื่องกระแทก เนื้อจึงไม่แน่นแข็งแบบพระสมัยใหม่ แต่จะออกฟูๆไม่แน่นตัวมากนัก ตัดขอบด้วยมือคน
    จึงมีขนาดไม่เท่ากันทุกองค์ และพระแก่ว่านกับพระแก่ผงก็มีการหดตัวไม่เท่ากันทั้งๆที่เป็นพระพิมพ์เดียว กันและกดในปีเดียวกัน

    หลวงพ่ออภิชิโตเคยไปทดสอบท้าประลองกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และเคยไปเป่าทองให้หลวงพ่อแช่มดู
    สมัยนั้นหลวงพ่อออกมาจากดงใหม่ๆยังไฟแรง ตะเวนไปทั่ว หลวงพ่อแช่มเป่าทองเข้าหัวได้ครั้งละ 3 แผ่น
    แต่หลวงพ่ออภิชิโตเป่าได้ครั้งละ 108 แผ่น และเป่าครั้งเดียวทองเข้าหัวศิษย์ทุกคนที่นั่งทำพิธี ไม่ต้องทำทีละคน
    จนหลวงพ่อแช่มต้องขอเรียนวิชากับอาจารย์ในดงบ้าง โดยหลวงพ่อแช่มใช้เวลา 22 ปีเรียนวิชาลี้ลับในดง
    โดยผ่านทางญาณของอาจารย์ใหญ่ ที่สอนให้จนจบเมื่อบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อแช่มแล้ว และหลวงพ่ออภิชิโตเอง
    ก็นับถือหลวงพ่อแช่มโดยใช้เวลาขลุกอยู่ที่วัดตาก้องนาน ถึง 5ปีในช่วงเวลานั้น

    การใช้อำนาจจิตเสกสิ่งของให้กลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์นั้น ได้ทำครั้งแรกเมื่อปี 2496 และทำครั้งที่สองเมื่อปี 2503 เมื่อ
    ครั้งที่สองซึ่งหลวงพ่ออภิชิโตได้ทำพิธีนั้น มีคนเก่งๆวิชามาคอยคัดคอยแก้ไม่ให้ทำสำเร็จหลายราย มีนักหนังสือพิมพ์
    มาคอยถ่ายภาพบันทึกเรื่องราว และมีอาจารย์มีชื่อเสียงมาคอยดูอย่างใกล้ชิด เช่น ท่านพุทธทาสภิกขุ อ.ชุม ไชยคีรี
    แม่ชีแนบ เป็นต้น แต่ท่านก็ทำได้สำเร็จตามที่บอกไว้ โดยท่านเสกใบมะม่วงเป็นแมลงภู่ก่อนในครั้งแรก ต่อมาเสกกบ
    เสกนก และสุดท้ายเสกรัดประคตเป็นงูใหญ่ต่อหน้าพยานบุคคลจำนวนมาก และเรื่องนี้ได้มีการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์
    บางกอกไทม์ และในวารสารอีกหลายเล่ม ภาพถ่ายที่ใบไม้กลายเป็นนกสีแปลกตาบินออกจากมือหลวงพ่อก็มีต้นฉบับอยู่ใน เวลานี้
     
  13. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    หลวงพ่ออภิชิโตนั้นท่านสำเร็จอภิญญา 6

    1. อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้
    2. ทิพพโสต มีหูทิพย์
    3. เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
    4. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
    5. ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
    6. อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป

    และได้ฌานสมาบัติ8 (สมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4) และยังเจนจบสรรพวิชาทั้งปวงในไตรโลก ทั้งวิชาบู๊และบุ๋น
    แม้แต่วิชาทางพรหมศาสตร์ท่านก็เรียนมาเจนจบและนำไปต่อยอดบรรจุลงในพระ เครื่องของท่านจนมีพลังมหัศจรรย์แปลก
    ไปจากพระเครื่องทั่วๆไป ท่านสร้างพระไว้เพื่อให้เอาไปใช้โดยตรง เพราะท่านรู้ดีว่าในยุคสมัยข้างหน้านี้ ศิษย์ของท่านทั้งรุ่นเก่า

    และศิษย์รุ่นใหม่ๆหรือคนในครอบครัวของเหล่าบรรดา ลูกศิษย์ของท่าน จะต้องพบเจอทุกข์ภัยต่างๆ เจอปัญญาชีวิตที่หนักหนาสาหัส
    ท่านจึงทำไว้โดยบอกว่าจะฝากเป็นมรดกของแผ่นดินเพื่อลูกหลานในวันหน้า และท่านไม่ลืมที่จะทำให้ดีที่สุดชนิดไม่เป็นสองรองใครในปฐพี
    ตามอุปนิสัยของท่านที่ต้องเป็นหนึ่งเท่านั้นหากต้องการ

    [​IMG]
    [​IMG] พระสมเด็จรุ่นสุดท้าย เนื้อผงขาว
    [​IMG]
    [​IMG] พระสมเด็จรุ่นสุดท้าย เนื้อผงขาว30
    [​IMG]
    [​IMG] สมเด็จรุ่นแรกคัดสวย3_พระสมเด็จรุ่นแรกกรุวัดลาดบัวขาวสร้างปี 2485
    [​IMG]
    [​IMG] สมเด็จรุ่นแรกพระสมเด็จรุ่นแรกกรุวัดลาดบัวขาวสร้างปี 2485.
     
  14. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
  15. man_12

    man_12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +924
     
  16. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    ผมสงสัยตรงขอบเหรียญด้านหลัง เหนือคำว่า วัด มี ั ติดตรงขอบเหรียญ ไม่แน่ใจว่าเป็นพิมพ์เขยื้อน หรือเป็นการปั๊มซ้ำ ครับ


    [​IMG]
     
  17. auto1471

    auto1471 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +6,418
    ข้อมูลทั้งหมดทั้งมวล ได้มาจาก กระทู้ของพี่หนุ่มเมืองแกลง ทั้งหมด
    ในหลายๆๆ วาระ และหลายเวลา ที่พอรวบรวมมาได้ จากการติดตาม
    และศึกษาแนวทางแนะนำพระดี..... ขอบคุณที่นำมาบอกกล่าวกัน

    และเร็วๆๆนี้ จะมีหนังสือของหลวงพ่อท่านวางจำหน่ายแล้ว
    อดใจรอกันอีกสักนิดครับ ข่าวสารก้อ พี่หนุ่มเมืองแกลง.....
     
  18. thepsurasak

    thepsurasak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +113
    ถ้าจะรีบเก็บพระของหลวงพ่อก็ต้องช่วงนี้แล้วล่ะครับ ถ้าหนังสือออกเมื่อไหร่คงจะหาพระของหลวงพ่อได้ยากขึ้นอีกเท่าตัว
     
  19. ศ.รุ่งเรือง

    ศ.รุ่งเรือง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +719
    โดนฝนไหมครับ พี่เองเจอฝนรถติดยาวเลย
     
  20. khanngoen

    khanngoen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +885
    เงียบเหงาจังครับช่วงนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...