แต่ละท่านล้วนมีหน้าที่ที่สำคัญทั้งสิ้น ทว่า ท่านระลึกได้หรือยัง?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อู่หยาจื่อ, 21 พฤษภาคม 2012.

  1. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ที่รัก วันนี้ผมเริ่มเปิดประเด็นที่เรียบง่ายที่สุดเลย
    ท่านเกิดมาบนโลกนี้เพื่ออะไร? เพื่อทำหน้าที่ใด?
    แต่ไม่ทราบว่าท่านตอบได้หรือยัง? หลายท่านมัก
    คิดว่าเราทำงาน เลี้ยงครอบครัว นั่นแหละ หน้าที่
    ของเรา โธ่ ... นั่นเป็นความคิดที่อยู่ในมิติที่ต่ำเสีย
    จริงๆ เพราะท่านคิดได้ไม่ต่างจากเสือหรือวัว มันก็
    คิดแบบนี้นะครับ หาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวไป นี่
    ไม่จำเป็นต้องมาเกิดในสังขารของมนุษย์เลย ถ้ามี
    ความคิดเพียงเท่านั้น ไม่หรอกที่รัก ท่านอย่าดูถูกตัว
    เองให้ต่ำลงอย่างนั้นสิ ท่านมีหน้าที่ที่สำคัญกว่านั้น
    มากกว่าแค่เกิดมาหาเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวเท่านั้น


    เอาละ ผมมาช่วยท่านระลึกถึงหน้าที่ที่ควรทำให้ละกัน
     
  2. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    อย่างแรกที่ท่านต้องทราบก่อนคือ คนเราไม่ได้ถูกส่งลงมาเกิดแบบโดดๆ
    เรามากันเป็นทีมครับ และก่อนที่เราจะลงมาเราก็มีทีมอยู่แล้ว เมื่อลงมา
    เกิดบนโลก เราต่างแยกย้ายกันชำระตัวเอง ชำระหนี้เก่าที่เรามีต่อโลก
    และผู้คนบนโลก ทำให้พวกเราถูกแยกกันก่อน เมื่อเราชำระตัวเองแล้ว
    จึงจะได้รับ "อิสรภาพ" หรือทางโลกอาจกลายเป็นการตกงาน อะไรนั่น
    แหม อย่ามองสิ่งที่เข้ามาในชีวิตเป็นเรื่องร้ายเรื่องลบไปหมดสิ นั่นคือสิ่ง
    ที่ช่วยให้ท่านหลุดออกจากวังวนเดิมๆ เลยนะ ผมไม่ได้ยุยงให้ท่านถูกไล่
    ออกนะ แต่ท่านที่ว่างงานอยู่แล้ว นั่นแหละ ท่านหลุดพ้นจากวังวนแล้วจึง
    มีอิสรภาพที่จะเริ่มต้นและเลือกทางเดินใหม่ได้ ในแบบของตัวเอง ไม่ต้อง
    ไปเดินตามใครนะครับ ตั้งสติดีๆ ทบทวนตัวเองดีๆ ว่าเราเกิดมาบนโลกนี้
    เพื่ออะไร? เพื่อทำหน้าที่ใด? และที่สำคัญคือ "ทีมงานเราอยู่ไหน?" และ
    "ผู้นำที่แท้จริงของเราคือใคร" มันสำคัญมากเลยที่รัก เพราะอะไรหรือ?
    เพราะว่าผู้นำอาจนำพาคุณไปสู่ที่ใดก็ได้ ดีหรือเลว ก็ได้ ที่รัก มันสำคัญ
    จริงๆ ที่คุณจะเลือกเดินตามใครสักคน คุณรู้ไหมว่าบนโลกนี้ มีคนที่อยาก
    เป็นหัวหน้าและได้เป็นหัวหน้ามากมาย แต่พวกเขานำพาผู้คนไปสู่ทางมืด
    มนเสียมาก และมีชีวิตหลังสละสังขารนี้ อย่างตกต่ำไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว!
    ที่รัก ยังไม่สายเกินไปนัก ที่เราจะเลือก ทีมงานและผู้นำ ที่แท้จริงของเรา
     
  3. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลำดับต่อไปคือ "ตำแหน่งตามดวงดาว" ผมขอเรียกแบบนี้ก็แล้วกันนะ
    เพราะไม่ใช่ตำแหน่งทางโลก เหมือนกลุ่มดาวที่เรียงตัวกันในตำแหน่ง
    ต่างๆ แต่ละท่านในทีมงานนั้น ก็เหมือนกัน จะมีตำแหน่งของตนเองอัน
    แตกต่างกันไป สิ่งที่ท่านควรทราบด้วยคือ ประเมิณตัวเองให้ดี อย่าทำ
    สิ่งที่เกินตัว รับตำแหน่งเกินตัว เพราะท่านจะรับผลของมันไม่ไหวเอานะ
    เอาละ ทีนี้ เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ผมจะขออธิบายใน
    แต่ละตำแหน่งให้ชัดๆ เป็นภาษาพื้นบ้านกันไปเลย เอาให้เข้าใจกันจริงๆ
    จะได้นำเอาไปปฏิบัติได้ง่ายๆ ไม่เข้าใจคลาดเคลื่อนไปนะครับ ดังต่อไปนี้


    อย่างแรกคือ "ตำแหน่งผู้นำ" ถ้าคุณศึกษามาทางพุทธศาสนา เขาจะใช้
    คำเรียกว่า "พระนิตยโพธิสัตว์" ซึ่งมีอยู่มากมายเลยละ หลายๆ ท่านเลย
    และมีหลายตัวตนด้วย เช่น พระศรีอาริยเมตตรัย ก็มีหลายตัวตนใช่ไหมละ
    ทีนี้ แต่ละตัวตนก็มีบารมี, มีธรรม, มีอะไรต่อมิอะไร ไม่เหมือนกัน เรียกว่า
    ระดับต่างกัน ท่านสามารถเลือกได้ตามกำลังบารมีของท่านด้วย กล่าวคือ
    ถ้าท่านบารมีน้อย จะไปเลือกตัวตนที่มีบารมีมากๆ สูงๆ คงไม่ไหว ใช่ไหม?
    ท่านก็ต้องยอมคว้าเอาตัวตนที่ท่านพอเอื้อมถึงแทน ซึ่งมันอาจจะไม่คุ้มค่า
    กับการเกิดมา 1 ชาติเท่ากัน เมื่อเทียบกับท่านที่คว้าตัวตนที่มีบารมีสูงๆ ได้
    แต่ทำอย่างไรได้ละ สุดท้าย ธรรมชาติจัดสรร ตามความเหมาะสม ท่านก็จำ
    ต้องยอมรับคงวามจริงข้อนี้ อนึ่ง พระนิตยโพธิสัตว์นี้มีมากมายนะ ถ้าใช้หลัก
    ในพุทธศาสนาของท่าน ก็จะทราบว่าบางท่านจะได้นิพพานเร็ว แต่บางท่านจะ
    ได้นิพพานช้าหน่อย เรียกว่ายังเหนื่อยไปอีกนานกว่าจะได้เสวยผลอันเป็นที่สุด
    นี่ก็แล้วแต่ท่านจะเลือกอีกละครับ เลือกแล้วก็ต้องยอมรับนะ ไม่ค่อยมีโอกาสให้
    เลือกบ่อยนัก "ทุกตำแหน่งมีจำนวนจำกัด" ดังนั้น ก็เลือกกันให้ดีก็แล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  4. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ลำดับต่อไป คือ ตำแหน่งพุทธบิดา เอาละ ภาษาง่ายดี ไม่ต้องตั้งนามใหม่
    ในที่นี้มีสามนะครับ คือ 1. พุทธบิดาผู้ให้กำเนิดสังขาร 2. พุทธบิดาผู้ให้
    กำเนิดจิตวิญญาณ 3. พุทธบิดาผู้ให้กำเนิดสถานภาพทางสังคม แล้วมัน
    ต่างกันอย่างไรละ? เอาละ คุยกันแบบบ้านๆ ชาวบ้านพื้นๆ คุยกันเลยยังงี้


    1. พุทธบิดาผู้ให้กำเนิดสังขาร : คือ พ่อที่ให้กำเนิดมาคนแรก ซึ่งท่านจะ
    มีบารมีดูแลพระนิตยโพธิสัตว์องค์นั้นได้เพียงขณะวัยเยาว์เท่านั้น พอท่าน
    โตแล้ว บารมีแก่กล้าแล้วจะโผบินจากพ่อไป พ่อคนนี้หมดบารมีแล้วที่จะทำ
    หน้าที่พ่อได้อีก ทำต่อไม่ไหวแล้ว หมดบารมีแล้วจริงๆ ทำให้แค่เลี้ยงให้โต
    ก็เท่านั้น พอโตแล้ว เขาต้องบินจากไปเพื่อความก้าวหน้าของเขาเองครับ

    2. พุทธบิดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ : จะมารับหน้าที่ต่อจากพ่อเกิด ท่าน
    นี้จะให้กำเนิดจิตวิญญาณใหม่แก่พระนิตยโพธิสัตว์องค์นั้น จะคอยดูแลใน
    ระหว่างที่พระนิตยโพธิสัตว์มีจิตวิญญาณที่ไม่ตรงทาง เพราะต้องเรียนรู้สิ่ง
    ที่ผิด นอกลู่นอกทางก่อน จากนั้น จึงค่อยมาทางที่ถูกภายหลัง ท่านนี้ละจะ
    ช่วย "ยกระดับจิตวิญญาณ" ของพระนิตยโพธิสัตว์นั้น อย่างของพระศรีฯ
    ก็จะมี "พ่อนก" หรือพ่อที่บำเพ็ญบารมีมาทาง "นก" ช่วยยกระดับจิตฯ ให้

    3. พุทธบิดาผู้ให้กำเนิดสถานภาพ : ท่านนี้เป็นท่านที่สาม ที่จะรับช่วงต่อ
    หลังจากที่พ่อทั้งสองท่านหมดแรงไปต่อไม่ได้แล้ว หมดภาระหน้าที่แล้วจึง
    ส่งต่อให้ท่านที่สามรับช่วงไป ท่านที่สามจะมาทำหน้าที่สร้าง "สมมุติหรือ
    สถานภาพทางสังคม" ที่เหมาะสมตามควรให้แก่พระนิตยพธิสัตว์องค์นั้น
    เช่น ของพระศรีฯ จะมี "พ่อเสือ" เป็นพ่อเลี้ยงปั้นให้เลี้ยงดูตนเองหรือทำ
    มาหาอาชีพที่เหมาะสมให้ เหมือนพ่อเสือที่สอนนกให้หากินในแบบเสือนั่น
    ละ ทำอย่างไร? เขาก็ล่าสัตว์นั่นเอง พ่อเสือจึงดุแบบซ่อนเล็บซ่อนลาย มี
    เปลือกนอกเป็น "ผู้ดี" แต่มีทั้ง "ลายและเล็บ" ครบพร้อมเล่นงานศัตรูได้
    เต็มที่ซ่อนอย่างดี ราวกับแมวเชื่องที่น่ารัก แต่เผลอไม่ได้ เสือก็คือเสือครับ


    โอเค เข้าใจชัดเจนไหมครับสำหรับตำแหน่ง "พุทธบิดา" ซึ่งทั้งสามท่าน
    นี้จะมี "รูปแบบตัวตนเปลือกนอก" ที่เป็นแบบอย่างให้พระนิตยโพธิสัตว์
    เดินตามคนละอย่าง เมื่อบวกกันแล้วทั้งสามก็จะครบตัวตนที่สมบูรณ์ได้
    ทว่า คำว่า "พุทธบิดา" ก็คือ "ต้นแบบของพระนิตยโพธิสัตว์" แต่ไม่ใช่
    ผู้ที่จะไปถึง "ที่สุดได้เอง" นะครับ ถ้าไปถึงที่สุดได้เอง ก็ไม่ใช่พุทธบิดา
    แล้ว ท่านมีหน้าที่เพียง "วางต้นแบบรากฐาน" เท่านั้น คนที่จะทำให้มัน
    ไปถึงที่สุดได้มีเพียง "พระนิตยโพธิสัตว์" เท่านั้น ที่จะมารับช่วงงานต่อ
     
  5. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ฉันเกิดมาเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ ให้พ้นจากภัยพิบัติวันสิ้นโลก
     
  6. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    อ้อ ลืมบอกไป พระนิตยโพธิสัตว์แต่ละท่านบารมีไม่เท่ากัน บางท่านเจอ
    พ่อคนเดียวก็จอดเลย ก็มี ไม่ได้พ่อถึงสามคนนะครับ อันนี้แล้วแต่ว่าใคร
    จะบำเพ็ญบารมีได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้นครับ เอาละ ต่อมาจะกล่าวถึง
    ตำแหน่ง "พุทธมารดา" กันบ้าง ซึ่งก็มีได้สูงสุด 3 ท่านเช่นกันอันได้แก่

    1. พุทธมารดาผู้ให้กำเนิดสังขาร : ไม่ยาก ก็คือ แม่เกิดนั่นแหละ อย่างใน
    พุทธประวัติแม่เกิด ก็คือ พระนางสิริมหามายา แต่แม่เลี้ยงก็คือ พระน้านาง
    ซึ่งเป็นอีกท่าน ใช่หรือไม่? นอกจากนี้ ยังมีพระแม่ธรณีที่ปรากฏขณะท่าน
    ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า นั่นก็คือ พุทธมารดาฝ่ายจิตวิญญาณนั่นเอง พอเข้า
    ใจภาพนะครับ (ครบสามแม่พอดี) ซึ่งแต่ละท่านก็ต่างกันไปตามบารมีครับ

    2. พุทธมารดาผู้ให้กำเนิดจิตวิญญาณ : นี่ก็ต่างกันไปตามบารมีอีก เช่น
    พระนิตยโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีแก่กล้าทั้งห้าธาตุ สุดท้าย จะไม่มีแม่ทาง
    จิตวิญญาณ (แม่ธาตุ) ใดธาตุหนึ่งมีกำลังพอกันแก่บารมี ไม่อาจคู่ควรได้
    แม่ธรณี, แม่คงคา, แม่วาโย, แม่เตโช ฯลฯ ก็เอาไม่อยู่แล้ว สุดท้าย ก็จะมี
    ท่านที่มีบารมีครบห้าธาตุ คือ แม่แห่งโลก หรือที่เรียกว่า "ไกอา" นั้นเองที่
    จะมาเป็น "พุทธมารดาฝ่ายจิตวิญญาณ" ให้แก่พระนิตยโพธิสัตว์องค์นั้น

    3. พุทธมารดาผู้ให้กำเนิดสถานภาพ : ปกติ จะมาในรูป "แม่เลี้ยง" ที่จะ
    คอยหนุนให้พระนิตยโพธิสัตว์ได้เสวยบุญในฐานะทางสังคมแบบใด เช่น
    จะเป็นพระราชาหรือมหาพราหมณ์ ดำรงตนในสังคมด้วยฐานะอันใด ก็จะ
    ขึ้นอยู่กับพุทธมารดาผู้ให้กำเนิดสถานภาพนี้แหละครับ เป็นคนหนุนหรือ
    แต่งตั้งให้มีตำแหน่งทางสังคมแบบต่างๆ ทว่า คนที่บำเพ็ญบารมีแบบนี้ก็
    มีหลายท่าน แต่ละท่านพร้อมมอบ "สถานภาพที่แตกต่าง" กันให้เลือกนะ
    ครับ ไม่เหมือนกันเลย เรียกว่า "มีตามบารมีที่บำเพ็ญมาต่างกัน" ไปครับ


    ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ "พระนิตยโพธิสัตว์" องค์นั้นจะเลือกอย่างไร? ก็เลือกได้
    ครับ ท่านจะเลือกเอง แต่ละท่านจะบำเพ็ญบารมีมารอไว้แล้ว รอให้เลือกนะ
    ครับ หยิบยื่นสถานภาพทางสังคมให้ท่านเลือก พอเลือกแล้วก็ลงตัวได้แม่
    แล้ว ก็จะเกิดเป็น "ทีมงาน" สามารถเดินหน้าทำกิจอันควรต่อไปได้ละครับ
     
  7. เจินฉีหลิน

    เจินฉีหลิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    แล้วเราจะรู้ได้ ไหมคะ ว่า พุทธบิดา เรา เป็นใครอะคะ
     
  8. โอม ศักติ

    โอม ศักติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +116
    ดูแลพระพุทธศาสนา
     
  9. เจินฉีหลิน

    เจินฉีหลิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    มีเหตุการณืบางอย่างทำให้ รู้สึกได้ว่า หน้าที่เราต้องป็นแบบ นี้ ต้องทำอย่างนี้ แต่ไม่ได้มีใครมาคอยบอก เลยอะคะ มีแต่เรา เองที่รู้สึกเอง และกระจ่างเอง กรณีแบบนี้ ถือว่า เป็นพระนิตยโพธิสัตว์ได่ไหมคะ ...^^
     
  10. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ต่อไปเป็นตำแหน่งที่คิดว่าหลายท่านอยากทราบมากเลยครับ คือ ตำแหน่ง
    "นางแก้ว" ครับ อนึ่ง ตำแหน่งนี้อาจมีได้มากกว่าหนึ่งคนนะครับ แล้วแต่
    บารมีของพระนิตยโพธิสัตว์อีกนั่นแหละ ถ้าบำเพ็ญบารมีมาก องค์แรกเอา
    ไม่อยู่ คุมดุลยภาพให้กันไม่ได้ ก็จะเจอท่านที่สองคอยมาช่วยคุมดุลยภาพ
    ให้ ถ้าเอาไม่อยู่อีก ก็เจอองค์ต่อไปอีก อย่างพระศรีฯ นี่ เยอะมากเลย ไม่รู้
    จะเยอะไปถึงไหน? อันนี้มันไม่เกี่ยวกับอะไรอย่างอื่นเลยนะครับ มันขึ้นอยู่
    ที่ว่าบำเพ็ญบารมีมากแค่ไหน? ทำอะไรมาบ้าง เพราะยิ่งบำเพ็ญเยอะ ทำ
    เยอะ คนๆ เดียวบำเพ็ญตามไม่ไหว ก็ต้องให้คนที่สองและสามและส่ และ
    อีกมากมาย มาทำหน้าที่ต่อครับ รองรับช่งกันต่อๆ ไป ไม่ใช่เรื่องความรัก
    หรือความจริงใจ รักเดียวใจเดียวหรือไม่? ก็ไม่ใช่ทั้งนั้น มันกำนดไม่ได้ละ
    เลือกก็ไม่ได้ มันจัดสรรตามบุญบารมีจริงๆ ห้ามกันไม่ได้เลย หึงหวงกันก็
    ไม่ได้ผล จะห้ามคนไม่ให้เสวยผลบุญบารมีร่วมกันหรือ? เป็นไปไม่ได้ครับ


    เอาละ จะบอกลักษณะของ "นางแก้ว" ก่อน จะได้เข้าใจว่าเป็นคนยังไง?
    อย่างนี้ นางแก้วจะเป็นผู้ตามที่ดี ในอดีตชาติเกิดเป็นชายที่มีความเก่งกล้า
    ในด้านต่างๆ มามากมาย ทว่า ทำกรรมมากเกินไปขณะบำเพ็ญบารมี เลย
    เอาตัสรอดจากกรรมเพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องมาเกิดเป็นหญิงและเดินตาม
    พระนิตยโพธิสัตว์ถึงจะพ้นกรรมได้ครับ ดังนั้น นางแก้ว แท้จริงแล้วจึงเก่ง
    ไม่ต่างจากผู้ชายเลยทีเดียว เรียกว่านอกจากพระนิตยโพธิสัตว์แล้ว ก็ไม่
    เป็นรองใครเลยครับ ยอมเพียงคนนี้คนเดียว ยอมเดินตาม หนุนหลังให้ ก็
    เพียงคนนี้คนเดียวครับ ส่วนการบำเพ็ญบารมีก็แทบจะเหมือนกันหมดเลย
    จริงๆ แล้วบริวารของพระนิตยโพธิสตว์จะบำเพ็ญบารมีตามท่านหมดครับ
    แต่จะได้ไม่ถึง, ไม่เต็ม, ไม่ดี, ไม่บริบูรณ์เท่าพระนิตยโพธิสัตว์ เท่านั้นเอง
    ไม่เว้นแม้แต่พุทธบิดา, พุทธมารดา, นางแก้ว ฯลฯ ทำตามกันหมดครับแต่
    ได้เท่าไรก็เท่านั้นเอง ส่วนนางแก้วนี้ได้ในแง่ผู้ตามที่ดี ผู้สนับสนุนที่ดีครับ
     
  11. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828

    อย่างแรกต้องเช็คก่อนนะครับ
    ว่าเราเข้าข่าย "นิตยโพธิสัตว์"
    หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่มีนะ
    แต่ถ้าใช่ ก็เช็คต่อไป


    อย่างบางท่านในเว็บนี้ ก็มีอยู่
    เป็นพุทธบิดาทางจิตวิญญาณ
    ไม่ทราบว่าพอดูออกกันไหม?
    แต่พ่อลูกผูกพันทางจิตใจต้อง
    ระลึก จำกันได้เองไม่ยากครับ


    เพราะถ้าจำกันไม่ได้ ก็สอบตก
    ไม่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าครับ
     
  12. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828

    นิตยโพธิสัตว์ จะมาเป็นผู้นำ
    ต้องระลึกถึงบริวารที่สำคัญได้
    หมด วางตำแหน่งได้ถูกหมด
    นะครับ นั่นคือ หน้าที่ผู้นำ ถ้า
    วางตำแหน่งเขาผิด งานรวน
    ครับ โอเค?


    ทำไม อยากเป็นกันจัง มันยากนะ
    เป็น 1 เดียวในท่ามกลางทั้งหมด
    ขนาดแม่ทัพยูซินแห่งเกาหลี ผู้
    รวบรวมสามอาณาจักรให้เป็น
    หนึ่งได้ ยังยอมสละเป็นแค่พระ
    มหาโพธิสัตว์เลย


    เพราะอะไร? มันบำเพ็ญต่อไม่ไหวไง
    (ต้องสละอะไรอีกเยอะมากๆ เลยครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 พฤษภาคม 2012
  13. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ต่อไปจะเป็นตำแหน่ง "อุปถัมภ์-อุปฐาก" ครับ เป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก
    อีกตำแหน่งทีเดียว อนึ่ง สองตำแหน่งนี้ต่างกันนะครับ "ผู้อุปถัมภ์" นั้นจะ
    สนุบสนุนการเงิน, ปัจจัยต่างๆ ให้ แต่จะไม่ลงแรง ไม่คอยดูแลใกล้ชิดนะ
    ครับ ส่วนผู้อุปฐาก จะไม่ลงเงิน, ปัจจัยให้ แต่จะลงแรง ดูแลใกล้ชิดครับ


    อีกประการ "องค์อุปฐาก" จะไม่รวย ไม่ต้องรวยครับ แต่จะมีความสามารถ
    ในตัว เช่น ความสามารถในการทำอาหาร, ดูแลเรื่องการแต่งกาย, ของใช้
    ส่วนตัวของนิตยโพธิสัตว์ ฯลฯ เป็นเหมือน "ผู้จัดการส่วนตัวของดารา" ละ
    คล้ายๆ นั้นเลย หรือบางท่านก็เกิดมาทำหน้าที่แบบนั้น บำเพ็ญแบบนั้นเลย
    หรืออาจเป็นเหมือน "เรขาฯ ส่วนตัว" ก็ได้ หรือเป็น "มหาขันที" ก็มี ตาม
    แต่ละยุคสมัยครับ ปรับไปตามเหตุปัจจัย อาชีพเหล่านี้เป็นวิถีการบำเพ็ญ
    แบบ "องค์อุปฐาก" ครับ ไม่ใช่องค์อุปถัมภ์นะครับ (เหมือนพระอานนท์)


    ส่วนองค์อุปถัมภ์ มักจะต้องเป็นเศรษฐีครับ เป็นเศรษฐีแล้วก็ไม่พอ ต้องมี
    ปัญญาดูคนออกได้ว่าควรสนับสนุนใคร? แล้วยังต้องใจดี ใจบุญ ไม่หวง
    ทรัพย์อีกด้วย เพราะถ้าขี้เหนียวคงเป็นองค์อุปถัมภ์ ไม่ได้ ใช่ไหมครับ?
    อันนี้ ก็คัดเลือกมาจากเศรษฐีมากมายนั่นแหละ คนไหนจะมีคุณสมบัติที่
    ครบพร้อมทำหน้าที่ได้ อย่างตอนนี้ ก็รวยกันเยอะแยะ แต่ขาดตรงที่ไม่มี
    ปัญญาพิจารณาดูคนที่ควรสนับสนุนได้นี่สิ บ้างก็ขี้เหนียวเกินไป อันนี้ก็
    ไม่ได้อีก สุดท้าย เบื้องบนเห็นไม่ทำงาน ไม่ทำหน้าที่ ก็เก็บความรวยคืน
    กลับแล้ว คือ ล้มละลายบ้าง, เกิดวิกฤติเศรษฐกิจบ้าง ฯลฯ เพราะไม่ทำ
    หน้าที่ หลงลืมหน้าที่ของตัวเอง หลงตัวเองว่าเก่งเกินไป อะไรแบบนั้น
     
  14. เจินฉีหลิน

    เจินฉีหลิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    คะ โอเค คะ ขอบุณมากๆคะ
     
  15. sutanon

    sutanon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,553
    ค่าพลัง:
    +170
    คุณหลิว ช่างสรรหาอะไรมาให้อ่านซะจริงๆ


    m128.gif
     
  16. เจินฉีหลิน

    เจินฉีหลิน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    ช่วงก่อนจะมีที่ปรึกษาคอยแนะนำการปฏิบัติ จนรู้สึกว่าตัวเอง พัฒนาขึ้นมาอีกระดับนึงแล้ว แต่ตอนนี้มีเหตุให้เรากับที่ปรึกษา คนนั้นต้องแยกกันคือ ไม่สามารถติดต่อและแนะนำ อะไรได้อีกเลย ทำให้หนูตอนนี้ บางทีรู้สึกเคว้งๆๆ โดดเดียวอะคะ (แต่ก็ยังปฏิบัติต่อ เนื่อง) เวลาต้องการข้อมูลหรือจิต มีคำถามก็จะรู้ขึ้นมาเอง หรือ มีเหตุให้ได้รู้ อย่างตอนนี้ก็ได้ความรู้จากเจ้าของกระทู้นี้ ตอบบางอย่างทำให้เข้าใจและกระจ่างมากขึ้น ต้องขอบคุณมากๆนะคะ
     
  17. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    ต่อไป จะเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากอีกเช่นกัน คือ ตำแหน่งอัครสาวก
    ขวา-ซ้าย ผู้เป็นเลิศทางปัญญาและอภิญญา เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เอา
    อย่างนี้ ยกตัวอย่าง พระถังซัมจั๋ง จะมี "ซัวเจ๋ง" อยู่เบื้องขวา ซึ่งจะ
    บำเพ็ญบารมีจากโง่ทึ่มที่สุด ไปเป็นคนที่มีปัญญามากที่สุดให้ได้ด้วย
    การโปรดของพระถังซัมจั๋ง และมี "ซุนหงอคง" เป็นสาวกเบื้องซ้าย
    ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ แต่มักใช้อิทธิฤทธิ์ไปผิดทางหรือไม่จำเป็น อย่าง
    นี้ พระถังซัมจั๋ง ก็ต้องโปรด ต้องคุมให้ได้ จึงจะบำเพ็ญบารมีร่วมกัน
    ไปได้ครับ ทั้งสองคนนี้ ดูไม่ยาก เพราะโดดเด่นมาก คนหนึ่งก็มากใน
    ทางฤทธิ์ คนหนึ่งก็มากในทางปัญญา แต่ระหว่างทางที่บำเพ็ญบารมี
    จะมีปัญหามากมาย ไม่ลงตัว สิ่งที่ไม่ลงตัวนั้น พระนิตยโพธิสัตว์ จะ
    ต้องดูแลและช่วยให้ค่อยๆ ลงตัวให้ได้ในที่สุด จึงจะได้เป็นอัครสาวก
    เบื้องขวาและเบื้องซ้ายที่พร้อมสมบูรณ์ได้ในชาติสุดท้าย ซึ่งกว่าจะ
    มาถึงขั้นนั้น บางชาติ ก็ฆ่ากันตายก็มี โดยเฉพาะพระนิตยโพธิสัตว์
    อาจถูกพระอัตรสาวกเบื้องซ้ายฆ่าตาย หรือพระอัครสาวกเบื้องขวา
    ใช้ปัญญาในทางที่ผิด เพื่อฆ่าหรือทำร้ายได้บ่อยๆ แต่อย่างไรเสียก็
    ต้องพยุงกันไป ไม่ทิ้งกัน ขนาดถูกทำอย่างนั้น พระนิตยโพธิสัตว์ ก็
    ยังต้องยอม ยังต้องมีเมตตา และไม่ทอดทิ้ง จึงจะไปถึงชาติสุดท้าย
    ร่วมกันได้ เรียกว่า ต้องทำให้เขายอมรับในภาวะผู้นำที่มากกว่าให้
    ได้ นั่นเอง นี่ละ ที่บอกว่าพระนิตยโพธิสัตว์ต้องเสียสละมามากมาย
     
  18. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    อนึ่ง แต่ละท่านที่ปรารถนาอะไรไว้ และได้มีพันธสัญญาอะไรร่วมกันไว้
    นั้น เมื่อได้นั่งประจำตำแหน่งชัดเจนแล้ว แต่ละท่าน ยังมี "คู่แข่ง" ที่มี
    บารมีไม่เท่ากันด้วย ดังที่กล่าวแล้วว่าพระนิตยโพธิสัตว์มีหลายตัวตน
    แต่ละตัวตนก็มีบุญบารมี ไม่เท่ากัน ผู้ที่ทำหน้าที่ขึ้นกับผู้ที่มีบารมีมาก
    ก็จะได้บารมีมากไปด้วย ผู้ที่ทำหน้าที่ขึ้นกับผู้มีบารมีน้อย ก็จะได้บารมี
    น้อยไปด้วย อันนี้ ยังไม่เห็นผลทันทีชาตินี้ ชาติหน้าได้เห็นชัดเลย บาง
    ท่านเคยมีบุญบารมีมาก อาจกลายเป็นน้อย บางท่านเคยได้บุญบารมีมา
    น้อย หมดชาตินี้ไป กลายเป็นมากได้เหมือนกัน ชาตินี้สำคัญมากเพราะ
    มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากๆ หลายอย่าง แม้แต่ตัวผู้นำเองก็เปลี่ยน
    แปลงอะไรมากมาย อนึ่ง "ความศรัทธาแน่วแน่" เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะ
    เพราะมันทำให้เราตรงต่ออะไร? ที่นำพาให้เราหลงหรือหลุดพ้นได้เลย
    ละ บางอย่างดูไม่น่าเชื่อถือ ไม่น่าศรัทธา แต่มันอาจเป็นแค่เปลือกนอก
    ในขณะที่บางอย่างดูน่าเชื่อถือ น่าศรัทธามาก แต่มันก็ไม่ใช่แก่นแท้อีก
    เช่นกัน เอาละ เราคงจะเล่าทุกตำแหน่งไม่ไหว เอาแค่พอแก้กระสายก็
    แล้วกัน วันนี้เราก็เหนื่อยละ ขอพักก่อน ขอให้ทุกท่านเลือกดีๆ ก็แล้วกัน
     
  19. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    21 พ.ค. 2555


    "เสียงจากนิรนาม"
    รับสื่อสารโดย


    瑠璃王
     
  20. อู่หยาจื่อ

    อู่หยาจื่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    4,333
    ค่าพลัง:
    +3,828
    จริงๆ ผมก็อยากทำหน้าที่อุปถัมภ์นะ
    ผมดูออกว่าใครควรได้รับการอุปถัมภ์
    และถ้าผมรวย ผมไม่หวงเงินเลย ทว่า


    ผมไม่เคยรวยเลยนะสิ 555
     

แชร์หน้านี้

Loading...