เมื่อนักปฏิบัติ มี โอปะปาติกะ มาสอนในสมาธิ

สติตามรู้นี่นะ ธรรมชาติมันต้องมีความเคลื่อนของจิตที่ไปรู้...ไอ่ความเคลื่อนไปรู้นี่หละ เขาเรียกว่า ตั้งใจตามรู้ ....คือ สติตามรู้ตามดู....

ไม่ตั้งใจตามรู้มันเป็นแบบใหน...จะให้สติเกิดโดยไม่รู้ตัวหรือ...ไม่มีในโลกหละ....

เฮ้อ.....ขอหน่ายตามคุณอีกคนแล้วกัน.....

 

ผมถึง ให้คุณอ่านคำเทศน์ดีดีไง

 

นี่ที่ผมคาดไว้นะ...ครูบาอาจารย์ที่ตอบแล้วเข้าได้กับทิฏฐิเขา ก็มีหลวงพ่อพุธ กับ หลวงปู่ดูลย์ เท่านั้นหละ....เดี๋ยวมันจับหลวงพ่อพุธ ไม่ได้ เขาก็จะไปจับหลวงปู่ดูลย์ แทน...แล้วก็ยกย่องเอาแต่ธรรมของครูบาอาจารย์ในข้อที่เข้ากับทิฏฐิเขามาโปรโมทกันใหญ่ แต่พอที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวถึงและไม่ตรงกับทิฏฐิเขา เขาก็จะเงียบ ปกปิด ....พอหาเจอคำครูบาอาจารย์ที่เขาหามา....เขาก็จะบอกว่า ผมไม่เคยแย้งอะไรเลยนะ....ผมเห็นด้วย....คนอย่างนี้มีความดีพิเศษนะ....หาที่สุดไม่ได้จริงๆความดีชนิดนี้..

คิดไม่ทันไรนะ...โผล่หลวงปู่ดูลย์มาแล้ว.....ว่าไงหละ.....นี่นะน่าจะตัดบทกัน เอาข้อมูลประวัติพระอาจารย์มั่น ที่หลวงตามหาบัวท่านเขียนมาลง.....แล้วก็เอาหลวงปู่ชอบ ที่ท่านมีความถนัดเรื่องนี้มาก ในสายหลวงปู่มั่นมาลง และก็อีกมากมายเช่นหลวงปู่ขาว อีก.....ดูสิว่าจะออกทางใหนกัน....

 

ถามจริง เคยฟังหลวงปู่พุธ ด้วยความตั้งใจ บ้างไหม

หรือโพสแต่ละโพสเพื่อความสะใจ

 

ว่าแต่เขา ตัวเองไปฟังหลวงพ่อพุธด้วยความตั้งใจเถอะ....ฟังหนะ ฟังให้มันหลากหลาย อย่าไปเลือกฟังแต่ที่ตัวเองชอบ....หลวงพ่อท่านกล่าวอะไรไว้ที่ใหนจะได้รู้บ้าง..แล้วก็พยายามทำความเข้าใจให้มันทำได้...ได้ฟังแล้วในหมวดธรรมที่ไม่ตรงทิฏฐิตนก็ไม่ใช่ทำเป็นตากระทู้หูกะทะ เดี๋ยวกรรมมันจะส่งผลให้หูหนวก ตาบอด

 

คุณ ภาณุเดช ฟังต่อไปอีกหน่อยหรือเปล่า ที่เอาคำเทศนนาหลวงพ่อพุธ
มากล่าวครึ่งๆกลางๆ เพื่อสนับสนุนตนนั้นหนะ ฟังต่อไปอีกหน่อยหรือเปล่า

หลวงพ่อพุธท่านว่า มันเป็นไปได้ เรื่องผี พระท่านก็พูดว่า มันเป็นไปได้

แล้วจึงบอกว่า เรื่องผี เรื่องตายแล้วฟื้น โดยผู้ตายเอาเรื่องที่จำได้มาเล่า
เล่าเหมือนกับ พวกฝึกแบบพระ...... นั้นเหมือนกัน!! เหมือนกันหมดตรง
ที่มันเป็นไปได้

และ หลังจากกล่าวว่าเป็นไปได้ พระท่านไม่ได้หยุดแค่นั้น พระท่านสอนต่อ
ว่า หากทำสมาธิให้ดีกว่านั้น !! เน้นนะว่า ดีกว่านั้น นิมิตจะหายหมด !!

เมื่อนิมิตหายหมด จึงเป็นสมาธิที่ใช้ได้

แต่ถ้ายังมีนิมิตต่ออีก พระท่านให้นิมิตเข้ามาที่ร่างกาย เกษา โลมา นัขขะ ทันตา ตะโจ

นี่เห็นไหม เริ่มวกกลับเข้ามาเรื่อง สมาธิในพุทธศาสนาเอาตรงนี้ ต้องแนบแน่นจนนิมิต
หายไปหมดก่อนนะ พระท่านถึงบอกว่า "พึ่งเริ่ม" พอเริ่มแล้วก็ภาวนาไปแบบนั้น แต่
ถ้ายังติดนิมิตอีกก็ให้ เอา กาย มาช่วย เพื่อผูกจิตไว้กับสมาธิที่ถูกต้อง แล้วภาวนาต่อไป
เรื่อยๆ

ดังนั้นไปฟังต่อเอา แล้วอย่าเอามากล่าวครึ่งๆ กลาง เพียงเพราะ มีคำว่า "มันเป็นไปได้"

เพราะ พระท่านใช้คำว่า มันเป็นไปได้ นี้คือ เรื่องโลกๆเขาเป็นกัน เห็นผี โดนผีตบหน้า เห็น
สวรรคิ์ เห็นนรก เห็นอะไรต่อมิอะไร มันเรื่อง สมาธิชาวบ้าน!! คนตายแล้วฟื้นก็เอามาเล่า
ได้เหมือนกัน จึงเทียบว่า เป็นเรื่อง ชาวบ้านๆ เรื่องบ้านๆ สมาธิบ้านๆ ประสบการณ์บ้านๆ

 

เอกวีร์ อย่าโง่ ไปฟังซะก่อน....ไปฟังให้หมดสิ....นี่มีให้โหลดนะ....

เบื่อไอ่พวกแก้งชงชา ชงกันเข้าไป....

 

อนุโมทนาหลวงพ่อพุทธท่านกล่าวไว้ยาวจริงๆ เคยฟังจนจบเอามาแบบครึ่งๆ

กลางก็จะเข้าใจแบบภานุเดชนั้น ฟังจากเทปท่าน เองเลยท่านกล่าวยาวมาก

 

อวตารกันเข้าไปนะ....เดี๋ยวพากันเอามาหลายๆชื่อ มันดูหลายๆคนดี....

มีอะไรจะชงอีกไม.....

ท้าให้ฟังเลยนะ...รีบๆไปฟังกันให้มาก....ฟังแล้วฟังกันให้จบนะ......มันจะได้รู้....ชอบนักพวกชอบพิสูจน์นี่....รีบฟัง อันนี้ท้าเลย....

 

จะอธิบายให้ฟัง คำว่า แก๊ง ชงชา

เดิมที เริ่มจาก นาย ขันธ์ ตั้งชื่อคนที่ไม่ลงรอยในธรรมตน

มีวิษณุ
มีเอกวีร์
มีเคขวัญ
มีหลบภัย

ว่าเป็นแก๊งชงชา ทั้งๆที่เอ่ยชื่อมานั้น ไม่เคยรูจักพบเจอกัน
แต่นายขันธ์ จับมารวมตั้งชื่อให้

และก็เป็นกรรมพ่วงให้คนไม่รู้ เข้าใจอย่างนั้นไปอีก
โดย คุณภานุเดช ก็เอามายกทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้เรื่องอะไร

 

อ่าวนี่ประธานแก๊งไง....นี่นะ ยกย่อง ขันธ์ เขานะ....ตั้งชื่อได้ถูกเลย จริงๆไม่ใช่ลงรอยธรรมของขันธ์เท่านั้น ไม่ลงทั้งของพระพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์สายพระป่า มีหลวงตามหาบัวเป็นต้นหละ.......ไม่พบกันเหรอ พากันไปต้องบอร์ดห้องสนทนานู่น...พบไม่พบผมจะรู้เหรอ....ต่อให้คนเดียวกัน ทำเป็นผู้หญิงบ้าง พูดเป็นผู้ชายบ้าง...อะไรต่อมิอะไรบ้าง ผมจะรู้ไม....

แต่ก่อนนี่เรื่องหลวงพ่อปราโมทย์นะ....ทุกวันนี้จุดมุ่งหมายเดิมไม่เปลี่ยนนะ....ทิฏฐินี่มันคลายกันยากจริงๆ...

 

คนเค้าคิดดีได้อ่านได้ฟังก็ทำความเข้าใจ

คนที่คิดชั่ว มันก็อ้างไปร้อยแปด มันก็แค่นั้น

 

อืม...พ่อเจ้าประคุณทูลหัว....นี่นะ...อย่าลืมฟัง...แค่นี่หละ ไม่พูดอะไรมาก...เบื่อ....

อะไรที่มันติดในใจหนะ คลายซะมันจะเป็นบาปเป็นกรรม...

 

ไม่ต้องห่วงหรอก ไฟล์ที่คุณยกมา เดี๋ยวจะถอดมาให้อ่าน
แล้วมีอีกไฟล์ ท่านพูดเยอะกว่านั้น จะถอดมาให้อ่าน


สำหรับใครที่จะอวตาร ไม่รู้จริงอย่าพูดเลย บาปกรรมเปล่า

แต่ตอนนี้ไปทำงานก่อน

 

เออดี...เอามานะผมจะตรวจ..เอามาดูสิ เอามาเทียบกันสิ....จะดูสิ มันจะออกหัวออกก้อย ผมนี่ไม่กลัวเลยนะ...มาดูกัน....

เชิญตามสบาย.....

 

วันนี้, 10:13 AM #52
ปราบเทวดา
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2009
ข้อความ: 1,911
พลังการให้คะแนน: 301

อ้างอิง:
เอกวีร์ อย่าโง่ ไปฟังซะก่อน....ไปฟังให้หมดสิ....นี่มีให้โหลดนะ....

เบื่อไอ่พวกแก้งชงชา ชงกันเข้าไป....
จะอธิบายให้ฟัง คำว่า แก๊ง ชงชา

เดิมที เริ่มจาก นาย ขันธ์ ตั้งชื่อคนที่ไม่ลงรอยในธรรมตน

มีวิษณุ
มีเอกวีร์
มีเคขวัญ
มีหลบภัย

ว่าเป็นแก๊งชงชา ทั้งๆที่เอ่ยชื่อมานั้น ไม่เคยรูจักพบเจอกัน
แต่นายขันธ์ จับมารวมตั้งชื่อให้

__________________


อนิจจา หนอ ชง ชิม แล้วก็ชูกันเอง

 

^-^

นี่ผมบอกแล้วนะ....แล้วจะบอกตรงนี้อีกครั้งว่า.....ทุกวันนี้ไม่เคยสนใจว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อผม.....และสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือคุณพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง....ผมอยู่ที่นี่มานาน รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ เห็นในสิ่งที่คนอื่นยังไม่ได้เห็นอีกมาก....แต่ผมก็ไม่เคยสนใจว่าใครจะเชื่อไม่เชื่อผม จะยกย่อง จะสรรเสริญ หรือจะนินทา จะด่าผม....เพราะผมมาที่นี่ไม่เคยหวังรู้จักใคร และไม่ปรารถนาที่จะรู้จักใครเป็นการส่วนตัว....

บอกอีกครับ....ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน....คุณดูเองก็ได้ สังคมบอร์ดอภิญญานี่นะ มีไม่กี่คนหลอก แต่ละคนไม่รู้กี่ชื่อ แต่ต่อให้เปลี่ยนไม่รู้กี่ชื่อก็รู้ได้...เรื่องนี้อยู่ไปนานๆก็จะรู้....คุณดูเองเลยก็ได้ ถ้าสนใจ ไม่สำคัญว่าต้องเชื่อผม....

 

พวกเพี่ยนๆทั้งนั้น

พิสูจน์นิมิตแท้ ไม่ไม่ใช่นิมิตหลอก


นิมิตว่า จะมีคนใส่เสื้อสีขาว มาหาเราในวันรุ่งขึ้น

ต้องรอดู ว่าเป็นจริงป่าว ถ้ามาจริง แสดงว่านิมิตนั้นจริงไม่หลอก

ให้สังเกตว่า เราวางกำลังสมาธิแบบไหน

นิมิต มีทั้งลวงและหลอก ไห้หมั่นสังเกตนิมิต

นิมิต ถ้าได้จากสมาธิ จะเป็นเรืองของ ทิพย์จักขุญาณ

ถ้าได้ญาณโลกีย์ โอกาสพลาดมีสูง

โลกุตะระญาณ พลาดยาก