เวรกรรมมีจริง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 20 มีนาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    นาอินจังไม่ปฏิเสธกรรมที่เตะแมว กรรมก็รับ กรรมนั้นว่าอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  2. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่ได้คิดต่อ รับก็รับ ภาวนาต่อไป มีไรอีก
     
  3. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    นาอินจัง คิดว่า กรรมอะไรที่รับมาจากการเตะแมวหรือ
    ขออีกทีนะ
     
  4. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่ได้ไปโทษกรรม แต่เราไม่ทันอารมณ์ยินดียินร้าย ของเราตะหากล่ะ
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังหนุกๆ
    เรื่องของหน่อไม้ มันชอบแทงหน่อเมื่อถึงเวลาเหตุปัจจัยเหมาะแก่การเกิด มันก็เกิด

    คนอื่นเป็นหรือป่าวไม่รู้นะ แต่ของ เค เป็นแบบนี้

    ช่วงที่ฝึกดูจิต-ดูกายใหม่ๆ มาจดจ่อที่รู้กายรู้ใจตัวเอง พอทำได้ระยะหนึ่ง

    มันก็เกิดเป็นจิตสงบ พอจิตสงบ มันก็เห็นความคิดเกิดดับยุบยับไปหมด

    สัญญาเก่าที่จำไว้สมัยไหนๆ มันไหลออกมาเป็นน้ำพุ ไม่ซ้ำกันเลยนะ

    วันนี้เรื่องนี้ อีกวันก็เรื่องโน้น ส่วนใหญ่เป็นวีรกรรมวีรเวร ที่เราทำผิดศีลน่ะ

    เช่นกำจัดหนู พูดเพ้อเจ้อ แกล้งคนอื่น หนีแม่เที่ยวเทคฯกินเหล้า ทำร้ายจิตใจคนอื่น

    ยังกะฉายหนังย้อนยุคดูวีรกรรมที่ไม่ดีของตัวเอง มาย้ำคิดย้ำทำ ทำร้ายตัวเองทุกวัน

    ตอนแรกๆ ก็เป็นทุกข์นะ เห็นความเลวร้ายของตัวเอง ว่า เธอว์ช่างทำไปได้ นะเนี่ย

    พอทุกข์ไปซักพัก ก็เริ่มปล่อยวางเป็น (ถ้าปล่อยไม่เป็นคงได้เฉาตายพอดี)

    ก็เห็นเป็นเรื่องปกติไป ความคิดมันเกิดได้ดับได้เปลี่ยนเรื่องไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ยึดให้หนักตัวเอง

    ยอมรับความจริงของตัวเองว่าเราทำอะไรลงไปบ้าง ก็พิจารณาเป็นธัมวิจัย ไป

    พอเรารู้ตัวว่าเป็นทุกข์เพราะเรื่องของสัญญาในอดีตของตัวเราเอง ความคิดที่มันไหลเป็นน้ำพุมันก็หยุด

    ความรู้ที่ได้มาคือ ทุกสิ่งที่เราทำไม่ว่าเราจะจำมันได้หรือไม่ก็ตาม มันก็ฝังเป็นสัญญาอยู่ใน

    จิตใจเรา เหมือนตะกอนที่รอวันฟุ้งขึ้นมา พอมันฟุ้งมาก็ทำให้เราเป็นทุกข์ใจได้ ถ้าเราขาดสติ

    พอจิตมันมีสติ มันก็หยุดคิด เพราะจิตมันรู้ว่าความคิดมันย้อนมาทำร้ายตัวเองได้

    สิ่งใดที่ทำแล้วเป็นทุกข์ ถ้าจิตมันรู้มันก็เลิกทำไปเอง เหมือนๆกับว่า ถ้าจิตมันคุณรู้โทษ

    ในเรื่องไหน มันก็จัดการให้ถูกที่ถูกทางได้เอง ขอเพียงให้จิตมันได้รู้ตามจริงเท่านั้น

    ถ้าจิตไม่ได้รู้ตามจริง โดนตัดตอนซะก่อนมันก็ไม่รู้อะไรเลย พอไม่รู้มันก็ทำซ้ำๆย้ำๆ

    ในสิ่งเดิมๆ เพราะจิตมันไม่รู้คุณและโทษในสิ่งที่ทำ

    เหมือนทิฏฐิของคน ถ้าใครไม่เคยเห็นทิฏฐิของตน ไม่เคยรู้จักทิฏฐิแห่งตน

    เขาก็ไม่รู้คุณโทษของทิฏฐิตนเอง มีแต่ทำไปตามทิฏฐิตนไปเรื่อยๆ ตามที่เห็นว่าถูกแล้ว

    เพราะไม่เห็นว่าทิฏฐิมันทำงานอยู่ จึงไม่รู้ว่าตนมีทิฏฐิอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  6. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ทันอารมณ์ยินดียินร้าย
    นี่หมายความไม่สนใจกรรมที่เตะแมว ใช่หรือเปล่าจ๊ะ
     
  7. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    พูดไม่รู้เรื่องแล้ว ป้า ไปทำงานเยอะ หนูบอกไปหมดทั้งแต่แรกๆ แล้ว
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ขอโทษนะ ในฐานะ ที่ครูคนเดียวกัน ตรงนี้ย่อมสามารถ
    แจกแจงได้ว่า รู้ไม่ถึงฐาน

    ทำไม่รู้ไม่ถึงฐาน เพราะ ไปรู้ที่เรื่องราว รู้เป็นเรื่องเป็นเราว ความเรื่อง
    ราวเช่นนั้นเช่นนี้ดับ เห็นเรื่องราวเรื่องนั้นเรื่องนี้แปรเปลียนไป อันนี้ล้วน
    เรียกว่า ไปรู้อยู่ที่เรื่อง

    แล้ว รู้อยู่ที่ "ความคิด" คือสภาวะไหน มันก็ต้องอาศัย จิตที่ก่อนหน้า
    นั้นมันปรกติสุข มีความสงบ มีความสงัด ก่อนที่มันจะไหลไปคิด ตอน
    ที่ จิตไหลไปคิด นั่นแหละ ให้รู้สภาวะจิตมันไหลออกไปคิด เรื่องอะไร
    ช่างมัน หากรู้เป็นเรื่องเป็นราวก็ถือว่า ฝึกไม่ถูก แต่ ถ้าเอา สภาวะที่
    จิตเสียความ สงบ สงัด ไหลออกไปสู่ สภาวะคิด

    ตรงนี้ต่างหากที่ให้ดูบ่อยๆ เป็น การรู้สภาวะธรรม ตามแบบที่หลวงพ่อสอน

    ส่วนการรู้เป็นเรื่องเป็นราว อันนั้น ใครก็สอนได้ ยิ่งนักอภิธรรมสมัยใหม่ยิ่ง
    ชูคอว่าการรู้เรื่องราวความคิด เป็นเรื่องเข้าใจธรรม ที่จะนำไปสู้มรรคผลได้
    นั่นตอนนนี้ เขาเริ่มแผลงฤทธิ์มากขึ้น

    เมื่อรู้ว่า สภาวะคิด ที่ให้ดู คือ จังหวะไหลออก ดูตรงนี้ ก็จะเข้าใจคำว่า
    ดับความคิด ก็คือ ไม่ไปรู้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่เอาการรู้แบบเรื่องราว ก็แค่
    นี้เองที่เรียกว่า ดับความคิด

    แล้วต้องอาศัยคิดคืออะไร ก็ปล่อยจิตมันคิดไป ไม่ห้าม ไม่แทรกแซง เพราะ
    เราอาศัยจังหวะสั้นๆ ตอนมันเริ่มไหลไปคิด ตรงนั้นต่างหากที่เป็นสภาวะธรรม
    ที่พ้นอำนาจบังคับบัญชา จึงอาศัย ดููสภาวธรรมไหลไปคิด เพื่อเอามาฝึกจิต

    ก็จะทำให้ พ้นการนึกคิดเอาเรื่องเอาราวมายกยอตัวเองว่า ภาวนาถูกต้องออก
    ไปได้

    เมื่อดู สภาวะคิด ไหลไปคิด ได้บ่อยๆ ก็จะค่อยรู้วิธี การเจริญสติ

    พอรู้สิธีการเจริญสติ คราวนี้ไม่เลือกอารมณ์ คือ ไม่ดูแค่สภาวะไหลไปคิด
    เราจะ เอาอะไรก็ได้ แทนสภาวะไหลไปคิด เพื่อยกขึ้นสู่ การรู้ จิตไหล
    ไปสู่ รูป กับ นาม

    พอยกจิตมาดู การไหลไปสู่ รูป กับ นาม ได้ คราวนี้ ถึงจะพูดว่า
    มีวิปัสสนาญาณ 1
     
  9. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ตกลง ว่าเวรกรรมมีจริง แต่ไม่ต้องไปสนใจ
    ไม่ปฏิเสธ แต่ให้ภาวนาต่อไป ใช่เปล่าจ๊ะ
     
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    สาธุจ๊ะ เค
    การเห็นตัวเอง มีแต่คนพูดเห็นตัวเอง
    แต่การเห็นตัวเองจริงจะแก้ไขได้ และมีการพัฒนาอย่างยิ่ง
    แต่การพัฒนานั้น ก็เป็นไปตามจริต คนอื่นไม่รู้เห็นก็ได้ แต่เราเห็นเองแน่นอน
     
  11. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ไม่ตอบหรอกจ๊ะ เพราะไม่เคยคิดจะไปตัดกรรม
    อะไรเข้ามาก็รู้ไปแค่นั้นเอง ไม่มีอะไร ต้องทำไปมากกว่านี้
    แค่ รู้ รู้ไป นี่เข้าใจว่า นาอินจัง ปฏิเสธกรรมเหรอ ป๊าด
    เอ ตอบไปเยอะนี่นา อีกแระ -8-
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สภาวะ ที่จิตไหลไปคิดนั้น เป็น สภาวะธรรมที่พ้นการกำหนด การเจตนา
    ตรงนี้ จึงเป็น สภาวะที่ใครก็ช่วยดูให้ไม่ได้ ต้องดุของใครของมัน

    ส่วน รู้ที่เป็นเรื่องเป็นราว อันนี้ หากเราพูด หรือ เขาสืบประวัติ หรือ
    เขาตามดูเราตลอด แบบนี้ เขาย่อม พิสูจน์ทราบได้ ว่า ชีวะประวัติ
    ของคนๆหนึ่ง ไปทำอะไรไว้บ้าง คนธรรมดาเห็นไม่ได้ ผีสางเทวดา
    ทั่วไปเขาก็เห็น

    ดังนั้น

    ต้อง ใคร่ครวญให้ดีว่า สภาวะตรงไหน ที่ คนไหน หน้าไหน ก็ช่วย
    เราดูไม่ได้ คนที่มีเจโตปริญาณก็ดูตรงนี้ไม่ได้ เขาก็อาศัย ความคิด
    ที่เริ่มก่อตัวเป็นเรื่องราว หม่นหมอง หรือ สดใส เป็นตัวช่วยระบุว่า
    "จิตกำลังไหลไปคิด"

    ลองไตร่ตรองพิจารณาดู
     
  13. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ที่นี่มีใครจะไปตัดกรรมหรือ

    คนเชื่อเรื่องกรรม ย่อมระวังในการสร้างกรรม

    ถ้ามีสติรู้ จริง ย่อมเห็นว่า จิตกุศลหรืออกุศล ย่อมระวังเรื่องไม่สร้างอกุศล และสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น นี่เป็นผลของการมีสติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2012
  14. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    การเจริญสติ หากทำต่อเนื่อง ย่อมให้เกิดสัมมาสมาธิ สติเป็นเหตุให้เกิดปัญญาตามรู้เข้าใจในสิ่งที่ระลึกรู้ได้
    เป็นสัมมาสาธิ ที่รู้กัมมัสสกตาปัญญา ปัญญาในการเข้าใจเรื่องกรรม
    และที่ยิ่งกว่านั้น เป็นวิปัสสนาปัญญา ปัญญาในการเห็นเหตุปัจจัยของรูปนาม และการดับเหตุปัจจัยของรูปนาม

     
  15. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ผมว่า จริงๆ บางทีก็คิดนะ โดนสะกิดเข้าไป ก็หงายหลังได้ จึงต้องโยนิโส อย่างแยบคาย ตรงนี้กระมังที่กล่าวว่า ไม่ประมาท แม้จะภาวนาอยู่ก็ตาม (สังวร สำรวม ระวัง)คำว่ามีไรอีก มันมีแน่ๆ มีแล้วไม่มี

    กำลังพิจารณาในส่วนของ สมาธิภาวนา ตะหงิดให้ระวังเรื่องสุญญตา ให้มาก จะโดนหลอกว่าภาวนาอยู่ ในคำเก่าๆที่เคยใช้ผ่านมา คงต้องใช้ยาที่ ให้เห็นความไม่เที่ยงไว้ แปรปรวน น่าจะฉวยตรงนี้ไว้ก่อน มันมาเนียนๆ
     
  16. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    หากมีสติ ไม่มีคำว่าประมาทหรอก สติจริงๆ ไม่ใช่ที่เราคิดเอง
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เจ่ปุณฑ์ เขาไม่ได้บอกให้ตัดกรรม นินา

    เขาบอกแค่ ทำกรรมอะไรไป ให้รู้ว่าทำอะไรไป

    และถ้ายอมรับความจริงได้ เวลาวิบากกรรมมันส่งผล ก็จะไม่ทุกข์ร้อนโวยวาย

    ไม่โทษใคร ไม่โทษฟ้า ไม่โทษดิน มีแต่รู้สำนึกผิด แล้วก็ทำกรรมให้ดีในปัจจุบัน

    อดีตที่ทำไม่ดี เป็นกรรมไปแล้ว ก็เป็นบทเรียนสอนใจ

    คนที่รู้จริง ก็จะไม่ทำกรรมเดิมๆ ที่รู้ว่าเป็นโทษ

    แต่ถ้ายังไม่รู้ ก็จะทำกรรมเดิมต่อไปเรื่อยๆ เพราะคนไม่รู้มันทำ

    คนรู้มันถึงเลิกทำกรรมนั้นได้
     
  18. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ๑. หลวงปู่ชาตอบปัญหา แก่พระสุญโญภิกขุ
    ถาม : ผมยังคงมีความนึกคิดต่างๆมากมาย จิตของผมฟุ้งซ่านมากทั้งๆที่ผมพยายามจะมีสติอยู่

    ตอบ : อย่าวิตกในเรื่องนี้เลยพยายามรักษาจิตของท่านให้อยู่กับปัจจุบัน เมื่อเกิดรู้สึกอะไรขึ้นมาภายในจิตก็ตามจงเฝ้าดูมัน และปล่อยวางอย่าแม้แต่หวังที่จะไม่ให้มีความนึกคิดเกิดขึ้นเลย แล้วจิตก็จะลุถึงสภาวะปกติตามธรรมชาติของมันไม่มีการแบ่งแยกระหว่างความดีและความชั่ว ร้อนและหนาว เร็วหรือช้า ไม่มีเราไม่มีเขาไม่มีตัวฉันของฉัน อะไร ๆ ก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น

    เมื่อท่านเดินบิณฑบาตไม่จำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษเพียงแต่เดิน และเห็นตามที่เป็นอยู่ ไม่จำเป็นต้องยึดมั่นอยู่ในการแยกตนไปอยู่ตามลำพัง หรือกักขังตนเอง

    ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใด จงรู้จักตัวเองด้วยการปฏิบัติตนเป็นปกติตามธรรมชาติ และเฝ้าดูเมื่อเกิดสงสัยจงเฝ้าดูมันเกิดขึ้น และดับไป มันก็ง่าย ๆ อย่ายึดมั่นกับสิ่งใดทั้งสิ้น เหมือนกับว่าท่านกำลังเดินไปตามถนน บางขณะท่านจะพบสิ่งกีดขวางทางอยู่เมื่อท่านเกิดกิเลส

    เรื่องเศร้าหมองจงรู้ทันมันและเอาชนะมันโดยปล่อยให้ผ่านไปเลยอย่าไปคำนึงถึงสิ่งกีดขวาง ที่ท่านได้ผ่านมาแล้ว อย่าวิตกกับสิ่งที่ยังไม่ได้พบจงอยู่กับปัจจุบัน อย่าสนใจกับระยะทางของถนน หรือจุดหมายปลายทางทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าท่านผ่านอะไรไปอย่าไปยึดมั่นไว้ ในที่สุดจิตจะบรรลุถึงความสมดุลตามธรรมชาติของจิตและเมื่อนั้นการปฏิบัติก็จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นและดับไปในตัวของมันเอง
     
  19. นาอินจัง

    นาอินจัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +36
    ฟังหลวงปู่ชามานานแระ แต่ไม่รู้เป็นพระ เพิ่งมารู้เมื่อไม่กี้ปี นี้เอง
    แต่ทำตาม มานานเหมือนกันนะ
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เบียดเบียนแมว ^^
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...