พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

ไม่เคยนับเลยครับ น่าจะเป็นพันองค์ครับ

 

แต่บางหลวงพ่อผมไม่มีสักองค์เลยครับ เช่น หลวงปู่หมุน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ชื้น(มีอยู่ 1 องค์) สายใต้ผมไม่มีเลยยกเว้นหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้

 

ค่ะ...พี่ผู้ชายคนนี้สักยันต์เต็มหลังนะคะ...ตรงกลางมียันต์เกราะเพชรด้วย....

อนุโมทนาบุญค่ะ...

 

ผมมีหลวงพ่อต่างๆ อย่างละองค์ 2 องค์ มีไว้แล้วศึกษาประวัติท่านนะครับ ว่าแต่ละองค์เป็นมาอย่างไร เก่งไหม?
ที่เก็บเยอะๆหลายองค์หน่อยก็มีหลวงปู่หงษ์ หลวงพ่อพุธ อันนี้เราเป็นศิษย์นับถือท่านไปกราบท่านมาหลายครั้ง
ส่วนหลวงปู่หมุนนี่เรามีประสบการณ์
บางหลวงพ่อเราสามารถสัมผัสได้ว่ามีพลังบางอย่าง ไม่ทราบว่าเป็นอุปาทานหรือเปล่า ก็เลยตามเก็บเช่นครูบา.....ทางเหนือ
แต่เป็นพระไม่ค่อยดังหรอกครับ ผมชอบ ไม่มีราคาดี
เพราะสะสมไม่ค่อยได้คิดเรื่องราคามาก่อน ว่าจะขายได้ไม่ได้ คิดแต่ว่าชอบ นับถือท่าน ก็สะสม

 

ดีครับ ผมก็สะสมไม่ได้คิดเรื่องพุทธพาณิชย์ครับ

บางหลวงพ่อผมชอบก็จะสะสมไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆท่านก็มรณภาพ จบ.. เปลี่ยนหลวงพ่อรูปอื่นต่อ

พระเหรียญบางองค์ของพ่อผม ผมไม่รู้จักแต่เห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว พ่อผมเขาบ่นว่าพระเขาหายไปเยอะ สมัยก่อนใครขึ้นไปบนบ้านก็หยิบไป 1 องค์ 2 องค์

ปากน้ำรุ่น 1 โอภาสีรุ่น 1 ตะกรุด หายโดนขโมย

 

สวัสดีครับ......

 

ยันต์
สักกลางหลัง
พุทธคุณและพลานุภาพ

ท่านว่ายันต์นี้สามารถสักลงบนเสื้อหรือสักยันต์ลงกลางหลังย่อมได้ สองประการ ด้วยเป็นยันต์ที่วิเศษล้ำเลิศประเสริฐนัก ผู้ใดมีไว้บูชาจักแค้วคลาดภัยทั้งปวง
ผู้ที่มียันต์นี้ทั้งที่ประจุไว้บนหลังเสื้อที่สวมใส่ และผู้ที่มีสักยันต์ไว้กลางหลัง ต่างได้รับประสบการณ์และประจักษ์แก่สายตามาแล้ว สามารถการันตีและพิสูจน์ว่าเป็นของจริง มีความศักดิ์สิทธิ์และขลังไม่แพ้พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังใดๆ

รายแรกชื่อหนุ่ม พร้อม (นามสมมติ) อายุย่างเข้าสู่วัยเบญจเพส 25 ปี เป็นชาวโคราชบ้านเอ็งได้เล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟังว่า

ผู้ใหญ่ทักว่าวัยเบญจเพสนี้ดวงไม่ดีให้ระวังตัวด้วย จักพบเหตุเภทภัยเลือดตกยางออก ไม่ควรจะเดินทางไปไหนมาไหน ควรจะอยู่กับบ้านเป็นดีนักแต่คนหนุ่มวัยนี้มันเลือดร้อน
ใครจะทักใครจะห้ามคงจะรั้งไม่อยู่แน่ เหมือนคนร้อนวิชาของขึ้นไม่มีผิด อารมณ์หงุดหงิดใจร้อนอยากจะออกจากบ้านไปข้างนอก เหมือนจะมีผีอะไรสักตนมาสิ่งร่างบังคับให้ไปมีเรือง มันเป็นมารจริงๆ ที่แฝงมาไม่รู้ตัว แล้วเขาก็แพ้มารวันๆ อยู่บ้านไม่ติดเหมือนชีพจรลงเท้า

แต่ทุกครั้งที่เขาไปจะสวมใส่เสื้อลงยันต์ ซึ่งได้มาจากเกจิอาจารย์ท่านหนึ่ง ใช่ว่าจะได้เสื้อตัวนี้มาฟรี เขาต้องซื้อด้วยเงินร้อยกว่าบาทถึงได้มาใส่ ที่ซื้อเสื้อยันต์ตัวนี้เห็นจะจะด้วยตามาแล้ว อาจารย์เจ้าของเสื้อยันต์ให้ลูกศิษย์อีกคนใส่เสื้อยันต์ แล้วตัวของอาจารย์คว้ามีดาบยาวสองศอกเศษ เพิ่งจะลับหินมาหยกๆ ดาบคมกริบเห็นแล้วใครๆ ก็เสียวสันหลังวูบ

อาจารย์เอามือลูบหลังลูกศิษย์คนนั้น 9 ครั้ง พร้อมกับเป่าพระคาถาคมดาบเล่มนั้นไม่ระคายผิวลูกศิษย์คนที่สวมใส่เสื้อลงยันต์ตัวนั้น แต่ยังไม่มีใครเชื่อสายตา ลูกศิษย์คนนั้นถอดเสื้อตัวนั้นออกแล้วหันหลังให้ทุกคนดูกันจะจะว่า แผ่นหลังมีเพียงแต่รอยฟกช้ำเป็นทางยาวตามรอยมีดดาบเล่มนั้นฟันหลายแห่ง แต่ไม่มีบาดแผลฉกรรจ์ปรากฎให้เลือดไหล เขาเห็นปาฎิหาริย์ของเสื้อตัวนั้น จึงได้ขอบูชาเสื้อจากอาจารย์มา ก่อนอาจารย์จะมอบให้ลูกศิษย์เสื้อทุกตัวที่ลงยันต์มาแล้วจะต้องปลุกเสกคาถาอีก ถึงจะมอบเสื้อแต่ละตัวให้ลูกศิษย์

 

สวัสดีครับ คิดว่าคุณนอร์ไปข้างนอก ผมนั่งทำภาษีเมื่อคืนดึกมากทำถึงตี 2 กว่า ๆ มัวแต่โม้มาก วันนี้ยังนั่งทำอยู่ ยังไม่เสร็จเลยครับ ติดคุยมากกว่าทำอีก

 

วันนี้ลาค่ะ....:d...

ต่อค่ะ.....
ตั้งแต่ได้เสื้อลงยันต์ตัวนั้นมาสวมใส่ เขาไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลย ใจก็อยากจะพิสูจน์อีกครั้งว่าเสื้อจะขลังเหมือนที่อาจารย์ใช้ ดาบฟันศิษย์รุ่นพี่คนนั้นหรือเปล่า แต่เขาไม่มีโอกาสได้พิสูจน์เลยสักครั้งเดียว เหมือนดวงเขาจะรอดเจ็บด้วยหรือก็ไม่รู้

หนุ่มพร้อมกล่าวว่า วันนั้นใส่เสื้อตัวนั้นโดยมีเสื้อแขนยาวอีกตัวสวมทับ เขาไปต่างถิ่นโดยเกาะรถสองแถวของญาติไปเที่ยว เพราะถื่อว่านั่งรถฟรีจะไปไหนก็ได้ตามเส้นทางที่รถผ่าน เขาไปโดยไร้จุดหมาย จนมาถึงหมู่บ้านหนึ่งมีงานบุญเทศกาล จึงได้ลงรถที่นั่นเดินเข้าไปเที่ยวงานบุญในหมู่บ้านตามลำพังคนเดียว เมื่อชาวบ้านเห็นเป็นคนต่างถิ่นมาเที่ยวงานบุญ จะเชิญชวนให้ไปกินข้าวกินปลา เขาเองไม่อยากขัดศรัทธาของชาวบ้าน จึงได้เข้าไปนั่งกินข้าวกินปลาจนอิ่มท้อง ก่อนจะลาเจ้าภาพไปเดินเที่ยว

แล้วอยู่ๆ มีคนกลุ่มหนี่งวิ่งไล่ตีกันตรงมา เขาจะหลบก็หลีกไม่ทัน เพราะมันเร็วมากเกินความคาดหมาย มันก็ได้เรื่องพวกที่วิ่งไล่ตามมาทันพอดี จึงบรรเลงมวยหมู่ขึ้น เขาเองตกอยู่ในวงล้อมของเจ้าถิ่น ตอนนั้นไม่รู้อะไรเป็นอะไรมั่วไปหมด เขาเองพยายามที่จะหลบออกมาจากวงล้อม แต่ออกมาไม่ได้เพราะโดนรุมสกรัมด้วยอาวุธแม่ไม้มวยไทย ทั้งที่เขาไม่ใช่คู่กรณีพวกเจ้าถิ่น

ครั้งนี้เขาโดนลูกหลงโดยไม่รู้ตัว และโดนพวกเจ้าถิ่นใช้มีดดาบที่ถือมาด้วยฟันฉับเข้าที่กลางหลังไม่รู้กี่ครั้งจำไม่ได้ เขาเองนึกว่าตายแน่ๆ โดนฟันจังๆ อย่างนี้ไม่รอด รู้สึกจุกและเจ็บกลางหลังแปลบ ก่อนจะทรุดอวบลงนอนตัวงอกับพื้น เอาแขนทั้งสองข้างป้องตัวเองเอาไว้ ความชุลมุนเกิดขึ้นไม่รู้ใครเป็นใครยามนั้น

หลังจากที่เหตุการณ์สงบลง กำนันและผู้ใหญ่บ้านมาเคลียร์พื้นที่แยกนักเลงออกจากกัน รวมทั้งเขาที่ถูกหิ้วปีกไปปฐมพยาบาลที่วัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชาวบ้าน แม้ที่วัดจะมีงานบุญเทศกาลคึกคักด้วยเสียงมโหรีดังกระหื่มก็ตาม

 

;k05การรื้อผังดวงชะตาชีวิต (ตามวิถีทางของพระพุทธศาสนา)</O>
<O>ซึงขุนนางจีนคนหนึ่งของจีน ได้นำมาใช้ปฏิบัติจนดวงชะตาพลิกไป"แปดตลบ"เลยทีเดียวเชียว</O
<O(tm-love)ลองติดตามอ่านดูนะคะ</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shape style="WIDTH: 41.25pt; HEIGHT: 32.25pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_46 alt="0" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1033"><v:imagedata src="file:///C:\Users\Acer\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image005.gif" o:title="0"></v:imagedata></v:shape>มีหนังสือชั้นแนวหน้าที่เล่าเรื่องของขุนนางจีนคนหนึ่งในสมัยโบราณท่านเหลี่ยวฝานได้เล่าประวัติของตนเองและต่อมาหนังสือไดอารี่คำบอกเล่าของท่านได้ถูกนำมาตีแผ่เป็น Best Seller ในประเทศจีนทำให้เป็นแนวทางแก่ผู้คนจำนวนมากมายในประเทศจีนใช้เป็นแบบแผนในการแก้ไขดวงชะตาชีวิตและต่อมาหนังสือนี้ ได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลกซึ่งจริงๆแล้วการแก้ไขดวงชะตานี้ก็มีแนวทางมาจากคำสั่งสอนของทางพระพุทธศาสนานั่นเองซึ่งหากใครได้ปฏิบัติตามแนวทางนี้ขอบอกว่า ชะตาที่กำลังตกอับคับหัวใจจะค่อยๆคลาย
"น็อต"เลยทีเดียว เพราะเป็นวิธี"รื้อผังดวงชะตาชีวิต วันเดือน ปีเกิด"กันเลยทีเดียวกล่าวคือ ถ้าเขาทายว่าท่านจะตายอายุ 50 ปีแต่ท่านปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนาอย่างต่อเนื่องอายุที่ว่าสั้นจะกลายเป็นอายุยาวออกไปดังชีวิตของท่านเหลี่ยวฝานซึ่งท่านได้เล่าสอนบุตรของท่านโดยเขียนในไดอารี่ว่าตนได้ถูกทำนายทายทักว่าจะเสียชีวิตอายุตั้งแต่อายุยังน้อยจะเป็นหมันจะสอบได้ขุนนางได้ที่ 2 <O</O
<O</O
<v:shape style="WIDTH: 37.5pt; HEIGHT: 33.75pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_47 alt="0" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1032"><v:imagedata src="file:///C:\Users\Acer\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image006.gif" o:title="0"></v:imagedata></v:shape>เมื่อได้ฟังคำทำนายเช่นนั้น เป็นธรรมดาของจิตปุถุชนย่อมรู้สึกเศร้าใจและสลดหดหู่ใจเป็นยิ่งนักท่านเหลี่ยวฝานคิดว่า"ทำไม...ชะตาชีวิตของท่านจึงอาภัพเป็นยิ่งนักแถมอายุก็ยังสั้นอีกต่างหาก? (คิดแล้วเศร้า......)<O</O
<v:shape style="WIDTH: 33.75pt; HEIGHT: 37.5pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_48 alt="0" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1031"><v:imagedata src="file:///C:\Users\Acer\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image003.gif" o:title="0"></v:imagedata></v:shape>ต่อมามีนักปราชญ์คนหนึ่งได้แนะนำท่านว่าให้ใช้เรื่องของบุญกุศลนี่แหละแก้ไขชะตาชีวิตที่แสนจะอาภัพอับโชคของท่านได้แต่ท่านจะต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ (ก็ถ้าจะแก้ดวงซึ่งมีอาภัพซะขนาดนั้นจะทำกุศลเดือนละ 1 ครั้ง คงจะไม่พอเปรียบเสมือนคนเหนื่อยร้อนจากการทำงานกลางแดดมาทั้งวันจะให้กินน้ำแค่ครึ่งแก้วจะหายหิวไหม? ฉันใดก็ฉันนั้น )จะแก้ดวงชะตาที่อาภัพอับโชคมากๆหลายๆเรื่องก็ต้องทำให้ได้ทุกวัน(ทาน ศีล ภาวนา และทำจิตให้บริสุทธิ์พร้อมฝึกสติควบคู่กันไปด้วย) <O</O
มีครั้งหนึ่งลับแลไปติดต่องานที่สถานีตำรวจหาดใหญ่ ทนายท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้อาวุโสบอกลับแลว่า<O</O
พี่ทนายวันนี้ผมมาช้าหน่อยนะพอดูนั่งดูหมอให้ลูกค้า 2 คน <O</O
ลับแลซึ่งทราบมาก่อนแล้วว่า "หากเราเป็นคนปฏิบัติธรรมแล้วชะตาชีวิตของเราจะไม่ดำเนินไปตามวันเดือนปีเกิดตั้งแต่ลับแลริเริ่มฏิบัติธรรมมาก็หลายปีดีดักแล้วนะคะลับแลจึงไม่เคยคิดจะดูดวงอีกเลยแต่วันนี้จะลองเชิง"พี่ทนาย"ดูซักกะหน่อย ลับแลจึงพูดกับพี่ทนายว่า" พี่คะ พี่ดูหมอเป็นหรือคะ? ดูให้หนูบ้างซีคะ? "(พูดด้วยเสียงอ้อนเล็กๆนิดหน่อยนะคะ)<O</O
พี่ทนายตอบว่า"ได้สิน้อง ว่าแต่น้องเป็นคนปฏิบัติธรรมทำบุญทำทานหรือเปล่า?" ลับแล ค่ะ หนูชอบปฏิบัติธรรมนะคะ พี่ทนาย อ้าวถ้าน้องเป็นคนปฏิบัติธรรม พี่ไม่ขอดูให้ (ว่าแล้วเขาก็ทำหน้า"เชิด"ใส่ลับแลค่ะ)<O</O
ลับแลพูดต่อว่า "พี่นี่เก่งนะคะ แสดงว่าพี่มีความรู้ทางธรรมดีนะคะถึงรู้ว่าถ้าเป็นคนปฏิบัติธรรมดวงชะตาชีวิตจะมิได้เป็นไปตามวันเดือนปีเกิด"<O</O
หลังจากท่านเหลี่ยวฝานทำความดีต่อเนื่องทุกวันชีวิตท่านพลิกหมดทุกเรื่อง จากที่ถูกทายว่าอายุจะสั้น กลายเป็นอายุยาว ,จากที่สอบขุนนางได้ที่ 2 กลายเป็นที่ 1 ,จากที่ว่าจะเป็นหมันต่อมาท่านก็มีบุตรตามใจปรารถนานะคะ<O</O
ไม่ต้องถามเลยนะคะว่าเมื่อไหร่จะได้ผล?
เพราะปุถุชนอย่างเราๆคงตอบไม่ได้ใช่ไหมคะ?<O</O
แต่พระท่านเทศน์ว่า "ตราบใดที่กำลังเจอวิบากกรรมให้อดทนไปก่อนแต่ในขณะเดียวกัน ให้เร่งสร้างบุญกุศล(ทาน ศีลภาวนา ทำจิตให้ใส ฝึกสติ)ควบคู่กันไปทุกวัน(อย่าขาด)<O</O
เดี๋ยวจะดีเอง (เมื่อกรรมฝ่ายชั่วเริ่มเจือจาง)<O</O
เพราะทุกคน มี"วิบากกรรม"รออยู่ข้างหน้าอย่างหลีกไม่พ้นอยู่แล้วอยู่ที่ว่า เราจะรีบสร้างกุศลหรือไม่? <O</O
หากเราไม่ย่อท้อ ในการสร้างกุศลอย่างต่อเนื่องทุกๆวัน <O</O
พระท่านเทศน์ไว้อย่างน่าฟังว่า "ชีวิตจะพลิกพันเปอร์เซ็นต์ล้านเปอร์เซ็นต์"ค่า<O</O
ขึ้นอยู่กับว่า
<O</O
<v:shape style="WIDTH: 53.25pt; HEIGHT: 120pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_54 alt="0" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1025"><v:imagedata src="file:///C:\Users\Acer\AppData\Local\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image012.gif" o:title="0"></v:imagedata></v:shape>fairy3เราทำจริงทุกวันหรือเปล่า???<O

 

เมื่อให้เขาถอดเสื้อออก ทำเอาทุกคนถึงกับตกตะลึง เมื่อมองเห็นกลางหลังของเขามีรอยผื่นแดงเป็นทางยาวหลายแห่ง อันสืบเนื่องมาจากโดนดาบของเจ้าถิ่น ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครฟัน เขาเองยังทึ่งที่รอดตายมาได้หวุดหวิดหนนี้เพราะเสื้อลงยันตืตัวนี้แท้ๆ ทำให้เขาสำนึกคำพูดของผู้ใหญ่บอกให้ระวังตัวจักมีเรื่องถึงเลือดตกยางออก และเขาก็เจอจริงๆ แต่ดวงดีมีเสื้อลงยันต์ตัวนี้ช่วยชีวิตมาได้ หาไม่แล้วเขาต้องเจ็บหนักแน่

และอีกคนชื่อทิดสอน (นามสมมติ) อายุ 37 ปี เป็นอีกคนหนึ่งที่โดนคู่อริยิงด้วยปืนลูกซองสั้นที่กลางหลัง แต่ลูกกระสุนปืนไม่ระคายผิวได้เล่าสั้นๆ ว่า

แกไปสักยันต์นี้กับอาจารย์ท่านหนึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อ โดยมีเพื่อนพาไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์ เกิดศรัทธาอยากได้ของขลังจากอาจารย์ แต่อาจารย์ไม่มีของขลังให้ นอกจากยันต์เท่านั้น ถ้าอยากได้จะต้องสักยันต์เท่านั้น แก่จึงตอบตกลงยอมเจ็บตัวให้อาจารย์ท่านนี้สักยันต์ให้ที่บริเวณกลางแผ่นหลังเต็มๆ ยอมรับว่าสักยันต์เจ็บตัวน่าดู อยากได้ก็ต้องทนเจ็บ และอาจารย์ยังทดสอบความเหนียวให้เห็นกันจะจะ จะใช้มีดาบฟันลงกลางหลังแกอย่างแรงหลายครั้ง คมดาบไม่ระคายผิวมีเพียงแต่รอยนูนเป็นผื่นแดงขึ้นปรากฎ นี่แหละของดีต้องพิสูจน์กันเดี่ยวั้นให้เห็นกันเลย ลูกศิษย์ถึงจะเชื่อว่าดีจริง เหนียวจริงแคล้วคลาดจริง เวลาไปไหนจะได้อุ่นใจมีของขลังคุ้มครองตัว

 

:z2น้องแกงส้มเจ้า
เดี๋ยวปี้ลับแลจะแนะนำให้เด้อ ว่าโทรไปหาปรึกษาครูบาอาจารย์ที่พลังจิตสูง
:z12ถ้ายังไม่มีใครแนะนำน้องแกงส้มเน้อ

 

หลังจากที่สักยันต์เป็นสัญลักษณ์ของชายชาตรี ไม่เคยคิดที่จะไปมีเรื่องกับใคร และมีไม่กี่คนที่รู้ว่าแกสักยันต์ที่กลางหลัง ทุกครั้งที่ออกจากบ้านแกจะใส่เสื้อปิดยันต์ที่สักอยู่กลางหลังมิให้ชาวบ้านเห็น แม้แต่อยู่บ้านยังใส่เสื้อซ่อนยันต์ที่สักไว้

กระทั่งมาวันหนึ่ง แกไปในเมืองกำลังเดินซื้อของอยู่ในตลาด ไม่รู้ว่าคู่อริเก่าที่หายหน้ากันไปนานหลายปีโผล่มาจากไหน ไม่พูดพล่ามทำเพลงมันชักปืนลูกซองสั้นที่พกติดตัวมาด้วยยิงใส่แก เสียงปืนดังตูมสนั่นหวั่นไหว คนยิงเมื่อยิงแล้วมันจะอยู่ให้ตำรวจจับเข้าคุกหรือ มันหายแวบไปทางไหนไม่มีใครรู้ เพราะชาวบ้านตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่โดนลูกหลงก็นับว่าบุญแล้ว

แกหลบไม่ทันก็ต้องโดนคู่อริฝากลูกปืนให้ นึกว่าโดนยิงในระยะนี้ไม่รอดแน่ เมื่อถลกเสื้อยืดขึ้นดู มีรอยฟกช้ำดำเขียวหลายๆจุดแต่ไม่มีเลือดไหลทำให้โล่งอก ที่แกรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ ชาวบ้านชาวตลาดนึกว่าแกไม่ตายก็พิการ แต่เมื่อมาเห้นแล้วแกไม่เป็นอะไร พากันตกอกตกใจที่แกมีปาฏิหาริย์รอดตายได้อย่างไร คนอื่นไม่รู้แต่แกรู้ว่ารอดตายเพราะยันต์ที่สักอยู่กลางหลังคุ้มกันนั่นเอง

นันเป็นอีกประสบการณ์ของผู้ที่เจอเหตุร้ายมาแล้วในอดีต แต่รอดตายมาได้เพราะยันต์นี้ทำให้แคล้วคลาด


*ออกไปธุระก่อน แล้วพบกันใหม่ค่ำๆค่ะ

 

:z10พี่รุ่งคะ แท้จริงค่าาาา...ไม่รักกันจริง ไม่ส่งให้พี่รุ่งหรอกนะคะ
ลูกศิษย์ท่านบอกลับแลเองเลยว่า ถ้าคนรู้มวลสาร รับรองแย่งกันหัวแตกเลยแหละค่ะ(ถึงจะเป็นพระปลุกเสกใหม่ แต่โทษทีค่ะ มวลสารกว่าจะได้มา ต้องไหว้บูชากลางป่าใหญ่ พระคุณเจ้าต้องไปอัญเชิญพระสารีริกธาตุท่านมาเองเลยนะคะ)
rabbit_run_away ว่าแต่....พี่รุ่งเอาไปให้ใครตรวจสอบหรือเช็คแล้วหรือคะ? เพราะเห็นพี่รุ่งบอกลับแลด้วยความมั่นใจแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ (แสดงว่ามีครูบาอาจารย์ดูให้เเน่ๆเลยใช่ไหมคะ?)
;aa57 ของแท้เลยแหละค่ะ พี่รุ่งขา...
ตอนครอบครู พระคุณเจ้าสุทธิวาปีภิยุต(บอกแก่ลับแลภายหลัง)ว่า ตอนเริ่มพิธี หลวงปู่ใหญ่ มาตั้งแต่ตอนเริ่มพิธีเลยทีเดียวเชียวค่ะ(พูดแล้วขนลุกปลาบปลื้มมากๆค่ะ)
แต่เวลาพี่รุ่งจะไปกราบท่าน ต้องนัดให้ตรงวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำนะคะ เราจะได้ไปบำเพ็ญธรรมกันด้วย ดีไหมคะ?
;aa59 ไม่ธรรมดา เอ๊อะ...เอ๊ย....ไม่ธรรมดา

 

คล้ายๆยันต์ที่ลงตะกรุดคู่ชีวิตเลยครับผม

 

ไม่ทราบเหมือนกันว่าสายวิชาท่านมาอย่างไร แต่เมื่อก่อน หลวงพ่อศรีอ่อง ที่ลำปางท่านดังยันต์นี้ มีคนเอาไปลองมาแล้ว อาจจะชื่อเรียกพ้องกันหรือเปล่า?

 

Happy birthday ครับ....(^____^)

 

-Happy Smile_งาม.....ง๊าม.....งาม...(นักขนาดเจ้า...จากอ.ห้วยยอด จ.ตรัง สถานที่ที่ลับแลและน้องนวลไปทำพิธีขอถวายตัวเป็นศิษย์...ขอรับพลังจากพระครูสุทธิวาปีภิยุตค่ะ)
พระเครื่ององค์นี้ คือ พระสมเด็จวังหน้า ซึ่ง สมเด็จรัชกาลที่ 5 ท่านทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2411 ซึ่งเป็นปีที่รัชกาลที่ 5ท่านทรงขึ้นครองราชย์ และท่านได้มีพระบัญชาให้พระเจ้าประคุณสมเด็จโต(วัดระฆัง) เป็นพระผู้ทำการปลุกเสกให้(ซึ่งพระเจ้าประคุณสมเด็จโตแห่งวัดระฆัง ท่านได้อาราธนาเชิญหลวงปู่เทพโลกอุดรมาเป็นประธานในการปลุกเสกในทางมิติ) และเมื่อปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว รัชกาลที่5 ท่านทรงมอบให้แก่เหล่าองครักษ์หรือมหาดเล็กทั้งหลายเป็นของที่ระลึกเนื่องในวันเถลิงถวัลย์ขึ้นครองราชย์ของท่านค่ะ
;aa55 ซึ่งจริงๆแล้ว พระเครื่ององค์นี้ เป็นของมหาดเล็กท่านหนึ่งที่มีนามสกุลว่า ณ นคร แต่ต่อมาเซียนพระได้ไปเช่ามา และทางพระคุณเจ้าได้เช่ามาอีกต่อหนึ่งรวมทั้งสิ้น 12 องค์(ลูกศิษย์ได้ขอเช่าแบ่งๆกันไปหลายคนค่ะ)
catt13 สังเกตดูนะคะ ตรงกลางท้องขององค์พระพุทธรูป ก็คือ เหล็กไหลสีนิลงามเหลือหลายนะคะ
;aa46 มีสัญญลักษณ์ตราครุฑยืนยันว่าเป็นของในรั้วในวังจัดสร้างขึ้น อัญมณีทุกอย่างเป็นของแท้ทั้งหมด
ซึ่งองค์จริงที่ลับแลและน้องนวลเห็นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555 นั้น สวยสดงดงาม....ตรึงตาตรึงใจมากจริงๆเลยค่ะ(สวยงามกว่าในรูปภาพมากหลายเจ้า)
catt8ขอบอก.....งามเหลือหลายที่สุดเลยเด้อ(เน้อ)

 

:z2น้องแกงส้มเจ้า
วันที่ 7 มีนาคม 2555 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำอีก ปี้ลับแลไปต่อยอด(การปฏิบัติธรรม)ที่อ.ห้วยยอด จ.ตรังอีก
:z8 เดี๋ยวจะถ่ายรูปพระคุณเจ้ามาให้ชมบารมีท่านนะเน้อ....
ต้องรอหน่อยก่ะเจ้า....

 

มีแนะนำเรื่องให้ไปทำบุญอ่ะครับ ยังไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ครับพี่คนสวย อุ้ย...ลืมชื่อ พี่ลับแลคนสวย.... ยังไงขอรบกวนพี่ลับแลช่วยไขปัญหาให้หน่อยนะครับ...... ขอบคุณครับบบบบ...