พบปะ พูดคุย ประสาเพื่อนพ้องน้องพี่ แบบกันเอง

โชว์อีกหน่อย คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ

 

จัดหนัก รับปีใหม่ครับ

รับแจกมากับหนังสือพระเครื่อง

 

เหลืออีกหน่อยครับบบบบบบบบบบบ

 

เหตุที่ทำให้เชื่อกันว่ามีองค์เทพอยู่
มีเหตุปัจจัยดังนี้...ตรงนี้น่าศึกษาค่ะ

เหตุการณ์แรกๆ ของการเกิดร่างทรงองค์เทพกันมากมายในยุคนี้นั้น ต่างยึดถือเรื่องหนึ่งที่ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกและบอกต่อกันแบบปากต่อปากหรือใส่ไข่ขยายความเข้าไปอีก ซึ่งคนมักจะเชื่อถือกันโดยง่ายดายแต่คนที่มีการปฏิบัติธรรมมาระยะหนึ่งจะรู้ว่าอะไรคืออะไร เรื่องนี้มีใจความอยู่ว่า
เมื่อครั้งพุทธกาลที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีวิตอยู่ พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพุทธบริษัททั้งหลายว่า "พุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนนั้นมีอายุนานมากกว่า 5,000 ปี แต่สำหรับในยุคของพระองค์นั้นต้องการจะให้พระศาสนามีอายุเพียง 2,500 ปี เท่านั้น

พระอานนท์จึงทูลถามว่า เหตุใดพระองค์จึงมิต้องการให้พระศาสนาดำรงอยู่จนครบ 5,000 ปี ดังพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า

"แล้วผู้ใดเล่าจะเป็นผู้ดูแลพระศาสนา"
พระอานนท์จึงทูลว่า

"ขอให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้เป็นพุทธบริษัทเป็นผู้ดูแลและบำรุงรักษาพระพุทธศาสนากึ่งหนึ่งเป็นเวลา 2,500 ปี

พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงอนุญาต แล้วทรงถามต่อไปอีกว่า ใครจะขออะไรบ้าง?

ปวงเทพทั้งหลายทุกเหล่าชั้น อันได้แก่ พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ เหล่าเทพเทวาทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันกราบทูล ขอให้ปวงเทพได้ดูแลและบำรุงพระพุทธศาสนาต่อไปอีกครึ่งหนึ่งของพระอานนท์คือ อีก 1,250 ปี พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงอนุญาตอีก แล้วก็ทรงถามต่อไปว่าใครจะขออะไรอีก

เหล่าพญาครุฑ คนธรรพ์ นาคราช ท้าวกุเวร กินนร กินนรี และภูตผีปีศาล จึงกราบทูลขอดูแลพระศาสนาเท่าที่เหลือ 1,250 ปี ให้พวกเขาได้ดูแลรักษา จนกว่าพระศาสนาจะค่อยๆ เล็กลงไปเรื่อยๆ

ซึ่งยุคนั้นมนุษย์จะมีร่างกายเล็กลงไปตามลำดับ ถึงกับต้องปีนบันไดสอยลูกมะเขือหรือเก็บเม็ดพริก พระสงฆ์สาวกของพระศาสนาก็จะร่อยหรอแทบว่าจะไม่มีเหลือ จะเหลือเพียงผ้าเหลืองผืนน้อยๆ ห้อยอยู่ที่หู เพื่อให้เป็นที่สังเกตว่าเป็นสงฆ์เท่านั้น....
สุดท้ายพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมถอยลงไปจนหมดพอดี 5,000 ปี ตามพุทธพยากรณ์ที่กำหนดไว้

เมื่อเวลาผ่านมาถึงกึ่งพุทธกาล คือเป็นเวลา 2,500 ปี เป็นต้นมาจึงเป็นหน้าที่ของพรหมเทพเทวาทั้งหลาย ที่จะมาทำหน้าที่อุมปถัมภ์ค้ำชูคอยบำรุงสืบพระศาสนาของพระพุทธเจ้า ตามที่ได้ทูลขอกับพระพุทธองค์ไว้ จึงเป็นเหตุให้เกิดการอ้างถึงร่างทรงองค์เทพกันมากมายอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้

ด้วยภววิสัยหรือความเป็นปกติขององค์เทพทั้งหลายถ้าท่านต้องการช่วยมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องเล็กทั้งหลายท่านจะอยู่สูงมากโดยสถิตอยู่บนวิมานของท่าน ไม่มีทางมาอยู่ใกล้มนุษย์เป็นอันขาด เพราะร่างกายมนุษย์นั้นเหม็นมาก เป็นป่าช้าที่ใหญ่ที่สุดสำหรับสรรพสัตว์ทั้งปวง และมีกรรมชั่วมากมายที่สะสมอยู่ สำหรับเทพเทวดาที่เป็นแหล่งพลังงานชั้นดีที่ประกอบได้ด้วย บุญบารมีนั้นไม่มีทางเข้าใกล้
ดังนั้นเมื่อท่านต้องการจะสื่อสารกับมนุษย์นั้น ท่านจึงส่งบุญบารมีเพียงเล็กน้อยจากเบื้องบน เข้าทางสังขารของมนุษย์ที่มีธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เพื่ออาศัยติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ได้:d

 

องค์ นี้ เขาให้มา แต่ไม่แน่ใจ แต่ขอโชว์ก่อนครับ

 

จัดหนัก รับปีใหม่ครับ

รับแจกมากับหนังสือพระเครื่อง

 

ไปกราบพระพุทธชินราช หรือคะ...
เป็นมงคลค่ะ...

 

เม็ดประคำผงยา วาสนาบุเงิน (หลวงปู่ บุญ)

 

สวัสดีครับพี่สุข,พี่รุ่งและทุกทุกๆท่าน....ประจวบอากาศดีคับ...วันนี้เดินทางตลอดทั้งวัน..ไว้ถึงแล้วจะจัดหนักบ้างงง5555 (^^)

 

จัดหนัก รับปีใหม่ครับ

รับแจกมากับหนังสือพระเครื่อง

 

ปลัดไม้อะไรไม่รู้ ของ แถวๆประจวบบบบบ เอิ้ก เอิ้ก

 

แขกที่โรงแรมเยอะไหมครับพี่รุ่ง ที่กรุงเทพเงียบ เมื่อวานนี้เงียบมากกว่าวันนี้อีกครับ

 

ช่วงนี้ให้พี่สุข+พี่รุ่งจัดหนักไปพลางๆก่อนนะคับ อิอิ (^___^)

 

จัดหนัก รับปีใหม่ครับ

รับแจกมากับหนังสือพระเครื่อง

 

ที่ประจวบต้องหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก กุยบุรีครับ

 

ได้ครับ เดี๋ยวจัดไปพลาง ๆ ก่อนครับ รอคนประจวบครับ

คนบุรีรัมย์(คุณอั๋น) ด้วย ไม่รู้ไปไหนสงสัยไปถ่ายรูปวัตถุมงคลอยู่กับคุณชลบุรี(คนชอบพระ)มั้งครับ

 

หลวงปู่ดู่ สายธนาคารทำ

 

แหวน พ่อปู่ พิฆเนศ วัดบางกระพร้อม

 

จัดหนัก รับปีใหม่ครับ

รับแจกมากับหนังสือพระเครื่อง

 

เพื่อมอบหมายทำหน้าที่ให้นำพาพุทธบริษัท สร้างบุญกุศลคอยบริจาคทานสร้างวัดวาอารามต่างๆ โดยอาศัยการช่วยเหลือบำบัดทุกข์ร้อน รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับมนุษย์ และบอกบุญกับสานุศิษย์ผู้ศรัทธาได้ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลในโอกาสต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อ "การสืบสานพระศาสนาเป็นสำคัญ"

การที่องค์เทพจะมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านพิจารณาแล้วว่าท่านจะมาเกี่ยวข้องกับมนุษย์ก็ด้วยเหตุดังต่อไปนี้

1.ญาณจุติ
หมายถึง ท่านที่มีภาระหน้าที่ในการที่จะต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ตามวาระและเพื่อมารับกรรมบางอย่าง โดยคำว่า "จุติ" นั้นแปลว่า "ตาย" ท่านต้องตายจากภพภูมิที่เป็นเทวดาเสียก่อน หรือจุติเสียก่อนถึงจะลงมาเกิดเป็นคนธรรมดาได้ และทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำทั้งทางโลกและทางธรรม
ถ้าเป็นผู้นำศาสนา เช่น พระสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เป็นต้น
ถ้าเป็นผู้นำทางโลกก็จะเกิดมาเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำประเทศ เป็นหัวหน้าใหญ่ในหมู่คนไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางฝ่ายสงฆ์หรือฆราวาสก็ตาม คนเหล่านั้นจะมีความสามารถ มีความทรงจำเดิมที่เป็นผู้ใฝ่ในการปฏิบัติจนได้ญาณหรือณาน และมักจะลำบากในช่วงแรกแต่จะสบายในช่วงปลาย
ข้อสังเกตก็คือท่านเหล่านี้จะเป็นผู้มีบริวารมากและมีอำนาจอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้คนเลื่อมใส เชื่อฟังและคล้อยตามอย่างเต็มใจ

2.ญาณแฝง
หมายถึง องค์เทพในระดับต่างๆ ที่ยังไม่ถึงวาระการเกิดเป็นมนุษย์แต่มีความเลื่อมใส มีความปราถนาที่จะช่วยส่งเสริมและมีส่วนร่วมนใกรสืบพระศาสนาด้วย ครั้นจะลงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างบุญก็จะต้องรอเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลานั้น เทพที่ใช้ญาณแบบนี้นี้เอง ที่ถูกเหล่ามนุษย์เรียกว่า "องค์"

3.ความสัมพันธ์ในอดีต
คือ เทพที่คอยให้การอารักขาผู้ที่ได้มาจุติเป็นมนุษย์ เพราะเคยเกี่ยวสัมพันธ์กันมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อร่างมนุษย์นี้ได้ทำบุญและแผ่เมตตาให้ก็จะได้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกัน ขณะเดียวกันก็จะคอยปกป้องคุ้มครอง ช่วยเหลือในการทำมาหากิน ดลจิตดลใจหรือเกิดเป็นลางสังหรณ์ในเรื่องราวต่างๆ รวมถึงจะพาสร้างบารมีและให้คอยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา บางครั้งเวลาสวดมนต์นั่งกรรมฐาน องค์เทพท่านจะพาให้สวดมนต์เป็นภาษาเบื้องบนหรือภาษาเทพไปเลยก็มี ซึ่งความสัมพันธ์ดังกล่าวได้แก่
1. ในอดีตชาติเคยมีบุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์
2. ในอดีตชาติเคยติดหนี้บุญคุณกันมาก่อนที่จะลงมาจุติเป็นมนุษย์
3. ในอดีตชาติเคยเป็นบุตรหลานหรือบริวารกันมาก่อน
4. เกิดจาการสวดมนต์อ้อนวอนขอบารมีจากเทพเป็นประจำท่านจึงลงมาช่วย

4. ทำหน้าที่เป็นร่างทรง
ในกรณีที่เชื่อกันว่าเป็นร่างทรงนั้นส่วนมากคือ มนุษย์คนนั้นได้เคยตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่หรือมีเหตุร้ายแรงในชีวิต เนื่องจากองค์เทพที่ส่งบุญบารมีมาจับร่าง เห็นว่ามนุษย์คนนั้นเป็นคนดีและยังไม่หมดหน้าที่ในโลกมนุษย์ หรือมีเรื่องสำคัญมากที่เทพต้องการสื่อสารกับมนุษย์ บังเอิญคนคนนี้ต้องมาหมดอายุขัยก่อน ท่านก็เลยมาต่ออายุให้

แต่ร่างนี้ต้องสร้างบารทีเพื่อชดใช้ในการมีชีวิตอยู่ โดยต้องยอมให้ตนเองเป็นร่างทรงหรือทำหน้าที่เป็นสื่อที่จะติดต่อกับมนุษย์คนอื่นๆ เพื่อสร้างบารมีร่วมกันในการทำนายทักรักษาโรค หรืออื่นๆ สุดแท้แต่องค์เทพท่านจะเห็นสมควร และเมื่อถึงเวลาหรือได้ทำหน้าที่ที่องค์เทพได้รับมอบหมายมาเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะต้องตายไปจริงๆ ตามวัฎสังสาร