ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พระจิรวัฒน์ ญาณวโร, 7 กรกฎาคม 2011.

  1. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ตอนนี้ผมก็พิมพ์ใบประกาศขนาด A4ฝากบอกบุญผ่านพี่น้องที่ยังทำงานกัน
    ...ให้นำไป ช่วยบอกบุญกับเพื่อนร่วมงาน
    ...ก็คงต้องออกใบอนุโมทนาให้เขาต่อไปเพื่อจะได้ไม่เคลือบแคลงใจกัน
    ...อาศัยเครดิตส่วนตัวบอกบุญกันเองครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...สาธุ สาธุ สาธุ ครับท่านพระอาจารย์
    ...ด้วยความเมตตาจากหลวงปู่ รู้สึกซาบซึ้งมากๆครับ
    ...จริงๆใบอนุโมทนาบุญผมก็ไม่อยากให้แปลกไปจากชาวบ้าน
    ...ต้องไปเข้ากรอบให้พิเศษกว่าคนอื่นๆด้วยใจจริงเลยนะครับ
    ...บุญภายในจิตสำคัญสุดๆ ปัจจัยน้อยปัจจัยมากถ้าตั้งใจ 100% ก็เสมอเหมือนเท่าเทียมกัน
    ...อยากทำบุญเพราะอยากทำบุญจริงๆครับเรียบๆ ง่ายๆ สบายๆ ขอให้เงินเข้าวัด ๑๐๐%
    ...ผมเคยทำผ้าป่า วัดหนองแว่น อ.แม่จัน จ.เชียงราย พอดีโยมพ่อโยมแม่บริจาคที่ดินบนเนินเขาให้
    ...ประมาณ ๒๓ ไร่เศษและชาวบ้านบริจาครวมกันเป็น ๓๔ ไร่ ที่บนเนินสวยมากท่านเจ้าอาวาสกำลังสร้างโบสถ์
    ...ผมแวะไปเที่ยวเห็นหลังคาโบสถ์ยังไม่เสร็จ หน้าฝนก็กำลังใกล้เข้ามาท่านประเมินไว้น่าจะ 50,000.-บาท
    ...ปรากฏว่าเรารีบทำโครงการทอดผ้าป่าซื้อหลังคากะว่าสัก 50,000.- พอเอาเข้าจริงวันสุดท้ายรวมยอดได้ 200,000 กว่าเกินเป้าหมายมากมาย
    ...ตอนแรกท่านก็จะจัดงานพิธีแบบชาวบ้านที่ชอบสนุกสนานมีการละเล่น ฉลองกันตอนกลางคืน
    ...ผมขอร้องท่านงดรายจ่ายทุกชนิดและการรื่นเริงบันเทิงทั้งหมดขอนำเงินบริจาคให้เข้าวัด 100% ขนาดอาหารก็ขอร้องท่านไม่ต้องเลี้ยงอะไร
    ...มอบเงินเสร็จก็จบพิธี แต่ก็ได้รับเมตตาจากท่าน ชาวบ้านเขามาอนุโมทนายินดีทำข้าวแกง อาหารพื้นเมืองง่ายๆเลี้ยงกันก็มีความสุขแล้วครับ
    ...อะไรที่จะเป็นภาระค่าใช้จ่ายกับวัดหรือชาวบ้านไม่อยากให้เสียประโยชน์ไปเปล่าๆครับ
    ...ขอทำความดีฝากไว้ในแผ่นดิน เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อในหลวง เพื่อแผ่นดินธรรมสยามเมืองไทยแห่งนี้ ตามอัตภาพที่พอเกื้อกูลกันได้พอแล้วครับ
    ...ตั้งใจจะเกิดเป็นชาติสุดท้ายแล้วจริงๆมีทางไปนิพพานได้ ขอไปเมื่อสิ้นอายุขัยชาตินี้เลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • aa.jpg
      aa.jpg
      ขนาดไฟล์:
      197.6 KB
      เปิดดู:
      56
    • 0022.jpg
      0022.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.8 KB
      เปิดดู:
      58
    • 0006.jpg
      0006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      244.6 KB
      เปิดดู:
      53
    • 0097.jpg
      0097.jpg
      ขนาดไฟล์:
      239.1 KB
      เปิดดู:
      53
    • 0074.jpg
      0074.jpg
      ขนาดไฟล์:
      245.1 KB
      เปิดดู:
      36
    • 0076.jpg
      0076.jpg
      ขนาดไฟล์:
      248 KB
      เปิดดู:
      61
    • 0080.jpg
      0080.jpg
      ขนาดไฟล์:
      256.4 KB
      เปิดดู:
      40
    • 0084.jpg
      0084.jpg
      ขนาดไฟล์:
      238.5 KB
      เปิดดู:
      281
    • 0087.jpg
      0087.jpg
      ขนาดไฟล์:
      248.5 KB
      เปิดดู:
      525
    • 0094.jpg
      0094.jpg
      ขนาดไฟล์:
      253.4 KB
      เปิดดู:
      40
    • 0081.jpg
      0081.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • 0079.jpg
      0079.jpg
      ขนาดไฟล์:
      245.8 KB
      เปิดดู:
      48
    • 0146.jpg
      0146.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240.6 KB
      เปิดดู:
      53
    • 0147.jpg
      0147.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.7 KB
      เปิดดู:
      39
    • 0153.jpg
      0153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      253.3 KB
      เปิดดู:
      64
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2011
  3. shela

    shela เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +512
    ขออนุญาติพระอาจารย์และกัลยาณมิตรทุกท่าน ณ ที่นี้นะคะ หนูเป็นคนหนึ่งที่วนเวียนอยู่ในบอร์ดนี้แต่มาไม่ได้ลงความเห็นๆใดเป็นเพียงการเข้ามาอ่านเพื่อความรู้ วันนี้ได้ขออนุญาติพระอาจารย์ท่านเพื่อลงเรื่องราวของตัวเองและขอความคิดเห็น-คำแนะนำจากทุกท่าน ณ ที่นี้ค่ะ
    คือหนูได้แต่งงานกับแฟนเชื้อสายจีนตอนอายุ25ปัจจุบันมีลูกสาว2คนคนโต7ขวบคนเล็ก 4ขวบ ตอนแรกเข้าบ้านแฟนก็ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่อยู่ไม่นานแม่สามีก็เริ่มจุกจิกตามประสาผู้ใหญ่ ตอนแรกเข้าใจได้ นึกว่าเราคงปรับตัวได้ แต่ว่าอยู่ไปๆแม่สามีก็เริ่มเข้ามาชี้นำทุกเรื่องจนกลายเป็นเห็นไม่ลงรอยกัน ต้องบอกว่าเค้าพูดทุกเรื่องจริงๆและจะคอยจิกให้ทำตามคำสั่ง ไม่ทำหรือขัดแย้งจะไม่ค่อยพอใจ จนไม่พอใจและโต้เถียงกัน เรื่องหนูกับสามีแม่สามีเค้าจะต้องคอยตามถามทุกเรื่อง ไปไหนต้องบอก ทำอะไรต้องถามต้องบอก แม้แต่งอนกันก็ต้องเข้ามาไต่ถาม ไต่ถามไม่ว่าแต่จะว่าเราเป็นคนผิดตลอด คือเรื่องบางเรื่องสามีภรรยาคุยกันบางทีก็ไม่ต้องเคลียร์อะไรแป๊บเดียวก็หันมาคุยกันดีๆได้ ไม่ต้องเรื่องใหญ่เมื่อมีบุคคลที่3เข้ามารู้ ถาม คิดเห็น ตัดสิน ซึ่งถ้ามีเข้ามาแล้ว มื่อที่4ที่5ก็จะมารับทราบด้วยกลายเป็นสภาบ้านไป ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไร้สาระของคนเป็นแฟนกัน เหนื่อยใจมากค่ะ เริ่มกังวลอนาคตในช่วง2ปีแรก ว่าจะใช้ชีวิตคู่แบบ 4คนได้นานแค่ไหน (4คนที่ว่าคือ หนูสามี แม่สามี พ่อสามี)เพราะทุกคนรู้อะไรรู้กันหมด คุยอะไรกันแอบคุยก้ไม่ได้ เริ่มรับไม่ได้เพราะเค้าก้าวก่ายชีวิตเกินไป เหมือนมีกล้องวงจรปิดชีวิตที่คอยส่องการใช้ชีวิตของหนูในทุกวินาที เมื่อไม่มีอิสระในตัวเอง ในสามี ในลูกของตัวเอง มีการบงการทุกเรื่อง ก็เริ่มเครียด ส่วนสามีก็รักและเคารพแม่มากเพราะเค้าได้ดีทุกวันนี้ก็เพราะแม่เค้า อันนี้เราเข้าใจและเราไม่เคยพูดอะไรให้เค้าดื้อหรือขัดใจแม่เค้า แต่จะให้สามีเป็นตัวกลางในการเคลียร์หรือบอกให้แม่เค้าเข้าใจในตัวเราบ้าง 3ปีหลังหนูกับแม่เค้าเริ่มทะเลาะกันหนัก เพราะต่างคนต่างไม่ยอมกันแล้ว สามีก็เกียร์ว่างเพราะไม่รู้จะเคลียร์ยังไง แม่สามีไม่พอใจจะฟ้องพ่อสามีและทุกคนในบ้าน เราก็เหมือนตัวปัญหาในบ้านเค้ามาตลอด ที่อยู่ได้เพราะสามีดีกับเราเท่านั้น แต่มีบางครั้งที่สามีก็มีคนอื่น สามีหนูหน้าตาดี หน้าที่การงานดีสุภาพ มีผู้หญิงชอบเยอะ มีเขวบ้างเวลาที่เราวีนใส่เรื่องแม่สามีทำกับเราในทุกๆวัน เค้าก็มีคุยกับผู้หญิง เราจับได้ก็เคลียร์ทุกที ไม่รู้ทำไมนะคะ เวลาเรามีปัญหาเค้าก็มีผู้หญิงมาพัวพันหลายครั้ง น้อยใจว่าทำไมไม่สงสารเราเลย เราเจอแม่เค้าไม่พอเหนื่อยงานบ้านที่ต้องทำตามคำสั่งแม่เค้าแล้ว เศร้าใจร้องไห้แต่ทำไมเค้าหักหลังเราด้วยการคุยคนอื่น เคยเคลียรืแล้วจบทุกครั้ง เลยรู้จุดอ่อนว่า เราโทรมมีแต่ปัญหาไม่มีความสดชื่นอะไรให้เค้าเห็นและบางครั้งก็ทะเลาะเรื่องที่เค้าไม่เคยจัดการแม่ให้เลยจนมาทะเลาะกันเอง เค้าก็จะมีคนอื่นคุยด้วย แต่พอเคลียร์กันเค้าก็จบและหันมาดีกับเราเหมือนเดิม ถามว่าเค้ารักเราไหมจริงแล้วให้มองอย่างเป็นกลางคือรักเราแต่เบื่อที่เรามีแต่ปัญหาที่เค้าแก้ไขอะไรไม่ได้ และเราเองก็โทรมมากๆไม่มีจิตใจอยากสวยเพื่ออะไรเพราะเครียดทุกวัน และตอนนั้นลำบากค่ะ เพราะเครียดเรื่องแม่สามี เลี้ยงลูกคนเดียวและต้องคอยจับกิ๊กอีก แย่มากจริงๆ จนทนไม่ไหว เลยย้ายออกมาปีที่7นี้ล่ะค่ะไปตายเอาดาบหน้า สามีอยากมาด้วยแต่แม่สามีประกาศว่า"ใครตามนังคนนี้ออกไปตัดแม่ลูกกัน อกตัญญู"เลยกลายเป็นว่าเราหอบลูกมาเช่าบ้านอยู่ข้างนอกลำพัง เพืือความสบายใจแต่กว่าจะออกมาได้นี่เลือดแทบสาดนะคะ ทั้งพ่อแม่สามีจัดการหนู ด่าทอ สาปแช่ง
    สารพัดตอนที่หนูเอาหลานเค้าออกมา ก่อนออกหนูบอกเค้าว่า"แม่คะ หนูไม่ได้ต้องการอะไรเลย หนูต้องการแค่ที่นอนหลับโดยที่ไม่ต้องการให้ใครมาด่ามาว่าหนูตอนตี2ตี3นึกอะไรออกก็มาเปิดประตูด่าได้ กับลูกแม่หนูก็ไม่ชวนออกมา เพราะเค้ารักแม่ หนูไม่อยากให้เค้าลำบากใจ และหนูจะมาทำความะอาดบ้านให้แม่พาหลานมาค้างที่นี่ทุกเสาร์อาทิตย์แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ และถ้าแม่อยากไปหาหลานแม่ก็ไปหาได้ตลอดเลยค่ะ" คือจริงๆหนูมีบ้านที่หัวหมากอยู่ แต่ว่าหนูอยากแสดงให้เค้าเห็นว่าสิ่งที่เค้ากลัวคือ จะพลัดพรากลูกหลานเค้าไปไกลๆนั้นไม่จริง หนูย้ายออกมาไม่ไกลมากนักจากบ้านแม่สามี เพื่อตอนเย็นสามีแวะมาหาหนูกับลูกๆได้ทุกวัน ลูกพ่อยังได้รู้สึกผูกพันกัน และพ่อแ่ม่สามีผ่านมาหลานได้ทุกเวลา และได้ไปโรงเรียนเดิมไม่ต้องย้ายไปไหนด้วย หนูรู้สึกว่าหนูเสียสละมากนะคะที่ทำอย่างนี้ เพื่อหนูกับแฟนจะได้ไม่ทะเลาะกันสามารถมีเรื่องดีๆคุยกันได้เหมือนตอนเราเป็นแฟนกัน ซึ่งหมายถึงชีวิตครอบครัวเราจะได้ยืดยาวและมั่นคงเพราะเรามีลุก แต่ทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านแม่สามีเสาร์อาทิตย์บางทีก็เจอคำพูดแรงๆเหน็บแนม ขุดเรื่องเก่ามาด่า ทั้งที่เราพาหลานไปให้และไปถูบ้าน4ชั้นให้ทุกอาทิตย์ อารมณ์ดีก็ดีไป ขัดใจก็ด่า เหมือนเดิม อดได้ก็ไม่พูดอดไม่ได้ก็ทะเลาะกันอีกเพราะสารพัดจะว่าเรา แต่ก็ไม่วายมาทะเลาะกับสามีเรื่องแม่เค้าอีก เวรกรรมจริงๆ เราดีกันได้ไม่นานจริงๆค่ะต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกันบ่อยๆสืบเนื่องจากแม่เค้าแทบทั้งหมดเลย จนตอนนี้ชักกลัวแล้วว่าการที่เราออกมาอยู่ข้างนอกเพื่อความสบายกายและเพื่อสุขภาพจิตที่ดีจะได้เลี้ยงลูกได้แบบเต็มที่หน้าตามีความสุขเพราะเด็กเริ่มโตเริ่มรับรู้เรื่องทุกอย่างได้แล้วนั้น จะทำให้หนูกับสามีเลิกกันหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเหมือนเมื่อก่อนที่จะเห็นสามีตลอดตื่นเช้า ไปทำงานกลับมานอน ทุกวันนี้สามีจะมาหาและอยู่ตอน5ทุ่มถึงกลับบ้านเค้า แต่เราก็พยายามทำใจไว้แล้วบ้าง เพราะถ้าเค้าเบื่อเราเวลามีปัญหาขึ้นมาแล้วหันไปคุยกับใครเราจะไม่มีโอกาสรู้เลย แต่หากเรายังอยู่บ้านเค้าจนถึงวันนี้ หนูก็อาจต้องเป็นโรคประสาทในที่สุดล่ะค่ะ สิ่งที่กลัวตอนนี้คือ หากสามีมีคนอื่นและเราไม่ได้อยู่ด้วยกันโอกาสที่เราจะรู้น้อยมาก และหากเรารู้ขึ้นมาหนูก็รับมันไม่ได้และคงต้องเลิกกัน เพราะหนูเคยบอกเค้าหลายครั้งแล้ว แต่ที่ผ่านๆมามันไม่มีอะไรเลยเถิดไป แต่ถ้าต่อไปปัญหาที่เรามีมาเรื่อยๆนี้เพราะเราปลงแม่เค้าไม่ได้ ยังมาทำให้เราทะเลาะกันทุกอาทิตย์ หนูว่าเค้าคงต้องมีคนอื่นเข้าซักวัน ตอนนี้ก็พยายามเริ่มใหม่นะคะ พยายามไม่พูดเรื่องแม่เค้า สามีอยากให้ยังไงก็จะพยายามทำไปหากเค้าสบายใจ ยอมรับว่าเหนื่อยแต่ต้องทนหากทำให้เรายังสามารถประคับประคองครอบครัวได้ จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคะ ในใจก็ยังระแวงสามีอยู่เพราะเราเคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อนก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้เลยเครียดๆกลัวสามีจะมีคนอื่นกลัวต้องเลิกกัน กลังว่าเป็นเพราะเรามาอยู่ข้างนอกเลยต้องเลิกให้ลูกต้องมีชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์ค่ะ สามีรักลูกสาวมากๆเลยนะคะ แต่ว่าถามทุกครั้งที่คุยดีๆกันเค้าก็บอกไม่มีใคร ถามหลายครั้งมาก จนเค้าเริ่มเบื่อแล้ว แต่ที่ถามนี่ก็ไม่ได้จับอะไรได้นะคะถามเพราะระแวงมากกว่า แต่เวลาอยู่ด้วยกันก็ไม่มีอะไรแปลกไป เรื่องราวยาวมากต้องขออภัยนะคะ หากทุกท่านจะติหรือแนะนำอะไร ยินดีรับฟังทุกท่านค่ะ ขอบคุณนะคะ
     
  4. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    (ขอความเดิมของคุณโยมshela)ตอนนี้เลยเครียดๆกลัวสามีจะมีคนอื่นกลัวต้องเลิกกัน กลังว่าเป็นเพราะเรามาอยู่ข้างนอกเลยต้องเลิกให้ลูกต้องมีชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์ค่ะ สามีรักลูกสาวมากๆเลยนะคะ แต่ว่าถามทุกครั้งที่คุยดีๆกันเค้าก็บอกไม่มีใคร....
    พระอาจารย์ อันที่จริงก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของทางโลกเลย...ถ้าสมมุติว่าอาตมาเป็นหมอ คุณโยมป่วย หรือหมอเจอคนป่วย หมอก็ต้องรักษาคนป่วยตามหน้าที่ของหมอ... อาตมาขอตอบเเบบตรงไปตรงมา ดังนี้ คุณโยมกับเเม่สามีของคุณโยมเคยมีกรรมต่อกันมา
    ในอตีดชาติคุณโยมคือเเม่สามีเคยไม่พอใจที่ลูกชายตัวเอง ไม่ยอมเเต่งงานกับผู้หญิงคนที่เเม่ หาไว้ให้หรือเลือกไว้ โดยมีเชื้อจีนด้วยกัน...กลั่นเเกล้งลูกสะใภ้ต่างๆนานา ...ชีวีตคนเเสนสั้นไม่เกินร้อยปีก็ตาย เเรงอาฆาตที่ไม่รู้จัก คำว่าอภัยทาน ผูกดวงจิตเกิดมาอีกที่คุณโยมกลายเป็นลูกสะใภ้กรรมที่เคยทำย้อนมาสนองตัวเองบ้าง...ในปัจจุบันชาติ เสมอกันเเล้วนะตอนนี้ ทำอย่างไร ชาติต่อไปต่างหากที่จะไม่ต้องจองเวรกันอีก เมื่อคุณโยมมีโอกาส พบพระพุทธศาสนา มีโอกาสได้รู้จักอาตมา อย่าให้เสียเที่ยว เริ่มวิธีคิดใหม่ที่เราโดนกระทำเพราะกรรมที่เราเคยทำกับเขาไว้ เราต้องไม่โต้ตอบอีก.. ใช้ขันติ ถ้าคุณโยมรู้ว่าไฟมันร้อน คุณโยมก็ถอยออกมา หรือหาน้ำเย็นเข้าดับไฟ..คือกองทุกข์ ที่กำลังเกิดขึ้นในใจคุณโยมในขณะนี้ จงใช้น้ำเย็นคือธรรมะ(คือสติเเละปัญญา ขันติ อุเบกขา)...เเละธรรมะที่ทำได้ยากยิ่งคืออภัยทาน
    คุณโยมก็จะมีชีวิตครอบครัวที่ราบรื่น เเละไม่จองเวรต่อกันในชาติต่อไป...ส่วนสามีคุณโยมทั้งหมดนั้นเป็นพระคุณโยมคิดเอง เออเองเเละสรุปไปเอง ว่าเขาต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ การที่2คน ได้เกิดมาเเม้ห่างไกลกันเป้นพันกิโล เมื่อได้บุญกรรมนำมาให้ได้พบกันก็คือคุณงามความดีในอดีตชาติ จนได้กลายเป็นคู่ครองกัน จงประคับประครอง ไปให้ถึงฝั่ง
    โดยมีพะยานรักด้วยกัน คือลูกทีเเสนจะน่ารัก เวลาเครียดๆให้นึงถึงลูกคุณโยมจะได้สะบายใจ
    สามีคูณโยมเป็นคนดี ความรักความเชื่อใจสำคัญที่สุดในชีวิตคู่ (ผู้ชายทุกคนไม่ชอบให้ใครมาถามจุกจิกเเต่เรื่องเดิมๆ) ไหนจะเหนื่อยเเละเครียดจากการทำงานมาทั้งวัน กลับเข้าบ้านต้องมาตอบคำถามคุณโยมอีก...อาตมาขอบิณฑบาตรให้คุณโยมเริมตั้งสติเเล้ว คิดใหม่ เเทนที่จะถามเบอร์ใคร ไปไหนมา..กลับดึกจัง...ทำครอบครัวเล็กๆให้อบอุนได้ด้วยมือคุณโยมเอง ทำหน้าที่ของเเม่บ้านเเม่เรือนให้ดีเเละสมบูรณ์ ไม่ต้องไประเเวงระวัง อะไรจนเกินเหตุ เชื่อในคุณความดีเเละผลของกรรม ทั้งในอตีดชาติ ปัจจุบันชาติ ความดีเท่านั้นชนะได้ทุกอย่าง ไม่มีอย่างอื่นที่เอาชนะความดีได้ ทำดีไปเรื่อยๆ ความดีจักต้องมีคนเห็น วันนี้เขายังไม่เห็นพรุ่งนี้เขาจักต้องเห็น...เเต่ต้องทำความดีอย่างสม่ำเสมอ เเละทุกอย่างที่คุณโยมกำลังพบเจอล้วนเป็นผลของกุศลกรรมเเละอกุศลกรรมทั้งสิ้น...ขอให้คุณโยมมีครอบครัวที่สมบูรณ์ อบอุ่นด้วยรสเเห่งพระธรรม อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาคือความจริงที่ทุกคนต้องพบเเนนอน...อย่าปล่อยเวลาว่างให้หมดไป
    เพราะความคิด ฝ่าบอกุศล ...มีอะไรให้ทำอีกมากมายในชีวิต คุณโยมอ่านพุทธประวัติตอนที่เจ้าชายจะหนีออกบวชหรือไม่...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  5. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    อนุโมทนาสาธุ อาตมาคิดว่าจะเขียนต้นฉบับเพื่อเตรียมไว้ เข้าโรงพิมพ์ เพื่อพิมพ์รายชื่อเเต่ละสาย
    ขออนุโมทนาสาธุคุณโยมnahpeeทำไว้รอเเล้วสาธุ ดังนั้นอาตมาขอเป็นต้นฉบับเลย อาจจะเปลี่ยน
    เเก้ไข บางประโยคนิดหน่อย ขอขอบคุณเเละขออนุโมทนาบุญ ส่วนใบอนุโมทนาบุญของคุณโยม หลวงปู่ดี
    ท่านเตรียมใส่กรอบไว้เเล้วคุณโยม ท่านต้องการมอบให้ในวันถวายจริงคุณโยมเพราะว่าจะมีต้นผ้าป่ามาสมทบอีก4ต้น
    เป็นของเเต่ละหมู่บ้านคือ หมู่8-9-10-14 อาตมาภาพขออนุโมทนาบุญคุณโยมnahpee สาธุๆ
    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร
    ป.ล.
    วัดบ้านหนองเเว่น ที่เชียงราย เเละวัดบ้านหนองผักเเว่นที่ร้อยเอ็ด คงจักต้องมีอะไรดลใจให้คุณโยมต้องไปทำบุญอย่างเเน่เเท้..<!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  6. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    อนุโมทนาสาธุ คุณโยมnahpeeเเละครอบครัว สุระพิพิธ ทุกท่านทุกคน สาธุๆ
     
  7. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...สาธุ สาธุ สาธุ ครับพระอาจารย์
    ***ผมยังคุยกับภรรยาและโยมแม่ ทำไมชื่อวัดจึงได้สอดคล้องใกล้เคียงกัน วัดหนองแว่น กับ วัดป่าบ้านหนองผักแว่น
    ผมทำบุญใหญ่ในชีวิตที่เริ่มจากจิตภายในแท้ๆด้วยความตั้งใจและทั้ง ๓ วัดได้เงินบริจาคเกิน 200,000.- บาท
    1.วัดหนองแว่น อ.แม่จัน จ.เชียงราย วัดระดับกลางๆเงียบๆในชุมชนแต่ไม่ใช่วัดป่า เป็นที่ดินบริจาคของโยมพ่อโยมแม่ เดิมวัดมีแค่ ๒ ไร่บริเวณพื้นราบเป็นชุมชนชาวไทยภูเขา ตามกฏหมายตั้งเป็นวัดไม่ได้ถ้ามีพื้นที่แค่ ๒ ไร่
    2.วัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี วัดนี้สภาพแวดล้อมเป็นป่าภูเขาสูงคล้ายอุทยาน(พัฒนาแล้ว) คุณแม่ปิยะวรรณ วีรวรรณ เป็นผู้บุกเบิกกับ หลวงตาชาลีเข้าไปอ่านเรื่องราวประวัติความเป็นมาได้ไม่ธรรมดาครับวัดป่าภูก้อน
    ที่ศรัทธาพิเศษเพราะคุณแม่เธอมุ่งมั่นเพื่อ พระพุทธเจ้า ในหลวง และเพื่อแผ่นดินเป็นจุดหมายสูงสุด เป็นวัดที่คงสภาพป่าได้ดีมาก ภูมิดูแลพื้นที่เป็นเทพ รุกขเทวดาชั้นสูง
    3.วัดป่าบ้านหนองผักแว่น เป็นวัดป่าที่มองเห็นความเป็นวัดป่าได้ชัดเจน จึงอยากให้คงสภาพนี้สืบต่อไปอย่างมั่นคงถาวรยาวนานถ้าแปรสภาพไปเหมือนวัดเมืองจะเสียดายมาก อีกทั้งได้คุยกับครูบาอาจารย์หลวงปู่ดี คัมภีโรแม้จะมีโอกาสได้สนทนาธรรมครั้งแรกก็ศรัทธาท่านแล้ว ยังได้สนทนาธรรมกับพระอาจารย์จิรวัฒน์ถูกคอกัน ได้คุยกับแม่ชีน้อย เห็นวิถีชาวบ้านกลุ่มคนเล็กๆที่มาช่วยวัด สัมผัสชาวโลกทิพย์ที่ยังอาจต้องการได้รับบุญ พอกลับมาถึงบ้านอยากช่วยรักษาวัดแห่งนี้ให้คงสภาพป่าไว้เช่นปัจจุบันนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  8. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...สวัสดีครับคุณ shela
    ...เห็นความทุกข์ของผู้คนในสังคมก็มองเห็นความจริงที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ดีแล้ว
    ...ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ มักเป็นปัญหาพื้นฐานของมนุษย์ที่ยังติดอยู่กับทางโลกสมมุติใบนี้
    ...วนเวียนอยู่ใน กิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชา อกุศลกรรม ไม่หลุดไปสักทีเพราะธาตุ๔ ขันธ์๕ นี่แหละที่เห็นว่าตัวกูของกู
    ...คุณ shela ก็คงเหมือนครอบครัวอีกเป็นล้านๆ ครอบครัวที่มีปัญหาเหมือนๆกันแต่อาจแตกต่างกันไปตามรายละเอียดของกฏแห่งกรรม
    ...อย่างที่พระอาจารย์กล่าว เราไม่รู้ว่าอดีตชาติเราทำกรรมอะไรไว้บ้าง พอเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติปัจจุบัน
    ...ก็เลยนึกไปว่าอุปสรรคความยุ่งยากต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือสิ่งที่เรานึกคิดไปตามที่เห็นที่ประสบพบเจอ
    ...เพราะเรายังไม่มีโอกาสได้เรียนรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างที่ควรเข้าใจ เราเป็นชาวพุทธกันด้วยบัตรประชาชนที่ระบุไว้
    ...เข้าหาวัด ก็ต่อเมื่อมีความทุกข์เดือดร้อนใจหาที่พึ่งไม่ได้เพราะไม่ได้ศรัทธาด้วยจิตภายใน เพียงเพื่อต้องการหาที่ปรึกษาความทุกข์คือพระสงฆ์ครูบาอาจารย์
    ...ยิ่งไม่มีปัญญากันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ไปให้ท่านผูกดวงชะตา รดน้ำมนต์ ลงนะปิดทอง ให้วุ่นวายไปหมดบางคนเสียทีเสียท่าเสียตัวเพราะไปเจออลัชชี
    ...ลืมดูปัญหาที่แท้จริงในชีวิตมนุษย์ที่เกิดมาแบบผู้รู้แจ้งทางโลกธรรม
    ...ไม่ใช่ว่าครอบครัวผมไม่เคยมีปัญหาแต่เพราะความรักที่มีให้กันจึงเป็นพลังให้รู้สึกผิด ชอบ ชั่วดี กลับมาได้
    ...ลองไปอ่านกระทู้ประวัติของผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งได้ครับที่นี่http://palungjit.org/posts/4999421
    ...ผมเห็นใจคุณ shela และสุภาพสตรีทั้งหลายทั่วโลกนั่นแหละที่ถูกผู้ชายกระทำจนทุกข์ใจหาทางออกกันไม่ได้บางคนถึงกับ ทำร้ายตนเองถึงชีวิต ซึ่งบาปมหันต์
    ...แต่ถ้าคุณ shela ได้พยายามศึกษาเรียนรู้ธรรมมะตามคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือครูบาอาจารย์
    ...มนุษย์เราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรมทั้งนั้น กรรมหนักในอดีตก็หนักหน่วงตามกรรม กรรมดีหน่อยอาจได้รับผลกระทบแค่เศษกรรม
    ...เราจึงเห็นครอบครัวหลายๆครอบครัวแตกต่างกันอย่างชัดเจน สุขมาก สุขน้อย ขึ้นอยู่กับผลกรรมในอดีต
    ...และยิ่งเราไม่รู้อะไรเลยและไม่เชื่อกฏแห่งกรรม ชาติปัจจุบันก็ยังกระทำกรรมไม่ดีอีกอย่างต่อเนื่องก็ยิ่งทุกข์เข้าไปหนักขึ้น
    ...ฉนั้นปัจจุบันคุณต้องเพียรพยายาม อดกลั้น อดทนจนถึงที่สุดอย่าให้พญามารความไม่ดีเข้ามากระซิบกรอกใจของคุณให้ทำผิดพลาดซ้ำอีก
    ...อย่างที่พระอาจารย์กล่าวคุณแม่สามีของคุณอาจจะเคยโดนคุณกระทำแบบนี้มาแล้วในอดีตชาติจึงให้คุณได้รับผลว่ารู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อตอนทำท่านไว้
    ...ถ้าเชื่อว่าเป็นผลของกรรม คุณต้องเร่งปฏิบัติทำความดี ทาน ศีล ภาวนา อุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาให้คุณแม่สามี เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    ...ขออภัยและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าที่เคยปฏิบัติผิด ทั้งกาย วาจา ใจ ทำบ่อยๆทุกๆวัน ทุกๆ ชั่วโมง ทุกๆนาที
    ...ยิ่งทำมากด้วยใจศรัทธา ยิ่งปลดล็อคความทุกข์ต่างๆลงได้แน่นอน แต่ไม่ใช่ร้อนใจเพียงวัน 2 วันเห็นผล
    ...แต่อาจจะเป็นปีๆ ก็ได้ แต่เชื่อได้เลยว่าชีวิตครอบครัวจะดีขึ้นแน่ๆ ตอนนี้อย่าไปสนใจจับผิดสามีคุณเลย
    ...มีทางเดียวเอาน้ำเย็นและความดีของคุณผูกใจเขาไว้ ยิ่งมีลูกสาวเป็นโซ่ใจด้วยแล้ว พ่อของลูกถ้าเป็นคนดีแบบรู้พระคุณบิดามารดาอย่างนี้
    ...ผมว่าสามีคุณเขาไม่หนีไปไหนหรอกครับ ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองเท่านั้น
    ...เอาใจช่วยครับ ทำปัจจุบันให้ดีทุกๆวันแล้วอุปสรรคความทุกข์ต่างๆจะค่อยๆคลายไปเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  9. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ผมโทรคุยกับ จนท. บริษัทแล้วนะครับเมื่อสักครู่
    ...เป็นการเขียนบิลตามระบบบัญชีการเสียภาษีการค้า
    ...คิดว่าคงไม่น่ามีเจตนาอื่นใด
    ...เดือน ธ.ค. ส่วนใหญ่การคำณวนภาษีจะเร่งปิดงบก่อน 15 ธ.ค.มั๊งครับ
     
  10. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุครับ
    ...ต้นแบบของการทำบุญที่ถูกต้องของชาวพุทธทั้งหลาย
    ...ต้องยึดมั่นความชัดเจนตรงนี้ไว้เพื่อให้รู้ว่าวัดควรเป็นวัดครับ
    ...วันนี้ชาวพุทธในบ้านเรากำลังหลงทางไปกับกิเลสแบบสุดโต่ง
    ...ทำบุญหวัง ลาภ สรรเสริญ ยิ่งนักการเมืองไม่ต้องพูดถึงเลยหวังคะแนนอาศัยวัด
    ...ยุคแห่งความเสื่อมถอยในความศรัทธาของผู้ต้องการหาแก่นธรรม
    ...มีแต่เปลือกธรรมผุดขึ้นเต็มไปหมด จนวันนี้ผมต้องเลือกวัดที่จะทำบุญแล้วครับ
    ***การทำบุญคือการฝึกการ"ให้ "และลดความตระหนี่ในทรัพย์สินที่พึงจะพอเกื้อหนุนกันได้ตามอัตภาพโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆทางวัตถุนิยมแต่เป็นเรื่องของจิตภายในจิตที่ต้องการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงยืนต่อไปเท่านั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  11. shela

    shela เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +512
    กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตานะคะ shelaรู้สึกดีใจที่ได้ยินคำตอบจากพระอาจารญ์เช่นนี้ ตัวshelaเองนั้นพยายามที่จะอภัยทานแม่สามีมาตลอดและไม่เคยคิดที่จะประสงค์ร้ายเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ผลตอบรับทำให้เสียกำลังใจมากก็ตาม แต่ตอนนี้กลับรู้สึกยินดีมากกว่าที่เราเป็นฝ่ายรับไม่เคยรุกรานเค้าเลย คิดเสมอว่าต้องใช้กรรมและเมื่อได้รู้เหตุแห่งกรรมเช่นนี้แล้วก็มีแนวทางไป คือเราจะไม่อาฆาตและจะจบได้ในชาตินี้เท่านี้ชีวิตเหมือนโดนฉุดขึ้นมาแล้ว shelaจะัพยายามประคองใจตัวเองให้มากที่สุด ที่พระอาจารย์ได้ขอนั้นshelaตั้งใจทำให้ได้ค่ะคือจะไม่ล่วงเกินสามีอีก จะเชื่อใจและจะทำหน้่าที่ตัวเองไม่บกพร่องค่ะ shelaมีกำลังใจและเข้มแข็งมากขึ้นทีเดียวค่ะ ต่อไปนี้shelaจะไม่ท้อถอยในการปฏิบัติสมาธิด้วยเช่นกัน (น่าแปลกมากที่เมื่อจิตดีขึ้นแล้วมีกำลังใจในทุกเรื่องที่บกพร่องขึ้นทีเดียว)
    กราบขอบพระคุณพระอาจารย์อีกครั้งนะคะ ขอน้อมรับทุกคำสอนคำเตือนค่ะ และกราบขอขมาพระอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วย เพราะเป็นเรื่องทางโลกไม่สมควรรบกวนพระอาจารย์ขอพระอาจารย์เมตตาด้วยค่ะ
     
  12. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุครับ
    ...ไม่ทราบว่ากล่องชุดป้องกันความหนาวไปถึงวัดหรือยังครับ????
     
  13. ปรมินทร์29

    ปรมินทร์29 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +156
    เราเกิดมาเพื่อรอเวลาตาย
    เราได้มาเพื่อเวลาเสีย
    เรามีเพื่อรอเวลาหมด
    เราเจอเพื่อรอรอเวลาจาก
    เราพบเพื่อรอเวลาพลัดพราก

    และเวลานั้นจะมาถึงเมื่อใด ไม่มีใครทราบ แม้แต่เราเองในการรักษาตนให้เกิดความปกติดังกล่าวนี้ ควรยึดหลักธรรม คือ หลักแห่งความถูกต้อง เพื่อวัดความถูกต้องที่แน่ะนอน 4 ประการ
    1.หมั่นระลึกถึงความดีของท่านทรงคุณความดีระดับสูงไว้เป็นประจำ
    2.หมั่นสร้างความรัก ความปรารถนาดี แก่คนและสัตว์ทั้งหลายเป็นประจำ
    3หมั่นระลึกถึงว่า สิ่งที้งปวงในโลกนี้ตามสภาพที่แท้จริงไม่มีอะไรสวยงาม ไม่มีอะไรน่ารักใคร่หลงไหล แต่มีลักษณะที่พึงรักเกียจ เพราะความปฏิกูลของมันตามสภาพที่เป็นจริง
    4 หมั่นระลึกถึงสิ่งที่เป็นจริง และความจริงประการสุดท้ายของชีวิตรี่วงกาย คือ ความตายไว้เป็นประจำ เพื่อนำความสำนึกให้ทิศทางที่ประสงค์
    ขอฝากไว้ด้วยนะค่ะ ลองอ่านกันดู ดิฉันว่ามันฟังดูแล้ว ปลงๆ ยังไงบอกไม่ถูก
    ส่วนเรื่องของคุณ shela นั้น ก็ขอให้อดทนนะค่ะ ศึกษาธรรมะบ่อยๆ จะได้เข้าใจ
    และปลงค่ะ คุณยังไม่ได้ทำชั่วไว้ในชาตินี้เพียงแต่มารับกรรม หากแม้นว่าคุณ
    ตัดมันได้คุณเข้าสู่นิพพานได้คุณยังหลุดพ้น ส่วนดิฉันมันทำกรรมไว้มากในชาตินี้
    พึ่งมาสำนึก พึ่งมาค้นพบ ดิฉันยิ่งหนักกว่าคุณเป็นไหนๆ ปัญหาทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ
    เราล้วนๆ ดิฉันก็อยู่ที่ดิฉันที่ทำไป ซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าคุณเป็นไหนๆ คุณสามารถ
    ตัดขาดได้ในชาตินี้ ส่วนดิฉัน ต้องไปใช้เวรใช้กรรมต่ออีก ไม่รู้จะจบเมื่อไร แต่ว่า
    ดิฉันมีชีวิตอยู่ ก็จะทำดีจนกว่าจะหมดลมหายใจ
    สุดท้ายขอให้คุณ มีสติ และคิดได้ ปลงและทำความเข้าใจกับชีวิตนะค่ะ คนอื่นเขาก็เจอไม่แตกต่างจากเราเลยค่ะ สู้ๆ
    สาธุ
     
  14. shela

    shela เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +512


    เพราะทุกข์ที่shelaเผชิญอยู่ตอนนี้มันตุงนังไปหมดเลยกลัวบาปไม่กล้าสร้างบาปไปกว่านี้แล้วค่ะ เคยมีชีวิตสบายๆพ่อแม่รักเมตตามากไม่เดือดร้อนแต่หลังจากเรียนจบเพียงปีเดียวชีวิตเปลี่ยนแบบรับไม่ทันล้มทั้งยืนงงๆครอบครัวเราเองก็ทุกข์ไปด้วย ถึงได้รับรู้ว่าเราเคยเป็นคนบาปมากถ้าไม่ทำแบบนี้กับใครมาก่อนคงไม่มาเจอแน่นอน เลยไม่กล้าที่จะสร้างเวรกรรมกับใคร
    ขอบคุณนะคะที่เห็นใจ หวังว่าคุณคงจะมีทางออกและพ้นทุกข์ได้เร็วๆเช่นกันนะคะ
     
  15. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...คุณปริมนทร์29 อย่าเพิ่งท้อแท้กับบาปหรือกรรมเวรครับ
    ...อายุคุณยังน้อยมีเวลาสะสมแต้มความดีอีกเยอะ
    ...ผมว่าคุณเรียนรู้เรื่องชีวิตตามแนวทางที่ถูกต้องได้รวดเร็ว
    ...จากที่เคยเห็นคุณทุกข์ใจกับชีวิตตนเองเมื่อกระทู้แรกๆ
    ...นิพพาน อาจไม่ยากอย่างที่คุณเข้าใจผมขอแนะนำเวบ 2 แห่ง
    ...เป็นฆราวาสทั้งคู่จะเชื่อหรือไม่เชื่อขึ้นอยู่กับความศรัทธาจะไปจริงๆหรือปล่าว???นิพพาน
    ...ผมศึกษาทุกเรื่องราวรอบๆตัวเราในวันนี้แม้แต่ศาสนาคริสต์เขาก็มีดีของเขาเหมือนกันถ้าผู้ที่เขาเคร่งศาสนาจริงๆ
    ...เราถูกสื่อภาพยนตร์สร้างความเชื่อว่าฝรั่ง free sex นั่นเฉพาะคนที่ห่างศาสนา
    ...เพราะจริงๆแล้วคนที่เขาเคร่งครัดไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ ก่อนทานอาหารขอบคุณพระเจ้า ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมเขาก็คล้ายอุบาสก อุบาสิกาของไทยเราเช่นกัน
    ...นักวิทยาศาสตร์องค์กร NASA เขาก็เริ่มเปิดเผยว่าในระบบสุริยะจักรวาลยังมีดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่เรียกว่ามนุษย์ต่างดาวเหมือนในภาพยนตร์
    ...ซึ่งปิดเป็นความลับกันมานานและขณะนี้เขาติดต่อสื่อสารกันได้ถึง 45 ดวงดาวแล้วแต่จริงๆมีมากกว่านั้นเป็นร้อยๆ
    ...คนเหล่านี้เขาใช่จิตคุยกัน มีเทคโนโลยีชั้นสูงเรียกว่าโลกเราตามไม่ติดยังห่างไกลอีกเยอะ ฝรั่งบางกลุ่มที่เชื่อก็เคยไปเที่ยวไปคุยกับมนุษย์ต่างดาวมาแล้ว
    ...คล้ายๆกับแนวพุทธ ที่มีผู้ที่สามารถไปเที่ยวชม นรก สวรรค์ ดินแดนนิพพาน กันมาแล้วเช่นกัน
    ...ฉนั้นในอนาคตระบบการฝึกจิตจะเป็นสากลไปทั่วโลกและจักรวาล จริงๆแล้วทุกๆศาสนาเขาสามารถฝึกจิตไปพบพระเจ้าของเขาเช่นเดียวกับที่ชาวพุทธไปพบพระพุทธเจ้า
    ...เพียงแต่เขาไม่พูดเป็นภาษาบาลีว่า ไปนิพพาน แต่เขาจะไปอยู่กับพระบิดาแห่งสวรรค์หรือพระบิดาผู้สร้างโลก
    ...ผมเล่าไปก็อาจจะยังไม่เชื่อหรือแปลกๆ ตั้งแต่ต่อนี้ไปในปี 2012 หรือ 2555 ของไทยเรื่อยไปคงจะมีข่าวสารที่เหลือเชื่อเพิ่มมากขึ้น
    ...ยุคนี้เป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคพระศรีอารยเมตไตรย์ ที่มีแต่คนฝึกจิตและรักษาศีล๕ กันทั้งนั้น
    ...แต่คงไม่ใช่ปี 2 ปีนี้อาจเป็น 100ปี 500 หรือ 1000 ปีซึ่งเราคงไม่มีโอกาสได้เห็น
    ...แต่สิ่งที่จะเห็นคือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่จะเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก สึนามิ แผ่นดินไหว ไฟไหม้ ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วมจนแผ่นดินหายในหลายๆประเทศ สงครามแย่งทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ
    ...ถึงต้องเตรียมตัวก่อนตายกันไว้ตลอดเวลาอยากจะไปไหนตั้งเป้าไว้ในจิตเสมอๆ เพราะไม่รู้ว่าชีวิตเราจะหมดลมหายใจเมื่อใด
    ...การพยายามทำความดีทุกๆวัน ทาน ศีล ภาวนา และฝึกพิจารณา ธาตุ๔ ขันธ์๕ แยกออกจากจิตที่มาอาศัย ก็จะรู้ว่าตัวทุกข์จริงๆอยู่ที่ไหนกันแน่
    ...สรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่เคยเที่ยงแท้แน่นอนเป็นสิ่งสมมุติจริงๆ เกิดขึ้น ดับไป สลายไปในที่สุด
    ...เดี๋ยวก็มีคำตอบในจิตเองครับ มันป็นปัจจัตตัง จริงๆ
    ...ผมทดลองจากการปฏิบัติจากครูบาอาจารย์ แต่สิ่งทีฆราวาส 2 ท่านในเวบนิพพานนี้ชี้แนะเป็นการต่อยอดเท่านั้นไม่ต้องไปเปลี่ยนแปลงวิธีปฏิบัติอะไรเลย
    ...เป็นแนวทางเดียวกันกับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงครับ

    ***ลองเข้าไปศึกษากันได้ไม่ต้องเชื่อครับ จงใช้ปัญญาพิจารณากันเองและไม่ต้องเดินทางไปหาที่บ้านเพราะให้ลองปฏิบัติดูกันเองที่บ้านแล้วจะรู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลงในจิตชัดเจนขึ้นครับ
    แสงทิพย์นิพพาน นำทุกท่านพ้นอบาย แสงทิ&#3
    นิพพานชาตินี้กันเถอะ
     
  16. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อนุโมทนา สาธุ มีความรู้สึกดีใจและปิติกับงานบุญในครั้งนี้ค่ะ
     
  17. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ไม่มีโอกาสได้ไปร่วมบุญที่วัดบ้านป่าหนองผักแว่น ก็ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ สาธุ
    [​IMG]
     
  18. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    อานิสงส์ของการรักษาศีล กับ การให้ทาน



    ผู้ถาม : หลวงพ่อคะ หนูขอทราบอานิสงส์ของการรักษาศีล กับ การให้ทานค่ะ ?
    หลวงพ่อ : จำที่พระบอกในตอนท้ายได้ไหมล่ะ
    “สีเลนะ สุคติง ยันติ” การรักษาศีลเป็นปัจจัยให้มีความสุข สุขทั้งชาตินี้ สุขทั้งชาติหน้านะ
    “สีเลนะ โภคสัมปทา” ถ้ามีศีลชาตินี้ทรัพย์สมบัติก็ไม่ฝืดเคือง ชาติหน้าก็มีทรัพย์สมบัติมาก
    “สีเลนะ นิพพุติง ยันติ” ศีลเป็นปัจจัยให้เข้าถึงนิพพานได้โดยง่าย
    นี่อานิสงส์ของศีล ท่านว่าไว้อย่างนี้
    ส่วนการให้ทาน ท่านบอกว่า
    “ทานัง สัคคโส ปาณัง” ทานเป็นบันไดให้เกิดบนสวรรค์
    การให้ทานมากก็ตามน้อยก็ตาม ผลของทานทำให้เกิดในสวรรค์ ถ้าหากว่าพ้นจากสวรรค์มาแล้วมาเป็นคนก็ไม่ยากจนเข็ญใจ แต่ว่าจะรวยเท่าไรนั้นเป็นเขตของทานนะ ท่านเรียกว่า “ปุญญักเขตตัง” เป็นเนื้อนาบุญ ถ้าเราให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์มากเราก็รวยมาก ให้ในเขตที่มีความบริสุทธิ์น้อย เราก็มีทรัพย์สินน้อย แต่คำว่าอดตายไม่มีสำหรับคนให้ทาน

    ผู้ถาม : แล้วศีลกับทาน อย่างไหนจะอานิสงส์มากกว่ากันคะ

    หลวงพ่อ : อ้าว....มันคนละคนนี่หนู ต่างคนต่างแก่ต่างคนต่างกล้า ทานเขาก็ให้ผลไปอย่างหนึ่ง ศีลก็ให้ผลมีกำลังอย่างหนึ่ง แต่ว่าทั้ง ๒ อย่างนี่ต้องร่วมกันนะ ถ้าแยกกันเมื่อไรก็พังเมื่อนั้นแหละ

    เรามีแต่ทานอย่างเดียวแต่บกพร่องในศีลทั้ง ๕ หรือข้อใดข้อหนึ่ง เราก็ตกนรก ต้องพ้นจากนรกมาก่อนแล้วจึงจะรวย
    ถ้าเรามีศีลอย่างเดียวไม่มีทาน เกิดชาติหน้าอายุยืน หน้าตาสวย แต่อดตายเอาซิ เอาอย่างไหนล่ะ เอาไงดี....?

    ผู้ถาม : หมายความว่าต้องทำคู่กันใช่ไหมคะ ?

    หลวงพ่อ : ต้องคู่กันไปหนู จะว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากันมันก็ไม่ควร
    ทาน ศีล ภาวนา เป็นบุญกิริยาวัตถุ และพระพุทธเจ้าตรัสว่า สิ่งที่เข้าถึงบุญกุศลก็คือ
    ๑.การให้ทาน
    ๒.การรักษาศีล
    ๓.เจริญภาวนา ภาวนานี่หมายถึง สมถภาวนาหรือวิปัสสนาภาวนา คือใช้สติปัญญาคิดอยู่

    ทานนั้น เป็นปัจจัยตัดโลภะ ความโลภ เป็นก้าวหนึ่งที่จะถึงนิพพาน
    ศีล เป็นเหตุตัดโทสะ ความโกรธ เป็นก้าวที่สองที่จะทำให้ถึงนิพพาน ภาวนา เป็นตัวตัดกิเลสตัวสำคัญทั้งใหญ่และเล็ก เป็นปัจจัยให้กิเลสหมดจริง เข้าถึงนิพพานแน่นอน.
    พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
     
  19. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุ ครับท่านพระอาจารย์
    ...ชัดเจน ชัดเจน ชัดเจน
    ...ทาน(ตามกำลัง) ศีล(ฆราวาสศีล๕) ภาวนา(พุทโธ/นะโมพุทธายะ/ยุบหนอพองหนอ/สัมมาอะระหัง/นะมะพะทะ...)
    ...มั่นคงเมื่อไรก็ใกล้ นิพพาน เข้าไปแล้ว
    ...ฉนั้นอย่าหยุดอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
    ...ถ้ามีเป้าหมายข้างหน้าคือ "นิพพาน"
    ***ตอนนี้ทดลองภาวนาด้วยคำว่า "นิพพาน" ก็ดีเหมือนกันครับจิตระลึกตรงๆไปเลยไม่อ้อมไปอ้อมมา
    อย่าฟังเพราะเพียงว่าเชื่อ แต่จงใช้ปัญญาและลงมือปฏิบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  20. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    กราบนมัสการพระคุณเจ้าค่ะ ,อนุโมทนาบุญ กับคุุณ naphee และคุณ sujitra อีกทั้งขอเป็นกำลังใจให้ คุณ shela และคุณ ปรมินทร์29 ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...