สับสนเกี่ยวกับการอุทิศบุญหลังจากการนั่งสมาธิคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย penquinz, 4 พฤศจิกายน 2011.

  1. penquinz

    penquinz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +64
    ตอนที่เรานั่งสมาธิเสร์จควรอุทิศบุญ ก่อนหรือหลังการออกจากสมาธิค่ะ คือหนูไม่เเน่ใจคะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,647
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตามนั้นครับ..ลองดูมืออุทิศบุญที่ได้ผลด้วยนะครับ...
    อนุโมทนาสาูธุครับ
     
  4. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ใครเขาบอกหรือค่ะว่า นั่ง สมาธิเเล้วจะมีบุญ พอที่จะอุทิศ ให้ ใคร ต่อ ใครได้

    นั่งให้เกิดปัญญา จนนําปัญญานั้นๆ ไปเเปลเปลี่ยนเป็นวิถีทาง เพื่อนําไป สร้างบุญ สร้างกุศล

    ทําสมาธิเพื่อให้ เห็นถึง สติ ที่ต้องนําไปใช้

    มิใช้นั่งไปเเล้ว บุญจะเกิดเป็นกําลัง เพิ่มขึ้นมาได้เอง ในพระไตรปิฎก มิได้กล่าวถึงไว้เเม้เเต่ วรรค เดียว


    ถ้าคิดจะเเผ่ เพื่ออะไร สิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ ให้ประกอบตัวบุญ ตัวกุศลขึ้นมาเสียก่อน เเค่ลําพัง การเจริญ สติ นั้น หาได้สร้าง ให้เห็นในตัวบุญ หาได้เห็นในกําลังของบุญไม่


    ทําความเข้าใจกับ คําว่าบุญ กุศล เสียใหม่นะจ๊ะ

    เยธัมมา
     
  5. ญาณเดช

    ญาณเดช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +27
    ได้สิครับบุญ แผ่ได้ ก่อนและหลัง อย่าไปเชื่อไครว่าไม่ได้แต่ต้องเป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า สมาธิมิได้อยู่ที่ความเข้าใจที่ศึกษาค้นคว้าตามตำราหรือฟังตามเขาสอน แต่อยู่ที่การปฎิบัติจริงทำจริงอย่างถูกหลักคำสอน ฝึกกรรมฐานให้ได้อย่างน้อยปฐมญาณ คุณก็จะหมดข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ต้องทำนะครับถึงจะรู้และสัมผัสได้ ถ้ามั่วแต่มีทฤษฎี ไม่ลงมือทำก็ไม่รู้หรอก เชื่อผมเถอะ
     
  6. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ปปปปปปปปป



    ปัตจาาาาาาาาตัง ทุกข์ขัง อนัตา เยธัมมาเจริญ ใน เจริญจ๊าาาาา(k
     
  7. ญาณเดช

    ญาณเดช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +27
    ได้สิครับบุญ แผ่ได้ ก่อนและหลัง อย่าไปเชื่อไครว่าไม่ได้แต่ต้องเป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า สมาธิมิได้อยู่ที่ความเข้าใจที่ศึกษาค้นคว้าตามตำราหรือฟังตามเขาสอน แต่อยู่ที่การปฎิบัติจริงทำจริงอย่างถูกหลักคำสอน ฝึกกรรมฐานให้ได้อย่างน้อยปฐมญาณ คุณก็จะหมดข้อสงสัยใดๆทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ต้องทำนะครับถึงจะรู้และสัมผัสได้ ถ้ามั่วแต่มีทฤษฎี ไม่ลงมือทำก็ไม่รู้หรอก เชื่อผมเถอะ
     
  8. satory

    satory สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของกระทู้นะครับ ที่ต้องการสร้างบุญด้วยการนั้งสมาธิ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีความสนใจในเรื่องการปฎิบัติเพื่อให้กิเลสของตนนั้นเบาบางลง ในส่วนตัวของผมเห็นว่า การนั้งสมาธิได้บุญนะครับ ได้บุญในส่วนที่ว่าการนั้งสมาธินั้นทำให้จิตใจของเรานั้นสงบลงห่างไกลจะกิเลสเป็นการอบรมจิตใจให้สงบครับ ซึ่งได้แก่สมถกรรมฐานนั่นเอง หรือเรียกว่า จิตภาวนา ก็ได้ ถึงจะไม่ทำถึงวิปัสสนาภาวนา แต่ผมก็คิดว่าน่าจะได้บุญบ้างไม่มากก็น้อย

    ถาม เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่าการสร้างบุญด้วยการภาวนานั้นจะได้บุญอย่างสูงสุด?

    ตอบ ก็เพราะว่าอำนาจแห่งกฎแห่งกรรมข้อที่เรียกว่า มโนกรรมนั้นมีผลรุนแรงที่สุดทุกๆ อย่างที่เรากระทำลงไปล้วนออกมาจาก “ใจ” ก่อนเป็นอันดับแรก ดังที่มีคำกล่าวว่าใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ใจเป็นประธานแต่ทว่าใจนั้นก็เป็นไปได้ตามพลังทั้งทางดีและทางที่ไม่ดี

    พระพุทธองค์ตรัสถึงมรรค 8 ข้อที่สำคัญที่สุดก็คือ “สัมมาทิฐิ” เป็นทางแห่งทางพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงคือเห็นว่าผลทุกอย่างในโลกเกิดแต่เหตุ ถ้าไม่ก่อเหตุก็ไม่เกิดผลถ้าเราสามารถจะดับที่ต้นเหตุได้ก็จะดับผลได้เช่นกัน

    เมื่อเรามีความเห็นชอบอย่างถูกต้องเที่ยงตรงแล้วเรื่องของการคิดหรือ “ดำริชอบ” จะมาเองเมื่อมีความคิดชอบแล้วก็จะส่งผลไปยังมรรคผลข้ออื่นๆ ให้ดีตาม

    อำนาจแห่งจิตหรือมโนกรรมนั้นมีตัวอย่างที่น่าสนใจในสมัยพุทธกาลจะเล่าให้ฟังอีกสักเรื่อง

    ในสมัยพุทธกาลมีพระภิกษุรูปหนึ่งเมื่อท่านมรณภาพลงแล้วก็จะมีพระอีกรูปหนึ่งนำจีวรไปใช้ แต่พระพุทธเจ้าทรงห้ามเอาไว้เสียก่อนและรับสั่งว่า พระภิกษุผู้เป็นเจ้าของจีวรนั้นได้กลับมาเกิดมาเป็นเล็นเกาะอยู่ที่จีวรที่ท่านได้ซักตากเอาไว้ เพราะจิตของท่านเมื่อกำลังจะมรณภาพลง (อาสันนกรรม) ผูกพันอยู่กับจีวรผืนนี้ที่เพิ่งจะได้มาและท่านชอบมาก หากพระภิกษุรูปใดได้นำจีวรนี้ไปใช้เล็นตัวนั้นก็จะโกรธเพราะท่านยังหวงอยู่ส่งผลให้เกิดบาปกรรมทางใจขึ้นอีกและท่านก็ไม่อาจจะไปเสวยผลแห่งกรรมดีที่ได้ทำไว้ได้

    เพียงจิตที่ขุ่นเคืองแม้เพียงเล็กน้อยเช่นนี้ยังมีอานุภาพเช่นนี้พระพุทธองค์จึงสั่งสอนอยู่เสมอว่าให้ทำความดีละเว้นความชั่วและ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากเย็นที่สุดในหลักธรรมคำสอนทั้งปวง

    นี่เองคือเหตุผลที่ว่าเหตุใดการเจริญภาวนาซักฟอกจิตให้สะอาดเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เพราะใจมีอำนาจแรงเหนือทุกสิ่งนี่เองสัตว์ทั้งปวงจะไปสู่ภพใดก็เป็นเพราะจิตก่อนตายเป็นสุขหรือทุกข์

    การเจริญภาวนานั้นเป็นหนทางไปสู่มรรคผลและนิพพานได้เพราะการที่จิตสะอาดจนหมดกิเลสหมดความต้องการทั้งหลายแล้วย่อมไม่เหลืออะไรติดเกาะในจิต จิตก็ว่างเปล่าไม่อาจกลับไปเกิดใหม่ได้อีกหลุดพ้นไปโดยปริยาย หากลำพังเพียงแค่การทำทานหรือรักษาศีลนั้นยังไม่มีบุญบารมีที่มากพอที่จะกำจัดกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง

    พระพุทธองค์กล่าวเอาไว้ว่า

    แม้จะรักษาศีล 227 ข้อให้ไม่ด่างพร้อยถึง 100 ปีก็สู้การทำสมาธิภาวนาเพียงแค่ชั่วไก่กระพือปีกหรือช้างกระดิกหูไม่ได้”

    ที่มา : 29

    ประกอบกับได้มีการเจริญ เมตตาบารมี ด้วยการแผ่อุทิศบุญหลังจากการนั่งสมาธิ ผมคิดว่าน่าจะได้บุญนะครับ ผิดพลาดประกาศใดขออโหสิกรรมต่อผู้อ่านด้วยนะครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2011
  9. loguttara

    loguttara Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +39
    กุศล อกุศลเกิดที่จิต นะครับ
    แล้วการทำสมาธิภาวนา เป็นสุดยอดแห่งบุญเลยหล่ะครับ
    การใช้กายทำบุญ ก็เพื่อเป็นกิริยาปรุงแต่งจิตให้เกิดบุญกุศล

    มารแท้ ๆ เลยคุณอ่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2011
  10. rravikran

    rravikran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2011
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +151
    ทำไมจะไม่ได้บุญครับ การนั่งภาวนานี่แหละได้บุญตามบุญกริยาวัตถุ ๑๐ ประการ แสดงว่าคุณยังศึกษาพระไตรปิฎกยังไม่ดีพอ ให้กลับไปอ่านใหม่เยอะๆนะ ความคิดแบบนี้ถือเป็นมิจฉาทิฎฐิแล้วละ

    บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ คือ สิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หรือกล่าวอย่างง่ายๆว่า การกระทำที่เกิดเป็นบุญ เป็นกุศล แก่ผู้กระทำดังต่อไปนี้

    ๑. บุญสำเร็จได้ด้วยการบริจาคทาน (ทานมัย) คือการเสียสละนับแต่ทรัพย์ สิ่งของ เงินทอง ตลอดจนกำลังกาย สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นโดยส่วนรวม รวมถึงการละกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ออกจากจิตใจ จนถึงการสละชีวิตอันเป็นสิ่งมีค่าที่สุดเพื่อการปฏิบัติธรรม

    ๒. บุญสำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล (สีลมัย) คือการตั้งใจรักษาศีล และการปฏิบัติตนไม่ให้ละเมิดศีล ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ หรือศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา ศีล ๑๐ ของสามเณร หรือ ๒๒๗ ข้อของพระภิกษุ เพื่อรักษากาย วาจา และใจ ให้บริสุทธิ์สะอาด พ้นจากกายทุจริต ๔ ประการ คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ละเว้นจากการลักทรัพย์ ละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม และเสพสิ่งเสพติดมึนเมา อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท วจีทุจริต ๔ ประการ คือไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดปด ไม่พูดเพ้อเจ้อ และไม่พูดคำหยาบ มโนทุจริต ๓ ประการ คือ ไม่หลงงมงาย ไม่พยาบาท ไม่หลงผิดจากทำนองคลองธรรม

    ๓. บุญสำเร็จได้ด้วยการภาวนา (ภาวนามัย ) คือการอบรมจิตใจในการละกิเลส ตั้งแต่ขั้นหยาบไป จนถึงกิเลสอย่างละเอียด ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นโดยใช้สมาธิปัญญา รู้ทางเจริญและทางเสื่อม จนเข้าใจอริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค เป็นทางไปสู่ความพ้นทุกข์ บรรลุมรรค ผล นิพพานได้ในที่สุ

    ๔. บุญสำเร็จได้ด้วยการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ (อปจายนมัย) คือการให้ความเคารพ ผู้ใหญ่และผู้มีพระคุณ ๓ ประเภท คือ ผู้มี วัยวุฒิ ได้แก่พ่อแม่ ญาติพี่น้องและผู้สูงอายุ ผู้มี คุณวุฒิ หรือคุณสมบัติ ได้แก่ ครูบาอาจารย์ พระภิกษุสงฆ์ และผู้มี ชาติวุฒิ ได้แก่พระมหากษัตริย์ และเชื้อพระวงศ์

    ๕. บุญสำเร็จได้ด้วยการขวนขวายในกิจการที่ชอบ (เวยยาวัจจมัย) คือ การกระทำสิ่งที่เป็นคุณงามความดี ที่เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม โดยเฉพาะทางพระพุทธศาสนา เช่น การชักนำบุคคลให้มาประพฤติปฏิบัติธรรม มีทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น ในฝ่ายสัมมาทิฎฐิ

    ๖. บุญสำเร็จได้ด้วยการให้ส่วนบุญ (ปัตติทานมัย) คือ การอุทิศส่วนบุญกุศลที่ได้กระทำไว้ ให้แก่สรรพสัตว์ทั้งปวง การบอกให้ผู้อื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย ทั้งมนุษย์และอมนุษย์ ได้ทราบข่าวการบุญการกุศลที่เราได้กระทำไ

    ๗. บุญสำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนา (ปัตตานุโมทนามัย) คือ การได้ร่วมอนุโมทนา เช่น กล่าวว่า “สาธุ” เพื่อเป็นการยินดี ยอมรับความดี และขอมีส่วนร่วมในความดีของบุคคลอื่น ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสได้กระทำ ก็ขอให้ได้มีโอกาสได้แสดงการรับรู้ด้วยใจปีติยินดีในบุญกุศลนั้น ผลบุญก็จะเกิดแก่บุคคลที่ได้อนุโมทนาบุญนั้นเองด้วย

    ๘. บุญสำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม (ธัมมัสสวนมัย) คือ การตั้งใจฟังธรรมที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน หรือที่เคยฟังแล้วก็รับฟังเพื่อได้รับความกระจ่างมากขึ้น บรรเทาความสงสัยและทำความเห็นให้ถูกต้องยิ่งขึ้น จนเกิดปัญญาหรือความรู้ก็พยายามนำเอาความรู้และธรรมะนั้นนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ สู่หนทางเจริญต่อไป

    ๙. บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม (ธัมมเทสนามัย) คือ การแสดงธรรมไม่ว่าจะเป็นรูปของการกระทำ หรือการประพฤติปฏิบัติด้วยกาย วาจา ใจ ในทางที่ชอบ ตามรอยบาทองค์พระศาสดา ให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่บุคคลอื่น หรือการนำธรรมไปขัดเกลากิเลสอุปนิสัยเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา มาประพฤติปฏิบัติธรรมต่อไป

    ๑๐. บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง (ทิฏฐชุกัมม์) คือ ความเข้าใจในเรื่อง บาป บุญ คุณ โทษ สิ่งที่เป็นแก่นสารสาระหรือที่ไม่ใช่แก่นสารสาระ ทางเจริญทางเสื่อม สิ่งอันควรประพฤติสิ่งอันควรละเว้น ตลอดจนการกระทำความคิดความเห็นให้เป็นสัมมาทิฏฐิอยู่เสมอ

    บุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการนี้ ผู้ใดได้ปฏิบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือยิ่งมากจนครบ ๑๐ ประการแล้ว ผลบุญย่อมเกิดแก่ผู้ได้กระทำมากตามบุญที่ได้กระทำ ยิ่งได้มีการเตรียมกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งใจจรดเข้าสู่ศูนย์กลางกาย หยุดในหยุด เข้าไปแล้วก็ยิ่งได้รับบุญมหาศาลตามความละเอียดประณีตที่เข้าถึงยิ่งๆ ขึ้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2011
  11. chokdee1959

    chokdee1959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +468
    การทำสมาธิ คือการทำจิตให้คิดถึงสิ่งที่ดีเช่นพุทโธ เป็นพระนามของพระพุทธเจ้า ในขณะนั้นจิตเราปราศจากกิเลสและตัณหา ในคิริมานนทสูตร พระพุทธเจ้าเทศนาว่า การละกิเลสนั้นก็คือบุญ ถ้าละได้มากก็เป็นบุญมาก ถ้าละไม่ได้ก็ไม่ได้บุญ เพราะฉะนั้น การทำสมาธิจึงได้บุญ
     
  12. ชา ใคร่รู้

    ชา ใคร่รู้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +496
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=TYlRhQOmtQo]หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ14 - YouTube[/ame]
    น่าจะพอช่วยได้นะครับ
     
  13. penquinz

    penquinz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +64
    วันนี้ได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งพระอาจารย์ท่านได้สอนการนั่งสมาธิ พอหลังจบสมาธิท่านก็ให้อุทิศบุญกุศลค่ะ ..
    เรื่องบุญที่เกิดจากสมาธินั้นหนูไม่รู้คะว่าเกิดหรือไม่เกิดเเต่เคยอ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งมีบทอุทิศบุญก่อนการนั่ง เเต่อยากอุทิศให้หลังการนั่งอีกทีน่ะค่ะ ^^
     
  14. penquinz

    penquinz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +64
    ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำ นะค่ะ หนูลองอุทิศหลังนั่ง สบายใจกว่าค่ะ
     
  15. penquinz

    penquinz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +64
    พี่ๆค่ะ หนูจะบอกว่าหนูไม่ทฤษฎีอะไรเลยคะ หนูอ่านจากหนังสือธรรมะบ้าง ดูคลิปวิดีโอสอนการนั่งสมาธิบ้าง ของพระอาจารย์ท่านต่างๆบ้าง เเล้วก็มาฝึกเองคะ บางทีก็ขอคำแนะนำจากครูบาอาจารย์ เเล้วบางทีก็ไปนั่งสมาธิที่วัดที่เค้าปฏิบัติธรรมกันอะคะ (เพิ่งไปมาวันนี้รู้สึกมีความสุขมากค่ะ อนุโมทนาบุญให้ทุกๆท่านนะึคะ) ถ้าพูดเรื่องพระไตรปิฏกหนูไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ

    จิตตอนนั่งสมาธิเป็นบุญเมื่อไรหนูก็ไม่รู้ค่ะเเต่ว่าเวลานั่งเเล้วเกิดสมาธิมาก จิตหนูเย็นสบาย เเล้วมีความสุข สมองโปร่ง หนูก็รู้สึกว่าจะต้องพัฒนาต่อไปให้ได้ค่ะ (แม้บางทีจะติดขัดในเรื่องความกังวลในการปฏิบัติผิด หรือถูก / ความตื่นเต้น / ความกลัว / ทุกขเวทนา (ปวดมากๆค่ะ ทนไม่ไหวตรงจุดออกจากสมาธิจุดนี้ทุกทีค่ะ T T)
     
  16. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ไม่รู้น้อ สงสัยเราจะเข้าใจไปเรื่อยเปื่อยด้วยจิตที่รู้ว่าบุญเกิดจากใจเรา ในสิ่งที่ทำไม่ว่าอะไรทั้งนั้นที่เกิดจากการคิดดี พูดดี ทำดี และเราไม่รู้ว่าจะได้มากหรือน้อยแต่เราก็พร้อมเสมอที่จะอุทิศบุญนั้น ฉะนั้นขอเป็นกำลังใจกับทุกผู้ทุกนามที่คิดว่าสามารถอุทิศบุญไปให้ใครก็ตามถึงเขาจะได้รับหรือไม่ได้รับเราก็รู้สึกดีไม่ใช่หรือ นั่นไงบุญเกิดกับใจเห็นๆ ฉะนั้นทำไปเถอะค่ะอย่าได้หยุดการอุทิศบุญ เจริญในธรรมค่ะ
     
  17. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    จ๊า ได้ก็ได้ มะเป็นไร จ๊าาาาา
     
  18. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เห็นต่างสักนิด บุญกุศลเกิดจากการกระทำ เมื่อมีการกระทำนั่นก็เกิดแล้วซึ่ง กุศล อกุศล ในบุญในบาป ขณะนั้นเกิดแล้ว เจริญแล้ว สำเร็จแล้ว ที่ไม่เห็นก็เพราะไม่รู้ ไม่พิจารณาให้แยบคาย บางท่านก็พูดว่า เพราะมันไม่รู้จัก
    ไม่ใช่ทำเพื่อตั้งท่า ตั้งหน้า ทำขณะนั้นเห็นขณะนั้นเลยจร้าา
     

แชร์หน้านี้

Loading...