ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

พระพิมพ์ใบโพธิ์สมาธิ สร้างปี 2520 ครับ

มีพิมพ์ใหญ่กับพิมพ์เล็ก มีเนื้อดินเผา, เนื้อผงใบลาน และเนื้อผงพุทธคุณผสมปูน

เป็นพระที่หลวงปู่เมตตาเสก แถม พ.ศ.ลึก นับตั้งแต่ปีที่สร้างถึุงปีนี้ก็ 34 ปีแล้วนะครับ แต่ทำไมราคาไม่แพง คงเพราะว่าพระมีจำนวนมาก คนส่วนใหญ่ที่เก็บส่วนมากจะไปสะสมหรือแขวนแต่พระจำพวกเหรียญมากกว่า ถ้าเป็นเนื้อผงก็เน้นไปที่พระเหนือพรหมพิมพ์ต่างๆครับ ประสบการณ์พระรุ่นนี้เลยไม่เคยได้ยินครับ แต่แขวนได้สนิทใจครับถ้าเราไม่แขวนพระตามกระแสนิยม

 

พระสมเด็จเนื้อดิน 7 ทุ่ง 7 ท่า







ข้อมูลจากพี่สายสิญจน์

พระสมเด็จรุ่นนี้ สร้างราวปี 2503 ซึ่งเป็นข้อมูลสมัย ที่พูดคุยกันกับลูกศิษย์ (หนังสือวัดลงว่า พ.ศ. 2492-2493) โดย สร้างจากดินอาถรรพ์ ดังนี้

1.ข้าวจากนาข้าวที่อุดมสมบูรณ์เจ็ดทุ่ง ถือว่า ให้ผลดีทางด้านความอุดมสมบูรณ์
2.ข้าวร้างนาซึ่งคือข้าวที่หลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวไปแล้วดีทางแคล้วคลาด
3.ผงถ่านโพธิ์ใต้แม่ คือต้นโพธิ์ เล็กๆที่เกิดใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ โดยที่ต้นเล็กจะต้องไม่พ้นร่มเงาต้นใหญ่ ดีทางคุ้มครอง ดุจดัง ลูกรักในความดูแลของแม่
4. ดินเจ็ดท่าน้ำที่คนเดินพลุ่กพล่าน เจ็ดท่า ซึ่งดีทาง ล้างเสน่หยาแฝด
5.ดินโป่ง คือดินที่ มีอาถรรพ์ ซึ่งเชื่อกันว่ามีเทพารักษ์คุ้มครองอยู่
6.ดินขุยปูนา เฉพาะ ขึ้นสามค่ำเดือนสาม ดีทางมหาอุด
7.รังหมาล่าที่เกาะตาพระ หูพระ ที่ร้างแล้ว ในโบสถ์ เป็นดินทีมีความเป็นศิริมงคลอย่างสูง ถ้าขึ้นที่ตาพระประธานข้างซ้าย ก็ต้องปิดตาขวา เวลาขึ้นไปเอา ถ้าขึ้นที่หูซ้ายก็ต้องปิดหูขวาไปเอา เป็นเคล็ดครับ

ส่วนผสมทั้งหมด ต้องไปพลีมาก่อน ส่วนขั้นตอนการสร้างทำตามตำราที่หลวงปู่ได้ศึกษามา แล้วมามากดพิมพ์แต่ ละองค์ แล้วเบิกเนตรตั้งองค์พระทีละองค์ด้วยดินสอ แล้วปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง เดิมทีไม่ค่อยมีใครสนใจเช่าพระรุ่นนี้มากนัก ส่วนใหญ่เช่าบูชาแต่เนื้อผงปัถมัง ลายดินสอ หลวงปู่จึงบอกว่า "เนื้อดินก็เป็นของดี และแรงมากนะ"

บางคนหลวงปู่บอกกับลูกศิษย์ ว่า 'ถ้าข้าเป็นแก ข้าจะเช่าไว้ สัก 2-3 องค์' ซึ่ง หลวงปู่แนะนำให้กับลูกศิษย์ อีกหลายคนให้มีไว้ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ลูกศิษย์จึงหันกลับมาเช่าบูชาพระเนื้อดินรุ่นนี้และหมดก่อนเนื้อผงปัถมัง ลายดินสอ แต่สุดท้ายก็หมด ทุกอย่าง

ประสปการณ์รุ่นนี้ มีผู้ไปใช้อาราธานาทำน้ำมนต์ล้างคุณไสย์ ซึ่งได้ผลชงัดจึงกลับไปเหมาที่วัดเป็นจำนวนมากในสมัยนั้น (ดูหนังสือ ของทางวัดหน้า 166-167 ส่วนข้อมูลเรื่องมวลสาร ได้มาจาก หลวงลุงดำครับซึ่งเป็นข้อมูลจริงและได้มาจริง รวมทั้งข้อมูลที่ผมได้ยินมาเองสมัยนั้นทั้งสิ้น)

มีคำแนะนำจากหลวงพ่อสายหยุด ว่าถ้านำพระรุ่นนี้ทำน้ำมนต์อย่า แช่นานเพราะเป็นเนื้อดินนะครับ และครั้งหนึ่งมีศูนย์พระเครื่องชื่อดัง ไปเช่ามาจำหน่ายที่ศูนย์พระตนเองที่พันทิพ ประตูน้ำ หลายร้อยองค์ ประจวบเหมาะกับ มี เศรษฐีภูเก็ตเรืองอาคมสายเขาอ้อท่านหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านพระ เมื่อได้ สัมผัสกับพระเครื่องรุ่นนี้ ถึงกับบอกกับเจ้าของศูนย์ว่า ขอเหมาหมดเป็นจำนวน หลายร้อยองค์ เป็นเงินหลายแสนบาทที่เดียว ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่า พระสมเด็จรุ่นนี้ดีเพียงใด

 

แจกครับแจกเนื่องในโอกาสที่ผมปลดประจำการจากทหารเกณฑ์ และบูชาคุณครูบาอาจารย์ มี หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด

จึงขอแจกผ้ายันต์สกรีนรอยฝ่ามือของหลวงปู่ดู่ จำนวน 50 ผืน
ให้ท่านที่สนใจขอรับผ้ายันต์ ลงชื่อในกระทู้นี้เท่านั้น และทำตามกติกาดังนี้

1.ลงชื่อ user name ขอรับผ้ายันต์ในกระทู้นี้
2.ส่งซองเปล่า พร้อมสอดซองเปล่าอีกใบ + เงินอีก 20 บ.เป็นค่าส่งลงทะเบียน
3.วงเล็บมุมซองด้วยชื่อ user name ของท่านให้ชัดเจน

แล้วผมจะทำการจัดส่งให้ทุกท่านครับ ขอขอบคุณ อ.วิทยา สำหรับความอนุเคราะห์มอบผ้ายันต์ให้ผมในครั้งนี้ด้วยครับ ^^"

ผ้ายันต์สกรีนรอยฝ่ามือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ



จัดสร้างโดย อ.วิทยา วราสวัสดิ์ จากมหาวิทยาลัยแ่ม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ท่านอาจารย์ได้กรุณาส่งมาให้ผมจำนวนหนึ่งเพื่อแจกให้แก่สมาชิกเวบพลังจิตที่ศรัทธาในองค์หลวงปู่ดู่ ซึ่งผ้ายันต์ทั้งหมดท่านอาจารย์ได้นำไปขอความเมตตาจาก หลวงปู่ครูบาตั๋น ปัญโญ สำนักสงฆ์ม่อนปู่อิน จ.เชียงใหม่ เมตตาอธิษฐานจิตให้ (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 3 เดือนเชียว) ถึงผ้ายันต์นี้แม้จะไม่ทันหลวงปู่ดู่โดยตรง แต่ได้รับความเมตตาจากพระสุปฎิปันโน จากองค์หลวงปู่ครูบาตั๋น และมีรอยมือของหลวงปู่ดู่ประทับอยู่แล้วถือเป็นยอดมงคลของเหล่าผู้ศรัทธา ควรค่าแก่การมีไว้บูชาประจำบ้านเรือนยิ่งนัก

ขอเล่าเรื่องบังเอิญที่ได้ผ้ายันต์จากอาจารย์วิทยา มาแจกแก่บรรดาเพื่อนๆให้ได้ฟังกันสักหน่อย คือผมกับอาจารย์ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย จนผมเข้ามาเกณฑ์ทหารตอนนี้ก็ได้ 5 เดือนกว่าแล้ว จนเมื่อสองสัปดาห์่ก่อนอาจารย์ก็โทรมาหาผมได้คุยกันและได้ทราบถึงเจตนาของอาจารย์แล้วผมก็ยินดียิ่งนัก นี่ขนาดอยู่ในค่ายไม่ได้เล่นเน็ทเหมือนก่อน ไม่มีหนทางติดต่อผู้คนบนโลกไซเบอร์ แต่ก็ยังมีเหตุให้ต้องได้มาเจอกันจนได้ ใครจะว่าเป็นเรื่องบังเอิญยังไงแล้วแต่ แต่ผมคิดว่าการที่ได้มาพบกันถือเป็นวาสนา และผมคิดว่าองค์หลวงปู่ดู่ ท่านไม่ได้จากเราไปไหนเลย อยู่ใกล้ๆเราตลอด (พิมพ์ไปก็ขนลุก) จากเหตุการณ์นี้ผมปิติมากครับ อย่างไรขออนุโมทนาบุญกับ อ.วิทยา และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านนะครับ

 

เดี๋ยวสองสามวันนี้ผมจะไปทัวร์ทำบุญที่จังหวัดเชียงใหม่ - ลำพูน ท่านใดลงชื่อไว้แล้วว่างๆ จะช่วยรวบรวมรายชื่อเรียงลำดับทั้ง 50 ท่านให้ผมด้วยก็ดีนะครับ ขอบคุณครับ ^^