เปิดตำนานหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่

ขอบคุณพี่ๆทุกท่านสำหรับกำลังใจครับ ^^
รถเสียหายยังซ่อมได้แต่ร่างกายเสียแล้วเสียเลย
ขอบคุณอาจารย์แก้วสว่างสำหรับลูกอมครับ
และขอบคุณพี่ใจดีที่ระยองสำหรับเศียรโต
ปล.คุยกับลุงรถลากแกบอกใครมีพระหลวงพ่อทิมแล้วเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่ค่อยเป็นไร
แกก็มีขุนแผนเล็กอยู่ครับตกทอดมาจากยาย

 

เยี่ยมมากครับคุณเก่ง สุดยอดประสบการณ์ครับ
ดีใจด้วยจากใจจริง ที่ผ่านเหตุการณ์มาได้ด้วยความปลอดภัยครับ

อย่างที่คุณเก่งบอกครับรถพังพอหาอะไหล่เปลี่ยนได้
แต่พวกเราอะไหล่ไม่มีครับ

 

คุณkeng 29 ขุนแผนเล็กที่แขวนวันนั้นใช่ได้รับจากอาจารย์แก้วสว่างรึเปล่าครับ

 

ไม่ใช่ครับ ได้มาจากอีกที่ครับ ^_^

 

กลับบ้านไปแต่ละครั้ง พ่อกะแม่ก็บ่นๆอยู่เหมือนกันครับพี่ตรีรัตน์ แต่ให้ทำไงได้ เด็กกำลังโต (ไม่รู้โตเกินไปรึปล่าว) ไข่เจียวเป็นอะไรที่ไม่ค่อยผิดหวังครับ เพราะทุกๆร้านจะทำอร่อยเหมือนกันหมด

สำหรับรางวัลที่1 ให้พี่โต้งไปก็ได้ครับ
แต่รางวัล2-3 ตัวนี้มีอะไรบ้าง ใครได้เลขมาอย่าลืมมากระซิบบอก ด้วยนะครับ

น๊าม่อมหายไปไหนครับเนี่ย มารายงานตัวหน่อยครับ

 

สวัสดียามค่ำครับคุณโต้ง ทานมื้อค่ำให้อร่อย นอนหลับฝันดีเห็นตัวเลขกระซิบในนี้ด้วยนะครับ

 

ดูไกลๆนึกว่าลูกอมเนื้อกะยาสารท พอมาดูใกล้ๆ อ้าวว..ข้าวไข่เจียวหมูสับนี่เอง

 

ขอเป็นศิษย์หลวงปู่ทิมด้วยคนนะครับ ขอบคุณครับ

 

ยินดีต้อนรับครับ พี่ๆน้องๆในกระทู้ใจดีทุกคนครับ

 

น้องม่อม ยินดีต้อนรับคับ

และน้าๆ ด้วย น้าโต้ง น้าต๋อย อิอิ

 

สวัสดีครับอาจารย์ พี่โต้ง พี่เตอร์ พี่อาท พี่ภู เม่น เอ็ม และพี่ๆเพื่อนๆอีกหลายๆคนครับ
วันนี้ขอให้ รวย รวย รวย รวย รวย กันนะครับ

 

สวัสดียามเช้าครับ มีคนเยี่ยมชมกว่าพันคนแล้ว

สมาชิกที่ได้อ่านกระทู้นี้แล้ว : 1005 (Set)

 

จิงด้วยคับ เผลอแป๊ปเดียว พันกว่า...

หวัดดีทุ๊กคน พี่ๆ น้าๆ อาๆ คับ ช่วงนี้ฝนตก รักษาสุขภาพกันด้วยนะคับ

 

วันนี้ ไม่บอกรักไคแล้วเหรอคับ ...พี่ PPond
"หวัดดีคับ พี่รัก........"

 

ขอกราบหลวงปู่ทิม
สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง โต้ง และเพื่อนๆทุกคน ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับ และมีความเจริญในหน้าที่การงานครับ บารมีหลวงปู่ทิมคุ้มครองทุกท่านครับ

 

หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่

[FONT=&quot](ต่อจากตอนที่แล้ว) ภายหลังจากที่พระทิมท่านได้เดินทางไปหาหลวงพ่ออี๋ที่วัดสัตหีบเพื่อที่จะขอเรียนวิชาการเสกปลัดขิกซึ่งหลวงพ่ออี๋ท่านก็ได้แนะเคล็ดวิชาการเสกปลัดขิกให้พระทิมซึ่งคาถาการเสกนั้นไม่ยากเพียงแค่การใช้จิตหรืออยู่ที่จิตของผู้เสกเท่านั้น ซึ่งจิตของผู้เสกนั้นซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเสกปลัดขิก หลังจากที่พระทิมท่านได้เดินทางจากวัดสัตหีบกลับมายังวัดละหารไร่ ซึ่งพระทิมท่านก็ได้คำแนะนำเรียนรู้การเสกปลัดขิกจากหลวงพ่ออี๋มา จากนั้นพระทิมท่านก็ได้ทำการทดลองวิชาการเสก ซึ่งหลังจากพระทิมท่านทำวัตรเย็นเสร็จ จากนั้นท่านก็ได้นำปลัดขิกตัวเดิมที่ท่านเคยเหลาเองมาเสกตั้งแต่เมื่อครั้งก่อน โดยที่ท่านได้นำปลัดขิกนั้นใส่ในบาตรเหมือนเดิม จากนั้นท่านก็ได้ทำการเสกตามคำแนะนำของหลวงพ่ออี๋โดยในครั้งนี้พระทิมท่านได้สำรวมจิตของท่านโดยมุ่งที่จะใช้พลังจากสมาธิจิตเป็นส่วนสำคัญในการเสกปลัดขิก ซึ่งพระทิมท่านได้ใช้จิตในการเสกอยู่พักใหญ่ซึ่งผลปรากฏว่าปลัดขิกก็ยังวางอยู่ในบาตรดังเดิมไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ซึ่งพระทิมท่านอาจจะคิดได้ว่าจิตของท่านยังไม่สามารถทำให้ถึงขั้นที่ว่าจะทำให้ปลัดขิกนั้นมีจิตวิญาณของมันขึ้นมาได้ จากนั้นพระทิมท่านก็ได้ลองเสกอีกอยู่พักใหญ่ก็ไม่สามารถทำให้ปลัดขิกนั้นมีการเคลื่อนไหวไม่ และพระทิมท่านก็ได้ทำการทดลองเสกอยู่สามถึงสี่วันโดยที่ท่านพยายามเสกปลัดขิกตามที่ท่านใช้จิตของท่านตามจุดประสงค์หลักของท่านที่ได้ใช้ในการปลุกเสกปลัดขิกขึ้นมา ซึ่งท่านก็พยายามทดลองอยู่หลายครั้งซึ่งผลก็เป็นดังเดิมคือปลัดขิกก็ยังนิ่งอยู่ในบาตรเหมือนเดิม ซึ่งบางครั้งถ้าเป็นคนอื่นๆก็ย่อมต้องย่อท้อเหมือนกันเมื่อทดลองหลายครั้งแล้วไม่ประสบผลสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจไว้ พระทิมท่านไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้น ท่านยึดมั่นเสมอเมื่อการที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดแล้วก็ต้องเรียนให้สำเร็จให้ได้ ซึ่งก็เปรียบเหมือนปณิธานที่พระทิมท่านได้ตั้งใจไว้ตั้งแต่เมื่อแรกที่ท่านได้เรียนวิชาอาคมต่างๆ ซึ่งการปลุกเสกปลัดขิกของพระทิมในครั้งนี้ท่านก็ยังไม่สามารถทำให้ปลัดขิกนั้นประสบผลสำเร็จได้อย่างที่ได้ตั้งใจไว้ ซึ่งขณะนั้นเองหลวงพ่อเหลือแห่งวัดสาวชะโงกซึ่งเป็นเกจิชื่อดังที่ปลัดขิกของท่านเลื่องลือและชื่อเสียงขจรไกลมากในยุคสมัยนั้นและมีลูกศิษย์ลูกหามากมายและปลัดขิกของหลวงพ่อเหลือท่านก็มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย อีกทั้งวัดสาวชะโงกเองก็เป็นแหล่งต้นกำเนิดของปลัดขิกขึ้นมา ซึ่งโดยตามประวัติเก่าดั้งเดิมนั้นมีหลวงพ่อขริกอดีตเจ้าอาวาสวัดสาวชะโงกซึ่งเป็นต้นกำเหนิดในการสร้างและปลุกเสกปลัดขิกขึ้นมา พระทิมท่านก็ครุ่นคิดได้ดังนั้นพอวันรุ่งขึ้นท่านก็ได้เดินทางออกจากวัดละหารไร่ทันทีเพื่อมุ่งสู่วัดสาวชะโงก อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทราจุดประสงค์เพื่อที่จะขอเรียนวิชาการเสกปลัดขิกกับหลวงพ่อเหลือ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งสมัยก่อนนั้นฉะเชิงเทราจะเรียกกันว่าแปดริ้ว ซึ่งการเดินทางไปณ.ที่นั้นต้องใช้เวลา[/FONT] 2-3 [FONT=&quot]วันกว่าจะเดินทางถึงวัดสาวชะโงก (ติดตามตอนต่อไป)<o></o>[/FONT]

 

สวัสดีครับอาจารย์แก้วสว่าง จะรอติดตามตอนต่อไปนะครับ ขอบคุณครับสำหรับประวัติและตำนานของหลวงปู่ทิม

 

ข่าวเล่าสู่กันฟัง



<link rel="File-List" href="file:///C:%5CUsers%5CASUS%5CAppData%5CLocal%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <wunctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <wontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-2130706429 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-520077569 -1073717157 41 0 66047 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ฮือฮา-ครูขนลุก ถ่ายติดวิญญาณ<o></o>
คล้ายคนโบราณ! ผอ.ร.ร.ทำบุญใหญ่

ครู เมืองกรุงเก่าถ่ายภาพกิจกรรมวันแม่ภายในโรงเรียนเพื่อทำรายงานส่งจังหวัด นำภาพลงคอมพิวเตอร์เปิดดูถึงกับตกใจขนหัวลุก เจอชัตเตอร์กดวิญญาณ มีภาพคล้ายคนโบราณร่างกาย สูงใหญ่กำยำในมือถือดาบยืนจังก้า เชื่อเป็นวิญญาณ “พระเจ้าปราสาททอง” กษัตริย์สมัยอยุธยามาปรากฏ ผอ.พร้อมเพื่อนครูเตรียมทำบุญครั้งใหญ่เพื่อขอขมา พร้อมก่อสร้างอนุสาวรีย์ประดิษฐานหน้าเสาธงให้ครูนักเรียนกราบไหว้บูชา

เรื่อง ราวเหนือคำอธิบายเข้าทำนอง “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” รายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีครูคนหนึ่งในโรงเรียนปราสาททองวิทยา ตั้งอยู่หมู่ 6 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ถ่ายรูปออกมามีเงาภาพคล้ายคนโบราณ สร้างความแตกตื่นให้กับครูอาจารย์และผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบผู้บริหารของโรงเรียนและครูอาจารย์ รวม 6 คน ยืนมุงดูภาพที่ปรากฏขึ้นที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์ กันไปต่างๆนานา โดยภาพดังกล่าวเป็นลักษณะเงาคล้ายคนโบราณ รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ในมือถือดาบยืนกางแขนและขา ดูน่าเกรงขามอยู่หน้าป้ายโรงเรียน โดยครูอาจารย์เชื่อกันว่าภาพที่ปรากฏน่าจะเป็นวิญญาณของพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์ในสมัยกรุงศรีอยุธยามาปรากฏให้เห็น

นายเพทาย บุญประคอง ผอ.โรงเรียนปราสาททองวิทยา เปิดเผยว่า โรงเรียนอยู่ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 โดยเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็น “วันแม่แห่งชาติ” โรงเรียนได้ประดับไฟรั้วอย่างสวยงาม ประกอบกับจังหวัดมีโครงการ “อยุธยาสะอาด หน้าโรงเรียนน่ามอง” จึงได้มอบหมายให้ครูถ่ายภาพตอนกลางวันเก็บไว้ ส่วนกลางคืนมอบหมายให้นางบุญเรือน เกตุพันธ์ อายุ 49 ปี ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ เป็นผู้ถ่ายภาพ เพื่อจะได้เก็บรวบรวมภาพทำรายงานส่งจังหวัดในวันที่ 17 ส.ค.นี้ แต่เมื่อนำภาพมาเปิดดู ปรากฏว่ามีภาพคล้ายคนโบราณรวมอยู่ด้วย เป็นภาพที่ถ่ายบริเวณป้ายโรงเรียน ตอนแรกที่เห็นตกใจขนลุกซู่จนบอกไม่ถูก ปกติเรื่องแบบนี้ตนจะรู้สึกเฉยๆเพราะเรียนจบเอกวิทยาศาสตร์มา ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ แต่เมื่อพิจารณาแล้ว ประกอบกับนางบุญเรือนผู้ถ่ายภาพ ยืนยันว่าไม่ได้ตัดต่อ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก

นายเพทายกล่าวอีกว่า ภาพที่ปรากฏออกมา ทำให้นึกถึงประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา พระเอกาทศรถ ได้นางอินเป็นภรรยา ตั้งชื่อว่าอำเภอบางปะอิน มีลูกคือพระเจ้าปราสาททอง ต่อมานายลมูล เมืองขุนรองบำรุง ซึ่งเป็นนายอู่ไม้บางปะอินในขณะนั้นได้สร้างโรงเรียนแล้วตั้งชื่อว่า โรงเรียนเมืองขุนรองบำรุง มาจนกระทั่งปี 2507 ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนใหม่เป็น “โรงเรียนปราสาททอง” ตามประวัติศาสตร์ โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2554 ตนได้ทำป้ายโรงเรียนขึ้นมาใหม่ ในครั้งนั้นไม่ได้ทำพิธีบวงสรวง หรือบอกกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้โรงเรียนยังมีโครงการจะรื้ออาคารเรียนด้านหน้าทิ้งเพื่อทำเป็นสนาม แต่กลับมีเงาของคนโบราณ เชื่อว่าเป็นพระเจ้าปราสาททองมาปรากฏให้เห็นเหมือนต้องการจะมาบอกหรือเตือน อะไรบางอย่าง ดังนั้น ในเร็วๆนี้จะให้ครูอาจารย์นำของมาเซ่นไหว้เพื่อขอขมาและจะทำบุญโรงเรียน ครั้งใหญ่ หลังจากรื้ออาคารเรียนด้านหน้าออกและดีดอาคารด้านหลังให้สูงขึ้นเพื่อหนีน้ำ ท่วมแล้ว นอกจากนี้ก็จะสร้างอนุสาวรีย์พระเจ้าปราสาททองประดิษฐานไว้หน้าเสาธงให้นัก เรียนและประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้สักการบูชาต่อไป

ด้านนางบุญเรือน เกตุพันธ์ ครูผู้ถ่ายภาพ เปิดเผยว่า เป็นครูสอนประวัติศาสตร์ สอนหนังสือมานานร่วม 28 ปีแล้ว วันนั้นได้ใช้กล้องดิจิตอลยี่ห้อโซนี่ DSCW230 ถ่ายภาพ ขณะถ่ายเวลาประมาณ 19.00 น. ยืนถ่ายภาพได้ทั้งหมด 14 ภาพแล้วกลับบ้าน พร้อมลงภาพไว้ในแฟลชไดรฟ์ พอรุ่งเช้าของวันใหม่ไปโรงเรียนนำภาพไปลงคอมพิวเตอร์แล้วเปิดดูพบว่า ภาพสุดท้ายปรากฏเป็นภาพคล้ายคนโบราณยืนอยู่หน้าป้ายโรงเรียน ตอนแรกที่เห็นตกใจขนลุกซู่ เพราะตอนที่ถ่ายไม่มีใครอยู่ ยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ปกติเรื่องแบบนี้ตนไม่เคยเชื่อ แต่พอมาประสบกับตัวเองทำให้นึกถึงพระเจ้าปราสาททองขึ้นมาทันทีว่าท่านมา เตือนอะไรเราหรือเปล่า<o></o>

 

สวัสดีครับพี่ชัช ขอให้พี่มีความสุขเช่นกันครับพี่

 

กราบองค์หลวงปู่ทิม และสวัสดีพี่ทุกท่านครับ