เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. gim

    gim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,398
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่พระครูบุญศรี ครับ
    สวัสดีครับ พี่พี พี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่านครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  2. nu_wa

    nu_wa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,740
    ค่าพลัง:
    +10,698
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรีครับ

    เห็นภาพประวัติศาสตร์การหล่อพระ แรงศรัทธาที่มี บอกคำเดียวสุดๆๆเลยครับ
     
  3. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,321
    ค่าพลัง:
    +11,307
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี หลวงปู่อั๊บ ครูบาอาจารย์ ครับ


    วันนี้หลังเลิกเรียน รู้สึกแปลกๆครับ เลยขับรถระวังๆ ตอนกลับมาหอ ตอนบ่ายๆมีธุระ ต้องออกไปข้างนอก ประชุมโครงงาน แต่กระวนกระวายใจ ทำให้ไม่อยากไป เลยตัดสิ้นใจไม่ออกจากห้อง ปรากฏว่าตอนบ่ายเกิดเรื่อง ผมเพิ่งทราบข่าว ทางที่ผมผ่าน เกิดเรื่องครับ มีคนประสบอุบัติเหตุ ถึงแก่ความตาย คนนั้น เป็นเดือนคณะปีหนึ่ง ทำตัวไม่ถูกเลยครับพี่
     
  4. ชาวประมง

    ชาวประมง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    4,657
    ค่าพลัง:
    +22,538
    บุญรักษาครับตั้น ผ่านไปได้ก็ดีเเล้วครับ
     
  5. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    เป็นช่วงที่เราได้คุยกันหรือเปล่าตั้น.....

    เฮ้อ...ได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกใจคอไม่ดีเหมือนกัน
    โชคดี บุญรักษาตั้นนะ....
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ไม่เครียดครับ.......................แหะๆ
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    ศิษย์มีครูน่ะ....ครูจะไม่ทอดทิ้ง....แหะๆ
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    วันนี้ขอตัวก่อน ไปออกกำลังมา ไม่ได้ออกนานแล้ว ....เหนื่อยครับ พรุ่งนี้มาเล่าต่อ กำลังจะเข้าใกล้จุดไคลแมกซ์ ของพระชุดแพโบถส์น้ำแล้วครับ
     
  9. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,222
    กราบหลวงปู่บุญศรี
    กราบหลวงปู่อั๊บ
    กราบหลวงพ่อทรง

    ตามอ่านชนิดหายใจรดต้นคอครับ
    ออกกำลังแต่น้อยๆ
    ทำบ่อยๆ
    เดี๋ยวดีเองครับ
     
  10. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,222
    ตั้นเอ๊ย
    คนดีผีคุ้ม
    ให้คิดดีทำดีเอาไว้
    ทำอะไรก็อย่าประมาทเด้อ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ๕) แท่งชนวนนวโลหะของแท้อย่างดีที่ผ่านพิธีหลวงและช่างหลวงหล่อรวมซ้ำๆกันมาหลายวัดเป็นต้นว่า วัดพระแก้วฯ, วัดบวรฯ เนื้อชนวนมาจากเนื้อทองสัมฤทธิ์โบราณจากองค์จริงหลวงพ่อมงคลบพิธ จังหวัดอยุธยา เนื้อชนวนจากงานพิธีหลวงเนื่องในการหล่อ สมเด็จพระพุทธนวราชบพิตร, สมเด็จจิตรดา วัดพระแก้วฯ, ชนวนพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ปวเรศ ๖๐ พระชันษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ วัดบวรฯ เนื้อชนวนจากการหล่อพระเครื่องของหลวงปู่พรหมา เขมจาโร วัดผาหินนางคอย ฯลฯ และยังมีอีกหลายวัดหลายพิธีที่มีโลหะหล่อซ้ำๆสะสมกันมาโดยท่านอาจารย์อนันต์ได้เก็บรวบรวมและหล่อเป็นแท่งไว้ เนื้อชนวนทั้งหมดน้ำหนักประมาณ ๓ - ๔ กิโล บริจาคโดยท่านอาจารย์ อนันต์ สวัสดิสวนีย์ ( ผ.อ. ช่างสิบหมู่ กรมศิลปฯ)


    รายการนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะไม่ได้ถ่ายครับ ถ่ายไม่ทันครับเพราะตอนนั้นยุ่งมาก แต่เนื้อจะออกสีคล้ายๆแบบองค์นี้ เป็นสีนาก และถ้าโดนเหงื่อจะกลับดำคล้ำลงเรื่อยๆ เป็นสูตรของอาจารย์อนั้นต์น่ะครับพระของท่านที่เป็นโลหะ เนื้อจะออกแนวๆนี้

    นพเกล้า 2.JPG

    น่าจะทองชุดเดียวที่เกี่ยวข้อง เป็นพระของอาจารย์อนนันต์อีกรุ่นที่เจตนาดีตามสไตล์ของท่านอาจารย์อนันต์ ไม่ใช่พุทธพานิช อาจารย์อนันต์ ที่ทำให้หลวงปู่พรหมาปลุกเสก แจกฟรี และตอนขึ้นบ้านใหม่มีของเหลือ เสกมาอีกหลายครั้ง ท่านเอามาให้หลวงปู่พรหมาแจกฟรีแก่ผู้เข้ามาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ ผมเลยได้มากับมือหลวงปู่ท่านอีกองค์ ...แหะๆ

    โลหะอาจารย์อนันต์ท่านเอามาให้ในตอนเช้าวันเท ตอนนั้น ทองสำหรับเทพระประธานทั้งสี่เบ้า ได้หลอมทองจนสุกมาตั้งแต่คืนก่อนห้า ( ผมเล่าย้อนไปย้อนมาล่ะตอนนี้ แต่เนื่องจากจะเอาเรื่องพระชุดแพโบถส์น้ำมาก่อน ก็ต้องไปอย่างนี้ล่ะครับ ) ส่วนทองสำหรับเทพระกริ่งโดยคณะช่างอีกช่างมาในตอนเช้าของวันเท มาตั้งเตาและเบ้าหลอมทองในตอนเช้า กว่าทองจะละลายก็สายพร้อมที่หลวงปู่ท่านจะมาเทพอดี

    ผมเห็นว่า มีงานหลายอย่างรอยุ่งๆอยู่ เลยเอานวโลหะใส่ไปในเบ้าพระประธาน จะได้ละลายพร้อมไปก่อนหน้านั้น มาคิดดูเพราะประสบการณ์ของผมในการสร้างพระโลหะในตอนนั้นมีน้อย ถ้าเอามาใส่ในเบ้าพระกริ่ง น่าจะดีกว่าในแง่เนื้อโลหะ และพวกนวโลหะ ละลายไม่ยากเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากทองละลาย และหลังจากใส่ทองคำที่เบ้าพระกริ่ง ช่างก็จะตักทองจากเบ้าพระกริ่ง ไปใส่ทุกเบ้า และ เอาทองจากเบ้าพระประธานมาผสมกัน เพราะในเบ้าพระประธานทั้งสี่เบ้าจะมีเนื้อเงิน เนื้อโลหะพวกผสม ซึ่งละลายยากใส่ไปก่อน เช่น ถาดเงิน เข็มขัดเงิน โลหะพวกอื่นๆ ซึ่งมีมากจะบรรยายกันในความเห็นต่อไป

    ทองพวกนี้ ช่างบอกว่าละลายยากโดยเฉพาะพวกเหรียญสตางค์ ถ้าเอามาใส่ตอนจะเริ่มเทจะละลายไม่ทัน จะทำให้มีปัญหาคือตอนเทจะไปอุดรูน้ำทองซ่ะอีกทำให้มีปัญหาน้ำทองไม่เดิน ส่วนทองคำนั้นละลายง่าย พอจะเท ค่อยเอามาใส่ พอทองละลายแผ่ซ่านดี ก็ตักแบ่งเบ้าต่างๆ แล้วเท ได้สบายๆ จะเห็นว่าในการเททองพระ ทองคำจะมาใส่ในรายการสุดท้ายจะประธานในพิธีทั้งนั้น เช่นถ้าพิธีหลวงก็จะใส่ทองโดยพวกเจ้านายทั้งหลาย ถ้าพิธีของพระอาจจะใส่ทองโดยอธิบดีสงฆ์ในที่นั้นๆ เป็นผู้นำจัดว่าเป็นผู้มีบุญ

    ทองชนวนแท่งนี้ผ่านพิธี แบบทับถมมามากหลายพิธีและเป็นพิธีใหญ่ๆแบบพิธีหลวงแทบทั้งสิ้น พิธีแบบนี้ผมชอบ เพราะเจ้าพิธี คนมาเททองจะเป็นเจ้านายหรือ พระที่มี บุญบารมีสูงเป็น เจ้าคนนายคน เป็นบุญฤทธิ์ที่ เพิ่มมาจากอิทธิฤทธิ์ จากการปลุกเสกด้วยญาณสมาบัติ และมีที่เด็ดคือ มีทองสัมฤทธิ์ จากองค์พระหลวงพ่อมงคลบพิตร แท้ๆ ที่ เหลือจากการซ่อม หลวงพ่อมงคลบบิตร น่าจะเกือบๆ ร้อยปีมาแล้ว เนื่องจากองค์หลวงพ่อมงคลบพิตรชำรุดเสียหายมากมาตั้งแต่ครั้งกรุงแตก ทางช่างหลวงได้ทำการซ่อม และ ตัดเนื้อส่วนที่ชำรุด เนื่องจากท่านองค์ใหญ่ เมื่อตัดออกมา หนักหลายสิบกิโล เนื้อตรงนี้จากรูปพรรณสันฐานน่าจะเป็นเนื้อจากซอกนิ้วพระหัตต์ขององค์หลวงพ่อ ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อพระกรจากที่เขาเขียนๆกัน อันนี้ผมฟังจากปากท่านอาจารย์อนันต์เอง เนื้อโลหะนี้ถูกเก็บมานานในพระคลังหลวง จนจำได้ว่ากรมศิลจะมีการหล่อ องค์พระศรีศากยะทศพลญานประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์ที่พุทธมลฑล ให้แล้วเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๒๑ ก็มีการระดมทองเอามาเท ในการเท เนื่องจากเป็นพระสำคัญ และ เป็นพระองค์ใหญ่ ต้องใช้ทองมาก และต้องคัดทองให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นโลหะ สัมฤทธิ์ ตามสูตรของช่างหลวงโลหะเก่าๆที่หมดยางแล้ว ก็จะถูกคัดออก ( อันนี้ผมเล่าไปตามความคาดการณ์ของผมตามประสบการณ์การเทพระมา ) เพราะโลหะที่หมดยางแล้ว เอาไปผสมอาจจะมีปัญหาทำให้เนื้อกรอบ แตก ไม่สวย ถ้าเทพระองค์เล้กพวก พระเครื่องก็จะไม่เท่าไหร่ เพราะเสียก็คัดออก หรือ หลอมใหม่ และอาจจะดูสวยด้วยถ้าเนื้อพระไม่กลืนกัน แต่กับพระองค์ใหญ่ๆ แล้ว เป็นคนละ concept เนื้อจะต้องกลืนและเข้ากัน จะแต่งง่ายกว่า ดูดีกว่า พระองค์ใหญ่ๆ เนื้อไม่กลืนกัน ซ้ำ โลหะ ถ้ามาลั่น มาแตกมาร้าว ก็ยุ่งเลย เพราะซ่อมยาก ช่างต้องเก่งจริงๆ ยิ่งไปซ่อมอาจจะยิ่งแตกร้าวมาอีก จะหล่อใหม่ การหล่อทองเยอะๆ ใช้เงินมากเพราะเพราะต้องใช้ไฟเยอะ ใช้พลังงานมาก ทองเยอะหลายเบ้าจะยุ่งยากมากไปอีก ที่เล่าเพียงแต่จะบอกว่า ของทองก้อนสำคัญเป็นซึ่งทองเก่า รุ่นกรุงศรีอยุธยา อาจจะกรอบๆผุๆพังๆไปบ้างเพราะมีอายุหลายร้อยปี ผ่านการปลุกเสกและผ่านประวัติของชนชาติไทยมายาวนานนี้ ถูกคัดออก และ ส่งผ่านกันมาถึงมือผู้มีบุญ
    ท่านผู้นั้นก็เอาผสม ทำพระเล็กพระใหญ่ แจกจ่ายกันไปหลายสิบปี ทำให้ของที่มีมงคลนี้กระจายไปยังผู้ที่รอรับส่วนบุญ ท่านใดได้ไปจัดว่ามีพระของ ของคู่บ้านคู่เมือง มีองค์พระมหากษัตริย์หลายสิบองค์ มีพระเก่งๆ ในยุคเก่าน่าจะหลายร้อยองค์ ทำพิธีมา จัดว่ามีมงคลน่ะครับ พูดได้มากแค่นี้แหละครับ ...แหะๆ

    กริ่งมงคลบพิตร.JPG ชัยวัฒน์ หน้า.JPG ชัยวัฒน์หลัง.JPG

    หลวงปู่ดู่.JPG

    เนื้อทองจากองค์หลวงพ่อมงคลบพิตร จะมีลักษณะแบบนี้น่ะครับ พระหลายองค์นี้ เทมาจากเนื้อ โลหะ สัมฤทธิ์จากองค์หลวงพ่อมงคลบพิตร ล้วนๆ ไม่มีอะไรเจือปน และผ่านพิธีหลวงมาหลายงาน ผ่านการปลุกเสกจาก พระ ที่ทรงคุณมาหลายสิบองค์มาก อาจจะเป็นร้อยๆ องค์น่ะครับ ทั้งปลุกเสกหมู่ หรือ เดี่ยว ก็กราบขอบพระคุณอย่างสูง แก่ผู้ที่ให้ผมมาด้วยเจตนาบริสุทธิ์น่ะครับ ของให้ท่านมีความสุข ความเจริญ สำเร็จในธรรม และของเหล่านี้จะเป็นของประจำตระกูลผมไป นานเท่านาน...แหะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2011
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    IMG_0015.jpg IMG_0016.jpg IMG_0017.jpg

    IMG_0018.jpg IMG_0019.jpg IMG_0020.jpg

    IMG_0021.jpg IMG_0022.jpg IMG_0023.jpg

    IMG_0024.jpg

    ๖) ถาดเงินจำนวน ๕ แผ่น ( น้ำหนัก ประมาณ ๖ กิโล ) ที่หลวงปู่อธิฐานจิต และลงยันต์พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์, รวมกับโลหะเงินอื่นอีก เป็นต้นว่า เข็มขัดเงินเก่าและใหม่ แหวนเงิน กรอบพระเงิน สายสร้อยเงิน กำไลเงิน ช้อนส้อมเงิน ถ้วยรางวัล ที่หนีบกลักไม้ขีดเงิน เหรียญเงินเก่าและใหม่ เงินพดด้วง เศษโลหะเงินอีกหลายชนิด รวมทั้งสิ้นเป็น โลหะเงินน้ำหนักประมาณ ๑๕ - ๒๐ กิโลกรัม บริจาคโดยคณะศิษย์หลายท่าน

    พวกโลหะนี้ผมถ่ายรูปไว้เฉพาะที่รวบรวมได้น่ะครับ มีโลหะที่เขาเอามาถวายหลวงปู่ต่างหากที่ผมไม่ทันได้ถ่ายรูปเพราะบางทีเขามาตอนเช้าวันงาน หรือมาก่อนวันงานตอนที่หลอมทอง เขาเอาใส่กันเอง หรือ มาใส่กันเองในวันงานเลยไม่รู้ว่าอะไรบ้าง อาจจะเป็นพวกเงิน ทอง นาก เหรียญเศษสตางค์ เศษเงิน เศษทอง เศานาก แหวน กำไร เข็มขัด บางอย่างก็ทันเห็นแต่ไม่ได้ถ่ายรุปไว้ และเนื่องจากเททองพระประธานด้วยโลหะพวกนี้อาจจะไปลงเบ้าประธาน และไปเทรวมอยู่ที่องค์พระประธาน แต่หลักๆจะเป็นทองเหลืองอย่างดีที่ช่างจัดมาให้

    ถาดเงินนี่เป็นเงิน sterling ที่ใช้ในสายการบินยุคเก่าๆ เพื่อนที่บริษัทเชลล์ ให้มาร่วมงาน นอกนั้นยังมีอีกหลายอย่างผมจำไม่ได้ จัดว่าเป็นโลหะผสมก็แล้วกันน่ะครับ<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2011
  13. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ... ครับ
    เข้ามาทักทายกันช่วงสาย ก่อนไปทำงาน
     
  14. G.sis.t

    G.sis.t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    2,321
    ค่าพลัง:
    +11,307
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ

    ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่าน ครับ
     
  15. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
     
  16. gim

    gim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,398
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรง ครับ
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่พระครูบุญศรี ครับ
    สวัสดีครับ พี่พี พี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่านครับ<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ขอบันทึกไว้หน่อย


    เมื่อวานผมดูข่าวต่างประเทศใน ทีวี เกี่ยวกับรังสีรั่วที่ ฟูกุชิมะ ซึ่งผมสนใจข่าวนี้ เหตุการณ์นี่อย่างที่ทราบกันดี เกิดต่อเนื่องมาจาก ซึนามิ และเป็นเรื่องใหญ่อย่างยิ่ง ถ้าเกิดที่ประเทศไทย ผมว่าเละ...แหะๆ

    ในข่าว เป็นกลุ่มประชากร อาวุโส กลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง คิดว่าคงเป็นตัวแทน ทั้งกลุ่มคงมีมากกว่านี้ ในข่าวไม่ได้บอก จำนวน และอายุชัดเจนของกลุ่มราษฏรอาวุโสเหล่านี้ ดูจากข่าวน่ะ อายุ เกิน หกสิบปี ขึ้นไป ในราว เจ็ดสิบปี อาจจะมีถึง อายุ แปดสิบ แต่ร่างกายพวกท่านคงแข็งแรง ท่านเหล่านี้ ไม่ใช่ ราษฏรธรรมดาอย่างเดียว แต่มี พวกวิศวกร ช่าง หมอ และหลายอาชีพ

    พวกท่านเหล่านี้ อาสา เข้าไปทำงานที่ ฟูกุชิมะ แทนคนหนุ่มที่กำลังทำงาน ต่อสู้กับรัวสีรั่วอยู่ เพราะเห็นใจคนหนุ่มว่ามีครอบครัว และยังหนุ่มสาวอยู่ โดยอาสา แบบบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องการเงินเดือน เพราะพวกท่านให้เหตุผล ว่าได้ เงิน บำนาญหรือ เงินประกันสังคม สำหรับผู้อาวุโส ซึ่งรัฐบาลได้เลี้ยงดูอยู่แล้ว ในข่าวพวกท่านเหล่านี้ดูสงบและมุ่งมั่น และมีวินัยมา ไม่หลอกแหล็ก ตื่น ตระหนก แย่งกันพูด แต่ดูนิ่งและสงบมาก เลื่อมใสครับ

    ผมดูข่าวแล้ว ถ้าอยุ่ในที่นั้น ผมก้มลงปูผ้าขาวกราบ ชาวญี่ปุ่นอาวุโสเหล่านี้ได้ แบบสนิทใจ และนึกในความรู้สึกหลายอย่าง ว่า ชาติเขามีคนแบบนี้ และไม่ใข่คนเดียวซ่ะด้วย แต่เป็นทั้งชนชาติ และผมไม่แปลกใจเลยว่าชาวญี่ปุ่นต้องฝ่าฟันปัญหานี้ไปได้ ด้วย สติ ปัญญา มีขันติ ความอดทน ความสามัคคี และจิตวิญญาณของคนทั้งชาติที่เป็นหนึ่งเดียว

    ชาติซามูไรนี้ มีความหยิ่งในศักศรีด์ของตนเองเป็นอย่างยิ่ง มีวินัย และเป็นชาติ ที่อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่หยาบคาย แต่เมื่อสู้ จะสู้แบบไม่ถอย สู้แบบมีสติ และสู้ยิบตา แม้ตัวจะตาย ...ผมนับถือเป็นอย่างยิ่ง

    คุณพ่อผู้ล่วงลับของผมเป็นนักเรียน เทพศิรินทร์ สอบได้ ทุนหลวง King Scholarship ไปเรียนต่อที่ ประเทศ ญี่ปุ่น จนจบปริญญาโท ด้าน การเงิน จาก ประเทศ ญี่ปุ่น ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เรียกว่าท่านโตที่นั่น มีลักษณะเป็นคนญี่ปุ่น การแต่งตัวแบบ แบบผ้าคลุมตอนอยู่บ้าน การกินตะเกียบ กินปลา ชอบอาบและแช่น้ำร้อนมากๆ ลักษณะการคิด แกะแบบมาจากคนเชื้อชาตินี้ ผมคุ้นกับลักษณะ มาตั้งแต่เด็ก

    แต่เผอิญว่า ในยุคสงคราม ชาวญี่ปุ่นบุกมาที่ประเทศ ไทย และทำไม่ดีไว้มากในฐานะ ผู้รุกรานที่แข็งแกร่งกว่า คุณยายจอมคาถาของผมเล่าให้ฟังว่า ตอนท่านยังอยู่ที่ ปากน้ำโพ กำลังจะข้ามเรือ ก็ขึ้นไปบนเรือกำลังจะข้าม พวกทหารญี่ปุ่นมา ก็ไล่คนบนเรือลง พวกทหารจะข้ามไปก่อน แทบทุกคนกลัว ทหารญี่ปุ่น ที่มีทั้งดาบ และปืน ก็ลงจากเรือ แต่มีชายคนหนึ่งไม่ยอม ลง แกบอกว่ามาก่อน จะข้ามไปก่อน ก็เกิดปากเสียงกับทหารญี่ปุ่น ถึงขั้นลงมือ คุณน้านี่แกก็สู้ซ่ะด้วย แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ทหารญี่ปุ่นมาหลายคน ก็ซ้อมคุณน้าคนนี้เสียแบบสบักสะบอก ทั้ง เท้า ทั้ง ด้ามปืน หมอบอยู่ตรงฝั่งนั่นแระ ไอ้พวกทหารญี่ปุ่นก็คงโดนมวยไปทยไปบ้างแหละครับ แหะๆ ไม่มีใครกล้าเข้าช่วยแม้จะเข้าไปห้ามเพราะทหารญี่ปุ่น ถือปืนขู่ว่าอย่ายุ่ง ยุ่งเป็นโดนยิง คุมเชิงตลอดเวลา ที่ช่วยได้ คงตอนหามไปหาหมอ หลังจาก ทหารญี่ปุ่นมันข้ามเรือกันไปแล้ว...แหะๆ

    จากเหตุการณ์นี้ และคงหลายอีกเหตุการณ์ตอนสงคราม คุณยายผมเกลียดทหารญี่ปุ่นมาก แบบมาซื้อของแกไม่ขายให้ และ ผมก็ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน คุณยายมักจะหาเรื่องคุณพ่อของผม หาเรื่องด่ามั่ง บางทีคุณพ่อผมนั่งกินข้าว คุณยายผมตื่นมา เจอหน้าพอก็หมั่นใส้ขึ้นมา หาเรื่องด่าเอา คุณพ่อผมก็นั่งกินข้างเฉย ไม่สนใจ จนผมเองต้องไปดึงยายมา บอกยายไปกินหมากเถอะ แกก็เงียบไป ผมก็นึกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ชอบกันมาแต่อดีต

    จนมากระทั่งมีการแข่ง ฟุตบอล ที่สนามศุภชลาศัย ตอนผมเด็กๆ คนชอบดูบอลไทยมาก เพราะทีมชาติ ตอนนั้นเก่งมาก พวก อัศวิน เฉลิมโยน โกวิท เพ็งลี และอีกหลายท่าน เป็นแชมป์เอเซียทีเดียว และฝีมือก็ตกลงเรื่อยๆ พอผมเริ่มดูบอลเป็น เก่ง ทีมชาติไทยเริ่มตกลง ในการแข่งที่สนามศุภฯ ก็อย่างว่า แพ้ญี่ปุ่นครับ เมื่อแพ้ก็ตามนิสัย ของคนขี้แพ้ เล่นแรงและเริ่มเบี้ยว ผมและยายนั่งดูอยู่ เมื่อนักฟุตบอลญี่ปุ่น เริ่มถูกเตะ ถูกทำร้าย คุณยายผมดูท่าทางท่านจะเบิกบาน และนักบอลญี่ปุ่น ไม่ได้โต้ตอบน่ะครับ แต่เล่นไปตามเกม มีแต่พี่ไทยนี่แหละเกเร ใส่เขา ขนาดผมยังมีอารมณ์มันไปด้วยตอนญี่ปุ่นถูกเตะ เพราะบอลเราแพ้เขา จนมีนักบอลญี่ปุ่นท่านหนึ่งขณะที่กำลังครองลูก พี่ไทย ท่านหนึ่งก็วิ่งปราดมา และ ถีบ ( สะกด ถีบน่ะครับ ถีบจริงๆ เห็นคาตา ) เข้าที่ยอดอกของนักบอลญี่ปุ่นจะกระเด็นไปนอนจุกแอ็ดๆ ซึ่งแน่นอน สกัดลูกแบบนี้ได้ผลแน่อน กรรมการเป่าปริ้ด ก็เกิดการชุลมุนกัน และอย่างที่เห็นนักบอลญี่ปุ่น ที่มีกำลัง ชั้นเชิง รูปร่าง และ ทีมเวิร์ค เก่งกว่าพี่ไทยเยอะไม่ได้โต้ตอบน่ะครับ แต่มาห้ามๆกัน ก็ชุลมุนกัน

    แต่คุณยายจอมคาถาของผมน่ะซิ ท่านชอบอก ชอบใจ หัวเราะเอิ้กอ้าก เฮฮามาก จน ดังลั่นบ้าน จนผมสงสัย ยายเราเป็นอะไรหว่า ผมถามยายหัวเราะอะไรน่ะ คุณยายท่านบอกว่า ชอบใจที่ญี่ปุ่นถูกถีบ แล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากต่อ ท่าทางท่านเบิกบานมาก...ผมน่ะงงๆ พอหลังจากนั้น ผมไปถามให้ละเอียด ท่านก็เล่าเหตุการณ์ที่ปากน้ำโพให้ฟัง ผมเลยถึงบางอ้อ ที่ท่านไม่ชอบหน้าพ่อผมก็คงสาเหตุนี้เอง

    เหตุการณ์นี้มันหลาย พ.ศ. มาแล้ว และ ทหารญี่ปุ่นที่มารุกราน คงตายไปหมดแล้ว ผมเจออยู่คนที่อำเภอ ฝาง แกขายซาละเปา อยู่ที่ตลาด ท่าทางแกสุภาพมาก ผมไปเจอชอบพูดคุย แกบอกว่า เมื่อญี่ปุ่น แพ้สงคราม แกประจำอยุ่ที่เชียงใหม่ ได้ เมียคนไทย เลยตัดสินใจ หนีทัพ ไม่กลับเมืองญี่ปุ่น ตั้งรกราก อยู่ที่เมืองไทย ผมเคยถามว่ากลับญี่ปุ่นบ้างไหม แกบอกว่าเคย แต่ญาติพี่น้องไม่มีแล้ว ตายกันหมดแล้ว เมืองไทยนี่แหละบ้านของแก...แหะๆ

    ตกลงผมที่เล่าให้ฟังนี่ เอาแบบ ขำ ๆ ผมก็เคยไม่ชอบคนญี่ปุ่น เป็นความไม่ชอบ แบบอคติ ตอน ญี่ปุ่น มาลอก มวยไทย ไป ตั้งชื่อว่า คิ้ก บ็อกซิ่ง ขนาดเคยไปรวมตัวประท้วงกับเขาที่ราชประสงค์ตอนที่ญี่ปุ่น มาตั้งร้านที่นั้น แล้ว ตั้งเวที คิ้กบ็อกซิ่ง มาต่อยโชว์ นักมวยไทยก็เอาแบบโนเนม แก่ๆ มาชก ถูกญี่ปุ่นที่แข็งแกร่งกว่าเยอะ ยำเอาโลทุเรศ เลยมีการประท้วง มีการขว้างปา จนกระจกร้านแตก ( ไม่ใช่ผมน่ะ...แหะๆ แต่เป็นเด็กช่างกลหนุ่มๆรุ่นๆ ตอนนั้นพวกช่างกลเฮี้ยวมาก ตีกันประจำ ) จนญี่ปุ่นต้องถอยทัพ เลิกร้านไป แต่ที่จริงก็คนไทยน่ะแหละในวงการมวยที่ไปร่วมมือกับเขา ต้องด่าพี่ไทยด้วย ผมลืมชื่อนายทุนญี่ปุ่นคนนี้ไปซ่ะแล้ว เพราะแกโดนด่า ขึ้นหน้าข่าวหนังสือพิมพ์อยู่นาน จนเลิกธุระกิจไป

    ผมจำได้คนเดียว คือ ฟูจิวาร่า ( ถ้าจำไม่ผิด เพราะนานจัด ) ที่ต่อยกับพี่ ผุดผาดน้อย วรวุฒิ ( ขวัญใจผมทีเดียว ) ผมไปดูที่ ลุมพินี มันส์มาก มันส์สุดๆ ยังจำได้จนถึงพ.ศ. นี้ เพราะตอนนั้น พี่ผุดผาดน้อย ซึ่งทุกท่านที่ทันท่านนี้รู้ดี ว่าเป็นสุดยอดมวยไทยท่านหนึ่งทีเดียว ถนัดเตะซ้าย และ หมัด เท้า เข้า ศอก ความแข็งแกร่งและจิตใจเต็มร้อย เตะซ้ายคนจนชนะน็อคมาหลายคน แต่นายฟูจิวาร่าคนนี้มันเก่งจริงๆ เป็นของจริงทีเดียว ถึงไม่ครบ แม่ไม้มวยไทย ไม่เก่งเข่า เก่งศอก แต่รู้อาวุธ เก็บอาวุธคู่ต่อสู้ได้ จังหวะ กระดูกดี หมัดดี เตะดี มาชกมวยไทยแบบเต็มรูปแบบได้ครูดีๆ โค้ชดีๆ เป็นแชมป์มวยไทยแน่นอน เหมือนกับนาย ราม่อน เด็กก้าร์ ชาวฮอลแลน ซึ่งมาเรียนมวยไทย แล้วเก่งกว่า คนไทย เตะ ตัดขา และชกนักมวยไทย ชักตาตั้งไป หลายคน

    ในการต่อสู้ ห้ายก น่ะ พี่ผุดผาดน้อย สู้ไม่ได้น่ะครับ บอกตามตรง เพราะนายฟูจิวาร่า นี่เข้าออก ไว รู้อาวุธ มวย อย่างดีมาก เก็บอาวุธได้ แทบทุกดอก โดยเฉพาะเตะซ้ายของพี่ผุดผาดน้อย ใช้ไม่ได้ผล และฟูจิวาร่าหมัดหนัก และดีด้วย ยำพี่ผุดผาดน้อย ซ่ะจะแย่ หน้าตา แดงก่ำเพราะฤทธิ์หมัด คะแนนคงนำลิ่ว คนดูเงียบกริบ เพราะลุ้น และไอ้นี้มันเก่งแบบของจริงทีเดียว แต่อย่างว่า พญาเสือ มันยังคงเป็น พญาเสือ พี่ผุดผาดน้อย แกอย่างที่รู้ ว่าใจ เกินร้อย พอออกจากมุมในยกหลังๆ ผมจำได้ ว่า ยก สี่ หรือ หน้า แกตั้งศอก วิ่งเข้าใส่ ฟูจิวาร่า แบบคามิกาเซ แลกกันแบบใครดีใครอยุ่ ฟูจิวาร่า ใส่หมัด พี่ผุดผาดน้อย ใส่ด้วยศอก ซดกันแบบ นั่งดูไม่ได้ เพราะยืนกันทั้งเวที่ เชียรย์กับแบบลืมตาย ให้ฟูจิวาร่าโดนศอก ของพี่ แก ซึ่งอย่างว่าเก่ง เจอ เก่ง มันจะโดนแต่หมัดเขาอย่างเดียวน่ะ ก็ไม่ใช่สุดยอดมวยไทย ฟูจิวาร่าก็พลาดโดนศอกของพี่แกลง ครับ พอลง คนเฮแบบเวทีจะพัง แต่อย่างว่า พญาสิงห์ มันก็คงเป็นพญาสิงห์ และ ร่างกายที่แกร่งเต็มร้อย พร้อมหัวใจ นักสู้ของชาวซามูไร แกลุกมาสู้ครับ พอนับแปด เสร็จ แกก็ สู้ พลาง ถอย พลาง หนีส่วนใหญ่ แต่โต้ตอบตลอดเวลาน่ะครับ พอพี่ ผุดผาดน้อย หยุด หายใจ แกจะเข้าทำทันที ยำด้วยหมัดต่อ จนครบ ห้ายก ผมจำได้ว่าเสมอน่ะครบ มาได้ตรงนับแปดนี่เอง เลยพอ กล้อมแกล้มเสมอไป ช่วยกันไปได้ ถ้าไม่ได้นับ แปดนี้มาช่วย ในสายตาของผม พี่ผุดผาดน้อยแกสู้ ฟูจิวาร่าไม่ได้จริงๆ แพ้คะแนนแน่นอน

    ที่เล่าๆ เลยเพลินเล่ามา ยังพอมีอีกหลายเรื่อง แต่ที่อยากจะพูดคือ ในชีวิตผมเจอมาหลายชาติ ทั้ง ขาว และ ดำ ทั้งคล้ำ และ ซีด หลายชาติ บางชาติ นิสัยเป็นคน กักขละ หยาบคาย บางชาติ เห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ บางชาติก็ซื่อๆ มีอัทธาศัย แต่ผมยกให้คนญี่ปุ่นนี่เป็นอันดับหนึ่งครับ ถึงผมจะรักคนไทยว่าเป็นคนมีน้ำใจ มีวัฒนธรรม แต่บอกตามตรงเราสู้เขาไม่ได้จริงๆครับ ห่างกับเขาไกล ตอนนี้เรายังทะเลาะกันไม่เลิก กัดกันไม่เสร็จ เลยพวกญี่ปุ่นเขาน่ะมีเรื่องก็เข้าแถวสงบ และสามัคคีกันอย่างยิ่ง เป็นคนไทย ถ้ามีเรื่อง ผมบอกได้เลยว่า ไม่มีทางเข้าแถวได้ครับ...แหะๆ พนัน ห้าบาท เอาสลึงเดียว

    คารวะ คนญี่ปุ่น จากใจริงๆครับ ขอให้พวกทานผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้แบบทุกๆครั้ง ด้ว สติ ปัญญา ความสามัคคี ขันติ ความอดทน และ จิต วิญญาณของชาวอาทิตย์อุทัยอันเป็นหนึ่งเดียวของพวกท่าน ซึ่ง ไม่มีชาติใดเหมือนจริงๆ

    น่าลอกเอามาเป็นแบบให้เด็กเราเป็นจริงๆน่ะครับ

    รุ่นเราน่ะ เสียซ่ะแล้ว...แหะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2011
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระชุดแพโบถส์น้ำ (ต่อ )

    มาต่อเรื่องโลหะที่เอามาหล่อพระชุดนี้ต่อน่ะครับ

    ๗) แร่ดีบุกบริสุทธิ์อย่างดีจากทะเลภูเก็ต น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ผ่านการปลุกเศกจากหลวงปู่หลายครั้ง บริจาคโดย คุณ คีม เหล่าวจีศาสตร์ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย<O:p</O:p
    ๘) ชนวนพระประธานสมเด็จองค์ปฐม ประจำสำนักแม่ชีประทุม น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม บริจาคโดยสำนักแม่ชีประทุม<O:p</O:p
    ๙) แร่โคตรเศรษฐี ๑ ถุงเล็กเพื่อเพิ่มสรรพคุณด้านโภคทรัพย์บริจาคโดยป้าอิ้ดสำนักแม่ชีประทุม<O:p</O:p
    ๑๐) แผ่นยันต์ทองเหลืองลงจารพระคาถา ชินบัญชร บริจาคโดย คุณ ทนงศักดิ์ เอื้อรักสกุล<O:p</O:p
    ๑๑) นอกจากนั้นยังมีโลหะทองเหลืองและทองแดง เป็นต้นว่า ถาด ขัน ขันข้าว ทัพพี เหรียญเศษสตางค์ทองเหลืองรุ่นเก่า ๕, ๑๐, ๒๕, ๕๐ สตางค์ เหรียญ ๑ บาทรุ่นเก่า แผ่นทองเหลืองและทองแดงเป็นจำนวนมาก ที่คณะศิษย์ได้เขียนชื่อหรืออธิฐานจิตร่วมสร้างพระรวมได้ไม่ต่ำกว่า ๓๐ - ๔๐ กิโลกรัม

    บางอันไม่ได้ถ่ายรูปน่ะครับ เช่น เหรียญสตางค์ ผมได้มาเป็น จากป้าสุธี ภรรยาช่างประดิษฐ์ นักแกะสลัก แห่งพยุหะคิรี ผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งผมสนิทสนมดี ไปอาบน้ำ แอบพักผ่อนที่บ้านท่าน และ จ้างพวกท่านทำงานแกะสลักให้หลายอย่าง พอรู้ว่าจะหล่อพระท่านไปค้น เหรียญเก่าๆ มาได้ เป็นกระสอบถุงปุ๋ย บอกเอาไปหล่อพระน่ะ ผมก็เอาไปให้หลวงปู่เสกไว้ และเอาใส่เบ้าทองก่อนวันเททั้งหมด

    ส่วนก้อนดีบุกน่ะ ถ่ายไปในรูปที่แล้ว แร่โคตรเศรษฐี ป้าอิ้ดก็เอามาใส่ในวันงาน แผ่นชินบัญชร นั้น เสี่ย ธ ก็ลงมาแล้วไปขอหลวงปู่ท่านลงให้ จัดว่ามาหลายทาง บางอย่างผมไม่ได้จดบันทึกไว้ ลืมไปเหมือนกัน จัดเป็นโลหะผสม แต่เนื่องจากเทพระประธานและพระบูชาด้วย โลหะ ที่ช่างเตรียมมาจะเป็นทองเหลืองอย่างดีเยอะหน่อย โลหะเลยจะหนักไปในด้านทองเหลือง ผมเคยคุยกับอาจารย์อนันต์ ยังคุยกันว่า ถ้าเปลี่ยนได้จะเอาทองแดงมาเป็นโลหะหลักดีกว่า ถึงแพงกว่าหน่อย แต่เนื้อที่ออกมา คงจะสวยน่าดู ออกแนวสัมริดได้สวยกว่าแน่อน แต่ไม่มีโอกาศแล้วน่ะครับ....แหะๆ คนเสกท่านไม่อยู่แล้ว<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2011
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    IMG_1247.JPG IMG_1245.JPG IMG_1246.JPG

    แร่โคตรเศรษฐี

    มีการกล่าวถึงแร่โคตรเศรษฐีหลายครั้ง และ มีการนำชื่อนี้ไปใช้ หลายกลุ่ม ทำพระโคตรเศรษฐี หรือ รุ่นโคตรเศรษฐี จำหน่าย

    แต่ต้นตำหรับ แท้ๆมีท่านเดียวคือของ ท่านแม่ชีประทุม โชติอนันต์

    ตามรูปเป็นพระที่หล่อ และ ปั้มท์จากแร่โคตรเศรษฐีล้วนๆ เป็นพิมพ์บางน่ะครับ พิมพ์หนาจะเป็นรุ่นแรก ที่ทันพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ และ ท่านแม่ชี ประทุม มีจำนวนไม่มาก ผมเลือนๆไป คงประมาณหลักร้อยองค์ ถ้าสนใจ หาอ่านได้จากในเน็ตน่ะครับ ส่วนพิมพ์บางไปทำมาเพิ่ม หลังจากรุ่นแรกน่าจะหมด ใกล้หมด รุ่นนี้ทันท่านแม่ชีประทุม และผมคิดว่า หลวงปู่บุญศรีน่าจะอธิษฐานจิตให้ เพราะยุคหลังๆ ท่านแม่ชี มาหาหลวงปู่ประจำ น่าจะยังมีเหลือที่สำนักแม่ชีน่ะครับ

    แร่นี้ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านกล่าวไว้ว่า ใครมีในครอบครองจะจนไม่เป็น และพอรวยจะรวยแบบโคตรเศรษฐีครับ...แหะๆตามความเชื่อน่ะครับ แต่ผมน่ะเชื่อ เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2011
  20. JLB

    JLB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,180
    ค่าพลัง:
    +8,080
    กราบพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทรง
    กราบพระเดชพระคุณ หลวงปู่บุญศรี

    หลังจากที่พี่พี เล่า เรือง พระชุด แพโบสต์น้ำแล้ว ผมเชื่อว่า พระจะหายากขึ้นอีกมากเลย ใครมีก็หวง
    ผมได้ฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับ หลวงปู่มาจากพี่ท่านนึง รู้สึกทึ่งมากๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...