ภัยพิบัติน้ำท่วมโลกของจริงเริ่มต้นเดือนนี้

เห็นต่างกันได้ครับ ความรู้ความเข้าใจย่อมไม่เท่ากัน

เป็นเรื่องธรรมดา แต่อย่าไปสร้างกรรมด้วยวาจากันเลย.

 

จขกท.คิดซะว่า

ลมพัดเย็นดี catt15เหมือนคนมาเป่าลมเข้าหูอาจจะ"จั๊กกะจี๊"นิดหน่อย โน๊ะ!!!

 

ก็คนทำนาย ระบุวันเวลาที่ชัดเจน มานี่ คนที่เฝ้าดูอยู่เขาก็ต้องทดสอบว่ามันตรง หรือไม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดา พอไม่ตรง มันก็มีคำตอบหลายอย่าง ก็ว่ากันไป... แต่คนที่ดูอยู่เขาก็มีสิทธิคิดว่าคนทำนายไม่ได้เห็นจริง หรือเห็นของไม่จริง หรือ ...ฯลฯ ได้นี่นา ก็มันไม่ตรงอ่ะ ก็เป็นไปตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่แล้วในเรื่องความเชื่อ บางคนบอกว่าไม่เชื่อก็อย่ามาอ่าน นี่เป็นเว็บบอร์ดสาธารณะครับ ใครก็เข้ามาอ่านได้ ถ้าจะเอาเฉพาะคนที่เชื่อก็ส่งอีเมล์ส่วนตัวไปให้กลุ่มที่คิดว่าเชื่ออย่างเดียว แทนการมาโพสต์ข้อความสาธารณะสิครับ และการที่ทำนายอะไรออกมาทางสาธารณะ มันย่อมมีผลกระทบกับสังคม ไม่มากก็น้อยแหละครับ ถ้ามากหน่อยก็แบบที่ไต้หวัน คือวิตกจริต จนฆ่าตัวตาย น้อยหน่อยก็เช่น มีการซื้อของเตรียมอพยพไว้มากมาย บางคนก็เกินจำเป็น เสียเงินเสียทองมากมาย เป็นต้น ...(อย่างที่มีคนโพสต์ไว้ ถ้าคลื่นสูง 250 เมตร จะขนอะไรไปได้นี่)

คนที่ไม่เชื่อ หรือเห็นไม่ตรงกัน เขาก็อาจจะวิพากษ์วิจารณ์ ได้ และคนที่ทำนายก็ควรเปิดใจกว้างรับฟังบ้าง ขอเพียงว่ากันด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ หรือถ้อยคำที่มันรุนแรง ก็จะไม่เกิดความขัดแย้ง หรือแตกแยก

การถกเถียง วิจารณ์ เป็นเรื่องปกติ ในประเทศประชาธิปไตยประชาชนทุกคนย่อมมีสิทธิและ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ในกรอบของกฏหมายอยู่แล้ว

กล้าระบุวัน เวลา ก็ต้องกล้ารับคำวิพากษ์ วิจารณ์ด้วยนะครับ ถ้ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนที่คุณ "ผู้มาใหม่" ผู้ทำนายอีกท่านหนึ่งเขาระบุไว้เป็นตัวอย่าง

 

รอกวนคุณลองไปโพสแบบนี้ที่กระทู้นี้ให้เราดูหน่อยนะคะ นี่ก็มาเตือนเหมือนกัน อยากรู้ว่าคนกระทู้นั้นเค้าจะบอกคุณยังไง กดตามลิงค์เลยค่ะ

http://palungjit.org/threads/อนาคตังสญาณ-เพื่อการแจ้งเตือนภัยพิบัติในประเทศไทย.288061/page-133

 

เอ่อ ยิ่งนับวัน ภาษาที่หลายคนใช้ในการวิพากวิจารณ์ยิ่งไม่เหมาะสมขึ้นทุกทีๆ นะคะ เคยมีคำเตือนในบางกระทู้เรื่องการนำภาษาพูดหรือภาษาที่ไม่เหมาะสมมาใช้ด้วย แต่จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหน ขอความร่วมมือทุกท่านด้วยค่ะ เรื่องวิจารณ์ก็คงมีกันได้เพราะทุกคนคิดไม่เหมือนกัน แต่ก็ควรจะระมัดระวังเรื่องภาษาเพื่อเป็นการให้เกียรติสมาชิกท่านอื่นๆด้วย

 

ใจเย็นๆ กันไว้ครับ

ในความเห็นผมนะ การพยากรณ์ ก็คือการคาดคะเน (เดานั่นแหละ) ล่ะครับ อาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้
อย่างเช่น กรมอุตุฯ ที่พยากรณ์อากาศทุกวัน ก็อาศัยสถิติย้อนหลัง เครื่องมือตรวจสภาพอากาศ ไม่ว่าความชื้น อุณหภูมิ ดวามกดอากาศ กระแสลม และปัจจัยอื่นอีกมากมาย มาวิเคราะห์ ความเป็นไปได้ ขนาดนั้นยังไม่ถูก 100% เลยครับ เช่น
บางวันบอกว่าฝนจะตก ตอนออกจากบ้านผมก็เอาร่มติดตัวไปด้วย แต่ฝนก็ไม่ตกตามที่บอก ผมก็ไม่เคยโกรธกรมอุตุฯ นะ กลับขอบคุณเค้าซะอีกที่ออกมาเตือน เพราะถ้าวันนั้นฝนตก ผมหรือลูกๆ อาจไม่สบายก็ได้เพราะเปียกฝน แลกกับการถือร่มคันเล็กๆ ไม่ได้หนักมากมายอะไร คุ้มค่ามากๆ

ปล..เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของคนแก่ๆ คนนึงนะครับโปรดให้อภัย

 

สังคมโลกมันเปลี่ยนไปในทางที่เลวลงจริง ๆ คนเริ่มศรัทธากับคำทำนายเทียมเท็จ ดังที่ปรากฎไว้ในไบเบิ้ล

คุณhankyครับ การทำนายในวันนี้ของคนที่นี่ ไม่ใช่บอกว่าฝนตกหรือไม่ตก แต่นี่มันกลายเป็นสร้างกระแสให้คนตระหนกกับภัยธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้น ด้วยการทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นให้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากสึนามิ เริ่มเป็นหลุมยุบ ต่อด้วยคลื่นยักษ์ 250 เมตร
นี่คือโลกแห่งความจริง และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

อยากถามผู้พยากรณ์และสาวกทุกท่าน ในสิ่งที่ท่านเชื่อและคำทำนายของท่าน ที่อ้างและระบุวันเวลามานั้น ถ้าไม่เกิดขึ้นจริง ท่านทั้งหลายจะรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำไปแล้วอย่างไร


นึกถึงคุณหนุมานจริง ๆ


"สัจจะ" ไม่รู้จะมีอยู่จริงในสังคมเวบนี้หรือไม่
สัจจะ ยังจะกระทำและรักษามันไว้ไม่ได้ อย่าคิดว่าจะทำความดี เพราะนี่คือความดีของตนเองที่สามารถโดยไม่ต้องพึ่งใคร หรือสิ่งใด

 

กรรมจัดสรร​

 

โห ร้อนจังกระทู้นี้ อ่านตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้

ก่อนนี้ขอบคุณสำหรับ จขกท. ครับที่แจ้งข่าวเตือน ดีครับจะได้ช่วยเหลือกัน
แต่ก็ทำใจให้กว้างและหนักแน่นนหน่อยครับ มารไม่มีบารมีไม่เกิด ความตั้งใจดีก็ต้องยอมรับกับความคิดแตกต่างได้นะครับ ไม่น่าจะใช้คำประชดประชันแบบนั่นเลย

ส่วนผู็้ที่ไม่เชื่อ ก็มีสิทธิไม่เชื่อ


สุดท้าย กรรมย่อมเกิดจากเหตุ
สาธุครับ

 

ยังไม่ค่อยมีคุณงามความดีเท่าไหร่เหมือนกันค่ะ แค่ศีล5ยังรักษาไม่ครบเลย (ผิดข้อหนึ่งเพราะยุงกัดยังตบอยู่ค่ะ แหะๆ) ยังไงก็เร่งทำดีกันต่อไปนะคะ สู้ๆ
และขอขอบคุณเจ้าของกระทู้และทุกๆท่านที่ออกมาเตือนด้วยค่ะ ใครจะว่าไม่แม่นก็ช่างหัวเขาเถิด ไม่ประมาทเป็นดีที่สุด ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ถือว่ายิ่งดีสุดๆๆๆ(f)

 

ไม่เห็นคุณไปโพสกระทู้นั้นเลย อย่ามาโพสห้องนี้เลยคนน้อย กล้าๆหน่อยสิคุณ...

 

นิมิตมีทั้งจริง มีทั้งลวง ถ้าไม่ชำนาญส่วนใหญ่จะเป็นนิมิตลวงเกิดได้จากหลายสาเหตุ ยิ่งถ้าจิตเราเชื่อไปแล้วว่าภัยพิบัติจะต้องเกิด โอกาสที่จะเห็นนิมิตลวงว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นที่โน่นที่นี่มีสูง ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่าให้แน่ใจต้องทดสอบ คือเข้าทุกครั้งต้องเห็นเหมือนเดิม(เห็นเองนะไม่ใช่จินตนาการเอา) ซำ้แล้วซำ้เล่าจึงควรเชื่อ แต่ที่เห็นในหลายๆกระทู้ในช่วงนี้คือ นั่งเห็นแว๊บนึงก็ตกอกตกใจมาโพสบอก คือหวังดีจะเตือนคนอื่นแต่ตัวไม่ก็รู้ว่านิมิตจริง หรือนิมิตหลอก ผมรู้ว่าไม่มีใครโกหกหรอกเรื่องแบบนี้น่ะแต่พอมันเตือนพลาดไปคลาดไปเดี๋ยวอีกคนมาเตือนอีกมากๆเข้าก็พากันจิตตก ผมเองเชื่อว่าภัยพิบัติกำลังมาจ่อคอหอยพวกเรากันอยู่ รู้เห็นมาเหมือนกัน แค่ไม่เห็นด้วยกับการเตือนพรำ่เพรื่อก็เท่านั้น ถ้าใครอ่านแล้วขัดใจขออภัยด้วย

 

บัวสี่เหล่า คืออุปมาเปรียบบุคคลเหมือนดอกบัว 4 จำพวก

1. ( อุคคฏิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที
2. ( วิปจิตัญญู ) พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป
3. ( เนยยะ ) พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอบด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง
4. ( ปทปรมะ ) พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

 

แหม...ผมอยากให้คนไม่เห็นด้วยกับคำเตือนต่างๆไปเปิดกระทู้ใหม่ไปเลย ไปรวมพลคนไม่เชื่อเลย แล้ววิเคราะห์ไปเลยไม่เชื่อเพราะอะไร แล้วน่าจะประกาศความรับผิดชอบด้วยนะหากเกิดเหตุการณ์ตามที่เค้าเตือน เพราะเห็นเรียกร้องให้คนที่เตือนออกมารับผิดชอบหากไม่เกิดเหตุ จะได้สมน้ำสมเนื้อ

 

คุณต้องขอบใจคนที่เขามาเตือนนะครับเพราะอย่างน้อยคุณจะได้รุ้วันเวลาเตรียมตัว อาจจะเตรียมตัว เตรียมใจ หรือเตรียมตัวตายได้หากมันเกิดขึ้นจริง ซึ่งการที่เขาบอกวันเวลานั้นเขาจะได้ให้ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นนั้นมันแคบลงเพื่อจะได้รู้เวลาในการเตรียมตัวครับ แต่มีคำทำนายบางคำที่บอกว่าภายในเดือนนั้นเดือนนี้ให้ระวังอย่างนั้นอย่างนี้ เดือนหนึ่งมีตั้ง 30 วันคุณไม่ต้องระวังทั้งเดือนเลยเหรอคับ ถ้าคุณระวังทั้งเดือนอย่างนั้นคุณก็คงไม่เป็นอันทำการทำงานได้นะครับ แต่นี่เขาระบุเวลาให้แคบลงเพื่อการเตรียมตัวครับ
และอีกอย่างคำทำนายนั้นคุณก็รู้ว่ามันเป็นคำทำนายครับ จะเชื่อหรือไม่นั้นก็ควรใช้สติ และวิจารณญานในการรับข่าวสารครับ แล้วถ้ามันเกิดอย่างคำทำนายละครับใคจะรับผิดชอบในเมื่อคนที่คอยออกมาเตือนนั้นโดนกล่าวหาต่างๆนาๆทำให้หมดกำลังใจในการเตือนข่าวสาร ถ้ามันเกิดขึ้นจริงก็จะกล่าวหาคนที่เคยเตือนอีกละว่าทำไมทั้งที่รุ้ว่ามันจะเกิดแต่ทำไมไม่ออกมาเตือน คงโนด่าว่าคนใจแคบอีก อย่างนี้แหละครับถึงเรียกว่าคน (คนซะทุกอย่างเละหมดเลยถึงไม่ได้เป็นมนุษย์กันซะที)

ถ้าคนที่ไม่กลัวตายในชีวิตแล้ว คุณก็จะไม่กลัวอะไรในโลกใบนี้อีกเลย

 

-= คนแก่ เด็ก และ ลา =-
.. ​

กาลครั้งหนึ่งในโปรแกรม Inkscape... นินคุงได้วาดรูปเหล่านี้ขึ้น.. ​

​

คนแก่เดินจูงลามา ให้เด็กนั่งบนหลังลา ชาวบ้านแถวนั้นเห็นก็ด่าเด็กว่า
"ทรมานคนแก่" ​

​

เด็กเลยลงมาจูงลา ให้คนแก่นั่งบนหลังลา ชาวบ้านอีกแถวก่นด่า
"ทรมานเด็ก" ​

​

ทั้งเด็กทั้งคนแก่เลยขึ้นไปนั่งบนหลังลา สมาคมพิทักษ์สิทธิสัตว์ประท้วง
"ทรมานสัตว์" ​

​

ทั้งคู่เลยลงมาจูงลา ชาวเมืองนินทาเสียงดัง
"ไอ้โง่" ​

จะทำยังไงดีล่ะ? ทำอะไรก็โดนด่า ....ถ้างั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
​

เด็ก คนแก่ และลาขึ้นไปนั่งรถปิ๊กอัพ ไม่มีใครลำบากไม่มีใครโง่ สบายใจ
.
.
.
.
แต่ก็ยังโดนด่า "เปลืองน้ำมัน"​

(รถในภาพยังไม่ได้ใช้แก๊ส

) ​

​

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ​

" ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็จะมีคนคอยติเตียนวิจารณ์เสมอ
ดังนั้นหากเรารู้ว่าทำในสิ่งที่ถูก... ก็ทำไปเถอะ " ​

 

พอดีผมเป็นคนที่โง่บัดซบที่สุดในโลก

หลักความเชื่อในพระพุทธศาสนา
โดย พระพรหมมังคลาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ)​

พระพุทธศาสนาสอนให้คนเชื่อโดยใช้เหตุผล ใช้ปัญญา เราศึกษา ธรรมะหมวดใดก็ตาม ถ้ามีศรัทธาขึ้นต้น ต้องมีปัญญาประกบท้าย ศรัทธา-ศีล-สมาธิ-ปัญญา ต้องอยู่ด้วยกัน เพราะมีศรัทธาขาดปัญญา จึงงมงาย เชื่อ ง่ายใครเขาก็จะจูงจมูกไปได้ตามปรารถนา เสียผู้เสียคน ถูกหลอก ถูกต้มยุบ ยับไปหมด ใครเขาพูดอะไรก็เชื่อทั้งนั้นพอถามว่า "ใครว่า?" ก็ตอบว่า "เขาว่า" พอถามว่า "เขาไหน?" เขาหลวง" "หลวงไหน"-หลวงพรหม" "พรหมไหน?-พรหมศร" "ศรไหน?-ศรยิง" "ยิงไหน?-ยิงนก" "นกไหน?-นกเขา" "เขาไหน-เขาหลวง" นั่นมันก็ไม่ได้เรื่องแล้ว
เขาบอกว่า "มีวัว ๕ เขา" เชื่อ เขาบอกว่า "มีต้นกล้วยที่ออกปลีมา กลางต้น" ก็เชื่อ แล้วไม่ใช่เชื่อเฉยๆ ไปไหว้ด้วย ไปขอหวยขอเบอร์ เอาทองไปปิด ถ้าต้นไม้มันพูดได้ มันคงพูดว่า "พวกแกมาไหว้ข้าทำไมกัน ข้ามันเป็นต้นกล้วย ข้าไม่เก่งเท่ามนุษย์ทั้งหลาย แต่มนุษย์มันโง่จริง มาไหว้ ข้าได้" กล้วยมันก็ด่าให้เท่านั่นเอง แต่ว่ามันด่าไม่ได้ เราก็เลยไปไหว้มัน เที่ยวไหว้นั้น ไหว้นี่ ตามความเชื่อที่ไม่เป็นสาระ ไม่มีเหตุผล พระพุทธเจ้า ไม่สรรเสริญความเชื่อแบบนั้น
บัณฑิตไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้พระสารีบุตรฟัง พระสารีบุตร นี่เป็น "มือขวา" ของพระพุทธเจ้าในการเผยแผ่ธรรมะ พระโมคคัลลานะ เป็น "มือซ้าย" พอพระพุทธเจ้าเทศน์จบลง ก็ทรงตรัสถามว่า "สารีบุตร... เธอเชื่อไหม ที่ตถาคตกล่าว" "ยังไม่เชื่อพระเจ้าข้า" พระสารีบุตรตอบ พระพุทธเจ้าจึงทรงตรัสว่า "ชอบแล้ว เป็นบัณฑิตผู้มีปัญญาต้องไม่เชื่ออะ ไรง่ายๆ" เพียงรับรู้ไว้ก่อนแล้วเอาไปพิจารณาค้นคว้าให้เห็นเหตุเห็น ผลด้วยตนเอง จึงจะเชื่อ ได้ยินได้ฟังอะไรต้องพิจารณา โดยรอบคอบ จน ประจักษ์ชัดแก่ใจแล้วจึงปลงใจเชื่อลงไป นี่คือ หลักความเชื่อในพระพุทธ ศาสนา
ฤกษ์หิว-ฤกษ์ตาย
"มงคลตื่นข่าว" ได้แก่ ความเชื่อว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้จะทำให้เราดีขึ้น ถ้านั่งทิศนั้นจะได้ดีขึ้น นอนหันหัวไปทางทิศนั้นจะดี ทิศนี้ไม่ดี เวลาจะไปไหนต้องดูฤกษ์บนฤกษ์ล่างเสียก่อนถึงจะไป บางคนถึงขนาด จะลงจากเรือนต้องลองหายใจดูก่อน ลมหายใจคล่องรูไหน คล่องรูขวา ก็ก้าวเท้าขวาก่อน ถ้าคล่องรูซ้าย ก็ก้าวเท้าซ้ายก่อน ทีนี้ถ้าคล่องทั้งสองรู ก็เลยต้องกระโดดลงมา มันก็ยุ่งยาก มันไม่เข้าเรื่องนี่เรียกว่า "มงคลตื่นข่าว" วันนี้ดีวันนั้นไม่ดี พอพระจะสึกมีอยู่เรื่อย พวกเราไม่เป็น อย่างนั้นหรอก เพราะหลวงพ่อล้างสมองเรียบร้อยแล้ว
โน้น ที่เดือดร้อนนั่น โยมแม่นั่นเที่ยวไปหาพระ ไปดูหมอ หาฤกษ์ สึกดูมาแล้วมันก็แผลงๆ หลวงพ่อชอบสึกพระตอนเช้าๆ มีเวลา ไม่มีใคร มารบกวน บางคนไปดูหมอมาให้สึกเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบห้านาที หลวงพ่อบอกว่า "เอ้อ นี่มันฤกษ์หิวนี่โยม" เพราะว่าเวลานั้นมันยังฉันข้าว ไม่เสร็จ จะสึกกันได้อย่างไร
บางคนหนักถึงขนาดเวลาจะสึกต้องรดน้ำมนต์ ยังกับว่าการมา บวชมันซวยเต็มที ต้องเอาน้ำมนต์มาล้างก่อนจึงจะออกไป มันไม่เข้าท่า เสียแล้ว เวลาจะออกจากวัดต้องหันหน้าไปทางทิตย์นั้นทิศนี้ วัดนี้หน้าวัด มันอยู่ทางทิศตะวันตก ทีนี้บางทีไปดูหมอมา หมอบอกว่าต้องหันหน้าไป ทางทิศตะวันออก ถ้าออกอย่างนั้นมันก็จะถูกรถชนตาย เพราะต้องเดิน ถอยหลังออกไป รถสิบล้อ รถมอเตอร์ไซค์ มันจะได้ชนเอา... "อ้าว เพิ่งสึก ออกมา...ตายเสียแล้ว" เพราะฤกษ์นี้มัน ฤกษ์ตาย บางที่ไปถึงบ้านแล้ว ต้อง รอฤกษ์เข้าบ้านอีก บ้านก็ของเรา ไปเดินจงกรมอยู่ได้ ใครเห็นเขาจะว่า "เอ้อ ไม่ทิดนี้มันทำอะไร" อย่างนี้ไม่เข้าเรื่อง
ประโยชน์ เป็นฤกษ์ของประโยชน์
พวก "มงคลตื่นข่าว" มันเยอะ พอตื่นเช้าได้ยินเสียงจิ้งจกทัก... นับแล้ว... เท่านั้นเป็นมงคล...ท่านี้ไม่เป็นมงคล นั่งนับเสียงจิ้งจก ตุ๊กแกร้อง... ก็นั่งนับอีก...ร้องกี่ที ไม่ได้เรื่อง ยุ่งใหญ่ พระพุทเจ้าท่านว่าอย่างไร พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า "นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนตฺตํ อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา" ปรโยชน์ย่อมล่วงเลยคนปัญญาอ่อนที่ไปนั่งดูดาว ดูเดือนอยู่ "อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ กึ กริสฺสนฺติ ตารกา" ประโยชน์มันเป็นฤกษ์อยู่ในตัวแล้ว ดวงดาว ในท้องฟ้าจะช่วยอะไรได้​

คงจะบอกอะไรได้มั่งนะ ท่านผู้มีปัญญา

 

สำหรับ คุณ tanaa คุณประกาศความรับผิดชอบมาได้เลย และผมจะประกาศตามที่คุณว่า อย่างสมน้ำสมหน้า

กรุณา ระบุวันเวลา ให้ชัดเจนด้วยนะ อย่าเดา เดือนนั้น เดือนนี้ ไม่เอามานะ แมน ๆ หน่อย

 

เอ่อ...คุณืำnedsniper ครับ กรุณาอ่านข้อความดีๆนะครับ ผมแนะนำให้ผู้ไม่เห็นด้วยไปเปิดกระทู้ใหม่ เพื่อที่จะได้เป็นที่รวมของความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วย จะไม่ได้มาทะเลาะ ถกเถียงในกระทู้ของคนที่เค้าจะมาเตือน นอกจากนั้นก็ควรประกาศความรับผิดชอบด้วยหากเกิดเหตุการณ์ ที่แนะนำเพราะเห็นหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยมักให้ผู้มาเตือนประกาศความรับผิดชอบ และหากเกิกเหตุจริง ผมเชื่อว่าผู้ที่เตือนทั้งหลายคงไม่มีใครสมน้ำหน้าใคร คนที่ออกมาเตือนย่อมมีจิตใจดีมีเมตตา หากเค้าช่วยเหลือคนที่ไม่เชื่อได้ เค้าคงจะช่วยมากกว่าที่จะมาสมน้ำหน้า ผมไม่เคยมีจิตใจเช่นนั้น ที่อยากให้เปิดกระทู้ใหม่เพราะไม่อยากเห็นท่านทั้งหลายมาทะเลาะ ผมไม่เคยเตือนเรื่องภัยพิบัติครับ ผมจะเสียใจถ้าเกิดเหตุแล้วมีผู้ไม่เชื่อต้องเสียหายจากเหตุที่เกิด หรือไม่เกิดเหตุแต่ยังใช้ชีวิตประมาท จนพลาดโอกาสของการทำดี บ่มเพาะจิตใจให้ดีและขาวสะอาดยิ่งๆขึ้น หวังว่าคงเข้าใจในเจตนานะครับ

 

พี่น้องครับ ซักป๋อง ไหมครับ

:VO ...........

(เล่นไม่ดูกาละเทศะ อีกแล้วตะรู)