ธรรมชโย วัดพระธรรมกาย จริงๆแล้วเป็นใคร??มีคำตอบ..

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย maxgatod, 16 มกราคม 2011.

  1. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    แต่โจรปล้นพระศาสนานี่สิคุณเอ๊ย ห่มผ้าเหลือง พูดจาเป็นธรรม

    แต่ความประพฤติ ตรงข้ามนี่สิ ก็เป็นได้แค่ จอมลวงโลกเท่านั้นเอง

    ตำรวจรักษากฏหมาย พูดจาดี เบื้องหน้าดี แต่ลับหลัง ทำตัวเป็นโจรเสียเอง

    แบบนี้ มันสองเด้งเลยนะคุณ

    เราชาวพุทธต้องช่วยกัน ขจัด ลิ้น เหลือบ พระศาสนากันนะ

    ก็แบบนักการเมือง โวหารหาร พูดจา ดี ปากแต่ละคำก็ พี่น้องที่รักของผม

    ประชาชนของผม พ่อแม่พี่น้องที่รักยิ่งของผม

    นักการเมืองพูดจามีหลัก มีเกณฑ์ คำพูดมีแต่ความเห็นอก เห็นใจประชาชน

    แต่ประชาชนอีนที่รัก ของนักการเมือง มีแต่จนเอา จนเอา

    ตรงข้ามนักการเมือง รวยเอา รวยเอา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2011
  2. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    พวกนักการเมืองนี่ เขารักชาติมาก คำพูดแต่ละคำ มีแต่ทำเพื่อชาติ

    เพื่อนพี่น้องชาวไทยทั้นนั้น

    นักการเมืองเขารักชาติกันมาก รักชาติจนน้ำลายไหล (เห็นเงินกองโต น้ำลายไหลย้อย

    เลยเชียว)
     
  3. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    พระพุทธเจ้า พระองค์ตรัสไว้ ความจำเป็นของพระ ที่ต้องอาศัย ต้องบริโภค

    ก็คือ อัฏฐะบริขาร8เท่านั้น

    อัฏฐะบริขารและเครื่องใช้ที่จำเป็น
    ( พิจารณาตามลักษณะของแต่ละวัด หากที่วัดไม่มีต้องจัดหาด้วย )
    1.ไตรครอง ( สบง 1 ประคตเอว 1 อังสะ 1 จีวร 1 สังฆาฏิ 1 ผ้ารัดอก 1 ผ้ากราบ 1 )
    2. บาตร ( มีเชิงรองและฝาพร้อม )
    3. จีวร สบง อังสะ
    4. อาสนะ
    5. ตาลปัตร ย่าม ผ้าเช็ดหน้า ร่ม รองเท้า
    6. ไฟฉาย นาฬิกาปลุก
    7. ขันอาบน้ำ สบู่ แปรงและยาสีฟัน ผ้าขุนหนู กระดาษชำระ
    8. ผ้าอาบสองผืน

    พระองค์ทรงตรัสไว้อย่างนี้

    แล้วไปเป็นเจ้าของโฉนดที่ดิน หลายแปรง หลายที่ แถวพิจิตร

    ซึ้งเป้นที่ดิน ที่มีสายแหล่ทองคำ ผ่าน มีจำนวนเป็นพันไร่ แล้ว

    ทางกฏหมาย ผู้ที่เป็นเจ้าของที่ดิน ต้องเป็นคนธรรมดา และท่าน

    เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินด้วย

    และไช้ชื่อเป็น นายด้วย เอาละ ชั้นศาล มันจบไปแล้ว ซึ้งกฏหมายเอาผิดไม่ได้

    แต่คำถาม มันสวนทางกับที่พระพุทธเจ้า ตรัสไว้หรือเปล่า?

    สอนไห้คนอื่นสละ แต่ตัวเอง สะสม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2011
  4. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    จริงๆแล้วหลายกระทง ที่ถูกกล่าวหา แล้วก็มีมูลทั้งสิ้น

    ลองๆไปค้นๆดูเอาและกันมีคนโพสไว้เยอะ

    เหมือนนักการเมือง หลายคน เงินถึง เส้นถึง

    หลายคน ก็ยังถูกเชิดชู ยกย่อง ในวงสังคม ไปไหน ก็มีแต่คนกราบ

    คนไหว้ มากไปด้วยบารมี ว่าไหม?
     
  5. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ขอปรบมือให้ดังๆเลยครับ...
     
  6. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    สรุปเงินคือพระเจ้า (อีกแล้ว) มนุษย์ผิดพลาดที่ตรงไหน?
     
  7. กินข้าวยัง

    กินข้าวยัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    เงินไม่ได้เป็นพระเจ้า แต่คนโลภมักจะเห็นเงินเป็นพระเจ้าไปเอง จ้า
     
  8. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    761
    ค่าพลัง:
    +348

    เห็นด้วยอย่างแรงอ่ะ คือว่า มีไรเก็บไว้ในใจดีกว่า ปรามาสพระนี้ โทดหนักเอาการเลยนะครับ ถึงเขาจะผิดหรือถูก ก็ไม่เกี่ยวกับเรานี้ครับ เขาผิด เรารู้ เราเงียบ เขาถูก เรารู้เราเงียบ วางอุเบกขา อย่างที่ท่านด้านบนบอกดีกว่าครับ จะได้ไม่พลาด อย่าตั้งตนในความประมาท
     
  9. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ถ้าคิดแบบที่คุณว่าแล้วจะดีขึ้นหรือเปล่าล่ะ...ถ้ามัวแต่คิดว่าเขาผิดแล้วไม่เกี่ยวกับเราเพราะมัวแต่กลัวคำว่าปรามาสพระ คุณยังคิดว่ามนุษย์หัวโล้น นุ่งเหลือง ขี้เหม็น ประเภทนี้ยังมีความเป็นพระอยู่อีกหรือ ผมว่ามันไม่ใช่พระแม้แต่น้อย แค่มนุษย์ขี้เหม็นคนนึง ที่แต่งเหลือง หัวโล้น ก้อเท่านั้น จิตวิญญาณยังคงเหมือนเราๆอยู่นั่นแหละ แล้วเราจะพลาดยังไงล่ะ ในเมื่อเขาไม่มีความเป็นพระอยู่ แค่แต่งกายเลียนแบบสงฆ์เท่านั้น...แต่ถ้านิ่งอย่างที่คุณบอก คิดอย่างที่คุณบอกกันทั้งหมด แล้วทีนี้ศาสนาเราไม่ยิ่งเสื่อมไปมากกว่านี้หรือครับ ลองคิดดูนะครับ ว่าถ้าเปรียบทางโลก มีโจรผู้ร้ายชุกชุม แล้วทุกคนคิดแบบนี้กันทั้งหมด บ้านเมืองนี้จะเป็นอย่างไร คงไม่ต้องมีกฎหมายกันเลย เพราะไม่มีใครเคารพกฎหมายกันเลยมั๊ง...ถ้าการเงียบ หรือวางอุเบกขา อย่างที่บอกแก้ปัญหาได้ คงแก้ได้ไปตั้งนานแล้วมั๊งครับ...ทำไมทุกวันนี้ยังมีพระที่ไม่อยู่ในศีลในธรรมอีกเยอะล่ะ..
    อย่ามัวนิ่งเฉย เมื่อเห็นคนผิด ถ้าเขาเหล่านั้นกระทำกับครอบครัวคุณ คุณจะยังนิ่งเฉยได้อยู่หรือ.. ศาสนาพุทธเป็นของพวกเราชาวพุทธ เปรียบเสมือนบ้านทางใจของเหล่าชาวพุทธอย่างเรา เมื่อมีสิ่งสกปรกภายในบ้าน คุณไม่คิดจะปัดกวาดบ้างหรือ..อย่างน้อยไม่ทำเอง แค่บอกคนในบ้านหลังนี้ก้อยังดี แต่ถ้าคุณอยู่นิ่งเฉย โดยไม่ทำอะไรเลย ผมว่า ออกไปจากบ้านหลังนี้ น่าจะดีกว่า จะได้อยู่นิ่งเฉยอย่างที่คุณต้องการ
     
  10. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +510
    การปรามาสพระนั้นหมายถึง พระที่ไม่ได้เป็นสุปฏิปันโณ คือไม่ได้ประพฤติตามหลักคำสอนของพระบรมศาสดา เที่ยวหลอกลวงโลกกิน พระอย่างนี้เราว่ากล่าวได้ แต่การจะจับมาลงโทษนั้นจะต้องทำให้ถูกพิธีสงฆ์ ด้วยเหตุที่ว่า ผ้าที่พวกเขานุ่งห่มอยู่นั้น เป็นเครื่องนุ่งห่มที่พระบรมศาสดาทรงประทานแก่เหล่าภิกษุสงฆ์ จึงเป็นสิ่งที่สูงส่งและถือว่าศักดิ์ศิษมาก ต้องทำพิธีทางสงฆ์เท่านั้น
    สังเกตุง่ายๆ เวลาตำรวจไปจับพวกนี้ทำไมถึงไม่ถอดจีวรออกแล้วนำไปยัดห้องขังเลยล่ะ
    การจะพูดว่าเป็นการปรามาสน่ะ ต้องใช้ปัญญาพิจารณาด้วยนะครับ อย่ากล่าวตามผู้อื่นโดยไม่ศึกษาให้ถ่องแท้
    สาธุ
     
  11. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ขอบคุณนะครับที่แนะนำ เพราะผมเองไม่ได้ศึกษาทางธรรมอะไรมากมาย คิดเอาจากความรู้สึกส่วนตัว และความถูกต้อง ความจริงที่เกิดขึ้น แต่ก้อมั่นใจว่าในสิ่งที่กล่าวออกไปคงไม่ผิด ใช่ไหมครับ?
     
  12. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +510
    ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าเจาะจงไปที่ตัวบุคคลนั้น และเป็นอย่างที่ลวงโลกหากินจริง แต่อย่าไปว่าหรือจาบจ้วงเครื่องแบบที่ถูกต้องตามพุทธาณุญาตเลยครับ
    แต่ก็มีพวกที่ปฏิบัติแล้วเกิดเลอะเทอะ จับไอ้โน่น ไอ้นี่มาใส่ หรือไม่ให้กราบไหว้ ทั้งๆที่ก่อนการปฏิบัติก็ศึกษาธรรมของพระศาสดา แต่พอปฏิบัติไปกลับตาลปัฏ ไม่เอาพระศาสดาซะนี่ พวกนี้ตอนปฏิบัติไม่เอาจิตเข้าไปตามดู ตามรู้อยู่กับอยู่กับกิเลสธรรมที่เกิดขึ้นขณะนั้น มัวแต่มองหาอภินิหาร หรือความอัศจรรย์ต่างๆ ผลก็เป็นอย่างเราเห็นนั่นแหละครับ แล้วพวกนี้มีมานะสูงมาก แนะนำ หรือสอนได้ยากมาก ต้องจับไปปฏิบัติใหม่ แต่ก็ยากที่จะกลับมาปกติ แต่ก็ไม่แน่ทุกคนไป แล้วแต่บารมีที่สร้างสมไว้
    สาธุ
     
  13. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    การที่จะกำจัดเหลือบ ริ้น ไรให้ศาสนามันก็ดีอยู่นะครับ
    แต่มันติดอยู่ที่ว่า คุณยังแยกไม่ออกว่าอะไรคือเหลือบ ริ้น ไร
    ผมว่าลองไปดูซิครับว่าที่วัดใหน เอาสิ่งบูชาที่ไม่ใช่พุทธศาสนา
    เข้ามาไว้ในวัดกันบ้าง หรือจะต่างนิกายก็แล้วแต่

    สิ่งเหล่านี้มันเป็นตัวทำลายอย่างเห็นได้ชัดเจนและแน่นอน
    อันที่ยังไม่ชัดเจนก็เอาไว้ก่อนดีกว่า
    จัดการอันที่แน่ๆกันก่อนเลย

    เอาเลยนะครับ รณรงค์กันไปเลย

    ต้องระวังว่าตัวเราจะเป็นเนื้อร้ายในศาสนาซะเองโดยไม่รู้ตัวด้วยนะครับ
     
  14. afseven

    afseven เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +510
    ที่วัดใหน เอาสิ่งบูชาที่ไม่ใช่พุทธศาสนา
    เข้ามาไว้ในวัดกันบ้าง หรือจะต่างนิกายก็แล้วแต่(ขออณุญาตcoppy)
    อาจจะเป็นสิ่งที่อุบาสก อุบาสิกา เขามีศรัทธาความเชื่อส่วนบุคคลที่จัดสร้างแล้วนำมาถวายวัดไว้ หรือไม่ก็สร้างไว้เป็นกลอุบายบางอย่างก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละครับ

     
  15. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    การเปิดโปง ขบวนการแอบอ้างพระศาสนา มีอานิสงส์สำคัญมาก เพราะเปนการ รักษาพระศาสนาให้อยู่กับร่องกับรอย ตามรอยพระศาสดา

    ตามคติ เจดีย์จะต้องมียอดแหลม หมายถึง ไปจนถึงพระนิพพาน
    เจดีย์วัดทำมะกาย รูปทรงแปลกประหลาด ชวนให้นึกถึง ไข่ดาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2011
  16. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    นั่นเป็นสิ่งที่ต้องทำการศึกษาให้มากครับ

    อะไรควรหรือไม่ควรอยู่ในวัด พระก็ต้องทราบ

    โยมเอามาถวายถ้าไม่ควรก็ไม่รับก็ได้

    แต่ที่เห็นพระเองเป็นผู้นำเข้ามาซะเอง

    นั่นเป็นเรื่องที่ต้องมาแก้ไขกันมากกว่า
     
  17. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    เจดีย์ แปลว่าที่อยู่ของสิ่งที่ควรบูชา

    และก็ไม่มีใครกำหนดรูปแบบไว้ครับว่าต้องเป็นแบบใด

    ต่อให้มียอดแหลมแต่ไม่ใช่ที่อยู่ของสิ่งที่ควรบูชา ก็ไม่เรียกเจดีย์ครับ
     
  18. กัปปะ

    กัปปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +118
    ตาทความเห็นส่วนตัว คิดว่าศาสนสถาน ไม่ควรมีรูปแบบมากมายนัก ควรยึดถือความเรียบง่าย สมถะ เข้าถึงธรรมชาติมากที่สุด ไม่ควรยึดติดสิ่งสวยงาม ทุกวันนี้ มีแต่วัดสวยงาม ใหญ่โต เน้นแต่ สร้างเพื่อให้ญาติโยมเข้าวัด แต่ทำไปทำมา ก้อไม่พ้นบริจาค ทำบุญ เพื่อการนี้ การโน้น มาโดยตลอด แต่ถ้ามองดูถึงความสมถะ ที่เราสามารถทำได้ โดยไม่เน้นความสวยงาม แต่เน้นความตั้งมั่นในธรรมให้มากที่สุด ผมเชื่อว่าคนที่อยากหาความสงบทางจิตใจ คงต้องการแบบนั้นมากกว่า พระธรรมคำสอน สอนให้ละกิเลส แต่ศาสนวัตถุที่เห็นกันอยู่ มักเน้นแต่ความใหญ่โต สวยงาม แถวสายสี่มีวัดอยู่วัดนึง ไม่ใหญ่โต มีพระไม่กี่รูป สถานที่มีแค่ศาลาไม้หลังใหญ่(แต่ตอนนี้น่าจะสร้างศาลาใหม่แล้ว(เคยไปตอนนั้นยังไม่สร้าง)เพราะมีพระประธานพระพุทธชินราชจำลอง ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทำพิธีเจิมให้) ที่นี่สงบ ไม่วุ่นวาย ต้นไม้เยอะ ผมว่าแบบนี้ผมชอบเพราะดูเหมือนวัดที่อยู่กับธรรมชาติ ที่มีสิ่งก่อสร้างที่ทำไว้เพื่อความจำเป็นเท่านั้น อ้อ..วัดนี้เป็นวัดในเครือหลวงพ่อใหญ่ วัดปทุมวนาราม แถวปทุมวันครับ
     
  19. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452

    คุณรู้หรือเปล่า อย่างประพระจุฬามณีเจดีย์เทวสถาน อยู่ที่ไหน

    อยู่ที่สวรรค์ชั้นดาววดึงส์ เทวดามีความเกี่ยวข้องกับพระศาสนา

    ตอนที่นายโทนะพรหมณ์ เป็นผู้ตัก พระสารีริกธาตุ แบ่งไห้บันดาหัวเมืองต่าง

    ตอนที่พระพุทธเจ้าดับขันธุ์เข้าสู่ประรินิพพาน

    แกเจอเขียวแก้ว ขององค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็กะจะเก็บไว้เอง

    แต่พระอินท์ เห็นว่าไม่เหมาะ ไม่ควร จึงได้เอาไป เก็บไว้ ที่มนฑปพระจุฬามณี

    นี่ตามพุทธประวัติ ในพระไตรปิฏกว่าไว้แบบนี้ และพระจุฬามณี มีลักษณะเช่นไร

    ก็ไปดูที่ประสาทโลหะ วันราชนัดดานั่นแหละ ที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

    แต่นั่นก็ช่างเถอะ แต่พระจุฬามณี ที่นั่น เป็นแบบจำลองมาจากขางบน

    หรือจากสวรรค์อีกที พระที่ท่านทำถึงแล้ว โลกนรก โลกสวรรค์ มันเปิดหมด

    ที่มา ที่ไป มันเป็นแบบนี้

    แล้ว ไอ่ รูปแบบ จานบิน นั้นนะ มีความเป็นมาอย่างไงหรือครับ

    ตั้งโบรารณกาลมาเลย ไม่เคยมี ในประเทศไทย

    แหกคอก นอกวัด สุดๆ


    อ่อ ที่สัดท่าซุง อีกที่ครับ พระจุฬามณี หรือที่รู้จักกันในนานว่า ประสาททองคำ

    แต่วัดท่าซุง สวยกว่าเยอะ เพราะตกแต่งวิจิตร แต่รูปแบบ ลักษณะ ไม่แตกต่างกัน

    เห็นไหม พระท่านไม่รู้จักกัน แต่พอพระท่าน ทำถึง เสียแล้ว

    โลก สามโลก มันเปิด การก่อสร้าง หลวงพ่อ หรืออาจารย์ของแต่ละวัดจะเป็นผู้

    กำหนดการออกแบบ

    ก็เลยทำไห้ ผลงาน ทาง โบถส์ วิหาร ถาวรวัตถุ ในวัด

    ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จึงเป็นไปในลักษณะ สอดคล้อง

    สถาปัตย์ เหมือนกัน

    ยกเว้น วัดธรรมกาย ปทุม ที่มีจานบิน

    วัดหลวงพ่อสด ปากน้ำไม่เกี่ยว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 เมษายน 2011
  20. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    พุทธประวัติ อยู่ในหลักสูตร การสอน สอบนักธรรม ทั่วประเทศ

    อยู่ในหมวดพระสุตตันตปิฎก ไห้หาอ่าน ตอน ปัจฉิมวัย หรือ

    ตอนที่พระพุทธเจ้า ประรินิพพาน มีว่าไว้ เกี่ยวกับพระจุฬามณี

    ที่พระอินท์ เอาเขียวแก้ว ของพระพุทธเจ้า ไปเก็บ หรือ ประดิษฐสถานไว้ที่นั่น

    แต่สถาปัตย์ จานบิน มีในหลักสูตร ไหม มีที่มาที่ไป ในบวรพุทธศาสนาไหม

    ผมเอง คิดว่าไม่มีแน่นอน

    แสดงว่าหลับหู หลับตา นั่งคิด นั่งฝัน ส่งเดช พระเชษฐา ไป

    ผลงาน ก็เลยออกมาแบบนี้ (ไห้ชื่อว่าสถาปัตย์ จานบินลงจอด)
     

แชร์หน้านี้

Loading...