พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

อนุโมทนาด้วยครับ......

 

เห็นแล้วหน้าปลื้มใจจริงๆ

ขออนุโมทนาสาธุครับ

 

พระผงพระราชลัญจกรมังกรฮกนี้มีที่มาอย่างไรนั้น
​

ผมบังเอิญค้นพบได้จากงานนิพนธ์ชุดสมบูรณ์ของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน หมวดเบ็ดเตล็ด-ความรู้ทั่วไป เล่มที่ ๔ เรื่องบันทึกเรื่องความรู้ต่างๆ(เล่ม ๒)​

[FONT=courier new,courier,monospace]ด้วยเอกสารสำคัญชิ้นนี้ เป็นการถามตอบระหว่างศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน กับ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ท่านจะเข้าใจถึงที่มาที่ไปของคำว่ามังกรฮก ซึ่งท่านได้พูดถึงคำว่า "ฮก ลก ซิ่ว" ทำให้มองเห็นความสัมพันธ์ทางการค้า การฑูตของไทย-จีนในสมัยของรัชกาลที่ ๕ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งน่าจะเชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรม ประเพณี และพระสมเด็จฮก ลก ซิ่ว ที่บันทึกไว้ในหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ซึ่งก็คือสมเด็จปัญจสิรินั่นเอง[/FONT]​

ฮก คือ วาสนา ได้แก่ความเป็นใหญ่ เป็นอิสระ มียศ บรรดาศักดิ์ ให้การทั้งปวงสำเร็จได้ด้วยอานุภาพ​

[FONT=courier new,courier,monospace]องค์ที่ ๑ คุณchantasakuldecha[/FONT]
[FONT=courier new,courier,monospace]องค์ที่ ๒ คุณdrmetta[/FONT]
องค์ที่ ๓ คุณkeatipinich

ผมได้รับพระผงพระราชลัญจกรมังกรฮก บรรจุพระธาตุอรหันต์ มา ตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าคืออะไร จนเมื่อราว ๓ ปีก่อน ก่อนที่ผมจะมอบพระผงพระราชลัญจกรมังกรฮก จำนวน ๓ องค์ กับเพื่อนชาวพระวังหน้าเพื่อสมทบทุนโดยเสด็จพระราชกุศลกับทางมูลนิธิชัยพัฒนา ก็ได้มีความรู้สึกว่าอยากไปที่ร้านหนังสือเก่าร้านหนึ่ง ก็เดินตรงที่ชั้นวางหนังสือหยิบหนังสือเล่มแรกเป็นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ก่อนสมัยสุโขทัย และเปิดหน้ากลางๆ ก็พบภาพมังกรผงาดฟ้า ตามบันทึกของราชวงศ์ซ้อง และหนังสืออีกกองหนึ่งเป็นงานนิพนธ์ของศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน กับ สมเด็จฯเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งหนังสือชุดดังกล่าวมีแบ่งเป็นหมวดต่างๆหลายสิบหมวด แต่ละหมวดมีหลายสิบเล่ม รวมๆแล้ว ทั้งชุดเป็นร้อยๆเล่ม แต่เป็นเรื่องแปลกที่การหาหนังสือทั้ง ๒ เล่มนี้เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่ง นั่นคือหยิบได้ทั้ง ๒ เล่ม และพลิกไปมาก็พบเรื่องราวของพระราชลัญจกรมังกรฮก โดยไม่เสียเวลาเลย เหมือนราวกับว่าได้วาระการไขความลับของพระผงพระราชลัญจกรมังกรฮกนี้ ผมเลยนำมาเผยแพร่ให้เพื่อนชาวพระวังหน้าได้ทราบบกันถึงที่มาที่ไปของพระผงพระราชลัญจกรมังกรฮกนี้ และเป็นการประหยัดกระดาษในการxerox และส่งทางไปรษณีย์ไปให้ เอาเป็นว่า อ่านกันใน บอร์ด และผมก็จะส่งข้อมูลทาง PM ไปเป็นการเฉพาะก่อนเลย...

นำข้อมูลเพิ่มเติมของฮกหลง หรือมังกรฮกมาให้อ่านกันอีกเล็กน้อย..

สุมาเต็กโช (อังกฤษ: Sima Hui ; จีนตัวเต็ม: 司馬徽; จีนตัวย่อ: 司馬徽) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก นักปราชญ์เต๋าผู้ได้รับการนับถืออย่างมากของนักปราชญ์คนสำคัญ ๆ ในสามก๊กเช่นจูกัดเหลียง, ชีซีและบังทอง เป็นเพื่อนสนิทกับบังเต็กกง ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของบังทอง เป็นผู้ให้ฉายา "ฮองซู" แก่ บังทอง เป็นผู้ที่สามารถอ่านผู้คนและสถานการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ จนได้ฉายาว่า "ซินแสแว่นน้ำ" อาศัยในเขตเมืองซงหยง เป็นปราชญ์ที่ยึดติดกับธรรมชาติ ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง
[แก้] ประวัติ

สุมาเต็กโช ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อเล่าปี่โผนม้าเต็กเลาหนีการตามล่าของชัวมอและเตียวอุ๋น ลูกน้องของเล่าเปียวจากเมืองเกงจิ๋ว ระหว่างที่เดินทางหนี เล่าปี่ได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวนาธรรมดา ๆ เล่าปี่จึงถอดถอนหายใจว่า เหตุใดเราจึงไม่มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายเช่นคนเหล่านี้ ขณะนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งเป่าขลุ่ยขี่ควายผ่านมา เด็กคนนั้นทักเล่าปี่ว่า ท่านใช่เล่าปี่หรือไม่ จนเล่าปี่รู้สึกประหลาดใจว่า เหตุใดเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งถึงรู้จักตน เด็กชายขี่ควายจึงบอกว่า อาจารย์ของตนคือ ท่านสุมาเต็กโช บอกว่า ผู้ที่ขี่ม้าสีขาวผ่านมาคือ เล่าปี่และอีกไม่นานจะต้องผ่านมาทางนี้ จึงให้ข้าพเจ้าออกมาต้อนรับ

เมื่อเล่าปี่ได้พบกับสุมาเต็กโช ในกระท่อม สุมาเต็กโชแกล้งแหย่ถามเล่าปี่ว่า ท่านก็ทรงคุณธรรม เหตุใดถึงยังตั้งตัวไม่ได้ เล่าปี่ตอบว่า เพราะไม่มีเมืองอาศัยเป็นของตนเอง สุมาเต็กโชจึงว่า ที่ท่านยังไม่มีเมือง ไม่อาจตั้งตนได้ เห็นเป็นเพราะยังไม่มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำมากกว่า เล่าปี่ตอบว่า ก็ข้าพเจ้ามีซุนเขียนและบิต๊กอยู่แล้ว แต่สุมาเต็กโชแย้งว่า ซุนเขียนและบิต๊กเป็นเพียงบัณฑิตผู้รู้หนังสือธรรมดา ๆ ยังไม่อาจเป็นปราชญ์ผู้พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ เล่าปี่จึงสำนึกขึ้นได้และถามสุมาเต็กโชว่า แล้วจะหาปราชญ์ที่ปรึกษาได้ที่ใด สุมาเต็กโชตอบว่า ในแผ่นดินขณะนี้มีเพียงปราชญ์ 2 คนเท่านั้นที่จะช่วยท่านพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ เมื่อเล่าปี่ถามว่าใคร สุมาเต็กโชหัวเราะไม่ตอบ แต่เทน้ำจากกาเขียนตัวอักษรลงบนโต๊ะ คำว่า "ฮกหลง" กับ "ฮองซู" พอให้เล่าปี่เห็น แล้วลบออก

หลังจากที่ชีซีจากเล่าปี่ไปแล้ว และแนะนำขงเบ้งให้เล่าปี่ พร้อมเฉลยปริศนาของคำว่า ฮกหลง ฮองซู แก่เล่าปี่แล้ว สุมาเต็กโชแวะมาหาเล่าปี่ และถามถึงชีซี เล่าปี่เล่าว่า ชีซีต้องไปอยู่กับโจโฉ เพราะแม่ของชีซีถูกบังคับจากโจโฉ สุมาเต็กโชอุทานว่า ชีซีโดนหลอกเข้าให้แล้ว นี่เป็นอุบายของโจโฉ ถ้าชีซีไม่ไปแม่เขาจะไม่ตาย แต่ถ้าชีซีไปแม่เขาต้องตายแน่นอน เพราะนางนั้นเกลียดโจโฉมาก เมื่อรู้ว่าลูกชายตนต้องอุบายโจโฉ นางจะเกิดความอับอายจนฆ่าตัวตาย พร้อมกับอุทานว่า "เสียดายที่ไม่ได้นายที่ดี น่าเสียดาย...น่าเสียดาย" ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามคำที่สุมาเต็กโชกล่าวทุกประการ

จาก..วิกิพีเดีย

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 3 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันศุกร์แห่งชาติครับ

.

 

เบี้ยวจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ส่อชวดกู้เงิน

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


เครดิตบูโรเตรียมใช้ระบบคะแนนเครดิต ประเมินความเสี่ยงผู้ขอสินเชื่อ ดีเดย์เมษายนนี้ พร้อมเตรียมชงรัฐออกกฎหมายเก็บประวัติชำระค่าน้ำ-ค่าไฟผู้ขอสินเชื่อ หากพบไม่ยอมจ่าย อาจชวดกู้เงิน

วานนี้ (26 มกราคม) นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร กล่าวว่า ในปี 2553 ที่ผ่านมา สินเชื่อมีการขยายตัวเป็นจำนวนมาก โดยพบว่า สถาบันการเงินขอใช้ข้อมูลประกอบการพิจารณาสินเชื่อประมาณ 16 ล้านบัญชี เพิ่มจากปี 2552 ซึ่งมีอยู่ 13 ล้านบัญชี และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2554 นี้

ทั้งนี้ ในปีนี้ เครดิตบูโรเตรียมนำระบบคะแนนเครดิต (Credit Scoring) เข้ามาประเมินความเสี่ยงของผู้ขอสินเชื่อ โดยจะเริ่มใช้ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินดี เช่น หากลูกค้ารายใดประเมินแล้วมีคะแนนดี อาจจะได้รับการลดดอกเบี้ยจากธนาคาร และปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า จะสามารถป้องกันการเกิดปัญหาฟองสบู่ได้อีกทาง เพราะมีการตรวจสอบที่รอบคอบมากขึ้น

นายสุรพล กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องการนำระบบคะแนนเครดิตมาใช้แล้ว ขณะนี้เครดิตบูโรกำลังระดมความคิดเห็น ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเครดิตบูโรใหม่ โดยเตรียมจะจัดเก็บประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ของผู้ขอสินเชื่อไว้สำหรับพิจารณาการให้สินเชื่อด้วย

อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บข้อมูลประวัติการชำระค่าสาธารณูปโภคนี้ มีหลายประเทศทั่วโลกจัดทำแล้ว เนื่องจากเห็นว่า หากผู้ขอสินเชื่อไม่ชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ก็สามารถติดค้างการชำระสินเชื่อได้เช่นกัน ส่วนในประเทศไทยจะได้ข้อสรุปในเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาออกเป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ การเก็บประวัติชำระค่าสาธารณูปโภค ยังมีผลต่อการประเมินการจัดอันดับความน่าลงทุน และความยากง่ายในการเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยของธนาคารโลกอีกด้วย




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก สำนักข่าวไทย และ ข่าวสด

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man

​

เบี้ยแก้แห่งวังหน้าร่วมกับหลวงปู่ภู* แห่งวัดอินทร์ บุทองคำ (มีบุเงิน นาค และทอง) เลี่ยมกรอบเงินลงยา แบบนี้เรียกว่าตัวเมียแต่ดูเหมือนจะแรงกว่าตัวผู้ เป็นของดีที่ต้องนำติดตัวตลอดแม้ยามหลับนอน หรือเข้าไปที่อโคจรก็ไม่มีข้อห้ามอันใด

ผมเคยให้เจ้านายที่เป็นชาวเยอรมันช่วยตรวจสอบพลังให้ ปรากฏว่าท่านได้รับกระแสพุ่งออกจากสะดือของท่าน ซึ่งต่างจากพระเครื่องทั่วไป ท่านจักได้รับกระแสพุ่งเข้าหาตัวท่าน

เคยเจอประสบการณ์กับตัวเองสองครั้ง ครั้งแรกไปติดตั้งระบบเครือข่ายที่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สะเรียงที่ office เช่าไว้ให้พนักงานไปแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทางไกล ผมอยู่คนเดียวบนบ้านขณะเดินไปหน้าต่างเบี้ยแก้สั่นตุ๊ดๆ 3-4 ครั้ง ผมตั้งสติได้ไม่ตกใจยังคงทำงานตามปกติ แม่บ้านก็เคยเจอกับตัวเช่นกัน (ตอนนี้ลาออกไปแล้ว) ภายหลังได้ตรวจสอบพบว่าเจ้าของบ้านเป็นผู้หญิงซึ่งตายไปนานแล้ว ซึ่งท่านคงหวงสถานที่นี้อยู่

หลังจากนั้นอีกหลายเดือน ผมเองได้ไปนอนพักกับพนักงานขับรถระหว่างการอัญเชิญพระบรมฯไปถวายวัดต่างๆในแถบภาคเหนือ นำน้ำมนต์ไปด้วยเพื่อจะไปกำหราบ(เพราะเห็นว่าต้องมีคนมาพักเรื่อยๆ)แต่ปรากฎว่าไม่มา แม้กระทั่งในนิมิตต่างๆ

ครั้งที่สอง (ปีที่แล้ว) มีผู้มีวิชาได้เข้ามาพูดคุยกับผมที่บ้านข้างๆห้องพัก และเปรยๆถึงห้องนอนที่ห้องเช่าว่ามีพระเกือบครึ่งห้องไม่เห็นต้องขึ้นไปดูเลย (เราก็งง มันรู้ได้ไงฟะ) จากนั้นพอละจากกันขึ้นมาบนบ้าน ปรากฏว่าเบี้ยแก้เรามีรอยแตก เป็นแนวพุ่งออกนอก ... ผมต้องอัญเชิญท่านไปเข้ากรอบเงินลงยาข้างต้น

ทุกวันนี้คุณไสย์ยังไม่หมดไปจากแผ่นดิน ยังไงก็หามาป้องกันตัวไว้นะครับ และโปรดอย่าเชื่อในสิ่งที่ผมเชื่อ จนกว่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวท่านเอง

หลวงปู่ภู*

- หลวงปู่ภูน่าจะเป็นผู้อัญเชิญปรอทเข้าสู่ตัวเบี้ยแก้ให้กับช่างสิบหมู่ฯ

- ยังมีไม้ครูแห่งวังหน้า(มีน้อยมาก>มากที่สุด)ที่หลวงปู่ภูท่านกำกับการสร้างและการบรรจุมวลสาร จากนั้นจะอาราธนาหลวงปู่พระอิเกสาโรท่านมาเสกให้
</TD></TR></TBODY></TABLE>


เบี้ยแก้ของวังหน้า มิได้มีเพียงเบี้ยแก้ บุทอง บุเงิน บุนาค เท่านั้น

ยังมีเบี้ย.....

ยังมีเบี้ยที่เป็นเนื้อ .....

องค์ผู้อธิษฐานจิต ยังมีเพิ่มเติมอีก

ส่วนผู้สร้าง ประกอบกันหลายส่วน

ส่วนเรื่องไม้ครู ข้อมูลที่แจ้งมา ไม่ถูกต้องครับ

http://palungjit.org/threads/เธซเธฅ...ธดเธ•เธฃ-เธเธฑเธ™.231506/page-26#post4310230

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ psombat
ขนาดแอบหลบมาคุยกันอยู่หลังกุฏิหลวงปู่แหวนท่านแล้วนา ...
ก็ขอขอบคุณครับที่กรุณาเยี่ยมชมนะครับ

องค์ความรู้ทั้งนอกและในที่ได้เผยแพร่ไว้ ณ บอร์ดแห่งนี้ ได้ผ่านการกลั่นกรองมาหลายชั้นแล้วครับ อย่างไรก็ดี พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ให้เชื่อตามหลักกาลามสูตร ยังไงก็รบกวนให้ไปต่อยอด พิสูจน์ ศึกษาเพิ่มเติมกันอีกต่อไป ทั้งทางฝ่ายวิทยาศาสตร์และทางพุทธศาสตร์

ในเรื่องของวัตถุอันเป็นมงคลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย หลวงปู่ทั้งหลายท่านสอนมิให้ยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เพราะเป็นเพียงของสมมุติ แต่ท่านก็มิได้ปฎิเสธว่าสิ่งเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์จริงนะครับ ซึ่งผมและเพื่อนๆน้อมรับคำสอนสั่งทุกๆประการ

สำหรับผมเอง สะสมท่านไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ เทวานุสติ ผมมีความปีติสุข มีความมั่นใจเมื่ออยู่ใกล้ท่านครับ ผมจะค่อยๆทยอยอัญเชิญพระพิมพ์ที่มีอยู่ออกไปตามกระบวนการหรือวิธีการที่เหมาะสม ตามวาระโอกาส ทั้งนี้...จะต้องเพื่อการกุศล เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาเป็นหัวใจสำคัญ

สุดท้าย...ก่อนชีวิตดับขันธ์จากโลกนี้ ของสำคัญๆที่เลือกไว้คู่บารมีไม่กี่ชิ้น ... แม้ท่านจะศักดิ์สิทธิ์-สูงส่งเพียงใด ผมก็จะสรรค์หาบุคคลที่เหมาะสมครอบครององค์ท่านต่อไป หากไม่มีใครที่เหมาะสม ก็จะอัญเชิญท่านสู่ร่มเงาแห่งบวรพุทธศาสนาดังเดิม ...

แต่ระหว่างนี้ ... งานหลักคือการเผยแพร่ข้อมูลพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก 2434 ,พระพิม์ของวังหน้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) และคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ... จะทำสิ่งที่เป็นจริงให้เป็นประจักษ์ในสายตาของพุทธศาสนิกชน และชูท่านให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ครับ

psombat
ชมรมพระวังหน้า
14 ม.ค. 2554<!-- google_ad_section_end -->
__________________

</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง:

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man

มีพี่ท่านหนึ่งในคณะฯที่เป็นห่วงผมในฐานะพี่-น้องกัน เรื่องการเผยแพร่ข้อมูลในบอร์ดแห่งนี้ ให้ระวังในการให้ข้อมูลต่างๆ หากคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จักเป็นเหตุให้เกิดกรรมแก่ผู้เผยแพร่ด้วย เช่น​

• เรื่องของเม็ดกริ่งเหล็กไหลในองค์พระกริ่งปวเรศ
  • ไม่น่าจะส่งเหล็กไหลไปบรรจุยังยุโรปได้​
• อิทธิคุณของพระกริ่งที่กล่าวเกินความเป็นจริง ​
  • คือป้องกันคุณไสยได้แต่ไม่ครบเหมือนเบี้ยแก้​
• เรื่องการเรียกชื่อรุ่นของพระกริ่งรุ่นแรก 2434 นี้ให้ถูกต้อง ​
  • ควรเรียกว่ารุ่น 6​

ผมเรียนชี้แจงกันอีกครั้งว่าในองค์ความรู้ต่างๆมาจากหลายช่องทาง ทั้งเอกสาร ตัวบุคคล องค์ใน ซึ่งในบางครั้งก็ลำบากที่จักให้เชื่อหรือเปิดเผยตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องในข้อมูลได้ แม้กระทั่งเทวดาที่อยู่ในองค์พระ หรือพระที่ท่านมาช่วยสงเคราะห์ไขข้อสงสัยต่างๆ พูดไปก็เดี๋ยวชักนำคนเข้ามาปรามาสอีก เพราะไม่เชื่อกันแถมยังเย้ยหยันต่างหาก

ในเรื่องของเหล็กไหล ได้ข้อมูลสอดคล้องกัน 3-4 แห่ง

1. คหบดี ข้าราชการเกษียญอายุ จ.สมุทรปราการ เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศรุ่นนี้ และได้สูญหายไปร่วม สิบกว่าหรือยี่สิบปีมาแล้ว
2. ผู้ทรงอภิญญาญานสอบถามองค์พระ สามารถเทียบเคียงผลได้ตรงตามครูบาอาจารย์ในคณะ
3. พระผู้ทรงอภิญญาญาน
4. ข้อมูลจากสำนักอื่นๆที่ศึกษาพระกริ่งฯเช่นกัน

ในเรื่องอิทธิคุณของพระกริ่ง
1. แน่ใจหรือว่ามีการสร้่างและอธิษฐานจิตเพียงวาระเดียว
2. แน่ใจหรือว่าพระที่ผมครอบครองเป็นแต่เพียงหลวงปู่ฯปวเรศท่านทรงอธิษฐานจิตร่วมกับคณะองค์อภิญญาใหญ่
3. แน่ใจหรือว่าคณะหลวงปู่ใหญ่ท่านไม่ได้เสกเพิ่ม
4. แน่ใจหรือว่าสมเด็จพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าท่านจะไม่ทรงพระเมตตา

พระกริ่งปวเรศที่รับรู้กันในวงการ พูดไปใครๆเขาก็รู้ว่า พระกริ่งปวเรศที่ทันหลวงปู่ฯปวเรศท่านทรงเสกนั้น เราเรียกกันว่า พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก ส่วนรุ่นปัจจุบันที่วัดบวรสร้างนั้นเราเรียกกันว่ารุ่นสอง


ผมขอเรียนให้ทุกๆท่านไปหาข้อพิสูจน์ตามภูมิปัญญา ตามความสามารถ ตามครูบาอาจารย์ และขอให้เชื่อตามหลักกาลามสูตรดังที่เคยกล่าวไว้ข้างต้นนะครับ ...​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แหน่ง

มีหลายอย่างครับที่เราปถุชน ไม่ได้รับรู้ความลับสวรรค์

ถ้าท่านไม่ได้ห้อยพระกริ่งปวเรศรุ่นแรก 2434

ท่านไม่ได้ห้อยเบี้ยแก้

ท่านแค่สวมแหวน....ที่ท่านมีอยู่ก็ป้องกันได้หมด เหมือนเบี้ยแก้เลยครับ
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man

แถม ... ยังดูดทรัพย์ได้อีกต่างหาก
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man
แถม ... ยังดูดทรัพย์ได้อีกต่างหาก

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เรื่องของพระกริ่งปวเรศ

ชื่อรุ่น เป็นชื่อที่วงการซื้อขาย มีการสมมุติกันขึ้นทีหลัง เพื่อสดวกต่อการซื้อขาย

ที่บอกว่า ควรเรียกว่า เป็นรุ่น 6 หรือ รุ่นปี พ.ศ.2434 เนื่องจากว่า ในการสื่อสาร(การคุยกัน) จะได้ทราบว่า เป็นการสร้างครั้งที่เท่าไหร่

ส่วนคำถามของน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->IT Man<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4306737", true); </SCRIPT>
ในเรื่องของเหล็กไหล ได้ข้อมูลสอดคล้องกัน 3-4 แห่ง
1. คหบดี ข้าราชการเกษียญอายุ จ.สมุทรปราการ เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับพระกริ่งปวเรศรุ่นนี้ และได้สูญหายไปร่วม สิบกว่าหรือยี่สิบปีมาแล้ว
2. ผู้ทรงอภิญญาญานสอบถามองค์พระ สามารถเทียบเคียงผลได้ตรงตามครูบาอาจารย์ในคณะ
3. พระผู้ทรงอภิญญาญาน
4. ข้อมูลจากสำนักอื่นๆที่ศึกษาพระกริ่งฯเช่นกัน

พี่ตอบว่า
เรื่องของพระผู้ทรงอภิญญาญาณ หรือผู้ทรงอภิญญาญาณ พี่ขอทราบชื่อด้วย ส่งให้พี่ทาง Email ก็ได้ครับ

เรื่องของคหบดี และชื่อหนังสือ ส่งให้พี่ทาง Email ก็ได้ด้วยเช่นกัน

ส่วนคำถามของน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->IT Man<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4306737", true); </SCRIPT>
ในเรื่องอิทธิคุณของพระกริ่ง
1. แน่ใจหรือว่ามีการสร้่างและอธิษฐานจิตเพียงวาระเดียว
2. แน่ใจหรือว่าพระที่ผมครอบครองเป็นแต่เพียงหลวงปู่ฯปวเรศท่านทรงอธิษฐานจิตร่วมกับคณะองค์อภิญญาใหญ่
3. แน่ใจหรือว่าคณะหลวงปู่ใหญ่ท่านไม่ได้เสกเพิ่ม
4. แน่ใจหรือว่าสมเด็จพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้าท่านจะไม่ทรงพระเมตตา

พี่ตอบว่า
การสร้างพระกริ่งปวเรศ รุ่นปี พ.ศ.2434 ไม่ได้สร้างเพียงครั้งเดียว แต่สร้างกันหลายครั้ง ซึ่งก็มีมากมายหลายพิมพ์เช่นกัน พิมพ์ส่วนใหญ่อยู่ที่พี่ครับ เคยนำบางส่วนไปให้ชมกัน แต่ก็มีบางส่วนที่ยังไม่มีใครเคยเห็น ยกเว้นพี่ใหญ่เท่านั้น

การอธิษฐานจิต จะมีทั้งหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ อธิษฐานจิตเดี่ยวก็มี มีทั้งหลวงปู่กรมพระยาปวเรศ อธิษฐานจิตกับกลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ แต่ไม่มีองค์พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า อธิษฐานจิตครับ และไม่มีคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร(คณะโสณะ-อุตระ) อธิษฐานจิตครับ

พระราชพิธีหลวงพุทธาภิเษก พระกริ่งปวเรศ รุ่น ปี 2434 มีหลายครั้ง

ส่วนองค์ผู้จาร ก็มีความแตกต่างกันเช่นกัน

มายืนยันเรื่องของการป้องกันคุณไสย ของพระกริ่งปวเรศ ว่า ไม่เหมือนและไม่เท่ากับเบี้ยแก้ คุณสมบัติของเบี้ยแก้ ในเรื่องของการป้องกันคุณไสย ดีกว่า พระกริ่งปวเรศ แน่นอนครับ


ต่อเรื่องแหวนหยก

แหวนหยก คุณสมบัติการป้องกันคุณไสย ไม่เท่าเบี้ยแก้เช่นกัน คุณสมบัติของเบี้ยแก้ ในเรื่องของการป้องกันคุณไสย ดีกว่า แหวนหยก แน่นอนเช่นกันครับ

พี่คงไม่เตือนแล้วครับ มาเตือนเป็นครั้งสุดท้ายครับ

.<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/เธซเธฅ...ธดเธ•เธฃ-เธเธฑเธ™.231506/page-26#post4310230


.

 

"บุญเราไม่เคยสร้าง...ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า"..!






"ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด
เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเองคือบารมีของตนลงทุนไปก่อน
เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยขอยืมบารมีคนอื่นมาช่ว ย
มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สิน ในบุญบารมี
ที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว... เมื่อทำบุญทำกุศลได้
บารมี ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว..
แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้..แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง"...!

"จงจำไว้นะ...เมื่อยังไม่ถึงเวลาเทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่ วยเจ้าไม่ได้....
ครั้นถึงเวลา...ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่..
จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลยจะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า..."

นี่คือคำเทศนา ของเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรมรังษี ที่ได้โปรดชี้ธรรมไว้ในนิมิตหลังจากที่ท่านล่วงลับไป แล้วเมื่อ 100 กว่าปี อันเป็นปฐมเหตุที่ต้องสร้างความดีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man
กราบเรียนท่านพี่ ในเรื่องของพระกริ่งปวเรศนั้นผมขออนุญาตไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพราะแหล่งที่มาของพระกริ่งมีมาหลายช่องทาง และที่อยู่ในมือพี่กับในมือผมก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน ทั้งวาระในการสร้างก็มีมาก่อน 2416 เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นข้อมูลจึงคาบเกี่ยวกัน ไม่ตรงกันทั้งหมดครับผม จริงอยู่ original ของพระกริ่งปวเรศ 2434 ไม่ครบทุกเรื่อง แต่ถ้ามีมาก่อนนั้นหล่ะ หรือถ้าทันหลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโตท่านหล่ะ?

สำหรับเบี้ยแก้นั้นผมมีความเห็นตรงกับพี่ถ้าเอาแหวนมาเทียบ หรือพระกริ่งรุ่น Original 2434 เนื่องจากทราบมาจากพี่เช่นกันว่า ของที่ตั้งใจทำมาเฉพาะอย่างก็จะให้มาต่างกันและมากกว่าที่ขอเพิ่มเติม

แล้วพี่ไม่สงสัยหรือว่าพระสมเด็จกรมท่าที่ให้พระอาจารย์...ท่านอาราธนาคณะหลวงปู่เสกเพิ่มให้ที่เชียงใหม่ ทำไมคุณไสยถึงกระเจิงไปได้ หรือทำไมทำน้ำมนต์ได้เล่าครับ ก็พี่ขอให้ได้ตามนั้นมิใช่หรือครับพี่

ผมตระหนักในพระคุณพี่เสมอนะครับ .... ถ้ามีข้อถกเถียงก็ต้องว่ากันไปตามข้อมูลที่เราได้มาแต่ไม่เหมือนกันทั้ง 100% ก็เท่านั้นเองครับผม เพราะผมเอาองค์ความรู้ที่ได้มาไปต่อยอดอีกที...
</TD></TR></TBODY></TABLE>
สำหรับพระกริ่งรุ่น ปี 2434 (ที่มีเนื้อหาทรงพิมพ์เหมือนกับ รุ่นปี 2434)

ไม่ทันสมเด็จพระพุฒาจารย์โต แน่นอนครับ

เรื่องอื่นๆ พี่ขอไม่ตอบแล้วครับ

เรื่องของแหวน เช่นกัน ไม่อย่างนั้น ทางวังหน้าจะสร้างเบี้ยแก้ขึ้นมาทำไม เพราะว่า หากว่าแหวนหยก สามารถป้องกันคุณไสย ได้เหมือนเบี้ยแก้ และ กรรมวิธีการสร้างเบี้ยแก้ ยุ่งยากซับซ้อนกว่า แหวนหยกมากมาย

แต่หากว่า การอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อธิษฐานจิตเพิ่มเติมนั้น เป็นคนละกรณีกับ องค์ผู้อธิษฐานจิตเดิ่ม ต้องแยกให้ละเอียดครับ

เรื่องของ "ดูดทรัพย์" พี่บอกว่า คำนี้นำมาใช้ไม่ถูกต้อง และหากดูดทรัพย์ได้จริง พี่คงนำมาใส่ 10 วง(10นิ้ว)แล้วครับ

การที่ได้มาเรื่องของโชคลาภ หรือทรัพย์ต่างๆ นอกเหนือจากการทำงานแล้ว หากเป็นโชคลาภลอย ต้องเป็นสิ่งที่ตนเองได้กระทำมาในอดีต ส่วนเรื่องวัตถุมงคลเป็นเพียงส่วนเสริมครับ

หากน้องสมบัติมีความเห็นอย่างไร ก็เป็นสิทธิของน้องสมบัติครับ<!-- google_ad_section_end -->

http://palungjit.org/threads/เธซเธฅ...ธดเธ•เธฃ-เธเธฑเธ™.231506/page-26#post4310445

.

 

s6..s6..s6..ไม้ครูน้อย...เอาไว้พกติดตัว สะดวกใช้ เอาไว้แตะ

ไม้ครูใหญ่...ไม่สะดวกพาพา เอาไว้เคาะ

ไม้ครูอาจารย์ใหญ่..ยิ่งไม่สะดวกพกพา เอาไว้หวด

 

:::เพชร:::, sithiphong+, chantasakuldecha สวัสดียามสายๆครับพี่ท่านทั้ง 3

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 30 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 27 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, :::เพชร:::+, chantasakuldecha+ </TD></TR></TBODY></TABLE>


สวัสดีครับ

อยากรวยให้ทำทาน อยากไปนิพพานให้ภาวนา

ทำทานทำอย่างไร

ภาวนาอย่างไรให้ทางสั้นที่สุด ไม่ต้องเดินอ้อม

รายละเอียดในทุกๆเรื่อง มีรายละเอียดที่มากจริงๆ อย่าดูเพียงผิวเผิน

ที่สำคัญ ของจริงต้องพิสูจน์ได้

สุดท้ายฝากไว้วันนี้

ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี


โมทนาสาธุครับ
.


.

 

ไม้ครูอาจารย์ใหญ่

ไม้ครูใหญ่

ไม้ครูน้อย

มีครบครับ

แต่จะเป็นคนละส่วนกับ คฑา และ ไม้เท้า ครับ

อิอิ


.

 

โหขนาดไม้ครูยังมีหลายขนาดเลย โหสิ่งที่ไม่รู้ยังมีอีกมากมายจริงๆ ยิ่งคนรู้น้อยแบบผมต้องเรียนอีกเยอะ

 

พี่จะเตือนน้องIT Man อีก 2 เรื่องสุดท้ายแล้ว

เรื่องของพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์

ในกรณีการอัญเชิญไปถวายวัด หลังจากนี้ไป รายนามผู้ถวาย พี่จะส่งให้ ไม่ต้องใช้รายนามเดิม เนื่องจาก พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ พี่เป็นผู้อัญเชิญมา การจ่ายเงินค่าบูชาก็เป็นเงินพี่ ไม่ใช่เงินกองทุนหาพระถวายวัด หรือ เงินชมรมรักษ์พระวังหน้า ครับ

เรื่องที่สอง ในกรณีการแจ้งรายละเอียดในงานบุญต่างๆ เช่น การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ไปถวายตามวัดต่างๆ ควรลงรายละเอียด เช่น ผมได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด หรือ ผมได้อัญเชิญ พระพิมพ์ของวังหน้า ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด จะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดกับผู้อ่าน ว่า เป็นของตนเอง
และสิ่งที่พี่มอบให้เพื่อถวายวัด หลายๆท่านได้มีการอธิษฐานไว้แล้ว ควรทำตามที่พี่บอก จะได้ไม่ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ถวายครับ

พี่เตือนในฐานะ พี่เตือนน้องด้วยความเป็นห่วงครับ
sithiphong
28/1/2554
.



.



.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
พี่จะเตือนน้องIT Man อีก 2 เรื่องสุดท้ายแล้ว

เรื่องของพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์

ในกรณีการอัญเชิญไปถวายวัด หลังจากนี้ไป รายนามผู้ถวาย พี่จะส่งให้ ไม่ต้องใช้รายนามเดิม เนื่องจาก พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ พี่เป็นผู้อัญเชิญมา การจ่ายเงินค่าบูชาก็เป็นเงินพี่ ไม่ใช่เงินกองทุนหาพระถวายวัด หรือ เงินชมรมรักษ์พระวังหน้า ครับ

เรื่องที่สอง ในกรณีการแจ้งรายละเอียดในงานบุญต่างๆ เช่น การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ไปถวายตามวัดต่างๆ ควรลงรายละเอียด เช่น ผมได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด หรือ ผมได้อัญเชิญ พระพิมพ์ของวังหน้า ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด จะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดกับผู้อ่าน ว่า เป็นของตนเอง
และสิ่งที่พี่มอบให้เพื่อถวายวัด หลายๆท่านได้มีการอธิษฐานไว้แล้ว ควรทำตามที่พี่บอก จะได้ไม่ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ถวายครับ

พี่เตือนในฐานะ พี่เตือนน้องด้วยความเป็นห่วงครับ
sithiphong
28/1/2554
</TD></TR></TBODY></TABLE>
อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
พี่จะดูไปอีกสักพักครับ

ซึ่งหากพี่เห็นว่าไม่ถูกต้อง พี่จะเตือนในวาระการประชุมชมรมฯครับ

ข้อบังคับของชมรมฯ เราต้องทราบดีครับว่า มีข้อบังคับอะไรบ้าง

sithiphong
เลขานุการชมรมพระวังหน้า
28/1/2554

.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ทำดี เดินหน้ามาไกลแล้ว

อย่าถอยหลังอีก

ด้วยความเป็นห่วง
sithiphong
28/1/2554


.<!-- google_ad_section_end -->

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man
ของเหล่านี้อธิบายได้ไม่ยากครับ

• เพราะพระวังหน้าท่านทรงเลือกคน
• เพราะ พระพิมพ์วังหน้า หรืออื่นๆ แม้จะเนื้อหาพิมพ์ทรงเดียวกัน อายุเท่ากัน แต่พลังไม่เท่ากัน ก็มี มากมาย (บางองค์ไม่มีพลังด้วย)
• เป็นที่ทราบกันดีว่า ในยุค 2411 มีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสนจักรวาลมาร่วมโมทนาด้วย แต่ละพระองค์ท่านก็ทรงพระเมตตาให้แตกต่างกันไป เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่เกิด TOP1,2,3,4 หรือ TOP of The TOP etc... ซึ่งพระกริ่ง,พระวัชรสัตว์ฯ ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นอีก TOP แต่ต้องดูให้ดีนะว่าเป็นพลังของพระองค์ใด เพราะอย่างที่ว่า พิมพ์เดียวกันแต่พลังต่างกัน ยังต้องใช้พิจารณาเพิ่มอยู่
• พระที่พี่ท่านมีครอบครองอยู่นั้นมีเกือบครบทุก TOP ครับ แต่พี่ท่านไม่รู้
• ความสามารถในการตรวจสอบองค์พระทุกวันนี้ ก็แตกต่างกัน ขนาดพระอัครสาวกท่านยังมีเอกทัคคะแตกต่างกันเลย
• แหวน สามารถเทียบเคียงพลังได้จากพระสมเด็จกรมท่า ที่เสกเพิ่มได้ โดยไม่ต้องอาศัยปรอท หรืออื่นๆเหมือนเบี้ยแก้ ท่านมีแต่เพียงมวลสารพระสมเด็จ ท่านก็ทำให้แรงกว่าเบี้ยแก้ได้ สอดคล้องกับคำว่า ...

"ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต"​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ทุกอย่างเคยอธิบายไว้ในกระทู้พระวังหน้าฯทั้งหมดแล้ว

เรื่องเหล่านี้ เป็นเพียงเรื่องเบื้องต้นเท่านั้นครับ

.<!-- google_ad_section_end -->

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
พี่จะเตือนน้องIT Man อีก 2 เรื่องสุดท้ายแล้ว

เรื่องของพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์

ในกรณีการอัญเชิญไปถวายวัด หลังจากนี้ไป รายนามผู้ถวาย พี่จะส่งให้ ไม่ต้องใช้รายนามเดิม เนื่องจาก พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ พี่เป็นผู้อัญเชิญมา การจ่ายเงินค่าบูชาก็เป็นเงินพี่ ไม่ใช่เงินกองทุนหาพระถวายวัด หรือ เงินชมรมรักษ์พระวังหน้า ครับ

เรื่องที่สอง ในกรณีการแจ้งรายละเอียดในงานบุญต่างๆ เช่น การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ไปถวายตามวัดต่างๆ ควรลงรายละเอียด เช่น ผมได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 4 พระองค์ , พระธาตุพระอรหันต์ , พระธาตุนิมิตรพระอรหันต์ ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด หรือ ผมได้อัญเชิญ พระพิมพ์ของวังหน้า ที่พี่sithiphong และคณะ ฝากไปถวายวัด จะได้ไม่สร้างความเข้าใจผิดกับผู้อ่าน ว่า เป็นของตนเอง
และสิ่งที่พี่มอบให้เพื่อถวายวัด หลายๆท่านได้มีการอธิษฐานไว้แล้ว ควรทำตามที่พี่บอก จะได้ไม่ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ถวายครับ

พี่เตือนในฐานะ พี่เตือนน้องด้วยความเป็นห่วงครับ
sithiphong
28/1/2554
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ในเรื่องงานบุญ

หากว่า เป็นงานบุญของชมรมพระวังหน้า ซึ่งต้องมีมติจากการประชุมชมรมฯ โดยเป็นมติ 2 ใน 3 ของคณะกรรมการผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ(คือ ประธานชมรมฯ , รองประธานชมรม และเลขานุการชมรม) รายชื่อในการถวายในงานบุญ จะเป็นรายชื่อของสมาชิกชมรมพระวังหน้า

แต่หากว่า ไม่ใช่งานบุญของชมรมพระวังหน้า ให้ใช้ชื่อตามที่พี่ส่งให้ครับ

งานบุญ ต้องทำด้วยความละเอียด รอบคอบครับ ไม่อย่างนั้นผลจะกลับมาไม่เต็มร้อย%

sithiphong
28/1/2554

.<!-- google_ad_section_end -->

 

สุดท้ายแล้ว

จะยกตัวอย่างให้เห็น

หากการทำบุญแทนกันได้จริงๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ทราบ หรือไม่รู้เรื่อง

เหมือนกับการทานข้าวหรือน้ำแทนกัน หรือ การหายใจแทนกัน

ทำได้หรือไม่ ลองพิจารณาครับ

.

 

พระผงพระราชลัญจกรรูปมังกรฮก บรรจุพระธาตุอรหันต์<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>

พระผงพระราชลัญจกรรูปมังกรฮก บรรจุพระธาตุอรหันต์<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1>เมื่อสักครู่ (28/01/2554 เวลา13.05)ได้โอนเงิน 5,000 บาทเพื่อร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
ธ.กรุงไทย
สาขาลาดพร้าว102
บช.ออมทรัพย์เลขที่1890-13128-8
บัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีสชญา,นายอุเทน งามศิริ,นายสิรเชษฎ์ ลีละสุนทเลิศ
เรียบร้อยแล้ว
เมตตา