พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>
    อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันจันทร์แจ่มใส ครับ


    .
     
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    สะบายดี ... โอนเงินทำบุญเมื่อวันเสาร์ให้แล้วนะครับ โมทนาสาธุ ...
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ยอมหย่าแต่โดยดีแต่กลับโดนขับไล่ออกจากบ้านที่ยกให้/มังกรซ่อนกาย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">17 มกราคม 2554 06:42 น.</td></tr></tbody></table>
    ทรัพย์สินบางอย่างที่เป็นสินสมรส เช่น บ้านและที่ดิน หากยังผ่อนชำระไม่หมด แต่สามีภริยาจดทะเบียนหย่าขาดกันเสียก่อน จึงเกิดเป็นปัญหาว่าบ้านและที่ดินนั้นจะแบ่งกันอย่างไร หรือหากฝ่่ายหนึ่งนำไปขายโดยอีกฝ่ายมิได้รับรู้หรือยินยอม เพราะชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์มีชื่อสามีหรือภริยาฝ่ายเดียว ผู้ที่ซื้อไปหรือสามีภริยาที่ไม่รู้เห็นยินยอมด้วยจะเสียสิทธิหรือมีสิทธิ อย่างไรบ้าง ปัญหาดังกล่าวมีข้อเท็จจริงให้นำมาศึกษากัน กล่าวคือ

    นายฟิล์ม และ นางแอนจดทะเบียนสมรสกันในปี 2530 นายฟิล์มทำงานบริษัทที่มั่นคงมีเงินเดือนแน่นอน ส่วนนางแอนเป็นแม่ค้าขายขนมเล็กๆน้อยๆมีรายได้ไม่แน่นอน ต่อมาในปี 2532 นายฟิล์มได้ซื้อที่ดิน 21 ตารางวา พร้อมบ้านเลขที่ 22/33 จากบริษัท แสนสุข ในชื่อของนายฟิล์มโดยได้รับความยินยอมจากนางแอน และนายฟิล์มได้จดทะเบียนจำนองไว้แก่ธนาคารก.ซึ่งธนาคารให้สินเชื่อเพราะเห็น ว่านายฟิล์มมีเงินเดือนแน่นอน โดยตกลงผ่อนชำระเดือนละ 15,000 บาท ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในบ้านเลขที่ 22/33 และผ่อนชำระค่าบ้านต่อธนาคารก.เรื่อยมา

    ต่อมาในปี 2545 นายฟิล์มเกิดไปหลงรัก นางสาวเจน จึงขอหย่ากับนางแอน โดยนายฟิล์มตกลงกับนางแอนว่าจะผ่อนบ้านให้และเมื่อผ่อนค่าบ้านครบแล้วจะจด ทะเบียนยกที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 ให้แก่นางแอน นางแอนเห็นว่านายฟิล์มลุ่มหลงนางสาวเจนมาก และตนเองขายขนมอยู่กับบ้านก็มีความสุขดีจึงยอมจดทะเบียนหย่ากับนายฟิล์ม ในปี 2545 โดยมีข้อตกลงหลังทะเบียนหย่า ข้อ 2 ว่า “เรื่อง ทรัพย์สิน ที่ดิน 21 ตารางวาและบ้านเลขที่ 22/33 ซึ่งอยู่ระหว่างผ่อนส่งกับธนาคารก.ซึ่งหากผ่อนส่งชำระเสร็จสิ้นแล้วจะยก กรรมสิทธิ์ให้ฝ่ายหญิง”

    เมื่อนายฟิล์มได้หย่ากับนางแอนได้ 1 ปี นายฟิล์มต้องการใช้เงินมาเลี้ยงดูนางสาวเจน นายฟิล์มจึงได้หลอก นางฟ้า พี่สาวของตนว่าจะนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจและจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด จึงต้องการขายที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 ให้แก่นางฟ้าในราคา 2 ล้านบาท นางฟ้าหลงเชื่อจึงได้ไปไถ่ถอนที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 จากธนาคารก.ให้นายฟิล์ม และนายฟิล์มได้โอนที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 ให้เป็นของนางฟ้า โดยนางฟ้าจ่ายเงินค่าไถ่ถอนและให้นายฟิล์มไปทั้งสิ้นเป็นเงิน 2 ล้านบาท

    หลังจากนั้น 3 เดือน นางฟ้าได้เดินทางไปดูที่ดินและบ้านที่ซื้อจากนายฟิล์มน้องชาย ปรากฏว่าพบนางแอนยังอาศัยอยู่ นางฟ้าจึงเข้าใจว่านางแอน และนายฟิล์มหลอกขายที่ดินและบ้านให้ตนแล้วไม่ยอมย้ายออกไป นางฟ้าจึงฟ้องขับไล่นางแอนให้ออกจากที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 นางแอนได้ให้การ และฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องและเพิกถอนการซื้อขายที่ดินและบ้านพิพาทระหว่างนาง ฟ้าและนายฟิล์ม และให้นางฟ้าโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและบ้านให้แก่นางแอนกึ่งหนึ่งมิฉะนั้นให้ ใช้ราคา 1 ล้านบาท อ้างว่าที่ดินและบ้านดังกล่าวเป็นสินสมรสของตนกึ่งหนึ่ง

    ในระหว่างพิจารณานางแอนขอให้ศาลเรียกนายฟิล์มเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมกับนางฟ้า นายฟิล์มไม่ยอมเข้ามาโดยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ในกรณีดังกล่าวศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าควรหยิบยกข้อตกลงหลังทะเบียนหย่า ข้อ 2 ขึ้นวินิจฉัยก่อนว่ามีความหมายอย่างไร ซึ่งตามข้อตกลงข้อ 2 นั้นไม่มีข้อความตอนใดที่ระบุว่านางแอนยกกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านให้นาย ฟิล์มทั้งหมด เพียงแต่ถ้านายฟิล์มผ่อนหมดแล้วนายฟิล์มก็จะยกส่วนของนายฟิล์มให้นางแอนเท่า นั้น กรณีจึงไม่มีข้อตกลงแบ่งแยกสินสมรสไว้ การแบ่งจึงต้องเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1533 คือแบ่งสินสมรสให้ชายและหญิงได้ส่วนเท่ากัน ดัง นั้น นางฟ้าผู้รับโอนย่อมได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์พิพาทเท่าที่นายฟิล์มมีอยู่ คือ กึ่งหนึ่งเท่านั้น แม้นางฟ้าจะรับซื้อมาโดยสุจริตก็ตาม

    และตามป.พ.พ.มาตรา 1361 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติไว้ว่าตัวทรัพย์สินนั้นจะจำหน่ายจ่ายโอนได้ก็แต่โดยความยินยอม แห่งเจ้าของรวมทุกคน เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่านายฟิล์มนำทรัพย์พิพาทไปขายโดยไม่ได้รับความ ยินยอมจากนางแอน สัญญาซื้อขายระหว่างนายฟิล์มและนางฟ้าจึงผูกพันเฉพาะส่วนของนายฟิล์ม ดังนั้นผลทางกฎหมายคือ นางแอนและนางฟ้าต่างเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 คนละเท่า ๆ กันในทุกส่วนของทรัพย์พิพาท นางฟ้าจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่นางแอนได้ ในกรณีที่ไม่อาจโอนส่วนกรรมสิทธิ์ของนางแอนได้ นางฟ้าและนายฟิล์มต้องร่วมกันรับผิดชดใช้ราคาแทน

    ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปคือ นางแอนมีสิทธิเรียกให้ชำระราคา 1 ล้านบาทหรือไม่ เห็นว่า นางฟ้าซื้อทรัพย์พิพาทมาในราคา 2 ล้านบาท ส่วนของนางแอนจึงเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท การที่นางฟ้าต้องไปกู้ยืมเงินและชำระราคาให้แก่นายฟิล์มแล้ว แม้จะมีความเสียหายเกิดขึ้นแก่นางฟ้าก็ตามก็เป็นเรื่องที่นางฟ้าต้องไปว่า กล่าวเอาจากนายฟิล์มผู้ขายเอง จะให้นางแอนต้องรับผิดในผลอันเกิดจากการกระทำที่นางแอนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือ ยินยอมให้นำทรัพย์สินพิพาทไปจำหน่ายด้วยหาได้ไม่ ศาลจึงพิพากษายกฟ้องนางฟ้าให้นางฟ้าโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและบ้านเลขที่ 22/33 เป็นของนางแอนกึ่งหนึ่ง หากโอนไม่ได้ให้ใช้ราคา 1 ล้านบาท (เทียบเคียงคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2552)

    hiddendragon2552@gmail.com


    .

    Life & Family - Manager Online -
     
  5. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    somlatri, sithiphong+ สวัสดียามเช้าครับพี่ท่านทั้ง 2
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้จัดเตรียม พระบูชา (หน้าตัก 5" ) จำนวน 3 องค์ ( สุโขทัย , เชียงแสน และอู่ทอง ซึ่งมีจารทั้งองค์ ทั้ง 3 องค์) , พระสมเด็จ (เนื้อกรมท่า) , พระสมเด็จ (เนื้อปัญจสิริ) ,พระขรรค์ท้าวเวสสุวรรณ ,เบี้ยแก้ , พระกริ่งปวเรศ เนื้อนาค องค์ใหญ่ และอื่นๆ ถวายพระอาจารย์ของน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปฐม

    สำหรับรายนามผู้ร่วมทำบุญมีด้งนี้
    1.ผม , ผบทบ.ผม และ 2 ครอบครัว
    2.น้องปฐม
    3.น้องสมบัติ
    4.พี่ประทีป

    รายละเอียดผมแจ้งให้ท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า , ท่านผู้สนับสนุนชมรมพระวังหน้า ให้ทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    เรื่องค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง ผมและน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ปฐม จะเป็นผู้ดำเนินการจ่ายให้ครับ

    วันนี้ผมจะเดินทางไปหาคุณnongnooo เพื่อที่จะฝากคุณnongnooo ส่งไปรษณีย์ให้

    มาโมทนาบุญร่วมกันครับ



    .
     
  7. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    กระผมขอขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านที่ให้ความเมตตาและไว้วางใจให้กระผมได้ทำหน้าที่เป็นผู้ถวายครับ และขอโมทนาในกุศลจิตกับพี่ๆทุกท่านด้วยครับผม
     
  8. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    วันนี้กระผมได้ทำบุญใส่บาตรกับพระสงฆ์หลายรูปรวมถึงพระอาจารย์ของกระผมด้วย ขอพี่ๆทุกท่านโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับผม
     
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    โมทนาสาธุครับ
    พระอาจารย์ของปฐมสุดยอดครับ หุหุ :cool:
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มาแจ้งค่าใช้จ่ายในการจัดส่งครับ

    ค่าจัดส่ง รวม 336 บาท

    และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง(ของผม) ในการจัดส่งอีก 130 บาท

    ที่สำคัญที่สุด ขอขอบคุณ สำหรับก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย และ ผัดไทยกุ้งสด ที่คุณnongnooo เลี้ยงตอนกลางวันครับ


    .
     
  11. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 21 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, sittiporn.s </TD></TR></TBODY></TABLE>


    สวัสดีครับพี่

    สบายดีไหมครับ
     
  12. แหน่ง

    แหน่ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +768
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 20 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>แหน่ง, nongnooo, sittiporn.s

    สวัสดีตอนดึกๆๆ ครับ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ของชำร่วยเก๋ในงบประมาณจำกัด



    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน



    เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก brides.com

    คงมีบ่าวสาวหลาย ๆ คู่ ที่ต้องการ ของชำร่วย ราคาประหยัด แต่ดูดีมีสไตล์ อันดับแรกลองเลือกของที่ไม่ต้องราคาสูง อย่างช็อกโกแลต คุ๊กกี้ เทียน เครื่องหอมดอกไม้แห้ง หรือตุ๊กตา แล้วใส่ความคิดเรื่องรูปแบบหน้าตา ของชำร่วย ให้ดูทันสมัย หรือไม่ก็เป็นแนวคลาสสิค

    จากนั้นหากล่องใส่เก๋ ๆ มีลวดลาย หรือตกแต่งเล็กน้อยด้วยโบลายที่เข้ากัน แบบ ของชำร่วย ที่ออกแบบไว้ ก็จะได้ของที่เก๋ไก๋ในราคาเบา ๆ ซึ่งวันนี้กระปุกเวดดิ้งก็มีตัวอย่าง ของชำร่วย ที่ตกแต่งด้วยไอเดียเลิศ ๆ มาฝากกันค่ะ ...



    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน


    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน

    [​IMG][​IMG]

    ของชำร่วยแต่งงาน




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก i DO

    [​IMG]
    ISSUE 44 ฉบับเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2010
    เรื่อง : Supatha

    ของชำร่วย ของชำร่วยงานแต่งงาน ของชำร่วย ในงบประหยัด

    .
    http://women.kapook.com/view20090.html

    .


    .
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    วันนี้กระผมได้รับของที่คุณพี่ nongnooo ส่งให้เรียบร้อยแล้วครับ ผมได้ทำการเปิดดูพระบูชา รวมถึงสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ภายในเรียบร้อยดีทุกประการครับ
    พรุ่งนี้ผมจะทำความสะอาดให้เรียบร้อย ขอขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านที่เสียสละแรงกายแรงใจสำหรับงานนี้นะครับ ถวายวันไหนผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะครับผม เพราะช่วงนี้อาจารย์ท่านปลีกวิเวกปฎิบัติธรรมอยู่ครับ รอท่านออกก่อนครับ
     
  15. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    วันนี้กระผมกับคุณแม่ได้ไปร่วมทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ 30กว่ารูปขอพี่ๆทุกท่านร่วมโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับผม
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]

    ผมเริ่มตั้งคำถามเลยนะครับง่ายมากครับ
    -ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วยครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    คำ ถามที่ ๒ ของผม ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]


    คำถามข้อที่ ๓ รอคุณหนุ่มแป๊บเดียวครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คำถามสุดท้าย
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]


    ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร


    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)



    .

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ๑) ชื่อ เรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วย


    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)
    [​IMG]




    ๓) ให้ เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร

    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)


    ไม่ต้องส่งทาง PM ตอบในกระทู้ได้เลยครับ สามารถลอกกันได้ตามสะดวก หรือจะสอบถามอากู๋ก็ได้ตามสบายครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>
    หนังสือที่มีค่าควรมอบให้กับบุคคลที่สนใจเท่านั้น...ผมคิดว่า กำหนดการหมดเวลาตอบถือเอาวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๔ ตรงกับวันสวรรคตของพระองค์ท่านทางจันทรคติก็แล้วกันนะครับ

    [​IMG] [​IMG]

    -----------------------------------------------------------------


    วันนี้ ผมไปรับหนังสือและปฎิทินมาจากคุณ:::เพชร::: เรียบร้อยแล้วครับ

    ก็เลยถือโอกาสนั่งทานข้าวขาหมู กับคุณ:::เพชร::: และ คุณnongnooo

    เสียดายเวลาน้อยไปหน่อย น่าจะมีเวลามากกว่านี้ครับ

    ผมฝากคุณnongnooo หอมแก้มท่านโดจิ(แทนผม)ให้ 1 ฟอดนะครับ

    คิดถึงท่านโดจิ ขอให้มีกำลังใจสู้ๆๆๆครับ

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ระวังถูกหลอก! สรรพากรยันไม่มีคืนเงินภาษีทาง ATM

    [​IMG]

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    ช่วง นี้มีข่าวเรื่องการหลอกโอนเงินให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตามสื่อทีวีหรือตามหน้าหนังสือพิมพ์ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร อ้างว่ามีลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีผิด หรือ เป็นหนี้บัตรเครดิต เมื่อเหยื่อหลงเชื่อไปทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัตร ATM ก็จะสูญเงินไปจนเกลี้ยง

    ล่า สุด แก๊ง Call Center ออกอาละวาดอีกครั้ง แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรโทรศัพท์ไปลวงเหยื่ออ้างว่า จะคืนเงินเสียภาษีประจำปีผ่านทางระบบ ATM โดยสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ – นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และหมายเลขบัญชีธนาคาร อ้างว่า เป็นหลักฐานในการขอคืนภาษี พร้อมทั้งให้หลอกล่อเหยื่อเดินไปรอที่ตู้ ATM เพื่อรอรับเงินที่โอนไปให้

    หลังจากนั้น จะหลอกให้เหยื่อทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัตร ATM โดยจะให้เหยื่อเลือกเมนูภาษาอังกฤษ ในการกดรับเงินคืนภาษี เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและไม่รู้คำสั่งภาษาอังกฤษ ทำตามขั้นตอนให้กด ตรงโน่นตรงนี้บนตู้ ATM ท้ายที่สุดเมื่อเหยื่อหลงเชื่อทำตามขั้นตอนทุกอย่าง สายโทรศัพท์ที่มีการสนทนาก็ถูกตัดไปทันที เงินคืนภาษีก็ไม่ได้ แถมมารู้อีกทีว่าถูก "หลอกโอนเงินในบัญชีตัวเองให้เหยื่อจนเกลี้ยงไปแล้ว" ต้อง มานั่งเสียใจภายหลังเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยกลุ่มเป้าหมายของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ มีตั้งแต่ข้าราชการระดับชั้นผู้ใหญ่ พนักงานบริษัทเอกชน ไปจนถึงกลุ่มหนุ่มสาวโรงงาน

    ทั้ง นี้ กรมสรรพากร ชี้แจงว่า แม้ในปัจจุบัน กรมสรรพากรได้ปรับระบบบัญชีสำหรับการหักภาษี ณ ที่จ่ายประจำปี 2553 ให้สามารถยื่นภาษีผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ก็ตาม แต่ในการคืนเงินภาษีนั้น กรมสรรพากรจะสั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดในนามธนาคารกรุงไทย โดยจะระบุชื่อผู้รับเงินคืนขีดค่อม และในการขึ้นเงินจะต้องนำเช็คสั่งจ่ายไปเข้าบัญชีเท่านั้น หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อมาสอบถามเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากร ที่เบอร์ 0-2272-8000

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติ่ชนออนไลน์ และ คมชัดลึก

     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กินบาร์บีคิวอย่างไร ให้ปลอดภัย

    [​IMG]

    กินบาร์บีคิวให้ปลอดภัย (แม่บ้าน)

    อาหารประเภทบาร์บีคิว ถึงจะมีชื่อเป็นภาษาต่างชาติ แต่วิธีการปรุงและการกินใกล้เคียงกับอาหารปิ้งย่างของไทย จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าเหตุใดอาหารประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมของเรา โดยมีบาร์บีคิวตั้งแต่ระดับภัตตาคารสุดหรู โรงแรมสารพัดดาว ร้านอาหารทั่วไป จนถึงแผงลอย รถเข็น และตลาดนัด แถมยังมีหลากหลายสัญชาติให้เลือก นอกจากรสชาติแล้ว บาร์บีคิวยังเป็นอาหารที่ปรุงง่าย กินง่าย สะดวกรวดเร็ว และยังเป็นอาหารเชื่อมสัมพันธ์ในหมู่เพื่อนฝูง ครอบครัว ในแบบทำเองกินเองทั้งที่ร้านหรือที่บ้าน ช่วงนี้เริ่มปลอดฝนแล้ว คุณผู้อ่านอาจจะสนใจล้อมวงทำบาร์บีคิวกินกัน ดังนั้นเรามาลองดูกันดีกว่าว่าจะเลือกปรุง เลือกกินอย่างไรให้ปลอดจากพิษภัย

    ต้นตำรับบาร์บีคิว

    ไม่ว่าจะเป็นบาร์บีคิวสัญชาติใด การปรุงอาหารด้วยวิธีนี้ หมายถึงการทำให้อาหารสุกโดยใช้ความร้อนจากเตาถ่าน เตาก๊าซ หรือเตาไฟฟ้าในลักษณะการปิ้งหรือย่าง เตาบาร์บีคิวที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็มี ซึ่งน่าจะเอามาใช้ในเมืองไทยเพราะแดดแรงเหลือทนคำนี้ใช้เรียกอุปกรณ์ (เตา) และตัวอาหารที่เตรียมโดยใช้วิธีนี้ด้วย มีรากศัพท์มาจากคำที่มีความหมายว่า “หลุมไฟศักดิ์สิทธิ์” แม้ต้นกำเนิดของบาร์บีคิวจะไม่ชัดเจน แต่คาดว่ามีกำเนิดมานานไม่น้อยกว่าสองศตวรรษ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังพบวิธีการทำบาร์บีคิวหลากหลายรูปแบบ บางแห่งเป็นการปิ้งหรือย่างบนไฟแรงให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางแห่งการทำบาร์บีคิวหมายถึงการให้ความร้อนแบบทางอ้อม (ความร้อนไม่สูงมาก) เช่น การอบหรือรมควัน เป็นต้น เพื่อให้อาหารสุกอย่างช้า ๆ อาหารที่จะนำมาทำบาร์บีคิวอาจหมักหรือทาเครื่องเทศหรือซอสด้วยก็ได้

    มีอะไรที่ควรระวัง

    หากจะพิจารณาในเชิงสุขภาพ มีประเด็นที่ควรระวังเกี่ยวกับการเตรียมและบริโภคอาหารประเภทบาร์บีคิวอยู่ 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ อาหารเป็นพิษ สารก่อมะเร็ง และมลภาวะ

    โอกาสที่จะเกิดอาหารเป็นพิษ ส่วนมากเกิดในกรณีที่ใช้เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ รวมถึงสัตว์น้ำเป็นวัตถุดิบ เนื้อสัตว์เหล่านี้มีจุลินทรีย์ปนเปื้อนอยู่ตามธรรมชาติ ปัญหาอาจเกิดขึ้นเมื่อการปิ้งย่างทำให้อาหารสุกไม่ทั่วถึงหรือสุกไม่พอ จุลินทรีย์ที่ก่อโรคไม่ได้ถูกทำลายให้หมดไป บางครั้งเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ถูกวางทิ้งรอปิ้งอยู่เป็นเวลานาน ทำให้จุลินทรีย์เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าปกติ

    นอกจากนี้อาจเป็นการปนเปื้อนระหว่างอาหารสุกกับอาหารดิบ เนื่องจากใช้ภาชนะ อุปกรณ์ (มีด ส้อม เขียง จาน ฯลฯ) ปะปนกันถึงแม้จะไม่ใช่เนื้อสัตว์ คืออาจเป็นผักต่างๆ มันฝรั่ง มันเทศ ผลไม้ เป็นต้น การปนเปื้อนก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจุลินทรีย์ที่มาจากดิน และฝุ่นละอองที่ติดมากับอาหารเหล่านั้น แต่ก็อย่างที่เรารู้กันว่าพืชผักมักจะบูดเสียยากกว่าเนื้อสัตว์

    การเกิดสารก่อมะเร็งจากการปิ้งย่าง เป็นเรื่องที่นักวิชาการออกมาเตือนให้ระวังกันอยู่เสมอ บาร์บีคิวและอาหารปิ้งย่างอื่นๆ ที่ทำจากเนื้อสัตว์ที่มีไขมันติด อาจเป็นต้นตอของสารก่อมะเร็งได้ เพราะในระหว่างการปิ้ง ความร้อนจากเตาจะทำให้ไขมันจากอาหารหลอมตัว และหยดลงบนเตาที่ร้อน ส่วนหนึ่งกลายเป็นสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic aromatic hydrocarbons) ซึ่งชื่อยาวจนยากที่จะจำ จึงเรียกกันย่อๆ ว่าสารกลุ่มพีเอเอช (PAH) สารพีเอเอชจะลอยขึ้นไปกับควันและจับบนอาหารที่ปิ้งอยู่ เมื่อเรากินเข้าไป อาหารที่ไหม้เกรียมและมีควันดำจับนั้น จะพาสารก่อมะเร็งเข้าไปในร่างกายด้วย สารก่อมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้คือ สารกลุ่มเฮเทอโรไซคลิก เอมีน (Heterocyclic amines) หรือเอชซีเอ (HCA) จะเกิดจากการเผาไหม้ของโปรตีนในเนื้อสัตว์

    การเกิดมลภาวะเป็นพิษทางอากาศ การเผาไหม้ของถ่านในเวลาปิ้งย่างอาหารทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ เหมือนอย่างที่ออกมาจากท่อไอเสียรถยนต์ รวมทั้งเกิดสารพิษอื่น เช่น เบนซีน โทลูอีน เมทิลีนคลอไรด์ และคลอโรฟอร์ม เป็นต้น ยิ่งเป็นการปิ้งย่างในอาคาร (โดยเฉพาะที่ติดเครื่องปรับอากาศ) ยิ่งเกิดการสะสมของสารพิษเหล่านี้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นปัญหากับผู้ที่ทำงานในร้านอาหารประเภทดังกล่าวมากกว่าลูกค้า ที่ไปนั่งกินเป็นครั้งคราว

    กินให้ปลอดภัย

    ที่เขียนมาทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลิกกินบาร์บีคิวหรืออาหารปิ้งย่าง แต่ควรกินอย่างมีสติ (ว่าเข้าไปนั่น) เริ่มตั้งแต่การดูแลรักษาความสะอาดในระหว่างการเตรียมและปรุง เรื่องของสุขลักษณะเราต้องใส่ใจเสมอไม่ว่าจะเป็นการประกอบอาหารด้วยวิธีใด อย่าหวังพึ่งความร้อนในการฆ่าเชื้อโรคที่ปลายทางเพียงอย่างเดียว และควรปิ้งให้สุกทั่วทั้งชิ้น

    อาหารสดที่เตรียมไว้รอการปิ้ง ไม่ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนาน ๆ ถ้าจะทำในปริมาณมากน่าจะใส่ตู้เย็นไว้ แล้วทยอยแบ่งออกมาปิ้ง เวลาปิ้งอย่าปล่อยให้อาหารไหม้เกรียมหรือเกิดควันมาก เนื้อสัตว์ควรเลาะเอาส่วนที่ติดมันออก ลองเปลี่ยนมาทำบาร์บีคิวผักบ้างเพื่อลดส่วนที่มีไขมัน ใช้ไฟอ่อนและลดเวลาที่ใช้ในการปิ้งโดยทำให้อาหารสุกระดับหนึ่งก่อน เช่น อบในเตาอบ หรือเตาไมโครเวฟ เป็นต้น อาหารจะได้ไม่ไหม้ หากมีส่วนที่ไหม้เกรียมก็ควรตัดออก

    บาร์บีคิวเป็นอาหารที่ทำง่าย อร่อยและสนุก สามารถทำกิน (หรือพากันไปกิน) ในครอบครัว ระหว่างเพื่อนฝูง เพียงแต่มีข้อที่ควรระวังอยู่บ้าง หากใส่ใจจะสามารถอิ่มอร่อย ได้อย่างมีประโยชน์ และไม่เกิดโทษต่อสุขภาพ หน้าหนาวนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการทำ (หรือกิน) บาร์บีคิวก็แล้วกัน พบกันใหม่ฉบับหน้า

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    ที่มา กระปุกดอทคอม
    http://health.kapook.com/view20681.html
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2011
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ปภ. เตือนเลี่ยง 3 พฤติกรรมเสี่ยงตาย ช่วงอากาศหนาว

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปภ. เตือนประชาชนเลี่ยง 3 พฤติกรรมเสี่ยงตายในช่วงอากาศหนาวเย็น

    กรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนเลี่ยง 3 พฤติกรรมเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพถึงขั้นเสียชีวิตในช่วงฤดูหนาว โดยไม่ดื่มสุราแก้วหนาว ไม่นอนในที่โล่งแจ้งโดยไม่มีสิ่งปกคลุมร่างกาย รวมถึงไม่ผิงไฟในที่อับอากาศ โดยให้ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้น และห่มผ้าให้หนากว่าปกติ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายและภูมิต้านทานป้องกันโรคที่มักเกิดใน ช่วงฤดูหนาว

    นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีสภาพอากาศหนาวจัด จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จนถึงขั้นเสียชีวิต ได้แก่

    ไม่ดื่มสุราแก้หนาว

    เพราะนอกจากไม่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายแล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็นได้ อีกทั้งฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบ และสูญเสียความร้อนเร็วขึ้น รวมถึงกดประสาทส่วนกลาง ทำให้ง่วงซึมและหมดสติโดยไม่รู้ตัว

    ไม่นอนในที่โล่งแจ้ง โดยไม่มีสิ่งปกคลุมร่างกาย

    โดยเฉพาะคนเมาที่มักเผลอหลับหรือหมดสติโดยไม่สวมใส่เสื้อผ้าหรือสวมเสื้อผ้า บาง ๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้น เพราะการปล่อยให้ร่างกายสัมผัสกับอากาศเย็นเป็นเวลานาน จะทำให้เส้นเลือดหดตัว การไหลเวียนของโลหิตช้าลง ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน และหัวใจทำงานหนักในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการช็อคจนเสียชีวิต

    ไม่ผิงไฟในที่อับอากาศหรือเต็นท์

    เพราะจะทำให้ร่างกายสูดดมก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์จากควันไฟเข้าสู่ทางเดินหายใจ จำนวนมาก จนขาดออกซิเจนและสำลักควันไฟเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะหากเผลอหลับ โดยไม่ดับไฟให้สนิท ประกายไฟอาจกระเด็นไปติดหรือลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตได้

    นาย วิบูลย์ ยังได้กล่าวแนะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศหนาวเย็น ให้ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้น และห่มผ้าหนา ๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายและเป็นภูมิต้านทานป้องกันโรคที่มักเกิด ในช่วงฤดูหนาว รวมถึงดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีภูมิต้านทานต่ำ จึงเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่ายและมีอาการรุนแรงกว่าคนทั่วไป

    ทั้งนี้หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
    .

    Ĵ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันหลอกเหยื่อ 5 แสน

    โดย ทีมข่าวอาชญากรรม 19 มกราคม 2554 15:36 น.

    [​IMG]

    พล.ต.ต.ปัญญา นำผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาแถลงข่าว


    ตำรวจ ท่องเที่ยว ประสานศูนย์สืบสวนภาค 3 จับ 3 ไต้หวันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้เหยื่อโอนเงิน 5 แสน หลังจากตระเวณกดเงินจากตู้เอทีเอ็มในเมืองพัทยา

    วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พล.ต.ต. อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงผลการจับกุม นายเฉิน ยี่ หลิน อายุ 35 ปี นายโก ยี่ เหิน อายุ 40 ปี และ นายเย็น ยี่ ชุน อายุ 36 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทย 9 ใบ สมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ 27 เล่ม สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 29 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่อพาร์ตเมนต์ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ซอย 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา

    พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2553 ได้มีผู้เสียหายถูกคนร้ายกลุ่มดังกล่าวหลอกโอนเงิน 5 แสนบาท เหตุเกิดในพื้นที่ บช.ภ.3 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.ประพจน์ โชติเกียรติคุณ รอง ผกก.2 บก.ทท. พ.ต.ท.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. พ.ต.ต.อรรถพงษ์ แสนใจวุฒิ สว.งานสืบสวน กก.2 บก.ทท.พร้อมพวกจึงได้ประสานกับตำรวจ บช.ภ.3 พ.ต.อ.ภาณุ บูรณศิริ รอง ผบก.ศสส.บช.ภ.3 และเจ้าหน้าที่ธนาคาร จนได้ภาพถ่ายของคนร้ายที่กำลังถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งจากการวิเคราะห์จุดเฝ้าระวัง พบว่า เป็นบริเวณถนนพัทยากลาง ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2554 เวลา 19.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถจับกุม นายเฉิน ยี่หลิน และ นายโก ยี่ เห็น ได้บริเวณด้านหน้าอพาร์ตเมนต์ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ซอย 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนที่จะเข้าไปตรวจค้นที่ห้องพัก D5 ภายในอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พบ นายเย็น ยี่ ชุน พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด

    จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันกระทำผิดจริง โดยจะตระเวนขับขี่จักรยานยนต์ไปถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ในพื้นที่พัทยา จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันใช้และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นในประการ ที่ น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งบัตรที่ผู้ออกได้ให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด” ซึ่งการกระทำผิดของคนร้ายได้สร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจากนี้จะขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป

    พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวด้วยว่า พฤติการณ์ของคนร้ายจะใช้วิธีการหลอกลวงโดยตั้งคอลเซ็นเตอร์ ในต่างประเทศ โดยใช้ระบบโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถกำหนดหมายเลขให้โชว์ที่เครื่องโทรศัพท์ของผู้เสียหาย ให้เป็นเบอร์ของธนาคาร โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารต่างๆ พร้อมอ้างด้วยว่าผู้เสียหายมีหนี้ค้างชำระค่าบัตรเครดิต หรือถูกขโมยข้อมูลทางการเงินเป็นเหตุให้สูญเสียเงินในบัญชี จึงใช้กลอุบายหลอกลวงให้ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม ให้โอนเงินไปยังบัญชีของคนร้าย ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีกลุ่มคนไทยไปทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ ทำหน้าที่มาหลอกลวงที่โทรศัพท์มือถือของเหยื่อ โดยตั้งคอลล์เซ็นเตอร์อยู่ในต่างประเทศ นอกจากนี้ มีกลุ่มที่ทำหน้าที่ถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนหรือไต้หวัน โดยจะทำการถอนจากตู้เอทีเอ็มในประเทศไทยและไต้หวัน กลุ่มจัดหาบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งจะไปว่าจ้างคนทั่วไปให้ไปเปิดบัญชี และเปิดใช้เอทีเอ็ม โดยผู้เปิดจะได้ค่าตอบแทนบัญชีละ 1,000-2,000 บาท กลุ่มจัดการทางการเงินโอนเงินผ่านโพยก๊วน หรือฝากเงินสดเข้าตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ และกลุ่มระดับสั่งการจะอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

    รอง ผบช.ก.กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดในลักษณะเป็นแก๊งคอ ลเซ็นเตอร์ได้ถึง 200 ราย โดยล่าสุดศาลได้พิพากษาจำคุกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้แก่ นายหลิน หยางจิ้น, นายหวัง เซิน หง ,นายเลี่ยว ไค่ หมิง สัญชาติไต้หวัน และ น.ส.เฉิน หมิง สัญชาติจีน คนละ 140 ปี แต่คงลงโทษไม่เกิน 20 ปี



    .
    Crime - Manager Online -
     

แชร์หน้านี้

Loading...