พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618

    ประวัติของเรือที่พระองค์ทรงมีใช้ในสมัยนั้น ตามที่พลเรือตรี แชน ปัจจุสานนท์ ได้รายงานเล่าไว้ในหนังสือ ประวัติทหารเรือไทย มีดังนี้
    • เรือพุทธอำนาจ (Fairy) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือชนิดบาร์ก (Barque) ขนาด 200 ตัน มีอาวุธปืนใหญ่ 10 กระบอก เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน ใช้เป็นเรือพระที่นั่งของแม่ทัพ คือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เมื่อครั้งทรงเป็นกรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ยกกองทัพไปรบกับญวน ตีเมืองบันทายมาศ (ฮาเตียน)
    • เรือราชฤทธิ์ (Sir Walter Scott) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2379 เป็นเรือแบบเดียวกันกับพุทธอำนาจ เมื่อ พ.ศ. 2384 ไปราชการทัพรบกับญวน
    • เรืออุดมเดช (Lion) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2384 เป็นเรือชนิดบาร์ก (Bark) ขนาด 300 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ เมื่อ พ.ศ. 2384 ได้ใช้ไปราชการทัพรบกับญวน พ.ศ. 2387 ได้นำสมณทูตไปลังกา
    • เรือเวทชงัด (Tiger) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2386 เป็นเรือชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 200 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาท สมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ
    • เรือพุทธสิงหาศน์ (Cruizer) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2398 เป็นเรือชนิดชิพ ขนาด 400 ตัน เรือลำนี้เป็นของพระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้า ฯ
    • เรือมงคลราชปักษี (Falcon) ซื้อเมื่อ พ.ศ. 2400 เดิมเป็นเรือของชาวอเมริกัน ชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 100 ตัน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงซื้อมา แล้วดัดแปลงใช้เป็นเรือรบ เรือพระที่นั่งของพระองค์
    เกียรติประวัติของการทหารเรือไทยสมควรจะต้องยกถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เพราะพระองค์เป็น ผู้ที่ทรงสนพระราชหฤทัยในกิจการทหารเรือในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก เมื่อปรากฏว่ามีเรือรบต่างประเทศเข้ามาเยี่ยม ประเทศไทยคราวใดพระองค์ก็มักหาโอกาสเสด็จไปเยี่ยมเยียนเรือรบเหล่านั้นเสมอ เพื่อจะได้ทรงทราบว่าเรือรบต่าง ประเทศเขาตกแต่งและจัดระเบียบเรือกันอย่างไร แล้วนำมาเป็นแบบอย่างให้กับเรือรบของไทยในเวลาต่อมา

    จากพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้นำในเรื่องเรือสมัยใหม่ ซึ่งผู้คนในสมัยนั้นไม่มีใครเชื่อเลยว่าเหล็กจะลอยน้ำได้แต่พระองค์ได้ทรงแสดงพระปรีชาสามารถให้ปรากฏ ทรงต่อเรือรบ กลไฟขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายด้าน ทรงแตกฉานเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษจนสามารถติดต่อ กับชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดีพระสหาย และพระอาจารย์ เป็นชาว อเมริกันเสียเป็นส่วนมากทรงหมกมุ่นกับกิจการทหารเรือมาตั้งแต่ต้น ด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็น ผู้บัญชาการ ทหารเรือ พระองค์แรก และควรถวายพระนามว่า ผู้บัญชาการทหารเรือวังหน้า สมควรได้รับการถวายพระเกียรติยศขั้นสูงสุด จากชาวกองทัพเรือ ตั้งแต่นี้และตลอดไป

    ขอตอบเรือลำที่6 ครับ เรือมงคลราชปักษี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ไปชมนิทรรศการ"ผี" กันครับ...
    [​IMG] เอ็มโพเรียมกับงานนิทรรศการ"ผี...ความกลัวจัดการได้ด้วยจินตนาการสร้างสรรค์" (1 คน กำลังดูอยู่)
    :::เพชร:::

    เอ็มโพเรียมกับงานนิทรรศการ"ผี...ความกลัวจัดการได้ด้วยจินตนาการสร้างสรรค์"<!-- google_ad_section_end -->

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--document.write('<s'+'cript type="text/javascript" src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=16&j=1&code='+new Date().getTime()+'"></s'+'cript>'); // --></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://ads.palungjit.org/show.php?z=16&j=1&code=1294737759709"></SCRIPT> <NOSCRIPT></NOSCRIPT>
    งานนี้จัดโดย TCDC ที่ชั้น 6 เอ็มโพเรียมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้ไปชมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมารู้สึกว่าจะขยายเวลาไปถึงเดือน มีนาคม ปีนี้ ยังไงก็รีบไปชมกันหน่อยครับ

    ภาพบางส่วนนี้เป็นเพียงบางส่วน ฟังดูน่ากลัว แต่ลองไปชมกันได้ทั้งสาระ ความคิดที่นำมาต่อยอด เรียกว่าความน่ากลัวที่แฝงด้วยปรัชญา ความคิดสร้างสรรค์ ผ่าเปลือกเข้าไปหากระพี้ที่น้อยคนจะนำเสนอได้แบบนี้...

    ภาพทั้งหมดเมื่อเข้าไปในงานแล้วจะงดใช้แฟลช เพื่อสุนทรียภาพของผู้เข้าชม หากเลือกกล้องที่มีความไวแสง ISO มากกว่า 400 ขึ้นไป จะดีที่สุดครับ

    <!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ต่อเลยครับ ถ่ายไปก็กลัวไป รู้สึกเหมือนใครอยู่ข้างหลัง ต้องคอยเหลี่ยวดูอยู่เหมือนกัน.....<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    </FIELDSET>
     
  4. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    การจัดแสง ทำได้ดีมาก แสงที่น้อยมาก+มือที่ไม่นิ่ง+ ISO ระดับเพียง 400 ทำได้เท่านี้เองครับ ขออภัยด้วยครับ...

    ชอบจริงๆ แฟชั่นเสื้อยันต์...ขลังน่าดู<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
  5. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    นิทรรศการ "ผี" นี้ไปเกี่ยวอะไรกับความกตัญญู ดูแล้วเข้าท่ามาก .....<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ส่วนนี้น่ากลัวดี ผีกระสือ ผีกระหัง แม่นาก เปรต ผีโขมด ดูแล้วหวิวๆ ถ่ายไปก็ตกใจกับ"ผี"ที่พื้นห้อง ผีช่องแอร์ครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
  7. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    "เสียง" เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้เกิดความกลัวได้เหมือนกัน มันไปสร้างบรรยากาศ+จิตนาการเสริมความกลัวได้เป็นอย่างดี

    น้องผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ผีนะครับ แต่เอยืนพิจารณาอยู่นาน รอเท่าไหร่ก็ยังไม่ยอมไป ผมเลยจำเป็นต้องให้เธออยู่ในฉากนี้ด้วย เป็นบรรยากาศของห้องออกอากาศทางวิทยุ มีเครื่องไม้ เครื่องมือประกอบเสียงลม เสียงแมวเดิน เสียงม้าวิ่ง น่ากลัวๆครับ...<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  8. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เรื่องฝีๆ ยังเอาไปทำเป็นหนังสือ นิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่า มูลค่าหลายร้อยล้านบาทอีก...<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  9. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ยิ่งนำมาสร้างเป็นหนังด้วยแล้ว เค้าว่ากันว่า ลงทุนน้อย วิ่งไป ขำไป ได้ตังค์ไป...<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </FIELDSET>
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ขมวดปมในช่วงท้ายของนิทรรศการได้ดีมากครับ...

    "ความเชื่อไม่มีถูกผิด เพราะต่างกันไปตามประสบการณ์

    แต่อยู่ที่ว่า ถ้าเชื่อแล้วทำอะไร และจะทำอะไรถ้าหากไม่เชื่อ"

    ขอบคุณ TCDC มากๆครับ สำหรับนิทรรศการที่สร้างสรรค์แบบนี้

    รอชมผลงานชิ้นถัดไปครับ<!-- google_ad_section_end -->
    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG]
    </FIELDSET>
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,385
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
    ๑) ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วย
    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)
    ๓) ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร
    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)
    ******************
    ถามแบบมวยหมู่ก็ขออนุญาตช่วยปฐมตอบแบบมวยหมู่ละกันครับ
    ลอกมาจาก internet ดังนี้ ...

    1.1) เรือมงคลราชปักษี (Falcon)
    1.2) ซื้อเมื่อ พ.ศ. 2400 เดิมเป็นเรือของชาวอเมริกัน ชนิดสกูเนอร์ (Schooner) ขนาด 100 ตัน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฯ ทรงซื้อมา แล้วดัดแปลงใช้เป็นเรือรบ เรือพระที่นั่งของพระองค์
    [​IMG]
    2.1) ซ้าย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
    2.2) ขวา สมเด็จพระสรีสุริเยนทรา บรมราชชนนี

    3.1) พระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศมหิศเรศรังสรรค์ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระอนุชาของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระมหาอุปราช) หรือที่ออกพระนามกันว่า "วังหน้า" มีพระเกียรติยศเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ที่ 2 เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2394 เมื่อทรงมีพระชนมพรรษาได้ 43 พรรษา มีพระนามจารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระปวเรนทราเมศ มหิศเรศ รังสรรค์ มหรรต วรรคโชไชย มโหฬารคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ บวรจักรพรรดิราช บวรนาถบพิตร พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
    3.2) กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (6 กันยายน พ.ศ. 2381 — 28 สิงหาคม พ.ศ. 2428) พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ หรือ พระองค์เจ้ายอดยิ่งประยุรยศบวรราโชรสรัตนราชกุมาร เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ใน พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าคุณจอมมารดาเอม - บางตำรากล่าวว่า พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ ทรงพระนามว่า พระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน ตามชื่อของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนแรก จอร์จ วอชิงตัน (พ.ศ. 2275 - 2342)
    การแต่งตั้งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดขึ้นดำรงตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เพราะในขณะนั้นพระราชโอรสพระองค์โต คือ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ยังทรงพระเยาว์เพียง 12 พรรษา ทำให้เสี่ยงต่อการถูกแย่งชิงราชบัลลังก์ ฝ่ายสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ซึ่งถูกสงสัยมาตั้งแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงพระชนม์ว่าคิดจะชิงราชสมบัติจึงได้เสนอให้ทรงแต่งตั้งพระองค์เจ้ายอดยิ่งเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล แต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้แต่งตั้งพระองค์เจ้ายอดยิ่ง เป็น กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ เมื่อ พ.ศ. 2410 แต่ไม่ได้ตั้งให้เป็นวังหน้า
    3.3) แคน
    3.4) ทำความดีไม่มีที่สิ้นสุด


    ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ... มติชน หรือ DL PDF file และ พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ เป็นต้น

    พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯทรงเป็นผู้ใฝ่รู้ โดยเฉพาะในเรื่องของชาวตะวันตกตั้งแต่ครั้งทรงเป็นเจ้าฟ้าน้อย การศึกษาของพระองค์มุ่งไปในแนวทางเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯทรงมีพระราชประสงค์ เข้าใจได้จากพระราชดำรัสสุดท้ายก่อนเสด็จสวรรคต เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวรหนักแต่ยังทรงดำรงพระสติอยู่ ได้มีกระแสพระราชดำรัสแสดงความที่ทรงห่วงใยบ้านเมืองไว้ว่า “...การต่อไปภายหน้า...การศึกสงครามข้างญวนข้างพม่าก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่ก็แต่ข้างพวกฝรั่งให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่ดีควรจะเรียนร่ำเอาไว้ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว...”<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
    __________________
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2011
  12. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    พี่สมบัติตอบได้ครบถ้วนทุกข้อแล้ว หุหุหุ
     
  13. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมชอบแบบเดี่ยวๆครับพี่สมบัติเลยมาเป็นข้อๆ แล้วนานๆถึงจะนึกตอบได้ด้วยจิคับเพราะความรู้ยังน้อยนักครับ ขอบพระคุณพี่สมบัติที่ช่วยไขคำถามให้น้องได้พอกระจ่างได้บ้างครับผม
     
  14. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    อีกอย่างกระผมขอขอบพระคุณพี่ๆผู้ตั้งคำถามทั้ง3ท่านนะครับ ทำให้กระผมได้ค้นคว้าได้อ่านในสิ่งที่ไม่เคยรับรู้รับทราบมาก่อน ขอขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านที่เสียสละแรงกายแรงใจเดินไปหาข้อมูลรวมถึงมุมในการถ่ายภาพดีๆมาให้คนไกลแบบผมได้รับทราบ งานนี้มีแต่ได้กับได้คุ้มแล้วครับ หุหุหุ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผลวิจัยชี้ ปลากินยุง นับเลขเทียบชั้นปริญญาตรี


    4Share
    [​IMG]



    ปลากินยุงนับเลข (ไทยโพสต์)

    หากคุณคิดว่ามนุษย์ฉลาดกว่าปลาละก็ อย่าเพิ่งมั่นใจนัก นักวิทยาศาสตร์เพิ่งทำการทดลองในห้องปฏิบัติการ และพบว่าปลากินยุงตัวเล็ก ๆ สามารถนับเลขได้ใกล้เคียงกับทักษะของนักศึกษาปริญญาตรีทีเดียว

    ปลาน้ำจืดที่กินลูกน้ำเป็นอาหารพันธุ์นี้ มีความเป็นสัตว์สังคมสูง เมื่อมันพบว่าตัวมันกำลังว่ายน้ำอยู่เพียงลำพัง มันจะรีบตามหาเพื่อนตัวอื่น ๆ ทันที ผลการศึกษาทดลองในแล็บก่อนหน้านี้เคยแสดงว่าปลาชนิดนี้สามารถ "คำนวณ" ความแตกต่างทางปริมาณได้

    แต่ผลการศึกษาชิ้นใหม่เผยว่า ปลากินยุงไม่เพียงบอกความแตกต่างระหว่างตัวเลขหลัก เช่น 4 กับ 8 ได้เท่านั้น พวกมันยังรู้ความแตกต่างของปริมาณที่มีจำนวนมากเป็นหลักร้อย เช่น 100-200 ได้ด้วย

    คริสเตียน อากริลโล จากมหาวิทยาลัยปาโดวาในอิตาลี กล่าวว่า ไม่มีใครคาดคิดว่าการศึกษาสัตว์อย่างเช่นปลา จะให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจแบบนี้ "เราว่าผลที่ได้ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ"

    แม้จะนับเลขได้ แต่ทักษะด้านตัวเลขของปลาพวกนี้ จะหายไปทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วน ของตัวเลข 2 ชุด ซึ่งก็ไม่ต่างกับอาสาสมัครมนุษย์ที่ปวดเศียรกับเรื่องอัตราส่วน

    การทดลองครั้งแรก นักวิทยาศาสตร์ฝึกปลาในแล็บก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างรูปทรงเรขาคณิตจำนวนหนึ่งกับประตูที่เป็นทาง ผ่านเข้าไปรวมกับฝูงปลา

    จากนั้นก็นำมันไปปล่อยในแท็งก์ พวกปลาจะต้องเลือกระหว่างประตู 2 ประตู ที่มีรูปทรงจำนวนต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น รูปทรง 4 ชิ้นเชื่อมโยงกับประตูเอ และรูปทรง 8 ชิ้นเชื่อมโยงกับประตูบี

    เริ่มแรกของการทดสอบ พวกปลายังเลือกไม่ถูกว่าจะไปทางไหนและเข้าไปแบบเดาสุ่ม แต่พอเวลาผ่านไปปลาก็เริ่มเลือกประตูที่ถูกบานบ่อยครั้งขึ้น

    การศึกษาครั้งใหม่ได้ทำการทดลองซ้ำการทดลองนี้ แต่นักวิจัยใช้รูปทรงจำนวนมากขึ้นติดไว้ที่ประตู

    อากริลโลกล่าวว่า ปฏิกิริยาของพวกปลาตลกมาก พวกมันดูประหลาดใจเมื่อเราเปลี่ยนเลขจำนวนน้อย ๆ ขึ้นเป็นหลักร้อย พวกมันว่ายวนในแท็งก์พักใหญ่ มองหาสิ่งเร้าอันใหม่เหมือนกับว่ามันพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งเกิดขึ้น

    "อย่างไรก็ดี หลังผ่านไปสักพักพวกปลาก็เริ่มแก้ปัญหาได้" เขากล่าว

    ขณะ ที่เล่นสนุกกับจำนวนตัวเลขที่ประตู นักวิจัยยังพบด้วยว่าเมื่อจำนวนรูปทรง 2 ชุดมีความใกล้เคียงกันมากขึ้นเท่าใด การเลือกก็จะถูกต้องน้อยลง เช่น หากอัตราส่วนของรูปทรง 2 ชุดที่ประตูเป็น 1:2 (8 กับ 16) หรือ 2:3 (8 กับ 12) ปลาจะเลือกถูกประตูมากกว่า แต่หากอัตราส่วนเปลี่ยนเป็น 3:4 (9 กับ 12) พวกปลากลับไม่แสดงให้เห็นว่ามันสามารถแยกความแตกต่างได้

    ด้วยความอยากรู้ ว่าทักษะการนับเลขของปลากับของมนุษย์เปรียบเทียบกันแล้วเป็นอย่างไร คณะนักวิจัยได้ขอให้กลุ่มอาสาสมัครที่เป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี 25 คนมาทดสอบด้วยปัญหาเดียวกัน โดยให้นักศึกษาชี้ความแตกต่างระหว่างรูปทรงจำนวนมาก 2 กลุ่มภายในเวลา 2 วินาที ด้วยการกะเก็งโดยไม่ให้นับจำนวนรูปทรง

    แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการนับเลข มนุษย์ย่อมทำได้แม่นยำกว่าปลา แต่พอเป็นเรื่องของอัตราส่วนกลับปรากฏว่าศักยภาพในการจำแนกความแตกต่างของ มนุษย์ก็ลดลงเช่นเดียวกับปลา เมื่ออัตราส่วนจาก 2:3 ลดลงเป็น 3:4

    อกริลโลและเพื่อนร่วมทีม ให้ข้อสรุปว่า ผลลัพธ์ที่ได้นี้เสริมหลักฐานที่ว่า มนุษย์, ปลา และสิ่งมีชีวิตที่มีกระดูสันหลัง ต่างก็มีความสามารถในการประมวลตัวเลขเช่นเดียวกัน






    ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์
    [​IMG]
    ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล




     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ภัยพิบัติ 2012 จากมุมมอง “ดร.ก้องภพ อยู่เย็น” <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 มกราคม 2554 10:36 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ดร.ก้องภพ อยู่เย็น</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ลักษณะของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Crop Circle</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพของดวงอาทิตย์เมื่อครั้งไม่ปรากฏจุดมืดเมื่อ 31 มี.ค.2009 (NASA)</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">ภาพ ในย่านรังสียูวีแสดงจุดมืด 2 จุดบนดวงอาทิตย์เมื่อปี 2003 ซึ่งดวงอาทิตย์มีวัฏจักรจำนวนจุดมืดเพิ่มขึ้นสูงสุดและต่ำสุดรอบละ 11 ปี (NASA)</td> </tr> </tbody></table>


    ตลอดปีที่ผ่านมาชื่อของ “ดร.ก้องภพ อยู่เย็น” วิศวกรออกแบบอาวุโสวัย 33 ปี จากแผนกเครื่องมือไมโครเวฟ ศูนย์การบินอวกาศก็อดดาร์ด (Gaddard Space Flight Center) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สร้างความฮือฮาให้แก่ผู้คนในสังคมไทยไม่น้อย

    นอกจากจะมีเครดิตจากการเป็นวิศวกรไทยอายุน้อยที่สุดในนาซาแล้ว การออกมาทำนายภัยพิบัติแผ่นดินไหว ที่เขาอ้างว่าสัมพันธ์กับปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์และการเรียงตัวของดาวนั้น ได้สร้างความสนใจแก่คนทั่วไปมากทีเดียว

    เมื่อต้นปีก่อน ดร.ก้องภพ ได้คาดการณ์ภัยพิบัติที่เฮติไว้ และได้เกิดขึ้นจริง จึงทำให้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติเกิดสนใจและนำข้อมูลของเขาไป เล่าผ่านสื่อ จึงสร้างความฮือฮากันไปไม่น้อย

    ระหว่างนั้น ดร.ก้องภพก็ได้เดินสายบรรยายเกี่ยวกับภัยพิบัติในเมืองไทยอยู่หลายครั้ง กระทั่งเวทีสุดท้ายปลายปีคือคือการบรรยายเรื่อง “เราถูกทำให้ไม่รู้” เมื่อ 28 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา ณ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ จัตุรัสจามจุรี กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ให้ความสนใจเข้าฟังกว่าร้อยคน

    เมื่อสบโอกาสทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการ จึงนัดคุยกับวิศวกรนาซาผู้นี้ เพื่อไขข้อข้อใจในเรื่อง “ภัยพิบัติ” ที่เขาคาดการณ์ไว้ พร้อมๆ กับทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น โดยผ่านการนำเสนอแบบถามตอบ เพื่อให้ท่านผู้อ่านรู้จักกับ “ดร.ก้องภพ” ไปพร้อมๆ กับเรา

    - คุณมีหน้าที่อะไรในนาซา มีทีมงานขนาดไหน?
    ดร.ก้องภพ : ออกแบบอุปกรณ์ตรวจจับคลื่นไมโครเวฟจากกาแลกซีหรือจากที่ไกลๆ จากกาแลกซีของเรามากๆ หรือเรียกได้จากขอบจักรวาลของเราก็ว่าได้

    เรามีทีมงานเป็นนักวิทยาศาสตร์ประมาณ 3-4 คน และเป็นวิศวกรประมาณ 3-4 คน ส่วนที่เหลือเป็นช่างเทคนิคที่เราร้องขอให้มาช่วยเมื่อไหร่ก็ได้

    - ทำงานที่นั่นเป็นอย่างไร มีผลงานอะไรที่ประทับใจบ้าง ?
    ดร.ก้องภพ : สนุกดี ส่วนใหญ่มีหน้าที่คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้านไมโครเวฟ สำหรับสำรวจอวกาศ ผลงานที่ประทับใจขอเป็นผลงานตีพิมพ์อย่างเป็นทางการแล้วกัน เพราะหลายอย่างคงเปิดเผยไม่ได้ มีที่ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการและจดสิทธิบัตร พวกวงจรไมโครเวฟ 2 ชิ้น วงจรคลื่นความถี่ไมโครเวฟ 2 ชิ้นงาน และตีพิมพ์บทความในวารสารวิชาการของนาซา ผมตีพิมพ์ไปทั้งหมด 4 ครั้ง

    - ทำงานที่นาซามากี่ปีแล้ว
    ดร.ก้องภพ : 6 ปี

    - ได้มีโอกาสพบนักบินอวกาศบ้างหรือเปล่า
    ดร.ก้องภพ : เจอครั้งหนึ่ง

    - ใคร? พบเขาในงานอะไร ?
    ดร.ก้องภพ : จำไม่ได้ เขาเชิญมาพูดอะไรนิดหน่อย

    - นาซาให้ความสำคัญกับบุคลากรด้านไหนมากที่สุด นักบินอวกาศ นักวิทยาศาสตร์ หรืออื่นๆ
    ดร.ก้องภพ : ทุก คนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน อาจจะให้ความสำคัญกับนักวิทยาศาสตร์มากที่สุด เพราะเป็นเจ้าของโปรเจกต์ มีจำนวนไม่ถึง 10% แต่มีความสำคัญ เพราะเป็นเจ้าของโครงงาน และเราก็ทำงานให้กับเขา สร้างเครื่องมือให้เขา

    - บรรยากาศการทำงานเป็นอย่างไร? เครียดหรือเปล่า?
    ดร.ก้องภพ : ก็...สำหรับผมไม่เครียด ทำไปเรื่อยๆ มีงานมาก็ทำงาน เห็นปัญหา ทำได้ระดับหนึ่งก็มาคุยกัน ปัญหาบางส่วนที่แก้ไม่ถูกทางก็ช่วยกันแก้ มีการประชุมด้วยกันทุกสัปดาห์ แล้วแยกย้ายไปทำงาน

    - คุณเห็นจุดบอดอะไรในองค์ระดับโลกบ้าง?
    ดร.ก้องภพ : ผม ไม่ทราบว่าเรียกว่าเป็นจุดบอดหรือเปล่า แต่ระบบงานที่ทำมีการแข่งขันกันสูง อย่างนาซาจะมีศูนย์หลายๆ แห่ง สาขา มีมหาวิทยาลัย ที่ต้องทำอุปกรณ์มาแข่งกันเพื่อแย่งโปรเจกต์ พูดยาด งบก็มีจำกัด บางหน่วยงานก็มีเส้น เช่น องค์การหนึ่งจะรู้ล่วงหน้า แล้วทำไปก่อนคนอื่น เรียกว่ามีเส้น แต่ผมพูดอะไรมากไม่ได้เพราะผมยังทำงานให้เขาอยู่

    - คุณอยากเป็นวิศวกรมาตั้งแต่เด็กหรือเปล่า?
    ดร.ก้องภพ : ใช่ ผมเป็นคนชอบประดิษฐ์ ชอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

    - คุณได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร?
    ดร.ก้องภพ : ตอนนั้นชอบทำของเล่น หุ่นยนต์ คือชอบประกอบหุ่นยนต์ ชอบวงจรไฟฟ้า เพราะเราลองประกอบและทดลองใช้ได้

    - จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณชอบประดิษฐ์สิ่งของมาจากอะไร?
    ดร.ก้องภพ : เหมือนเด็กทั่วไป ที่ดูหนังการ์ตูนแล้วอยากทำได้บ้าง และตอนเด็กๆ ชอบอ่านหนังสือวิทยาศาสตร์

    - อยากให้เล่าเรื่องการบรรยายของคุณที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์
    ดร.ก้องภพ : ผม ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งเหมาะสมหรือไม่ ที่จะนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ข้างนอก เพราะเรื่องที่เล่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ลี้ลับทั้งหลาย ประวัติศาสตร์อีกแง่มุมหนึ่งของโลก และเรื่องเทคโนโลยีที่มีการคิดค้นขึ้นแต่ไม่ได้เผยแพร่ให้คนทั่วไปทราบ

    - เทคโนโลยีที่ว่านั้นเป็นของนาซาหรือเปล่า ?
    ดร.ก้องภพ : ไม่ใช่ครับ เป็นเทคโนโลยีทั่วไป ไม่เกี่ยวกับงานที่ผมทำ

    - คุณได้รับข้อมูลตรงนี้จากที่ไหน?
    ดร.ก้องภพ : ทางอินเทอร์เน็ต แต่เราก็ต้องวิเคราะห์ว่าเป็นจริงแค่ไหน มีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงบ้าง

    - กรุณาขยายความหน่อย?
    ดร.ก้องภพ : เช่นมีเทคโนโลยีที่ใช้แทนน้ำมันและราคาถูกกว่าน้ำมัน

    - อะไรบ้าง?
    ดร.ก้องภพ : น้ำ … ผมก็ไม่อยากให้ลงเท่าไหร่ เพราะมันจะมีปัญหาพวกมาเฟียคุมอยู่ ผมรู้ดีครับ แต่มีไม่กี่คนที่ทราบ แต่ผมไม่อยากพูดอย่างนั้น ผมอยากบอกว่าทุกอย่างมีผลประโยชน์ขัดแย้ง มีเทคโนโลยีที่ความสำคัญมากๆ ที่ไม่ได้รับการเผยแพร่แก่สาธารณะ แต่ก็มีการเผยแพร่นะครับ เป็นเอกสารออกมา สมมติอย่างที่สหรัฐฯ มีเทคโนโลยีออกเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา เมื่อหมดอายุถึงจะเผยแพร่ คือเผยแพร่เมื่อหมดอายุก่อนหรือต้องร้องขอ ซึ่งตรงนี้เขาเผยแพร่อย่างเป็นทางการ แต่เราต้องไปค้นเองถึงจะเจอ

    - เวลาว่างคุณชอบทำอะไร?
    ดร.ก้องภพ : ตอนนี้หรือเมื่อก่อน

    - เมื่อก่อนคุณชอบทำอะไร?
    ดร.ก้องภพ : เมื่อก่อนผมไม่ชอบทำอะไร เล่นเกม อ่านหนังสือ

    - แล้วตอนนี้ชอบทำอะไร?
    ดร.ก้องภพ : ตอนนี้ทำวิจัย ทำวิจัยส่วนตัวตลอดเวลา

    - คุณทำวิจัยส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?
    ดร.ก้องภพ : ปฏิกิริยาพระอาทิตย์ เกี่ยวกับการคาดการณ์ พวกแผ่นดินไหว ปฏิกิริยาพระอาทิตย์

    - ทำไมคุณถึงสนใจเรื่องพวกนี้ ?
    ดร.ก้องภพ : เพราะ ว่า ผมคิดว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นอาจจะมีความรุนแรง หรืออาจจะไม่มีก็ได้ แต่ว่าผมต้องการจะรู้ว่าวัฎจักรของพระอาทิตย์และสาเหตุของปฏิกิริยาพระ อาทิตย์ แผ่นดินไหวและภัยพิบัติธรรมชาติด้วย

    - แต่นาซาก็มีคนศึกษาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว?
    ดร.ก้องภพ : ก็ มี แต่ว่าเนื่องจากวิธีการทั่วไปจะเจาะจงเฉพาะด้าน เป็นเรื่องๆ ไม่เชื่อมโยงแต่ละศาสตร์เข้าด้วยกัน ดังนั้นภาพที่ออกมา บทสรุปที่ออกมาจึงจำกัดมาก จากที่สังเกตธรรมชาติ ภัยธรรมชาติที่ผ่านมา ผมได้สังเกตเห็นความสัมพันธ์อย่างแน่ชัดระหว่างภัยพิบัติและปัจจัยนอกโลก

    - คุณค้นคว้าความรู้ตรงนี้อย่างไร?
    ดร.ก้องภพ : ส่วน ใหญ่จะเป็นเรื่องของคำแนะนำตามอินเทอร์เน็ตจากคนที่เขาสังเกตธรรมชาติ ผมจะเน้นเรื่องการสังเกตเป็นหลัก เพราะจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้เราจับแพทเทิร์นได้ ถ้าเราสังเกตมากๆ เราก็จะเห็นแพทเทิร์นมาก ซึ่งก็มีแรงบันดาลใจ แต่ว่าแรงบันดาลใจที่ผมว่า ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแรงบันดาลใจของผมหรือเปล่า ตรงนี้ทำให้ผมไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้ เพราะเวลาที่ผมพูดเรื่องพวกนี้แล้ว... บางคนเขามีความเชื่อของเขาถูกต้อง แต่ไม่ได้ว่าความเชื่อของเขาไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างถูกต้อง แน่นอน เช่น เรื่อง Crop Circle ก็มีสารคดีออกมาพยายามพิสูจน์ว่าเป็นมนุษย์ทำ แต่จริงๆ แล้วมีหลายอันเลยที่มนุษย์ทำไม่ได้ ในเชิงของเวลาในการทำ ความเที่ยงตรง และปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น ลักษณะการงอของพืชไม่ใช่ลักษณะการหักลงไป แต่ว่าเป็นการงอที่น้ำในพืชแห้งออกไป

    - คุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือไม่?
    ดร.ก้องภพ : ไม่เชื่อ ผมพยายามจะพิสูจน์มากกว่าก่อนที่จะเชื่ออะไรสักอย่าง ...นี่คือภาพของพืชที่เกิดจาก Crop circle ที่ไม่สามารถจะเกิดได้จากมนุษย์ทั่วไป ปกติเรางอ แกนจะหัก แต่นี่ช่วงข้อต่อจะไม่เหมือนที่เห็นข้อต่อทั่วไป (แสดงภาพตัวอย่างต้นพืชที่มีลำต้นหักงอเรียงกันหลายต้น)

    - ภาพของต้นอะไร?
    ดร.ก้องภพ : ไม่ทราบ เป็นต้นพืชที่เขาปลูกในไร่แล้วไปเก็บมา ส่วนใหญ่สารคดีที่ทำออกมาทางทีวีหรือภาพยนตร์ที่บางทีดูเกินจริงนั้น ทำให้คนเชื่อว่าไม่มีอะไร ตัวอย่างวิดีโอที่เขาไปถ่ายมาเมื่อเกิดปรากฏการณ์ Crop Circle จะเห็นได้ว่า มนุษย์ไม่ได้ทำ แต่ไม่มีใครยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจริงแค่ไหน แต่ก็เป็นอย่างนี้ เกิดขึ้นบ่อยมาก พูดง่ายๆ คือ พอเรามีทัศนคติที่บิดเบือนจากข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน เราก็จะได้ข้อสรุปที่บิดเบือน เมื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทำให้วิธีการคิดของเราเป็นอย่างที่เป็นอยู่ พูดง่ายๆ คือมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นบนโลก แล้วผมเห็นว่าข้อความที่เขาส่งลงมาเขาบอกอะไรบางอย่าง

    ตอนนั้นเมื่อปี 2009 มีรูปวาดบนผืนนาอย่างนี้ เขาวาดรูปเกี่ยวกับดาวเคราะห์แล้วประมาณว่า บอกถึงวันที่จะเกิดปฏิกิริยาพระอาทิตย์ ซึ่งเขาคาดการณ์ว่าในวันที่ 7 ก.ค.10 จะมีปฏิกิริยาพระอาทิตย์เกิดขึ้น แล้วผมก็ติดตาม นี่เขาก็คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าถึง 4-5 อาทิตย์ และผมก็ติดตามตั้งแต่ตอนนั้น ปรากฏว่ามีปฏิกิริยาพระอาทิตย์จริงๆ ซึ่งเขาบอกถึงเวลาด้วยว่าช่วงเวลาเท่าไหร่จะเกิด แล้วเป็นสิ่งที่พอเกิดขึ้นแล้วเขาทำนายได้ในสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใน ปัจจุบันทำไม่ได้ มันก็จุดประกายให้ผมเชื่อว่าถ้ามีคนทำได้ ผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน ผมทดลองทำและคาดการณ์ปฏิกิริยาพระอาทิตย์ได้ระดับหนึ่ง แต่ว่ายังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยเพราะผมต้องการให้ข้อมูลแน่นกว่านี้ก่อน

    ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา เราสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้ เพียงแต่ว่าเราอย่าติดอยู่กับความเชื่อบางอย่างซึ่งถูกส่งผ่านทางสื่อ ซึ่งหลายคนถูกกับดักตรงนี้เยอะเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้เยอะเท่าไร เพราะถ้าเกิดเอาไปลงแล้วจะมีคนไม่พอใจ ความเชื่อของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่ผมโดนโจมตีก็เหมือนกัน เพราะความเชื่อของผมกับของเขาไม่เหมือนกัน โดยที่ไม่ดูว่าผลประโยชน์จากความสำเร็จตรงนั้นเป็นอะไรบ้าง ต้องดูที่ ... สมมติผมคาดการณ์ได้ถูกต้อง ผมว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะต่อไปข้างหน้าเราจะมีวิธีคาดการณ์ใช้สำหรับป้องกันและเตือนภัย ผมมองในแง่นั้น แต่คนอื่นผมไม่ทราบ สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือผมทำด้วยวัตถุประสงค์ที่ดี

    - คุณเริ่มสนใจภัยพิบัติตั้งแต่เมื่อไร?
    ดร.ก้องภพ : ช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนั้นเริ่มคาดการณ์ปฏิกิริยาพระอาทิตย์ แล้วมีคนทำให้ดู ไม่รู้ใครไปวาดรูปให้ผมดูเป็นตัวอย่าง ผมสังเกตปฏิกิริยาพระอาทิตย์ตั้งแต่นั้น เขาบอกว่าให้จับตาดูพระอาทิตย์นะ

    - คุณจับตาดูดวงอาทิตย์ยังไง?
    ดร.ก้องภพ : เรา ดูภาพถ่ายพระอาทิตย์จากทางนาซา แล้วก็ทางอีซา (องค์การอวกาศยุโรป) เขามีภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางสาธารณะทุกวัน เราก็ไปดูว่าเมื่อไหร่ที่พระอาทิตย์มีปฏิกิริยาการระเบิด เกิดระเบิดสุริยะขึ้นมาบ้าง แล้วจดบันทึกเอาไว้ แล้วดูว่าช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นบนโลกบ้าง เปรียบเทียบอย่างนี้ทั้งปี ออกมาก็ตรงหมดเลย ผมตั้งข้อสังเกตว่าภัยพิบัติตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป สัมพันธ์โดยตรงกับปฏิกิริยาพระอาทิตย์ ใช้เวลาเก็บข้อมูล 1 ปีเต็มๆ พูดง่ายๆ คือ มีคนชี้แนะให้ผม ผมก็ทำข้อมูล ลองดู พิสูจน์

    - คุณเคยติดต่อคนที่ให้คำแนะนำหรือเปล่า?
    ดร.ก้องภพ : ไม่เคย เขาวาดรูปไว้ ที่เหลือผมทำเอง ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

    - เหตุการณ์ปี 2012 จะเป็นจริงไหม?
    ดร.ก้องภพ : ตามข้อมูลของผม ถ้าเป็นจริง ตอนนี้ก็เป็นจริง ตอนต้นปี 2010 ได้ไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ว่า ภัยพิบัติจะเพิ่มขึ้น ซึ่งก็เพิ่มขึ้นจริงๆ พูดง่ายๆ คือสิ่งที่ผมคาดการณ์ไว้ก็ยังเป็นจริง ซึ่งยังแปรตามปฏิกิริยาพระอาทิตย์ เพราะในปี 2009 และ 2010 มีปฏิกิริยาพระอาทิตย์เพิ่มขึ้นพอสมควร จากเดิมที่ไม่มีเท่าไร ตอนนี้ก็มีเยอะพอสมควร และเราก็ได้ข่าวภัยพิบัติมากขึ้น ถ้าความสัมพันธ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ภัยพิบัติจะมีมากขึ้นจนถึงปี 2013 นี่เป็นเรื่องของวัฎจักรแคบๆ แต่ผมยังศึกษาในเรื่องวัฏจักรยาวๆ อีกด้วย คือวัฏจักรของพระอาทิตย์ซึ่งมีวัฎจักรทุกๆ 11 ปี ดูว่ามีความแตกต่างจากที่แล้วๆ มาอย่างไรบ้าง ไม่อย่างนั้นสมมติฐานนี้จะผิด เพราะทุกๆ ปีที่ผ่านมาไม่ค่อยมีภัยพิบัติ แต่อยู่ดีๆ ก็เริ่มมี แสดงว่ามีปัจจัยอื่นที่นอกเหนือจากพระอาทิตย์ ผมเลยดูออกไปด้านนอก ขอบสุริยะจักรวาล ซึ่งได้เจอข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านนอกขอบสุริยจักรวาล (คำที่ถูกต้องคือระบบสุริยะ) มีพลังงานขนาดใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในขอบด้านนอกสุริยจักรวาล ซึ่งเกี่ยวข้องอย่างมากกับสนามแม่เหล็ก และอนุภาคที่มีประจุความเร็วสูง

    - คุณได้ข้อมูลนี้มาจากไหน?
    ดร.ก้องภพ : ได้มาจากบทความในนิตยสารของรัสเซียและนาซา และอีซา

    - เขามีทีมที่ศึกษาตรงนี้อยู่แล้วหรือเปล่า?
    ดร.ก้องภพ : ใช่ เขามีทีมอยู่แล้ว แต่คนเหล่านี้เขาจะไม่พูดถึงภัยพิบัติ ไม่ดูภัยพิบัติ เขาดูแค่ขอบด้านนอกเฉยๆ พูดง่ายๆ คือเขาต่างทำข้อมูลแต่ไม่เอามารวมกัน

    - เขาเอาข้อมูลไว้ทำอะไร?
    ดร.ก้องภพ : เอาข้อมูลไว้เผยแพร่ธรรมดา เหมือนกับต่างคนต่างทำวิจัยของตัวเอง รู้อะไรก็เอามาเผยแพร่ ส่วนผมนี่เอาข้อมูลทั้งหมด มาปะติดปะต่อกัน

    - แต่ละทีมมีเป้าหมายอะไรในการหาข้อมูล?
    ดร.ก้องภพ : ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสร้างดาวเทียมสำรวจแล้วเอาผลการวัดมาเผยแพร่

    - คุณเริ่มเป็นข่าวได้อย่างไร?
    ดร.ก้องภพ : เริ่ม จากไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้ว ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ไปฟังด้วย ตอนนั้นพูดเรื่องภัยพิบัติจากปฏิกิริยาพระอาทิตย์ แล้วผมได้คาดการณ์ภัยพิบัติที่เฮติ เมื่อ 12-13 ม.ค.10 ซึ่งเกิดขึ้นจริงตามที่คาดการณ์ไว้ พอ ดร.สมิธ เห็นข้อมูลที่แตกต่างจากคนอื่น เห็นว่าทำนายแผ่นดินไหวได้ ท่านจึงติดตามผลงานที่ผมทำนายมาตลอด และถูกต้องด้วย จึงเป็นที่มาว่าทำไมท่านจึงพูดถึงผม และเราเพิ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2010 ผมส่งข้อมูลให้ท่านแต่ไม่คิดว่าจะเป็นข่าว ข้อมูลบางอย่างผมไม่คิดจะเผยแพร่แก่สาธารณชน แต่ว่ามันหลุดออกไปแล้ว พอหลุดออกไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น จะบอกว่าถูกก็ไม่ได้ ไม่ถูกก็ไม่ได้ ก็ต้องรอให้มันเกิด

    ประเด็นที่เขาเอาไปตีก็เอานักวิชาการมาโต้แย้ง ผมก็ไม่ทราบว่านักวิชาการทั้งหลายที่ออกมาโต้แย้งผม เขาศึกษาอะไรบ้าง หรือศึกษาอย่างผมหรือเปล่า หรือศึกษาเข้าใจ เกี่ยวกับความสัมพันธ์พวกนี้เป็นยังไง พูดได้คร่าวๆ เฉยๆ ยังไม่ชัวร์ แต่ผมพยายามเก็บข้อมูล เพื่อดูว่าถูกต้อง 100% หรือเปล่า ไม่ได้หมายความว่าผมเชื่อในสิ่งที่ผมทำทั้งหมด ผมกำลังพิสูจน์อยู่ แต่ที่ผมทำมาเริ่มสรุปได้แล้วว่ามาถูกทาง ยิ่งทำ ยิ่งถูก สิ่งที่ต้องทำต่อคือประมวลผลที่ได้มาจากพระอาทิตย์ให้อยู่ในรูปแบบที่ ประชาชนเห็นได้ง่ายๆ แต่ยังไม่เสร็จ ตอนนี้ผมคืบหน้าไปเยอะแล้ว แต่ยังไม่พร้อมนำข้อมูลทั้งหมดมาเปิดเผย คาดว่าปลายปีน่าจะเสร็จ

    - ตอนที่กลายเป็นข่าว ตกใจไหม?
    ดร.ก้องภพ : ก็ ตกใจ แต่ผมไม่อยากไปโต้แย้งอะไรมาก เพราะผมกำลังศึกษาอยู่ ว่างานผมมีความถูกต้องกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้ามันผิดผมก็ซวยอยู่ดี หรือถ้ามันจริงแล้วผมปฏิเสธ ผมก็ซวยอยู่ดี เลยเลือกที่จะอยู่เงียบๆ ดีกว่า แต่ว่าก็ดูปฏิกิริยา

    - ปัจจัยที่ใช้พิจารณามีอะไรบ้าง?
    ดร.ก้องภพ : มาจากวงโคจรของดาวเคราะห์ทั้งหมดเลย และตอนหลังมีทางช้างเผือกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

    - วัดกันยังไง?
    ดร.ก้องภพ : ยังไม่เปิดเผย รอให้ชัวร์ก่อน ผมยังไม่อยากลงรายละเอียด อย่างทำให้เสร็จก่อน

    - ทราบไหมว่ามีนักวิทยาศาสตร์ออกมาแย้งความเห็นของคุณ?
    ดร.ก้องภพ : ทราบ คือจริงๆ แล้ว เราดูพฤติกรรมของ ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีรูปแบบของมัน ดังนั้นสิ่งที่ผมทำคือ ผมจะไปหารูปแบบนั้นในธรรมชาติ และหาบทสรุปเพื่อนำมาใช้ในการคาดการณ์ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับวิธีการคิดของนักวิทยาศาสตร์ที่เขาใช้กันในปัจจุบัน ซึ่งบางส่วนอาจจะเน้นทฤษฎีมาก่อน ซึ่งบางทีทฤษฎีอธิบายกฎหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติไม่ได้

    - การศึกษาของคุณนั้นหลายคนอาจจะแย้งว่าไม่เป็นวิทยาศาสตร์?
    ดร.ก้องภพ : นี่ ก็เป็นวิทยาศาสตร์ เราตั้งสมมติฐาน เราเห็นแพทเทิร์น แล้วก็ทำการทดลอง แล้วออกมาตามผลการทดลอง ก็เป็นวิทยาศาสตร์ แต่ว่าอธิบายออกมาเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ไม่ได้ เพราะว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้นของกระบวนวิทยาศาสตร์ สังเกต ตั้งสมมุติฐาน แล้วสร้างแบบจำลอง แล้วพิสูจน์แบบจำลอง ซึ่งก็มาถูกต้องระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นผมคงทำนายไม่ถูกนัก ก็หมายความว่าผมได้มาถูกในระดับหนึ่งแล้ว

    - วางแผนว่าจะทำงานที่นาซาอีกนานไหม?
    ดร.ก้องภพ : คง ไม่นานมาก กำลังคิดไว้ว่าจะออกมาทำอย่างอื่น แต่คงสักพัก ผมอย่าง ทำอะไรที่ผมไม่เคยทำ เช่น ผมทำเกี่ยวกับไมโครเวฟ ก็อยากจะทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับไมโครเวฟ แต่ยังเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยี ผมอยากลองพัฒนาอะไรใหม่ๆ บางทีเราอยู่ในสายงานเดิมๆ มานาน มีการพัฒนาเทคโนโลยีจริง แต่เทคโนโลยีเหล่านั้นพัฒนาขึ้นมาจากทฤษฎีเดิมๆ เก่าๆ เวลาผมไปประชุมวิชาการ คุยแต่เรื่องเดิมๆ กู้สึกเบื่อ เราพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ได้จริง แต่ความรู้พื้นฐานที่พัฒนาก็คล้ายคลึงกับของเก่า ทฤษฎีฟิสิกส์ยังเหมือนเดิม แต่ผมอยากทำอะไรที่เปลี่ยนทฤษฎีฟิสิกส์ใหม่ ผมจะเน้นเรื่องเทคโนโลยี เพราะผมเป็นวิศวกร ผมจะเน้นการนำความรู้มาใช้งาน ไม่สนใจว่าจะถูกกฎข้อไหน ผมไม่มองที่กฎ ผมมองที่ผลลัพธ์

    Science - Manager Online -
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]

    ผมเริ่มตั้งคำถามเลยนะครับง่ายมากครับ
    -ชื่อเรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วยครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    คำ ถามที่ ๒ ของผม ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]


    คำถามข้อที่ ๓ รอคุณหนุ่มแป๊บเดียวครับ

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    คำถามสุดท้าย
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]


    ให้เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร


    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)



    .

    </td> </tr> </tbody></table>


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ๑) ชื่อ เรือพระที่นั่งของพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากที่ได้รับการสถาปนาเป็นวังหน้าแล้ว ชื่อว่าอะไร และบอกชื่อเดิมพร้อมประวัติการได้มาด้วย


    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)
    [​IMG]




    ๓) ให้ เขียนประวัติโดยย่อของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าและกรมพระราชวังบวรวิชัย ชาญ (อย่่างน้อย 5 บรรทัด) , เครื่องดนตรีที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าทรงโปรดปรานคือ เครื่องดนตรีชื่ออะไร

    และ สิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้า และ กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (สิ่งที่ตั้งใจทำ เป็นการกระทำครับ ไม่ใช่การทำบุญด้วยเงิน เช่น ขอถือศีล 5 เป็นระยะเวลา 3 เดือน เป็นต้น)


    ไม่ต้องส่งทาง PM ตอบในกระทู้ได้เลยครับ สามารถลอกกันได้ตามสะดวก หรือจะสอบถามอากู๋ก็ได้ตามสบายครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table>

    [​IMG] [​IMG]

    เชิญชาวสมาชิกชมรมพระวังหน้า ตอบกันมาได้เลยครับ




    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    คำถามของคุณเพชร

    ถาม ตู้ทองคำด้านข้าง ไม่ใช่ป้าย ครับ

    ๒) ในห้องป้ายฉลองพระองค์ ตรงป้ายสถิตดวงพระวิญญาณมีตู้ทองด้านซ้าย และด้านขวา ถามว่า คืออะไร ด้านซ้าย และด้านขวามือของเราต่างกันอย่างไร (ดูภาพประกอบ)

    [​IMG]


    [​IMG]
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คำถามของคุณเพชร ถามตู้ทองคำด้านข้าง ไม่ใช่พระป้ายครับ

    ส่วนคำถามพี่ เรื่องของกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ตอบในลักษณะองค์ความรู้ของประวัติศาสตร์ และ องค์ความรู้ตามแบบฉบับชาววังหน้าครับ


    .
     
  20. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ก็ได้ทวนคำถามที่เข้าใจคลาดเคลื่อนกันไปแล้ว และขอบคุณคุณหนุ่มมาชี้ประเด็นซ้ำอีกครั้ง อยากให้ลองพิจารณานะครับ หากพระป้ายทั้ง ๓ ตรงตู้ทองตู้กลาง หากพระป้ายกลางนั้นเป็นของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวจริงๆ ทำไมพระป้ายของพระองค์ท่านถึงได้สูงใหญ่กว่าพระราชบิดา และพระราชมารดาของพระองค์ท่าน หรือสูงใหญ่กว่าพระมหากษัตริย์องค์ก่อนๆ

    พิจารณาแล้วจะเห็นความไม่เหมาะสมหลายอย่าง...

    คำถามข้อนี้น่าจะง่ายที่สุด คำถามที่ยากที่สุดน่าจะเป็นของคุณน้องนู๋ ต้องคิด ๒ ชั้น ชั้นแรกต้องทราบก่อนว่าพระองค์ท่านได้รับพระบวรราชาภิเษกเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล (พระมหาอุปราช) หรือ"วังหน้า"เมื่อปีพ.ศ.ใดก่อน จากนั้นจึงจะไปเทียบปีที่ได้เรือพระที่นั่งลำนั้นมา และประวัติการได้มา...ยากครับ...s6..s6...

    ทั้ง ๒ ท่าน และท่านอื่นๆก็พยายามนะครับ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...