เพื่อการกุศล วัตถุมงคลสายพญานาค ปรอทสายวิชาเก่า เครื่องรางหายาก น.สุดท้าย

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย ตันติปาละ, 9 พฤศจิกายน 2010.

  1. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    อ่าวลืมดู ถึงหน้า110แล้วนี้ ฮุๆๆๆ
     
  2. jumpahom

    jumpahom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,747
    ค่าพลัง:
    +11,036
    หัวเราะน่ากัวจัง เหมือนปู่ยักษ์เลยอ่ะ กัวๆๆๆๆๆ
     
  3. jumpahom

    jumpahom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,747
    ค่าพลัง:
    +11,036
    เป็นห่วงน้องไซจริงๆนะ
     
  4. jumpahom

    jumpahom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,747
    ค่าพลัง:
    +11,036
    ตอนเจอคุณตัน ตื่นเต้นป่ะคะ
     
  5. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    แว๊กกกกกกกกกกกกกกกหายไปหนายหมด
     
  6. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    ตื่นเต้นดีครับ แต่เจอคุณไซตื่นเต้นมากกว่า (ของแปลก)
     
  7. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตันติปาละ [​IMG]
    เข้าชมก่อนได้ ทุกรายการไม่มีค่าส่ง
    สารบัญ
    รายการในนี้ Up Date 5/1/54 15.02น
    หมวดสมบัตินาคา

    [​IMG]
    รายการที่ #6(รายละเอียด น.44)
    ปทุมมณีรัตนะ (บัวแก้ว) ลูกใหญ่ สีน้ำทะเล

    [​IMG]
    รายการที่ #12(รายละเอียด น.44)
    มณีนาคราช สันฐานเขี้ยว งา สีม่วง

    [​IMG]
    รายการที่ #17(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช ลักบี้ สีใส

    [​IMG]
    รายการที่ #18(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีเหลืองทอง

    [​IMG]
    รายการที่ #19(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีใส

    [​IMG]
    รายการที่ #20(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีเขียวอ่อน

    [​IMG]
    รายการที่ #21(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีชมพู

    [​IMG]
    รายการที่ #22(รายละเอียด น.45)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีม่วง

    [​IMG]
    รายการที่ #24(รายละเอียด น.46)
    มณีนาคราช หยดน้ำ สีม่วง

    [​IMG]
    รายการที่ #33(รายละเอียด น.52)
    รายการนี้ไม่คุ้มให้มันรู้ไป มณีนพเก้า เม็ดกลาง

    [​IMG]
    รายการที่ #34(รายละเอียด น.52)
    รายการนี้ไม่คุ้มให้มันรู้ไป มณีนพเก้า เม็ดกลางเล็ก

    [​IMG]
    รายการที่ #89(รายละเอียด น.74)
    ตะกุดนพเก้า


    หมวดวัตถุเสริมพลังธาตุ-ฝึกสมาธิ

    [​IMG]
    รายการที่ #7(รายละเอียด น.44)
    กำไลหยก (สายหยกแท้)

    [​IMG]
    รายการที่ #8(รายละเอียด น.44)
    คตไม้สักทอง

    [​IMG]
    รายการที่ #77(รายละเอียด น.60)
    แร่ดูด (ให้ทำสมาธิ ปรับธาตุ) ชนิดวงรี

    [​IMG]
    รายการที่ #78(รายละเอียด น.60)
    แร่ดูด (ให้ทำสมาธิ ปรับธาตุ) ชนิดวงกลม

    [​IMG]
    รายการที่ #79(รายละเอียด น.60)
    ประคำแร่เฮมาไทด์

    [​IMG]
    รายการที่ #80(รายละเอียด น.62)
    ผลึกเขี้ยวหนุมาน(คริสตัล) สีเหลืองบุษราคัม

    [​IMG]
    รายการที่ #81(รายละเอียด น.62)
    ผลึกเขี้ยวหนุมาน(คริสตัล) สีเขียว มรกต

    [​IMG]
    รายการที่ #82(รายละเอียด น.62)
    ผลึกเขี้ยวหนุมาน(คริสตัล) สีเขียว มรกต

    [​IMG]
    รายการที่ #87(รายละเอียด น.62)
    แก้วสารพัดนึก(แก้วจักรพรรดิ์)

    หมวดวัตถุธาตุ-แร่-เหล็กไหล

    [​IMG]
    รายการที่ #3(รายละเอียด น.44)
    โคตรเหล็กไหล 7 สี


    [​IMG]
    รายการที่ #4(รายละเอียด น.44)
    โคตรเหล็กไหล 7 สี


    [​IMG]
    รายการที่ #10(รายละเอียด น.44)
    พระผงตะไบเหล็กไหล(นาคปรก)

    [​IMG]
    รายการที่ #28(รายละเอียด น.46)
    เหล็กไหลเขาอึมครึม ชิ้นขนาดบูชา

    [​IMG]
    รายการที่ #36(รายละเอียด น.53)
    สายแร่/จ้าวน้ำเงิน/เพชรหน้าทั่ง7สี

    [​IMG]
    รายการที่ #37(รายละเอียด น.53)
    แร่เหล็กไหลเขาอึมครึม

    [​IMG]
    รายการที่ #38(รายละเอียด น.53)
    แร่เหล็กไหลเขาอึมครึม

    [​IMG]
    รายการที่ #40(รายละเอียด น.54)
    ผลึกภูเขาไฟ(เหล็กไหลจันทรา)

    [​IMG]
    รายการที่ #41(รายละเอียด น.54)
    เหล็กไหลเงินยวง

    [​IMG]
    รายการที่ #42(รายละเอียด น.55)
    แผ่นหินเขี้ยวหนุมาน

    [​IMG]
    รายการที่ #43(รายละเอียด น.55)
    เหล็กไหล(ทรหด)พม่า

    [​IMG]
    รายการที่ #57(รายละเอียด น.57)
    คตปลวก(สะเก็ดดาว)

    [​IMG]
    รายการที่ #59(รายละเอียด น.58)
    คตไม้สักทอง

    [​IMG]
    รายการที่ #60(รายละเอียด น.59)
    แร่เหล็กน้ำพี้

    [​IMG]
    รายการที่ #62(รายละเอียด น.59)
    แก้วโป่งขาม ดิบ

    [​IMG]
    รายการที่ #63(รายละเอียด น.59)
    ตับเหล็กไหล

    [​IMG]
    รายการที่ #72(รายละเอียด น.60)
    เหล็กไหลขาว(ไข่มุกกวนอิม)ลูกใหญ่

    [​IMG]
    รายการที่ #73(รายละเอียด น.60)
    เหล็กไหล 7 สีจากชายแดนลาว-พม่า

    [​IMG]
    รายการที่ #109(รายละเอียด น.86)
    ข้าวสารแก้ว เม็ดละ 300 บาท

    หมวดของทนสิทธิ์

    [​IMG]
    รายการที่ #1(รายละเอียด น.44)
    ฟอสซิล กระดูกสัตว์ อายุไม่น้อยกว่า 100-150 ล้านปี


    [​IMG]
    รายการที่ #2(รายละเอียด น.44)
    ฟอสซิล เขียวสัตว์/หน่อหิน

    [​IMG]
    รายการที่ #9(รายละเอียด น.44)
    อิ่งอ้อย

    [​IMG]
    รายการที่ #53(รายละเอียด น.57)
    พุทธนิมิตร(แก้วจักรพรรดิ์)

    [​IMG]
    รายการที่ #54(รายละเอียด น.57)
    แพไข่ปลา(งอกได้)

    [​IMG]
    รายการที่ #56(รายละเอียด น.57)
    คตเต่า(เต่าหิน)

    รายการที่ #97 รายละเอียดตนฺติปาล Tantipala: วัตถุอาถรรพ์จากทุกสารทิศ
    จิ้งจก 2 หาง

    หมวดของอาถรรพ์

    [​IMG]
    รายการที่ #49(รายละเอียด น.56)
    เมฆสิทธิ์

    [​IMG]
    รายการที่ #51(รายละเอียด น.56)
    ขวานฟ้า

    หมวดพระเครื่อง

    รายการในหมวดนี้หมดแล้ว โปรดติดตามรายการใหม่ครับ

    หมวดพระบูชา-เทวรูป


    [​IMG]
    รายการที่ #100 (รายละเอียด น.76)
    ท้าวเวสสุวรรณ บูชา 2,500 บาท

    [​IMG]
    รายการที่ #110(รายละเอียด น.86)
    พระพรหมยืน ศิลปะเขมร บูชา 1,200 บาท



    สนใจโทรมาที่ 083-352-3567,085-693-0832 E-Mail:nonga2008@gmail.com

    [FONT=&quot]ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาย่อย บิ๊กเจียง (หนองคาย)[/FONT]
    [FONT=&quot]ชื่อบัญชี นาย วงษ์พิสุทธิ์ [/FONT][FONT=&quot]ทองพันธุ์[/FONT]
    [FONT=&quot]เลขที่บัญชี [/FONT][FONT=&quot]887-208633-7[/FONT]
    [FONT=&quot]โอนแล้วส่ง [/FONT][FONT=&quot]Mail [/FONT][FONT=&quot]เวลา กับธนาคาร มาครับ พร้อมชื่อที่อยู่จัดส่งด้วย[/FONT] E-Mail:nonga2008@gmail.com

    [FONT=&quot]ของที่จัดส่งมีประกันการจัดส่งและเสียหายหากไม่ได้รับภายใน 3 วันกรุณาโทรแจ้งด้วยครับ[/FONT]
     
  8. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    อั่นแหนะๆ มีเบรคโฆษณา อิอิ
     
  9. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    นิดนึง สวัสดีตอนเช้าครับ
     
  10. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    ยังไม่มีใครมา เหงาๆๆๆๆๆๆ ทามายต้องตื่นเช้า ทำไมไม่นอนตื่นสาย หรือเพราะเราเป็นคนดีเลยตื่นเช้าเจอกับอากาศที่สดใส (เป็นไรมากหรือปล่าว บ่นคนเดียวได้ด้วย)
     
  11. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    ไข่มุกกวนอิม ไข่มุกถ้ำ ไข่หินตัน หรือพญางูเผือก

    ธาตุ กายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่งที่จัดได้ว่ามีความแข็งของโมล์เท่ากับ 10 โมล์คือแข็งแกร่งเท่าเพชรหรือมากกว่าเพชรและมีพลังเทียบเท่ากับธาตุ กายสิทธิ์เหล็กไหลและพระบรมสารีริกธาตุเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีลักษณะและสีสรร รูปร่างเหมือนกับพระธาตุสมเด็จองค์ปฐมเลยครับ และยัง มีอีกชิ้นที่รูปร่างเหมือนกับพระธาตุของพระธาตุของพระอรหันต์ไม่ทราบพระนาม ด้วยครับ แต่องค์ขนาดเท่าลูกปิงปองเนี่ยก็หนักและมีพลัง เกินตัวมาก ด้วยความแข็งที่เท่ากับเพชรดังนั้นจึงมีพลังมากขนาดทำลายก้อนหินขนาดที่ใหญ่ กว่าได้ครับ แต่บางคนบอกว่าใช้หินเจียที่เขาใช้ตัดเหล็ก มาค่อยๆตัดผ่าซีกกว่าจะตัดเข้าก็ใช้เวลานานมากครับ ซึ่งคนเก่าแก่บอกว่าเขาเอาไว้ ใต้ฐานพระพุทธรูปหรือที่พระธาตุหรือเจดีย์ต่างๆครับ เพราะบางคนก็เล่าว่าข้างในไข่มุกกวนอิมนั้นเป็นลูกแก้ว 7 สี บางคนก็บอกว่ามี 12 ราศีอยู่ข้างใน บางคนก็บอกว่ามีองค์เหล็กไหลอยู่ข้างใน ไข่มุกกวนอิมมักจะมีอยู่ในถ้ำลึกที่คนเข้าถึงยาก ชุดนี้ได้มาจากหลวงพระบางประเทศลาว
    ....................................................................................................................
    เหล็กไหล...ก้อนแร่เหล็กบริสุทธิ์ ที่ เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ได้รับการอธิษฐานบรรจุฤทธิ์ โดยพระฤาษีผู้ทรงฌาณชั้นสูง เพื่อธำรงคุณงามความดี โดยมีธาตุกายสิทธิ์เป็นผู้คอยช่วยเหลือผู้ที่มีความทุกข์ยากให้พ้นภัย จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่มีรังสีหรือพลังปราณที่ทรงอำนาจในการ ป้องกันตัว และสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวให้พ้นจากภัยอันตรายอันเกิดจากอาวุธปืนหรือของมีคม เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะและหายากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมายกว่าจะได้มา

    ฉะนั้นเหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และเป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตคนที่มีเหล็กไหลพกติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอุบัติภัยร้ายแรง รวมถึงอาวุธร้ายแรงนานาชนิดได้อย่างน่าอัศจรรย์นั่นเอง

    คำว่า "ธาตุกายสิทธิ์" นั้น หมายถึง วัตถุธาตุบางชนิดที่ปรากฏอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ ประกอบไปด้วยพลังงานอันมหาศาล อันเกิดจากเจตสิกผู้ครอบครองธาตุนั้นแฝงเร้นอยู่ ใช้สำหรับป้องกันภัยให้กับตนเองโดยธรรมชาติ แต่บางครั้งไม่ได้ปรากฏให้เห็นชัดเจน กลับซึมลึกลงไปอยู่ใต้พื้นผิวโลก ตามป่าตามเขา ตามถ้ำ แม้แต่ห้วยหนอง คลองบึง รอจนกว่าผู้ที่มีภูมิจิตภูมิธรรมสูงไปพบเข้า แล้วหยิบยกเอาธาตุกายสิทธิ์เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ เพื่อมวลมนุษยชาติและปกป้องคุ้มครองคนหมู่มาก ดังนั้นจึงเชื่อกันว่า "เหล็กไหล" จัดเป็นธาตุกายสิทธิ์ชนิดหนึ่งที่ประกอบด้วยธาตุที่สำคัญดังนี้

    1. ธาตุเหล็ก คือ ธาตุหลักเนื่องจากมีความแข็งแกร่งมากที่สุดในยุคนั้น

    2. ธาตุดิน ที่ถูกความอัดแน่นของโลก จนเกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาเป็นหินสีต่างๆ เช่น เพชร นิล จินดา อัญมณีหลากสี

    3. ว่านมหามงคล ที่มีฤทธิ์อำนาจในตัว เช่น ว่านต่างๆ ไพรดำ ซึ่งเป็นพืชที่ดูดซับเอาพลังต่างๆ จากผืนดินเก็บสะสมเอาไว้ในตนเอง จนเกิดฤทธิ์เดช

    4. ปรอท หรือธาตุอื่นๆ ที่สามารถเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนที่ได้ด้วยตนเอง โดยการอ่อนตัวแล้วกลิ้งไหลไป มีฤทธิ์อำนาจทางความยืดหยุ่น หรือหดตัวเองได้ หลีกภัยได้เร็ว ปรับสภาพตนเองให้เป็นไปในลักษณะต่างๆ ได้

    ดังนั้นแร่เหล็กที่อยู่ภายใต้ลาวานั้น ย่อมได้รวบรวมเอาสรรพสิ่งจากธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายเหล่านั้นรวมกันไว้ในตัว เอง คือมีฤทธิ์ในการปกป้องตนเองให้พ้นจากภัยในทุกรูปแบบ เพราะฉะนั้นเมื่อมหาฤาษีได้ใช้อิทธิฤทธิ์ดึงธาตุเหล่านี้ขึ้นมา แล้วถอดจิตด้วยฌาณสมาบัติเข้าแฝงตนอยู่ในธาตุกายสิทธิ์เหล่านี้ เพื่อฝึกฝนปฏิบัติทางจิตให้ยิ่งๆ ขึ้นไป จึงทำให้เจตสิกของผู้ทรงฌาณนั้นเกิดพลังอันมหาศาล แม้แต่จะงอเหล็กก็ยังได้ จนมนุษย์ได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้เข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่ทราบว่ามันคืออะไร ก็เลยเรียกกันว่า "เหล็กไหล" ตามสภาวะการแสดงอิทธิ์ฤทธิ์ที่ปรากฏต่อสายตาในขณะนั้นนั่นเอง คือลักษณะเหมือนก้อนเหล็กที่ยืดตัวได้ มีสีสรรต่างๆ กันหลายรูปแบบ เหล็กไหลจึงเป็นธาตุ กายสิทธิ์ที่ทรงอิทธิฤทธิ์ จนกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่ผู้คนแสวงหาไม่รู้จักจบมาทุกยุคทุกสมัยตราบจนเท่า ทุกวันนี้

    ดังนั้น "เหล็กไหล" จึงเป็นที่ปรารถนาและใฝ่ฝันของคนทั่วไป แม้บางที่จะต้องเสี่ยงภัยถึงขั้นเอาชีวิตแลกก็ยอม เรื่องราวของเหล็กไหลจึงดูเหมือนเป็นเรื่องลี้ลับซับซ้อน และหลายคนคงอยากจะรู้เหมือนกันว่า เหล็กไหลคืออะไรกันแน่... เกิดขึ้นมาได้อย่างไร... เหล็กไหลที่ทรงอิทธิฤทธิ์นี้ มีจริงหรือไม่...? จึงเป็นปรัศนีที่ท้าทายความกระหายใคร่อยากรู้ตามลักษณะวิสัยของมนุษย์ จึงทำให้ต้องเที่ยวหาคำตอบจากผู้รู้ทั้งหลาย หรือผู้มีประสบการณ์ที่มีความรู้ที่พึงเชื่อถือได้ จนกลายเป็นตำนาน "เหล็กไหล" ที่เล่าขานสืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณตราบถึงปัจจุบัน

    สีสันและคุณประโยชน์

    1. สีเงินยวง เหล็กไหลชนิดนี้มีอริยเทพ อริยพรหมในระดับ อรูปฌาณ รักษาอยู่ เป็นเหล็กไหลที่มีบารมีธรรมในชั้นสูง พบมากในแถบที่มีอากาศเย็นจัด พวกลามะทิเบตมักใช้พกติดตัว จึงพบมากในเขตเทือกเขาสูงที่มีหิมะปกคลุม เช่นประเทศทิเบต จีน แถบภาคเหนือของไทย ลาว ดีเด่นทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และล่องหนหายตัวได้ ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือดลใจให้ผู้ครอบครองมีจิตใจฝักใฝ่อยู่ในการสร้างบุญสร้างกุศล

    เหล็กไหลชนิดนี้จัดได้ว่า เป็นเหล็กไหลที่มีบารมีธรรมสูงสุดในบรรดาผู้ครอบครองเหล็กไหลทุกชนิด สมัยโบราณมักจะนำไปจัดสร้างพระพุทธรูปหรือเครื่องรางของขลังในสมัยโบราณ ดังนั้นเหล็กไหลชนิดนี้จึงมักจะอยู่ในความครอบครองของนักบวชต่างๆ เช่น ฤาษี ชีไพร ภิกษุสงฆ์ผู้ท่องเที่ยวหาความวิเวกตามป่าเขา

    2. สีเขียวปีกแมลงทับ เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยเทพ อริยพรหม ในระดับ รูปฌาณ เป็นผู้ดูแลรักษา เพื่อมอบให้กับผู้ที่มีบุญบารมี และผู้ที่กำลังประพฤติปฏิบัติอยู่ในบุญกุศล เพื่อแสวงหาความหลุดพ้นนั้น ส่วนใหญ่จะมีบริวารเป็นจำนวนมากคอยอารักขาหลายชั้น ผู้พบเห็นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประพฤติธรรม ที่บังเอิญผ่านเข้าไปพบเข้าโดยบังเอิญ หรือเกิดจากการลองใจของเทพผู้รักษาเหล็กไหลก็แล้วแต่ บุคคลธรรมดาทั่วไปอย่าหมายว่าจะครอบครองเป็นเจ้าของได้โดยง่าย

    ดีเด่นในทุกๆ ทาง ไม่ว่าเป็นเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดกันภัย ล่องหนหายตัว มหาอุด คงกระพัน ยืดได้หดได้ เล่นกับไฟ กินน้ำผึ้ง

    3. สีทอง หรือ สีน้ำตาลอ่อน เหล็กไหลชนิดนี้จะมีเทวดาจำพวกคนธรรพ์และเหล่าเพชรพญาธร เป็นผู้ดูแลรักษา มีฤทธิ์อำนาจใกล้เคียงกับเหล่าพญานาค แต่มีฤทธือำนาจพิเศษกว่าคือสามารถที่จะลื่นไหลไปมาได้ สามารถที่จะกำบังกายได้ มีอยู่ตามป่าเขาทั่วไป

    ดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และความรักเด่นเป็นพิเศษ

    4. สีเขียวอมดำ เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยะเทพ อริยะพรหม ในระดับ รูปพรหม เป็นอริยะธรรมในระดับสูง ที่มุ่งบำเพ็ญบารมีรักษาพระพุทธศาสนา จะอยู่เฝ้ารักษาพระบรมสารีริกธาตุหรืออรหันต์ธาตุที่สำคัญไว้ จึงมักจะปรากฏเป็นลูกไฟดวงใหญ่เป็นสีแสงคุ้มครองรักษาธาตุศักดิ์สิทธิ์ ไม่ให้ผู้คนเข้าไปรบกวน

    เด่นทางด้านอิทธิ์ฤทธิ์ เนรมิตภาพมายา ส่งเสริมผู้ใฝ่ในการปฏิบัติธรรมในรูปแบบการชี้แนะผ่านทางนิมิตรสมาธิ หรือความฝัน จัดเป็นเหล็กไหลที่หาได้ยากมากชนิดหนึ่ง

    5. สีชมพู เหล็กไหลชนิดนี้มี อริยเทพ อริยพรหม ในระดับ รูปฌาณ รักษาอยู่ เป็ไหลที่มี บารมีธรรมในระดับสูงรองลงมาจาก อรูปฌาณ พบมากในเขตป่าเขาที่มีความชุ่มชื้น มักอยู่ตามถ้ำภูผาที่ลึกลับ พบเห็นได้ยาก นอกจากผู้มีบารมีธรรมเข้าถึงสัจจธรรมเท่านั้น

    ดีเด่นทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด กันภัย ช่วยเหลือผู้เป็นสัมมาทิฏฐิให้สำเร็จในสิ่งที่อธิษฐานไว้ โดยไม่ขัดกับกฏแห่งกรรม

    6. สีเหลือง เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของภูมิจิตภูมิธรรม ของเหล่าอริยเทพ อริยพรหม ในระดับรูปฌาณ ที่ปรารถนาพุทธภูมิในระดับ พระปัจเจกพุทธเจ้า สีสันเหมือนกับแสงนวลของพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ มักแฝงเร้นในที่สงบด้วยป่าเขา ลำเนาไพร ถ้ำคูหาที่สงบเยือกเย็นบนภูเขาสูงๆ เรียกลมเรียกฝนได้ มีอิทธิ์ฤทธิ์ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ได้มากมาย เช่น ดวงรัศมีกลมใหญ่ส่องสว่างทั่วภูเขา จะพบเห็นได้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

    เหล็กไหลประเภทนี้สามารถอธิษฐานขออาราธนาบารมีจากพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอรหันต์ได้ แต่จะไม่มีเทพเข้าไปสิงสถิตย์อยู่ แต่เทพพรหมในระดับจ่างๆ จะเข้าไปอธิษฐานของบารมีและเฝ้ารักษาอยู่ภายนอกเท่านั้น ไม่มีใครจะบังคับหรืออัญเชิญท่านด้วยอิทธิ์ฤทธิ์หรือวิชาคาถาอาคมใดๆ เว้นแต่ขอชมบารมี ขอคำแนะนำในการปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป โดยมาปรากฏในลักษณะนิมิตรต่างๆ ในขณะนั่งสมาธิ

    7. สีฟ้าอ่อน เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ อริยะเทพ ในระดับมหาเทพชั้นสูง ผู้ครอบครองเหล็กไหลชนิดนี้ จะเป็นผู้มีบารมีเดิมที่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน เพื่อช่วยส่งเสริมด้านบารมีธรรมทั้งนักบวชและฆราวาสให้เป็นผู้สอนธรรมใน ระดับปานกลาง จนถึงระดับสูงขึ้นไป

    มีฤทธิ์อำนาจในการขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ ดับพิษร้อน ป้องกันภูติผีปีศาจ แต่มีขอบเขตและรัศมีที่จำกัด สามารถล่องหนหายตัวได้ กันฟ้าผ่า มีความเย็นจนสามารถกำจัดไฟได้ในรัศมีของมัน

    8. สีน้ำตาลอมแดง เหล็กไหลชนิดนี้มีพวก นาค นาคา ผู้บำเพ็ญศีลเฝ้ารักษาอยู่ จึงมีฤทธิ์อำนาจในทางความร้อนแรงด้วยพิษแห่งนาคทั้งหลาย จึงทำให้เหล็กไหลประเภทนี้มีสีออกทางน้ำตาลเข้มและน้ำตาลอมแดง

    มีฤทธิ์อำนาจในทำลายล้างพวกมนต์ดำ อวิชชา ป้องกันภูติผีปีศาจได้

    9. สีดำเหมือนนิลเหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ เหล่าเทพ คนธรรพ์ บังบด เพชรพญาธร ยักษ์ ผู้ปรารถนาจะสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป แต่ยังติดอยู่ในระดับโลกียฌาณ คือยังมีความ โลภ โกรธ หลง ติดอยู่ จึงทำให้มีบารมีทางธรรมน้อยกว่าเหล็กไหลชนิดอื่นๆ

    มีฤทธิ์อำนาจทางการคุ้มครอง แคล้วคลาดกันภัย เป็นมหาอุด คงกระพัน

    10. เจ็ดสีประกายรุ้ง เหล็กไหลชนิดนี้เกิดจากอำนาจบารมีของ อริยะเทพ อริยะพรหมผู้รักษาเหล็กไหล ที่ปฏิบัติจนสภาวะจิตเป็นสีประกายรุ้งรัศมีสวยสดงดงาม เป็นธาตุที่หาได้ยากที่สุดและมี อำนาจครอบจักรวาลประหนึ่งแก้วสารพัดนึก แต่สิ่งที่จะอธิษฐานนั้นจะสำเร็จได้โดยไม่เกินอำนาจของกฏแห่งกรรมตามวาสนา เท่านั้น
    --------------------------
    เผ่าพันธุ์เหล็กไหล

    เหล็กไหลเป็นโลหะธาตุที่มีความลี้ลับ พิสดาร มหัศจรรย์แตกต่างไปจากโลหะธาตุทั้งปวง ถูกจัดอยู่ในฐานะ “ธาตุกายสิทธิ์” ที่มีชีวิต จิตวิญญาณ ในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์เหนือธรรมชาติทั่วไป

    ดังนั้น จึงเชื่อกันว่า “เหล็กไหล” เสมือนหนึ่งเป็น “สัตวโลกที่มีชีวิต” เผ่าพันธุ์หนึ่งในโลก มีเพศ เคลื่อนไหว ได้เสพบริโภคน้ำผึ้งเป็นอาหาร มีการขับถ่าย ซึ่งเรียกกันว่า “ขี้เหล็กไหล” มีการเสพกามกันทางกระแสจิตวิญญาณ

    จัดอยู่ในจำพวกเทพ แต่เป็นเทพที่มาชดใช้วิบากกรรม ในโลกมนุษย์ โดยมีพวกยักษ์ คนธรรพ์ ครุฑ นาค คอยให้ความอารักขาอีกทีหนึ่ง เหล็กไหลจึงมีถิ่นกำเนิด และบารมีที่แตกต่างกันไปตามเผ่าพันธุ์ และวรรณะ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ และสมมติเรียกหาเพื่อให้เห็นความแตกต่างชัดเจนขึ้นเท่านั้น เช่น

    1.เหล็กไหลโกฎฐ์ปี สีปีกแมลงทับ จะออกเขียวเข้มหรือฟ้าสดใส หรือเปลี่ยนเป็นสีท้องปลาไหล เป็นเงามันวาว เนียนละเอียด ชอบอยู่ในถ้ำที่ลี้ลับ ลึกลับ และสงบวิเวก เพื่อบำเพ็ญาณ

    2.เหล็กไหลไพร สีดำสนิทหรือเทาดำ เนื้อค่อนข้างหยาบ ไม่มันวาว ยืดได้หดได้ ชอบเล่นกับไฟ แต่ถ้าทำหลุดมือตกลงสู่พื้นดินจะหายวับไปทันที คล้ายกับปรอทสำเร็จที่ถูกพวกยักษ์ หรือคนธรรพ์ผู้รักษาช่วงชิงกลับไป

    3.เหล็กไหลเงินยวง สีขาวขุ่น เป็นมันเลื่อม สีเหมือนเงินยวง พบได้ตามถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น

    4.โคตรเหล็กไหล (เหล็กไหลงอก หรือเหล็กทรหด) เป็นเหล็กไหลที่มีปรากฏอยู่ค่อนข้างมาก สีดำสนิท เป็นมันเลื่อมเมื่อกระทบแสงสว่าง ผิวค่อนข้างละเอียด แม่เหล็กดูดไม่ติด พบเห็นได้ตามถ้ำที่ลึกลับ งอกขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ และผนังถ้ำที่มีความชื้นและเย็นพอสมควร

    5.เหล็กไหลย้อย เป็นเหล็กไหลที่ปรากฏอยู่ค่อนข้างมาก สีออกดำหรือเทาดำด้าน ไม่มีแวว เปราะและกรอบเหมือนเหล็กผุ เป็นเหล็กไหลที่ตายซากแล้ว ไหลย้อยอยู่ในซอกถ้ำที่ลี้ลับ ลักษณะแข็งกรอบ ยาวเป็นศอก เป็นคืบ เป็นวา ไม่ยืดหรือหดได้อีก ไม่กินน้ำผึ้ง แม่เหล็กไม่ดูด

    6.เหล็กไหลเพลิง ฝังตัวเองอยู่ตามเพดาน และผนังถ้ำที่มีลักษณะเหมือนผงฝุ่นละเอียด ออกสีแดงหรือน้ำตาล องค์ขนาดเมล็ดถั่วเขียวหรือใหญ่กว่า

    7.เหล็กไหลตาน้ำ มีพรรณสัณฐานสีเขียวปนดำเป็นมันด้าน ลักษณะทรงกลมหรือรูปหยดน้ำ ขนาดเล็กกว่าถั่วเขียวเล็กน้อย ชอบเกาะอยู่ตามตาน้ำในซอกหินภายในถ้ำที่ลึกลับอาถรรพณ์ การค้นหานอกจากวิชาอาคมแล้ว ยังต้องสังเกตตามตาน้ำที่ไหลผ่านบริเวณหินผาที่มีตะไคร่น้ำเกาะอยู่มากๆ ต้องค่อยๆ เอามือแหวกหาดูจึงจะพบ

    8.เหล็กไหลเศรษฐี อาศัยอยู่ภายในถ้ำใต้น้ำ มีลักษณะเป็นผงเกล็ดสีดำเงามันระยิบระยับ เหมือนกับเพชรต้องแสงไฟ ไหลออกมาตามธารน้ำในฤดูน้ำหลาก เชื่อกันว่าเป็นของชาวบาดาล บันดาลโชคลาภให้แก่ผู้บูชา

    9.เหล็กเปียก พรรณสัณฐานสีขาวขุ่นเหมือนตะกั่ว นับเป็นโลหะธาตุที่มีเนื้อเปียกชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา คล้ายๆ กับน้ำค้างจับเกาะ เข้าไปอยู่ในสถานที่ใดก็จะเกิดบรรยากาศเย็นสบาย

    10.ขี้เหล็กไหล มักจะปรากฏอยู่ในถ้ำ หรือบริเวณที่มีเหล็กไหล เหมือนกับมูลหรือการขับถ่ายของเสียจากเหล็กไหล ลักษณะเป็นก้อนกลมๆ สีออกดำบ้าง น้ำตาลบ้าง ไม่สามารถยืดได้หดได้ แม่เหล็กดูดไม่ติด

    11.เหล็กไหลนาคราช หรือเหล็กไหลบาดาล มักปรากฏอยู่ในลำแม่น้ำใหญ่ที่มีภูเขาสลับซับซ้อน เช่น แม่น้ำโขง แม่น้ำแยงซีเกียง แม่น้ำคงคา เป็นต้น เพราะต้นน้ำเหล่านี้มาจากภูเขาสูงที่ศักดิ์สิทธิ์ ลักษณะคล้ายก้อนหิน มันเงา เป็นเลื่อม สีดำเหมือนนิล แม่เหล็กดูดติด

    12.เพชรหน้าทั่ง พบได้ตามถ้ำบนเขาเจ็ดร้อยยอด จ.พัทลุง ลักษณะเป็นโลหะผลึกสี่เหลี่ยม สีเหลืองนวลออกขาวคล้าย “สเตนเลส” ฝังตัวอยู่ในก้อนหิน เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง บางคนเรียก “เหล็กสายฟ้า” อยู่ในตระกูล “อัญมณี” โบราณเชื่อกันว่า เพชรหน้าทั่ง เป็นธาตุกายสิทธิ์ ที่จะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเกิดความร่ำรวย มักจะอยู่ในเขตที่มีสายแร่ทองคำภายใต้ภูเขาลูกนั้น

    13.เหล็กหลบ พบได้ตามแม่น้ำสายสำคัญของประเทศ สีดำเป็นมัน สีเขียวอมดำ สีเปลือกมังคุดหรือน้ำตาลไหม้ สีทองดอกบวบ ไม่ชอบเล่นไฟหรือกินน้ำผึ้ง ปืนยิงออก แต่ไม่ถูก เด่นทางแคล้วคลาดกันภัยจากอันตรายรอบด้าน

    14.สะเก็ดดาว เหล็กไหลจากต่างดาว เชื่อกันว่ามีพลังมหัศจรรย์หลายอย่างแฝงอยู่ในอุกกามณี ไม่กินน้ำผึ้งหรือชอบเล่นไฟ แต่ดีเด่นทั้งด้านเมตตา โชคลาภ แคล้วคลาดกันภัย

    15.แก่นไม้หิน จัดอยู่ในตระกูล “พญาเหล็ก” คือ ไม้ กลายเป็นหิน ฝรั่งเรียกว่า “ฟอสซิล” จัดอยู่ในลูกหลานว่านเครือของเหล็กไหล มีตบะเดชะทางด้านมหาอำนาจ แคล้วคลาดกันภัย เมตตา โชคลาภ กันพิษ

    16.ข้าวตอกพระร่วง จัดอยู่ในตระกูล “พญาเหล็ก” ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นผลึกรูปสี่เหลี่ยมเล็กใหญ่ คล้ายโลหะ สีน้ำตาล ฝังตัวอยู่ใต้พื้นดินในเขต จ.สุโขทัย ถ้านำมาขัดก็ จะเปลี่ยนเป็นสีดำเหมือนนิลแวววาว

    .................................................................................................
    ลูกอมฤๅษี หรือ คำหมากฤๅษี

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> ลักษณะ เป็นหินก้อนกลมสีน้ำตาลเป็นของป่าที่หายากชนิดหนึ่ง
    เป็นกายสิทธิ์ธาตุ ที่เมื่อทุบออกมาแล้วภายในจะมีผงฤาษีอยู่ภายใน
    บางคนเชื่อว่า ผงนั้นคือพระธาตุครับ
    คนโบณาณมักนิยมใช้เป็นเครื่องประกอบในการสร้างพระเครื่องครับ
    นับว่าหาดูได้ยากในสมัยดีครับ
    หินก้อนกลมสีน้ำตาลเป็นของป่าที่หายากชนิดหนึ่ง
    เป็นกายสิทธิ์ธาตุ ที่เมื่อทุบออกมาแล้วภายในจะมีผงฤาษีอยู่ภายใน
    บางคนเชื่อว่า ผงนั้นคือพระธาตุ
    คนโบณาณมักนิยมใช้เป็นเครื่องประกอบในการสร้าง พระเครื่อง ครับ
    นับว่าหาดูได้ยากในสมัยนี้
    เชื่อกันว่าผู้มีมีโอกาสครอบครองจะส่งผลให้เกิดเมตตามหานิยม เด่นด้านการทำมาค้าขายขึ้น มีโชคลาภเข้ามา
    หากหมั่นปฎิบัติธรรมประกอบไปด้วยแล้ว จะส่งผลให้เห็นผลได้เร็วขึ้นอีกด้วยครับ
    บ้างก็เล่าว่ามีตำนานเกี่ยวกับถ้ำตับเต่าดังนี้
    ถ้ำ ตับเตาถือเป็นศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชุมชนในแอ่งที่ราบโหล่งเมืองไชยปราการ – ฝาง มีอายุเก่าแก่ โดยมีตำนานที่ผูกเรื่องราวพื้นบ้านเข้ากับความศรัทธาในพระพุทธศาสนาว่า ในสมัยพุทธกาล ขณะที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใกล้จะปรินิพพาน หลังจากทรงตรากตรำพระวรกายในการประกาศพระศาสนาในถิ่นฐานต่างๆ เมื่อจวนได้เวลาเสด็จดับขันธ์ปรินิพานตามคำทูลอาราธนาของพญามาร พระพุทธองค์ได้รับบิณฑบาตอาหารที่ประกอบด้วยสุกรมัทวะจากนายจุนนะ เป็นเนื้อหมู (เนื้อหมูเป็นโรค บางตำนานก็ว่าเป็นอาหารประกอบจากเห็ดที่งอกจากหลุมฝังศพซากหมูตายด้วยโรค) หลังจากรับบิณฑบาต พระพุทธองค์ก็ทรงประชวรและอาเจียน เนื่องจากอาหารเป็นพิษ ขณะที่ทรงประชวรอยู่ก็ทรงประทับที่ถ้ำแห่งหนึ่ง ถ้ำนั้นคือถ้ำตับเตา

    พระ สงฆ์สาวกจำนวน ๕๐๐ รูป เมื่อได้ทราบข่าวก็พากันมา ณ ถ้ำแห่งนี้ มีทั้งพระสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ พระอริยเจ้า และพระสุปฏิปันโนที่เป็นกัลยาณปุถุชนอยู่ เมื่อเห็นว่าพระพุทธเจ้าทรงพระประชวรหนัก พระอรหันต์ได้เหาะไปบอกหมอชีวกโกมารภัจจ์ให้มารักษา แต่รักษาอยู่ได้ ๓ วัน พระอาการก็ไม่บรรเทา มีแต่ทรุดลง พระอรหันต์เจ้ารูปเดิมก็เดินทางไปเชิญพระฤาษีผู้เป็นอาจารย์วิชาการแพทย์ของ หมอชีวกโกมารภัจจ์ให้เดินทางมารักษาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อ เดินทางมาถึง พระฤาษีก็ตรวจอาการ และทราบว่าทรงประชวรด้วยอาหารสุกรมัทวะ จะรักษาด้วยยาธรรมดาไม่ได้ ต้องรักษาด้วยยาวิเศษซึ่งมีสรรพคุณรักษาอาการป่วยได้ทุกอย่างไม่ว่าอาการจะ หนักเพียงใดก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ยาหมอชีวกโกมารภัจจ์ต้องเดินทางไปเอาด้วยตนเอง เนื่องจากพระพุทธสาวกอรหันต์รูปนั้นเดินทางเวียนไปเอายาถึงสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ยาตรงความต้องการ

    พระพุทธองค์ทรงทราบ จึงได้ปรารภแก่พระอานนท์ว่า

    “ตถาคต ได้รับอาราธนาจากพญามารเพื่อเสด็จเข้าสู่ปรินิพพานแล้วประการหนึ่ง และยังได้รับบิณฑบาตอาหารมื้อสุดท้ายที่ทำให้สำเร็จผลานิสงส์อันมากแก่ผู้ ถวาย คือนายจุนนะ ผู้ถวายอาหารสุกรมัทวะนี้ อาหารสองมื้อที่ผลานิสงส์มากแก่ผู้ถวายบิณฑบาต พระพุทธเจ้า คืออาหารมื้อแรกที่ทำให้สำเร็จพระโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ เจ้า และอาหารมื้อสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าฉันแล้วจะเสด็จเข้าสู่การดับขัน ธปรินิพพาน ดังนั้น ถ้าพระองค์รับโอสถจากพระฤาษีมาฉันก็จะหายจากอาการประชวร เป็นการไม่รักษาสัจจะแก่พญามาร และยังทำให้อาหารมื้อสุดท้ายที่ได้รับบิณฑบาต ไม่มีผลานิสงส์แก่ผู้ถวายเต็มที่ จึงจำเป็นจะต้องไปจากถ้ำแห่งนี้”

    พระพุทธองค์จึงตั้งสัจจาธิษฐานว่า “ขอให้เพดานถ้ำจงบังเกิดเป็นโพรงเพื่อจักพาพระอานนท์ พุทธอุปัฏฐากเสด็จเหาะหนีไปทางอากาศได้”

    ครั้นพระฤาษีนำโอสถวิเศษให้หมอชีวกโกมารภัจจ์มาถวายแก่พระพุทธเจ้า พระองค์และพระอานนท์ก็เสด็จเหาะขึ้นไปยังเมืองกุสินารายณ์

    พระพุทธเจ้าประชวร


    การ ที่พระพุทธองค์เสด็จเหาะหนีไป ทำให้พระสงฆ์สาวกทั้งหลายที่ยังเป็นปุถุชนพากันโศกเศร้าร่ำไห้ คร่ำครวญอื้ออึง ส่วนที่เป็นพระอริยเจ้าก็สงบจิตสำรวมพิจารณาเหตุการณ์ด้วยธรรม และพากันแสวงหาที่บำเพ็ญธรรมต่อไป เมื่อพระสงฆ์เหล่านี้สำเร็จอรหันตผลแล้ว ก็พากันมายังบริเวณหน้าถ้ำแห่งนั้น แล้วดับขันธ์นิพพานพร้อมกันหมดสิ้น ทิ้งซากศพไว้บนพื้นดิน ส่งกลิ่นเน่าเหม็นตลบไปทั่วทั้งป่า

    พระ อินทร์จึงให้เทพบุตรผู้มเหศักดิ์ตนหนึ่งนำไฟทิพย์จากสวรรค์มาเผาผลาญซากศพ พระอรหันต์เหล่านั้น ไฟทิพย์นี้มีความร้อน และเผาไหม้กว้างถึง ๘,๐๐๐ วา ไหม้ลงไปในแผ่นดินลึก ๑,๐๐๐ วา ความร้อนทำให้พระยานาคชื่ออุรุนาคราชนำบริวาร ๑,๐๐๐ ขึ้นมาจากพื้นดิน ปล่องที่พระยานาคนำบริวารชำแรกขึ้นมา คือ ตาน้ำผุดที่ได้ก่อให้เกิดหนองน้ำเล็กๆ ด้านหลังถ้ำนั้นเอง

    พื้นดินบริเวณวัดถ้ำตับเตาและบริเวณใกล้เคียงจึงขุ่นขาวคล้ายขี้เถ้าปนอยู่ และจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงยุคพระศรีอาริยเมตไตรย์

    ฝ่าย พระฤาษีอาจารย์ของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เมื่อไม่อาจถวายโอสถวิเศษให้แก่พระพุทธเจ้าได้ ก็มีความเสียใจยิ่งนัก ยกมือกำถ้วยโอสถขึ้น กล่าวว่า “อันโอสถวิเศษของตูนี้ จะไม่มีไว้สำหรับรักษาผู้ใดอีกต่อไป ไม่มีประโยชน์อันใดอีกแล้วจะรักษาไว้” ว่าแล้วก็สาดโอสถวิเศษทิ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้พื้นที่บริเวณถ้ำตับเตาเต็มไปด้วยพืชสมุนไพรหลายชนิด และบางอย่างก็ได้กลายเป็นลูกอมพระฤาษี ขึ้นมา จึงเชื่อว่าใครมีลูกอมนี้ก็เสมือนมีโอสถวิเศษของพระพุทธเจ้าอยู่เป็นมงคลมาก
    ...................................................................................................

    เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ครับ




     
  12. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    คตเต่าหรือพญาเต่าเรือน ของแท้

    บางอาจารย์เรียกว่าพญาเต่าเรือน เกิดจากเต่า ที่เกิดมาแล้วมีชีวิตอยู่ไม่กี่วันแล้วกลายเป็นหิน แห้งลง และมีเทพเทวารักษา อยู่ตามไร่นา ตามฝั่งลาว ท่านใดที่มีญาณสามารถัมผัสได้เลย มีคุณค่าดั่งลูกกรอกและสำคัญหายากมากๆได้มาครั้งนี้ต้องอาศัยบุญจริงๆ ใครที่คิดว่ามีบารมีร่วมกันก็มารับไป เลี้ยงโดยการแช่น้ำหรือ บูชาด้วยเครื่องเซ่น เหมือนกุมารทอง ตามโบราณมีเกจิหลายท่านเสาะแสวงหาเจ้าสิ่งนี้ เพื่อที่ จะนำมาทำพญาเต่าเรือน หรือลงยันต์พญาเต่าเรือน ทำให้มีอิทธิคุณทางด้านโชคลาภ ค้าขายท่านใดที่ทำการค้า ขอแนะนำควรมีติดตัว ติดร้านค้า ไม่มีอีก เป็นของที่หายากอยากแสวงหาไว้ครอบครอง แนะนำให้มีติดตัวไว้จะแต่ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์
    ................................................................

    วัตถุอาถรรพ์ทางธรรมชาติ


    วัตถุอาถรรพ์ตามธรรมชาติ แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้

    1. ประเภทโลหะ มี 2 สายได้แก่

    · โลหะประเภทที่ 1 ประเภทเหล็กไหลดำ ได้แก่เหล็กไหลดำ, เหล็กไหลตาน้ำ, ทองคำดำ, พญาสมิงเหล็ก, เหล็กไหลบารมี, โคตรเหล็กไหล, เหล็กหลบ, แร่บางใผ่, แร่เกาะล้าน และอื่นๆ
    · โลหะประเภทที่ 2 ประเภทเหล็กไหลขาว ได้แก่เหล็กไหลขาว, เหล็กเปียก, ทองคำขาว, สังฆวานร (ชินวรสังฆวานร), แร่เงินยวง, หยดน้ำฟ้า, วัชระธาตุ, โพธิสัตว์ธาตุอื่นๆ

    2. ประเภทแร่ที่ใช้ในพิธีกรรมทางเวทย์ ได้แก่
    แร่เพชรนิล, แร่เขาเขียว (หินอัคนี) ต้องนำมาหลอมผ่านพิธีกรรม 7 ครั้งจะกลายเป็นเหล็กน้ำพี้, แร่เกาะล้าน

    3. ประเภทปรอทกรอบ ได้แก่
    ปรอท กรอบ, เพชรหน้าทั่ง, แร่เพชรทอง, ข้าวตอกพระร่วง, ผงเกร็ดแก้ว หรือ ผงเพชรเกล็ดแก้ว, ผงมณีรัตน, กากน้ำนมแม่พระธรณี, ไข่มุกกวนอิม (ไข่มุกถ้ำ), ไข่หิน, เกล็ดมณีนาคราช, เกล็ดพญามังกรไฟ, สุธรรมธาราธาตุนำมาบดเป็นผงเรียกว่าผงสุริยัน, ผงจันจิราจันทราทิพย์โดยส่วนใหญ่จะนำผงสุริยันกับผงจันจิราจันทราทิพย์นำมา ทำมนต์สุริยันจันทรา, มนต์นาคราช, มนต์เทพรัญจวน, แร่เงิน, แร่ทอง, ผงเกร็ดแก้วพิสดาร, ชินวร, ขวานฟ้า, แร่ทรายทอง,แร่ทรายเงิน (ไหลคำคำ), แก้วขนเหล็ก, พระธาตุเหล็กไหล, โครตทรหต, เหล็กไหลบารมี,เหล็กไหลตาน้ำ, เหล็กเปียก, ตับหิน, โครตเหล็กไหล, เพชรพญานาค,เพชรพญางู, เขี้ยวหนุมาณ, เพชรน้ำค้าง, มณีนาคราช, เพชรน้ำรอด, แร่เฮมาไทด์(แร่ทรหต), เหล็กไหลแก่น, คตไม้สัก, ตะกั่วน้ำนม, ทองแดงดิบ, ทองแดงเถื่อน, คตหิน และอื่นๆ

    4. ประเภทวัตถุอาถรรพ์แบบสัตว์ ได้แก่
    คตผึ้ง, คตหอย, เพชรตาแมว, งากระเด็น(งาสลัด), งูปากเป็ด, จิ้งจกสองหาง, ผึ้งทำรังตามบ้าน, รกแมว,ลูกกรอก ,เขี้ยวหมูตัน, ปูหิน, เขี้ยวเสือกลวง, ตะขาบทองแดง, คตปลวก, กระโปกทองแดง, ตับทองแดง, คนลิ้นดำ , เขากวางคุต, งาช้างกลวง, นอแรด, คตหอยพระธาตุ และอื่นๆ

    5. ประเภทวัตถุอาถรรพ์แบบพืช ได้แก่
    กระชาย ดำ, ดอกตะใคร้, พญางิ้วดำ, กัลปังหาดำ, ตะกล่ำดำ, กลิ้งกลางดง, เถาวัลย์หลง, น้ำโมกผา, ทรายน้ำไหล, ครอบจักรวาล, ปอดำ, ตะกล่ำแดง, ขมิ้นหิน, เม็ดข้าวสารดำ, ข้าวเหนียวดำ, มือนาง, หมากไม้มณีโคตร, คตมะพร้าวคตมะขาม, คตหอย, คตปู, คตตะขาบ, คตขนุน, กาฝากรัก, กาฝากมะนาว, กาฝากมะรุม, กาฝากขนุน, กาฝากคูณ, กาฝากทับทิม ,กาฝากโพธิ์, กาฝากสักทอง, กาฝากตะเคียน, โพธิ์ใต้ต้น, ไม้กระบก,ไม้โมก, ไม้จันทรหอม, ไม้ถุมภีดำ, กะลาตาเดียว, กะลาไม่มีตา, ไพรดำ, คตขนุน, ผลยอป่าหิน, กาฝากไม้แดง, มะพร้างเห้งเจีย, ว่านนางพญาท้าวเอว, ว่านนางพญานาคราช, สรรพยา, ว่านโพรง, สากกะเบือแม่ม่าย, ไม้เขยตาย, กล้วยตานีออกปลีกลางกอ, ว่านพระพุทธเจ้า 5 พระองค์, ไผ่ตัน, ไผ่ตารอบกอ, ดอกไผ่, ตะเคียนทอง, ไม้สัก, ไม้ยมตายพราย, ว่านดอกทอง, เสน่ห์จันทร์แดง, เสน่ห์จันทร์ขาว, เสน่ห์จันทร์เขียว, ส้มป่อย, หญ้าพระอินทร์, น้ำนมราชสีห์, หนุมานประสานกาย, หนุมานนั่งแท่น, รางจืด, เสลตพังพอน, เถาวัลย์เปรียง, โคคลาน, ผักเสี้ยนผี, ว่านพญาใหญ่, มหาลาภ, พระพุทธเจ้าหลวง, ว่านมหากาฬ, ว่านพระอาทิตย์, ว่านช้างผสมโขลง, เงินไหลมา, เศรษฐีเรือนใน, เศรษฐีเรือนนอก, ว่านเศรษฐี, รางเงินว่านรางทอง, เขียว 1,000 ปี, เขียว 10,000 ปี, ว่านนกคุ้ม และอื่น ๆ

    6. ประเภทพืชที่ใช้ในการแก้อาถรรพ์ ได้แก่
    ผัก กะเฉด, ผักแว่น, มะระ, สัปปะรด, มะนาว, มะเฟือง, มะม่วง, มะกรูด, ไพร, ขิง, ข่า, ขมิ้น, ตะใคร้ มีฤทธิ์อำนาจในการชำระล้างคุณไสยที่เกิดจากลมเพลมพัด

    ..................................................................................................



     
  13. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    คุณไซรีบมาด่วน
    งานนี้คุณโจ๊กขโมยซีนไปหมดแล้วน้า
    ว่าแต่เมื่อคืนแวะหาอาไรอร่อยๆทานระหว่างกลับบ้านปะ เลยกลับถึงบ้านหลังคุณโจ๊กอีก
     
  14. Ton_PB

    Ton_PB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    4,463
    ค่าพลัง:
    +2,005
    เผลอแป็บเดียวไปหลายหน้าแล้ว สงสัยชอบมาตอนกลางคืนกัน
     
  15. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    คุณไซเขาแทคทีมกับผมแร่ะ
     
  16. kamontad

    kamontad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2010
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +574
    กลางวันมานร้อน โดนแสงไม่ได้ครับ
     
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    หมดๆๆๆ เราอุตส่าห์ วางแผนไว้ วันนี้จะเอามาขึ้น ซะหน่อย เจ้ายม นี่มันน่านัก วางแผนกันไว้ ยม ขึ้นอันนี้นะ เดี๋ยวรัก จะขึ้นอันนี้ อย่างนี้เอาไว้ไม่ได้แล้ว ป๊าดๆๆๆๆดิโท่ แย่งซีนตูนี่หว่า (ได้ของไปเยอะ) ก๊ากๆๆ ขอบพระคุณมากก๊าปที่เป็นห่วง ขากลับไม่หลง เพราะวิ่งตรงอย่างเดียวเจอทางตัน เลยต้องเลี้ยวตามชาวบ้าน กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ปล. ที่ไม่เข้ามา เพราะรีบไปดู อาคุงนายที่ 4 ก๊ากๆๆ
     
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    คายๆ แท็คทีมกับเอ็งฟะ เจ้า ยม ก๊ากๆๆ
     
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    แม้ๆๆๆ คุณใต้ลมปีก นามนี้ช่างเพราะพิ้ง ตื้นตันใจ ในฉายาใหม่ มากมาย ว่าแต่ ยัง.....ธนุ นะเนี่ย คุณลม สนใจป่ะ ก๊ากๆๆ
     
  20. ุเพตารี

    ุเพตารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,048
    ค่าพลัง:
    +800
    ท่านโจ๊กเจอจารย์ตันวันเดียว โดนสะกดเป็นสาวกไปเรียบร้อยทำงานยิกเลย 5555
     

แชร์หน้านี้

Loading...