พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>อรุณสวัสดิ์ยามเช้าวันเสาร์สุขสันต์ครับ



    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แค่เมี่ยงหนึ่งคำ


    ลืมของกินสำคัญไปอย่าง ของกินที่ว่าคือเมี่ยงครับ ที่นึกถึงเมี่ยงได้ก็เพราะไปกินที่ร้านยกซด ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด


    เรื่อง / ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์


    [​IMG]

    ลืมของกินสำคัญไปอย่าง ของกินที่ว่าคือเมี่ยงครับ ที่นึกถึงเมี่ยงได้ก็เพราะไปกินที่ร้านยกซด ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เขามียำหอยนางรมสด ที่เลือกสั่งนั้นเพราะไว้ใจว่าหอยนางรมจะสด ก็มาจากที่ทางร้านบอกว่าให้ชาวบ้านกะเทาะหอยมาจากโขดหินริมทะเลมาส่งให้ ใหม่ๆ ผมเชื่อว่าเมื่อเจอกับน้ำยำแบบแซบคงสดสะดุ้งสุกมา แต่ปรากฏว่าเป็นยำแบบเมี่ยง คือ เอาหอยวางบนใบคะน้าแล้วโรยด้วยหอมเจียว และยอดกระถิน มีน้ำจิ้มแบบซีฟู้ดราด กินเป็นคำคำ การราดน้ำจิ้มให้เผ็ดมากน้อยก็เลือกเอาเอง ก็ว่านี่น่าจะเป็นเมี่ยง ส่วนจะเป็นเมี่ยงทะเลหรือเมี่ยงหอยก็ว่าไปอีกเรื่องหนึ่ง

    ก็นั่นเองทำให้นึกถึงเมี่ยง ซึ่งผมพยายามสืบสาวราวเรื่องว่า เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็ไม่ได้เรื่องไม่ได้ความ จึงได้แต่เดาๆ เอาคิดไปตามประสาของผมว่า คนไทยนั้นถือเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ คนสมัยก่อนเมื่อเยี่ยมเยือนถึงบ้านกันก็จะทักทายกันด้วยคำพูดว่ากินอะไรมา หรือยัง ถึงจะกินมาแล้วก็ต้องเอาอะไรเท่าที่มีมาให้กิน แล้วเรียกว่า เอามากินเล่นๆ นี่เป็นอย่างหนึ่ง
    ทีนี้ก็คนไทยสมัยก่อนอีกเช่นกันที่กินหมากตลอดเวลา เรียกว่าไม่ให้ปากว่างว่างั้นเถอะ ใครไปใครมาก็ผลักเชี่ยนหมากให้ ใครจะกินหมาก ปูนแก่อ่อน หมากสดหมากแห้งก็บรรจงจับเป็นคำเอาเอง เมื่อมีหมากก็น่าจะมีเมี่ยงด้วย อาจจะสำหรับคนที่ไม่กินหมาก เมี่ยงก็ทำเป็นคำคำ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็ทำเอง แล้วเรื่องเมี่ยงนี่ก็ไม่ใช่เฉพาะมีแต่ภาคกลาง ภาคเหนือก็มี และไม่ใช่มีเฉพาะคนไทย คนลาวก็มี ส่วนเขมร พม่า จะมีด้วยหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้
    สำหรับทางเหนือนั้น การกินเมี่ยงก็มีจุดประสงค์แผงลึกๆ อยู่เหมือนกัน ด้วยว่าใบเมี่ยงนั้นก็คือใบชาพื้นเมืองชนิดหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติมีกาเฟอีนอยู่ด้วย ทีนี่จะเด็ดใบจากต้นเคี้ยวกร้วมๆ ดูจะเป็นการกินที่ตื้นเขินไปหน่อย ก็เอาเมี่ยงไปนึ่งแล้วหมักจนเปรี้ยวได้ที่ เวลากินก็เอาเกลือเม็ดใส่ จะได้รสเปรี้ยว เค็ม ชุ่มคอ
    เคี้ยวเมี่ยงไปด้วย ทำงานไปด้วย ไม่เหนื่อย ไม่ง่วง เพราะมีกาเฟอีน แล้วยังไม่กระหายน้ำอีกด้วย แล้วเมี่ยงทางเหนือก็ยังมีเมี่ยงทรงเครื่อง ใส่ขิง ใส่ถั่ว เป็นของกินเล่นแบบกินอร่อยได้อีกด้วย
    ผมเคยกินเมี่ยงที่ลาว ก็จะมีรูปแบบไปอีกแบบหนึ่ง ตัวเมี่ยงจะเป็นข้าวเหนียวที่บดละเอียดแล้วไปผัดใส่เกลือน้ำตาล หวานๆ เค็มๆ เอามาวางบนใบผักกาดขาวนึ่ง แล้วมีตระไคร้หั่น ถั่วลิสง กระเทียม ขิง ใบมะกรูดหั่น ใส่รวมกัน ถ้าชอบเผ็ดก็กินพริกแห้งคั่วตามด้วย
    ใบเมี่ยงของลาวจะมีทั้งผักกาดหอมสดและแผ่นแป้งบางๆ เหมือนแผ่นก๋วยเตี๋ยว ใครชอบใบเมี่ยงแบบไหนก็กินตามชอบ นั่นเป็นเมี่ยงที่ลาว
    แต่เมี่ยงลาวในเมืองไทยกลับไม่เป็นอย่างนั้น ใช้หมูบดผัดกับถั่วลิสงคั่วบดหยาบๆ ใส่ขิงซอย กุ้งแห้งตำละเอียด หอมและกระเทียมเจียว ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา ทิ้งไว้ให้เย็น เอาใบผักกาดดองห่อเป็นก้อนกลมๆ เป็นคำ กินกับข้าวตังทอดก็ได้ ข้าวเกรียบก็ได้ ชอบกินเผ็ดก็กินพริกตาม ดูแล้วเมี่ยงลาวแบบไทยนี่กรรมวิธีซับซ้อนกว่าเมี่ยงลาวในลาว
    มาถึงเมี่ยงคำอันลือลั่นของไทยบ้างครับ ที่จริงเมี่ยงจะต้องเป็นคำคำอยู่แล้ว ก็เรียกทับศัพท์หรือสับทับว่าเป็นคำ แต่เมี่ยงคำที่ว่านี้ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว จะมีมะพร้าวแก่ซอยเป็นชิ้นเล็กๆ ยาวๆ แล้วไปคั่ว แล้วยังต้องมีน้ำเมี่ยงซึ่งถือว่าสำคัญ จะมีหอมแดง ข่า กะปิ ซึ่งต้องเผาก่อนแล้วโขลกจนละเอียด เอามะพร้าวคั่วผสมลงไปด้วยนิดหนึ่ง แล้วเคี่ยวกับน้ำใส่น้ำตาล ให้หวานนำ
    เครื่องเมี่ยงก็มี มะพร้าวคั่ว ขิง หอมแดง ถั่วลิสง กุ้งแห้ง มะนาว พริก ทั้งหมดมาห่อด้วยใบทองหลางเป็นคำราดด้วยน้ำเมี่ยง
    การกินเมี่ยงนี่ก็ธรรมเนียมคนกินต้องหยิบเป็นคำเอาเอง ชอบอะไรมากก็หยิบใส่ตามชอบ แล้วการกินเมี่ยงนี่จะให้ดี ต้องหั่นเครื่องใหม่ๆ เดี๋ยวนั้น ที่ต้องหั่นใหม่ๆ นั้นของมันไม่แฉะ อย่างมะนาวหั่นทิ้งไว้มันจะแฉะ ผมว่าการกินเมี่ยงนี่มีอรรถรสมาก เพลินแบบไม่รู้ตัว เดี๋ยวเดียวหมดแล้ว
    ไม่เพียงแต่กินเพลินเท่านั้น การกินเมี่ยงเหมือนเป็นการกินแบบสามัคคี ในครอบครัวก็ดี เพื่อนฝูงก็ดี สมัยก่อนในหน้าว่าวที่สนามหลวง ยิ่งวันเสาร์อาทิตย์ เหมือนเป็นวันของครอบครัว พ่อแม่ ลูกหลาน ปู่ย่า ตายาย ต้องไปนั่งเล่นให้เด็กๆ เล่นว่าว ส่วนผู้ใหญ่นั่งล้อมวงกินเมี่ยงคำ ไม่เตรียมไปเองก็มีขาย สมัยก่อนเขาไม่ว่าเรื่องหาบค้าขายกลางสนามหลวง หาบเมี่ยงคำจะเป็นหาบมีกระจาด วางเครื่องเคียง มีขวดโหลใส่มะพร้าวคั่ว คนขายนั้น ขายไปหั่นเครื่องเมี่ยงไป
    ผมว่าการกินเมี่ยงนั้นได้ประโยชน์หลายอย่าง กินแบบสามัคคีแล้ว ของที่กินนั้นก็มีประโยชน์หมดทุกอย่าง ขิง หอมแดง ดีทั้งนั้น แถมใบทองหลางก็มีคุณประโยชน์อีกด้วย
    ต่างกับสมัยนี้ครับ มีเมี่ยงคำขายก็จริง แต่เป็นเมี่ยงคำสำเร็จรูป ที่ห่อเป็นคำคำแล้วเสียบไม้มาเลย เหมือนลูกชิ้นปิ้ง แล้วใช้ใบชะพลูอย่างเดียวอีกต่างหาก ผมชอบใบชะพูก็จริง แต่เมื่อกินเป็นใบเมี่ยงแล้วสู้ใบทองหลางไม่ได้
    เมี่ยงไม่ใช่มีแต่เมี่ยงคำอย่างเดียว เมี่ยงปลาทูก็อร่อย ยังมีเมี่ยงกระท้อน ซึ่งกรรมวิธีคล้ายๆ เมี่ยงลาว คือ ใช้หมูบดผัด กับกระท้อนและเครื่องแบบเดียวกับเมี่ยงลาว ปั้นเป็นคำคำ กินกับผักชุบแป้งทอด เช่น ใบเล็บมือนาง ยอดมะระทอด
    ยังมีเมี่ยงมะม่วง อันนี้เคยทำบ่อย ใช้มะพร้าวขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว คั่วจนหอม คลุกกับกุ้งแห้งตำละเอียด หอมแดงเผาไฟซอย ถั่วลิสงบดหยาบ ใส่น้ำตาล และเกลือ ให้มีรสมันเค็มหวาน กินกับมะม่วงเปรี้ยวดิบฝานเป็นชิ้นบางๆ
    การกินเมี่ยงก็เหมือนเดิมครับ ต้องกินหลายคน กินคนเดียวไม่สนุก นี่ผมจะวกหาเอาความดีใส่เมี่ยงว่า เป็นการกินอย่างหนึ่งของสังคมไทยหรือสังคมตะวันออก ที่ไม่ใช่การกินที่โดดเดี่ยว กินเต็มไปด้วยความสนุกพร้อมๆ กัน ไม่ใช่จานใครจานมัน เหมือนอาหารตะวันตก เมี่ยงนี่เป็นวัฒนธรรมการกินที่มีคุณสมบัติของความเอื้ออารี มาถึงบ้านต้องกินหมาก กินเมี่ยง ฉะนั้นช่วยกันรักษาคุณสมบัตินี้ไว้ โดยกินเมี่ยงกันดีกว่าครับ



    http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/กิน-ดื่ม/กินอยู่เป็น/64243/แค่เมี่ยงหนึ่งคำ

    .



    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ธันวาคม 2010
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมขอแ้จ้งให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทราบว่า ผมได้เปิดชมรม พระวังหน้า ให้กับทุกๆท่าน ทราบทาง Email เรียบร้อยแล้ว

    "ข้าพเจ้าขอเปิดชมรมพระวังหน้าอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พุทธศักราช 2553
    เพื่อประโยชน์ต่อ ประเทศไทย ศาสนาพุทธ สถาบันพระมหากษัตริย์ และเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระวั<wbr>งหน้า และงานบุญต่างๆ"

    .
     
  4. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    โมทนาสาธุ
    โมทนาสาธุ
    โมทนาสาธุ ครับ
     
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431

    ยินดีต้อนรับชมรม...พระวังหน้า
     
  6. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    Congratulation from Chiang Mai krub...

    ขอสมัครสมาชิกเบอร์1 เรยครับ :p
     
  7. Pinkcivil

    Pinkcivil เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    425
    ค่าพลัง:
    +1,644
    ลืมเล่าครับ
    เมื่อวานไปทําบุญเลี้ยงพระเเละเณรที่วัดศรีโสดา เเละทําบุญเลี้ยงเด็กกําพร้า
    ที่วัดดอนจั่นครับ
    ขอได้โมทนาโดยทั่วกันครับ
    ปล. มางานนี้ อาราธนา สมเด็จ อศจร ววอพ ขึ้นคอมาครับ
    มหัศจรรย์จริงๆ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2010
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โมทนาสาธุครับ ว่าแต่ ววอพ คือไรหรอครับ :)
     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    งั้นต้องยกตำแหน่งท่านประธานให้แล้วหล่ะครับ หุหุ :cool:
     
  10. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ขอแสดงความยินดีกับพี่หนุ่มและพี่ๆทุกท่านที่เสียสละแรงกายและแรงใจ ทำให้เกิดชมรมใหม่ในวันนี้ครับ
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    littlelucky ยินดีด้วยครับ จะติดตามข่าวเรื่อย ๆ นะครับ




    ---------------------------

    สำหรับชมรมพระวังหน้า ไม่มีเลขที่สมาชิกครับ

    วันนี้ หลังจากที่ผมแจ้งการเปิดชมรมพระวังหน้า ผ่านทาง Email ให้พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ทุกๆท่านทราบแล้ว ผมได้เดินทางไปหาพี่ใหญ่ที่บ้าน ได้คุยในเรื่องพระวังหน้านิดหน่อย แต่ยังไม่ได้แจ้งเรื่องการเปิดชมรมพระวังหน้าให้พี่ใหญ่ทราบ

    พี่ใหญ่ได้แนะนำในหลายๆเรื่อง ไว้ผมจะขอเรียบเรียงคำพูดใหม่และจะแจ้งให้ทุกๆท่านทราบทาง Email ครับ

    หลังจากนั้นผมได้เิดินทางไปที่บ้านท่านอาจารย์ประถม มี 2 ท่านที่ได้มารอผมเพื่อสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า และทั้งสองท่านก็ได้ลงนามในใบสมัครเรียบร้อยแล้ว

    หลังจากกำหนดการปิดรับสมัครที่ผมได้แจ้งไปทาง Email ผมจะแจ้งให้ทุกๆท่านได้ทราบถึงจำนวนสมาชิก ,การคัดเลือกประธาน , รองประธาน , เลขานุการ และ 2 ผู้ช่วยเลขานุการ ครับ

    ขอบคุณครับ


    เกือบลืม ผมและคุณPinkcivil เคยได้มอบเงินให้กับพี่ใหญ่ เพื่อฝากไปร่วมทำบุญ พี่ใหญ่ได้นำเงินไปร่วมสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ประเทศลาว และ หยอดเงินทำบุญตามตู้รับบริจาคต่างๆที่ประเทศลาว

    มาร่วมโมทนาบุญกับคุณPinkcivil และผมกันครับ

    อีกเรื่องก็คือ พระอาจารย์รูปหนึ่ง ได้โทร.มาหาผม แจ้งว่า ได้นำพระพิมพ์ต่างๆที่ทาง(อดีต)กองทุนหาพระถวายวัด ได้ถวายท่านไว้ ท่านนำไปแจกในงานผ้าป่า "สวนทิพย์โลกอุดร" และ ได้แจกให้กับผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา

    มาร่วมโมทนาบุญกับ(อดีต)กองทุนหาพระถวายวัดกันครับ



    .



    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมได้ดำเนินการมอบเงินของ(อดีต)ชมรมรักษ์พระวังหน้า จำนวน 4,650.00 บาท ให้กับท่านอาจารย์ประถม เรียบร้อยแล้ว

    ขอโมทนาบุญกับอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าทุกๆท่านด้วยครับ

    ชมรมรักษ์พระวังหน้า ปิดตัวเองลงโดยสมบูรณ์ในวันนี้

    เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำและประสบการณ์ต่างๆครับ

    .
     
  13. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    โมทนาด้วยครับ
    ช่วงนี้งานเยอะครับวันนี้ประชุมทั้งวัน
    ถ้าไม่ติดอะไรคุณสมบัติพร้อมสามารถสมัครได้ผมก็ขอเป็นคนที่ 12
    หรือ 1 โหลก็แล้วกันครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. มูริญโญ่

    มูริญโญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +583
    ขอบคุณครับแล้วผมจะรีบดำเนินการครับ
     
  16. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ขอโมทนาสาธุกับงานที่ชมรมพระวังหน้าที่ได้ตั้งจิตกุศลไว้เพื่อพระศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์และเรื่องราวเกี่ยวกับพระวังหน้าและงานบุญต่างๆ ด้วยครับ
    วันนี้ผมโชคดีมากครับ วันนี้ผมไปกราบหลวงพ่อไผ่ วัดสระมณฑล อยุธยา เข้าไปพบหลวงพ่อเป็นจังหวะที่ท่านฉันเพลเสร็จพอดี และได้ถวายปัจจัยเพื่อบำรุงวัด ส่วนหลวงพ่อได้ให้น้ำมะพร้าวอ่อนหลังจากถวายหลวงปู่เทพโลกอุดรมาให้ผมดื่มหนึ่งแก้วครับ และท่านยังได้ให้น้ำผึ้งป่าที่ผู้ใจบุญได้ถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อได้ให้ผมอีกหนึ่งขวดใหญ่ ท่านกำชับว่าเอาไว้รับประทาน ไม่ต้องไปบูชาครับ ดีใจมากครับ อยากเล่าให้ฟังเท่านั้นเองครับ
     
  17. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    ผมอยากอยู่ชมรมพระวังหน้าด้วยคนอ่ะครับ
    รับผมไว้ด้วยนะครับ
     
  18. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    PeacE123, sithiphong+, somlatri, nongnooo ตาชักจะปิดชะแล้วละครับขอตัวก่อนนะครับพี่ๆทั้งหลาย อย่านอนดึกมากนะครับ หลับฝันดีนะครับพี่ๆทุกท่าน
     
  19. นายเฉลิมพล

    นายเฉลิมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +460
    ขอแสดงความยินดีกับ"ชมรมพระวังหน้า"ใหม่ด้วยครับ

    อนุโมทนาทุกประการครับ
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รับเฉพาะอดีตสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้าก่อนเ่ท่านั้น

    อยากสมัคร ปีหน้าค่อยมาดูกันครับ

    ในปีหน้า หากมีสมาชิกใหม่ที่อยากสมัครชมรมพระวังหน้า ซึ่งต้องผ่านความเป็นและเป็นมติของชมรม(ประธาน , รองประธาน และเลขานุการ) ที่รับสมาชิกเพิ่มครับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...