ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

เหรียญไม่ทราบที่ออกครับ

 

ไปตามเก็บภาพหลวงปู่ทวดของเพื่อนที่ทำงานได้อีกอง์ครับ องค์นี้สวยเยี่ยมมาก เจ้าของหวงจังเลย พิมพ์กรรมการ ปี 24 ครับ

 

นี่ก็อีกองค์ที่ตามเก็บภาพมาให้ชมครับ หลวงปู่ทวดบุญสูงเนื้อนวะแก่ทองคำ ท่านไมตรี บุญสูง สร้างครับ

 

รูปหลวงพ่อทวด 2497 และ พระกริ่งวัดเอี่ยมวรนุช (อ.ทิมปลุกเสก)ครับ

 

เพิ่งได้ฟังครั้งแรกครับ ขอบคุณมากครับ ..ชอบๆ

 

ชอบองค์นี้จังครับ
แต่ถ้าจะให้มาแขวนคงไม่กล้ากลัวหาย

 

เข้ามาอ่านแล้วสนุกดี เด็กปัตตานีมารายงานตัวครับ

 

เด็กทองหล่อรายงานตัวด้วยคน อิอิ

 

ยินดีต้อนรับค่ะ....นำพระหลวงปู่ทวดมาให้ชมกันบ้างนะคะ.....

มาเล่าต่อค่ะ....

ดวงแก้วนี้มีเรื่องเล่ากันว่าสองสามีภริยาได้เก็บรักษาไว้ คหบดี เจ้าของบ้านที่สองสามีภริยาอาศัยอยู่ทราบความ ขอแก้วดวงนี้ไว้เป็นกรรมสิทธิ์จึงต้องจำใจมอบให้คหบดีผุ้นั้น กาลต่อมาได้เกิดการวิปริตให้ความเจ็บไข้ได้ทุกข์แก่คหบดีและครอบครัวขึ้นอย่างรุนแรงผิดปกติ จนไม่มีทางแก้ไข้ได้<O</O
จนถึงที่สุดคหบดีเจ้าของบ้านจึงคิดว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้คงเป็นเพราะยึดเอาดวงแก้วพระยางูนั้นไว้จึงให้โทษ และเกรงเหตุร้ายจะลุกลามยิ่งๆ ขึ้นจึงตัดสินใจคืนดวงแก้วดวงนั้นให้สามีภริยากลับคืนไป ต่อมาภายในบ้านและครอบครัวของคหบดีผู้นั้นก็ได้อยู่เย็นเป็นสุขตามปกติ<O</O
เรื่องราว “พญางู” มีมาเกี่ยวพันกับเรื่องราวของหลวงปู่ทวด ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจยิ่ง นั่นคือ เหตุการณ์ในพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ ที่กล่าวกันว่าเป็นยุครุ่งเรืองมีอำนาจสูงสุด ของ เมือง “นครศรีธรรมราช” สามารถขยายอาณาเขตแผ่อำนาจอิทธิพลลงไปตลอดแหลมมาลายู “สยบ” อำนาจของแคว้นศรีวิชัยจนถึงกาลสูญสลายไป เมื่อแคว้นตามพรลิงค์ หรือชื่อเมืองนครศรีธรรมราชในกาลต่อมา สามารถจัดตั้งกำหนดให้เมืองขึ้น ๑๒ นักษัตร ให้เป็นเมืองบริวารได้สำเร็จ ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ โดยการกำหนดให้เมืองไหนใช้ตราอะไรล้วนแฝงไปด้วยความหมายข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์<O</O

แทบไม่น่าเชื่อว่าประมาณ ๔ ศตวรรษต่อมาความหมายแฝงของเมือง ๑๒ นักษัตรก็ได้บังเกิดตำนานเรื่องราวของ “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”

นั้นเพราะ ๒ ใน ๑๒ เมืองนักกษัตรคือ เมืองพัทลุงและเมืองไทรบุรี**<O</O
เมืองพัทลุง “ ปีมะเส็ง” ถือตรา “งูเล็ก” เป็นแผ่นดินที่มีประวัติสัมพันธ์กับคาบสมุทรสทิงพระซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของ “หลวงปู่ทวด” มายาวนาน โดยตำนานเมืองตามเพลาตำรานางเลือดขาวที่เขียนขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรในสมัยอยุธยา ศักราช ๒๕๑ หรือตกประมาณพุทธศักราช ๒๒๗๒ สมัยพระเจ้าท้ายสระ เป็นเรื่องเก่าครั้งกรุงสุโขทัย ต่อเนื่องถึงกรุงศรีอยุธยาได้แบ่งเมืองพัทลุง เป็น ๒ ยุค ยุคแรกนับตั้งแต่สมัยตามพรลิงค์มีชื่อเรียกว่า “กรุงสทิงพาราณสี” หรือเมืองสทิงพระ โดยตัวเมืองอยู่ฝั่งตะวันออกของทะเลสาบสงขลาคือตั้งอยู่ที่เมืองสทิงพระ หมู่ที่ ๕ ตำบลสะทิงพระ จังหวัดสงขลาในปัจจุบัน และเมืองพัทลุงยุคที่สองในพุทธศวรรษที่ ๑๙-๒๐ ที่ได้ย้ายเมืองมาตั้งยังฝั่งตะวันตกของทะเลสาบสงขลา สถานที่ตั้งเมืองใหม่คือบริเวณวัดเขียน วัดสทัง ที่บ้านบางแก้ว หมู่ ๕ ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง<O</O
เมืองใหม่ในยุคที่สองที่ย้ายมานั้นมีชื่อว่า “พัตลุง” หรือ “พัทลุง” ซึ่งเป็นคำสมาส พัทธ+ตะลุง เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่อง “ช้าง” โดยเฉพาะ อันกล่าวในรายละเอียดต่อไป
<O</O
ส่วนเมืองไทรบุรีนั้นเป็น“ปีมะโรง” ถือตรา “งูใหญ่” ซึ่งเป็นเมืองที่ภายหลังเมื่อหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดได้ “โละ” หายไปจากวัดพะโคะในวันเพ็ญเดือน ๖ พร้อมด้วยสามเณรน้อยรูปหนึ่ง ต่อมามีคำร่ำลือว่าท่านได้ไปปรากฏกายอยู่ที่วัดไทรบุรีโดยชาวบ้านเรียกว่า“ท่านองค์ดำ” หรือ“ท่านลังกา” ก่อนที่จะเกิดตำนาน “วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานีนับจากปีพุทธศักราช ๒๔๘๔<O</O

 

หลวงพ่อทวดวัดดีหลวง สงขลา
รุ่นอมตะศรัทธา ๙ธค.๕๐

 

หลวงพ่อทวด-หลวงพ่อหมุน
วัดสีหยัง อ.ระโนด จ.สงขลา

 

ชอบเหรียญนี้จังเลยครับคุณนวล สวยเยี่ยมมากเลย...ไหว้สาป๋ารมีหลวงปู่ทวดท่านเจ้า

 

หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน(รุ่นแรก)วัดม่วง ธนบุรี พ.ศ.๒๕๐๖ พิมพ์เล็ก


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

พิมพ์ใหญ่
<LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

หลวงปู่ทวดเนื้อว่าน(รุ่นแรก)วัดม่วง ธนบุรี พ.ศ.๒๕๐๖ พิธีใหญ่(อ.ทิม วัดช้างไห้ ขึ้นมาเป็นประธานสร้างและปลุกเสกให้เอง.) ของดีมีประสพการณ์/น่าใช้มาก ปัจจุบันไม่ค่อยจะเจอแล้วครับ ทางวัดได้จัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ระหว่างวันที่ ๑๘–๒๐ ธ.ค. ๒๕๐๖ โดยเชิญพระเกจิคณาจารย์เก่งๆหลายท่านแห่งยุคร่วมปลุกเสก โดยรวมประมาณ ๓๐–๔๐ รูป อาทิเช่น
-พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้
-ลป.เขียน วัดถ้ำขุนเณร
-ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ
-ลป.นาค วัดระฆัง
-ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก
-ลพ.เต๋ วัดสามง่าม
-ลพ.เงิน วัดดอนยายหอม
-ลพ.นา วัดนางจางพ่วง
-ลพ.สำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม
-ลพ.เติม วัดบางแค ธนบุรี
-ลพ.ทบ วัดพระพุทธบาทเขาย้อย
-ลพ.ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์
-และท่านอื่นๆอีกเพียบ...

จัดเป็นของดีที่น่าใช้มาก พิธีการจัดสร้างตามตำหรับวัดช้างไห้ จ.ปัตตานี โดย อ.ทิม วัดช้าง จัดเป็นของมีอนาคตที่ราคายังพอเก็บได้ เพราะจะมีไม่กี่วัด ที่ อ.ทิม จะมาร่วมปลุกเสก....หลวงปู่ทวดรุ่นี้จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าบูชาครับ


</FIELDSET>

 

ช้าง: ผูกพันทุกอย่างในชีวิต
ช้างซึ่งคติความเชื่อทางศาสนาแห่งตะวันออก ถูกเปรียบประดุจดั่งเทพของความอุดมสมบูรณ์และศิลปวิทยาการ ทั้งยังดำรงไว้ซึ่งฤทธานุภาพ
ด้วยรูปแบบแห่งสถาปัตยกรรมที่คนไทยสร้างขึ้นเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จากคติความเชื่อที่ว่าช้างเป็นสัตว์ที่เกี่ยวพันค่ำจุนพระพุทธศาสนามาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ต่อมาเจดีย์ทรงลังกาตั้งตระหง่านอยู่ที่ใดมักจะรายล้อมด้วยช้างนับสิบเชือกเสมอ
การทำศึกในสมัยอยุธยา ช้างหลายเชือกได้สร้างวีรกรรมร่วมกับพระมหากษัตริย์เกือบทุกพระองค์ กลายเป็นช้างคู่บารมี หนึ่งในนั้นก็คือเหตุ การณ์สำคัญ
"ศึกยุทธหัตถี" ระหว่างพระนเรศวรมหาราชกับพระมหารอุปราชาแห่งกรุงหงสาวดี ซึ่งเกิดขึ้นสมัยครั้งหลวงปู่ทวดยังเป็น "เด็กชายปู" อายุเพียง ๑๐ ปี
ครั้งที่เด็กชายปูอายุได้ ๑๐ ขวบ จึงดูเหมือนว่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของช้าง กระทั่งต่อมา....

"ในคืนวันนั้นพระองค์ทรงสุบินนิมิตว่า มีพระยาช้างเผือกผู้มาจากทิศตะวันตก ขึ้นยืนอยู่บนพระแท่นในพระบรมมหาราชวัง ได้เปล่งเสียงร้องก้องดังได้ยินไปทั่วทั้งสี่ทิศ"

นี่คือเรื่องเล่าอันเกี่ยวข้องกับสุบินนิมิตแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุงสยาม และเกี่ยวเนื่องไปถึงชะตาอันพลิกผันของ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" จากพระภิกษุธรรมดาๆ รูปหนึ่งกลายเป็น "สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปจารย์"

เพราะกาลต่อมาโหรหลวงได้ทำนายว่าตามพระสุบิตนิมิตนี้จะมีพระภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งจากทิศตะวันตกอาสาเรียงและแปลพระธรรมที่ผู้ครองแผ่นดินลังกาเป็นศึกทาง "ธรรม" โดยมองให้พราหมณ์เฒ่า ๗ คน มาท้าพระเจ้ากรุงไทยให้ทรงแปลพระธรรมในเมล็ดทองคำและเรียบเรียงตามลำดับให้เสร็จภายใน ๗ วัน
ต่อมาพระภิกษุหนุ่มที่กล่าวถึงก็คือ "พระภิกษุปู" แห่งเมืองตะลุงหรือจังหวัดพัทลุงเวลานี้
ซึ่งขณะนั้นได้เข้าไปศึกษาพระธรรมในกรุงศรีอยุธยาแล้วโดยจำพรรษาอยู่ที่วัดราชานุวาส และบังเอิญที่ศรีธนญชัยสังฆการีได้ไปพบเข้า
ถิ่นกำเนิดของ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ที่เรียกว่าตะลุงหรือพัทลุงนั้นปรากฏตำนานและหลักฐานอื่นๆ ให้เชื่อว่าเริ่มต้นขึ้นที่บ้านบางแก้ว (ได้) และเป็นเมืองร่วมสมัยกับกรุงสุโขทัย คือประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙ นอกจากนี้มีหลักฐานระบุว่า ในปีพุทธศักราช ๒๑๕๕ เจ้าเมืองพัทลุงเป็นลูกชายของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนทางสงขลามีเจ้าเมืองเป็นมุสลิม ชื่อโมกุล ซึ่งตกอยู่ภายใต้การปกครองของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช เช่นกัน แม้ว่าเจ้าเมืองของทั้งสองเมืองจะได้รับการแต่งตั้งโดยกรุงศรีอยุธยา

และตะลุง หรือพัทลุง มีความหมายอันเกี่ยวข้องกับเรื่อง"ช้าง"
โดยเฉพาะ จากคำสมาสว่า พัทธ+ลุง
เพราะฉนั้นพระภิกษุหนุ่มจากทิศตะวันตกจากสุบินนิมิตแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็คือ
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดนั่นเอง
ด้วยความดีความชอบที่ได้กระทำในครั้งนั้นพระภิกษุปู จึงได้พระราชสมนศักดิ์ว่า
"พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์"
สำหรับ "หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ช่วงที่ไปพำนัก อยู่กับสมเด็จพระสังฆราชเพื่อศึกษาพระธรรมขั้นสูงและรวมทั้งภาษาบาลีนั้น ว่ากันว่าสถานที่พำนักก็คือ "วัดใหญ่ชัยมงคล" ในปัจจุบัน หรือ "วัดป่าแก้ว" ในอดีต

ค่อยเล่ามาต่อค่ะ...

 

ขอบคุณค่ะ.....
เหรียญนี้ได้ไปร่วมบุญช่วงที่มีการหล่อพระหลวงพ่อทวดที่วัดดีหลวง
ทางวัดนำเอามาให้บูชา....จำไม่ได้ว่าร่วมบุญไป 200-300 บาทค่ะ...

 

หากเอ่ยถึง "หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" เชื่อว่าชาวไทยทุกคนต้องรู้จักและทราบถึงบุญญาบารมีขององค์ท่านเป็นอย่างดี แต่มีกี่คนที่ทราบว่าทำไมถึงขนานนามองค์ท่านว่า "หลวงพ่อทวด" คำว่า "พ่อทวด" มีความหมายว่าอะไร


ตามปกติชาวใต้จะเรียกพระสงฆ์ที่บำเพ็ญภาวนาจนมีญาณสมาบัติสูง เชียวชาญพระเวทย์วิทยาคม มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ปฏิหาริย์ ที่มีอายุมากหรือมีการดับขันต์ของท่านมาเป็นเวลานานนับ 100 ปี ขึ้นไปและดวงวิญญาณอันศักสิทธิ์พระคุณเจ้าเหล่านั้นยังคงสถิตย์อยู่ ณ สถานที่ต่าง ๆ อาจจะเป็น สถูป หรือ วัดวาอารามต่าง ๆ ครั้งเมื่อท่านยังคงดำรงค์ขันต์อยู่ว่า
"พ่อทวด" ฉนั้นในดินแดนภาคใต้ไม่ได้มีพระสงฆ์ที่ชาวบ้านในท้องถิ่นขนานนามว่า "พ่อทวด" เพียงองค์เดียวแต่กลับมีหลายองค์ อาทิ เช่น

หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สถิตย์ ณ วัดช้างให้
หลวงพ่อทวดบุญฤทธิ์ (ทวดยาร่วง) สถิตย์ ณ วัดศรีมหาโพธิ์ (วัดบ้านดอน)
หลวงพ่อทวดไกร สถิตย์ ณ วัดลำพระยา
หลวงพ่อทวดนวล สถิตย์ ณ วัดตุยง
หลวงพ่อทวดสิทธิชัย สถิตย์ ณ วัดทรายขาว
หลวงพ่อทวดหมาน สถิตย์ ณ วัดทรายขาว
หลวงพ่อทวดหนอน สถิตย์ ณ วัดมะรวด
หลวงพ่อทวดเภา สถิตย์ ณ วัดบ้านดี
หลวงพ่อทวดเอียด สถิตย์ ณ วัดบุราณประดิษฐ์
หลวงพ่อทวดจันทร์ หลวงพ่อทวดสี หลวงพ่อทวดทอง สถิตย์ ณ วัดช้างให้
หลวงพ่อทวดลิ้นดำ สถิตย์ ณ วัดทุ่งเมรุ
หลวงพ่อทวดหัวมวย สถิตย์ ณ วัดอ่างทอง (สงขลา)

ฯลฯ

เชื่อว่าหลายท่านรู้จัก หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำละจืด กันทุกคนอยู่แล้ว จึงขอนำความหมายและที่มา ของคำว่า "พ่อทวด" ที่เกี่ยวกับคติความเชื่อของชาวใต้ มาให้ทราบกันด้วย "เพื่อไม่ให้คติท้องถิ่นสูญหายไป"

 

ความรู้ใหม่...ขอบคุณมากครับท่าน

 

หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ เป็นพระเถระที่มีญาณติดต่อกับองค์หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด รูปหนึ่งครับ ท่านเป็นพระเถระที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ และ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว นับถือมากทีเดียว ในสมัยก่อนกล่าวกันว่า ถ้าหลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ รับกิจนิมนต์ไปวัดช้างให้ ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จะถวายกุฏิของท่านให้หลวงปู่แดง จำพรรษา
หลวงปู่แดง ปลุกเสกหลวงปู่ทวด มาตั้งแต่ พ.ศ. 2497 (วัดช้างให้) จนถึง พ.ศ. 2538 จนท่านมรณภาพใน ปี 2539 อายุ 95 พรรษา นับว่าท่านใช้เวลาในการปลุกเสกหลวงปู่ทวด ถึง 41 ปี เลยทีเดียวครับ ท่านเป็นพระเถระสำคัญในสายหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดครับ