แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    รับทราบครับ ลงตารางแล้วครับผม
     
  2. เอกสุกิตติมา

    เอกสุกิตติมา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +1,814
    ขอร่วมตั้งชื่อด้วยครับ
    บารมีหลวงพ่อกวยบันดาลสุขและบารมีหลวงพ่อกวยโปรดศิษย์
     
  3. tanatsan

    tanatsan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,082
    โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ กรรมการรายการที่ 1,2 และ 5 จำนวนอย่างละ 1 ชุดเป็นเงิน 3,159 บาท โอนไป 3,200 บาท ที่เหลือขอร่วมบริจาค รายละเอียดการโอนและที่อยู่ในการจัดส่งจะแจ้งทาง PM ให้ทราบนะครับ
     
  4. นำทาง

    นำทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,181
    ค่าพลัง:
    +7,867
    น่าจะมีให้บูชา เฉพาะเนื้อโลหะด้วยนะครับ
     
  5. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ขอบคุณครับ

    ขอบคุณมากน่ะครับสำหรับข้อมูล เนื้อหาสาระดีๆผมได้อ่านบทความของคุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 102468214.jpg
      102468214.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.1 KB
      เปิดดู:
      87
  6. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173
    รับทราบครับ ลงในตารางแล้วครับ
     
  7. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    ส่งรายละเอียดทางpmแล้วครับ ขออนุโมทนาต่อกุศลบุญในครั้งนี้ครับ ^ ^
     
  8. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    [​IMG]

    หลวงพ่อเอื้อน อตตมโน มีนามเดิม เอื้อน นามสกุล พันธุมิตร เกิดเมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ที่บ้านเลขที่ ๑ หมู่ ๖ ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพในการทำนา และพ่อของท่านยังเป็นหมอแผนโบราณมีความเชี่ยวชาญรักษาโรค ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ เล่าเรียนด้านมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งการดูฤกษ์พานาที ทำนายทายทักก็ถือว่าค่อนข้างมีคนให้ความเลื่อมใสอย่างมาก

    หลวงพ่อเอื้อนมี พี่น้องด้วยกัน ๗ คน ครอบครัวของท่านเป็นครอบครัวชาวนาเหมือนชาวบ้านในละแวกเดียวกัน ชีวิตในวัยเยาว์ ท่านก็ช่วยเหลือครอบครัวเท่าที่ช่วยได้ นิสัยตอนเด็กของท่านนั้นเปี่ยมไปด้วยเมตตา ไม่เคยเอาเปรียบใคร ๆ ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ชอบการรังแกกลั่นแกล้ง

    ถึงท่านจะเป็นเด็กที่ มีรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่กว่าคนอื่น เมื่อเข้าเรียนหนังสือท่านยิ่งไม่ชอบการเอาเปรียบและกลั่นแกล้ง ใครจะมาแกล้งท่าน ท่านก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน อยู่ไปนานวันเข้าก็ไม่มีใครมารังแก เพราะใจมันสู้ซะอย่าง

    พอจบชั้นประถมปีที่สี่แล้วก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา ทั้งเลี้ยงวัว เกี่ยวหญ้า บางคราวก็ไปหาปลามาประกอบอาหาร เพราะในสมัยนั้นทำนาได้ปีละครั้ง หมดหน้าทำนาแล้วก็ไม่มีอะไร อยู่กับบ้านทำงาน ต่าง ๆ ไป ด้วยความเป็นคนที่ชอบความสงบ

    สมัยนั้นชอบมากที่สุดคือในช่วงคืนเดือนหงาย พระจันทร์สาดส่อง สว่างไสวเป็นสีเหลืองที่งดงามมาก ท่านบอกดูแล้วมีความสุข ด้วยการที่เราไปเที่ยวบ้านเหนือบ้านใต้ก็ต้องระวังตัว เจ้าถิ่นเขาคอยจะหาเรื่องทะเลาะวิวาท ยิ่งถ้าไปจีบสาวในหมู่บ้านนั้นด้วยยิ่งแล้วเลยต้องเจอดีแน่นอน ท่านเองจึงไม่ค่อยชอบไปเที่ยวที่ไหน

    ช่วงที่เริ่มเป็นหนุ่มนั้นก็ ถือว่าพอตัวเหมือนกัน คือไม่ยอมให้ใครมารังแก แต่ก็ไม่เคยไปรังแกใคร ไปบ้านไหนก็อ่อนน้อมถ่อมตน แล้วอีกอย่างหนึ่งก็เล่าเรียนวิชามาเหมือนกัน โยมพ่อได้ถ่ายทอดให้ ตอนนั้นที่ว่าแน่นั้นต้องเสกปูนคาดคอ ขอดชายผ้าติดตัว บางครั้งก็เสกใบพลูกิน เรียกว่าพอเสกอะไรแล้ว ต้องลองกันได้เลย ถึงจะมั่นใจว่าไปแล้วไม่มีคำว่าเลือดไหลให้แมลงวันกิน ชีวิตเริ่มเป็นหนุ่มมากขึ้น ท่านกลับต้องช่วยโยมพ่อ

    บาง ครั้งโยมพ่อจะสอนให้ทำกรรมฐาน ทำให้มีจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ตอนแรก ๆ นั้นก็ทำไม่ค่อยได้ ใจคิดอะไรต่ออะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่พอบอกว่าเรียนมนต์คาถาต่าง ๆ ทำให้มีความสนใจ ตอนหลังถึงเข้าใจว่านั่นคือสมาธิ แต่การฝึกฝนทำสมาธิให้สงบ เมื่อนั่งแล้วต้องเห็นอะไร เมื่อจิตมีความสงบ มีสติ ก็ทำให้เกิดปัญญา มีความคิดรอบคอบ จะทำอะไรก็ไม่ผิดพลาด ต้องใช้การพิจารณาก่อน

    ชีวิตตอนเป็นหนุ่มของท่าน ไม่มีเรื่องที่ต้องทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ร้อนใจ มีแต่คอยให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ ช่วยงานทางบ้านทุกอย่าง หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนใกล้บวชพระนั้น มีความเบื่อหน่ายมาก เบื่อชีวิตในการครองเรือน เพราะเห็นเพื่อน ๆ มีความเดือดร้อนหลายคน บางคนมีลูกเมียแล้วก็ต้องพลัดพรากกัน ป่วยไข้ทรมาน แม้คนในหมู่บ้านที่ป่วยตายนั้นก็หลายคน ยิ่งมาพบเห็นชาวบ้านตายตอนโรคห่าระบาด ท่านบอกตอนนั้นกลัวเหมือนกัน พอเย็นลงมันวังเวงที่สุด บ้านของท่านมีคนแวะเวียนมาไม่เคยขาด เขามาขอให้ช่วยเหลือปัดเป่าให้โรคร้ายนั้นหายไป พ่อของท่านก็ทำน้ำมนต์ใส่กระถางใบโต เสกนานเป็นชั่วโมง

    ท่านมาคิดได้ว่าชีวิตคนเรานี้ เมื่อเกิดแล้วก็ต้องป่วยไข้ หากไม่ป่วยไข้อาจถูกคนทำร้ายตาย บางคนยากจนแสนเข็ญหากินจนตาย ทำให้ปลงว่า ชีวิตนี้ต้องตายทุกคน บางรายนอนป่วยนานเป็นเดือนถึงตาย บางรายกว่าจะตายทรมานมาก อันนี้เกิดขึ้นด้วยผลแห่งกรรม

    ต่อมา เมื่ออายุ ๒๒ ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบึง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีโอกาสศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐานตามแบบอย่างหลวงพ่อตาบ แห่งวัดมะขามเรียง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี รวมทั้งศึกษาการเขียนยันต์ตะกรุดจากหลวงพ่อตาบ จน พ.ศ. ๒๕๑๔ จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังแดงใต้ ได้พัฒนาวัดแห่งนี้จนมีความเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ

    ปัจจุบัน ชื่อเสียงท่านโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางมากราบท่านถึงวัด ท่านสร้างวัตถุมงคลแต่ละชนิดออกมาน้อย แต่มีประสบการณ์สูง ทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคล พระเครื่องของท่านจึงเป็นที่ต้องการในหมู่ลูกศิษย์อย่างมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    [​IMG]

    ประวัติโดยย่อ พระครูมงคลนวการ (หลวงพ่อฉาบ มฺงคโล)
    พระครูมงคลนวการ เจ้าอาวาสวัดศรีสาคร เป็นตำเหน่งและสมณศักดิ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งทางคณะสงฆ์หากแต่ในบรรดาศิษย์ผู้ที่ศรัทธารวมทั้งผู้ ใกล้ชิด จะจดจำและเรียกขานนามของท่านง่ายๆสั้นๆว่า หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร
    สถานะเดิม : ท่านเป็นชาวเมืองสิงห์บุรีโดยกำเนิด เป็นบุตรชายคนโต ในจำนวนพี่น้องชายหญิง 6 คน เป็นบุตรของนายเน่า และนางสมบุญ ด้วงดารา หลวงพ่อฉาบท่านเกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2471
    ที่บ้านเลขที่ 27 ต. หมื่นหาญ อ.พรหม จ.สิงห์บุรี ปัจจุบัน ต.หมื่นหาญเปลี่ยนเป็น ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี หลวงพ่อฉาบท่านมีน้องชายหญิงบิดามารดาเดียวกันอีก 6 คน
    -นายเอิบ
    -นายสังวาล
    -นายประสงค์
    -นายถวิล
    -นายปุ่น
    -นางสมนึก
    เมื่อเยาว์วัย ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนวัดศรีสาครจนจบชั้นประถมศึกษาและเมื่อจบได้ ออกมาช่วยเหลือบิดามารดา ในการประกอบอาชีพตามกำลังแห่งวัยสืบเนื่องจากท่านเป็นบุตรชายคนโต
    ตั้งแต่ เด็กท่านเป็นคนอุปนิสัยตรงไปตรงมาและติดออกจะพูดโผงผางแต่มีความจริงจัง ได้มีเหตุการพลิกผันในวัยเด็ก ทำให้ท่านได้ให้ความสนใจทางด้านการศึกษาพระคาถาอาคม
    สืบเนื่องจากในช่วง ที่ท่านมีอายุราว 14 ปี ทางวัดศรีสาครได้มีโอกาสต้อนรับพระผู้ปฎิบัติดีมีชื่อเสียงทางด้านพลังจิต สูงยิ่ง เป็นที่รับรู้ในด้านความขลังของมนต์วิเศษทั่วประเทศทีเดียว
    หลวงพ่อแช่ม อินฺทโชโต แห่งวัดตาก้อง จังหวัดนครปฐม ท่านมีความเคารพนับถือกับหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดศรีสาคร ในสมัยนั้น หลวงพ่อแช่ม ท่านได้นำคณะศิษยานุศิย์ทายกทายิกาลุ่มน้ำนครชัยศรี
    ร่วมบุญ กันมาทำการกฐินยังวัดศรีสาคร หลวงพ่อฉาบในวันเด็ก(อายุประมาณ14ปี) ได้มีโอกาสได้เข้าปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อแช่ม จนทำให้ หลวงพ่อแช่ม ท่านเมตตา ซึ่งเป็นช่วงที่ท่านพำนักอยู่ที่วัดศรีสาครหลายวัน
    ด้วยความ ใกล้ชิด หลวงพ่อแช่มท่านมีความรักเมตตาเอ็นดูต่อเด็กน้อยคนนี้ที่คอยรับใช้ท่านตลอด เวลาที่พำนักอญุ่ที่วัดศรีสาครและเล็งเห็นว่าเด็กคนนี้จะต้องมีดีในวันหน้า อย่างแน่นอน ท่านจึงถามว่าอยากจะเรียนวิชาอาคมหรือไม่
    หากสนใจท่านจะทำ การสอนให้ หลวงพ่อฉาบท่านได้เมตตาเล่าความหลังให้เหล่าลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังว่าเมื่อ ได้ยินหลวงพ่อแช่มถามท่านดังนั้น หลวงพ่อฉาบท่านไม่ได้มีความลังเลใจใดทั้งสินที่จะมาหักล้สงความต้องการที่จะ เล่าเรียนวิชาอาคมเลย จึงได้หมอบกราบแทบเท่าหลวงพ่อแช่มด้วยจิตใจที่ปลื้มปิติ หลวงพ่อแช่มท่านจึงได้รับตัวเป็นศิษย์ และได้ทำการถ่ายทอดสรรพวิชาเบื้องต้นให้ เมื่อต่อมาภายหลังได้อุปสมบทแล้วยังคงหมั่นเดินทางไปเพิ่มเติมวิชาอาคมกับ หลวงพ่อแช่มจวบจนหลวงพ่อแช่มท่านละสังขาล
    อุปสมบท หลังจากใช้ชิวิตฆราวาสทำการช่วยเหลือบิดามารดาประกอบอาชีพตามความเหมาะสมจน อายุครบบวช ได้ทำการอุปสมบทที่วัดศรีสาคร ต.ต้นโพธิ์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ.2491 โดยมี พระครูเกศีวิกรม (หลวงพ่อทรัพย์ ฐิตปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดสังฆราชาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งต่อมา หลวงพ่อทรัพย์ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็น พระสิงหวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี พระอาจารย์ประทุม เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉ่ำ เจ้าอาวาสวัดตึกราชา เป็นพระอนุสาวนจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า มงฺคโล หลังจาก เสร็จสิ้นพิธีอุปมสบทท่านได้บอกกับโยมบิดามารดาของท่านว่า เมื่อท่านได้มีโอกาศได้บวชเรียนแล้ว จะขอรับใช้พระพุทธศาสนาตลอดชีวิต โยมบิดามารดาของท่านก็มิได้ทักท้วงแต่อย่างใด ได้อนุโมทนาสาธุ เป็นการร่วมบุญไปด้วย หลังจากที่ได้อุปสมบทได้เร่งในการศึกษาทางธรรม เพื่อใช้เป็นแนวทางแห่งการคลองตนโดยพำนักอยู่ที่วัดศรีสาคร และเพื่อให้เป็นไปตามที่ได้ตั้งสัตยานิษฐานเอาใว้ เมื่อมีโอกาสบวชแล้วจะไม่ขอลาสิกขาบท
    การฝึกวิปัสนากรรมฐานที่ได้รับการ ชี้แนะมาจาก หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ท่านได้นำมาทำการทบทวน ฝึกปฎิบัติโดยนึกถึงคำกำชับจากหลวงพ่อแช่ม ซึ่งได้เปรียบเทียบเป็นแนวทางเมื่อครั้งรับท่านเป็นศิษย์ว่า การเรียนรู้ทางด้นการปฎิบัติจิตภาวนา เราหมั่นฝึกหมั่นทำ เพื่อทำให้จิตของเรานิ่งสงบ ซึ่งมันจะสามารถทำให้เกิดปัญญาเป็นปราการในการป้องกันกิเลสตัณหาที่จะเข้ามา สู่ตัวเราได้เป็นอย่างดีและอีกสิ่งหนึ่งที่ควรจดจำเอาใว้ให้มั่น คือการฝึกปฎิบัติจนเกิดสมาธิกับจิต จิตนิ่ง จิตมีสามธิ จะทำการสิ่งใดก็ได้ผล จะร่ำเรียนวิชาอาคม ก็จะบังเกิดความขลัง ความศักสิทธิ์ ซึ่งเป็นคำกล่าวของหลวงพ่อแช่มท่านยังคงจดจำได้อย่างแม่นยำหลังจากที่ได้ทำ การศึกษาทางด้านพระธรรมวินัย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งมีความต้องการแสวงหาเงียบสงบ เพื่อเป็นการฝึกความแกร่งให้กับดวงจิต
    กิจธุดงควัตรจึงเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่พระภิกษุ ที่อยู่ในวัยหนุ่มอย่างท่านในขณะนั้น ต้องการที่จะได้มา ในพรรษาที่ 2 ได้เริ่มต้นค้นคว้าหาความสงบทางภาคปฏิบัติ ร่วมกับพระภิกษุหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 3 รูป ตั้งเป้าหมายกิจแห่งธุดงควัตร มุ่งตรงไปยัง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง โดยตั้งเป้าหมายแห่งการเดินทางและรับการปฎิบัติที่วัดนางชำ อ.วิเศษชัยชาญและได้รับแนวทางการฝึกปฎิบัติจากหลวงพ่อเต่า หรือพระครูธรรมจริยคุณ ท่านเมตตาเป็นผู้ฝึกอบรมให้เมื่ฝึกวิชากับหลวงพ่อเต่าจนสำเร็จมีความพอใจ แล้ว ได้ทำการชักชวนภิกษุที่เดินทางมาด้วยกันอีก 3 รูป กราบลาหลวงพ่อเต่า มุ่งเดินทางต่อไปทางด้านพนมทวน กาญจนบุรี เลาขวัญ ไทรโยค เลาะตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า ตกค่ำปักกรดเจริญจิตภาวนา วันรุ่งขึ้นสัญจรแสดงธรรมต่อ และหากมิไกลกับบ้านเรือนของชาวบ้านในทางผ่าน เมื่อได้ทำการปักกรดก็จะทำการโปรดญาติโยมด้วยการอบรมชี้แนะทางธรรม หมุนเวียนเป็นกิจประจำ เรื่องของอาหารขบฉันหากมิไกลบ้านเรือนของผู้คนก็จะได้รับการถวายภัตตาหารใน การยังชีพได้ตามสมควร
    หากอยู่กลางป่าเขาไร้บ้านเรือนผู้คนเรื่องของ ยอดผักต้นไม้ใบหญ้า จำเป็นต้องเรียนรู้ ต้องศึกษาว่าสิ่งใดพอที่จะนำมายังชีพได้บ้าง ปัญหาดังกล่าวหากพระธุดงค์ที่มีจิตแก่กล้าร่างกายแข็งแรง ก็จะสามารถสอบผ่านอุปสรรคดังกร่าวได้ไม่ยาก การเดินทางลัดเลาะไปจนถึงเมืองเชียงใหม่ การตั้งใจของคณะธุดงค์คือการได้ไปกราบ นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ พระธุดงค์ต่างถิ่นทั้ง 4 รูป ต่างปักกรดอยู่ที่เชิงดอย ท่านได้เมตตาเล่าให้ศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังในภายหลัง ถึงเหตุการที่ปักกรดที่เชิงดอยสุเทพหลายวันจนเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านประสบ กับความโดเดี่ยวเหลืออยู่เพียงท่านรูปเดียว อาจจะด้วยความยากลำบากของการเดินทางประการหนึ่ง หรืออาจจะเป็นเพราะว่า พระภิกษุหนุ่มที่ร่วมคณะในการแสวงธรรมกับท่านมาแต่ต้น ได้เห็นถึงสีสันความเจริญรุ่งเรืองของเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งปัจจัยในหลายๆด้าน จึงทำให้ภิกษุที่ร่วมทางไปกับท่านได้ลาสิกขาบทที่ จ.เชียงใหม่ เหลือแต่ท่านเพียงรูปเดียว ท่านจึงได้ละจากเมืองเชียงใหม่มุ่งเข้าป่าขึ้นสู่เทือกเขาพยายามที่จะหลีก เลี่ยงสังคมคนเมือง เข้าแม่ฮ่องสอนแล้ววกกลับไปทางเชียงราย พะเยา เชียงแสนข้ามไปแคว้นเชียงตุงจนเป็นที่พอใจ แล้วลัดเลาะสู่ภาคอีสานตอนบนวกลงที่ชัยภูมิ ลงมาทางภาคอีสานตอนล่าง แล้วจึงได้กลับสู่วัดศรีสาคร ร่วมระยะเวลาที่ท่องกิจธุดงค์เป็นเวลานานถึง 6 พรรษา หลังจากกลับคืนสู่วัดศรีสาคร ก็ได้ตั้งใจช่วยงานของท่านเจ้าอาวาส จนท่านเจ้าอาวาสมรณภาพลง หลวงพ่อฉาบ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสาคร เมื่อปี 2498 จนถึงปัจจุบัน
    วัดศรีสาคร มีเจ้าอาวาสที่ปกครองวัดมาแล้ว จำนวน 10 รูปคือ
    1. หลวงพ่อศรี
    2. หลวงพ่อสา (เป็นน้องชายหลวงพ่อศรี)
    3. หลวงพ่อสน
    4 .หลวงพ่อเพ็ชร
    5. หลวงพ่อปั้น
    6. หลวงพ่อสว่าง
    7. หลวงพ่อเกิด
    8. หลวงพ่อเชื้อ
    9. อาจารย์ดี
    10. พระครูมงคลนวการ(หลวงพ่อฉาบ มงฺคโล ตั้งแต่ ปี 2498 จนถึงปัจจุบัน)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ธิท่าวุ้ง

    ธิท่าวุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    653
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ร่วมตั้งชื่อรุ่น ชื่อที่ 3 ครับ พลังบุญ หนุนดวง<O:p</O:p
    ความหมาย พลังบุญ หมายถึง กำลังแห่งการทำความดีของทุกคนที่ศรัทธาช่วยให้มีวัตถุมงคลที่ดี มีเจตนาที่บริสุทธิ์ พลังบารมีพระรัตนตรัย ครูอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้วัตถุมงคลมีพลังความศักดิ์สิทธิ์ ก่อเกิดรายได้นำไปช่วยทะนุบำรุง สืบทอดพระศาสนา ช่วยเหลือเด็ก คนชรา ช่วยเหลือสังคมได้ <O:p</O:p
    หนุน หมายถึง ทำให้สูงขึ้น ดีขึ้นกว่าเดิม<O:p</O:p
    ดวง หมายถึง ความดี หนุนให้คนได้ทำความดี ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ช่วยเหลือสังคม <O:p</O:p
    หมายถึง ชีวิต หนุนชีวิตให้ดีขึ้น มีความหวังมีกำลังใจในการดำเนินชีวิต<O:p</O:p
    หมายถึง การงาน การเงิน หนุนหน้าที่การงาน ให้ดีขึ้น ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถช่วยเหลือส่วนรวมสังคมได้มากยิ่งขึ้น <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 กันยายน 2010
  11. curio

    curio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +2,048
    ขอแจ้งการโอนเงินครับ
    วันนี้เวลา 10.28น. ได้โอนเงินจำนวน2099.99บาท ไปให้แล้วครับ
    อยากขอที่อยู่สำหรับส่งมวลสารไปร่วมด้วยครับ
    และขอร่วมตั้งชื่อรุ่นด้วย " พระคู่ชีวิต พิชิตภัย ไร้จน "
     
  12. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    ขอตั้งชื่อที่ "เปี่ยมศรัทธา บารมี มหามงคล"

    ทุกคนมีความศรัทธาที่เปี่ยมล้น ในเจตนาของกรรมการผู้สร้าง สิ่งมงคลที่นำมาเป็นมวลสาร รวมถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการปลุกเสกโดยผู้ที่มีคุณวิเศษ

    บารมี ที่ยิ่งใหญ่ของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพรหม เทพเจ้า หลวงพ่อกวย ตลอดทั้งพระอริยสงฆ์ทุกองค์

    เกิดเป็นมหามงคลแก่ผู้บูชา ซึ่งจะประสบแต่สิ่งดีๆในทุกด้าน
     
  13. siwarit

    siwarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +6,173

    รับทราบครับและอนุโมทนาบุญครับ
     
  14. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
     
  15. มังกรน้อย101

    มังกรน้อย101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +4,390
    ร่วมสนุกชื่อที่สาม"อภินิหาร แรงศรัทธา บารมีล้นฟ้า"

    หมดแม็กแล้วครับพี่:cool:
     
  16. paween

    paween เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +336
    ขอร่วมกุศลในครั้งนี้ด้วยครับ มี โลหะที่หล่อพระกริ่งพนมรุ้งรุ่นแรก ที่ทะลักออกจากเบ้าหล่อเก็บไว้อยู่ก้อนหนึ่ง กับตะกรุด ลป.สุข โพธิ์ทรายทอง เนื้อตะกั่ว 5 ดอก ขอที่อยู่จัดส่งด้วยครับพี่..
     
  17. 15 ค่ำ

    15 ค่ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,108
    ค่าพลัง:
    +10,575
    จัดส่งรายละเอียดทางpmเรียบร้อย ขออนุโมทนาต่อกุศลบุญในครั้งนี้ครับ
     
  18. xx-x

    xx-x เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +152
    ขอจองชุดกรรมการ 4 จำนวน 1 ชุดครับ
     
  19. รุ้งภูพาน

    รุ้งภูพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +484
    ขอร่วมตั้งชื่อด้วยคนครับ "พลิกชะตา มหากุศล" อีกชื่อ "หนุนชีวิต พิชิตมาร".
     
  20. วรัท

    วรัท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +2,387
    แจ้งโอนเงิน

    วันนี้(13/09/53 16.21 น.) โอนเงินแล้วครับ 2500
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...