*เปียโนพระเครื่อง*ปิดกระทู้นี้ชั่วคราว*ลพ.โหน่ง /กรุวัดชนะสงคราม*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย prakrueng, 22 กรกฎาคม 2010.

  1. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดรายการครับ

    กระทู้ที่
    49/2/09

    สมเด็จ มงคลมหาลาภ เนื้อน้ำตาลอมม่วง แม่ชีบุญเรือน ขนาด 2.3 x3.5 ซม.ครับ หายาก มีน้อย สภาพสวย ราคาพิเศษ 2600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  2. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดรายการครับ

    กระทู้ที่
    50/2/09

    สมเด็จ มงคลมหาลาภ เนื้อขาวอมเหลือง แม่ชีบุญเรือน ขนาด 2.3x3.5 ซม.ครับ หายาก มีน้อย สภาพสวย ราคาพิเศษ 2400 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  3. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 51/2/09

    พระเนื้อผง เก่าๆ ลพ.นวม วัดกลางท่าเรือ พระอาจารย์ของ ลพ.นอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยาครับ ขนาด 2.2x3.3 ซม.ครับ หายาก สภาพสวย ราคา 1000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  4. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ
    กระทู้ที่
    52/2/09

    ปางลีลา เนื้อดิน หลังซุ้มกอ ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดันสภาพสวย ราคา 1600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2010
  5. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 53/2/09
    พระเนื้อดินผสมผงคลุกรัก หลังยันต์ตรีนิสิงเห ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา หายาก สภาพสวยครับ ราคา 1400 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ปัญจ

    ปัญจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    27,373
    ค่าพลัง:
    +88,082
    ได้รับรายการที่ส่งมาแล้วครับ
     
  7. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    ขอจองผงสุพรรณ อู่ทองจงอางศึก ปี 2510หนึ่งคู่ครับ # 30
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2010
  8. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รับทราบการจองครับคุณ พรหมประกาศิต
    ผงสุพรรณ อู่ทองจงอางศึก ปี 2510 เนื้อดินแดงและดำ พระเก่าดีๆพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิดังหลายๆท่านและ ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ครับ ราคาคู่ละ 400 บาท

    ขอบคุณครับ
     
  9. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 54/03/09

    บุเรงนองออกศึก รุ่นแรก ลพ.อุตตมะ องค์นี้เนื้อดำ ราคา 1500 บาท

    เดี๋ยวนี้หายากมาก โดยเฉพาะสภาพสวยแบบนี้พระบุเรงนองเนื้อผงผสมดินเก่าจากบุเรงนองใน ถ้ำ เนื้อเป็นดินผสมผง เป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างและปลุกเสก องค์นี้สวยเดิมๆ มีหน้าตา รับประกันความแท้ ด้านหน้าสวยคมชัดมากค๊าบบบ ประวัติคร่าวๆของพระบุเรงนอง กรุถ้ำ(ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้าง พระบุเรงนองออกศึก รุ่นแรกของ ลพ.อุตตมะปี 2508)...เป็นพระอายุกว่า 400 ปี เป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี ของพระเจ้าบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศ พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดีค่ะ เป็นพระที่หลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ท่านได้มาจากถ้ำในประเทศพม่า...พระยอดขุนพลบุเรงนองกรุเก่า อายุกว่า 400 ปี จักรพรรดิพระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดี ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป ของพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่นเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่ง จากคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยหลวงพ่ออุตตมะท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีดังนี้ พระยอดขุนพลบุเรงนองของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก " พระมหามัยมุนี " เป็นพระเครื่องที่พระเจ้าบุเรงนอง บรมกษัตริย์ผู้มีพระเดชานุภาพมากแห่งกรุงหงสาวดี ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนักแห่งพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑเลย์ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะหนักไปในแนว " อิทธิฤทธิ์ " คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ " ในเวลาต่อมา โดยพระบุเรงนองนี้ พระฤาษีภูภูอ่องได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมืองมะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ อนึ่ง พระมหาฤาษีภูภูอ่องนั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า " ญาณรังสี " แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆ ก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติขั้นสูงสุด จนได้สำเร็จฤทธิ์อภินิหารอันยอดยิ่งด้วยเหตุถึง 4 สถาน คือ 1. ยา ( รอบรู้ในตัวยาสมุนไพร และว่านยาที่มีฤทธิ์ทุกประเภทอย่างเจนจบ ) 2. ยันต์ ( ปรีชาในอักขระคาถายันต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ) 3. ปรอท ( สำเร็จในการเรียกและใช้ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์กว่าธรรมดา จนถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ ) 4. ประคำ ( เครื่องช่วยกำหนดจิตภาวนาให้บังเกิดสมาธิจิต อันเป็นบาทฐานแห่งอภิญญาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของมีมาเก่าแก่ สืบทอดมาแต่โบราณกาลนับเป็นพัน ๆ ปี ) สำหรับเหตุที่หลวงพ่ออุตตมะได้พระยอดขุนพลบุเรงนองมานั้น ต้องเท้าความไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะยังเดินธุดงค์อยู่ มีเด็กชายชาวกะเหรี่ยงคริสต์คนหนึ่ง ( ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้ากะเหรี่ยง ) ซึ่งอยู่ในเขตประเทศพม่า ได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญหลวงพ่ออุตตมะได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง กาลต่อมาหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์รายนี้ได้มาเล่าให้หลวงพ่ออุตตมะฟังว่า ( ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ. 2490 กว่า ) วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ นัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษอยู่แน่ ๆ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์จึงไม่ทราบว่าคืออะไร จึงได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของพระยอดขุนพลบุเรงนอง สำหรับพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นของดีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับบรรดาศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่ออุตตมะ รวมทั้งผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมา เพราะนอกจากผู้ที่รู้ความเป็นมาที่แท้จริง ต่างก็พากันหวงสุด ๆ แล้ว ด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 400 กว่าปีมาแล้ว พระบุเรงนองที่สร้างด้วยเนื้อดินผสมว่าน ได้ชำรุดแตกหักไปเป็นอันมาก จึงทำให้มีน้อยคนนักที่จะได้ครอบครองพระยอดขุนพลที่นับเป็นจักรพรรดิ์พระ เครื่องแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีอย่างแท้จริง พระบุเรงนองจะมีด้วยกันหลายพิมพ์ทรง ซึ่งจะมีความแปลกอยู่ที่ว่าแต่ละองค์นั้นจะไม่มีองค์ไหนเหมือนกันเลย จะมีความแตกต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ขอบคุณข้อมูลของคุณศิพนันทน์ ทองดีเลิศ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 55/03/09

    บุเรงนองออกศึก รุ่นแรก ลพ.อุตตมะ องค์นี้เนื้อน้ำตาลแดง ราคา 1300 บาท

    เดี๋ยวนี้หายากมาก โดยเฉพาะสภาพสวยแบบนี้พระบุเรงนองเนื้อผงผสมดินเก่าจากบุเรงนองใน ถ้ำ เนื้อเป็นดินผสมผง เป็นรุ่นแรกที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างและปลุกเสก องค์นี้สวยเดิมๆ มีหน้าตา รับประกันความแท้ ด้านหน้าสวยคมชัดมากค๊าบบบ ประวัติคร่าวๆของพระบุเรงนอง กรุถ้ำ(ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในการสร้าง พระบุเรงนองออกศึก รุ่นแรกของ ลพ.อุตตมะปี 2508)...เป็นพระอายุกว่า 400 ปี เป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี ของพระเจ้าบุเรงนองผู้ชนะสิบทิศ พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดีค่ะ เป็นพระที่หลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ท่านได้มาจากถ้ำในประเทศพม่า...พระยอดขุนพลบุเรงนองกรุเก่า อายุกว่า 400 ปี จักรพรรดิพระเครื่องคู่บัลลังก์หงสาวดี พระดีที่หายากยิ่งแห่งลุ่มน้ำอิระวดี ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป ของพระยอดขุนพลบุเรงนองรุ่นเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาได้ยากยิ่ง จากคำบอกเล่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยหลวงพ่ออุตตมะท่านได้เคยอ่านพบใน " ตำราโบราณ " ที่อดีตโบราณาจารย์ฝ่ายพม่ารามัญ ได้จดบันทึกไว้สืบต่อกันมานานนับเป็นร้อย ๆ ปี มีดังนี้ พระยอดขุนพลบุเรงนองของเก่าแก่ดั้งเดิมนั้น เป็นพระพิมพ์ดินดิบผสมว่านยาวิเศษ โดยได้จำลองพุทธลักษณะจาก " พระมหามัยมุนี " เป็นพระเครื่องที่พระเจ้าบุเรงนอง บรมกษัตริย์ผู้มีพระเดชานุภาพมากแห่งกรุงหงสาวดี ได้โปรดให้ พระมหาฤาษี ภูภูอ่อง ผู้เป็นพระราชครูผู้ใหญ่ ประจำพระราชสำนักแห่งพระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งได้สำเร็จมหิทธิฤทธิ์ขั้นสุดยอดด้วยองค์คุณ 4 ประการ คือ ยา ยันต์ ปรอท และ ประคำ จนมีฤทธิ์ มีเดชสูงส่งอย่างยิ่งยวด เป็นผู้จัดสร้างและปลุกเสกขึ้น เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และเหล่าทหารหาญ เพื่อใช้ในการศึกสงครามโดยทั่วไป โดยแกะพิมพ์จำลองพุทธลักษณะของพระมหามัยมุนี พระพุทธรูปสำคัญ อันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวพม่า ที่มีอายุการสร้างเกือบ 2,000 ปี ที่เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองยะไข่ แต่ต่อมาได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองมัณฑเลย์ ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะหนักไปในแนว " อิทธิฤทธิ์ " คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ " ในเวลาต่อมา โดยพระบุเรงนองนี้ พระฤาษีภูภูอ่องได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมืองมะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่ อนึ่ง พระมหาฤาษีภูภูอ่องนั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า " ญาณรังสี " แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆ ก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติขั้นสูงสุด จนได้สำเร็จฤทธิ์อภินิหารอันยอดยิ่งด้วยเหตุถึง 4 สถาน คือ 1. ยา ( รอบรู้ในตัวยาสมุนไพร และว่านยาที่มีฤทธิ์ทุกประเภทอย่างเจนจบ ) 2. ยันต์ ( ปรีชาในอักขระคาถายันต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ) 3. ปรอท ( สำเร็จในการเรียกและใช้ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์กว่าธรรมดา จนถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ ) 4. ประคำ ( เครื่องช่วยกำหนดจิตภาวนาให้บังเกิดสมาธิจิต อันเป็นบาทฐานแห่งอภิญญาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของมีมาเก่าแก่ สืบทอดมาแต่โบราณกาลนับเป็นพัน ๆ ปี ) สำหรับเหตุที่หลวงพ่ออุตตมะได้พระยอดขุนพลบุเรงนองมานั้น ต้องเท้าความไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะยังเดินธุดงค์อยู่ มีเด็กชายชาวกะเหรี่ยงคริสต์คนหนึ่ง ( ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้ากะเหรี่ยง ) ซึ่งอยู่ในเขตประเทศพม่า ได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญหลวงพ่ออุตตมะได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง กาลต่อมาหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์รายนี้ได้มาเล่าให้หลวงพ่ออุตตมะฟังว่า ( ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ. 2490 กว่า ) วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงกรอกปากถ้ำ เพื่อฆ่าพวกตนให้ตายคาถ้ำ นับเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ นัด จนพวกทหารพม่าคิดว่าพวกกะเหรี่ยงที่อยู่ในถ้ำคงจะตายกันไปหมดแล้ว จึงได้ถอยทัพกลับไป ครั้นพอรุ่งเช้าพวกบรรดากะเหรี่ยงที่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ก็ออกจากที่ซ่อนในถ้ำมาสังเกตุการณ์ เห็นปลอกกระสุน และลูกปืนตกกระจายอยู่เต็มไปหมด แต่ไม่มีกระสุนแม้แต่เพียงนัดเดียว ที่จะวิ่งผ่านเข้ามาถึงข้างในที่พวกตนซ่อนอยู่ได้ ก็แปลกใจ เลยคิดว่าถ้ำแห่งนี้คงต้องมีของดีของวิเศษอยู่แน่ ๆ เลยสำรวจในถ้ำดูว่ามีอะไรดี จึงได้เจอกับ กองพระขนาดย่อม ๆ ที่วางกองกันไว้อยู่ในถ้ำนั้น แต่พวกตนเป็นกะเหรี่ยงคริสต์จึงไม่ทราบว่าคืออะไร จึงได้นำมาให้หลวงพ่ออุตตมะดู เมื่อได้พิจารณาดูหลวงพ่อก็ทราบทันทีว่านี่คือ พระยอดขุนพลบุเรงนอง ที่เคยได้ยินเรื่องราวมานั่นเอง จึงได้สั่งให้หัวหน้ากะเหรี่ยงคนนี้พาคนไปช่วยกันขนพระออกมาจากถ้ำ และนี่เองคือปฐมเหตุแห่งการ แตกกรุ ของพระยอดขุนพลบุเรงนอง สำหรับพระยอดขุนพลบุเรงนองนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นของดีที่หาได้ยากเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นที่ใฝ่ฝันสำหรับบรรดาศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่ออุตตมะ รวมทั้งผู้ที่รู้ประวัติความเป็นมา เพราะนอกจากผู้ที่รู้ความเป็นมาที่แท้จริง ต่างก็พากันหวงสุด ๆ แล้ว ด้วยระยะเวลาที่ล่วงเลยมาเนิ่นนานถึง 400 กว่าปีมาแล้ว พระบุเรงนองที่สร้างด้วยเนื้อดินผสมว่าน ได้ชำรุดแตกหักไปเป็นอันมาก จึงทำให้มีน้อยคนนักที่จะได้ครอบครองพระยอดขุนพลที่นับเป็นจักรพรรดิ์พระ เครื่องแห่งลุ่มแม่น้ำอิระวดีอย่างแท้จริง พระบุเรงนองจะมีด้วยกันหลายพิมพ์ทรง ซึ่งจะมีความแปลกอยู่ที่ว่าแต่ละองค์นั้นจะไม่มีองค์ไหนเหมือนกันเลย จะมีความแตกต่างกันไปเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ขอบคุณข้อมูลของคุณศิพนันทน์ ทองดีเลิศ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2010
  11. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 56/03/09
    รูปเหมือน เนื้อผงผสมว่าน ลพ.ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ปี 2512 สุดยอดหายาก สภาพเก็บเก่าเดิมๆ ราคาองค์ละ 600 บาท ยังพอมีเหลือครับ ขนาดองค์พระกว้าง 2.2 สูง 3.2 ซม.ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. arjarhnnop

    arjarhnnop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37,321
    ค่าพลัง:
    +76,428

    ได้รับแล้ว ขอบพระคุณครับ
     
  13. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 57/03/09
    สมาธิใบโพธิ์ ลพ.สุพจน์ วัดสุทัศน์ พิธีใหญ่ อินโดจีน ปี 2484 หายาก สภาพสวยครับ ราคา 1100 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    กระทู้ที่ 58/03/09
    สมเด็จ อกครุฑเศียรบาตรหลังยันต์ใหญ่ องค์นี้พิเศษยันต์กลับครับ พิธีใหญ่อินโดจีน ปี 2484 สภาพสวย ราคา 1300 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 59/03/09

    สมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงหลังยันต์ใหญ่ เนื้อผงวัดระฆังล้วน ปี 2484 พิธีอินโดจีน หายาก สภาพสวย ราคา 1500 บาท พิมพ์นี้มีลงอยู่ในหนังสือพระชุดวัดประสาทบุญญาวาส ปกแดงครับ
    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CBanana%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:EucrosiaUPC; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:222; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777217 0 0 0 65536 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> พระสมเด็จนี้จัดสร้างโดยลพ.สุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ (ตำราโบราณของพระครูลมูล วัดสุทัศน์) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆัง จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี 06 พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี 09 ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี 84 (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมาถวายท่าน ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ และได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธีนั้นพร้อม ๆ กับวัตถุมงคลต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริง ๆ<o></o>[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 60/03/09

    ปิดตาฐานผ้าทิพย์ หายาก ลพ.สุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี 2484 สภาพสวย ราคา 1300 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดรายการครับ

    กระทู้ที่ 61/03/09

    พระพุทธชินราช เนื้อดิน โรงพยาบาลสงฆ์ ปี 2500 พระดีพิธีใหญ่ สภาพสวย ราคา 700 บาท

    ในปี 2500 คณะกรรมการแพทย์ โรงพยาบาลสงฆ์ ได้มีมติ ให้ดำเนิน การสร้าง พระเครื่อง โดยเงินที่ได้จากการดำเนินการดังกล่าว ทางคณะ แพทย์ จะใช้เพื่อ การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
    การประกอบพิธี ถูกต้องตามตำราทั้งทางพุทธเวทย์ และ ไสยเวทย์

    พระที่สร้าง มีสองประเภท คือ เนื้อโลหะ และ เนื้อดินเผาผสมผงศักดิ์สิทธิ์ โดยเนื้อดินเผามีสามพิมพ์ ได้แก่ พิมพ์พระรอด พิมพ์ นางพญา และ พิมพ์ชินราช

    มวลสาร ดินจากสังเวชณียสถาน ผงว่านและ เกษรต่างๆ ผงอิทธิเจ ปถมัง มหาราช ตรีนิสิงเห ที่ได้จากพระอาจารย์มีชื่อในสมัยนั้น กว่า 700 รูป โดยให้นายแพทย์ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำจังหวัดในสมัยนั้นเป็นผู้ประสานงาน ผสม ผงพระกรุเก่า อาทิเช่น พระสมเด็จวัดระฆัง สมเด็จวัดสระเกศ ผงพระกรุลำพูน ฯลฯ
    พิธี พุทธาภิเศก สองครั้ง ครั้งที่หนึ่ง สามวันสามคืน ระหว่างวันที 7 – 9 มีนาคม 2500 ครั้งที่สอง สามวันสามคืน ระหว่างวันที่ 1 – 2 พฤษภาคม 2500

    รายนามคณาจารย์

    สมเด็จพระวันรัต เป็น องค์ ประธาน พร้อมพระสงฆ์ 108 รูป อาทิ

    สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ (อยู่)
    ลป นาค วัดระฆัง
    ลพ เมี้ยน วัดพระเชตุพน
    ลพ เหรียญ วัดหนองบัว
    ลพ เงิน วัดดอนยายหอม
    ลป โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    ลพ ถิร วัดป่าเลไลย์
    ลพ หลาย วัดราษฎร์บำรุง
    ลพ ฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต
    พระครูกัลยาวิสุทธิ วัดดอน
    ลพ บุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์
    ลพ จง วัดหน้าต่างนอก
    ลพ เต๋ คงทอง วัดสามง่าม
    ลพ แฉ่ง วัดบางพัง

    เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2010
  18. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867

    ปิดรายการครับ

    กระทู้ที่ 62/04/09

    ปิดตา ผงกระดูกผี วัดโพธิ์ ท่าเตียน ปี 2485 เนื้อเทาอมเขียว ราคา 2500 บาท

    พระปิดตาผงอัฐิ วัดโพธิ์ท่าเตียน พระปิดตาผงอัฐิ ที่กำลังจะบรรยายถึงประวัติที่มานั้น นับว่าเป็นพระดี เป็นพระที่ผู้นำไปใช้บูชาต่างมีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมามากได้ด้าน ประสบการณ์ต่างๆ พระรุ่นนี้นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ครั้งสงครามอินโดจีนกำลัง คุกกรุ่นในราวๆช่วงปีพศ. 2480 กว่าๆ ในสมัยสงครามอินโดจีน อันเป็นสงครามระหว่างไทยฝรั่งเศสที่มีอาณานิคมอยู่ในอินโดจีนนั้น ยุคนั้นทำให้เราได้รู้จักพระเกจิอาจารย์ต่างๆ มากมาย รวมทั้งบรรดาวัตถุมงคลที่บรรดาวัดหรือสมาคมต่างๆ ได้สร้างขึ้นมาเพื่อแจกให้ทหารที่ออกรบด้วย พอเสร็จสงครามอินโดจีนก็เข้าสู่ยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุคนั้นก็มีพระเกจิอาจารย์ต่างๆ อีกหลายท่านที่ได้สร้างวัตถุมงคลออกมาด้วย เนื่องจากตอนนั้นไทยเราได้ทำสัญญา เป็นมิตรกับญี่ปุ่นอยู่กับฝ่ายอักษะ ทั่วประเทศไทยตอนนั้นจึงมีแต่ทหาร ญี่ปุ่นมาตั้งฐานทัพเต็มไปหมดประเทศไทยจึงต้องทำสงครามกับฝ่ายพันธมิตรอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงทำให้หลายแห่งในประเทศที่เป็นจุดยุทธศาสตร์และเป็นที่ตั้งของกองทัพ ญี่ปุ่น ถูกเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตรทิ้งระเบิดระลอกแล้วละลอกเล่า จนสร้างความเสียหายให้กับสถานที่ และชีวิตผู้คนจำนวนมาก พระเกจิอาจารย์หลายท่านจึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาแจกจ่ายทหาร ตำรวจอาสาสมัคร และประชาชน เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ และเครื่องรางป้องกัน วัดโพธิ์ ท่าเตียน หรือที่มีชื่อเป็นทางการว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลราม ก็เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ให้กำเนิดพระเครื่องขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายให้ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และประชาชน เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องรางป้องกันอันตรายจากภัยสงครามในครั้งนั้นด้วย แต่วัตถุมงคลวัดโพธิ์ ท่าเตียนไม่ได้มีการสร้างอย่างเป็นทางการแบบที่ว่ามีพระเกจิอาจารย์หลายๆ ท่านมาช่วยกันปลุกเสก เป็นการสร้างวัตถุมงคลโดยพระเกจิอาจารย์เพียงท่านเดียว และเป็นการสร้างแบบเงียบๆ ค่อยเป็นค่อยไป พระปิดตาผงอัฐินี้เป็นพระปิดตาที่กำเนิดโดย พระอาจารย์หนู แห่งสำนักวัดโพธิ์ ท่าเตียน โดยอาจารย์หนู ท่านเป็นเกจิชาวเขมรสร้างพระรุ่นนี้ขึ้นในราวปี 2485 จากผงอัฐิเถ้ากระดูก, ผงพระพุทธคุณ, ผงอิทธิเจและว่านอาถรรพ์ต่างๆ ว่ากันว่าพระรุ่นนี้นั้น นอกจากห้อยบูชาจะดีเด่นทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาดแล้ว ยังให้โชคในด้านการเสี่ยงการพนันขันต่ออีกด้วย ประวัติ พระอาจารย์หนู ท่านนี้ก็เป็นพระสงฆ์จาก จังหวัดสุรินทร์มีเชื้อสายเป็นชาวเขมรแต่มีวิชาอาคมแก่กล้า และเชี่ยวชาญทางวิทยาคม กับไสยศาสตร์มาก แม้อายุท่านจะไม่มากเท่าไหร่ แต่มีความศักดิ์สิทธิ์ทางคาถาอาคมจนเป็นที่ประจักษ์และมีคนนับถือกันมาก นอกจากนี้ท่านยังชอบเลี้ยงว่านด้วย ที่กุฎิของท่านจึงมีว่านต่างๆ หลายชนิดที่พระอาจารย์หนูได้เลี้ยงไว้ วิชาทางการแพทย์แผนโบราณพระอาจารย์หนูท่านก็มีความชำนาญสมัยนั้นที่กุฏิของ พระอาจารย์หนูจึงมีคนไปขอความอนุเคราะห์จากท่านอยู่บ่อยๆ บ้างก็ไปขอวัตถุมงคล บ้างก็ไปขอให้ท่านรดน้ำมนต์และบ้างก็ไปขอให้ท่านรักษาโรค ตอนที่ทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยนั้นจึงมีเครื่องบินของฝ่าย พันธมิตรมาทิ้งระเบิดตามฐานทัพของทหารญี่ปุ่นและตามจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ อื่นๆ การทิ้งระเบิดเป็นการทิ้งแบบปูพรม และเครื่องบินก็บินสูง การทิ้งระเบิดจึงทำให้เกิดการพลาดเป้าหมายไปถูกบ้านเรือนของประชาชนอยู่เป็น ประจำ มีประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บพิการเพราะการถูกลูกหลงจากการทิ้งระเบิดกัน เป็นจำนวนมาก พระอาจารย์หนูท่านเกิดความสงสารประชาชนเหล่านั้นที่พลอยมารับเคราะห์ไปด้วย จึงได้ดำเนินการสร้างพระขึ้นมาเพื่อแจกประชาชนนำไปป้องกันอันตรายจากการทิ้ง ระเบิดด้วยตัวของท่านเอง เนื่องจากพระอาจารย์หนูท่านมีความชำนาญในวิชาอาคมและไสยศาสตร์ การสร้าง พระเครื่องของท่านจึงได้ดำเนินการแบบพิสดารผิดไปจากการสร้างพระเครื่องของ อาจารย์อื่นๆ ท่านไม่เอาวัสดุจำพวกโลหะ ผงวิเศษ หรือ ดินมาสร้าง แต่ท่านได้นำเอา ขี้เถ้ากระดูกของคนตาย มาสร้าง การที่ท่านนำเอาขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างพระเครื่องก็คงเป็นเหตุผลของ ท่านเอง เนื่องจากขี้เถ้ากระดูกของคนตายนี้ตามหลักของวิชาไสยศาสตร์ก็ถือว่าเป็น วัสดุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่ง แต่การที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกผีของคนตายมาสร้างวัตถุมงคลนั้นต้องเป็นคนที่มี วิชาอาคมแก่กล้าถึงจะทำได้ เพราะของแบบนี้ย่อมมีแรงอาถรรพณ์อยู่ในตัว แต่ขี้เถ้ากระดูกที่พระอาจารย์หนูนำมาสร้างพระเครื่องนั้นก็ไม่ได้จำเพาะว่า จะจะต้องเป็นขี้เถ้ากระดูกของคนที่ตายโหง หรือตายวันเสาร์เผาวันอังคารไม่ เป็นขี้เถ้าของกระดูกของคนตายแบบไหนก็ได้ ซึ่งสมัยนั้นคนตายนิยมเผากันตามเชิงตะกอน ในสมัยสงครามก็ยิ่งมีคนตายกันมาก ขี้เถ้ากระดูกของคนตายจึงสามารถหาได้ง่าย แต่ก่อนที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกมาพระอาจารย์หนูก็จะทำพิธีพลีกรรมก่อนทุกครั้ง ตามวิชาที่ท่านเรียนมา พระผงกระดูกของพระอาจารย์หนูนอกจากจะสร้างจากขี้เถ้ากระดูกของคนตายแล้ว พระอาจารย์หนูยังได้เอา ว่านโพง มาบดให้ละเอียดผสมเข้าไปด้วย สำหรับว่านโพงนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกระสือ เชื่อกันว่าเป็นว่านที่มีอาถรรพ์และมีอิทธิฤทธิ์มาก มักขึ้นอยู่ตามป่าลึก หากสัตว์พลัดหลงเข้าไปในป่าลึกบริเวณที่มีว่านอยู่ อาจถูกว่านดูดเลือดกินจนตายไป ซึ่งว่านชนิดนี้อาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีวิชาอาคมชอบเลี้ยงเพื่อไว้เฝ้าบ้าน การเลี้ยงว่านโพงหรือว่านกระสือนี้จะเลี้ยงยากกว่าว่านชนิดอื่น อย่างไรก็ตามแม้มวลสารที่ท่านอาจารย์หนูนำมาใช้ในการสร้างพระปิดตานี้ดูจะ เฮี้ยนๆ ดูน่ากลัว แต่ท่านได้ทำพิธีพลีกรรมถูกต้องตามตำรับทุกประการ ทำให้ผู้ที่นำมาใช้กลับได้รับคุณอย่างเดียว เรื่องโทษยังไม่เคยปรากฏ และผลที่ได้กลับแปลกคือ แรง และ เร็ว กว่าวัตถุมงคลอีกหลายชนิด พุทธคุณจะแรงเร็วคล้ายๆกับเครื่องรางของขลัง แต่อย่างไรก็ดีผู้นำมาใช้ถ้ามีโอกาสเมื่อขอสิ่งใดได้แล้ว ก็ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของเถ้ากระดูกนั้นด้วย สำหรับประสบการณ์ที่เล่าขานนั้นเป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งทหารไทยและทหาร ญี่ปุ่นเมื่อสมัยสงครามจนมีคำเรียกติดปากกันในยุคนั้นว่า"ทหารผี" ในสงครามเป็นที่กล่าวขาน ว่าทหารไทยโดนยิงล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่เพราะหนังเหนียว นอกจากนี้ว่ากันว่าเมื่อบูชาแล้วจะเด่นมากในในด้านความปลอดภัย ป้องกันภัยดี เวลาเดินทางไปไหน จริงๆไปเพียงคนเดียว แต่มีประสบการณ์เล่ากันมาว่า มีคนเห็นว่าเหมือนมีคนมาหลายๆคน บางคนนั่งรถไปธุระพอลงจากรถมีคนถามว่า อ้าวแล้วคนที่มาด้วยไปไหนแล้วล่ะ.. ส่วนประสบการณ์ด้านอื่นเช่นการเสี่ยงโชคโดยเฉพาะนักเสี่ยงดวงเสี่ยงโชค ก็จะเหมือนมีคนเสี่ยงโชคมักจะสำเร็จเหมือนมีคนมาดลจิต แต่พอได้พอประมาณก็ควรพอนะครับ อย่าโลภมากเพราะ อาจจะหมดตัวได้ ใครชอบของแรงๆ พุทธคุณเด่นชัดเร็วๆก็ต้องบูชาพระปิดตาสำนักนี้ครับ รับประกันได้ว่าแขวนเดี่ยวประสบการณ์ชัดเจน มีประสบการณ์ครบสูตรไม่ว่าจะคงกะพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ครับ ปัจจุบันที่เล่นหากันส่วนใหญ่นั้นขอบอกเลยว่าไม่ใช่ตัวจริง ตัวจริงต้องกดพิมพ์ได้ลึกแบบนี้ ผิวพรรณ ความเก่า มวลสารเก่าเพียบ ดูเข้มขลัง พระผงรุ่นนี้นับว่าเป็นพระผงที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์ เป็นของขัลง ของแรงได้ผลประจักษ์รวดเร็ว บางคนว่าได้ผลแรงเร็วคล้าๆยกับการใช้เครื่องราง จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกขณะครับ อีกหน่อยจะหาพบได้ยาก องค์นี้สภาพสวยอีกองค์ เนื้อจัดมาก ตัวจริงเสียงจริงต้องแบบนี้ครับ เป็นพระเครือ่งที่หมาะกับคนชอบเสี่ยงดวงครับ ล่าสุดประวัติลงหนังสือ Art of siam !!!! เป็นพระเครือ่งที่ดี ประสบการณ์เยี่ยม เข้าทำนองแนว แขวนเดี่ยวได้ ค่านิยมไม่แพงจนเกินไปครับ องค์นี้พระติดลึกเต็มๆ สภาพสวยแชมป์ สภาพสวยขนาดนี้ไม่ใช่หาง่ายในปัจจุบันแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2010
  19. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    กระทู้ที่ 63/04/09 ราคาพิเศษ

    พระผง ลพ.เกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง รุ่น ลาภ ผล พูล ทวี ปี 2530 สภาพสวยทุกองค์ ราคาองค์ละ 200 บาท / คู่ละ 300 บาท ชอบองค์ไหนใส่หมายเลของค์ที่จองด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  20. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    กระทู้ที่ 64/04/09

    ขุนแผน โรยตะไบทอง ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี ปี 2513 สภาพสวย ราคา 750 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...