เพื่อการกุศล ๑๒๓๔ ( เหรียญปาฏิหารย์ เปิดโลก) หลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด พระอภิญญาแห่งสามชุก ๕๖๗๘๙

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย pipat_san, 17 มีนาคม 2010.

  1. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    พระอธิการวิทยา ฉันทธัมโม
    หลวงปู่ตี๋ เจ้าอาวาส วัดเขาเขียวพนาราม
    ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี


    แต่ปัจจุบันท่านได้ย้ายมาพักรักษาตัวอยู่ที่วัดท่ามะกรูด ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ซึ้งห่างจากวัดเขาเขียวเพียง ๓ กิโลเมตรเท่านั้น​




    *** หลวงพ่อตี๋ วัดกระเสียว , หลวงพ่อตี๋ วัดเขาเขียว , หลวงพ่อตี๋ วัดท่ามะกรูด คือรูปเดียวกันครับ​



    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2010
  2. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    ชาติภูมิ


    หลวงปู่ตี๋ เกิดเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๗ ตรงกับวันอาทิตย์ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๙ ปี ชวด (ปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๑ อายุ๘๔ปี) ณ.บ้านท่าน้ำตลาดท่าช้าง อ.เดิมบางนางบวช เป็นบุตรของนายห้อย นาง กิมบี้ นามสกุล น้ำดอกไม้ หลวงปู่ตี๋มีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน เป็นชาย ๓ คน หญิง ๑ คน หลวงปู่ตี๋เป็นบุตรคนโต




    วัยเด็ก


    แต่เดิมโยมพ่อท่านเป็นช่างก่อสร้างมณฑปบนยอดเขาวัดหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช และเมื่อตอนสร้างมณฑปนั้นได้นำเด็กชายตี๋ในขณะนั้นติดตามไปด้วยตลอด และหลวงพ่ออิ่ม เจ้าอาวาสวัดหัวเขาได้เห็นเด็กชายตี๋เข้า จึงเมตตาเลี้ยงดูให้ในขณะที่โยมพ่อหลวงปู่ตี๋กำลังทำงาน หลวงพ่ออิ่มได้ป้อนข้าวป้อนน้ำเลี้ยงเด็กชายตี๋เปรียบเสมือนลูกในไส้ และรักเด็กชายตี๋มาก และดูดวงชะตาเด็กชายตี๋ก็ทราบว่า ในอนาคตเด็กผู้นี้ต้องบวชไม่สึก และจะเป็นกำลังสำคัญในพระพุทธศาสนา ท่านจึงมอบตำราวิชาอาคมของท่านจำนวน1 เล่มไว้ให้กับโยมพ่อของหลวงปู่ตี๋เก็บรักษาเอาไว้ให้หลวงปู่ตี๋เมื่อโต ก่อนที่หลวงพ่ออิ่มท่านจะมรณภาพ




    บรรพชา

    เมื่อหลวงปู่ตี๋อายุ ๑๕ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร และเริ่มเรียนวิชาต่างๆจากตำราของหลวงพ่ออิ่ม สิริปุญโญ วัดหัวเขา ที่โยมพ่อของท่านได้เก็บรักษาเอาไว้จนแตกฉาน

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    อุปสมบท


    จวบจนอายุ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบท ณ.พัทธสีมาวัดเขาพระ อ.เดิมบางนางบวช เมื่อวันที่ ๑๙ เดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๗ โดยมี
    พระครูอเนกคุณากร (หลวงปู่แขก) วัดหัวเขา เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์พิณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระอาจารย์ไสว เป็นพระอนุสาวนาจารย์




    หลวงปู่ตี๋ กับหลวงปู่แขก วัดหัวเขา

    หลังจากหลวงปู่ตี๋อุปสมบทแล้ว ได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวเขา เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยและพุทธาคมจากหลวงปู่แขก ซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่ออิ่ม ดังนั้นหลวงปู่แขกจึงป็นอาจารย์องค์แรกของท่านจวบจนปี พ.ศ.๒๔๙๗

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00065_2.jpg
      00065_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.7 KB
      เปิดดู:
      7,422
  4. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    หลวงปู่ตี๋ กับ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่


    หลังจากเรียนวิชาอาคมจากหลวงปู่แขกแล้วนั้น ในปี พ.ศ.๒๔๙๗ หลวงปู่ตี๋ได้กราบลาหลวงปู่แขก เพื่อมาศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ผู้เป็นศิษย์เอกหลวงพ่ออิ่ม การมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อมุ่ยของหลวงปู่ตี๋นั้นก็เพื่อจะเป็นการรวบรวมตำราของหลวงพ่ออิ่มที่หลวงพ่อมุ่ยมีอยู่เอาไว้ ดังนั้นหลวงปู่ตี๋จึงมาฝากตัวกับหลวงพ่อมุ่ย ซึ่งก็ดูเหมือนหลวงพ่อมุ่ยจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าหลวงปู่ตี๋จะต้องมาฝากตัวกับท่านเป็นแน่แท้ เพราะว่าหลวงพ่อมุ่ยท่านพรึมพรำออกมาตอนพบหลวงปู่ตี๋ว่า “อ้อ ท่านตี๋นี้เอง เห็นพ่อครูเคยบอกฝากฝังเอาไว้” ซึ่งก็แสดงว่าหลวงพ่ออิ่มท่านได้เคยฝากฝังหลวงปู่ตี๋เอาไว้กับหลวงพ่อมุ่ยในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
    เมื่อหลวงปู่ตี๋มาพบหลวงพ่อมุ่ย ก็ได้บอกจุดประสงค์ต่อหลวงพ่อมุ่ยว่าจะมาขอเรียนด้วย และบอกว่าวันพรุ่งนี้จะนำดอกไม้ธูปเทียนเข้ามาหาใหม่ เพื่อเป็นพิธีไหว้ครู ฝากฝังตัวไว้เป็นศิษย์ แต่หลวงพ่อมุ่ยกลับบอกว่า “ไม่ต้องพรุ่งนี้หรอก วันนี้แหละ เดี๋ยวไปเอาดอกไม้ที่พระพุทธรูปโน้นมาเรียนเสียวันนี้เลย” พร้อมกับจูงมือหลวงปู่ตี๋เข้ากุฏิเริ่มเรียนวิชากันเดี๋ยวนั้นเลย
    หลวงปู่ตี๋เล่าเรียนวิชาต่างๆจากหลวงพ่อมุ่ยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยเดินทางไปๆมาๆอยู่หลายปี จวบจนจบในปี พ.ศ.๒๕๐๕จึงเรียนจบ พร้อมกับได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดกระเสียว ต.กระเสียว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    หลวงปู่ตี๋ กับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่


    หลวงปู่ตี๋ท่านมีลักษณะนิสัยชอบธุดงค์เป็นประจำ ช่วงชีวิตของท่านถือธุดงค์มาเกือบ ๔๐ ปี ในระหว่างที่อยู่วัดกระเสียวท่านก็ได้ออกธุดงค์เสมอๆโดยฝากวัดไว้กับรองเจ้าอาวาสวัดกระเสียว คือ พระครูวิเชียร
    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ตี๋ท่านออกธุดงค์ไปทางภาคตะวันออก และได้พบกับหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ จ.ระยอง แรกพบท่านทั้งคู่นั้นได้เกิดการลองวิชากันพอสมควร สุดท้ายหลวงปู่ตี๋จึงบอกกับหลวงปู่ทิมว่า “ในช่วง๗วันที่อยู่ที่นี่ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านด้วยได้ไหม” หลวงปู่ทิมท่านก็ตอบว่า “แค่ ๗ วันจะไปเรียนอะไรได้ นี่เห็นว่าเป็นคนสุพรรณ ร่ำลือกันนักกันหนาว่าคนสุพรรณแน่จริงอยู่ หากเป็นจริงดังคำร่ำลือนั่นแล้ว ต้องมาเรียนด้วยกัน ๑ พรรษา จึงจะสอนให้” หลวงปู่ตี๋ได้ยินทำท้าทายจากหลวงปู่ทิมดังนั้นจึงธุดงค์กลับมาวัดกระเสียว และฝากวัดไว้กับรองเจ้าอาวาสอีก เพื่อจะกลับไปร่ำเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ เป็นเวลา ๑ พรรษา เรียนกับหลวงปู่ทิมได้วิชาทำผงพรายกุมาร การเสกผง และวิธีการปลุกเสกพระเครื่อง


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    หลวงปู่ตี๋ กับ หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม (วัดบ้านแค)


    หลวงปู่ตี๋ท่านมาเรียนกับหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม จ.ชัยนาท หลายครั้ง และหลวงพ่อกวยมักจะจูงมือหลวงปู่ตี๋เข้าไปเรียนในกุฏิแบบตัวต่อตัวตลอดครับ วิชาที่ท่านเรียนจากหลวงพ่อกวยนั้น คือ เรียนวิชาทำปลัดขิก ตะกรุด หนุมาน และวิชาอื่นๆอีกมากมาย
    และวิชาหนึ่งที่หลวงปู่ตี๋ท่านสำเร็จเป็นเลิศและศิษย์หลวงพ่อกวยทุกท่านต่างทราบดีและยกย่องท่านนั้นก็คือ วิชาตัวเบา สามารถนั่ง สามารถเดินบนผิวน้ำได้ และอีกวิชาหนึ่งที่ท่านสำเร็จและขึ้นชื่อคือ วิชามือยาวรอดรูดาน สามารถหยิบสิ่งของไกลๆ และมีช่องเล็กๆได้ครับ



    หลวงปู่ตี๋ กับหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ และหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญ



    หลวงปู่ตี๋ท่านมีความสนใจในวิชาอาคมและวิชาต่างๆมาก ซึ่งคนโบราณเรียกว่า “คงแก่เรียน” จึงได้พยายามเสาะแสวงหาพระอาจารย์เก่งๆและเข้าไปฝากตัวเป็นศิษย์เพิ่มเติมอยู่เสมอๆอีกดังนี้ กับหลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ จ.ชัยนาท ท่านได้วิชาย่นระยะทาง และกำบัง ส่วนหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญ จ.สิงห์บุรี นั้นท่านได้วิชาแป้งเสกครับ
     
  7. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    ออกจากวัดกระเสียว มาอยู่วัดเขาเขียว


    ท่านออกจากวัดกระเสียวขณะที่เป็นเจ้าอาวาสและธุดงค์เรื่อยๆ เพื่อจะไปเรียนวิชาต่อกับหลวงพ่อกวย จนมาเจอวัดเขาเขียวพนาราม อ.เดิมบางนางบวช ในปี พ.ศ.๒๕๑๓ ซึ่งเดิมเป็นวัดร้าง และมีโรงเรียนร้าง ท่านจึงตัดสินใจที่อยู่ที่นั่น แต่ท่านต้องสู้กับเจ้าพ่อเขาเขียว (เจ้าที่) ที่ไม่ยอมให้ท่านสร้างวัดที่นั่น ตอนนั้นเวลานอนท่านยังนอนในกลดเช่นเดียวกับลูกศิษย์ท่าน คืนที่โดนเจ้าที่ลองก็คือ มีฝูงวัวควายวิ่งกันฝุ่นตลบนอกกลดจะเข้ามาทำร้ายท่านกับลูกศิษย์ แต่ท่านรู้ท่านสั่งลูกศิษย์ท่านว่าตอนกลวงคืนไม่ว่ามีอะไรห้ามออกจากกลดเด็ดขาด ถ้าจะตายก็ให้ตายด้วยกัน คืนนั้นลูกศิษย์ท่านกลัวมากและคิดว่าท่านหลับแล้วจะวิ่งออกนอกกลด แต่ท่านกระแอม ลูกศิษย์ท่านจึงมีสติและนึกถึงคำสั่งของท่านได้ เช้าวันรุ่งขึ้นมีชาวบ้านมานิมนต์ให้ท่านอยู่ที่นี่ และทำพิธีแบ่งเขตกันระหว่างวัดกับเจ้าพ่อเขาเขียว

    ระหว่างที่ท่านอยู่เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาเขียวนั้น ท่านถูกทำร้ายอยู่หลายๆครั้ง ทำให้ลูกศิษย์ถามท่านว่า “ทำไมหลวงพ่อไม่ย้ายวัด เพราะมีหลายวัดที่อยากได้หลวงพ่อไปจำพรรษาอยู่” แต่ท่านกลับบอกว่า “ต้องการใช้กรรมให้หมดในชาตินี้ ไม่ต้องการใช้กรรมนี้ในชาติต่อไป”

    ตอนที่ท่านโดนทำร้ายบางคนใช้มีดฟันศรีษะท่านเลย ลูกศิษย์เคยถามท่านว่า “หลวงพ่อไม่กลัวหรือ?” แต่ท่านกลับพูดติดตลกว่า “กลัวมีดของมันจะบิ่นมากกว่า”
    หลวงปู่ตี๋ท่านจำพรรษาอยู่วัดเขาเขียวได้พัฒนาวัดเขาเขียวพอสมควรจากสำนักสงฆ์จวบจนเป็นรูปเป็นร่างและกลายเป็นวัดขึ้นมา




    ย้ายมาจำพรรษาอยู่วัดท่ามะกรูด


    ต่อมาหลวงปู่ตี๋ท่านได้ชราภาพมาก และเจ็บป่วยบ่อยครั้ง ลูกศิษย์จึงนิมนต์ท่านให้มาจำพรรษาอยู่วัดท่ามะกรูด อ.สามชุก ซึ่งอยู่ใกล้โรงพยาบาลมากกว่าวัดเขาเขียว และถนนหนทางก็สะดวกมากกว่าวัดเขาเขียว ท่านจึงจำพรรษาอยู่วัดท่ามะกรูดเมื่อไม่กี่ปีนี้เป็นต้นมา
     
  8. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    การสร้างวัตถุมงคล


    หลวงปู่ตี๋ท่านมักปลุกเสกวัตถุมงคลในบาตรพระ และวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกนั้นมักจะวิ่งส่งเสียงดังเสมอ

    ท่านเริ่มสร้างวัตถุมงคลครั้งแรกสมัยที่เป็นเจ้าอาวาสวัดกระเสียว วัตถุมงคลที่ท่านสร้างครั้งแรกคือ เหรียญรุ่นแรก ซึ่งออกที่วัดกระเสียวนี้ จำนวน๑๐, ๐๐๐ เหรียญ โดยแรกเริ่มท่านตั้งใจจะสร้างปี พ.ศ. ๒๕๑๒ แต่ไปปรึกษาหลวงพ่อมุ่ย และหลวงพ่อมุ่ยท้วงว่าให้สร้างปี ๒๕๑๓ จะดีกว่า ท่านจึงสร้างเหรียญรุ่นแรกในปีพ.ศ.๒๕๑๓ ตามคำแนะนำของหลวงพ่อมุ่ย พอโรงงานปั๊มเหรียญทำเหรียญอกมาเสร็จ ท่านก็นำไปให้หลวงพ่อมุ่ยผู้เป็นอาจารย์เสกเป็นรูปแรก หลวงพ่อมุ่ยเสกให้ท่านอย่างเต็มที่เลยทีเดียว และต่อมาหลวงปู่ตี๋ท่านจึงนำมาให้หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตารามเสกอีกเป็นรูปที่สอง ซึ่งหลวงพ่อกวยท่านก็เสกให้อย่างเต็มที่เหมือนกัน และเป็นเวลานานเลยทีเดียว หลังจากนั้นหลวงปู่ตี๋จึงนำกลับมาที่วัด และเสกเองที่วัดอีกเรื่อยๆมาเป็นเวลาหลายไตรมาส

    เหรียญรุ่นแรกของท่านนี้ ลูกศิษย์นิยมเรียกกันว่า “เหรียญหนีลูกปืน” คือมีที่มาของชื่ออยู่ว่า หลังจากหลวงพ่อมุ่ยและหลวงพ่อกวยและหลวงปู่ตี๋ท่านเสกเรียบร้อยแล้ว มีลูกศิษย์ได้รับแจกเหรียญนี้ไป ได้นำเหรียญนี้ไปลองยิงกันที่หลังวัด ปรากฏว่า นัดแรกยิงไม่ออก นัดที่สองออก แต่ไม่ถูก เพราะขณะประทับปืนจะยิงเหรียญอยู่ๆนั้น เหรียญดังกล่าวก็หายไปทันตา คนยิงจึงมองไม่เห็นเหรียญ จึงยิงไม่ถูก สุดท้ายก็เลยต้องไปกราบขอขมาหลวงปู่ตี๋ท่าน
    ที่วัดกระเสียว นอกจากเหรียญรุ่นแรกของท่านแล้ว ท่านยังสร้างวัตถุมงคลอื่นขึ้นมาอีกด้วย คือ ภาพถ่ายขนาด๕นิ้ว และ ล็อกเก็ตห่มคลุม

    ต่อมาเมื่อท่านจำพรรษาและมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดเขาเขียว อ.เดิมบางนางบวชท่านก็ได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาอีกเป็นจำนวนหลายรุ่น หลายชนิด คือ ภาพถ่ายขนาดบูชารุ่นแรก , ภาพถ่ายขนาดคล้องคอรุ่นแรก , รูปหล่อรุ่นแรก , พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก, ตะกรุด , มีดหมอ , ปลัดขริก , ผ้ายันต์ , ภาพถ่ายต่างๆ, เหรียญต่างๆ, พระบูชา , พระพิมพ์ต่างๆ , ฯลฯ

    ต่อมาหลวงปู่ตี๋ท่านชรามากนัก ลูกศิษย์จึงนิมนต์ท่านมาจำรรษาอยู่วัดท่ามะกรูด ซึ่งใกล้หมอมากกว่า ท่านจึงจำพรรษาอยู่วัดนี้จวบจนปัจจุบัน และที่วัดนี้ท่านก็สร้างวัตถุมงคลต่างๆขึ้นมาอีกมากมาย คือ ภาพถ่าย , ตะกรุด , ปลัดขริก , ผ้ายันต์ , กระดาษยันต์ , พระพิมพ์ต่างๆ , ฯลฯ

    ซึ่งวัตถุมงคลทุกชนิดขงหลวงปู่ตี๋นั้นล้วนแต่มีประสบการณ์อภินิหาริย์ต่างๆมากมายเป็นที่นิยมเสาะหานำมาบูชาครอบครองกันทั้งสิ้น

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    หลวงปู่เป็นโรคหอบครับ ต้องใช้ปัจจัยในการรักษาตัวครับ ใครสนใจทำบุญไป ทำบุญได้ที่วัดครับ เดี๋ยวพี่มีข้อมูล จะเอามาบอกกันครับ


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • พเอ.jpg
      พเอ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.2 KB
      เปิดดู:
      5,451
  10. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    <TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=0 cellPadding=0 width=800 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD> <TR align=middle><TD>[​IMG]</TD></TR></TD></TR><TR align=middle><TD>
    ข้อมูลการจัดสร้างเหรียญรุ่น 3 หลวงปู่ตี๋วัดท่ามะกรูด จ.สุพรรณบุรี

    </TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD><TABLE width=700 align=center><TBODY><TR><TD> จัดสร้างขึ้นโดยศิษยานุศิษย์ ในวาระที่หลวงปู่ตี๋มีอายุครบ 7 รอบ (84ปี) ในปีพศ. 2551 เพื่อเป็นที่ระลึก และออกให้ทำบุญในงานทอดกฐินของวัดท่ามะกรูด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551 จัดสร้างโดยกรรมวิธีแบบโบราณ คือปั้มกระบอกบังคับโดยไม่มีการตัดขอบเหรียญ เมื่อเสร็จจึงมีการเชื่อมหูเหรียญในภายหลัง ขนาดเหรียญกว้าง 3 ซม. สูงไม่รวมหูเหรียญ 3.5 ซม.
    เหรียญรุ่นนี้เริ่มวาระปลุกเสกครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ในงานไหว้ครูบูรพาจารย์ของหลวงปู่ และเข้าปลุกเสกอธิษฐานจิตจนครบไตรมาสตลอดกาลพรรษา
    </TD></TR><TR align=middle><TD>โดยมีการจัดสร้างคือ
    </TD></TR><TR><TD><TABLE borderColor=#303030 cellSpacing=-3 cellPadding=-3 width=700 border=1><TBODY><TR bgColor=#180101><TD align=middle width=50>ลำดับ</TD><TD align=middle width=200>รายการ</TD><TD align=middle width=100>จำนวนสร้าง</TD><TD align=middle width=230>โค๊ต</TD></TR><TR><TD align=middle width=50>1</TD><TD align=middle width=200>เหรียญทองคำ</TD><TD align=middle width=100>11 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต นะ +หมายเลขไทย)</TD></TR><TR><TD align=middle width=50>2</TD><TD align=middle width=200>เหรียญเงิน</TD><TD align=middle width=100>99 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต นะ +หมายเลขไทย)</TD></TR><TR><TD align=middle width=50>3</TD><TD align=middle width=200>[COLOR=#fffcc]เหรียญสัมฤทธิ์แก่เงิน(นวะ)[/COLOR]</TD><TD align=middle width=100>320 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต นะ +หมายเลขไทย)</TD></TR><TR><TD align=middle width=50>4</TD><TD align=middle width=200>เหรียญทองแดงกะไหล่ทอง </TD><TD align=middle width=100>550 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต นะ +หมายเลขไทย)</TD></TR><TR><TD align=middle width=50>5</TD><TD align=middle width=200>เหรียญทองแดง </TD><TD align=middle width=100>3,100 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต ตี๋) </TD></TR><TR><TD align=middle width=50>6</TD><TD align=middle width=200>เหรียญชนวนพิเศษ</TD><TD align=middle width=100>46 เหรียญ</TD><TD align=middle width=230>(โค๊ต นะ) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>
    </TD></TR><TR align=middle><TD>รายละเอียดปลีกย่อย
    </TD></TR><TR><TD>1.1
    โค๊ต โค๊ตที่ใช้ในการตอกมีจำนวนทั้งสิ้นคือ
    โค๊ต "นะ" เป็นโค๊ตหลักใช้ในการตอกทุกเนื้อ ยกเว้นเนื้อทองแดง
    โค๊ต "ตี๋" เป็นโค๊ตที่ใช้ตอก เฉพาะเนื้อทองแดง
    โค๊ต ๑ - ๙(เลขไทย) ใช้ตอกเพื่อบอกหมายเลขของเหรียญ
    โค๊ตเลข 1 (อารบิค) ใชัตอกด้านหน้าของเหรียญทองแดงเพิ่มเติมจากโค๊ต ตี๋ (เป็นชุดที่ถวายหลวงปู่เพื่อแจก, ที่ตอกโค๊ต นะเพิ่มด้วยอีกตัวก็มีแต่เป็นส่วนน้อย แต่รวมแล้วประมาณ 300 เหรียญ )
    </TD></TR><TR><TD>
    2.1 ตำแหน่งในการตอก
    2.1 เนื้อทองคำ ตอกโค๊ต "นะ" 2 ตำแหน่ง ที่ปลายยันต์เทาะว์ทั้งสองด้าน และตอกหมายเลขใต้ยันต์เทาะว์
    ฝั่งขวาของเหรียญ

    2.2 เนื้อเงิน ตอกโค๊ต "นะ" 2 ตำแหน่ง คือข้างไหล่ของหลวงปู่ทั้ง 2 ด้าน และตอกหมายเลขด้านหลัง
    ของเหรียญ

    2.3 เนื้อสัมฤทธิ์แก่เงิน(นวะ) ตอกโค๊ต "นะ" 1 ตำแหน่งคือใต้ยันต์เทาะว์ฝั่งขวาของเหรียญ
    และตอกหมายเลข

    ด้านหลังของเหรียญ
    2.4 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ต "นะ" 1 ตำแหน่ง คือ ใต้ยันต์เทาะว์ฝั่งซ้ายของเหรียญและตอกหมาย
    เลขด้านหลังของเหรียญ

    2.5 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต "ตี๋" ข้างแขนขวาของหลวงปู่ (ฝั่งซ้ายของเหรียญ)
    2.6 เนื้อชนวนพิเศษ ตอกโค๊ต "นะ" 2 ตำแหน่ง คือข้างหัวเข่าทั้งสองข้างของหลวงปู่ </TD></TR><TR><TD>
    หมายเหตุ
    ****เนื้อทองคำหมายเลข๕ แต่เพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ที่ไม่ได้ใช้โค๊ตเลข๕ที่ใช้ตอกในเหรียญเนื้ออื่น เหตุเพราะว่าโค๊ตเลข ๕ ที่ใช้ชำรุดไม่มีความคมชัด เพื่อความสวยงามจึงไปขอยืมโค๊ตเลข ๕ ของโรงงานตอกแต่เพียงเหรียญเดียว (ซึ่งเลขจะใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย) แล้วได้เอาโค๊ตเลข ๑ ที่ใช้ตอกในเหรียญอื่นๆ ตอกกำกับอีกตัวที่ด้านหลัง เพื่อยืนยันว่าเป็นพระชุดเดียวกัน (สรุป เนื้อทองคำหมายเลข ๕ - ตอก ๕ ด้านหน้า ตอก ๑ ด้านหลัง - ตอนนี้นี้ยังไม่สามารถตามมาถ่ายรูปได้) </TD></TR><TR><TD>
    ****เหรียญชนวนพิเศษ เดิมทีตั้งใจจะตอกหมายเลขด้วย แต่เนื่องด้วยเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผสมเนื้อชนวนเป็นส่วนใหญ่ ที่เป็นโลหะเก่าที่ไม่มียางจึงเป็นเหตุให้เนื้อเหรียญกรอบ เมื่อตอกโค๊ต นะ ในขั้นตอนแรก เหรียญได้รับแรงกระแทก จึงเกิดรอยร้าวลั่นเป็นแนว บางเหรียญเกือบผ่าเป็นสองซีก ที่เหลือจึงไม่สามารถตอกหมายเลขได้ ทำให้เหลือเหรียญที่ตอกโค๊ต นะ แล้วในสภาพดีเพียง 46 เหรียญ (ส่วนที่ชำรุด8-9เหรียญนั้นให้มหาปฐวีไว้ทั้งหมด)

    ****เหรียญเนื้อทองแดง เเป็นเนื้อที่ออกให้ทำบุญแต่เพียงเนื้อเดียว (เนื้ออื่นๆจะอยู่ในชุดกรรมการร่วมสร้าง) แรกเริ่มตั้งใจที่จะตอกหมายเลขด้วย แต่ด้วยเหตุที่ติดขัดสองประการคือ หนึ่ง วันที่ไปรับพระจากหลวงปู่เพื่อตอกโค๊ตที่สุพรรณบุรีนั้น เหลือเวลาอีกสองวันที่จะถึงงานกฐินที่วัดท่ามะกรูด ซึ่งเป็นกำหนดที่จะเอาเหรียญทองแดงออกทำบุญ สอง ที่สำคัญกว่าก็คือโค๊ตหมายเลขที่มหาปฐวีเตรียมไปนั้น เป็นโค๊ตอารบิคซึ่งเป็นตัวใหญ่ทำให้ ไม่สามารถที่จะหาเนื้อที่ตอกรันหมายเลขที่หลังเหรียญได้ ครั้นจะเอากลับมาตอกที่กรุงเทพก็จะไม่ทันงานทอดกฐิน เมื่อพุดคุยหารือกันในกลุ่มลูกศิษย์มีความเห็นว่าการจัดสร้าง และแจกจ่ายส่วนใหญ่ก็เป็นไปในกลุ่มลูกศิษย์ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันมีอยู่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการทำของเก๊ของเสริมมิได้มีอยู่ในหัวสมอง จึงตัดสินใจระงับการตอกหมายเลขในเนื้อทองแดง แล้วใช้โค๊ตเลข 1 อารบิคที่เตรียมไป ตอกที่ใต้ยันต์เทาะว์ประมาณ 300 เหรียญ เพื่อให้หลวงปู่ไว้แจกโดยเฉพาะ

    **** เหรียญที่ตอกโค๊ต นะ ในเนี้ออื่นทุกเนื้อ และตอกโค๊ต ตี๋ ในเนื้อทองแดง ตอกกันที่ จ.สุพรรณบุรี
    ****ส่วนเหรียญที่ต้องกำกับหมายเลข เอากลับมาตอกหมายเลขเพิ่มเติมที่กรุงเทพฯ(ส่วนใหญ่อยู่ในชุด กรรมการร่วมสร้างไม่ได้ให้ออกทำบุญ)
    ****มีเหรียญสัมฤทธิ์แก่เงิน 1 เหรียญ ที่ตอกหมายเลขครบทั้ง 10 ตัว (ตอกเพื่อทดสอบโค๊ต)
    </TD></TR><TR><TD>
    เหรียญพิเศษขณะดำเนินการจัดสร้าง

    1.เหรียญทองแดงตัวอย่าง มีจำนวน 2 เหรียญ เป็นเหรียญที่ปั๊มเป็นตัวอย่างด้วยโลหะจริงหลังจากชุบแข็งบล๊อคแม่พิมพ์แล้ว เหรียญนี้ปั๊มโดยใช้ทองแดงล้วน ซึ่งยังไม่ได้ผสมชนวนลงไป จะมีความหนากว่าเหรียญทั่วไป (ตอกโค๊ต นะ ไว้ 4 ตำแหน่งด้านหน้า ด้านหลังตอกโค๊ต ''ตี๋")

    2.เหรียญโกลน หรือเหรียญปั๊มเพื่อขึ้นรูปในขั้นตอนที่ 1 ของการปั๊ม เป็นเหรียญทองแดงที่มีชานของเหรียญหรือว่าปีกของเหรียญ มี 20 เหรียญ หลวงปู่จารให้ทุกเหรียญในวันไหว้ครูในวาระปสุกเสกครั้งแรก แจกจ่ายให้กับให้กับผู้ช่วยจองชุดกรรมการร่วมสร้างชุดใหญ่บางท่าน

    3.เหรียญตะกั่วลองพิมพ์ เป็นเหรียญเนื้อตะกั่วที่ปั๊มขึ้นรูป เพื่อตรวจสอบดูในการแกะแม่พิมพ์และตกแต่งพิมพ์ในแต่ละขั้นตอน ก่อนที่จะชุบแข็งบล๊อคแม่พิมพ์ รวมแล้วมีด้านหน้า 8 ชิ้น ด้านหลัง 8 ชิ้น

    4.เหรียญทองแดงกะไหล่ทอง เป็นเหรียญที่เหลือจากการตอกหมายเลขครบแล้ว (คือ550 เหรียญ) ได้ตอกโค๊ตเลข ๙ ซ้ำๆหลายตัว(8-9ตัว) ส่วนด้านหลังไม่มีหมายเลข ได้แจกจ่ายกันในกรรมการกลุ่มลูกศิษย์ รวมทั้งหมด 12 เหรียญ
    *** ที่กล่าวไปข้างบนได้เข้าพิธีเหมือนเหรียญอื่นๆทุกประการ
    </TD></TR><TR><TD>
    กับคำถาม?
    <TR><TD>
    1. บล๊อคแม่พิมพ์
    ด้วยเหตุว่าเหรียญรุ่นนี้คณะศิษย์ได้จัดสร้างเพื่อฉลองอายุหลวงปู่และจิตที่ร่วมอนุโมทนาบุญร่วมกับหลวงปู่ให้ออกทำบุญในงานทอดกฐิน จำนวนที่จัดสร้างเอาแค่เพียงพอตามจำนวนที่แจ้งไว้ข้างต้นจึงทำให้รุ่นนี้ใช่แค่แม่พิมพ์เดียวในการปั๊ม และได้ทำลายแม่พิมพ์ไปต่อหน้าหลวงปู่แล้วตั้งแต่ปั๊มเหรียญเสร็จ </TD></TR><TR><TD>
    2. เนื้อ
    ทำไมเนื้อทองแดงจึงดูแล้วไม่เหมือนกับเหรียญทั่วไป คือทำไมบางเหรียญดูใสๆหรือบางเหรียญดูเข้มข้นยังกับนวะ สาเหตุที่เกิดเนื่องจากเหรียญรุ่นนี้ไม่ได้ใช้ทองแดงล้วนๆ เพียงแต่ผสมชนวนลงไปด้วยจำนวนที่มากพอสมควร ทำให้เหรียญที่ออกมาดำๆด่างๆ จึงเสนอให้ทางโรงงานล้างผิวให้ เมื่อผ่านกรรมวิธีของโรงงานจึงเป็นอย่างที่เห็น บางเหรียญมีรูพรุนเป็นตามด รอยแปรงก็มีให้เห็นในบางเหรียญ ซึ่งทำให้เหรียญรุ่นนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้ยากแก่การปลอมแปลงโดยเฉพาะเหรียญที่เป็นตามด ซึ่งเหมือนเหรียญเก่าอย่างเหรียญรุ่นแรกของลพ.ดิ่งวัดบางวัวเป็นต้น </TD></TR><TR><TD>
    3. เหรียญเก๊, เหรียญเสริม, เหรียญที่ไม่ผ่านการปลุกเสก
    ข้อนี้ทางคณะศิษย์ได้ปริวิตกเหมือนกันว่า หากต่อไปเหรียญหลวงปู่ได้รับความนิยมมากขึ้น อาจจะมีเหรียญเก๊ออกมา แต่ด้วยเส้นสายที่คมชัด และกรรมวิธีการผลิต เข้าใจว่าคงจะเก๊ยากพอดูส่วนเหรียญเสริมอันนี้ขอยันยันว่าไม่มีแน่นอน เพราะได้ทำลายบล๊อคไปแล้ว จะปั๊มใหม่ก็ไม่เหมือนเดิม ส่วนเหรียญที่เหลือตกค้างหรือหลุดลอดจากโรงงานทางคณะศิษย์ไม่สามารถควบคุมได้ 100 % (เพราะอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของโรงงานซึ่งหวังว่าคงไม่มี) แต่อันนี้สามารรถระแวดระวังได้คือ ถ้าโค๊ตที่ตอกไม่เหมือนที่กล่าวไปเพื่อความปลอดภัยก็ไม่ควรเล่นหา เพราะเชื่อว่าไม่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่แน่นอน. </TD></TR><TR><TD>
    **** ในการจัดสร้างในครั้งนั้นได้ระดมทุนโดยการออกเป็นชุดกรรมการร่วมสร้างคือ
    กรรมการร่วมสร้างชุดใหญ่ ราคา 2,999 บาท และกรรมการร่วมสร้างชุดเล็ก ราคา 1,499 บาท </TD></TR><TR align=middle><TD>
    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ปฐวี น้ำแก้ว และคณะศิษยานุศิษย์
    </TD></TR><TR><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>เหรียญหลวงปู่ตี๋ ฉนฺทธมฺโม <TR><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อทอง--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.1 เนื้อทองคำ ตอกโค๊ต "นะ"[SIZE=+0] 2 ตำแหน่ง ที่ปลายยันต์เทาะว์ทั้งสองด้าน และตอกหมายเลขใต้ยันต์เทาะว์ฝั่งขวาของเหรียญ [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อเงิน--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.2 เนื้อเงิน ตอกโค๊ต "นะ"[SIZE=+0] 2 ตำแหน่ง คือข้างไหล่ของหลวงปู่ทั้ง2 ด้าน และตอกหมายเลขด้านหลังของเหรียญ [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อนวะ--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.3 เนื้อสัมฤทธิ์แก่เงิน(นวะ) ตอกโค๊ต "นะ"[SIZE=+0] 1 ตำแหน่งคือ ใต้ยันต์เทาะว์ฝั่งขวาของเหรียญ และตอกหมายเลขด้านหลังของเหรียญ [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.4 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ต "นะ"[SIZE=+0] 1 ตำแหน่ง คือ ใต้ยันต์เทาะว์ฝั่งซ้ายของเหรียญและตอกหมายเลขด้านหลังของเหรียญ [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อทองแดง--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.5 เนื้อทองแดง ตอกโค๊ต "ตี๋"[SIZE=+0] ข้างแขนขวาของหลวงปู่ (ฝั่งซ้ายของเหรียญ) [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อชนวนพิเศษ--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.6 เนื้อชนวนพิเศษ ตอกโค๊ต"นะ"[SIZE=+0] 2 ตำแหน่ง คือข้างหัวเข่าทั้งสองข้างของหลวงปู่ [/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    </TD></TR><TR align=middle bgColor=#180101><TD>เหรียญพิเศษขณะดำเนินการจัดสร้าง </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญทองแดงตัวอย่าง--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>1. เหรียญทองแดงตัวอย่าง มีจำนวน 2 เหรียญเป็นเหรียญที่ปั๊มเป็นตัวอย่างด้วยโลหะจริงหลังจากชุบแข็งบล๊อคแม่พิมพ์แล้วเหรียญนี้ปั๊มโดยใช้ทองแดงล้วน ซึ่งยังไม่ได้ผสมชนวนลงไป จะมีความหนากว่าเหรียญทั่วไป (ตอกโค๊ต นะ ไว้ 4 ตำแหน่งด้านหน้า ด้านหลังตอกโค๊ต "ตี๋")</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญโกลน--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>2.เหรียญโกลน หรือเหรียญปั๊มเพื่อขึ้นรูปในขั้นตอนที่ 1ของการปั๊ม เป็นเหรียญทองแดงที่มีชานของเหรียญหรือว่าปีกของเหรียญ มี 20 เหรียญหลวงปู่จารให้ทุกเหรียญในวันไหว้ครูในวาระปสุกเสกครั้งแรกแจกจ่ายให้กับให้กับผู้ช่วยจองชุดกรรมการร่วมสร้างชุดใหญ่บางท่าน </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญตะกั่วลองพิมพ์--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>3.เหรียญตะกั่วลองพิมพ์ เป็นเหรียญเนื้อตะกั่วที่ปั๊มขึ้นรูป เพื่อตรวจสอบดูในการแกะแม่พิมพ์และตกแต่งพิมพ์ในแต่ละขั้นตอน ก่อนที่จะชุบแข็งบล๊อคแม่พิมพ์ รวมแล้วมีด้านหน้า 8 ชิ้น ด้านหลัง 8 ชิ้น </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญทองแดงกะไหล่ทองที่ตอกโค๊ตเลขไทย--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>4.เหรียญทองแดงกะไหล่ทอง ที่ตอกโค๊ตเลขไทยด้านหน้าหลายตัว เป็นเหรียญที่เหลือจากการตอกหมายเลขครบแล้ว(คือ550 เหรียญ) ได้ตอกโค๊ตเลข ๙ ซ้ำหลายๆตัว(8-9ตัว) ส่วนด้านหลังไม่มีหมายเลข และแจกจ่ายกันในกรรมการกลุ่มลูกศิษย์ รวมทั้งหมด 12 เหรียญ </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญชนวนตอกโค๊ดครบ 10 ตัว--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>มีเหรียญสัมฤทธิ์แก่เงิน 1 เหรียญ ที่ตอกหมายเลขครบทั้ง 10 ตัว (ตอกเพื่อทดสอบโค๊ต)</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญชนวนพิเศษ--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>หมายเหตุ****เหรียญชนวนพิเศษ เดิมทีตั้งใจจะตอกหมายเลขด้วย แต่เนื่องด้วยเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผสมเนื้อชนวนเป็นส่วนใหญ่ ที่เป็นโลหะเก่าที่ไม่มียางจึงเป็นเหตุให้เนื้อเหรียญกรอบ เมื่อตอกโค๊ต นะ ในขั้นตอนแรกเหรียญได้รับแรงกระแทก จึงเกิดรอยร้าวลั่นเป็นแนว บางเหรียญเกือบผ่าเป็นสองซีก ที่เหลือจึงไม่สามารถตอกหมายเลขได้ ทำให้เหลือเหรียญที่ตอกโค๊ต นะ แล้วในสภาพดีเพียง 46 เหรียญ (ส่วนที่ชำรุด8-9เหรียญนั้นให้มหาปฐวีไว้ทั้งหมด) </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญชนวนพิเศษตอกโค๊ตแล้วแตก--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>***เหรียญชนวนพิเศษ เดิมทีตั้งใจจะตอกหมายเลขด้วย แต่เนื่องด้วยเหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผสมเนื้อชนวนเป็นส่วนใหญ่ ที่เป็นโลหะเก่าที่ไม่มียางจึงเป็นเหตุให้เนื้อเหรียญกรอบ เมื่อตอกโค๊ต นะ ในขั้นตอนแรกเหรียญได้รับแรงกระแทก จึงเกิดรอยร้าวลั่นเป็นแนว บางเหรียญเกือบผ่าเป็นสองซีก ที่เหลือจึงไม่สามารถตอกหมายเลขได้ ทำให้เหลือเหรียญที่ตอกโค๊ต นะ แล้วในสภาพดีเพียง 46 เหรียญ (ส่วนที่ชำรุด8-9เหรียญนั้นให้มหาปฐวีไว้ทั้งหมด) </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อทองแดงที่ให้สำหรับทำบุญ--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>****เหรียญเนื้อทองแดง เป็นเนื้อที่ออกให้ทำบุญแต่เพียงเนื้อเดียว(เนื้ออื่นๆจะอยู่ในชุดกรรมการร่วมสร้าง) แรกเริ่มตั้งใจที่จะตอกหมายเลขด้วยแต่ด้วยเหตุที่ติดขัดสองประการคือ หนึ่งวันที่ไปรับพระจากหลวงปู่เพื่อตอกโค๊ตที่สุพรรณบุรีนั้น เหลือเวลาอีกสองวันที่จะถึงงานกฐินที่วัดท่ามะกรูด ซึ่งเป็นกำหนดที่จะเอาเหรียญทองแดงออกทำบุญ สองที่สำคัญกว่าก็คือโค๊ตหมายเลขที่มหาปฐวีเตรียมไปนั้น เป็นโค๊ตอารบิคซึ่งเป็นตัวใหญ่ทำให้ไม่สามารถที่จะหาเนื้อที่ตอกรันหมายเลขที่หลังเหรียญได้ ครั้นจะเอากลับมาตอกที่กรุงเทพก็จะไม่ทันงานทอดกฐินเมื่อพุดคุยหารือกันในกลุ่มลูกศิษย์มีความเห็นว่าการจัดสร้าง และแจกจ่ายส่วนใหญ่ก็เป็นไปในกลุ่มลูกศิษย์ ความไว้เนื้อเชื่อใจกันมีอยู่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ในการทำของเก๊ของเสริมมิได้มีอยู่ในหัวสมอง จึงตัดสินใจระงับการตอกหมายเลขในเนื้อทองแดง แล้วใช้โค๊ตเลข 1 อารบิคที่เตรียมไป ตอกที่ใต้ยันต์เทาะว์ประมาณ300เหรียญเพื่อให้หลวงปู่ไว้แจกโดยเฉพาะ </TD></TR></TBODY></TABLE><!--เหรียญทองแดงเมื่อวางเปรียบเทียบกับเหรียญโกลน--><TABLE width=600 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    </TD></TR><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>รูปเหรียญทองแดงเมื่อวางเปรียบเทียบกับขนาดของเหรียญโกลน</TD></TR></TBODY></TABLE><!--เนื้อทองแดงที่ให้สำหรับทำบุญ--><TABLE width=600 align=center border=0>

    <TBODY><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD></TR><TR><TD>
    </TD><TR align=middle><TD>[​IMG] </TD></TR>

    </TABLE><TABLE cellSpacing=15 cellPadding=15 width=700 align=center border=0><TBODY><TR align=middle bgColor=#180101><TD>ใบอนุโมทนา
    กรรมการร่วมสร้างชุดใหญ่ ราคา 2,999 บาท และกรรมการร่วมสร้างชุดเล็ก ราคา 1,499 บาท </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    ว่างจะเอาของดีๆ ของท่านมาแจกลูกบ้านครับ
     
  12. bug_load

    bug_load เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    559
    ค่าพลัง:
    +4,382
    :cool:มารอพี่เดชว่างค่ะ
     
  13. lekgunner

    lekgunner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    777
    ค่าพลัง:
    +2,693
    ขอบคุณมากครับ ข้อมูลเยี่ยมเลย
    อยากไปกราบบ้างจัง
     
  14. คนบรรพต

    คนบรรพต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +4,456
    ผมได้ทราบว่าหลวงปู่ท่านมีอภิญญาวิเศษมาก ขณะที่ฝนตกท่านสูบบุหรี่โดยที่ตัวท่านไม่เปียกฝนและบุหรี่ก็ไม่เปียกฝน พ่นควันฉุย ชาวบ้านก็เห็นและทราบดี ครับผม

    มีโอกาสขอไปกราบนมัสการท่านบ้างครับผม


    ขอเชิญบูชาวัตถุมงคล หลวงปู่ครูบาตั๋น ปัญโญ พระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ ยุคปัจจุบัน
     
  15. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    ต้องขอเวลาสักพักครับ
     
  16. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173

    ขอเชิญทุกท่านไปกราบพระดีๆ ที่ทรงอภิญญากันเยอะๆครับ หลวงปู่จะได้มีปัจจัยไปรักษาโรคหอบด้วยครับ
     
  17. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    ขอบคุณครับ อยากเผยแพร่พระดีๆ อีกรูปที่ยังให้เราไปกราบได้สนิทใจครับ
     
  18. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    [​IMG]

    ยุคแรกครับ
     
  19. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    [​IMG]
    รายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับหลวงพ่อตี๋
    1. พระอุปปะชายะของท่านคือหลวงพ่อแขกวัดหัวเขาครับ (หลวงพ่อแขกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออิ่มรุ่นใกล้กับหลวงพ่อมุ่ย) และได้เรียนกับหลวงพ่อแขกองค์แรก และได้ตำราของหลวงพ่ออิ่มด้วยครับ
    2. พ่อท่านเป็นช่างไม้ครับ สร้างยอดมณฑปที่วัดหัวเขาสมัยปลายอายุหลวงพ่ออิ่ม แต่แม่ท่านเสียตั้งแต่ท่านยังเล็ก พ่อท่านจึงต้องนำท่านไปเลี้ยงที่วัดหัวเขาตอนสร้างมณฑป หลวงพ่ออิ่มจึงเมตตาเลี้ยงท่านตั้งแต่ท่านยังเล็ก และหลวงพ่ออิ่มทราบว่าอนาคตท่านต้องบวชไม่สึก จึงมอบตำราไว้ให้ท่านด้วย
    3. ท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ตั้งแต่ปี 2497 จบปี 2505
    4. เรียนกับหลวงปู่เย็นวิชาย่นระยะทาง กำบัง
    5. กับหลวงพ่อกวยเรียนวิชา ปลัดขิก ตะกรุด หนุมาน ท่านมาเรียนกับหลวงพ่อกวยหลายครั้ง และหลวงพ่อจะจูงมือหลวงพ่อตี๋เข้าไปเรียนในห้องตัวต่อตัวตลอด
    6. หลวงปู่บุดดาได้วิชาแป้งเสก
    7. เรียนกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง1พรรษาได้วิชาทำกุมารทอง เสกผง และวิธีปลุกเสกพระ
    8. ท่านออกจากวัดกระเสียวขณะที่เป็นเจ้าอาวาสและธุดงค์เรื่อยๆ เพื่อจะไปเรียนวิชากับหลวงพ่อกวย จนมาเจอวัดเขาเขียวในปี 2513 เดิมเป็นวัดร้าง และมีโรงเรียนร้าง จึงตัดสินใจที่อยู่ที่นั่นแต่ท่านต้องสู้กับเจ้าพ่อเขาเขียว (เจ้าที่) ที่ไม่ยอมให้ท่านสร้างวัดที่นั่น ตอนนั้นเวลานอนท่านยังนอนในกลดเช่นเดียวกับลูกศิษย์ท่าน คืนที่โดนเจ้าที่ลองก็คือ มีฝูงวัวควายวิ่งกันฝุ่นตลบนอกกลดจะเข้ามาทำร้ายท่านกับลูกศิษย์ แต่ท่านรู้ท่านสั่งลูกศิษย์ท่านว่าตอนกลวงคืนไม่ว่ามีอะไรห้ามออกจากกลดเด็ดขาด ถ้าจะตายก็ให้ตายด้วยกัน คืนนั้นลูกศิษย์ท่านกลัวมากและคิดว่าท่านหลับแล้วจะวิ่งออกนอกกลด แต่ท่านกระแอม ลูกศิษย์ท่านจึงมีสติและนึกถึงคำสั่งของท่านได้ เช้าวันรุ่งขึ้นมีชาวบ้านมานิมนต์ให้ท่านอยู่ที่นี่ และทำพิธีแบ่งเขตกันระหว่างวัดกับเจ้าพ่อเขาเขียว
    9. หลวงพ่อมักปลุกเสกวัตถุมงคลในบาตรพระ และวัตถุมงคลจะวิ่งส่งเสียงดังเสมอ
    10. เรื่องที่ท่านถูกทำร้ายที่วัดเขาเขียวหลายๆครั้ง ทำให้ลูกศิษย์ท่านถามว่าทำไมหลวงพ่อไม่ย้ายวัด เพราะมีหลายวัดที่อยากได้หลวงพ่อไปจำพรรษา หลวงพ่อบอกว่าท่านต้องการใช้กรรมให้หมดในชาตินี้ ไม่ต้องการใช้กรรมนี้ในชาติต่อไป ตอนที่โดนทำร้ายบางคนใช้มีดฟันศรีษะท่าน ลูกศิษย์ท่านถามว่าหลวงพ่อไม่กลัวหรือ หลวงพ่อท่านพูดติดตลกว่ากลัวมีดของมันจะบิ่นมากกว่า
    11. เหรียญรุ่นแรกออกที่วัดกระเสียว ท่านตั้งใจจะสร้างปี 2512 แต่หลวงพ่อมุ่ยท้วงว่าให้สร้างปี 2513 ดีกว่าเพราะเลขสวย หรือเป็นมงคลกว่า (ตรงนี้ไม่แน่ใจ) พอสร้างเสร็จก็นำไปให้หลวงพ่อมุ่ยเสกเป็นองค์แรก และหลวงพ่อกวยเป็นองค์ที่ 2 แล้วนำกลับมาเสกเองอีกหลายไตรมาส มีทั้งสิ้น 10,000 เหรียญ
    12. ปลัดขิกยุดแรกของท่านทำจากไม้ตาลปัดที่ท่านเหลาเองกับมือ
    13. ท่านสำเร็จวิชามือยาวรอดรูดาน หยิบสิ่งของไกลๆ และมีช่องเล็กๆได้ครับ
    14. ตระกรุดลูกปืนของท่านทำมาตั้งแต่ปี 2539 มีประสบการณ์มากมายครับ


    - ปลัดขิกหลวงพ่อตี๋ ขลังมากนะครับ โดนกันมาเยอะ
     
  20. pipat_san

    pipat_san เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    8,276
    ค่าพลัง:
    +37,173
    [​IMG]
    เหรียญรุ่นแรก ลพ.ตี๋ ( ลพ.มุ่ย เสก ) ( ลพ.กวย เสก ) และท่านก็เสกเองเรื่อยมา.
     

แชร์หน้านี้

Loading...