ทริปปราสาทดินถ้ำวัวแดง ชัยภูมิ 19-22กพ.2553

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 26 มกราคม 2010.

  1. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มา ต่อกันในส่วนของธรรมมะจากครูบาอาจารย์ทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึง งานเพื่อส่วนรวมที่ได้ติดต่อประสานงานในหลายส่วนหลายด้าน ในทริปนี้ครับ

    ดีใจที่หลายต่อหลายคน ได้สิ่งดีๆ เก็บเกี่ยวประสพการณ์ทางธรรม กันไปได้มากบ้าง ได้น้อยบ้าง ตามแต่กำลังใจของแต่ละท่าน การที่เราได้ดีกลับไปนั้น นับว่า คุ้มค่ากับการปฏิบัติธรรมในทริปนี้ ^^

    ขอเริ่มจากการที่เราได้ไปกราบหลวงปู่ลมัยนั้น ท่านเมตตาให้ธรรมมะพวกเราในหลายต่อประการ ซึ่ง บางข้อต้องสัมผัสด้วยใจ ด้วยจิต

    เริ่มแต่คืนก่อนออกเดินทาง ท่านเองเมตตามาสอนในสมาธิ ท่าเฉลยเรื่องปริศนาธรรม ที่ท่านเคยให้เอาไว้

    เรื่อง สามคน อยู่คนละบ้าน กินน้ำบ่อเดียว เดินไม่ทับรอยกัน

    ท่านเฉลยว่า การปฏิบัติธรรมนั้น แต่ละบุคคล ย่อม มีบุญ มีวาสนา มีบารมี มีของเก่า รวมไปถึงภพที่มาเกิดก่อนเป็นมนุษย์ แตกต่างกัน ดุจ บ้านที่มาแตกต่างกัน

    เดินไม่ซ้ำรอยกัน หมายถึง เส้นทางธรรม แนวทางการปฏิบัติ ของใครก็ของคนนั้น วิสัยสุขขะวิปัสสโก วิสัยอภิญญา วิสัยปฏิสัมภิทาญาณ ต่างกัน กรรมฐานก็ต่างกันตามจริต

    กินน้ำบ่อเดียวกัน คือ รสแห่งธรรม รสแห่งวิมุติ กลับมีรสเดียวกัน อารมณ์จิตเดียวกันประดุจน้ำในบ่อเดียวกันฉันนั้น


    --------------------------------------------------------

    ส่วนที่โพสต์เรื่องการวางกำลังใจก่อนไปกราบท่าน เรื่องหากท่านโผงผางมาให้ตั้งจิตอย่างไร เนื่องจาก มีคนมาใหม่หลายคนเกรงว่าจะไปปรามาสท่านจนเกิดโทษเข้า

    "ครูบาอาจารย์ท่าน จะท่านใดก็ตาม หากเราไปมองไปจับผิด ไปตัดสินท่านด้วยอคติ และอุปาทานของตน ไปเพ่งโทษท่าน โดยไม่ไปรับรู้ในคุณธรรมแห่งจิตของท่าน แทนที่จะได้ธรรมมะ ได้กุศล ได้ความก้าวหน้า ก็จะไปได้บาปแทน แม้ท่านจะมีเมตตาอภัยให้หมดทุกอย่างก็ตาม"

    พี่วิจิตร ท่านเป็นห่วงเนื่องจากช่วงที่หลวงปู่ท่านเปลี่ยนธาตุหนุ่มขึ้นนั้น ท่านจะโผงผาง หากวางจิตไม่เป็นสัมมาทิฐิจะโดนท่านดุเอาจนเข้าหน้าไม่ติดเอาได้

    จนตอนเช้านี้ พี่วิจิตรก็ยังได้โทรมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง ด้วยน้ำใจไมตรี ซึ่งเมื่อได้ทราบว่าหลวงปู่เมตตาหมู่คณะพวกเราท่านก็โล่งใจ สบายใจไปด้วย ต้องขอบคุณมากครับ


    คณะพวกเราได้ถวาย ไฟฉาย ซูม ซึ่งสามารถ ปรับหัวให้ดวงแสง ย่อเล็ก ขยายใหญ่ ให้วงแสงกว้างไปด้ พุ่งไกลได้ เพื่ออานิสงค์ แห่ง ทิพยจักษุญาณ อันสว่างชัดเจน กว้างและไกล บังคับให้ญาณทัศนะและอาโลกกสิณได้ดั่งใจปรารถนา

    ลูกแก้วเจียระไน ที่คุณเอ๋ สาวปีใหม่ร่วมทำบุญ เพื่ออานิสงค์แห่ง อิทธิวิธีในกสิณทั้งสิบกองอันรวมมาในลูกเดียวกองเดียว

    หมวกไหมพรม และเครื่องสังฆทานพร้อมบริวารอีกมาก

    ซึ่งได้ตั้งจิตอธิฐานให้ เกิดอานิสงค์นี้แด่ ทุกท่านผู้เป็นสัมมาทิฐิ ไม่ว่าท่านจะมาด้วยก็ดี หรือ มาด้วยอาทิสมานกายก็ดี ก็ขอพึงได้รับอานิสงค์เพื่อนำคุณธรรมวิเศษนี้ไปยังประโยชน์เพื่อส่วนรวมมีประเทศชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นที่สุด



    -------------------------------------------


    หลังจากที่ท่านเมตตาทดสอบจิตเราไปได้ว่าจิตเรานุ่มนวลอ่อนโยน หรือไม่ ท่านก็เมตตา อนุญาตให้พวกเรา หลายคน ที่ ทำ "ธาตุกายสิทธิ์ หรือ ปรอทสำเร็จ" ไปให้ท่านอธิฐานจิตให้

    ท่านเมตตาบอกว่า เป็นของเฉพาะตน ของใคร ของมัน ใช้เดินทางไป ก้าวเดียวเจ็ดโยชน์ เจ็ดจักรวาลได้

    จากนั้นท่านเมตตามอบลูกแก้วให้คนละ หนึ่งลูก รูปน้องหมู

    ตามด้วย ท่านเมตตา ชงน้ำชาให้พวกเราดื่มด้วยตัวท่านเอง เป็นเมตตาที่หลวงปู่มีให้เราอย่างที่สุด บางคนได้ดื่มบางคนไม่ได้ดื่ม เพราะหมดก่อน


    -----------------------------------------------------------

    ระหว่างที่ท่านเมตตาสนนทนากับพวกเรา ท่านก็เรียก น้องหมูมาด้วย ซึ่งท่านเน้นเรื่องให้ดูลาย(แทง)ที่ท้องหมูเป็นรูปภูเขา

    ซึ่งที่ท่านเมตตาสอนมาในสมาธิจิต ระหว่างไปกราบท่านนั้น ท่านบอกว่า คือเขาพนมฉัตร(ที่ที่พระอภิญญาท่านอยู่กัน)

    และอาการกิริยา ที่ท่านเมตตากับหมูแสดงให้ดูนั้น ท่านกล่าวว่า ที่ชงน้ำชาให้เรา อย่างไร ท่านก็ให้หมูท่านกินแบบนั้น

    และที่ท่านสอนในจิตว่า การเข้าไปเขาพนมฉัตรได้นั้น จิต ต้องประกอบไปด้วยเมตตา ในคน และสัตว์เสมอกัน มิติหลายต่อหลายแห่งนั้น ผ่านด้วยคลื่นของจิต จิตดีเข้าได้ จิตที่มีความโกรธ ความเกลียดชัง มานะทิฐิ เห็นชั่วเป็นดี เพ่งโทษคนอื่นสร้างปัญหา ยุแยงกันให้แตกแยก ย่อมเข้าไม่ได้ ใช่ว่ารู้เห็นทราบแล้วจะเข้าได้

    --------------------------------------------------------

    จากนั้นนั้นท่านแสดงภาพหลวงปู่สรวง เทวดานั่งดินสหธรรมมิกท่านให้เห็นในจิต

    ผมจึงได้กราบเรียนถามด้วยวาจา กับท่านเพื่อให้ ทุกคนทราบเป็นการยืนยันว่า หลวงปู่สรวงท่านยังอยู่ แต่เราจะจิตดีจนเจอท่านไหม

    จากนั้นท่านเมตตากล่าวเรื่อง อนาคต สองเรื่องที่สำคัญ ซึ่งขออนุญาตลงเพียงเรื่องเดียว

    "ท่านยืนยันเรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านจะทรงดำรงพระชมม์มายุถึง 120 พระชันษา พระอภิญญาท่านได้ถวายยา แด่พระองค์ท่าน"

    ส่วนอีกเรื่องขอละเอาไว้

    --------------------------------------------------------

    เมื่อท่านเมตตารับพวกเราเสร็จ ท่านก็ไปขับรถวนมารอบหนึ่ง และกลับไปตำยา ต่อโดยที่ท่านยังแข็งแรงมาก และท่านจะแข็งแรงยิ่งขึ้นไป


    ------------------------------------------------------------

    จากนั้นได้มีโอกาสกราบสนทนากับพระอุปฐากหลวงปู่ ทั้งสองรูป รูปหนึ่งคือ หลวงพี่เกรียง

    ท่านได้แจ้งให้ทราบว่า ที่ท่าน สร้างสวนสมุนไพรเอาไว้ที่ชนแดนนี้ก็เพื่อเตรียมเรื่องภัยพิบัติด้วยครับ

    -------------------------------------------------

    จากนั้นหลายท่านก็ ไปซื้อสมุนไพรหลวงปู่ เพื่อปรับธาตุและเป็นยาอายุวัฒนะ ตามความสนใจ
     
  2. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ไปกราบหลวงปู่ลมัยผมเองไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เนื่องจากต้องเข้าสมาธิและอยู่หน้าหลวงปู่เกรงว่าจะรบกวนท่าน

    มาเริ่มถ่ายบ้างก็ที่ปราสาทดินครับ


    ทริปนี้การปฏิบัติค่อนข้างอุกฤษณ์สำหรับหลายท่านแต่ก็ทำได้ดี

    เช้า ตื่น ตีสาม

    ทำวัตรเช้า ฝึกกายด้วยท่าฤาษีดัดตนเป็นการเจริญ กายคตาสติปัฐฐานสี่
    เดินจงกรม
    ฟังธรรมมะ จากหลวงปู่ศรี (ท่านเน้น มหาสติปัฐฐานสี่)
    นั่งสมาธิ ต่อ จน 6 โมงเช้า

    จากนั้นใส่บาตร ทานข้าว ส่วนใหญ่้เป็นอาหารเจ
    วันเสาร์ที่ 20
    พอสาย เดินทางไปขึ้นถ้ำวัวแดง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1080153.JPG
      P1080153.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      358
    • P1080172.JPG
      P1080172.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      92
    • P1080198.JPG
      P1080198.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      123
    • P1080199.JPG
      P1080199.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      286
    • P1080200.JPG
      P1080200.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      240
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขึ้นถ้ำวัวแดง

    และสองรูปหลัง รังเหล็กไหลที่เพิ่งปรากฏในถ้ำ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1080175.JPG
      P1080175.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      104
    • P1080176.JPG
      P1080176.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      82
    • P1080178.JPG
      P1080178.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      89
    • P1080183.JPG
      P1080183.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      102
    • P1080187.JPG
      P1080187.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      147
    • P1080188.JPG
      P1080188.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      111
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2010
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เมื่อเดินทางขึ้นไป ถึงถ้ำวัวแดงกันได้ ตามสภาพ สังขาราอนิจจาแล้ว

    ก็ได้พบกับพระอาจารย์ คือ หลวงพี่โอ ท่านบวชได้สองพรรษาและเมตตาสนทนาธรรมกับพวกเราให้ได้ความกระจ่างโดนใจกันหลายต่อหลายคน จนตั้งใจเดินทางมาสนทนาธรรมกับท่านต่อในช่วงเย็น

    ได้ประโยชน์ได้ความกระจ่าง ในเรื่องธรรมมะกันหลายข้อ

    สนทนากับท่าน จนเกิดไฟไหม้ป่า ใกล้เข้ามา ซึ่งก็แปลกที่ไม่เคยมีไฟป่าไหม้ใกล้ขนาดนี้มาก่อน ในหลาย สิบปีที่ผ่านมา

    บางคนช่วยด้วยแรงวิ่งไปช่วยกันดับไฟ ส่งน้ำต่อกัน

    บางคน ช่วยด้วยใจ ทำกสิณน้ำ เพราะคิดดูแล้วหากดับไม่เป็นดับไฟทั้งป่าด้วยน้ำนิดเดียวไม่ได้

    แผ่เมตตา ทำกสิณน้ำ อธิฐานให้ฝนตก นำความชุ่มเย็นมาให้ผืนป่า ช้าไปนิด แต่ก็บังเอิญคืนนั้นฝนก็ตก

    พอลงเขาไป ก็กลับไปพักที่ปราสาทดิน ทำวัตรเย็นตอน บ่ายสามโมงครึ่งถึง เกือบ 6โมงเย็น หลวงพี่ท่านเมตตาเตรียมห้องอบสุนไพรเอาไว้ให้ ตัวยาหลัก มี ยาหัวใหญ่และม้ากระทืบโรง ได้ทั้งดื่มยาและอบ น้ำหนักลดกันไปหลายกิโลกรัม จากนั้นก็มีข่าวไฟไหม้ป่าลามมาถึง ใกล้ๆปราสาทดิน ไปช่วยกันดับอีกรอบ

    จากนั้นอาบน้ำ ทานข้าว ต่อด้วยการฝึกสมาธิกันจาก 2 ทุ่มจนถึง สี่ทุ่มครึ่ง

    รีบนอนเพื่อตื่นตีสามไปทำวัตรเช้า ทุกคนเเจ่มใสไม่อ่อนเพลีย
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    วันนี้ น้องเบส หัวหน้าทีมพลังจิต จ.ชัยภูมิมาสมทบกับน้องอีกคนหนึ่ง

    ได้ฝึกสมาธิในช่วงบ่าย อีกรอบ เน้นเรื่องการแยกแยะ อารมณ์จิต อันเป็นสัมมาทิฐิและอารมณ์จิตอันเป็นมิจฉาทิฐิ

    จิต สมาธิ อันเป็นสัมมาทิฐินั้น เป็นไปเพื่อปล่อย วาง ละ ให้ มีอารมณ์แผ่ออก เบิกบาน อิ่ม เย็น นอบน้อม นุ่มนวล

    จิต และมิจฉาสมาธิ เป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส เกาะเกี่ยว ครอบงำ หนัก เครียด กังกล เศร้าหมอง ประกอบไปด้วยมานะทิฐิและความเก่ง ความถือดี มุ่งแข่ง ไม่หวังประโยชน์ในธรรม

    เมื่อเราแยกเเยะเข้าใจ ในอารมณ์ทั้งในฝ่ายกุศลและอกุศล เราก็จะแยกแยะดีชั่ว ได้

    และยิ่งเห็นความสำคัญในความมั่นคงในไตรสรณะคมม์ รวมไปถึง จิตที่ตั้งมั่นในสัมมาทิฐิไม่หวั่นไหว

    จิตที่เมตตาประกอบไปด้วย พรหมวิหารสี่ เป็นปกติ จนเป็นธรรมดา ธรรมชาติ เป็นปกติทุกลมหายใจ

    เมตตาสูงสุดก็คือ การให้อภัยทาน ให้อภัยได้แม้คนมาฆ่าเรา หรือฆ่าพ่อแม่เรา ต้องละพยาบาท วางปล่อยลงให้ได้ด้วยเมตตาจิต

    ถึงตรงนี้มีหลายท่านยังติด ยังละวางไม่ได้ ก็ขออธิบายเสริมไปว่า

    หากคนที่เราเคารพรักถูกฆ่า และมีจิตเครียดแค้น เกาะเกี่ยวพยาบาทอยู่ มาเข้าฝันให้เราแก้แค้นให้

    -เราฆ่าเขากลับ เพื่อล้างแค้น คนตายจะฟื้นไหม

    -คนมาให้เราฆ่า เป็นผู้สั่งให้เราล้างแค้น ผิดศีลไหม

    -เมื่อฆ่าได้ ย่อมก่อเวร ต่อ และจิตยินดีในการฆ่า ผิดศีลอีกชั้นไหม

    -เราบาปไหม

    -ต่อชาติภพไหม ไกลมรรคผลพระนิพพานอีกไหม

    ทำไมต้องให้อภัยทาน

    ทำไมต้องเป็นผู้มีเมตตา กับผู้ที่ประทุษร้าย เพ่งโทษต่อเราผู้ไม่มีเวรภัย ด้วยความคิด ด้วยวาจาว่าร้าย อันเป็นการละเมิดด้วย มโน วจี กายกรรม

    ทำไมต้องอโหสิกรรมต่อกัน

    ทำไมต้องตั้งจิตคิดเอ็นดูไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของผู้ใดทำไม

    เพราะเราปฏิบัติธรรมเพื่อความดี ความสุข ความงดงามแห่งจิตใจ ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลางและในที่สุด

    ----------------------------------------------------

    ในการฝึกสมาธิกันครั้งนี้ ได้มีโอกาสให้น้องเบสถ่ายทอดประสพการณ์ ในการเป็นครู สอนสมาธิให้เด็กนักเรียนที่โรงเรียนให้ได้เมตตาอัปปันนาณฌานกันทั้งห้อง ทุกคนมีน้ำตาแห่งปิติซึมออกมาทางหางตา

    หลายคนปรากฏโอภาสอันเป็นบาทฐาน บารมีวิสัยที่จะทำให้ให้ ทิพยจักษุญาณในอนาคต

    ต้องขอโมทนากับ ความเป็นครูที่แท้จริง ปรารถนาความดีของศิษย์ให้เข้าถึงธรรม ความดีงามแห่งจิตใจครับ
     
  6. Oupasene

    Oupasene เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    833
    ค่าพลัง:
    +2,867
     
  7. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    พลังของผู้มีธรรม จะยังโลกสว่างไสว
    คุณงามความดี จะยังคงอยู่ตลอดไป
    จับมือไว้ไปด้วยกัน



    [​IMG]


    กราบอนุโมทนา สาธุการ ทุกๆ ท่าน ทุกๆ ประการค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2010
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ในการทำวัตรเช้า เย็น หลวงปู่ ท่านให้สวดแบบแปลโดยมี บท โอวาทะปาฏิโมกข์ในทุกวัน

    ในการทำวัตรจิตเกิดสมาธิจิตสงบเป็นฌาน บางเวลาพระท่านก็มาสอน โดยท่านย้ำเรื่องหลักและแก่นของพระพุทธศาสนา ที่ว่า

    ละการทำความชั่ว ละการกล่าววาจะชั่ว ละความคิดชั่ว ละความคิดอกุศล

    ทำแต่บุญกุศล ทำแต่ความดี พูดแต่สิ่งอันเป็นมงคล ยิ่งศรัทธากำลังใจในการทำความดีให้เกิดในจิตใจดวงอื่น คิดแต่สิ่งอันเป็นบุญกุศล ความดีงาม ทั้งต่อจิตเราเอง และทุกๆดวงจิต

    ทำจิตใจให้ผ่องใส ผ่องแผ้ว เบิกบาน สะอาด สว่าง สงบเย็น

    ซึ่งท้ายสุดก็มาสรุปรวมที่จิตใจ และอารมณ์ใจที่เราต้องทรง ต้องประคับประคองเอาไว้

    ก็ขอยกย่องคุณเจนนี่ที่จับหลัก แห่งการปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว "มาเพื่อเอาดี" เก็บแต่สิ่งดีๆ รักษาจิตที่ดีเอาไว้

    ------------------------------------------------------------------

    มีธรรมมะที่ท่านเสริมมาในข้อธรรม ในความหมายว่าธรรมอันเป็น อกาลิโกนั้น เดิมที่เคยมองในมิติว่า ธรรมนั้น ย่อมเกิดผล เกิดอานิสงค์ผลแห่งการประพฤติธรรมโดยไม่จำกัดกาลนั้น ไม่ว่า จะสมัยพุทธกาล หรือ ปัจจุบันหากปฏิบัติถูกย่อม ปรากฏมรรคผลนิพพานได้

    ท่านอธิบายเพิ่มขึ้นว่า ธรรมอันเป็นอกาลิโกนั้น ท่านให้ประพฤติธรรมในทุกเวลา ไม่กะเกณฑ์หรือเกี่ยงเวลา ว่าเวลานี้จึงทำ เวลานั้นจึงปฏิบัติให้ปฏิบัติ ในทุกๆเวลาไม่จำกัดกาลหรือเอาเวลามาเป็นข้ออ้างในการปฏิบัติ

    ซึ่งข้อนี้มีคนใหม่หลายคนมีกำลังใจเข้มแข็ง ทำสมาธิ ทำจิตเป็นเมตตากุศลจิตในทุกเวลา และทำสมาธิทุกวันไม่ขาด

    ผมเคยบอกแล้วว่า ต่อไปคนมาใหม่จะแซงคนเก่า ที่กำลังใจไม่มุ่งสู่การปฏิบัติ ประมาทในธรรม ไม่พิจารณาหาเหตุแห่งความเจริญ ความเสื่อมในธรรม

    ---------------------------------------------------------------

    ส่วนที่พระท่านสอนต่อในสมาธิ ช่วงทำวัตร ก็คือ การพิจารณาอาการ สามสอง วึ่งท่านสอนให้พิจารณาจนเป็นอสุภสัญญา ความเน่าเปื่อย การแยกเป็นส่วน การ รวมกลับเป็นกาย พิจารณากลับไปมา อนุโลม ปฏิโลม เป็นตัววิปัสสนาญาณ

    และอีกชั้น พิจารณาเป็นการเปลี่ยนธาตุเป็นอวัยวะ เปลี่ยนเซลล์ใหม่ ซึ่งก็บังเอิญ ที่หลวงปู่ท่านก็เทศน์เรื่องการเจริญอิทธิบาทสี่ด้วยจริงๆ

    ที่มีเสริมมาอีกและพระท่านเน้นเป็นพิเศษก็คือการพิจารณา ธาตุไฟในอาการสามสิบสอง

    ไฟดี สองประการ คือ ไฟอันเผาผลาญให้ร่างกายอบอุ่น
    ไฟอันเผาผลาญอาหารให้ย่อย


    ไฟโทษสองประการคือ

    ไฟอันเผาผลาญร่างกายให้ทรุดโทรม
    ไฟอันเผาจิตใจให้ร้อนรุ่มสุมทรวง

    ไฟโทษนั้นควรดับ ดับไฟภายนอกไม่เท่าดับไฟภายใน คือไฟเผาใจ อันเกิดจากโทสะความโกรธ ความอาฆาต ความเกลียดชัง

    แรงอิจฉาริษยา เพ่งโทษคิดชั่วเห็นชั่วจนจิตร้อนลุ่ม

    ความโลภความอยากได้ ทำให้จิตเร่าร้อนดิ้นรน

    โมหะความหลงจนไม่เห็นว่าไฟเผาใจตนเองอยู่

    ไฟโทษเหล่านี้ ท่านให้ดับด้วยปัญญาหนึ่ง เห็นโทษแห่งไฟเผาใจ แล้วดับเสีย

    ดับด้วยเมตตาจิต ความชุ่มเย็นด้วยเมตตาอีกประการหนึ่ง การให้อภัย การรักษาจิตอันสงบเย็น ทรงในฌานอันประกอบไปด้วยเมตตาวิมุติญาณทัศนะเอาไว้

    เมื่อจิตเราสงบเย็น ไม่เร่าร้อน มีแต่เมตตา ไม่เป็นผู้มีเวรภัยต่อผู้ใด ปรารถนาเอื้อเฟื้อในธรรม ไฟโทษที่แผดเผากายใจก็ดับระงับลง

    ใบหน้าแววตาผ่องใส มีราศรี ไม่คล้ำดำหมองด้วยไฟเผากายให้ทรุดโทรม

    มีราศรี มีสุขทั้งยามหลับ ยามตื่น สงบเย็น จนเห็นพระนิพพาน

    คราวนี้เห็นไฟ แล้วรีบดับ นะ เพราะไฟแบบนี้มันไปต่อ ไปลามยังจิตใจดวงอื่นได้ มันปลิวไปได้

    พึงดับที่จิต ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ ประคองใจให้สะอาดใสด้วยเมตตา ทรงภาพพระที่ท่านใสสะอาดเป็นแก้วประกายพรึกเอาไว้ พระท่านทรงความดี เราก็ต้องรักษาความดีของใจเราเอาไว้

    ให้จิตเป็นพระ มีแต่ดี ทั้งความคิด ดีทั้งวาจา สื่อมาสู่กายกรรม
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    หลวงปู่ศรีท่านเมตตามากมายครับ ส่งจิตมาคุ้มครอง และดูแลการปฏิบัติของทุกๆคนในทริป

    ในช่วงเย็นหลังทำวัตรค่ำ ผมกับน้องเบส ได้เข้าไปกราบเรียนหลวงปู่ในเรื่อง งานในโครงการ บ ว ร ในการยกและพัฒนา บทบาทความเป็นจุดศูนย์กลางของวัด ในการพัฒนา ประเทศ ชาติ ชุมชน สังคมและ สานสร้างความสามัคคีของคนในชาติ

    ได้ทราบ งานและความหนักของหลวงปู่ศรีท่านอย่างมาก

    ท่านกล่าวว่า ท่านทราบอยู่แล้ว ว่า เราทำอะไร และทำไมผมต้องมาที่นี่ จากนั้นท่านก็เมตตาเอื้อมมือมาช้อนคางผมเอาไว้ด้วยเมตตา

    ท่านกล่าวว่า หากมันหนักมากก็ให้กงจักรมันหมุนปั่นหัวพ่อคนเดียวพอ อย่าให้มันไปหนัก ไปปั่นหัวลูกด้วยเลย ที่พ่อทำก็เพื่อความสุขของคนในบ้านเรา

    เขาถูกโกงพ่อก็ไปช่วย

    ชาวบ้านไม่มีปุ๋ยท่านก็ไปซื้อแจก

    ชาวบ้านถูกกดราคาพืชผล พ่อก็ไปช่วยซื้อเพื่อพยุงราคาให้ชาวบ้านรอดไม่อดตายกัน

    ทั้งทางโลก ทางธรรมท่านบริบูรณ์งดงามในวัตรปฏิบัติครับ

    ท่านเมตตาช่วยเป็นเสาหลักของ จ. ชัยภูมิให้

    โดยโครงการ ที่ท่านเน้นเวลานี้มีอยู่แล้ว

    -โครงการวัด รักษาป่าสงวน
    -โครงการวัดเป็นเขตอภัยทาน
    -โครงการวัดเป็นโรงทานเจือจานสังคม
    -โครงการวัดเป็นผู้รักษาอนุรักษ์น้ำ (ฝายที่เราไปทำฝายแม้วบนถ้ำวัวแดง ปัจจุบันกำลังสร้างเป็นฝายปูนแล้ว)
    -โครงการวัดส่งเสริมคุณธรรม ศีลธรรม สมาธิจิต
    -โครงการวัดสงเคราะห์เกษตรกร

    ซึ่งโครงการของท่านครอบคลุมค่อนข้างครบในทุกมิติในการสงเคราะห์ช่วยเหลือ ชาวบ้านทั้งทางโลก ทางธรรม

    งานในการกราบเรียนประสานงานเพื่อ ส่วนรวมก็สำเร็จอย่างดงามไปอีกภาระกิจหนึ่ง
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    จากนั้นท่านเมตตา ชวนให้มาเป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นไปประดิษฐาน บนยอดปราสาทดิน เนื่องจากหมู่คณะพวกเราเป็นผู้ถวายพระบรมสารีริกธาตุพร้อมผะอบทองคำเอาไว้ที่ปราสาทดินแห่งนี้

    ซึ่งก็ได้กราบเรียนท่านว่า ติดภาระกิจในวันที่ 28 กพ. วันมาฆะบูชานี้ ขอให้หลวงปู่เมตตาเป็นผู้อัญเชิยเหมาะสมดีที่สุดแล้ว

    หลวงปู่ท่านก็เมตตาบอกว่า หากตัวมาไม่ได้ ก็มากายทิพย์นะ อย่าลืมนะ เวลา 10.09 น.

    ก็ได้แต่กราบในเมตตาของหลวงปู่ท่าน ในความดี ความเสียสละของท่านครับ

    เช้าวันกลับ ได้นำหมู่คณะ กราบขอขมากรรมต่อหลวงปู่ในข้อ ที่ การปฏิบัติยังไม่สำรวมระวัง กาย วาจา ใจ ไม่สงบ ไม่สงัด จนหลวงปู่ท่านต้องเมตตาเตือนหลายต่อหลายครั้ง

    ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรกราบไหว้ได้อย่างแท้จริงครับ
     
  11. ปูเเว่น

    ปูเเว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,614
    ค่าพลัง:
    +6,697
    สาธุ คำสอนของหลวงปู่ศรี ,ของอาจารย์คณานันท์ ธรรมะที่ได้สอนและแนะนำทำให้เกิดความกระจ่างเข้าไปถึงในจิตมากค่ะ
     
  12. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740


    วันที่ 28 กพ. วันมาฆะบูชา นี้ถ้ามีวาระผมคงได้ไปครับ

    แล้วจะแว๊บบเข้าป่าแถวนั้นซักพัก

    ค่อยกลับมาสมัครเรียน


    พระท่านสอนว่า อย่าลืมไปแล้วกลับนะครับ อนุโลม ปฏิโลม ไม่ปฏิโลม เดียวจะป่วยแบบหมอ งง กัน หรือพระท่านให้พิจารณาร่างกายเหมือนเราดูกระจกเงาก็ได้
     
  13. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    อนุโมทนากับการปฏิบัติธรรมกับคณะคุณคณานันท์ด้วย

    [​IMG]
     
  14. Jenny_Lee

    Jenny_Lee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,357
    เหนืออื่นใดก็ต้องขอขอบพระคุณอ.เล็กมากๆค่ะ
    ที่เป็นผู้นำ และสอนให้พวกเราได้เดินมาถูกทาง....

    เมื่อทราบถึงภัยพิบัติที่กำลังมาถึงก็เกิดความวิตกกังวล
    เป็นห่วงต่างๆนานา สารพัด พยายามศึกษาการนั่งสมาธิ
    ก็เกิดความวิตกกังวลอีกว่าทำไมยังทำไม่ได้เหมือนคนอื่น
    การมาทริปครั้งนี้ก็รู้เลยค่ะ ว่าต้องจัดการกับจิตใจของตนเองก่อน
    การให้ความเมตตากับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเลยค่ะ
    ต้องทรงอารมณ์สบายๆ มีความเมตตาอยู่ตลอดเวลา
    การนั่งสมาธิก็ต้องหมั่นปฎิบัติต่อไป ได้มากแค่ใหนก็ขึ้นกับวาสนาของเราเอง
    ที่สำคัญอยู่ที่ทรงอารมณ์สบายๆ มีเมตตากับทุกสรรพสิ่งตลอดเวลา
    และจิตใจที่ดีงามจะทำให้พวกเราอยู่รอดปลอดภัยจริงๆค่ะ...

    การมาทริปครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงนิสัยของเจนนี่ตลอดไปค่ะ
    จะให้อภัย จะไม่มีความโลภ โกรธ หลงในจิตใจ
    จะคิดดี พูดดี ทำดี ทำตนให้เป็นผู้รู้ ตื่น เบิกบาน
    มีจิตใจที่ดีงาม มีเมตตากับผู้อื่นและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
    จะพยายามทำให้ได้ตลอดไปตราบจนถึงซึ่งพระนิพพานค่ะ
     
  15. NatAndaman

    NatAndaman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +605
    ขอทบทวนวิชานะครับ จะได้เอาไว้ทบทวน ยามไกลอาจารย์ จะแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย เพื่อใจคนมาจากต่างประเทศได้ทบทวนนะครับ มีใครเพิ่มเติมเสนอแนะได้นะครับ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    วันแรกของการฝึก อาจารย์ให้เราผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยทำความรู้สึกผ่อนคลาย ทำใจสบาย ๆ กำหนดในใจสบาย ๆว่าเราผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ตั้งแต่ ศีรษะลงมา กล้ามเนื้อบริเวณหน้า คอ และรอบ ๆ หัวไหล่ จากกนั้นก็กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เบา ๆ สบาย ๆ เราแค่กำหนดรู้ ไม่ใช่การบังคับหรือฝืน หายใจเข้า รู้ว่าหายใจเข้า หายใจออก รู้ว่าหายใจออก หายใจสั้น รู้ว่าหายใจสั้น หายใจยาว รู้ว่าหายใจยาว กำหนดตามลมรู้ถึงบริเวณอก และช่องท้อง นึกเห็น ลมหายใจพริ้วเป็นสาย จากนั้นให้กำหนดจิตอธิษฐานว่า ขอให้เราเข้าถึงการระลึกรู้ลมหายใจตลอดสายนี้ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอิริยาบท ทุก ๆ ชาติ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน อารมณ์ใจของเราขณะนี้จะสบาย เป็นอารมณ์ใจที่เป็นสุข เรากำหนดใจต่อไป โดยการนึกว่า เรามีใจขณะนี้ มีความสุข เราขอตั้งใจเป็นความสุขที่ปราศจากอามิส เป็นความสุขที่ปราศจากการเบียดเบียนผู้อื่น ไม่มีการผูกพยาบาท เรามีความสุขนี้เพียงไร เราอยากให้ผู้อื่นมีความสุขนี้ เช่นกัน เรา นึกสบาย ๆ มีความสุข เห็นจิตเรา แย้มยิ้มออกไป เหมือนดังดอกบัวค่อย ๆ บาน แย้มกลีบออก นึกเห็น เป็นกระแส เป็นคลื่น แผ่ออกไป เป็นรัศมี ออกไปรอบ ๆ ตัวเรา ค่อย ๆแผ่ขยายออก รอบ ๆ จนเต็มห้อง ใครก็ตามได้รับรังสีนี้ จะรู้สึกได้ถึงความสุข แผ่ออกไปเรื่อย ๆ จนรอบ เขตวัด ใครก็ตามที่รับสัมผัสนี้ ก็จะมีความสุข ไม่ว่าคน สัตว์ หรือว่าโอปาติกะ หรือสัมภเวสีใด ๆ รับสัมผัสรังสีที่แผ่ไปก็จะมีความสุข ค่อยมาต่อพรุ่งนี้นะครับ<o:p></o:p>
    I’ review something that teacher taught us .It will be useful when we go away especially someone who come from oversea.<o:p></o:p>
    First,just relax yourself,relax your muscles begin from head you release everything,not to be serius with anything command yourself gently to relax facial muscle, neck and muscle around shoulder .After that observe your respiration .How is it? Just only know when you inspiration is gentle ,long , Just only know when you exspiration is gentle ,long not to force it.Observe your breathing through chest and abdomen imagine that the air pass through the way. Then this time you feel comfortable and relax ,you perceive happiness, and transfer the happiness to everyone nearby. Imagine that inside your heart emit the gentle light of happiness .any one touch this light will feel happy as same as you.<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  16. 1535

    1535 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +2,105
    รูปจากกล้องของเจย์ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3000.jpg
      IMG_3000.jpg
      ขนาดไฟล์:
      73.6 KB
      เปิดดู:
      151
    • IMG_3026.jpg
      IMG_3026.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.7 KB
      เปิดดู:
      87
    • IMG_3030.jpg
      IMG_3030.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.5 KB
      เปิดดู:
      122
    • IMG_3032.jpg
      IMG_3032.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      95
    • IMG_3040.jpg
      IMG_3040.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.9 KB
      เปิดดู:
      130
    • IMG_3041.jpg
      IMG_3041.jpg
      ขนาดไฟล์:
      49.6 KB
      เปิดดู:
      150
    • IMG_3042.jpg
      IMG_3042.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      141
  17. 1535

    1535 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +2,105
    พยายามลงเฉพาะมุมที่ต่างกับคนกล้องอื่นนะคะ รูปแรกเป็นมัคนารีผลที่เจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ใจดีในตลาดแบ่งปันให้ดูค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3046.jpg
      IMG_3046.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      620
    • IMG_3063.jpg
      IMG_3063.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.5 KB
      เปิดดู:
      85
    • IMG_3076.jpg
      IMG_3076.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.8 KB
      เปิดดู:
      75
    • IMG_3083.jpg
      IMG_3083.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.2 KB
      เปิดดู:
      77
    • IMG_3096.jpg
      IMG_3096.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.6 KB
      เปิดดู:
      73
    • IMG_3108.jpg
      IMG_3108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.1 KB
      เปิดดู:
      72
    • IMG_3115.jpg
      IMG_3115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.9 KB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_3129.jpg
      IMG_3129.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.9 KB
      เปิดดู:
      71
    • IMG_3132.jpg
      IMG_3132.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.9 KB
      เปิดดู:
      86
    • IMG_3156.jpg
      IMG_3156.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.8 KB
      เปิดดู:
      82
    • IMG_3159.jpg
      IMG_3159.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87 KB
      เปิดดู:
      90
  18. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    ขอบคุณอาจารย์คณานันท์มากครับสำหรับการสอนในทริป ผมเองเป็นนักเรียนใหม่อายุเริ่มเยอะ แต่เรื่องสมาธิยังเพิ่งเริ่มเตาะแตะ ผมคิดว่าเริ่มรู้ทางฝึกต่อไปแล้วครับ และก็การมาโพสต์สรุปประเด็นให้พวกเราอีกนี่ก็เยี่ยมเลยครับ
     
  19. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    ต่อไปจะโพสต์รูปต่อครับ หลวงปู่ท่านออกรับบิณฑบาตในปราสาทดินชั้นล่าง กับคณะสงฆ์ในวัดครับ
    [​IMG]
     
  20. bluejet

    bluejet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +2,181
    รูปนี้ถ่ายตอนขาขึ้นไปยังถ้ำวัวแดง อาจารย์บอกว่า สังเกตเห็นว่ามีรอยแตกของหินมากกว่าที่ท่านมาคราวก่อนครับ
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...