ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

เมื่อวานหลังจากส่งเด็กขึ้นรถ เดินผ่านไปร้านป้าเจ้าเดิมเห็นพระปัญจสิริข้างต้น กองอยู่ในกระบะขายพระอยู่บางส่วนสัก 30 องค์ ยังไม่ได้ดูว่าเป็นยังไงเหมือนกัน เพียงแต่เดินไปหยิบเอาพระปิดตาเอวกิ่ว หรือพิมพ์ สังฆมิตตาเถรี ที่พี่ใหญ่บอกว่าพลังท่านพลิ้วดี ส่วน อ.ประถมฯ บอกว่าเมตตาสุดยอด มาไว้อีกหน่อยนึง ก็จะไม่เป็นอย่างที่ทั้ง 2 ท่านพูดไว้ได้ยังไง ก็พระชุดนี้ คณะหลวงปู่บรมครูพระธรรมฑูตเทพโลกอุดร (หลวงปู่ใหญ่, หลวงปู่เทพโลกอุดร)ท่านทำไว้ให้ลูกหลานใช้โดยเฉพาะนั่นเอง..

 

ประวัติภิกษุณีท่านนี้น่าสนใจมาก แต่จะขอนำประวัติเท่าที่มีผู้ทำไว้ในเวบฯ โดยย่อมาให้อ่านกัน แต่แท้จริงท่านเกี่ยวพันกับองค์พระบรมโพธิสัตว์กวนอิม โดยว่าตามที่ผู้ทรงฌาณขั้นสูงได้กล่าวไว้ตรงกันเป็นอย่างมาก หรือบางท่านกล่าวว่านี่ล่ะคือเป็นองค์เดียวกัน และท่านกล่าวว่าพระภิกษุณีท่านนี้เสียชีวิตกลางทะเลทรายขณะที่นำพุทธศาสนาไปเผยแพร่ในประเทศจีน (คลาดเคลื่อนจากประว้ัติที่บันทึกไว้ข้างล่าง) และก่อนตายได้อธิษฐานขอให้สร้างทานบารมีจนกว่าจะบรรลุเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล...

<table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td class="contentheading" width="100%" align="center">พระนางสังฆมิตตา </td> <td valign="top">
</td><td class="buttonheading" width="100%" align="right">
</td> <td class="buttonheading" width="100%" align="right">
</td> </tr> </tbody></table>

​

รูปนี้เป็นรูปปั้นดินเผาของพระนางสังฆมิตตาเถรีฝีมือภิกษุณีธัมมนันทาที่ ปั้นไว้เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๕ ปัจจุบันตั้งอยู่รวมกลุ่มพระภิกษุณีอรหันต์ ๑๓ รูป ในห้องสวดมนต์ที่วัตรทรงธรรมกัลยาณี อ.เมือง จ.นครปฐม
เชิญอ่านประวัติท่านค่ะ

เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราช (ครองราชย์ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๓) ยังเป็นพระยุพราชได้พระชายาเป็นเจ้าหญิง ประทับอนู่ในเมืองใกล้ๆสาญจี ทรงมีพระโอราและพระธิดากับพระชายาพระองค์นี้ คือเจ้าชายมหินท์ และเจ้าหญิงสังฆมิตตา ทั้งสองพระองค์ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุและภิกษุณีตามลำดับ
เมื่อพระเจ้าอโศกขึ้นครองราชย์ ได้ทำการเผยแผ่พระศาสนาโดยส่งพระธรรมทูตออกไป ๙ สาย พระมหินท์เถระได้นำพระธรรมฑูตลงไปลังกาและประสบความสำเร็จในการประกาศพระ ศาสนาอย่างยิ่ง เมื่อเจ้าหญิงอนุฬา พระขนิษฐาของพระเจ้าติสสะ กษัตริย์แห่งลังกาได้ฟังธรรมก็ได้บรรลุโสดาบันจึงขออกบวช
พระมหินท์ เถระ แนะนำให้ทูลเชิญพระน้องนาง คือพระนางสังฆมิตตาเถรี พร้อมคณะภิกษุณีสงฆ์อีก ๑๐ รูป เสด็จมาลังกาในปีถัดมา และจัดการอุปสมบทให้เจ้าหญิงอนุฬาและข้าราชบริพารที่ตามเสด็จเป็นจำนวนมาก
พระนางสังฆมิตตาเถรี เสด็จไปลังกามีพระชนม์ ๓๒ ปี ทรงมีพระโอรส คือสามเณรที่ตามเสด็จพระมหินท์มาลังกาก่อนหน้านั้นนั่นเอง
พระนางสังฆมิตตาพระชนม์อ่อนกว่าพระมหินท์ ซึ่งเป็นพระเชษฐาเพียง ๑ ปี ทั้งสองพระองค์ทรงช่วยกันประดิษฐานพระศาสนาในเกาะลังกา จนตลอดชีวิต พระมหินท์เถระปลงสังขารเมื่ออายุ ๘๐ ปี พระนางสังฆมิตตาก็ปลงสังขารอายุเท่ากันในปีรุ่งขึ้น
ในค.ศ.๔๓๓ ภิกษุณีสงฆ์จากลังกาได้เดินทางไปประดิษฐานพระศาสนาในประเทศจีน ทำการอุปสมบทให้ภิกษุณีชาวจีน ภิกษุณีสงฆ์ของจีนรักษาพระศาสนาไว้ได้จนปัจจุบัน
ในขณะที่ ค.ศ.๑๐๑๗ กษัตริย์ฮินดูจากอินเดียใต้ข้ามไปโจมตีเกาะลังกา ทำให้สูญเสียทั้งภิกษุและภิกษุณีสงฆ์ไปในครั้งนั้น


ภิกษุณีไทย

 

จากกระทู้ของคุณสตินี้น่าสนใจมาก จึงอยากจะแนะนำพระสงฆ์ผู้ทรงอภิญญาอีกท่านหนึ่งที่สังขารไม่เน่าเปื่อย ท่านคือ

หลวงพ่อผินะ แห่ง วัดสนมลาว หมู่ที่ 2 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ้งท่านนั่งสมาธิถอดจิตมรณะภาพ ตัวผมเองไม่เคยได้ไปกราบท่าน จึงอยากจะเผยแพร่ แนะนำให้คนที่อยู่
ไกล้วัดสนมลาวไปกราบไหว้บูชากัน

ข้อมูล ชีวประวัติ และ อื่นๆ ของหลวงพ่อท่าน คลิ๊กที่นี่ครับ www.dhanawatr.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=321812&Ntype=5

 

รายชื่อของพระคุณเจ้าในรายการที่มีอยู่บางรายการซ้ำกันและบางรายการก็ซ้ำบุคคลแต่ไม่ซ้ำชื่อ

 

โมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

วันนี้โอนเงินเข้าร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ ผ่านบัตรเอทีเอ็ม
จำนวน 309 บาท ครับ

 

117 หลวงพ่อ พระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง อุทัยธานี

119 หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี

2 องค์นี้เป็นองค์เดียวกันหรือเปล่าครับ หรือว่าคนล่ะองค์กันครับ หรือว่าผมเข้าใจผิดครับ
ขอบพระคุณครับผม

 

คุณรับโชคเข้าใจถูกแล้วครับ อันดับที่117 และ 119 คือองค์เดียวกัน ยังมีพระที่ทรงสังขารไม่เน่าเปื่อยอีกหลายองค์ เช่นหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค เก็บไว้ในโลงแก้วมองได้ชัดๆว่า ดวงตาท่านยังเหมือนมีชีวิตอยู่ไม่แห้งตามกาลเวลา ว่ากันว่าเนื้อท่านนิ่มไม่แข็ง มีอีกองค์หนึ่งคือ หลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่พัฒนาราม นั่งสมาธิมรณะภาพ กำหนดวันละขันธ์ล่วงหน้าอย่างแม่นยำ


ว่ากันว่าท่านสร้างพระกสิณ ที่ได้รูปแบบมาจากนิมิตรในการทำสมาธิในถ้ำ พระนี้ประวัติว่าท่านสร้างเสร็จแล้วนำไปโรยไว้ตามป่าข้างวัดแล้วทำการปลุกเสกเรียกพระทั้งหมดกลับมาที่ท่าน จึงสำเร็จตามพิธีกรรม

 

เห็นรูปสวยดีเลยนำมาฝาก พระพิมพ์สมเด็จสกุลปัญจสิริ พิมพ์พระประธาน

​

คิดว่าเดี๋ยวได้รูปมาเพิ่มแล้วน่าจะลงได้อีกสัก 40-50 รูป ครับ

 

นี่ละหน่อเนื้อพุทธโคดมที่ยังมีชีวิตอยู่ ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ใครมีเวลาขึ้นเชียงใหม่ อย่าลืมไปกราบท่านด้วยล่ะ เช่าล๊อคเก็ตกล่องสีน้ำเงินสร้างเมื่อปี 2539 ราคา 999.-บาท ไปให้ท่านมนต์ให้อีกที ล๊อคเก็ต รุ่นนี้ของดีนา ดีจริงๆ ก็พ่อท่านลงมาทำให้เองน่ะซิ ใครเจอพระกรรมฐานเก่งๆ ท้าเอาไปตรวจก็ได้ปัจจุบัน ใครจะเสกได้เท่านี้

​

 

14.57 น.ได้โอนตังเพื่อการทำบุญกับสงฆ์อาพาธประจำเดือน เป็นจำนวนเงิน 2300 บาทครับ
เงินทั้งหมดที่ได้มาเป็นการรวบรวมจากเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวบริษัท ไออาร์พีซี รวมทั้งพี่น้องจากนอกบริษัท
ก็ต้องขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมบุญกันมา...
แม้การทำบุญเกือบจะทุกครั้งไม่ได้เอ่ยชื่อเอ่ยนาม แต่ทุกคนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทำด้วยใจ ไม่ได้หวังซึ่งสิ่งตอบแทน
ขอผลบุญที่พึงได้จากการที่ท่านทั้งหลายได้ช่วยพระสงฆ์อาพาธประหนึ่งได้อุปปัฏฐากซึ่งพระพุทธเจ้า
ขอท่านทั้งหลายจงสำเร็จสมบูรณ์ทุกประการ หวังสิ่งใดก็ขอให้ได้ดังประสงค์ สุภาพจงแข็งแรง โรคภัยอย่าได้กล้ำกลาย โมทนาสาธุด้วยครับ

 

ผม คุณแม่และเพื่อนๆ ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ 4500 บาทครับ โอนเข้าบัญชีแล้วครับวันนี้

(deejai)

 

ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านข้างต้นด้วยครับ และหากขาดตกบกพร่องในการโมทนาบุญก็ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลย เพราะช่วงนี้เวลาที่จะเข้าเวบมีน้อยจริงๆ กระทู้ตกไปถึงหน้า 5 ก็มี แต่เอาละ เมื่อเข้ามาแล้ว มาเห็นผู้บริจาคก็ต้องบอกตามตรงว่าหายเหนื่อยและดีใจเป็นอย่างมาก กุศลผลบุญที่ท่านทำมาเพื่อใช้ในการรักษาโรคาพาธให้แก่พระสงฆ์ สามเณร และแม่ชีทั้งหลายแล้วนั้น เมื่อท่านตั้งใจ และยินดีในกุศลที่ทำแล้ว กุศลและผลบุญย่อมตกแก่ท่านเอง เทพ พรหม เทวาท่านเห็นอยู่แล้ว ผู้บันทึกความดีคือดวงจิตดวงใจของท่านเองที่จะบันทึกคุณงามความดีนี้ไว้ ข้ามภพข้ามชาติติดตัวไป และหากเราเชื่อในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วไซร์ ภพภูมิเบื้องหน้าของเราก็คงไม่หลุดไปอบายภูมิแน่นอน และหากได้มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเป็นมนุษย์ที่ไม่ลำบากยากเย็นในความเป็นอยู่และโรคภัยไข้เจ็บ ผมเองก็เชื่ออย่างนี้เช่นกัน...ขออนุโมทนาด้วยใจจริงอีกครั้ง

​

 

วันนี้ได้รับรูปภาพมาจาก รพ.แม่สอด จ.ตาก เรื่องโครงการบริจาคผ้าห่มหนาว อังสะและหมวกไหมพรหมให้แก่พระสงฆ์ที่อาพาธตาม รพ.ต่าง ๆ และเป็นพระสงฆ์ที่ยากไร้ ทางวัดอาจจัดเครื่องนุ่งห่มให้ท่านไม่เพียงพอเนื่องจากวัดส่วนใหญ่ใน จ.ตากนั้น สภาพของแต่ละวัดนั้นในชนบทที่ห่างไกลนั้นยังมีความยากจนอยู่มาก โดยผ้าห่มหนาวฯ ที่บริจาคนี้ ทุนนิิธิฯ ตั้งใจมอบให้ท่านนำไปใช้ต่อที่วัด หลังจากที่ออกจาก รพ.แล้ว ดังนั้น ในแต่ละปีทุนนิธิฯ จึงได้จัดโครงการนี้มา โดยในส่วนของ จ.ตาก นั้น น้องพยาบาลก็บอกว่าพระสงฆ์ที่อยุ่ตามดอยจะหนาวมาก ทุนนิธิฯ พอทราบข่าวก็จัดการให้ โดยส่งเงินไปให้น้องพยาบาลผู้ประสานงานเป็นผู้ไปจัดซื้อและทำพิธีมอบให้ท่าน และในภาพเป็นการมอบให้พระสงฆ์ที่อาพาธอยู่ในขณะนี้ที่ รพ.แม่สอด โดยพระสงฆ์บางรูปเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรังและหมดโอกาสหาย เช่นเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายบ้าง หรือเป็นวัณโรคแบบเรื้อรัง บ้าง เราโชคดีที่อย่างน้อยเราก็ทำบุญให้ท่าน เพราะทั้ง 3 รูปนี้ ทางน้องพยาบาลแจ้งว่าเป็นการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น เมื่อได้ดูรูปแล้ว ก็ขอให้พวกเราได้โมทนาและสาธุบุญกับตัวเองในฐานะผู้บริจาค หรือในฐานะผู้ที่เห็นคุณความดีของผู้อื่นแล้วได้พลอยยินดีไปกับเขาด้วยที่เรียกว่า มุทิตา ที่เป็นเส้นทางแห่งการเป็นพรหม หรือพรหมวิหาร 4 นั่นเอง และหากมีโอกาสก็ช่วยสงเคราะห์ท่านตามควรแก่กรณี ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคเข้าทุนนิธิฯ แห่งนี้ หรือบริจาคที่ไหนก็ตาม เป็นบุญเป็นกุศลทั้งนั้น..

​

 

เมื่อวานนี้ผมได้ให้ จนท.ทยอยส่งพระพิมพ์ "แป้งกระแจะ" ที่ผ่านการอธิษฐานจิตโดย "ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ" ตามที่ได้แจ้งความจำนงมาแล้วจำนวน 17 ท่าน โดยทุกท่านได้ทำตามกติกามาถูกต้องทุกอย่าง บางท่านส่งซองขนาดใหญ่มา แต่ถุงกำมะหยี่สีแดงที่ให้เป็นแค่่ถุงเล็ก ผมเองก็รู้สึกเขินเหมือนกัน เพราะหากแกะซองแล้วเจอพระองค์เล็กแล้วท่านจะค้อนเอา เอาเป็นว่าในขณะนี้เพิ่งได้รับมาแค่นี้ ก็ส่งให้ตามนี้ก่อน ไม่ว่าซองจะใหญ่หรือเล็กส่งตามกติกาก่อน คราวหน้าหากมีวาระแจกให้ฟรีอีก ค่อยว่ากันใหม่ครับ ขอแจ้งรายชื่อตามที่ได้รับซองมาทั้งหมดในขณะนี้เลยก็แล้วกัน ขาดตกบกพร่องอย่างไรขออภัยด้วย เพราะไม่ได้ตรวจซองด้วยตนเอง เพียงแต่นำรายชื่อมาดูจากกระทู้อีกทีนึงเท่านั้นเอง โดยบางรายชื่อแจ้งจองคิวมาทางกระทู้แต่ไม่บอกชื่อมา ก็เลยต้องหมายเหตุไว้ แต่หากวงเล็บไว้ที่ซองก็ต้องแล้วก็ขออภัยด้วยเพราะซองที่ท่านส่งมา จนท.ผมยังไม่นำมาคืนให้ครับ ส่วนรายชื่อมีดังนี้

1. คุณพรเทพ ลิ้มดำเนิน
2. คุณเรวัต เสนอินทร์
3. คุณพิพัฒน์ ประจบศานต์ (ไม่ทราบลำดับการจอง)
4. คุณวีรวิทย์ ศศิภีมพล
5. คุณธนยศ สิริวัฒนณปภัช (นามสกุลตามกระทู้)
6. คุณไพบูลย์ จงจิรวิศาล
7. คุณสรรเพชร ดวงบุปผา (ไม่ทราบลำดับการจอง)
8. คุณพิพัฒน์ กลิ่นแก้วป่า
9. คุณนพพร ลัทธิธรรม
10. คุณกฤษณ์ ปิยะรัตนพิพัฒน์ (ไม่ทราบลำดับการจอง)
11. คุณเทียนชัย (อาร์ต) (ไม่ทราบลำดับการจอง)
12. คุณอุไรวรรณ ตันสกุล (ลืมใส่พระของคุณธิติไปด้วย)
13. คุณจิรศักดิ์ นิลเกษม
14. คุณวิรุจน์ น่วมนวล (ไม่ทราบลำดับการจอง)
15. คุณชนิดา แก้วกลม
16. คุณโกวิทย์ บุญญาสุ
17. คุณพจณีย์ สุขดี (ไม่ทราบลำดับการจอง)

พระถูกส่งไปแล้วเมื่อวานนี้ รอสักหน่อย หากปลายสัปดาห์หน้า ไม่ได้รับก็ขอให้ pm.บอกมา หรือหากได้รับแล้วช่วยยืนยันมาก็จะดีครับ


พันวฤทธิ์
15/1/53

 

เมื่อวานนี้ 14 มกราคม 2553 เวลา 17 นาฬิกาเศษ เทียมและพี่ณรงค์ ร่วมทำบุญสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธ 500 บาทค่ะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ

 

ขอบคุณมากครับผม
ตั้งตารอสมเด็จท่านมาโปรด อย่างตื่นเต้นทีเดียว ^_^'

 

พระพิมพ์สมเด็จที่แจกให้ถึงแม้จะเป็นพระองค์เล็กๆ ขนาดเท่าพริกขี้หนูลูกโดดที่ใช้ทานกับข้าวขาหมู แต่อิทธิคุณท่านไม่แพ้องค์ใหญ่ๆ เลยทีเดียวเฉกเช่นพริกขี้หนูลูกโดดที่เผ็ดแสบร้อนครบถ้วนกว่าเม็ดใหญ่ ท่าน อ.ประถม อาจสาคร ผู้ที่สร้างปิดตาบินเดี่ยวให้หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เสก จนบัดนี้ราคาวิ่งขึ้นไปไหนแล้วก็ไม่รู้่ รวมถึงพี่ใหญ่ของทุนนิธิฯ ที่ถือเป็นฌาณลาภีบุคคลต่างก็ทราบดี เมื่อเช้ายังได้คุยกันถึงพระพิมพ์นี้ที่แจกให้ทุกท่านฟรีตามที่ขอ พี่ใหญ่เองยังบอกว่าเฮ้ย ถ้าไม่ติดว่าองค์เล็กๆ แล้วละก็ แขวนเดี่ยวแทนวัดระฆังได้เลยน๊ะเว้ย ผมเองเคยเอาพระทั้งถุงเล็กๆ บางถุงที่มีพระพิมพ์นี้ประมาณ 200 องค์ที่เก็บไว้ ใส่มือตอนนั่งสมาธิ ยังสัมผัสพลังที่แผ่ออกมาถึงกับร้อนมือต้องรีบขอขมาต่อท่านเจ้าประคุณฯ และวางท่านลงไปในที่ที่เหมาะสม และไม่ทำเช่นนี้อีกจนบัดนี้ ดังนั้น ผู้ที่ได้ไปก็เอาท่านติดกระเป๋าเสื้อเวลาออกนอกบ้านด้วยก็แล้วกัน ยามบ่งอับบ่งรา หรือต้องการความช่วยเหลือใดๆ ก็ลองบอกท่านดู แต่ที่แน่ๆ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านมักเสกของเป็นเมตตานำซะด้วยนา...จะบอกให้

​

 

วันนี้วันศุกร์ยามค่ำคืนเหมือนเช่นเเคย ตามหาพระสงฆ์ดีพระเครื่องดี วันนี้ขอแนะนำพระพิมพ์ๆ หนึ่ง มาให้รู้จักกัน ลองอ่านกันดู พระพิมพ์ๆ นี้น่าสนใจมาก เพราะองค์ผู้เสกท่านความสามารถทางจิตของท่านกล้าแข็งมากสามารถตั้งธาตุและคุมธาตุได้ ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านทราบล่วงหน้าก่อนมรณภาพถึงพระสงฆ์องค์นี้ดี รวมถึงท่านหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ผู้ที่มีพลังจิตกล้าแข็งก็ยังเคยกล่าวยกย่องท่านในคราวหนึ่งไว้เช่นกัน ท่านองค์นี้คือท่านหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ครับ

พระนาคปรกอธิษฐาน





พระนาคปรกอธิษฐาน เป็นนามที่คุณเง็ก บางลำภู
ได้เรียกพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ของหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย
เมื่อไปถามคุณเง็ก ถึงที่มาของชื่อจึงทราบว่า
มีคราวหนึ่งเพื่อนคุณเง็กซึ่งรู้จักกับหลวงปู่คำพันเป็นอย่างดี
ได้ฝากปัจจัยไปถวายหลวงปู่ เมื่อคราวที่คุณเง็กได้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด
พร้อมกำชับให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่า เขาขอพระหลวงปู่เป็นที่ระลึกด้วย
หลังจากคุณเง็กได้กราบเรียนหลวงปู่แล้ว
หลวงปู่จึงหยิบพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ขึ้นมาแจกทุกคนคนละ1องค์และได้ฝากไปให้เพื่อนคุณเง็กด้วย
โดยหลวงปู่ได้กล่าวว่า “อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา”
ตั้งแต่นั้นมาที่พันทิพย์งามวงศ์วานก็เรียกพระรุ่นนี้ว่า พระปรกอธิษฐาน
พระปรกอิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี42
ช่วงนั้นหากใครไปกราบหลวงปู่คำพัน มักจะถามหาปฐวีธาตุของหลวงปู่
ซึ่งหลวงปู่ได้ให้รับรองเองว่า “กันนิวเคลียร์ได้”
ผู้สร้างพระปรกฯได้เข้าไปกราบหลวงปู่พร้อมหินกรวดแม่น้ำโขงถุงใหญ่ (4กิโลฯ)
เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ หลังจากหลวงปู่อธิษฐานเสร็จ ได้ขอปฐวีธาตุกลับมา1กำมือ
พร้อมเรียนถามหลวงปู่ว่า “ถ้านำปฐวีธาตุไปบดเป็นผงแล้วทำพระยังจะกันนิวเคลียร์ได้อยู่รึเปล่าครับ”
หลวงปู่ก็ตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานซ้ำ”
หลังจากสนทนากับหลวงปู่ซักพักจึงลาหลวงปู่กลับ
ตอนกราบลา หลวงปู่ได้ดันถุงใส่ปฐวีธาตุกลับมาพร้อมพูดว่า “จะเอาไปสร้างพระไม่ใช่เหรอ”
ผู้สร้างพระปรกฯ คิดว่าหลวงปู่คงต้องการให้สร้างพระมาถวายจึงได้นำปฐวีธาตุถุงใหญ่กลับมาทำพระ





พระปรกอธิษฐานเนื้อพิเศษฝังปฐวีธาตุแบบใส

หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้สันทัดในการสร้างพระคือ
คุณอำพล เจน ที่เป็นธุระในการเขียนยันต์ข้างหลังองค์พระซึ่งเป็นพุทธคาถาในพุทธทำนาย
คุณเนาว์ นรญาณที่เป็นธุระในการทำแม่พิมพ์พระฯ
และคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาพร้อมวลสารในการสร้างพระ ฯลฯ

หลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้วซึ่งแบ่งเป็นเนื้อโรงงาน 5,000 องค์
เนื้อเกสรซึ่งกดมือกันเองอีกหลายพันองค์ (จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้)
ได้ไปถวายหลวงปู่เพื่ออธิษฐานหลังวันเข้าพรรษาปี42 หนึ่งวัน
เมื่อไปถวายหลวงปู่ได้สั่งให้เก็บไว้ก่อนท่านยังไม่อธิษฐานเดี๋ยวนั้น
และพระได้อยู่กับท่านจนออกพรรษาได้ราว5วันจึงได้ไปถวายพระนาคปรกเนื้อเกสรอีกราว5,000 องค์ที่กดกันเองในพรรษา
(พระที่กดในพรรษาจะบรรจุทรายคำไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์)
โดยหลวงปู่ได้เก็บพระที่ถวายไว้ในช่วงเข้าพรรษาทั้งหมด(พระชุดแรก)ไว้ที่หัวนอนท่านตลอดพรรษา
และระหว่างสนทนาได้เล่าถวายให้ท่านฟังถึงการทำพระที่กดมือกันเองออกมาไม่สวย
ท่านก็เมตตาให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไรอย่างพระสมเด็จวัดระฆังก็กดมือเหมือนกัน”
และทราบว่าพระชุดนี้หลวงปู่มิได้จำหน่ายจ่ายแจก จนผ่านไปหลายปีจึงได้ยินว่าคุณเง็กได้รับแจกมา

ขอขอบคุณ
เชียงใหม่ดอทคอม

 

อนุโมทนาและสาธุบุญกับน้องเทียมและคุณณรงค์ด้วยจ้า เป็นกำลังที่เข้มแข็งมากของทุนนิธิฯ มานานนับปีแล้วเช่นกัน ขอขอบคุณและชมเชยด้วยใจจริง

<a href="http://img.zuzaa.com/share.php?id=60F5_4B508FCE" target="_blank"><img src="http://img.zuzaa.com/image.php?id=60F5_4B508FCE&jpg" border="0"></a>


​

 

วันที่ 17 ม.ค.2553 เวลา19.28 น.ผมได้โอนเงินร่วมทำบุญสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธ 444 บาท ขอคุณครับ