ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. แมงกะพรุน

    แมงกะพรุน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,267
    โอนเงิน 400 บาท เพื่อร่วมทำบุญเข้าบัญชี ฯสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ ฯ เมื่อวันที่25/12/52 แล้วครับ
     
  2. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101

    ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า และขออนุโมทนาสาธุบุญกับทุกๆ ท่านด้วยครับ ปัจจัยของท่านที่ได้โอนผ่านบัญชีทุนนิธิฯ เข้ามา รับรองได้ไม่ตกหล่นครับ คณะกรรมการฯ ทุกคน จะนำไปใช้เพื่อพุทธศาสนา เพื่อพระสงฆ์ เพื่อเณร และเพื่อแม่ชีที่อาพาธตาม รพ.ต่างๆ ครับ ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง

    ส่วนในวันพรุ่งนี้ จำนวนพระสงฆ์ที่คณะทุนนิธิฯ จะถวายสังฆทานอาหารให้ท่านนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 150 รูป หากใครถือโอกาสนี้จะถวายสังฆทานกับท่านเพื่อต้อนรับปีใหม่ก็ได้ครับเพียงแต่หิ้วขนม นม ผลไม้ฯ ไปใส่รวมกับถุงสังฆทานของทุนนิธิฯ แล้วไปประเคนกับท่านที่เตียงด้วยสองมือของท่านเอง แค่นี้บุญก็ท่วมแล้ว เจอกันวันพรุ่งนี้ 7.30 น. ที่โรงอาหารด้านซ้ายมือของ รพ.สงฆ์ครับ ส่วนใครที่เตรียมไปบูชาพระสมเด็จปีระกา ท่านผู้อาวุโสแจ้งว่าจะคัดมาให้ประมาณ 10 องค์ เป็นพิมพ์เส้นด้าย โพธิ์เม็ด เศียรบาตรฯ ให้บูชา องค์ละ 500.-บาทในงานโดยพระเป็นของท่านเอง ของดีๆ ยังงี้ถ้าใครไม่เอาผมเอาเองทั้งหมดอยู่แล้วครับ ส่วนใครไม่ได้ไปทำกิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิจกรรมด้วยกันก็ขออวยพรให้มีความสุขมากๆ ในวันปีใหม่นี้ด้วยก็แล้วกัน...

    พันวฤทธิ์
    26/12/52


    [​IMG]


     
  3. banjerdw

    banjerdw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +1,110
    ขอร่วมทำบุญด้วยจำนวน 400.99 บาทตามรายการโอนเงินที่แนบ ด้วยอำนาจแห่งพระรัตนตรัย ข้าพเจ้าขอถวายบุญกุศลทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้ทำได้ทำนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ และอุทิศบุญกุศลทั้งหลายแก่เจ้ากรรมนายเวรและโรคาพยาธิทั้งหลายที่ติดตามข้าพเจ้าและครอบครัว รวมถึงเทวดา เทพ พรหมทั้งหลาย และเทวดาที่ปกปักรักษาข้าพเจ้าและครอบครัว ญาติมิตรบริวาร และตัวของข้าพเจ้าและครอบครัว

    ธนาคารได้รับรายการโอนเงินเรียบร้อยแล้ว​
    [FONT=MicrosoftSansSerif,Bold][FONT=MicrosoftSansSerif,Bold]
    บัญชีผู้โอนเงิน​
    [/FONT][/FONT]
    เลขที่บัญชี ​
    XXXX229847

    ยอดเงินคงเหลือในบัญชี ​
    12,650.08 บาท

    [FONT=MicrosoftSansSerif,Bold][FONT=MicrosoftSansSerif,Bold]
    บัญชีผู้รับเงิน​
    [/FONT][/FONT]
    เลขที่บัญชี - ชื่อเรียกบัญชี ​
    3481232459 - กองทุนสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

    ชื่อบัญชี ​
    PRATOM F.

    ธนาคารผู้รับโอน ​
    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

    [FONT=MicrosoftSansSerif,Bold][FONT=MicrosoftSansSerif,Bold]
    วิธีการโอนเงิน​
    [/FONT][/FONT]
    วิธีการโอนเงิน ​
    โอนแบบทันที

    [FONT=MicrosoftSansSerif,Bold][FONT=MicrosoftSansSerif,Bold]
    จำนวนเงิน​
    [/FONT][/FONT]
    จำนวนเงินที่ต้องการโอน ​
    400.99 บาท

    ค่าธรรมเนียม ​
    25.00 บาท

    คำอธิบาย
    วันที่ทำรายการ ​
    26/12/2552

    วันที่หักเงินจากบัญชี 26/12/2552
     
  4. pana_mool

    pana_mool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +7,048
    โอนปัจจัยร่วมทำบุญแล้ว 200.00 บาท ครับ
     
  5. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101


    [​IMG]


    การเดินทางเข้าถึงพุทธธรรม

    คัดจาก : หนังสือ มรรคาแห่งศีล สมาธิ ปัญญา
    หลวงพ่อชา สุภัทโท


    ตามธรรมดา การที่บุคคลจะไปถึงบ้านเรือนได้นั้น มิใช่บุคคลที่มัวแต่นอนคิดเอา
    เขาเองจะต้องลงมือเดินทางด้วยตนเอง และเดินให้ถูกทางด้วย
    จึงจะมีความสะดวก และถึงที่หมายได้

    หากเดินผิดทางก็จะได้รับอุปสรรค และยังไกลที่หมายออกไปทุกที
    หรืออาจจะได้รับอันตรายระหว่างทาง เมื่อเดินไปถึงบ้านแล้ว จะต้องขึ้นอยู่อาศัย
    พักผ่อนหลับนอน เป็นที่สบายทั้งกายและใจ จึงจะเรียกว่าคนถึงบ้านได้โดยสมบูรณ์


    ทางแห่งศีล สมาธิ และปัญญา


    ถ้าหากเดินเฉียดบ้าน หรือผ่านบ้านไปเฉย ๆ
    คนเดินทางนั้นจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากการเดินทางของเขา

    ข้อนี้ฉันใด การเดินทางเข้าสู่พุทธธรรมก็เหมือนกัน
    ทุกๆ คนจะต้องออกเดินทางด้วยตนเอง ไม่มีการเดินให้กัน
    ต้องเดินไปตามทางแห่งศีล สมาธิ ปัญญา จนถึงซึ่งที่หมาย
    ได้รับความสะอาด สงบ สว่าง นับว่าเป็นประโยชน์เหลือหลายแก่ผู้เดินทางเอง

    แต่ถ้าหากผู้ใดมัวแต่อ่านตำรา มัวแต่กางแผนที่ออกดู
    อยู่ตั้งร้อยปีร้อยชาติ เขาผู้นั้นไม่สามารถไปถึงที่หมายได้เลย
    เขาจะเสียเวลาไปเปล่า ๆ ปล่อยให้ประโยชน์ที่ตนจะได้รับให้ผ่านเลยไป

    ครูบาอาจารย์เป็นเพียงผู้บอกให้เท่านั้น เราทั้งหลาย เมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว
    จะเดินหรือไม่เดิน จะได้รับผลมาน้อยเพียงใด นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตน

    เช่นเดียวกันกับการที่หมอให้ยาคนไข้ ถ้าคนไข้มัวแต่อ่านฉลากยา
    แต่ไม่เคยได้นำยานั้นไปใช้ คนไข้ก็คงอาจจะตายเปล่า
    และก็จะมาร้องตีโพยตีพายว่า ยาไม่ดี หมอไม่ดี เพราะมัวแต่ไปอ่านฉลากยาจนเพลิน

    แต่ถ้าเขาเชื่อหมอ จะอ่านฉลากเพียงครั้งเดียว หรือไม่อ่านก็ได้
    แต่ถ้าลงมือกินยาตามคำสั่งหมอ ถ้าคนไข้เป็นไม่มาก เขาก็จะหายจากโรค
    แต่ถ้าเป็นมาก... อาการก็จะทุเลาลงไปเรื่อย ๆ ถ้าหากกินบ่อย ๆ โรคก็จะหายไป

    ที่ต้องกินยามาก และบ่อยครั้ง ก็เพราะโรคของมันมาก
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ๆ แต่ถ้าโรคน้อยกินครั้งเดียวก็อาจจะหายได้เลย
    ผู้อ่านลองใช้สติปัญญาพิจารณาถ้อยคำนี้ให้ละเอียดจริง ๆ จะเข้าใจได้ดี


    การทำตนให้เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์

    ศีล นั้นก็คือ ระเบียบควบคุมรักษากาย วาจาให้เรียบร้อย ว่าโดยประเภทมีทั้งชาวบ้าน
    และของนักบวช แต่เมื่อกล่าวโดยรวบยอดแล้วมีอย่างเดียวคือ เจตนา

    เมื่อเรามีสติระลึกได้อยู่เสมอ เพื่อควบคุมให้รู้จักละอายต่อความชั่ว
    ความเสียหาย และรู้สึกตัวกลัวผลของความชั่วจะตามมา
    พยายามรักษาใจให้อยู่ในแนวทางแห่งการปฏิบัติที่ถูกที่ควร
    พยายามรักษาใจให้อยู่ในแนวทางแห่งการปฏิบัติที่ถูกที่ควร เป็นศีลอย่างดีอยู่แล้ว
    ตามธรรมดาเมื่อเราใช้เสื้อผ้าที่สกปรก และตัวเองก็สกปรก
    ย่อมทำให้จิตใจยึดอัดไม่สบาย แต่ถ้าหากเรารู้จักรักษาความสะอาด
    ทั้งร่างกายและเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ย่อมทำให้จิตใจผ่องใสเบิกบาน

    ดังนั้น เมื่อศีลไม่บริสุทธิ์ เพราะกายวาจาสกปรก ก็เป็นผลให้จิตใจเศร้าหมอง
    ขัดต่อการปฏิบัติธรรม และเป็นเครื่องกั้นมิให้บรรลุถึงจุดหมาย
    ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจที่ได้รับการฝึกมาดีหรือไม่เท่านั้น เพราะใจเป็นผู้สั่งให้พูดให้ทำ
    ฉะนั้นเราจึงต้องมีการฝึกจิตใจต่อไป


    การฝึกสมาธิ


    การฝึกสมาธิก็คือ การฝึกจิตใจของเราให้ตั้งมั่น และมีความสงบ
    เพราะตามปกติ จิตนี้เป็นธรรมชาติ ดิ้นรน กวัดแกว่ง ห้ามได้ยาก รักษาได้ยาก
    ชอบไหลไปตามอารมณ์ต่ำ ๆ เหมือนน้ำที่ชอบไหลลงสู่ที่ลุ่มเสมอ

    พวกเกษตรกรทั้งหลาย เขารู้จักกั้นน้ำไว้ให้ทำประโยชน์ในการเพาะปลูกต่าง ๆ
    มนุษย์เรามีความฉลาดรู้จักเก็บรักษาน้ำ เช่น ทำฝาย ทำทำนบ ทำชลประทาน
    เหล่านี้ล้วนแต่กั้นน้ำเพื่อประโยชน์ทั้งนั้น พลังงานไฟฟ้าที่ให้ความสว่าง
    และใช้ทำประโยชน์อื่น ๆ ก็ยังอาศัยน้ำที่คนเรารู้จักกั้นไว้นี้เอง
    ไม่ปล่อยให้มันไหลลงที่ลุ่มเสียหมด

    ดังนั้น จิตใจที่มีการฝึกที่ดีอยู่ ก็ให้ประโยชน์มหาศาลเช่นกัน


    พระพุทธองค์ตรัสว่า..

    จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนําความสุขมาให้
    การฝึกจิตให้ดี ย่อมสําเร็จประโยชน์


    เราสังเกตดูแต่สัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย ก่อนที่เราจะเอามันมาใช้งานต้องฝึกเสียก่อน
    เมื่อฝึกดีแล้ว เราจึงได้อาศัยแรงงานมันทำประโยชน์นานาประการ

    ท่านทั้งหลายก็ทราบกันแล้วว่า จิตที่ฝึกดีแล้ว.. ย่อมมีคุณค่ามากกว่ากันหลายเท่า
    ดูแต่พระพุทธองค์ และพระอริยสาวก ได้เปลี่ยนจากภาวะปุถุชน มาเป็นพระอริยบุคคล
    จนเป็นที่กราบไหว้ของคนทั่วไป และท่านก็ยังได้ทำประโยชน์อย่างกว้างขวางเหลือประมาณ
    ที่เรา ๆ จะกำหนด ก็เพราะว่า พระองค์และสาวก ได้ผ่านการฝึกจิตมาด้วยดีแล้วทั้งนั้น

    จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมเป็นประโยชน์แก่ทุกสิ่งทุกอย่าง อันได้แก่การดำเนินชีวิต
    การประกอบกิจการงานอาชีพทุกอย่าง นอกจากนี้ก็ยังเป็นทางให้รู้จักทำงานด้วยความรอบคอบ
    ไม่เป็นคนหุนหันพลันแล่น ทำให้ตนเองมีเหตุผล และได้รับความสุขตามสมควรฐานะ


    ที่มา...ประตูสู่ธรรม
     
  6. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    ปีใหม่นี้หากไม่ได้ไปไหน อยู่กรุงเทพฯ ไปที่นี่ก็แล้วกันครับ อ่านเอาเอง...
    หลวงปู่มั่นกับพระแก้วมรกต
    <table style="width: auto; display: inline;" id="ipb-attach-table-1043-0-33090100-1261841004" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td>


    [​IMG]

    </td> </tr> </tbody></table> <script type="text/javascript"> //<![CDATA[ fix_linked_image_sizes_attach_thumb( "1043-0-33090100-1261841004", parseInt("640"), parseInt("398"), "179.46กิโลไบต์" ); //]]> </script>

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นหนึ่งในความทรงจำของอดีตพระอุปปัฐฐากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    จะเรียกว่าอดีตพระก็ไม่ได้ เพราะแม้นท่านจะเคยสึกไปมีครอบครัว แต่ปัจจุบันได้บวชใหม่แล้ว หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ หรืออดีตพระทองคำ

    เรื่องราวมีดังนี้

    คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น เรื่องประวัติความเป็นมาของพระแก้วมรกต

    เรื่อง นี้อัตถุปัตติเหตุเกิดขึ้นเมื่อครั้ง พระอาจารย์มั่น พักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือ พระอุปัชฌาย์อุ่น หรือ พระครูบริบาลสังฆกิจ (อุ่น อุตฺตโม) วัดอุดมรัตนาราม อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร) ได้ไปกราบนมัสการฟังเทศน์ และได้นำรูปพระแก้วมรกตขนาด 20 นิ้ว เป็นภาพพิมพ์ใส่กรอบไปถวายท่านพระอาจารย์ แต่ดูท่านจะลืมทำความสะอาด เพราะมีฝุ่นจับอยู่ ท่านพระอาจารย์ก็น้อมรับด้วยความเคารพ

    หลังจาก ท่านอุปัชฌาย์อุ่นลาลงกุฏิไปแล้ว ท่านพระอาจารย์ได้ทำความสะอาด โดยนำผ้าสรงน้ำของท่านฯ มาเช็ดถู ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) เอาผ้าเช็ดพื้นเข้าไปช่วยทำความสะอาดด้วย เพราะเห็นว่าผ้ายังสะอาดอยู่ ท่านหันมาเห็นเข้า พูดว่า

    “อะไรกัน นั่นรูปพระพุทธเจ้าแท้ๆ ยังเอาผ้าเช็ดพื้นมาถูได้”

    ผู้ เล่าสะดุ้งไปทั้งตัว เพราะความโง่เขลาปัญญาอ่อน ท่านฯ ก็เลยทำความสะอาดเอง เสร็จแล้วก็มีเพื่อนภิกษุทยอยกันขึ้นไป รวมทั้งท่านอาจารย์วิริยังค์ด้วย ท่านเลยเทศน์ถึงความมหัศจรรย์ของพระแก้วมรกต ท่านว่า

    “พระแก้ว มรกตประดิษฐานอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ว่างจากพระอริยบุคคล พระอริยบุคคลมีอยู่ในประเทศใด ประเทศนั้นจะไม่ฉิบหายด้วยภัยแห่งสงคราม”

    ท่านพระ อาจารย์มั่นเล่าว่า พระแก้วมรกตหล่อที่ลังกาทวีป ผู้เป็นประธานหล่อคือ พระจุลนาคเถระ เป็นชาวลังกา หล่อเมื่อศาสนาล่วงมาได้ 300 ปี ส่วนแก้วนั้น ท่านเล่าเชิงปาฏิหาริย์ พอเริ่มจะหล่อไม่ได้ตั้งใจจะเอาแก้วมรกตเพราะเป็นของหายาก บอกบุญตามแต่ศรัทธา จะเป็นแก้วอะไรก็ได้ ร้อนถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ มาอาสาเป็นช่างหล่อ และพระองค์มีแก้วอยู่ดวงหนึ่ง ขออนุโมทนาเป็นกุศลด้วย พระอินทร์ไม่ได้เป็นช่าง แต่ช่างคือเทพบุตรชื่อ วิษณุกรรม ส่วนแก้วก็ไม่ใช่ของพระอินทร์ แต่เป็นแก้วอยู่ในถ้ำจิตรกูฏหรืออินทสารนี้ละ ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) ไม่มั่นใจ

    ท่านพระอาจารย์ท่านเล่าว่า เป็นแก้วหน่อเนื้อพุทธางกูร ประจำภัทรกัปป์ เหลืออยู่ 2 ลูก มียักษ์รักษา พระอินทร์ไปขอแก้วดวงใหญ่ ซึ่งสุกใสกว่าจากยักษ์ตนนั้น แต่ยักษ์ไม่ให้ บอกว่าไม่ใช่ของเจ้า จึงให้แก้วดวงเล็กมา พระอินทร์นำมาหล่อเป็นผลสำเร็จ แต่ยังมีแก้วเหลือค้างอยู่ที่เรียกว่าแก้วก้นเตา เผาอย่างไรก็ไม่ละลาย พระจุลนาคเถระจึงอธิษฐานบรรจุไว้ใต้ฐาน ปรากฏว่าเป็นกระปุกระปะ ไม่เรียบ

    หล่อ เสร็จมีการสมโภช ท่านจุลนาคเถระ ได้อธิษฐานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน 5 แห่ง คือระหว่างพระขนง 1 แห่ง พระอังสาทั้งสอง 2 แห่ง พระเมาลี 1 แห่ง และพระนาภี 1 แห่ง ท่านฯ ว่าอย่างนี้

    การเสด็จไปสู่สถานที่ต่างๆ ของพระแก้วมรกตนั้นมีปัจจัย 3 อย่าง คือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เกิดกลียุคในประเทศนั้น และด้วยความรัก

    ท่านพระ อาจารย์เล่าต่อว่า ได้มีการอัญเชิญจากกรุงลังกาสู่นครศรีธรรมราชโดยทางเรือ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา นำโดยเถรเจ้าป่า (คำว่า เถรเจ้าป่า หมายความถึง พระกัมมัฏฐานที่ชอบออกปฏิบัติภาวนาอยู่ตามป่าเขา) อยู่นครศรีธรรมราชก็ไม่ได้กำหนดว่านานเท่าไร ต่อจากนั้นจึงอัญเชิญไปสู่นครวัด นครธม ประเทศเขมร เพื่อเผยแผ่พระศาสนา นำโดยเถรเจ้าป่าอีกนั่นแหละ

    จากนครวัด นครธม สู่กรุงจันทบุรีศรีสัตตนาคนหุต (ประเทศลาว) ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ สาเหตุเกิดกลียุคแย่งราชสมบัติ เถรเจ้าป่าท่านเห็นว่าพระแก้วจะไม่ปลอดภัย จึงได้เอาผ้าห่อแล้วบรรจุลงในบาตร (คงจะเป็นบาตรขนาดใหญ่) เพื่ออำพรางผู้ทุศีลไม่ให้แย่งชิงไป เถรเจ้าป่าองค์นั้นไปอยู่ที่เวียงจันทน์ก็ไม่มีกำหนดปีเหมือนกัน

    จาก นครเวียงจันทน์ก็ได้เสด็จสู่นครลำปาง และนครเชียงใหม่ ด้วยสาเหตุแห่งความรัก เนื่องจากเจ้าผู้ครองเวียงจันทน์ได้บุตรเขยเป็นชาวเชียงใหม่ หลังจากนั้นจะนำบุตรีสู่เชียงใหม่ บิดาให้พรบุตรีว่าอยากได้อะไรก็จะให้ บุตรีจึงขอพระแก้วมรกตไปด้วย ด้วยความรักของบิดาก็จำยอมยกให้

    พอไป ถึงลำปาง ช้างที่นั่งไปไม่ยอมไปเอาดื้อๆ จะขับไสอย่างไรช้างก็ไม่ไป ตกลงกันว่าองค์พระแก้วมีพระประสงค์จะประทับที่ลำปางแน่ พระแก้วก็เลยประดิษฐานที่ลำปางก่อน นานพอสมควรจึงได้อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ท่านก็ไม่ได้บอกว่ากี่ปี ต่อมาบุตรเขยก็เสียชีวิตลง บุตรีเจ้าผู้ครองนครก็กลับสู่เวียงจันทน์ และนำพระแก้วมรกตกลับมาด้วย จึงประดิษฐานอยู่ที่เวียงจันทน์อีกเป็นครั้งที่สอง

    ท่านพระอาจารย์ มั่นเล่าว่า ไทยคือลาว ลาวคือไทย เป็นชาติเดียวกัน แต่ครั้งอยู่ราชคฤห์ แต่หนีตายมาคนละสาย มาบรรจบกันที่แม่น้ำใหญ่ๆ 4 สาย คือ แม่น้ำโขง เจ้าพระยา สาละวิน และแม่น้ำตาปี


    ต่อมาเหตุการณ์บ้านเมืองใน ลาวเปลี่ยนแปลง เกิดกลียุค ราชวงศ์และราชบุตรเป็นศัตรูกัน ราชบุตรมักถูกรังแกใส่ความ ทนไม่ไหวจึงอพยพครอบครัวข้ามโขงมาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง (ปัจจุบัน คือ จังหวัดหนองบัวลำภู) ราษฎรก็ทยอยติดตามมา โดยมีพระตา น้องชายราชบุตรเป็นหัวหน้า ราชวงศ์ยังยกกองทัพมารังแกข่มเหงอีก

    ฝ่าย พระตาและพระวอก็ได้ถอยร่นลงมาสู่ดอนมดแดง คืออุบลราชธานีในปัจจุบันอย่างทุลักทุเล บังเอิญกองทัพทางเวียงจันทน์เสบียงขาดแคลนลง จึงต้องยกทัพกลับ หลังจากนั้นก็ได้ยกทัพมาตีอีกครั้งที่สอง ชาวดอนมดแดงได้ต่อสู้ถวายหัวเต็มกำลังความสามารถ

    พระตาสวรรคตใน สนามรบอย่างสมพระเกียรติ พระวอเห็นท่าไม่ได้การ ได้ให้ม้าเร็วนำสาส์นขอกองกำลังจากบางกอกไปช่วย สมัยนั้นสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์ จึงส่งกองทัพม้าเป็นทัพหน้าเดินทางไปก่อน กองทัพหลวงนำโดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพยกตามไป ชาวดอนมดแดงก็มีกำลังใจสู้ถวายหัว พอกองทัพหลวงยกมาถึง กองทัพทางเวียงจันทน์จึงแตกพ่ายกลับไป

    ทั้งทัพม้าศึกและทัพหลวงแห่ง บางกอก พร้อมกองอาสาสมัครแห่งดอนมดแดง ก็ติดตามไล่ตีไม่ลดละ จนถึงฝั่งโขง และข้ามโขงเข้ายึดนครเวียงจันทน์ได้ทั้งหมด

    หลังจากชนะศึกแล้ว ชาวลาวได้ยินยอมพร้อมใจมอบพระแก้วมรกตและพระบาง ให้มาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ นี่คือสาเหตุที่พระแก้วมรกตมาประดิษฐานในประเทศไทย

    ปีนั้นบางกอกเกิด ฝนแล้ง โหรหลวงทำนายว่า เพราะพระแก้วและพระบางมาอยู่รวมกันเป็นเหตุ สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จึงส่งสาส์นแจ้งไปยังเจ้ามหาชีวิตลาว พระองค์ทรงยินดีรับคืน แต่ให้ส่งไปนครหลวงคือ กรุงศรีสัตตนาคนหุต ไทยได้ทำการสักการะจัดส่งอย่างสมพระเกียรติ ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าอย่างนี้ ตั้งแต่วันพระบางไปถึงกรุงศรีสัตตนคนหุต ก็เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองหลวงพระบางมาจนบัดนี้

    ท่านฯ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมไม่ได้เรียกเมือง “หลวงพระบาง” เรียก “หลวงพระบ้าง” เพราะว่าทองที่หล่อนั้นเป็นทองหลายชนิด ผู้มีศรัทธาไปร่วมพิธีเททองหล่อนั้น มีทั้งสร้อยทองคำ ตุ้มหูทองคำ กำไลทองคำ เงิน ทองแดง นาถ ทองสัมฤทธิ์ เอาออกมาใส่ลงในเบ้าหล่อ โดยทุกคนก็กล่าวว่า ฉันบ้าง ข้าบ้าง กูบ้าง ข้าน้อยบ้าง เมื่อเป็นพระออกมาก็คงจะมีชื่ออย่างอื่น ชื่ออะไรท่านมิได้กล่าวๆ แต่คนนั้นก็ว่าพระบ้าง คนนี้ก็พระบ้าง ลักษณะชายจีวรบางแผ่ออกทั้งสองข้าง เป็นแผ่นบางๆ คนภายหลังมาเห็น เลยกลายจากบ้าง มาเป็นบาง จากพระบ้างมาเป็นพระบางไป

    หลังจากสมเด็จเจ้าพระมหากษัตริย์ศึก ได้เสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 1 แล้ว ได้ยกฐานะบ้านดอนมดแดงขึ้นเป็นเมืองให้ชื่อว่า เมืองอุบลราชธานี ตั้งพระวอเป็นพระวรวงศาธิราชครองเมืองอุบลฯ พระวรวงศาธิราชสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พ้นภัยพิบัติมาได้ จึงได้ประกาศเป็นทางการว่า แผ่นดินฝั่งขวาแม่น้ำโขงทั้งหมดขอขึ้นตรงต่อบางกอก ไม่ขึ้นตรงต่อเวียงจันทน์ ตั้งวันนั้นมาถึงปัจจุบันปรากฏอยู่ในแผนที่ประเทศไทยโดยสมบูรณ์

    หลัง เทศน์จบ พระไปกันหมดแล้วก่อนจะจำวัด ท่านพระอาจารย์ (หลวงปู่มั่น) มักมีคำพูดขำขันบ้าง เป็นปริศนาบ้าง เป็นคำของบุคคลสำคัญพูดบ้าง อย่างที่ผู้เล่า (หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ) กำลังจะเล่าเรื่องภาคกลาง ต่อไปนี้

    [​IMG]

    สมเด็จ พระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสฺโส) เคยพูดว่า ภาคกลางคือ “จอมไทย” (ผู้ปฏิบัติใกล้ชิด คิดอยากรู้อยากฟัง ไม่ต้องถามท่านพระอาจารย์ดอก ถวายการนวดไปท่านก็เล่าไป พอจบเรื่องท่านก็หลับ โปรดเข้าใจการสนทนาธรรมด้วยอิริยาบถนอน เป็นการไม่เคารพธรรม แต่ท่านพระอาจารย์กล่าวว่า เวลานอนมิเป็นการสนทนาธรรม เป็นการพูดกันธรรมดาๆ แบบกันเอง ท่านจึงไม่เป็นอาบัติ)

    คำว่า “จอม” หมายถึง วัตถุแหลมๆ อยู่บนที่สูง เช่น ยอดพระเจดีย์เป็นต้น “จอมไทย” ก็คือ กรุงเทพมหานครเรานี้เอง ท่านที่เป็นปราชญ์ ก็เรียกว่า จอมปราชญ์ มงกุฎฉลองพระมหากษัตริย์ก็เรียก จอมมงกุฎ พระมหากษัตริย์ก็เรียก จอมกษัตริย์ วัดพระแก้วมรกตอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่า จอมวัด ก็ไม่ผิด

    วัด พระแก้วนี้เป็นวัดพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ พระสงฆ์อยู่ไม่ได้ เพราะพระสงฆ์มาจากตระกูลต่างๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียด ไม่รู้พุทธอัธยาศัย พุทธธรรมเนียม เพราะพระพุทธเจ้าเป็นทั้งกษัตริย์ และผู้สุขุมาลชาติ เมื่อพระสงฆ์ไม่รู้พุทธธรรมเนียม ถ้าไปอยู่ก็มีแต่บาปกินหัว

    ท่านฯ ว่า ผู้รู้ทั้งพุทธอัธยาศัยและพุทธธรรมเนียมแล้ว มีพระมหากษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น ครั้งพุทธกาลก็มีพระเจ้าพิมพิสารเท่านั้นทรงรู้ แต่จอมไทยคือ พระมหากษัตริย์ทรงรู้มาแล้ว ได้ทรงสร้างวัดถวายจำเพาะพระแก้วเท่านั้น

    พระ มหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์เป็นหน่อเนื้อพุทธางกูร คือ จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลข้างหน้า ต่างแต่วาสนาบารมีมากน้อยต่างกันเท่านั้น ท่านจึงทรงรู้พุทธอัธยาศัยเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า (พระพุทธศาสนาก็เป็นจอมพุทธศาสนาที่กรุงเทพฯ นี้)

    ไทยนั้นเป็นเจ้า ขององค์พระแก้วมรกต ผู้ใดย่างกรายเข้าสู่วัดพระแก้วเป็นบุญทุกขณะที่อยู่ในบริเวณวัด แม้แต่ชาวต่างชาติ จะเป็นฝรั่ง อังกฤษ อเมริกา มีโอกาสเข้าไปในบริเวณวัดพระแก้ว จะด้วยศรัทธาหรือไม่ก็ตาม ก็ได้เข้ามาสู่วงศ์พระพุทธศาสนาโดยปริยาย หรือจะบังเอิญก็แล้วแต่ สามารถเป็นนิสัยให้เข้ามาได้ ต่อไปจะสามารถมาเกิดเป็นคนไทย สืบต่อบุญบารมีสำเร็จมรรคผลได้

    นี้คือบทสนทนาแบบกันเองของครูและศิษย์

    คัดลอกจาก..ปกิณกะธรรมในหนังสือ “รำลึกวันวาน”

    [​IMG]
    เขียนโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ หน้า 141-145

    http://www.suankhlang.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2009
  7. banjerdw

    banjerdw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +1,110
    สวัสดีครับ พีๆ เพื่อนๆ ญาตธรรมทุกท่าน วันนี้ได้มีโอกาสไปร่วมถวายสังฆทานกับคณะที่ รพ.สงฆ์ เป็นครั้งแรกครับหลังจากที่จดๆจ้องๆ มานาน พร้อมกันนี้ก็ได้พาลูกชายไปร่วมด้วยเพื่อให้เขาเคยชินกับการทำบุญ รู้สึกประทับใจมากครับมีพี่น้องจำนวนเกือบ 50 คนไปร่วมกัน พร้อมกันนี้ยังได้รับแจกพระสมเด็จวังหน้า พร้อมร่วมทำบุญมาอีกหลายองค์ครับ พระแต่ละองค์ทำเอามือชาเลยครับ.......ขออนุโมทนากับคณะด้วยครับ
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101

    ก็ต้องขอขอบคุณกับข้อความข้างบนครับ จริงๆ แล้ว วันครบรอบการก่อตั้งทุนนิธิฯ ครบ 2 ปี เป็นวันที่ 29 เดือนที่แล้ว แต่วันนี้เป็นวันครบรอบที่เริ่มทำบุญครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จึงได้จัดงานขึ้นเป็นพิเศษ และทุนนิธิฯ ก็ได้นำสิ่งที่ดีคือพระพิมพ์ต่างๆ ที่ผมพอจะมีกำลังหามาได้โดยทยอยเก็บสะสมเอาไว้ นำมาแจกให้ฟรีและให้บูชากัน โดยรายได้ส่วนหนึ่งหักต้นทุนค่าพระเพียงเล็กน้อยได้นำเข้าสมทบกับทุนนิธิฯ หมด โดยรายได้ที่ได้รับบริจาคในห้องกิจกรรม พร้อมกับรายได้ที่ให้บูชาพระพิมพ์ต่างๆ ในวันนี้เข้าทุนนิธิฯ ประมาณ 64,000.- ซึ่งเงินทั้งหมดจะได้เก็บไว้เป็นทุนในการส่งไปช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธตาม รพ.ต่างๆ ต่อไป

    ทั้งนี้ ผมต้องขอขอบคุณ คุณสิทธิพงษ์ สงวนศักดิ์ และชาวคณะชมรมรักษ์พระวังหน้าที่ได้นำของวิเศษมาร่วมแจกให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยครับ พร้อมทั้งคุณเด่นหรือคุณ newcomer ที่นำแยมรสอร่อยมาฝาก คุณปู benjapa ที่มาไกลจากอเมริกาที่นำหนังสือธรรมะมาฝาก น้อง katicat น้องตาดีหรือน้องแขกที่นำซีดีมาฝาก และอีกหลายคนที่นำสิ่งของมาฝากแจกกัน ดีครับดีจริงๆ ที่มาช่วยกัน ถือว่าเป็นความสุขช่วงส่งท้ายปีเก่ากันด้วยทานมัยต่างๆ เห็นคำชมของคุณบรรเจิดที่ไปพร้อมกับลูกชายก็หายเหนื่อยครับ วันนี้ถือว่าสนุกมาก แต่ผมว่าคนน่าจะไปมากกว่านั้นนา เพราะพระพิมพ์ที่ผมแจกให้ใส่ถุงไว้ร้อยองค์เรียบวุธหมด น้ำเตรียมไว้ 50 ถ้วย ไม่เหลือหรอ ผมเองคอแห้งยังไม่มีทานในงานเลย ส่วนรูปถ่ายของงานกิจกรรมในวันนี้ทางคุณกรณ์จะได้ทยอยนำลงมาให้ดูกันคงเป็นช่วงเย็น หรือค่ำๆ นี้ล่ะครับ

    สุดท้ายในวันนี้ต้องแสดงความประทับใจกับท่าน อ.ประถม อาจสาคร ที่ท่านเดินทางมาจากชลบุรี เพื่อมามอบพระพิมพ์ต่างๆ ให้กับทุกท่านด้วยตนเอง ทั้งที่อายุท่านมากแล้ว ท่านยิ้มตลอด แถมบอกสรรพคุณหรืออิทธคุณของพระพิมพ์ที่แจกให้ผู้ที่ได้รับเสร็จสรรพ นับว่าเป็นความเมตตาของท่านผู้รู้ในเรื่องพระพิมพ์ทั้งตานอกและตาในเป็นอย่างดี ลูกหลานจึงอดประทับใจไม่ได้ครับ สำหรับพระพิมพ์ในถุงกำมะหยี่สีแดงถึงแม้จะเป็นพระพิมพ์สกุลสมเด็จที่เป็นองค์น้อยแค่ 1*0.5 ซม.แต่ขอโทษที อิทธิคุณจัดจ้านและเข้มแข็งมาก อ.ประถมฯ ถึงกับออกปากขอกับผมเองเอาไว้ใช้ 10 กว่าองค์ ตรวจกันทั้่งตานอกและตาในกันพลาด ก็เห็นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ (โต) ท่านนั่งเสกอยู่เต็มองค์ เข้าใจว่าท่านคงมีวัตถุึประสงค์ที่จะแจกแก่ชาวบ้านและเด็กเล็กทั่วไป ท่านเลยใส่พลังแบบไม่ยั้ง พระพิมพ์สกุลสมเด็จพิมพ์นี้ ท่าน อ.ประถมฯ ท่านเรียกตามโบราณว่า "พิมพ์แป้งกระแจะ" แต่ผมบอกว่าขออนุญาตเรียกเป็นพิมพ์ "แป้งกระแจะจันทร์" จะดีกว่า เพราะกระแสจิตประจำตัวท่านนั้่นดูนุ่มนวลด้วยเมตตามหานิยมด้วยนับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวท่านทีเดียว โดยที่ผมยังเหลืออีกมาก เอาเป็นว่าคนไกล ถ้าอยากจะได้ ให้ส่งจดหมายพร้อมสอดซองเปล่า จ่าหน้าชื่อของตนเองพร้อมกับติดแสตมป์มาให้เรียบร้อย แล้วส่งมาที่อยู่ตามข้างล่างนี้ ผมจะมอบพระให้ โดยใส่ถุงกำมะหยี่สีแดงเหมือนกับที่แจกให้ผู้ที่ร่วมกิจกรรมในวันนี้ พร้อมกับส่งใส่ซองคืนท่านทันที โดยท่านส่งจดหมายมาถึงผมแล้วก็ขอช่วยให้โพสท์ชื่อและที่อยู่พร้อมลำดับที่จองคิวลงมากระทู้ด้วยครับเพื่อที่จะได้ตรวจสอบตัวเลขว่าครบหรือยัง โดยผมจะได้ให้เจ้าหน้าที่ของผมช่วยตรวจสอบอีกครั้งกันพลาดและผิดคิว ผมมีถุงกำมะหยี่สีแดงแค่ 30 ถุง เพราะฉะนั้น ก็จะส่งให้แค่ 30 คนเท่านั้น หมดถุงแล้วก็หมดเลยครับ ใครส่งจดหมายมาแต่ไม่มีซองข้างในหรือมีซองแต่ไม่ติดแสตมป์มาก็ถือว่าผิดกติกาครับ ขอความสวัสดีจงมีแด่ทุกท่านในวันครบรอบการทำบุญของทุนนิธิฯ ในวันนี้ครับ

    พันวฤทธิ์
    27/12/52

    ซองจดหมายจ่าหน้าถึง

    ผู้จัดการโรงเรียน
    โรงเรียนเทคโนโลยีไออาร์พีซี
    309 หมู่ 5 ถนนสุขุมวิท
    ต.เชิงเนิน อ.เมือง
    จ.ระยอง 21000

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2009
  9. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้นับเป็นวันที่ใกล้สิ้นปีเก่าเต็มที เป็นวันที่ดีมากๆอีกวันหนึ่งสำหรับปีนี้ เป็นวันที่ครบรอบ2ปีในการทำบุญกับทุนนิธิฯ หันไปทางไหนมีแต่รอยยิ้มและมีของฝากของมงคลมาแจกกัน ยิ่งได้ฟังรายงานการทำบุญ บริจาคที่ทุนนิธิฯได้ทำมาในรอบสองปีเป็นเงินล้านกว่าบาทและถ้าคิดเป็นพระสงฆ์ที่ทางทุนนิธิฯได้สงเคราะห์ไปแล้วน่าจะเป็นหลักหลายพันรูป ก็ปิติยิ่งขึ้น ได้พูดคุยกับญาติธรรมแบบเหมือนสนิทกันมานานทั้งที่บางท่านเพิ่งเจอกันครั้งแรก สุดท้ายขอโมทนากับทุกๆท่านทั้ง อาจารย์ประถม พี่ใหญ่ คณะกรรมการทุกท่าน เพื่อนๆทุกคนที่ร่วมกันบริจาคและช่วยงานของทุนนิธิฯจนได้มีวันนี้ครับ
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    มาแล้วครับ รูปผ้าห่มหนาวพร้อมอังสะและหมวกไหมพรมที่ทุนนิธิฯ จัดหาให้สำหรับพระสงฆ์ที่อาพาธและยากไร้ประจำปี พ.ศ.2552 โดยชุดแรกนี้รูปส่งมาจาก รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางทุนนิธิฯ ได้โอนเงินจัดซื้อไปเรียบร้อยแล้วเมื่อกลางเดือน ธ.ค. ทางคุณเรณู พยาบาลประจำหอสงฆ์ ผู้ประสานงานของทุนนิธิฯ ส่งรูปมาให้ดูตามสัญญา เพื่อที่ให้ท่านผู้ที่ได้บริจาคผ่านทุนนิธิฯ เข้ามา ได้เห็น และได้อนุโมทนาบุญกัน ทุนนิธิฯ เราตั้งใจมั่นมีศรัทธาเต็มในเรื่องบุญ ผู้อาสาทำงานก็พลอยได้โมทนาบุญกับเราด้วย เห็นรอยยิ้มของผู้ประสานงานที่เป็น จนท.พยาบาล ของ รพ.มหาราชแล้ว สุขใจจริงๆ จะเห็นว่ามุมบนซ้ายนั้น จะติดชื่อผู้บริจาคเป็นทุนนิธิฯ แต่เผอิญถ่ายไกลไปหน่อยเลยอ่านไม่ชัดเจนครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    หนูขอโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
     
  11. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ภาพบรรยายการทำบุญ โรงพยาบาลสงฆ์
    วันที่ 27 ธันวาคม 2552 ครับ

    1. เวลาเช้าก็เป็นการจัดเตรียมของสำหรับถวายพระสงฆ์ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    2. การบริจาค ณ โรงพยาบาลสงฆ์ครับ

    [​IMG]


    [​IMG]

    3. การถ่ายรูปร่วมกัน ณ หน้าตึกกัลยาณิวัฒนาครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC12210 2.JPG
      SDC12210 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.9 KB
      เปิดดู:
      274
    • SDC12212 2.JPG
      SDC12212 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.8 KB
      เปิดดู:
      261
    • SDC12215 2.JPG
      SDC12215 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      91.6 KB
      เปิดดู:
      267
    • SDC12218 2.JPG
      SDC12218 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.2 KB
      เปิดดู:
      275
    • SDC12222 2.JPG
      SDC12222 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      107.6 KB
      เปิดดู:
      272
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2010
  12. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ตอนที่ 2 ครับ

    [​IMG]


    คราวนี้ปู่มาด้วยนะครับ

    [​IMG]

    ต่อด้วยการอธิฐานจิตร่วมกันครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    และร่วมกันทำพิธีครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC12223 2.JPG
      SDC12223 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.2 KB
      เปิดดู:
      257
    • SDC12236 2.JPG
      SDC12236 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      183.8 KB
      เปิดดู:
      274
    • SDC12248 2.JPG
      SDC12248 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.4 KB
      เปิดดู:
      259
    • SDC12249 2.JPG
      SDC12249 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.5 KB
      เปิดดู:
      272
    • SDC12252 2.JPG
      SDC12252 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      266
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2010
  13. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ตอนที่ 3 ครับ

    ยังคงอยู่ร่วมพิธีครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC12253 2.JPG
      SDC12253 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.5 KB
      เปิดดู:
      251
    • SDC12254 2.JPG
      SDC12254 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.5 KB
      เปิดดู:
      256
    • SDC12255 2.JPG
      SDC12255 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      124.3 KB
      เปิดดู:
      252
    • SDC12257 2.JPG
      SDC12257 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      210.3 KB
      เปิดดู:
      264
    • SDC12259 2.JPG
      SDC12259 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.6 KB
      เปิดดู:
      238
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2010
  14. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ตอนที่ 4 ครับ

    [​IMG]

    และร่วมกันและช่วยกันถวายครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    และพระท่านให้พรครับ

    [​IMG]

    และหลังจากนั้นมาร่วมกันที่อาคารหอฉันครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC12261 2.JPG
      SDC12261 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      213.4 KB
      เปิดดู:
      251
    • SDC12262 2.JPG
      SDC12262 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      116.5 KB
      เปิดดู:
      247
    • SDC12266 2.JPG
      SDC12266 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      127.5 KB
      เปิดดู:
      245
    • SDC12267 2.JPG
      SDC12267 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.2 KB
      เปิดดู:
      227
    • SDC12268 2.JPG
      SDC12268 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      118.6 KB
      เปิดดู:
      248
    • SDC12275 2.JPG
      SDC12275 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      231.8 KB
      เปิดดู:
      238
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2010
  15. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    ตอนที่ 5 ครับ

    การแจกพระของชมรมพระวังหน้าครับ

    [​IMG]

    แถลงการยอดบริจาคครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปิดท้ายด้วยการมอบเงินค่าภัตรหารครับ

    [​IMG]

    โชคดีปีใหม่สำหรับทุกท่านครับ ที่เข้ามาร่วมทำบุญ ร่วมชม ร่วมอนุโมทนาครับ

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC12277 2.JPG
      SDC12277 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.5 KB
      เปิดดู:
      229
    • SDC12281 2.JPG
      SDC12281 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121.7 KB
      เปิดดู:
      243
    • SDC12285 2.JPG
      SDC12285 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      247
    • SDC12286 2.JPG
      SDC12286 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      135 KB
      เปิดดู:
      262
    • SDC12289 2.JPG
      SDC12289 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      215.7 KB
      เปิดดู:
      237
    • SDC12298 2.JPG
      SDC12298 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      117.7 KB
      เปิดดู:
      242
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 มกราคม 2010
  16. ก้าวพ้น

    ก้าวพ้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +390
    สาธุขออนุโมทนาเมื่อวันศุกร์โอนแล้ว300บาทจากไทยพานิชย์ 8.11น ขอจองพระ1องค์ ที่อยู่นายโกวิทย์ บุญญาสุ 18 ทรูทาว์เวอร์ชั้น30 ถนนรัชดา แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพ.10310
     
  17. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,789
    ค่าพลัง:
    +16,101
    เรื่องขอพระไม่จำเป็นต้องบริจาคมาก็ได้ครับ ถือว่าเป็นการสวัสดีปีใหม่ แก่ผู้ที่เข้ามาอ่าน และถือว่าเป็นการให้ที่มอบด้วยความเต็มใจจากทุนนิธิฯ แห่งนี้ครับ แต่ถ้าหากอยากจะทำบุญก็ใส่เข้าบัญชีของทุนนิธิฯ ไป ใส่เพื่อสะสมไว้มอบช่วยเหลือแก่สงฆ์ที่อาพาธตาม รพ.ต่างๆ บุญที่ได้ท่านก็ได้ติดตัวข้ามภพข้ามชาติของท่านไป ผมเป็นแค่เพียงสะพานบุญให้ท่านทั้งหลาย และสุขใจที่ได้ช่วยเหลือพระสงฆ์ เณร หรือแมีชีที่ยากไร้ครับ สำหรับผมและคณะกรรมการฯ เจตนารมย์ก็มีเท่านี้จริงๆ ....ของดีก็คงมีไว้เฉพาะผู้ที่ต้องการเท่านั้น "พระท่านก็เลือกคนที่มีวาสนาเกื้อกูลมากับท่านเหมือนกันนาจะบอกให้"

    พันวฤทธิ์
    28/12/52
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2009
  18. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    ผมขอรับด้วยนะครับ ขึ้นคิวไว้ตามที่พี่พันวฤทธิ์แจ้งไว้นะครับ
    วันนี้หรือไม่เกินพรุ่งนี้จะรีบส่งซองไปตามกติกานะครับ
    ต้องขอขอบพระคุณพี่และในคณะทุนนิธิทุกๆท่านด้วยนะครับ
    ที่ให้โอกาสได้ทำบุญดีๆแบบนี้ แล้วยังนึกถึงคนไกลให้ได้รับสิ่งล้ำค่าอีกครับ
    ขอโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยนะครับ

    ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าครับขอขึ้นลำดับที่1นะครับ
    ขอบคุณครับ
     
  19. bosscom

    bosscom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +292
    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ ..คิดว่าจะทำบุญกับพระอาพาธ มาเจอกระทู้นี้พอดี เดี๋ยวจะโอนเงินเข้าบัญชีครับ
     
  20. Pojjie

    Pojjie สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +7
    น้องใหม่เพิ่งสมัครและมาเจอกระทู้นี้ขอรับด้วยคนนะค่ะ
    จะหาโอกาสไปร่วมทำบุญที่รพ.สงฆ์ด้วยนะค่ะ
    ขอบพระคุณมากๆค่ะ จะส่งซองตามมานะค่ะขอลงลำดับนะค่ะ ลำดับที่2ค่ะ
    โมทนาบุญด้วยนะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...