ชมรมนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์

ยิ่งอยากได้ยิ่งไม่ได้

ยิ่งยึดติดยิ่งผูกมัด

ทำให้หลงและเกิดกิเลส

ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบไปเรื่อยๆ

สิ่งที่ได้ขึ้นอยู่กับบุญและกรรมของแต่ละคน

 

งุงิ เข้ามาลงชื่อ รอบที่ 5 ก่อนเรยย ค่ะ อย่างอื่นค่อยว่า กัน =_=

ลองดูซิ จิตจะให้ไป หรือเปล่า -*-

 

กลับสู่คืน..love_(คือความว่างหัวใจเป็นธาตุที่ปรุงแต่งไม่ได้)ส่วนจิตหรือเจตสิกนั้นมันวุ่น

 

สติตามรู้ดูจิตเคลื่อนไหว สาดส่ายสับสนเวียนวนวุ่นวายหากวางลงได้กลับสู่คืน......<!-- google_ad_section_end -->

สาธุ อนุโมทนาค่ะ ชื่นชอบ ปรัชญาธรรม ที่คุณpkawatr9 ให้มามากๆเลยค่ะ
มีความหมายลึกซื้ง ลุ่มลึก มีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังปฏิบัติธรรมมากค่ะ

 

..เธอจงเป็นโจท์กตนเอง,
จงพิพากษาตนด้วยตน,
จงมีสติคุ้มครองตน,
เธอจักอยู่เป็นสุข..

 

ทางที่ทรุดโทรมเต็มไปด้วยอวิชชา วิกฤตศรัทธา กลับถูกเรียกว่าทางตรง
ผู้ดูแลซ่อมทางตามคำสั่งคำสัจหวังให้ผู้คนได้ใช้สัญจรกลับถูกเรียกว่าทางอ้อมหรือผู้หลงทาง เฮ้อ...ยึดๆๆๆๆๆๆๆpig_cryy

 

มีใครเคยลงองค์แบบจริงๆ ที่ไม่ได้ใช้จิตตัวเองบ้าง เพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์ช่วยเล่าประสบการณ์ให้หน่อยค่ะ

 

คือ ขอเรียกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วกันนะคะ - -''

มันมีหลายกรณีคะ

บางคนก็เป็นร่างทรง ร่างทรงในทีนี้คนที่ปฏิบัติมานานๆจะรู้ว่าแท้รึเทียม

บางคนก็ญาณแฝง ส่วนมากที่เป็นญาณแฝงจะได้จากการปฏิบัติ

ถ้าจะอธิบายจริงๆมันยาวมากอ่ะค่ะ - -a

 

ตอบคุณควายดำ

สิ่งที่คุณถามมา ผมเข้าใจว่า คุณรู้เรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี เพียงแต่ต้องการแก้ข้อสงสัยและต้องการความเห็นว่าตรงกับใจตนเองหรือเปล่า

เรื่องราวของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งเหนือสามัญวิสัย
หากไม่ได้ประสบพบด้วยตนเอง ส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล
หรือไม่ใช่ทาง หรือคนหลงทาง

ศาสนา หากไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นองค์ประกอบ ก็ไม่สามารถเรียกว่าศาสนาได้เช่นกัน
ศาสนา นอกจากพระคัมภีร์แล้ว ยังประกอบไปด้วย พิธีกรรม หลักธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์
และวันสำคัญทางศาสนา

วัดบางวัดที่คนไปกราบไหว้ ก็ล้วนแล้วแต่ไปบูชาหรือสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็น
ศิริมงคลแก่ตน ด้วยพลังมหาชนนี้แหละที่ทำให้ความมีมนต์ขลัง บ้างก็เป็นไปตามแรงอธิษฐาน

สำหรับเรื่อง การเปล่งรัศมี หรือฉัพรรณรังสี หรือออร่า หรือ HOLO ย่อมมีอยู่แล้วในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากเราไม่มองในรูปลักษณ์ แต่จะมองในลักษณะพลังงาน ซึ่งมีได้ในทุกๆ สรรพสิ่ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ปรากฎอยู่ในกายสังขารเรา ก็คือ ปราณ หรือ นที นั่นเอง ที่ได้รับการฝึกฝน
อย่างถูกวิธี ก็จะฉายสิ่งนี้ออกมา ตามกำลังบารมี ก็จะได้ไม่เหมือนกัน

ความศักดิ์สิทธิ์ของพระอริยะเจ้า ก็วัดจากสิ่งได้นี้เหมือนกัน นอกเหนือจากความบริสุทธิ์และปราศจากกิเลสทั้งหลาย

ส่วนการบิดเบือนกาย หรืออวตาร หรือการแบ่งพระภาค ย่อมมีในสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ล้วนแล้วแต่เป็นองค์เดียวกัน ตามกำลังบารมีของผู้ปฏิบัติ ท่านก็จะบิดเบือนกายตามสภาพแวดล้อม สังคม คตินิยม พูดง่ายๆ เป็นตามจริตมนุษย์ มนุษย์ปรารถนาให้เป็นอะไร ท่านก็เป็นได้หมด จิตมนุษย์ก็แบ่งแยกมาจากจิตใจ เพียงแต่เราไม่ทราบวิถีของมัน เหมือนกับเรามีพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด เป็นต้น แต่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมเหนือกว่า พิเศษกว่า

แต่หากคุณอยากเข้าใจให้ถ่องแท้ ก็ขอให้สมัครชมรมฯ จะได้สอบถามและพบปะนักปฏิบัติธรรมด้วยกัน จะได้หายสงสัย หรือโทรมาหาผมก้ได้ครับ ยินดีที่จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่องนี้ครับ

 

*-* หาเบอร์ดูได้ในกระทู้ค่ะ

dencee

 

แล้ว ตกลง รอบที่ 5 กำหนดวัน หรือ ยัง ค๊ะ ??

 

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเพื่อเป็นข้อควรระวังสำหรับผู้มีองค์
- ไม่ใช่สิ่งไม่ดีหรอก แต่เทพบางองค์ก็มีเหตุผลที่ต้องปกปิดองค์เอง
เพราะ..ยามเมื่อเจอเทพแฝงองค์อื่นที่รู้จักกันจะถูกพัวพันทั้งดีและไม่ดี

- ถ้าปฏิบัติมากๆ ร่างบารมีสามารถเพิ่มสภาวะทิพย์ได้ก็จะสามารถรับพลังขององค์เทพเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ออร่าก็จะเปล่งแสงเพิ่มมากขึ้นตาม
ข้อเสีย..เมื่อเจอระดับเกจิอาจารย์หรือผู้มีวิชาแก่กล้าจะสามารถมองเห็นออร่าได้ก็จะถูกพัวพันอีก
(ถ้าดีอาจแค่ทักทาย ท่านก็มาด้วยรึ?) (ถ้าไม่ดีก็จะลองดีส่งพลังเข้าทำร้ายร่างเพื่อทดสอบพลัง)

- ออร่าแต่ละองค์สีก็จะไม่เหมือนกัน เช่น สีทอง สีขาว สีเขียว สีแดง

- องค์ชั้นสูงก็จะสามารถบิดเบือนกายได้หลายรูปแบบ สามารถเป็นเทพองค์ไหนก็ได้ จะเป็นชายหรือหญิงก็แล้วแต่จะเนรมิตตามความเหมาะสมกับหน้าที่ที่ต้องทำ

- เทพชั้นสูงที่แบ่งภาคทำให้แยกได้ลำบากเพราะแต่ละองค์พระพักตร์ใกล้เคียงกันพอสร้างบารมีเสร็จหรือทำหน้าที่เสร็จก็จะกลับไปรวมกับจิตหลัก แต่จิตทุกจิตจะมีกระแสที่เชื่อมต่อกันเหมือนสายใยที่มองไม่เห็น ไม่ว่าร่างหรือจิตที่แบ่งภาคได้รับอันตรายที่ใด จิตหลักจะรับรู้หรือร่างแบ่งภาคอื่นหรือสหายธรรมที่อยู่ใกล้เคียงจะทำการช่วยเหลืออย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันไม่ให้ร่างที่โดนทำร้ายได้รับอันตราย

 

อนุโมทนาสาธุด้วยคนครับ....ขอเหล่าบรรดาร่างทั้งสื่อญาณและทรงญาณ จงพ้นทุกข์พ้นร้อน พ้นอบายด้วยเถิด....ขอเหล่าบรรดาขุนพลสวรรค์ในทุกสายพระญาณที่อยู่ในเวปนี้ ได้โปรดช่วยอบรมชี้ทางพื้นฐานในการปฏิบัติเพื่อที่จะรับโองการจากเบื้องบนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ใช้โองกูหรือจิตกู แทนที่ได้พบสัมผัสความมีอยู่จริงจะได้ปิดประตูนรกอย่างสิ้นเชิง แต่กลับหลงระเริงเต็มไปด้วยความอยาก ปรุงแต่งสุดท้ายก็เบียดเบียนทั้งจิตวิญญาณของตัวเองและทรัพย์สินเงินทองของผู้อื่น ผมสงสารเหล่าบรรดาร่างจริงๆ อยากให้เขาได้พบทางสว่างพ้นทุกข์พ้นร้อน เพราะส่วนใหญ่นั้นตกอยู่ในความไม่รู้มากกว่า
ที่จะตั้งใจชั่ว ก็คงเหมือนกับพระที่คำภีร์เปล่ามีเปรียญแต่ไม่มีปัญญาและจุดมุ่งหมายที่จะพ้นทุกข์ หรือพราหมณ์บัณฑิตที่ทำพิธีกรรมให้มนุษย์บูชาพระเจ้าแต่เป็นเพียงผู้ใกล้ชิดแต่รูปปั้น ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่าพระองค์ทรงมีพระเมตตาเหน็ดเหนื่อยขนาดไหนทรงออกทำงานมากมายเพื่อให้คนได้รู้จักถึงความมีอยู่จริง
และผู้คนทั้งหลายได้เข้ามากกราบไหว้รู้ปปั้นที่ตัวเองเฝ้าและหวงแหนอยู่นั้นโดยที่ไม่ต้องมีผู้ใดไปโฆษณาและประชาสัมพันธ์แต่อย่างใด การที่เข้าถึงพระเจ้าหรือเข้าถึงธรรมไม่ได้ในขณะที่ตัวเองมีหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกาศและจรรโลงแต่มัวมามั่วอยู่กับวัตถุ สรรเสริญและลาภสักการะต่าง อย่างนี้ในเมืองมนุษย์เขาเรียกว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็คงไม่พ้นอบายอีกเช่นกัน
สุดท้ายขอกราบแทบพระบาทต่อคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์(ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมคำสั่งสอน) และธรรมชาติแห่งความมีอยู่จริงผู้เมตตา ขอบารมีของพระองค์ได้โปรดอนุโมทนาประทานพรให้ปวงข้าพเจ้าและทุกคนในเวปนี้จงพบแสงสว่างแห่งปัญญาและชนะอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิดพระเจ้าข้า.......;aa17
ห

 

ขอบคุณมากค่ะ คุณภราดรภาพ คุณสมรปราง คุณSakichan และคุณPakawatr9 ที่ได้ให้ความรู้แนวคิดการปฏิบัติให้เข้าถึงความมีอยู่อย่างแท้จริง และจะตั้งใจปฏิบัติตามคำแนะนำที่ดี เพื่อจิตวิญญาณที่สูงขึ้นในภพภูมินี้และภพภูมิต่อๆไปค่ะ

 

พูดยังไม่ทันขาดคำเลยโดนจนได้ขออนุญาต..เล่าแล้วกัน
พี่ชายได้พระเครื่องเก่ามากๆๆ (ทำจากศิลาแลง, ทำจากดินเหนียว,พระผง,ฯลฯ) เห็นมันเก่า ๆๆ ดูขลังดีก็เลยเอาไปล้างน้ำให้สะอาดและเก็บใส่พานไว้หัวนอน อ่านหนังสืออยู่ดีๆ จิตเข้าสู่ภวังค์พบว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้ทั้งมือและเท้าขยับไม่ได้แบบที่เขาเรียกว่าถูกผีอำกลางวันแสกๆๆ เนี่ยนะ

กำหนดจิตขยับร่างไม่ได้เกิดความโมโหและรับรู้ว่ามีบางสิ่งแปลกปลอมอยู่ในห้องได้ยินเสียงผู้ชาย (มีอายุ) สวดบางสิ่งบางอย่างอยู่ภายในห้องนอน

รวบรวมความกล้ากำหนดจิตอีก 2 ครั้งถึงจะหลุดจากพันธนาการลุกขึ้นมาสะบัดหัว 2 ที ร่างทั้งร่างเจ็บปวดไปหมดเหมือนถูกทำร้าย กำหนดจิตถามองค์ว่า เกิดอะไรขึ้น? .....บอกให้นำพระเครื่องที่อยู่บนหัวนอนออกไป ไม่มีคำอธิบายต่อ ทำให้ข้าพเจ้าไม่เข้าใจแค่พระเครื่องธรรมดาไม่น่ามีปัญหา

...ท่านแม่ชีโทรมาถามเมื้อกี้ว่าลูกเป็นอะไร? (เป็นเรื่องแปลกที่กระแสจิตเชื่อมกันได้เพราะเมื่อข้าพเจ้าได้รับอันตรายหรือมีปัญหา) ท่านแม่บอกว่าพระเครื่องที่ไม่รู้ที่มาทำจากอะไรก็ไม่รู้ อาจเป็นดินจากป่าช้า หรือผู้เรืองอาคมปลุกเสกด้วยคาถาต่างเพื่อให้คงกระพัน กันภูตผี บางครั้งสร้างไม่ถูกไม่ใช่พุทธคุณกลับเป็นไสยเวทดำแทน ลูกไม่ควรเก็บมาเลย

แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรเขาเลยทำไมเขาต้องทำร้ายข้าพเจ้าด้วย
...เด็กเอ๋ย ถ้าทุกคนคิดแบบลูกนะโลกคงจะสงบสุขไม่มีการทำร้ายกันหรอกลูก
;k06..กะจะนอนกลางวันให้สบายสักกะหน่อย โดนกวนจนได้...

 

ขอบคุณครับ จะได้ระวังตัว
แล้วคุณสมรปรางจะจัดการกับพระเครื่องอย่างไรครับ

 

น่ากลัว ~.~

 

โองการ ก็คือ โอม มนตราทุกมนตรา ที่ขึ้นต้นด้วย โอม (อุ อะ มะ) ล้วนแล้วแต่มาจากศาสนาพราหมณ์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสายฮินดู หรือสายทิเบต ก็ตาม เช่น โอม นมัส ชีวาย หรือ โอม มณี ปัทเม ฮุง เป็นต้น คำว่า โอม เหมือนสรรพนามเรียกขาน พระนามของพระบิดา โอม จึงเป็นสัญญลักษณ์แห่งเอกภพ
หากเป็นสายพระนารายณ์ จะขึ้นต้นด้วย นะโม บางครั้ง ก็ใช้แบบผสม เช่น โอม นะโม พุทธายะ

ร่างทรงก็ดี คนมีองค์ก็ดี โปรดอย่าเพิ่งด่วนสรุป คนที่เป็นร่างทรงที่ไม่หวังลาภสักการะ หรือศรัทธา ก็มี แต่พบเห็นได้น้อยมาก ร่างทรงจะดีหรือไม่ ให้ดูที่เจตนาและการปฏิบัติธรรม มีธรรมะหรือไม่ หวังลาภสักการะหรือไม่ ซึ่งผมเองมีประสบการณ์กับบุคคลเหล่านี้พอสมควร ทั้งในแง่บวกและลบ สิ่งนี้จึงมีให้ใคร่ครวญและพิจารณา

เราในฐานะฆารวาส ก็ไม่อยากไปติเตียนให้มัวหมอง เห็นๆ กันอยู่ มีข่าวคราวให้เห็นแทบทุกวัน สังคมเสื่อมทรามเพราะคนเหล่านี้ ซึ่งยังมีจิตใจสกปรกอยู่ โลกละครใบนี้ยังมีให้เห็นให้รู้เรื่อยๆ ก็ขอตามรู้และปล่อยวางกับโลกธรรมแปด

ขออนุโมทนา และขอให้ท่านเจริญในธรรม

 

*-* บททดสอบยังมีอีกเยอะ

_ sweet Home _

 

ประกาศ !!!
รายนามนักปฏิบัติธรรมและคนมีองค์ รุ่นที่ 4/2552
ประจำวันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2552

คนที่ 1 คุณ ดอกบัวบาน
คนที่ 2 คุณ rinry
คนที่ 3 เพื่อนคุณ rinry
คนที่ 4 คุณ tripoom (ตรีตฤณ)
คนที่ 5 คุณ Secret_Garden
คนที่ 6 เพื่อนคุณ Secret_Garden
คนที่ 7 คุณน้ำค้าง
คนที่ 8 เพื่อนคุณน้ำค้าง
คนที่ 9 คุณ soundbank
คนที่ 10 คุณนีนี่
คนที่ 11 คุณเบลล์
คนที่ 12 คุณ deviroth
คนที่ 13 แฟนคุณ deviroth
คนที่ 14 เพื่อนคุณ deviroth
คนที่ 15 คุณอภิธีโร
คนที่ 16 คุณ reflexology
คนที่ 17 คุณศิริรัตน์
คนที่ 18 คุณสุดารัตน์
คนที่ 19 คุณณภัสสร
คนที่ 20 คุณทานะบารมี
คนที่ 21 คุณกันกนิษฐ์
คนที่ 22 คุณภัควัต
คนที่ 23 คุณวิจิตรา
คนที่ 24 คุณ pkawatr9

<!-- google_ad_section_end -->การเดินทาง
1) เส้นทางหลัก คือ ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก
2) อยู่ตรงข้ามกับ เทสโก โลตัส บางใหญ่ หากมาเส้นทางผ่านหน้าเทสโก้โลตัสบางใหญ่ ให้ขับรถเลยไปอีกประมาณ 500 เมตร แล้วยูเทิร์นใต้สะพานเพื่อยังไปยังถนนคู่ขนาน
3) ก่อนถึงที่หมาย สังเกตุ ป้ายปั้มน้ำมัน ปตท. (ปั้ม jet เดิม) ถัดจากปั๊ม ปตท. ประมาณ 100 ม. จะถึง หมู่บ้านพฤกภิรมย์ก่อน ถัดไปอีก 200 เมตร ก็จะถึง หมู่บ้านลัดดารม์ ปิ่นเกล้า (จะมีป้ายตัวโตๆ บอกไว้)
4) ก่อนผ่านป้อมรักษาความปลอดภัย บอกเจ้าหน้าที่ว่าจะไปบ้านเลขที่ 98/318 ซอย 2/18 นะครับ

โปรแกรม
10.00 - 11.00 พบปะและสนทนากลุ่ม
11.00 - 12.00 เปิดรอยกรรม
12.00 - 13.00 รับประทานอาหารเที่ยง
13.00 - 14.00 บรรยายธรรม หัวข้อเรื่อง การภาวนา (สติ สมาธิ และปัญญา)
14.00 - 15.00 นั่งสมาธิ
15.00 - 16.00 สอบอารมณ์

หมายเหตุ
1. การเปิดรอยกรรม
- ก่อนการเปิดรอยกรรม ขอให้ผู้เข้าร่วม โปรดนำเงินใส่ซองที่จัดให้ จำนวนเงินตามจำนวนอายุ บวกอีก 9 บาท เช่น อายุ 35 ปี ใส่ซองเงิน 44 บาท (เกิน 9 บาท) เมื่อเปิดรอยกรรมแล้วเสร็จ ขอให้นำซองเงินของตนกลับคืนไป เพื่อสร้างบุญกุศล ทั้งนี้ ให้นำเงิน 9 บาท ใส่กลับไปในพานให้กับเจ้าภาพนำไปสร้างบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของท่าน เพื่อเป็นการแก้เคล็ด
- ผู้รับการสแกน ควรเตรียมคำถามไว้ล่วงหน้า คำถามควรเป็นสิ่งที่เปิดเผยได้ไม่เกิน 5 คำถาม หากเป็นความใน ขอให้คุยนอกรอบเป็นการส่วนตัวครับ
- เนื่องจากเวลาค่อนข้างจำกัด และจำนวนคนค่อนข้างมาก คำถามควรกระฉับ
- ผู้เข้าร่วมเปิดรอยกรรมสามารถเล่าประสบการณ์และความรู้ เพื่อแบ่งบันให้กับพี่น้องและญาติธรรมได้ตามแต่เห็นสมควร

2. อาหารและเครื่องดื่ม
- เจ้าภาพได้จัดอาหารและเครื่องดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่หากท่านใดมีศัทธาจะขอร่วมบุญด้วย ขออนุโมทนาเต็มกำลังครับ

3. หัวข้อบรรยายธรรม
- เนื่องจากผู้เข้าร่วม ล้วนแล้วแต่เป็นปัญญาชน มีการศึกษาในระดับสูง ผู้บรรยายจะมุ่งเน้นและนำเสนอหลักธรรมพระพุทธศาสนาเชิงวิชาการ แต่หากมีศาสนาอื่นๆ เช่น คริสต์ อิสลาม ฮินดู ผู้บรรยายจะขอปรับเปลี่ยนหัวข้อตามความเหมาะสม

4. การสอบอารมณ์
- เนื่องจากผู้เข้าร่วมปฏิบัติ มีการฝึกฝนและจริตแตกต่างกัน บางท่าน ฝึกพลังจิต พลังกุลฑาลินี พลังจักระ พลังธรรมจักร พลังหมุน บางท่านฝึกแบบสุขวิปัสสโก บางท่านฝึกแบบวิชชาสาม บางท่านฝึกแบบมโนมยิทธิ บางท่านฝึกแบบมีองค์บารมี รวมไปถึงการเข้าฌาน 1 - 4 และฌานสมาบัติ ซึ่งสภาวะต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ผู้สอบอารมณ์อาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง และเวลาค่อนข้างจำกัด ผู้สอบอารมณ์จะให้ท่านจับกลุ่มกับนักปฏิบัติธรรมขั้นสูงหรือจริตคอเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

หากท่านใดมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ 081 - 808 6695 คุณภราดรภาพ


ขอบพระคุณอย่างสูง ณ โอกาศน
<!-- google_ad_section_end -->