ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Me, myself, 3 มีนาคม 2009.

  1. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    พี่me,myselfคะ หลวงปู่ใหญ่ท่านมาหลายรูปแบบค่ะ
    คราวก่อนตอนมาสอนกสิณให้อ้อยยังมาอีกชื่อหนึ่งเลยค่ะ ท่านบอกว่าชื่อท่านมีเยอะ ร่างท่านก็มีแยะ ถ้าอยากรู้ให้กำหนดจิตเอง

    หลวงปู่อ่ะ หนูไม่ได้ไปกราบหลวงปู่สามสี่วันเอาหนูออกอากาศช่องสิบเลยอ่ะ (ลิงน้อยนั่งทำตาปริบๆ)

    ต้องขอกราบหลวงปู่ด้วยศรัทธาสูงสุดเลยเจ้าค่ะ
    เพราะหลวงปู่ท่านเมตตามากจึงได้เตือนฝากพี่me,myselfมา ช่วงนี้อ้อยอ่านเยอะ แต่ก็เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่งค่ะ คือไม่อยากท่องจำ อยากให้เข้าใจโดยการใช้ปัญญาพิจารณาให้เข้าถึงธรรมจริงๆ แต่ด้วยความเขลาของอ้อยก็เลยเหมือนที่หลวงปู่ว่าไว้อ่ะค่ะ ป้ำๆเป๋อๆเด่ะเลยอ่ะ

    ขอบพระคุณพี่me,myselfอีกรอบนะคะ ที่นำคำเตือนอันมีค่าจากหลวงปู่ใหญ่ฝากมาถึงอ้อยค่ะ ก็จะพยายามเร่งบำเพ็ญเพียรให้ดียิ่งขึ้น ศีล สมาธิ ปัญญา จะยึดไว้เป็นหลักเลยค่ะ ^_^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  2. |ฅนจร|

    |ฅนจร| เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +229
    พึ่งสมัครสมาชิกใหม่ ผมอนุโมทนาบุญไม่เป็น ครับ ขอโทษด้วยครับ
     
  3. |ฅนจร|

    |ฅนจร| เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +229
    เย้เย้ๆๆๆ หาอนุโมทนาเจอแล้วครับว่าเค้ากดกันที่ตรงไหน หุหุ อยู่ ข้างล่างนี้เอง
    ผมติดงอมแงมเลย และขอเป็นกำลังใจให้ พี่ฝน พี่ ME (ขออนุญาตเรียกนะครับ)และทุกๆคนนะครับ ที่นำประสบการณ์ดีๆที่น้อยคนนักจะสัมผัสได้มาเผยแพร่เป็นบุญตาของผมครับ ผมก้อขอเป็นส่วนหนึ่งนะครับที่จะตั้งจัยฝึกฝนตัวเอง เพื่อไปสู่พระนิพพานให้ได้ครับ
     
  4. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0

    ไอ้อาการวูบๆเหมือนจะหลับแต่ยังมีสตินี่ น้องไปได้ไกลแล้วนะคะ ถ้านั่งต่อไปไม่ถอนซะก่อนอาจจะได้ฌานสี่ ลองพยายามต่อไปค่ะ

    ส่วนเวลานอนลองนอนภาวนาดูสิค่ะ จับลมหายใจภาวนาจนหลับไปน่ะค่ะ อาจจะดีขึ้นก็ได้ ลองไปทำดูก่อนนะคะ แล้วค่อยมาบอกเล่ากันอีกที
     
  5. โครตภู

    โครตภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +3,631
    โห พอหลวงปู่บอกว่ากำลังเรียกคนมาเพิ่ม ก็มีน้องใหม่ๆเข้ามาทันทีเลย สาธุ สาธุ ช่วยกันๆ
     
  6. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    จริงๆหลวงปู่ท่านหมายถึงพวกกลุ่มอื่น สายอื่นด้วยน่ะค่ะ ไม่ใช่เฉพาะสายนี้ เพราะมีหลายกลุ่มมากค่ะ ต่างคนก็ต่างทำหน้าที่กันไปค่ะ สายไหนก็สายนั้นแต่ว่าทุกสายต่างก็มาช่วยเหลือประเทศค่ะ
     
  7. konkangwad

    konkangwad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +5,910
    อาการนิ่งๆแล้วจะวูบผมก็เป็นครับรู้สึกตัวแต่คิดว่าเราง่วงก็ถอนความรู้สึกกลับมาจะไปต่ออย่างไรครับเพราะคิดว่าเราจะหลับ
     
  8. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089

    ก่อนอื่นเอต้องขอออกตัวก่อนนะคะพี่ๆและเพื่อนๆกัลยาณมิตรทุกๆท่าน ณ.ตอนนี้การฝึกกรรมฐานของเอก็ยังด้อยกว่าพี่ๆเพื่อนๆนักค่ะ ไม่ได้ไปไหนไกลเลยพึ่งจะเริ่มต้นเช่นเดียวกัน ที่ติดตัวมาแต่เกิดมีเพียงลางสังหรณ์และความฝันที่น่าเชื่อถือที่สุดแล้ว โดยปกติมักจะเล่าเรื่องต่างๆให้แค่คนในครอบครัวและเพื่อนที่สนิทๆฟังเท่านั้นนะคะ ขนาดที่ว่าสนิทแล้วพวกมันก็ยังมีทำหน้าไม่เชื่อถือเราอยู่เลยบางที เลยไม่ค่อยกล้าเล่าเท่าไหร่ กลัวเค้าหาว่าบ้า แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วมีคติใหม่ "ถึงจะบ้าก็บ้านิพพาน 5555" งั้นเรามาบ้านิพพานด้วยกันนะคะ

    เอต้องขอยืนยันนะคะ เห็นมาแล้วค่ะ หลายครั้งแล้วด้วย ยิ่งปีนี้ท่านมาสงเคราะห์หนักให้ฝันเห็นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ (ตอนนี้ยังไม่ทราบนะคะว่าท่านที่ดูแลเออยู่คือใคร เลยเรียกท่านไปก่อนค่ะ) เหมือนกับว่าท่านเมตตามาแจ้งสัญญาณให้รู้แล้วว่าเหตุการณ์มันกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆแล้วนะ ส่วนมากเอก็จะเห็นเป็นคลื่นสีดินแดงขุ่นขลั่กกำลังโถมเข้ามาในบ้านบ้าง หรือไม่ก็ตามที่ต่างๆที่เรากำลังยืนอยู่ในฝันบ้าง อึดอัดมากค่ะ บอกได้คำเดียวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า วาระสุดท้ายแห่งชีวิต เห็นคลื่นแล้วบอกได้เลยว่าตายแน่ๆ ไม่มีทางรอดได้เลย ว่าแล้วนิวรณ์ก็เริ่มผุดทันที ห่วงลูกที่อุ้มอยู่ ห่วงสามีที่ยืนอยู่ข้างๆ ณ.เวลานั้นสติกระเจิง สมาธิหลุดหลุ่ยหมดค่ะ

    พอตื่นขึ้นก็เลยมานั่งพิจารณาเหตุการณ์ดูว่าเราทำไม่ถูก ว่าแล้ว...เราต้องเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสซะแล้ว นี่ถือว่าเราโชคดีนะได้มีโอกาสซ้อมตายมาตั้งหลายหน จะได้เตรียมตัวและเตรียมใจถูก หึๆๆๆ...คราวหน้าไม่พลาด

    ค่ะ...และแล้วก็เหมือนกับที่คิดไว้ ข้อสอบเปลี่ยนใหม่ค่ะ ที่นี้เป็นอัตนัยไม่มีช้อยส์ให้เลือกซะด้วย เพราะภาคล่าสุดเมื่อ2อาทิตย์ก่อนนี่เอง ภาพที่เห็นเปลี่ยนไปค่ะ เห็นเป็นภาพเหมือนหนังสั้นซะแล้ว มีแต่ภาพล้วนๆ เริ่มจากฝนตกหนัก แล้วน้ำก็ท่วมสีดินแดงขุ่นขลั่ก พอน้ำลดไม่มีอะไรเหลือมีแต่พื้นดินโล้นๆ อากาศเริ่มร้อนแล้ง จนกระทั่งดินแห้งแตกระแหง ต้นไม้ใหญ่บางต้นก็ยืนต้นตาย แต่ไม่เห็นสิ่งมีชีวิตเลยนะคะ แล้วก็สะดุ้งตื่นซะก่อน ก็เล่าสู่กันฟังไปนะคะ โบราณเค้าว่า "กินมากก็ฝันมาก"

    ปล. พี่สาว พี่อ้อยจ๋า สงสัยท่านจะเห็นว่าไอ้เต่าตัวนี้นี่ ไม่ค่อยจะไปเลยเอาไม้แหย่มันซะหน่อยใช่มั้ยค้า ^+++^
     
  9. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386

    น้องเอจ๋า หลวงพ่อฤาษีถึงบอกตลอดว่า ให้คิดว่าเราจะต้องตายเสมอ
    ก่อนนอนก็คิดว่าเราจะได้มีโอกาสดูพระอาทิตย์ตอนเช้าอีกไหม
    ตอนเช้าก็คิดว่า เราจะได้มีโอกาสดูพระอาทิตย์ตกดินอีกไหม
    วินาทีข้างหน้า จะเกิดอะไรขึ้นกับเราก็ไม่รู้
    ดังนั้น ทุกลมหายใจเข้าออก ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า และแดนนิพพานเป็นปกติ
    พร้อมคำภาวนาพุทโธ เป็นการไม่ประมาทค่ะ ถ้าทำเป็นปกติ ถึงเหตุด่วนเหตุร้ายปานใดจะเกิด เราซ้อมมาอย่างดีแล้ว คงไม่ผิดแผนหรอกน่า เน๊าะ ^_^

    ส่วนการปฏิบัติ ก็ทำให้ดีที่สุดค่ะอย่าไปคิดถึงมันเลยว่าเราช้า ขอให้ได้ปฏิบัติเถอะค่ะทั้งศีล สมาธิ ปัญญา หากได้เริ่มแล้วเดี๋ยวตามมาเองค่ะ สำคัญที่กำลังใจมุ่งมั่นอย่าท้อเป็นอันขาด สู้โว๊ย ^^

    ปล. น้องเอเป็นคนที่มีสัมผัสที่หก ฝึกอีกหน่อยพี่ว่ามโนมยิทธิคงไม่ยากสำหรับน้องเอค่ะ พี่เอาใจช่วยนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  10. |ฅนจร|

    |ฅนจร| เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +229
    วันนี้เป็นสมาชิกใหม่เลยยังไฟแรงอยู่ขออนุญาตทุกๆคนนะครับ พอดีผมมีกลอนนึ่งที่ชอบเพราะมันให้ข้อคิดดีทำให้เราระลึกถึงความตายอยู่เสมอ
    มนุษย์เราชีพนั้น...ฤๅนาน
    พริบผ่านชั่วกาลนาน...กลับคว้าง
    วันวานอาจสราญ...ใจอยู่
    วันพรุ่งกลายสูญร้าง...สุดสิ้นทางไป
    ความตายคือสหายเก่าของเรา พรุ่งนี้สหายเราอาจจะเเวะมาเยี่ยมเยือนพวกเราก้อได้ อาจจะมาตอนนอน ตอนตื่น ตอนกินข้าว ตอนเดินทาง ตอนทำงาน...เราจงเตรียมพร้อมกับการแวะมาเยี่ยมของสหายเราคนนี้ทุกเวลานาที ทุกวินาที จงมีสติทุกครั้ง และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทุกขณะ :)อนุโมทนาครับ
     
  11. วิณวิญ

    วิณวิญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +2,089

    จริงอย่างที่พี่อ้อยว่านั่นแหละค่า ดูอย่างพี่ชบาซิค่ะ เพียงแค่เกิดปิติก่อนตายก็ได้ขึ้นพระนิพพานเลย ได้ผลคุ้มเกินคุ้มจริงๆ ^^

    ขอขอบคุณพี่อ้อยสำหรับกำลังใจที่ส่งถึงกันโดยตลอดนะคะ ตอนนี้นะคะยิ่งทำก็ยิ่งมีความสุข แล้วก็รู้สึกสบายๆ จนบางวันตื่นนอนตอนเช้าแฟนจะมาถามว่าฝันดีหรอ เห็นนอนหลับยิ้มตลอดเลย (โฮะๆๆๆ...เค้าจะหนีตะเองไปพระนิพพานตะหากเล่า)

    หลังจากที่ได้ตั้งใจปฏิบัติธรรมมานะคะ ตอนนี้ก็พิจารณาตัวเองได้แล้วว่า จริงๆแล้วที่เราอยากได้มโนฯนั้นไปเพื่ออะไรกันแน่ คำตอบก็คือแค่เพื่อเอาไว้ตอบปัญหาอาการอยากรู้อยากเห็นสนองตัณหาของตัวเราแค่นั้นแหละ เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์และคุณค่าที่ควรจะได้รับมาอย่างง่ายๆเลย แล้วตอนนี้เอก็ได้เข้าใจแล้วค่ะ ว่าการที่หลวงพ่อได้ดลจิตดลใจให้เราเข้ามาสนใจเรื่องมโนฯนั้น เพราะยังมีเรื่องอื่นๆรอให้เราเรียนรู้อยู่อีกมากนั่นเอง โดยเฉพาะพระธรรมคำสั่งสอนของพระศาสดานี่แหละค่ะ คือสิ่งสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสงบอันแท้จริง เมื่อคิดได้ยังงี้ก็ไม่งอแงแล้วค่ะพี่อ้อย (แต่ก็ยังอยากได้อยู่ดีนะเจ้าคะหลวงพ่อ ^+++^ )

    ส่วนเรื่องสัญญาก็ต้องเป็นสัญญานะคะ ที่เอว่าจะเข้าร่วมกองทัพธรรมในครั้งนี้ วาจาสัจค่ะ นี่ถือว่าเป็นภารกิจสุดท้ายแล้วที่จะทำเพื่อในหลวงและประเทศชาติ ตัวตายไม่ว่าแต่ชาติและศาสนาต้องดำรงอยู่ต่อไปค่ะ (หุหุหุ ออกแนวบู๊ไปหน่อย แต่ลูกหลวงพ่อออกรบกันมาหลายชาติก็เป็นคนพรรค์นี้แหละค่า)
     
  12. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    อยากถามท่านผู้ปฏิบัติทั้งหลายสักนิดครับ

    เรื่องเกี่ยวกับกสินน่ะครับ ว่าเวลาเรากำหนดเห็นแบบที่หลวงพ่อฤาษีท่านบอกว่าลืมตาเห็นหลับตามองก็มองเห็นชัดนี่ "มันเป็นการเห็นในความคิดใช่ไหมครับ?"

    สมมุติว่าผมกำหนดเห็นภาพพระ
    ลืมตามองท่านก็เห็นชัด
    พอไม่มองท่าน(ไม่ได้หลับตา) ก็เปลี่ยนเป็นการมานึกถึงท่านก็มองเห็นอยู่ในหัวลางๆ เหมือนคนคิดสมมุติเองอยู่ในหัว

    แต่พอหลับตานึกถึงท่านมันกลับไม่เห็น "เห็นแต่สีดำๆ ตอนหลับตา"

    (ผมเข้าใจว่ามันเป็นสีดำจากตาเนื้อเรามองนี่แหละครับ เข้าใจถูกไหมครับ?)

    คราวนี้ผมเลยเกิดความสงสัยเรื่องการฝึกกสินทั้งหลายนะครับว่าพอเราหลับตากำหนด แล้วเราจะมองเห็นได้อย่างไรครับ

    "หรือว่าจริงๆ แล้วการมองเห็นที่ว่าก็คือการนึกระลึกถึงอยู่ในหัวเอาน่ะครับ"

    แล้วเราจะนึกให้เป็นสีได้อย่างไร เพราะผมจำความได้ตั้งแต่เกิดมาผมนึกถึงอะไร / ฝันถึงอะไรในหัวมันก็ต้องเป็นภาพขาวดำไม่ใช่หรือครับ? ไม่เคยนึกถึงอะไรแล้วเป็นสีได้เลย อย่างนึกถึงรถคันสีแดง ภาพในหัวเรารถก็จะโผล่มา แต่มันก็ไม่มีสีนี่ครับ?

    วานผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ (ตอนนี้ก็ได้แต่ฝึกอานาปนุสติอย่างเดียวครับ) อยากกำหนดภาพพระไปด้วยในตัวครับ (แหะๆ อยากทำหลายอย่างพร้อมๆกันนะครับ แบบว่าโลภ)
     
  13. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอแจ้งให้ทราบว่า

    ข้อความที่ดิฉันนำมาลงไว้ในที่นี้เป็นลิขสิทธิ์ของดิฉันโดยถูกต้องตามกฏหมาย และมีจุดประสงค์ในการเผยแพร่ธรรมทานแก่บุคคลทั่วไปเท่านั้น ห้ามมิให้ทำซ้ำ ดัดแปลง หรือแก้ไข ด้วยวิธีการใดๆ ไม่ว่าทั้งหมด หรือ บางส่วน ของข้อมูลของดิฉันเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการค้าหรือจุดประสงค์อื่น โดยมิได้รับอนุญาต เพราะดิฉันมีสิทธิที่จะดำเนินคดีตามกฏหมายกับผู้ละเมิดลิขสิทธิ์
     
  14. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    อิอิ ถ้าให้ผมเดาแสดงว่ามีพวกคิดจะหาเงินจากบทความพี่ Me, my self แน่เลย

    เออ...แต่ผมขอ Copy ส่งเมล์ไปให้คนสนิทอ่านไม่กี่บทความ(เฉพาะคนสนิทจริงๆ ที่เขาจะไม่หาว่าผมบ้าด้วย)
    พี่ Me, my self ไม่ว่ากันนะครับ แหะๆ
     
  15. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    น้องคะ ถ้าทำไปเพื่อเป็นการให้ทานพี่ไม่ว่านะคะ แต่พี่ก็ไม่แน่ใจว่าถ้าก๊อบส่งเมล์กันไป แล้วถ้ามีคนส่งต่อกันไปเรื่อยๆ หากมีการดัดแปลงบางส่วน บางทีข้อความก็เพี้ยนไปจากเดิม เดี๋ยวก็กลายเป็นเรื่องกันไปอีก ยังไงก็ให้ระวังหน่อยค่ะ

    พี่ก็เข้าใจเจตนาของน้องนะคะ ก็ขออนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  16. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ไม่ต้องกังวลครับพี่ Me,my self

    ผมก็ส่งให้คนที่ผมเคยทำผิดกับเขาน่ะครับ(แค่คนเดียว ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบพวกพี่ๆบอกไม่อยากให้เขาไปที่ไม่ดีน่ะครับ) อยากให้เขาปลงๆเหมือนผมบ้าง

    แต่บทความแบบนี้ผมจะส่งให้ใครแล้วผมก็คิดแล้วคิดอีกครับ เพราะกลัวเขาจะปรามาสแล้วมันจะเกิดโทษกับเขาคนนั้นน่ะครับ เลยส่งให้คนสนิทคนเดียว 555
     
  17. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    อนุโมทนาในธรรมทาน ของ คุณชบาด้วยครับ

    ผมขอเล่าเรื่องของหลวงพ่อองค์นึง สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ท่านเล่าถึงมารดาของท่าน ว่ามารดาของท่านก็เหมือนคนแก่ธรรมดา ทั่วไปที่ชอบเข้าวัด

    ทำบุญ ตักบาตร เป็นประจำ ไม่ได้เน้นปฏิบัติมากเท่าไหร่ แต่ก็สวดมนต์ ทำสมาธิอยู่เรื่อยๆ

    จนช่วงที่มารดาของหลวงพ่อองค์นี้ป่วยหนักจนเดินไปไหนมาไหนไม่ได้ หลวงพ่อได้มาเยี่ยม

    มารดาของท่านและได้แนะนำกรรมฐานมโนมยิทธิ ให้มารดาของท่านทรงภาพพระได้

    เห็นภาพพระใส และให้คิดไว้เสมอว่าหากเราตายจากโลกนี้ไป ขอให้ลูกได้ไปอยู่กับ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยเถิด ลูกขอทิ้งกายถวายชีวิตนี้ แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อหลวงพ่อได้แนะนำกรรมฐานมารดาของท่าน หลังจากนั้นไม่กี่วัน มารดา

    หลวงพ่อท่านได้เสียชีวิต พอถึงวันที่เผาและจะเอาอัฐิไปลอยอังคาร หลวงพ่อได้ขอไปเก็บ

    อัฐิมารดาของท่านเพื่อเอาไว้บูชา แต่ในระหว่างที่หลวงพ่อกำลังจับอัฐิของมารดาท่าน

    ท่านก็สังเกตุเห็นอัฐิมารดาของท่านกลายเป็นแก้วใส เหมือนพระธาตุครับ


    ไม่ต้องคิดต่อนะครับ จะขอเล่าเท่าที่จำได้ครับ อาจจะตกหล่น หรือผิดไปบ้าง
    แต่อยากจะให้อ่าน เพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่ปรารถนาพระนิพพาน
     
  18. เจ๋วะรัฐถะ

    เจ๋วะรัฐถะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    847
    ค่าพลัง:
    +15,386
    ใจตรงกันเลยค่ะ ไม่สบายใจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เพราะนิมิตบอกว่า
    ข้อความที่เป็นธรรมทานของพวกเรา กำลังจะมีคนบางกลุ่มนำไปดัดแปลงเพื่อประโยชน์ทางการค้า

    อ้อยเชื่อในนิมิตนะคะเพราะนิมิตไม่เคยพลาด ก็เลยขอกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
    คือถ้าเพื่อเป็นธรรมทานแก่เพื่อนกัลยาณมิตรนั้นมิเป็นไรค่ะ
    แต่ถ้าเพื่อการค้าแล้ว ในนิมิตบอกว่าคนที่ทำเช่นนั้นตกนรกแน่นอนค่ะ
    ก็เลยเป็นห่วง และไม่สบายใจ เลยมาโพสบอกไว้ว่า อย่าทำแบบนั้นเลยค่ะ
    ไม่ว่าจะเป็นการก๊อปข้อความของพี่me,myself หรือของน้องฝน และของอ้อย รวมไปถึงของเพื่อนๆกัลยาณมิตรหลายๆคนที่ได้แชร์ประสบการณ์ร่วมกันในกระทู้นี้ เพราะข้อความที่โพสไปนั้นก็เป็นลิขสิทธิ์ของแต่ละท่าน ใครที่ละเมิดคงเป็นการไม่ดีแน่ค่ะ

    พวกเรามีใจรักพระนิพพานตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า การแลกเปลี่ยนหาความรู้จากกระทู้นี้เป็นไปโดยความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้นขอคนบางกลุ่มที่คิดกระทำการอันหนึ่งอันใดที่ไม่เหมาะสมเลิกล้มความคิดนี้เถอะค่ะ เพื่อตัวของท่านเอง

    แต่การเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทานนั้น หากมีใจที่บริสุทธิ์อานิสงฆ์ที่ได้ก็จะมีผลคุ้มค่าเพราะใจเราใสดั่งแก้วไม่มีมลทิน ก็ต้องขออนุโมทนากับท่านที่มีใจใสดั่งแก้วด้วยค่ะ
     
  19. cookieberry

    cookieberry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2009
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +4,607
    ฝนก็ว่ามันเเปลกๆอยู่ตั้งเเต่เมื่อคืนเเล้ว เพราะเมื่อคืนสมเด็จท่านสอนฝนเรื่อง "ทำยังไงถึงจะนั่งสมาธิได้นาน" เเต่ก็มีเหตุการณ์หันเหความสนใจฝน จนฝนเขียนไม่เสร็จ ฝนเลยรู้ทันทีว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้น สมเด็จองค์ปฐมท่านว่า พระอาจารย์ท่านไม่ให้โพส ฝนก็งงๆ ถามเหมือนกันว่าทำไม ท่านว่าเป็นเรื่องรู้เฉพาะตน ฝนยังคิดในใจเลยว่าเเปลกๆ เพราะปกติฝนก็โพสได้ไม่เคยโดนห้าม เเต่ฝนไม่ได้สนใจจะถาม เพราะพระอาจารย์ท่านไม่ชอบให้ใครตอเเยท่าน

    ถ้าเป็นเรื่องจะเอาผลประโยชน์จากธรรมทานเอาไปหาผลประโยชน์ส่วนตัว ฝนว่าเป็นการใจร้ายเเละเห็นเเก่ตัวเกินไป ธรรมะที่พระพุทธเจ้าประทานให้ไม่ได้มีไว้ขายนะคะ มีไว้เป็นธรรมทานเพื่อให้ลูกหลานที่นับถือปฏิบัติในศาสนาพุทธทุกๆท่าน มีกำลังใจที่จะบำเพ็ญเพียรต่อไป เพราะวิชามโนยิทธิเป็นการพิสูจน์เพื่อให้เราได้รู้ว่าพระพุทธเจ้าท่านมีอยู่จริง เมื่อพระพุทธเจ้าท่านมีอยู่จริง คำสอนของท่านก็เป็นเรื่องจริง

    คิดดูดีๆ คิดหลายๆรอบก่อนจะกระทำความชั่วอันประเมินโทษมิได้ก่อนไหมคะ

    พระอาจารย์ฝนว่าไฟนรกร้อนกว่าพื้นปูนร้อนๆ หกหมื่นเท่าตัวนะคะ ถ้าไม่รู้ว่านรกมีกี่ขุม ฝนเเนะนำให้ไปอ่านหนังสือ "ไตรภูมิ" ของหลวงปู่ฤาษีลิงดำท่านนะคะ เเล้วเลือกเลยอยากไปอยู่หลุมไหน อ๊ะ เเต่เดี๋ยวก่อน ไม่มีสิทธิ์เลือกขุมนรกเองค่ะ เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านเลือกไว้ให้เเล้ว จะอยู่ที่ไหนดีเอ่ยยยยยยย

    ตอบให้ก็ได้ เเบบหมดสิทธิ์ลุ้น ว่าอยู่อเวจีมหานรกเจ้าค่ะ ถ้าอยากไปอยู่เป็นเพื่อนกับพระเทวทัต เกรงว่าท่านจะเหงา ก็ทำเลยค่ะ เอาบทความไปพิมพ์ขายเลยนะคะ ไปเมื่อไหร่ ไม่ต้องมาหาฝน มาขอบุญจากฝนนะคะ เพราะว่าบาปครั้งนี้ โมทนาก็ไม่ได้บุญค่ะ ทำไมอ่ะเหรอคะ เเหมวันนี้ฝนอารมณ์ดีซะด้วยพี่ๆลูบหัวให้เยอะ งั้นฝนบอกให้ก็ได้เอาบุญเผื่อท่านเเดงจะกลับมา

    เพราะว่าเท่ากับคุณปรามาสพระอรหันต์ทุกองค์ที่มีชื่ออยู่ในกระทู้นี้ รวมถึงพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ด้วย สมเด็จองค์ปฐมท่านสอนฝนไว้เสมอว่า "ทำร้ายลูกพ่อให้เจ็บใจ เสียใจ โดยที่ลูกของพ่อไม่มีความผิด โทษเสมอเหมือนทำร้ายพระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม" ท่านเคยบอกฝนบ่อยมากจนจำได้ขึ้นใจเลยค่ะ

    คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดค่ะ เเต่เมื่อรู้เเล้วก็อย่าทำค่ะ ฝนอ่ะเห็นเจี๊ยมเจี้ยมเเบบนี้นะคะ จริงๆเเล้วฝนทั้งร้ายทั้งเเสบเเบบไม่ธรรมดานะ อย่าให้ฝนตามนะคะ ไม่งั้นนอนฝันร้ายทั้งคืนเเน่ ฝนไม่ทำเองหรอกค่ะ ฝนมีเพื่อนร่วมขบวนการณ์ค่ะ ชื่อว่า "ขบวนการณ์ร่วมด้วย ช่วยกันเเสบค่ะ" เเล้วจะหาฝนไม่เตือนนนนนนนนน

    ก่อนจะคิดที่จะตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม ลองทำหกสูงดูก่อนไหมคะ สมองที่ทิ่มลงพื้นจะได้มีเลือดไปไหล เผื่อจะคิดได้ออกมาดีกว่าสมองที่ตั้งฉากกับพื้นโลกที่คาดว่าเลือดไปไหลที่สมองได้ไม่เพียงพอ ทำให้เรื่องเเค่นี้ก็คิดเองไม่ได้ต้องให้คนอื่นเค้ามาบอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2009
  20. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    คนเรานะ มีทั้งดี และ เลว

    ข้อความทุกข้อความในกระทู้นี้ มีประโยชน์มหาสาร
    ท่านใดคิดทำการมิชอบ คิดเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน
    กรุณาเลิกกระทำการทุจริตนั้นเสีย ก่อนจะผิดไปมากกว่านี้

    ส่วนผู้ใด นำไปเพื่อการสุจริต มุ่งดีหวังดี เพื่อเป็นธรรมทาน กรุณาขออนุญาตก่อน
    เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ค่อยนำไปจะได้สบายใจ...ครับ

    บางบทความผมก็นำไปอ่าน เพื่อเป็นกำลังใจปฏิบัติเหมือนกัน เช่นบทความนี้ครับ

    เอาละค่ะ จะมาบอกเรื่องที่พระอาจารย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำฝากมาค่ะ ถือซะว่าท่านอาจารย์ท่านรักแล้วก็เป็นห่วงนะคะ เลยมาเตือนสติ
    สำหรับดิฉันนี่ ถ้าอาจารย์ด่าถือว่าอาจารย์รักค่ะ ถ้าท่านไม่พูดไม่ว่าเลยนี่ ต้องพิจารณาตัวเอง แล้วนี่ก็คือข้อความจากพระอาจารย์ฤาษีลิงดำค่ะ
    "อยากฝากบอกลูกศิษย์ลูกหาทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่ โดยเฉพาะพวกที่เล่นๆ ทำไม่จริงไม่จัง ให้ปฏิบัติกันให้จริงๆหน่อย ทำเป็นของเด็กเล่นไม่ได้ บางคนเห็นนิด เห็นหน่อย ก็เอาไปโม้กันซะยาวยืด ทั้งๆที่ยังไม่เป็นอะไรเลย อุปทานกันซะละมากกว่า ตั้งใจกันให้จริงๆหน่อย
    ศีลห้านี่สำคัญ เป็นพื้นฐานของวิชามโนมยิทธิ ส่วนใหญ่เห็นศีลห้ายังรักษากันไม่ได้เลย แล้วจะมาฝึกให้มันได้อะไร ไปรักษาศีลห้าให้มันครบถ้วนก่อน ถ้าศีลห้ายังรักษาไม่ได้ มันก็ฝึกไม่ได้หรอก อย่างน้อยเวลาที่จะฝึกก็ควรจะมีศีลครบแล้ว ณ เวลานั้น ใจต้องสะอาด ศีลบริสุทธิ์ ไม่ใช่นึกจะมาฝึก ก็แห่กันมาตามกระแสแฟชั่น ของอย่างนี้มันไม่ได้เล่นขายของ จะได้มากันได้ง่ายๆ เดี๋ยวนี้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ ฝึกกันไม่จริงไม่จัง ท้อถอยก็ง่าย อยากจะได้อะไรกันเร็วๆ ต้องคิดด้วยว่า บุญเก่าเราทำมาเท่าไหร่ มากน้อยแค่ไหน ถ้าบุญเก่าเยอะ ก็ไปไว ถ้าบุญเก่าทำมาน้อย ก็ต้องค่อยๆฝึกไป แต่ถ้าคนที่ไม่เคยมีบุญเก่ามาเลย อันนี้หลวงพ่อก็ต้องขอบอกว่า ต้องทำใจหน่อย เพราะว่ามันยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเป็นได้ ขอให้ตั้งใจแน่วแน่ มันต้องเห็นผลสักวัน
    สำหรับลูกศิษย์ที่ทำได้แล้ว เก่งแล้ว อันนี้ไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะก็พบเจอกันเป็นประจำ ห่วงแต่พวกที่เล่นๆ ทำบ้างไม่ทำบ้าง ของอย่างนี้มันมาทำเล่นๆไม่ได้ ต้องให้จริงให้จัง ถ้าศีลห้ายังรักษาไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาฝึกหรอก เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเถอะ หลวงพ่ออยากให้ลูกศิษย์ทุกคนได้ดี มีธรรมะ เอาเวลามาฝึกไปนิพพานกันเถอะ โลกนี้มันวุ่นวาย แต่ถ้าใครอยากเกิดอีก ก็ไม่ต้องฝึก ปล่อยผ่านไป หลวงพ่อก็อยากฝากบอกแค่นี้แหละ ก็ขออวยพรให้ลูกศิษย์ทุกคน ฝึกมโนมยิทธิกันให้คล่องๆ ไปนิพพานกันได้ทุกคน คราวนี้ก็ขอฝากแค่นี้ก่อน เจริญพร"
    สาธุ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     

แชร์หน้านี้

Loading...