ไปเที่ยวอาบอบนวดนี่ผิดศีลไหมครับ?

เคยมีโอกาสได้คุกับคนทำอาชีพนี้นะ เขาลำบากน่าสงสารจัง ขึ้นห้องกับแขกแต่ละครั้ง ได้ 500 เอง ที่เหลือสถานบริการเขาเอาไป วันหนึ่งโดเฉลี่ยขึ้นได้ประมาณ 3 เที่ยว (สวย ๆ อาจได้สี่ห้าเที่ยว) วันหนึ่งก็ตก 1500 บาทเดือนหนึ่งทำได้ 3 อาทิตย์ อีก 1 อาทิต์มีรอบเดือนทำไม่ได้ ตกเดือนละ 1500 X 23 = 34500 บาท

ในแต่ละวันจะโดนหักค่าชุด 100 บาท หักล่วงหน้า 30 วัน (แม้จะทำงานไม่ครบหรือเอาชุดมาเองก็หัก) = 3000 บาท
และยังหักค่าแต่งหน้าอีกวันละ 100 บาท = 3000 บาท
หักค่าตราวสุขภาพอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 500 = 4000 บาท
ค่าอุกปรณ์ต่าง ๆเช่น Condom, น้ำยาฆ่าเชื้อ, ครีมอาบน้ำ etc. ซึ่งเขาจะจัดขาเป็นตะกร้า ๆ อาทิตย์ละ 1000 บาท = 4000 บาท

หักลบแล้วใน 1 เดือนจะเหลือประมาณ 20,500

ไม่มีหยุดวันนักขัตฤกษ์
ไม่มีสวัสดิการ

ที่สำคัญชีวิตคนกลางคืนมันเปลืองกว่าคนกลางวัน ค่า taxi วันละ 200 ไปกลับทุกวัน ส่งบ้านนอกอีก ค่าเช่าหอ สารพัด สรุปว่าเดือนชนเดือน เหมือนคนทั่วไป

พวก sideline จะได้เมากหน่อย ค่าตัวมากกว่าไม่โดนหักโน่นหักนี้ ที่เราเห็นหมอนวดขับเบนซ์ ขับ BM นี่ sideline ทั้งนั้นเด็กตู้ มาจากทางภาคเหนือน่ะลำบากกันทุกคน ใครมีลูกมีหลานส่งให้เรียนสูง ๆ ดีกว่าทำงานไม่นานก็ได้แล้วเงินเดือน 20000 นี้เรื่องเล็ก ยังมัวันหยุด มีลาพักร้อน สวัสดิการต่าง ๆ มีความสุขกว่าการเป็นหมดนวดมาก ๆ

 

ความผิดเกิดขึ้นที่ใจครับ(ถ้ามีภรรยาแล้ว)
ถ้าเวลาจะปฎิบัติธรรมให้เกิดมรรคผล นิวรณ์ข้อนี้จะมาบั่นทอนกำลังใจและดึงจิตใจให้หม่นหมองอยู่เสมอ
เมื่อสะสมอกุศลแบบนี้บ่อยๆก็จะกลายเป็นนิสัยติดในจิต จิตก็คิดแต่จะเสพอยู่ตลอดเวลา ทางที่ดีที่สุดอย่าไปเที่ยวเลยครับ เอาเงินไปทำบุญดีกว่า ได้กุศลกว่ากันเยอะเลยครับว่าไหม

 

สถานที่ อโคจร เป็น ทางอบาย ต้นเหตุ แห่งการ ผิด ศีลเลย


ศีล มีนสิจน์ จะผิด ถ้า เข้าไป

เช่น

สาวๆ ชวน ดริ้ง พอดริ้ง แล้ว ก็ เมา เมา แล้ว ก็ พูดจาโกหก มีการทะเลาะ อาชญากรรม


ศีล อาจไม่ผิด ถ้ามัน ครอง สติได้

แต่ ธรรม ผิด แน่ กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม โดนแบบเต็มๆๆๆๆ

 

เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้พี่ ฟัง พี่บอกว่า..ตอนแกบวชเณรกะหลวงพ่อ

หลวงพ่อบอกว่า ถ้ามันมีกำหนัดมากนัก (อารมณ์อยากในกาม) ก็ไปเที่ยวโสเภณีได้

ไม่ผิดศีล.....หมายถึงคนที่ยังไม่มีภรรยานะ

 

เอ... เดี๋ยวนี้เขาแยกไม่ออกหรือว่า อะไร ผิด หรือ ไม่ผิด ไปกันใหญ่แล้วสังคม
แต่...ถ้าจะว่าผิด ก็ผิดน้อยกว่าไปข่มขืนเขานะ เพราะมันเป็ฯอาชีพ มีการแลกเปลี่ยนตอบแทนซึ่งกันและกัน
แต่... มันเป็นสิ่งไม่ควรทำ ช่วยไปดิ ช่วยตัวเองไปเลย ผิดน้อยกว่าเพื่อน

 

จะผิดหรือไม่ผิด ผมว่าอย่าไปเป็นดีที่สุด ขวางทางเจริญของธรรม แม่นบ่นาย

 

ผมว่าถ้ายังโสดอยู่ไม่น่าจะผิด.....แต่ถ้ามีภรรยาแล้วผิดแน่นอนครับ

 

ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ข้อยก็อยากฮู้เหมืยนกาน

 

ถ้าคุณมีภรรยาแล้วผิดแน่ครับ แต่ถ้าคุณยังโสดนี่ แยกได้เป็น 2 อย่างครับ
1. หญิงขายบริการโสด และผู้ปกครองของหญิงเหล่านั้นยินยอมให้เธอขายบริการได้ อย่างนี้ไม่ผิดครับ
2. ถ้าหญิงขายบริการไม่โสด สามีหรือผู้ปกครองไม่ยินยอมแบบนี้ ผิดศีลครับ
จริง ๆ แล้วอาชีพการชาบบริการ ก็มีตั้งแต่สมัยโบราณครับ เค้าจะเรียกว่าหญิงงามกลางเมือง ซึ่งเป็นที่รู้กันของคนในเมืองทั้งหมดว่า หญิงคนนี้ขายบริการ ผู้ไปเที่ยวกับนางจึงไม่ผิดศีลครับ

 

ถ้าผู้หญิง เค้าเต็มใจขายบริการ แบบ กรณีอาบอบนวดนี่ ศีลข้อ3 ก็ยังไม่ขาดครับ ...

แต่มีผลกระทบโดยตรง กับการมัวเมาในอบายมุขครับ ทำให้จิตไม่สะอาด...

ถ้าจะนับจริงๆก็...ศีลไม่ขาดชัวร์แต่ มียังโอกาสไปนรกเพราะติดอบายมุขงอมแงม ครับ ...

(b-green)

 

ขอนีดนะจ๊ะ

หาเหตุหาผลได้เนียนกันจริงๆ(u)

ที่ไม่ใช่ภรรยาของตนก็ผิดทั้งนั้นหละครับ พวกเธอไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ที่ระบาย ลึกๆในใจของทุกคนไม่อยากมาขายตัวหลอกครับ เขามีเหตุจำเป็นทั้งสิ้น อย่าไปซ้ำเติมเขาเลย(u)

อาบและนวดไม่บาปไม่ผิดศิล แต่ "นาบ"ด้วยนี่ไม่เหลือ

[b-wai]

 

ผิดไม่ผิดไม่รู้นะครับ แต่

ผมว่าก็น่าจะดีกว่าไปเที่ยวผับแล้วไล่ฟันลูกสาวชาวบ้านนะครับ

 

คุ้น ๆ ว่า ผมเคยอ่าน คำสอนของหลวงพ่อ
ที่ว่า โสเภณีก็เป็นพระโสดาบัน ได้ หรือชื่อเรื่องอาจจะผิด ก็ขออภัย
ซึ่งในนั้น ยกตัวอย่างประเด็จ ที่กำลัง ถก กันอยู่ได้ดีกครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=131381

 

เฮ่อ....เห็นตอบกันมีผิดและไม่ผิด ถ้าเอาแบบถูกทุกท่านควรไปเปิดพระไตรปิฏกดู

บทสรุปในเรื่องนี้คือ ผิดศีล ครับ

การสมาทานศีลมาปฏิบัติ ท่านต้องตั้งใจรักษาไม่ให้ด่างพร้อยหรือศีลขาด!
มิฉะนั้นท่านก็รักษาศีลแบบ นิคนเดียรถี ไม่ใช่แบบพระอริยะ
การถือศีลแล้วไม่ตั้งใจ จะทำให้บาปมากกว่าไม่ถือศีลเสียอีก

ที่ผมสรุปว่าผิดเพราะในพระไตรปิฏก มีกล่าวถึงองค์ประกอบที่ทำให้ผิดข้อกาเม เช่น
1.พยายามเสพ
2.ได้นำอวัยวะเข้าไปเกิน1องค์คุลี ในอวัยวะของฝ่ายหญิง
3.มีจิตคิดเสพกาม
4.ได้ลงมือกระทำ
5.และได้กระทำต่อผู้ที่อยุ่ในส่วนต้องห้าม (มีผู้ปกครอง มีเจ้าของ มีผู้ครอบครองอยู่หรืออยู่ในความครอบครองของผู้ใดผู้หนึ่ง) โดยเฉพาะข้อนี้ได้บอกรายละเอียดของผู้ที่มีมีลักษณะเช่นนี้ถึง20ข้อ เช่นหญิงที่มีสามีแล้ว,หญิงที่มีพ่อแม่ดูแล ผมจำไม่ได้หมดครับ
สรุปผิดเห็นๆ ไม่ว่าคุณจะโสดหรือมีภรรยา คุณแน่ใจหรือว่าหญิงนั้นไม่มีผู้ครอบครอง
เขาอยู่คนเดียวหรืองัย หากไม่แน่ใจอย่าเสี่ยงดีกว่า
ข้อนี้ไม่เว้นแม้ผู้หญิงที่ทำงานแล้วแต่มีแฟนหนุ่มเป็นนักศึกษา ถ้าหญิงนั้นถือศีล ก็ศีลขาดครับท่าน
แต่หากองค์ประกอบไม่ครบ5 คุณก็ไม่ผิด แต่ไหนๆก็ตั้งใจจะสมาทานศีลมารักษาแล้ว
คุณก็ควรมีความตั้งใจรักษาแบบพระอรหันต์หรือพระอริยะจะดีกว่านะครับ

 

ถ้าทุกฝ่ายยินยอมพร้อมใจ เช่นพ่อแม่ผู้ปกครองหมอนวดเขาอนุญาต ตัวหมอนวดก็ยินยอม คือไม่ได้ไปบังคับฝืนใจกัน ทางเมียหรือแฟนคนไปเที่ยวก็ยอมให้ไป ก็อาจจะไม่ผิด
แต่ที่เป็นทางลบ คือ พรหมจรรย์ขาดสะบั้นทันที และอาจจะติดโรคชนิดใหม่ๆหรือโรคเก่าๆเช่นเอดส์ หนองใน เนื่องมาจากการสำส่อนทางเพศ กิเลสอันได้แต่การเสพกามจะเป็นตัวขวางทางแห่งมรรคผลนิพพาน

 

วรรคอื่นคนอื่นพูดกันเยอะแล้ว วรรคนี้ไม่ค่อยพูดกัน เรื่องผิดไม่ผิดไม่ขอตัดสิน แต่ตอนบิ้วอารมณ์มันต้องจินตนาการใช่ใหม ขอบอกบิ้วอารมณ์น๊ะต้องบิ้วให้จบไม่งั้นหด (555) แล้วลองสังเกตดูนะหลังจากที่เสร็จกิจแล้วอ่ะ จากที่จิตมันสงบของมันดีๆไม่ค่อยฟุ้งอ่ะนะ ช่วยตัวเองทีจิตมันวิ่งเป็นบ้าเลย เป็นหลายวันด้วยเพิ่มทุกข์ให้ตัวเองอีก (กำ)

 

ให้ระวังว่าผิดไว้ก่อนเป็นดีครับ ถ้าผู้หญิงนั้นขายบริการแต่ว่าพ่อแม่เค้าไม่ได้ยินดีด้วยที่ลูกเป็นหญิงขายบริการ ก็ผิดชัวครับ ต้องให้พ่อแม่ยินยอมครับถึงจะไม่ผิด แต่พ่อแม่ที่ไหนจะยินดี

 

เรื่องการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง
หากไม่ใช่นักบวช หรือสังกัดในลัทธิความเชื่อ ที่มีข้อห้ามชัดเจน
ว่าไม่อนุญาติให้ทำ บางทีอาจจะกำหนดเป็นวัน หรือสถานที่ หรือบุคคล

ก็ทำไปเถอะครับ

มันจะมีปัญหา ก็เมื่อมัน เริ่มระงับไม่ได้
ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม
ก็ยังมีความต้องการทางเพศขึ้นมาซะอย่างงั้น

มันจะต้องมี บุคคล เวลา สถานที่ หรือหมู่เหล่า
ที่คนนั้นๆจำเป็นต้องกำหนดว่า ไม่ควรมีความกำหนัดในกามด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ คำพูด หรือความคิด

ถ้าหากมันมีความต้องการขึ้นมา และอยู่ในสถานการที่ทำได้
ก็จัดการเสียให้เรียบร้อย

แล้วลองดูว่า หลังจากทำแล้ว มันเว้นไปได้ นานแค่ไหน
ไม่มีอะไรยืนยันว่า จำเป็นจะต้องเสพกามได้นานๆ หรือบ่อยๆ ถึงจะเป็นเรื่องดี

ถ้าหากเมื่ออยู่กับบุคคล สภานที่ เวลา หรือหมู่เหล่า หรือข้อกำหนดอื่นๆ
ที่มีความจำเป็นที่จะต้องระงับในกาม
แล้วมันไม่ค่อยจะแว๊บขึ้นมา หรือแว๊บขึ้นมา ก็ระงั้บไปได้โดยละม่อม
ก็เป็นอันว่าใช้ได้

ไว้ มันหงุดหงิด งุ่นง่าน แบบไม่มีสาเหตุ
จะต้องวุ่นวายกับกามแบบพร่ำเพรื่อ ไม่รู้จักสถานภาพ สถานการณ์
มันถึงจะเริ่มเป็นปัญหา

หากเกิดปัญหา ให้ลองศึกษาเรื่องพรหมจรรย์ดูครับ
ลองตั้งใจ จะไม่มีกิจกรรมทางเพศเลย แม้กระทั่งคิด แบบกำหนดเวลาดู
นานๆ กำหนดซักที เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ หรือตรวจสภาพ
ลองเปรียบกันว่า ตอนที่มีความต้องการทางเพศ
กับไม่มีความต้องการทางเพศ อย่างไหน มันสบายตัว สบายใจกว่ากัน

ส่วนเรื่องการใช้บริการทางเพศนั้น
ให้ซื้อในสถานที่ ที่จัดไว้เป็นการเฉพาะ ซื้อกับเฉพาะท่านที่มีอาชีพนี้จริงๆ
จ่ายค่าตอบแทนให้ครบถ้วน ใช้บริการอย่างสุภาพ
และเมื่อเสร็จภาระกิจแล้ว ก็แล้วกันไป ห้ามตามไปวอแวเจาะแจะ
ก็น่าจะพอได้

ห้าม ซื้อกับมือสมัครเล่น ซื้อนอกสถานที่ ซื้อนอกเวลาทำการ เด็ดขาด

 

ขอถามนะคับ


คุณไปบ่อยไหม ???


อีกอย่างถ้า ผิดศีล หรือ ไม่ผิดศีล


มีตัว>>>อยาก<<< แล้วโดนมันเล่นงานคุณ ยังไงๆซะ ก็ต้องไปอยู่ดี อิอิ