คิริมานนทสูตร...โดยสมเด็จองค์ปัจจุบัน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 1 เมษายน 2009.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048

    <!-- / breadcrumb, login, pm info --><!-- nav buttons bar -->


    [​IMG]
    <!-- content table --><!-- open content container -->

    คิริมานนทสูตร
    โดยสมเด็จองค์ปัจจุบัน<O:p</O:p
    (พระสูตรนี้มีคำสอนที่สำคัญอยู่ 10 ข้อ)


    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พระสูตรนี้ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาที่พระเชตะวันวิหารซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย ณ กรุงสาวัตถี มีต้นเหตุตากระคิริมานนท์ ซึ่งกำลังป่วยมีทุกขเวทนาสูง (ขณะนั้นยังไม่จบกิจ) ขอให้พระพุทธองค์สงเคราะห์ให้ทุกขเวทนาหาย เมื่อตนเองไม่สามารถมาเฝ้าพระพุทธองค์ได้ จึงนิมนต์ท่านพระอานนท์ช่วยกราบทูลพระองค์ให้ทรงทราบด้วย พระพุทธองค์จึงได้เทศนาให้พระอานนท์ฟัง พระอานนท์ซึ่งมีความจำเป็นเลิศ ฟังแล้วจะได้ไปเทศนาที่สำนักของท่านคิริมานนท์ต่อไป จึงได้ชื่อว่า คิริมานนทสูตร มีเนื้อความโดยย่อดังนี้<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ก่อนอื่นผมขอชี้แจงว่า พระสูตรนี้มีผู้นำมาให้ผมได้อ่านครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว อ่านครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีแล้ว ขอรับว่ายังมีข้อสงสัยอยู่มาก เพราะภาษาที่เขียนเป็นภาษาโบราณ อ่านแล้วหลายๆตอนไม่เข้าใจความหมาย ทำให้หมดอารมณ์ที่จะอ่านต่อ ครั้งที่สอง เมื่อประมาณ 10 กว่าปีมานี้ อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายอยู่หลายตอน เพราะยังใช้ภาษาโบราณปนอยู่มาก จึงต้องอุเบกขาหรือวางเฉยไว้ก่อน มาครั้งนี้มีผู้ปรารถนาดีเอามาหลายเล่มเพื่อให้ผมแจก พอผมดูชื่อหนังสือแล้วต้องระงับไว้ก่อน เพราะผมไม่แน่ใจว่าผู้อ่านจะมีความเพียรทนอ่านจนจบเล่มได้สักกี่คน เพราะธรรมทานที่ผมพิมพ์แจก ซึ่งเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ของหลวงพ่อฤาษีและของหลวงปู่ทั้งหลาย สอนง่าย ใช้ภาษาไทยปัจจุบัน พิมพ์ตัวโตๆ แจกให้หลายเรื่องหลายรอบแล้ว ยังไม่ค่อยจะอ่านกันสักเท่าไหร่ มาครั้งนี้ผมใช้ความเพียรหนักขึ้น อ่านไปกว่า 3 จบ แล้วก็พบอุปสรรคหรือปัญหาแบบเดิม คือ ภาษาโบราณ แต่เห็นชื่อท่านเจ้าคุณบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) เข้าความศรัทธาก็เกิด เพราะเคารพนับถือในความดีของท่านมาก (หลวงพ่อท่านบอกผมว่า ท่านไม่ได้เกิดอีกแล้ว) ผู้ศรัทธาในพระสูตรนี้ได้จ้างช่างทางภาคเหนือ จารึกเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้น แล้วนำไปให้ท่านเจ้าคุณอุบาลีตรวจสอบ (แปลจากภาษาไทยเหนือเป็นภาษาไทยกลาง) เมื่อ 4 พ.ย. 2511 นี่คือที่มาของหนังสือเล่มนี้
    <O:p</O:p<O:p</O:p
    ผมเพียรอ่านหลายจบแล้ว เห็นว่ามีประโยชน์เพราะเป็นหมวดอาพาธสูต ซึ่งพระองค์ทรงตรัสไว้เพื่อให้ผู้รับฟัง (ในขณะอาพาธหรือเจ็บป่วยมีทุกเวทนาสูง) ผ่อนคลายทุกขเวทนาจนถึงหายจากทุกขเวทนาได้อย่างดี และบางรายก็จบกิจเป็นพระอรหันต์เลยก็มี เช่น ท่านพระคิริมานนท์เป็นต้น พระองค์ทรงตรัสสอนให้เหมาะแก่จริต-นิสัย และกรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จึงมีอยู่หลายพระสูตร จัดเป็นหมวดอาพาธสูตร<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    หลักคำสอนที่ 1: ให้ละรูปและนาม ซึ่งไม่ใช่ตัวเรา-ไม่ใช่ของเรา เราจึงควบคุมบังคับมันไม่ได้

    ผมขอสรุปย่อ ๆ ว่า ขันธ์ 5 หรือร่างกายซึ่งประกอบด้วยรูป 1 กับนามอีก 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในมัน และมันไม่มีในเรา รายละเอียดไม่เขียนเพราะหลวงพ่อฤาษีท่านสอนไว้ละเอียดมากอยู่แล้ว ผู้รักดีต้องการพ้นทุกข์ในชาตินี้ ย่อมหาอ่านศึกษาแล้วนำไปปฏิบัติให้เกิดผลได้ด้วยตนเองเฉพาะตน กรรมใครกรรมมัน หรือของใครของมัน
    <O:p</O:p
    หลักคำสอนที่ 2 : ให้ละอัตตาด้วยการพิจารณากองกระดูก ความตาย และสิ่งสกปรกซึ่งอยู่ในตัวเรา (บาลีว่าอัฏฐิกสัญญา-มรณสติ-อสุภนุสติ) ผมขอสรุปย่อๆว่า
    <O:p</O:p
    1. อัตตาหรือตัวตนในพุทธศาสนาไม่มี เพราะในที่สุดแล้วก็ต้องเป็นอนัตตาหมด หรือพังหมด ตายหมด สลายตัวไปหมด เปลี่ยนสภาวะจากสิ่งหนึ่งไปเป็นอีกสิ่งหนึ่งหมด เช่น
    <O:p</O:p
    1.1 อาหารที่กินมีสมมุติชื่อเรียกมากมายหลายพันหลายหมื่นชื่อ กินเข้าไปทางปากพรุ่งนี้ออกมาเป็นขี้หมด ไม่สามารถแยกว่ามันเป็นอะไรบ้าง
    <O:p</O:p
    1.2 ทุกสิ่งในมนุษย์โลกแม้เทวโลกและพรหมโลก ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งสิ้น หรือจะกล่าวเป็นสำนวนว่า สิ่งที่เที่ยงที่สุดในโลกคือความไม่เที่ยง
    <O:p</O:p
    1.3 ในที่สุดนี้ทั้งโลกไม่มีอะไรเหลือ หมายความว่าทุกสิ่งในโลกตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ คือ เกิดๆดับๆอยู่ตลอดเวลาเป็นสันตติธรรม เห็นได้ด้วยตาปัญญาเท่านั้น อย่างที่ท่านอัญญาโกณฑัญญะ ท่านเห็นธรรมขั้นละเอียดว่า โลกนี้จริงๆแล้วไม่มีอะไรเหลือ “มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นธรรมดาและสิ่งเหล่านั้นก็ดับไปเป็นธรรมดา โลกทั้งโลกมีสภาวธรรมอยู่เพียงเท่านี้” ท่านจบกิจเป็นพระอรหันต์สาวกองค์แรกของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันด้วยการวางอัตตาตรงจุดนี้เอง (ท่านเห็นไตรลักษณ์ขั้นละเอียดสุด)
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    2. สมถะ 3 กองที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ไม่ทิ้ง คือ
    <O:p</O:p
    2.1 อานาปานุสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าและออก เพราะจะทำให้จิตสงบเป็นสุข ผู้มีปัญญาท่าน
    พิจารณาลมหายใจให้เป็นศีล-สมาธิ-ปัญญาได้ ให้เป็นมรณานุสติก็ได้ เป็นต้น ประโยชน์ของอานาปาหลวงพ่อฤาษีท่านสอนไว้ละเอียดมาก ทั้งในเทปและหนังสือ
    <O:p</O:p
    2.2 กายคตานุสติและอสุภะ 10 อย่าง (ไม่ขออธิบาย)
    <O:p</O:p
    2.3 มรณานุสติและอุปสมานุสติ (นึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์) ผมไม่ขออธิบาย ผู้ใฝ่ดีย่อมหารายละเอียดเอาเองได้จากเทปและหนังสือของหลวงพ่อฤาษีที่สอนไว้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลักคำสอนที่ 3 : ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางไปสู่พระนิพพาน ผมขอสรุปย่อๆว่า
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    ก) ศีล สมาธิ ปัญญาย่อมาจากอริยมรรค 8 ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์
    <O:p</O:p
    ข) “พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ต่างก็บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้ด้วยอริสัจทั้งสิ้น และพระสาวกของพระองค์ทุกองค์ต่างก็จบกิจเป็นพระอรหันต์ได้ด้วยอริยสัจ มีทางนี้ทางเดียว ทางอื่นไม่มี” ทรงตรัสไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว
    <O:p</O:p
    ค) ดังนั้นท่านผู้ใดที่ต้องการจะพ้นทุกข์ หรือไปพระนิพพานภายในชาตินี้ ก็ต้องอาศัยศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักสำคัญในการปฏิบัติ ทรงตรัสว่า “ผู้ใดต้องการพระนิพพานจริง ต้องรักษาศีล 5 ศีล 8 ศีล 227 หรือศีลพระปาติโมกข์เสียก่อน จึงชื่อว่าเข้าใกล้ทาง มีโอกาสที่จักได้ถึงโลกุตรธรรมนิพพานโดยแท้”<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลักคำสอนที่ 4: “ผู้ปรารถนาพระนิพพาน ต้องแสวงหาครูที่ดีที่รู้แจ้งพระนิพพานจริง”<O:p</O:p
    ทรงยกตัวอย่าง ท่านพระองคุลิมาลเถระ เดิมได้ครูที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ เมื่อเริ่มต้นผิด ผลที่ได้รับก็ผิดตลอด คือเป็นมหาโจรฆ่าคนตายนับพัน เมื่อได้พบตถาคตซึ่งเป็นสัมมาทิฏฐิ ผลที่ได้รับก็จบกิจเป็นพระอรหันต์ ดังนั้น บุคคลผู้ไม่รู้พระนิพพานไม่ควรเป็นครูสั่งสอนท่านผู้อื่นในทางพระนิพพานเลย ถ้าขืนเป็นครูจักพากันฉิบหาย เป็นบาปกรรมแก่ตัวหนักหนาทีเดียว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    หลักคำสอนที่ 5: ผู้รู้กับผู้ไม่รู้ ได้รับทุกข์เหมือนกันหากทำบาป ส่วนผู้จะได้สุขในนิพพานต้องรู้เท่านั้น
    <O:p</O:p
    “ดูกรอานนท์ อยากได้สุขอันใด ควรรู้จักสุขอันนั้นก่อนจึงจะได้ อยากได้สุขในพระนิพพาน ก็ควรรู้จักสุขในพระนิพพาน อยากได้สุขในมนุษย์และสวรรค์ ก็ให้รู้จักสุขในโลกมนุษย์และสวรรค์นั้นเสียก่อนจึงจะได้ ไม่เหมือนทุกข์ในนรก จักรู้ก็ตามไม่รู้ก็ตาม ถ้าทำกรรมที่เป็นบาปแล้ว ผู้ที่รู้หรือผู้ที่ไม่รู้ก็ตกนรกเหมือนกัน ถ้าไม่รู้จักนรกก็ยิ่งไม่มีทางพ้นนรกได้ แม้จักทำบุญให้ทานสักปานใดก็ไม่อาจพ้นนรกได้ต่มิใช่ว่าทำบุญให้ทานแล้วไม่ได้บุญ ความสุขจากบุญนั้นยังมีอยู่ แต่เป็นบุญที่ยังไม่พ้นทุกข์จากนรก จึงควรรู้จักทางออกจากนรกให้ชัดเจน คือ การรักษาศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 นั่นเอง ขอสรุปสั้นๆว่า<O:p</O:p

    - จะพ้นนรกหรืออบายภูมิ 4 ได้ด้วยอธิศีล
    <O:p</O:p
    - จะพ้นการเกิดการตายจากมนุษย์โลกได้ด้วย อธิศีลและอธิจิต
    <O:p</O:p
    - จะพ้นจากเทวโลก พรหมโลก ได้ด้วยอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา
    <O:p</O:p
    (ผู้มีปัญญาย่อมทราบได้ดีว่า อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา ก็คือสังโยชน์ 10 นั่นเอง)<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  3. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    หลักคำสอนที่ 6 : การรู้จักนรก-สวรรค์-พระนิพพาน ควรรู้ในเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่
    เพราะจิตมีดวงเดียว เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จิตดวงนี้ เมื่อตายไปแล้วก็จิตดวงนี้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่มีความสุขฉันใด เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับความสุขฉันนั้น เมื่อยังมีชีวิตอยู่มีความทุกข์ฉันใด เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับความทุกข์ฉันนั้น (ทรงหมายถึง สุขหรือทุกข์เกิดที่ใจ อยู่ที่ใจ ใจเป็นผู้สร้างสุขและทุกข์ขึ้นเอง เมื่อจะดับหรือแก้ไขก็ต้องดับที่ใจ ส่วนกายนั้นเหมือนกันทุกคน คือ มันมีทุกข์ของมันอยู่เป็นปกติธรรมดา จะยากดีมีจน จะมียศ-ศักดิ์มากน้อยแค่ไหน มันก็ทุกข์อยู่เป็นปกติ ไม่มีใครจะมาห้ามมันได้ ทรงเน้นทุกข์จากสัทธรรม 5 เป็นหลักสำคัญ คือ การเกิดแล้วต้องแก่-เจ็บ-ตาย-พลัดพรากจากของรักของชอบ-มีความปรารถนาไม่สมหวัง เป็นธรรมดาของผู้มีร่างกายจะต้องพบ โดยไม่มีผู้ใดได้รับยกเว้น)
    <O:p
    <O:p</O:p
    หลักคำสอนที่ 7 : บุคคลที่ปรารถนาพ้นทุกข์ได้สุขหรือพระนิพพาน ควรให้ได้เมื่อยังมีชีวิต
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  4. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    9.2
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  5. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    สรุปส่งท้าย ผมขอให้ทุกท่าน ซึ่งมีเวลาเหลืออยู่คนละเล็กละน้อย จงใช้เวลาอันมีค่า (ซึ่งแม้จะมีเงินขนาดไหนก็หาซื้อกลับคืนมาไม่ได้) ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยความไม่ประมาทเถิด ผมขอให้เหตุผลไว้ดังนี้
    1. สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกนี้คือ พระธรรม
    <O:p</O:p
    2. พระธรรมคำสอนประโยคสุดท้ายที่ทรงตรัสไว้คือ<O:p</O:p
    ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงอยู่ในความไม่ประมาทเถิด” หมายความว่า พระธรรมคำสั่งสอนที่พระองค์เพียรสอนมาตลอด 45 ปี มีอยู่ 84,000 บทนั้น ล้วนเป็นหนทางที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์ทั้งสิ้นที่สอนไว้หลากหลายวิธี ก็เพราะบุคคลในโลกนี้มีจริต นิสัยและกรรมไม่เสมอกัน ให้ทุกคนจงช่วยตนเอง ใช้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน พระองค์มีหน้าที่เป็นเพียงผู้ชี้แนะแนวทางให้เท่านั้น คือ เป็นมรรคกับปฏิปทามรรค ส่วนการปฏิบัติให้เกิดผล พวกเราจะต้องใช้ความเพียรเอาเอง
    <O:p</O:p
    3. คิริมานนทสูตรนี้ บอกวิธีซึ่งนำไปสู่ความพ้นทุกข์ไว้หลายวิธี เช่น
    <O:p</O:p
    3.1 สัทธรรม 5 การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีความปรารถนาไม่สมหวัง ล้วนเป็นทุกข์ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากจิตยอมรับความจริงเสียอย่างเดียวก็พ้นทุกข์ได้
    <O:p</O:p
    3.2 วิธีปิดนรก หรือพ้นนรกอย่างถาวรทำอย่างไร วิธีพ้นมนุษยโลกทำอย่างไร วิธีพ้นเทวโลกและพรหมโลกควรทำอย่างไร และวิธีพ้นโลกทั้ง 3 เข้าสู่พระนิพพานอย่างง่ายๆ ทำอย่างไร ด้วยอุบายพร้อมวิธีปฏิบัติ ล้วนมีอยู่ในพระสูตรนี้ทั้งสิ้น
    <O:p</O:p
    4. เวลาและความตายไม่คอยใคร เพราะสิ่งที่เที่ยงที่สุดในโลกนี้คือความไม่เที่ยง
    <O:p</O:p
    5. จงเคารพในกฎของกรรม เพราะกฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ และให้ผลไม่มีผิดตัวด้วย แม้แต่กรรมเล็กๆน้อยๆ ก็ยังตามให้ผล
    <O:p</O:p
    6. จงอย่าหาพระธรรมนอกตัวเรา เพราะพระธรรมอยู่ที่ตัวเราคือกายและจิตเราทั้งสิ้น (84,000 พระธรรมขันธ์ ทรงสอนอยู่กายกับจิตเท่านั้น ทุกคนจึงมีตู้พระธรรมหรือตู้พระไตรปิฏกอยู่ ทุกคนจงพยายามใช้ปัญญาศึกษาแต่ธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์เถิด)
    <O:p</O:p
    ในปัจจุบันนี้ข้าพเจ้าได้มอบกายถวายชีวิตให้พระพุทธองค์และพระพุทธศาสนาไปแล้ว โดยสัจจวาจาของข้าพระพุทธเจ้านี้ ขอความสวัสดีจงเกิดแก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน อ่านแล้วนำไปปฏิบัติ ก็ขอให้เกิดผลและโชคดี มีดวงตาเห็นธรรม ได้เข้าสูพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยกันทุกท่าน เทอญ.
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    พิมพ์จากหนังสือ “ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น”<O:p</O:p
    โดย....หลวงพ่อฤาษี (พระราชพรหมยานมหาเถระ)<O:p</O:p
    วัดท่าซุง จังหวัดอุทียธานี<O:p</O:p
    รวบรวมโดย : พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2009
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง
    ในส่วนแห่งธรรมทานที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้กรุณานำมาเผยแผ่
    และได้สรุปใจความสำคัญของพระสูตรให้เข้าใจง่ายขึ้น สาธุครับ

    [​IMG]
    ศูนย์พุทธศรัทธา
    สำนักปฏิบัติพระกรรมฐานสาขาวัดท่าซุง
    เชิญท่านแวะชมและโมทนาบุญ
    มีข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มจากเดิมอีกหลายรายการครับ

    [​IMG]
     
  7. วสวัต

    วสวัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +2,079
  8. wvichakorn

    wvichakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    3,681
    ค่าพลัง:
    +9,239
    "หลักคำสอนที่ 5: ผู้รู้กับผู้ไม่รู้ ได้รับทุกข์เหมือนกันหากทำบาป ส่วนผู้จะได้สุขในนิพพานต้องรู้เท่านั้น"

    ขออนุโมทนาค่ะ
     
  9. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิตทุกท่าน ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

    สาธุ
     
  10. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,276
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิตทุกท่าน ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

    สาธุ
     
  11. ราชนาวี

    ราชนาวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +918
    อนุโมทนาสาธุครับ ขอให้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้
     
  12. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    อนุโมทนา สาธุ ๆ กับท่านทั้งหลาย
    ที่มีจิตใจศรัทธาในบุญกุศลทุกอย่างที่ได้นำพระธรรมมาเผยแพร่
    ในครั้งนี้ด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  13. ประทีปแก้ว

    ประทีปแก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    3,506
    ค่าพลัง:
    +8,328

แชร์หน้านี้

Loading...