ความแตกต่างของอรหันตสาวก และอรหันตโพธิสัตว์ สังเกตุได้ดังนี้

ความแตกต่างของอรหันตสาวก และอรหันตโพธิสัตว์



พระอรหันต์ คือ ผู้มีปัญญาแจ้งแล้วว่าทางหลุดพ้นทุกข์ที่แท้จริงมีอยู่ สัมผัสได้ และเข้าถึงได้ และตนสามารถทำได้ แต่ไม่ได้แปลว่าเมื่อบรรลุอรหันต์แล้วจะหมดทุกข์ไปทันทีแท้จริง ทุกข์ทางใจหมดได้จริง แต่ทุกข์ทางกายยังมีอยู่ ตราบที่ยังมีขันธ์ห้าครอง ความไม่เที่ยงยังมีอยู่ ดังนั้น ระหว่างที่ยังมีกายสังขาร จึงยังต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโลกมนุษย์อย่างระมัดระวัง ประคองตนไม่ให้แปดเปื้อนกรรมกับมนุษย์โลกทั้งหลายมากเกินไป อรหันต์มีสองแบบ คือ อรหันตสาวก และอรหันตโพธิสัตว์ หลายท่านไม่เข้าใจและถกเถียงกันมาก และไม่ยอมรับว่ามี

 

เป็นบทความที่ดีครับ รจนาเองเลยรึป่าวครับ

อนุโมทนา กับคุณ " ชาล้นถ้วย " ด้วยครับ

 

[music]http://203.130.131.118/sound/Untitle14.mp3[/music]

 

แล้วในเว็บนี้
มีตัวไหนมากกว่ากันล่ะหวา~.........
หุหุหุ

^
^
^
^
เปิดเพลงจะไปรบที่ไหนหรอก๊ะ^^

 

นอกจากเป็นชาไม่รู้รส แล้ว
ยังเป็นชาแห่งปัญญาญาณ ที่ปราชญ์เปรื่องยิ่งนัก

อนุโมทนา กับบทความดีๆ ที่มีคุณค่า

 

เพลง หนังจีนอะครับ

เรื่อง Story of Conqueror ( เล่าปัง )

<---- แต่รูปนี่ สงสัยของสันโดษเขานะครับ

 

หลวงปู่ หลวงพ่อที่ท่านคิดว่าท่านจะนิพพานแน่ๆ นั้น
ท่านจะนิพพานจริงไหม ท่านเป็นอรหันต์แน่
แต่เป็นอรหันต์ประเภทไหน?



หวังแค่ว่า ท่านที่ยังปรารถนานิพพานแน่ๆ
จะเห็นคุณค่าของ "พระธรรมวินัย"
ส่วนท่านที่ไม่ปรารถนานิพพานในชาตินี้
จะผ่อนปรมธรรมวินัยเองบ้าง
ข้าพเจ้าไม่ขัด ไม่ยุ่ง ไม่แย้ง ไม่ขวาง แต่ประการใด

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มีคุณค่านะครับ
พระอรหันต์ทั้งสองแบบบางครั้งก็ดูเหมือนกัน
บางครั้งก็ดูแตกต่างกัน...

 

มีครับ

 

“นิพพานแล้วทันทีที่บรรลุธรรม” ก็หาไม่ การที่บุคคลจะนิพพานนั้น ต้องขันธ์ห้าดับลงก่อนจึงจะทำการ “ดับขันธปรินิพพาน”

...ตัวแดงๆผู้เขียนสับสนหรือเปล่า..

 

นิพพานมันอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก.......
ตะเองน่ะ ไปมองหาซะไกลเลย.........

 

คงจะยังงั้นแหละ เคยได้ยินมาว่านิพพานก็อยู่ตรงหน้านี้แหละ
แต่ภูมิธรรมไม่ถึง ก็สัมผัสไม่ได้ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เข้าใจ
เราก็เหมือนคนตาบอดที่เดินอยู่ท่ามกลางแสงสว่าง แต่ไม่รู้ว่ามีแสงสว่าง
เพราะตามันบอดก็เลยไม่เห็นความจริง ตรงหน้า (พูดเหมือนรู้ความจริงเลยนิ)
ความจริงก็คือเราน่ะตาบอด แต่บังเอิญโชคดีได้พบเจอคำสอนของคนตาดี
หลายคนก็หลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามคำสอนของพระพุทธองค์
และคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ตกทอดมาเป็นพระไตรปิฎก ถึงยุคเรา
รวมถึงวิธีทำให้ตาหายบอดอีกด้วย เหลือแต่เราหัดเข้าใจให้ถูก ทำให้ถูก
ก็คงมีหวังได้ว่าจะมีโอกาสได้เห็นแสงสว่างจริงๆ ด้วยตาของตนเอง เนาะ

 

จ้า

 

ปัญหาที่เกิดกับพุทธศาสนาตอนนี้


คนเข้าใจผิดกันว่า หลวงพ่อ หลวงปู่ที่อรหันต์แล้วทำอะไรก็ได้
จะได้นิพพานแน่นอนเที่ยงแท้ ดังนั้น จึงชวนหลวงพ่อ หลวงปู่
ที่อรหันต์แล้วไปทำสิ่งต่างๆ มากมาย และเออออห่อหมกกันเอง
ว่าไม่เป็นไรหรอก ไม่ผิดศีล เช่น รับเงินรับทอง จิตไม่ยึดแล้ว
รับได้ นิพพานได้ ไม่เป็นไร


พระธรรมวินัยกำลังถูกทำลายยับเยิน ใครจะรับผิดชอบตรงนี้ละคะ

 

ถ้ายังมีขันธ์ห้าอะไรๆก็ยังไม่เต็มที่อยู่ดี...มั้ง

 

จากคำว่า "อรหันโพธิสัตว์" ที่ท่านนำข้อความมาลง จะยังไม่จัดว่าเป็นพระอรหันต์ได้
จริงๆ น่าจะใช้คำอื่นดีกว่านะครับ

เพราะการใช้คำแบบนี้ จะตีไปความไปในลักษณะที่ท่านกล่าวมาได้ว่า อรหันต์แล้ว แต่กลับยังไม่นิพพานได้ก็มี อย่างนี้ทำให้คลาดเคลื่อนได้

พระอรหันต์ หรือผู้บรรลุแล้ว จะจัดว่าเป็นผู้เที่ยงแท้ต่อนิพพาน เป็นผู้เที่ยงแท้มาตั้งแต่ระดับของพระโสดาบันแล้วครับ อย่างไรต้องนิพพานแน่นอนหากเป็นพระอรหันต์แล้ว หากยังไม่นิพพานแสดงว่ายังไม่ได้เป็นพระอรหันต์จริงครับ

 

*** อรหันต์ ****

คือ ผู้ทำได้ใกล้เอื้อม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เคย มี ใคร บาง คน บอก เอา ไว้

เว ลา เห็น ใคร ที่ ดี กว่า เรา

อย่า ไป อิจฉา เรา ก็ เคย เป็น อย่าง นั้น มา แล้ว ถึง ยัง ไม่ เคย เป็น สัก วัน เรา ก็ จะ ต้อง เป็น อย่าง นั้น

เว ลา ที่ เห็น ใคร ที่ ด้อย กง่า เรา

ก็ ให้ คิด ว่า เรา ก็ เคย เป็น อย่าง นั้น มา แล้ว เหมือน กับ เขา อย่า ไป ดู ถูก

วัฏฏสงสาร มี อายุยาวนานนัก

กระดูก ของ เรา เอง มา กอง รวม กัน นี่ สูง ไม่ รู้ เท่า ไหร่ เท่า ไหร่

 

อนุโมทนาด้วยนะคะ ถูกต้องแล้วค่ะ พระอรหันต์จัดว่าเป็นผู้ที่เที่ยงแท้ต่อนิพพาน พระอรหันต์ไม่กลับมาเกิดแล้วค่ะ "อรหันต์โพธิสัตว์"ไม่มีหรอกค่ะ พระอรหันต์ก็คือพระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ก็คือพระโพธิสัตว์ คนละอย่างกัน ไม่ควรใช้คำว่าอรหันต์โพธิสัตว์ เพราะคนที่ไม่รู้อาจเกิดความสับสนได้ค่ะ