พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ความมหัศจรรย์ของเลข 9
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11100

http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01epe02310751&day=2008-07-31&sectionid=0147


คอลัมน์ จูนคลื่น

โดย waisang@matichon.co.th


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ความเชื่อของคนไทยมีมาแต่โบราณ ว่าเลข 9 เป็นเลขมงคล นำโชคลาภความสุขมาให้ หากเป็นเพียงความเชื่อ คงมีคนบอกงมงาย แต่หลักฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทำให้เลข 9 ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองว่ามันวิเศษจริง เพราะข่าวจากสำนักข่าวเอเอฟพีมีรายงานระบุผลการทดลองของนักวิจัยในฝรั่งเศส 2 คน ทดสอบเลข 9 ในร้านอาหารเล็กๆ ขนาด 22 ที่นั่งในเมืองบริทตานี นาน 6 สัปดาห์ เพื่อดูว่าเจ้าเลข 9 อิทธิพลต่อยอดขายพิซซ่าหน้าหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 2 ของร้านอย่างไร ?

ผลที่ได้ทำยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ !!

การวิจัยไม่มีอะไรซับซ้อน เริ่มต้น 2 สัปดาห์แรก นักวิจัยตั้งราคาอาหารลงท้ายด้วยเลข 0 ทุกจาน พบว่ายอดขายพิซซ่าที่เป็นโจทย์อยู่ที่ 34.1% เป็นอันดับ 2 ของยอดขายพิซซ่าในร้าน สัปดาห์ที่ 3-4 นักวิจัยปรับราคาพิซซ่าดังกล่าวลงมา ราคาที่เคยลงท้ายด้วยเลข 0 ให้เป็น 7.99 ยูโร (ประมาณ 416.46 บาท) พบว่ายอดขายพุ่งแซงพิซซ่าหน้าอื่นๆ ที่ราคาขายลงด้วยลข 0 และเคยได้เป็นพิซซ่ายอดขายสูงสุดของร้าน ไปแบบไม่ต้องลงทุนโปรโมตให้เสียเวลา ลูกค้าสั่งพิซซ่าราคาลงท้ายด้วยเลข 9 มากถึง 49.50% อย่างไรก็ตาม 2 สัปดาห์สุดท้ายของการทดลอง นักวิจัยได้ปรับราคาอาหารทุกจาน ให้ลงท้ายด้วยเลข 9 ทุกรายการ ผลที่ได้คือ จำนวนลูกค้าที่สั่งพิซซ่าดังกล่าวลดลงเหลือ 35.9% สรุปว่าการตั้งราคาลงท้ายด้วยเลข 9 แม้ราคาจะถูกลงเพียงเล็กน้อย แต่มีอำนาจดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้นมหาศาล

รู้แล้ว อย่าเพิ่งรีบวิ่งไปซื้อลอตเตอรี่เพราะเชื่อในอภินิหารของเลข 9 เนื่องจากนักวิจัยยังไม่รับประกันว่าจะถูกรางวัลที่ 1 แต่ที่แน่นอนก็คือ พ่อค้าแม่ค้าคงได้ยิ้มกันแก้มปริ หวังเปลี่ยนราคาให้เป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า ด้วยเทคนิคประการฉะนี้

 

ชีวิต 'วองโซ' สุนัขถูกปลดระวางจากฐานทัพเรือ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=43607&catid=27



<TABLE id=table109 borderColor=#32689a cellSpacing=0 cellPadding=0 width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid" height=24><TABLE id=table110 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=608>'วองโซ' สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ วัย ๘ ปี เกษียณอายุจากภารกิจของสุนัขดมยาเสพติดสังกัดกองทัพเรือที่สัตหีบ ช่วยราชการมาเกือบตลอดชีวิตด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดี ถึงเวลาปลดระวางกลับต้องไปอยู่ในกรงแคบๆ

หลังจากปฏิบัติภารกิจช่วยราชการมาเกือบตลอดชีวิตด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดี เมื่อถึงวัยปลดประจำการ วองโซถูกนำมาใส่กรงแคบๆ มีอาหารให้กินทุกมื้อ แต่ครูฝึกคู่ใจไม่สามารถมาดูแล พาวิ่งออกกำลังกายได้อีกต่อไป เพราะเขาจะต้องรับลูกหมารุ่นใหม่ไปฝึกตามวงจร

'วองโซ' กินแล้วนอนในกรงแคบๆ ร่างกายที่เคยแข็งแรงปราดเปรียว ก็อ่อนแรง ลงทุกวัน เพราะไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนแต่ยังคงกินมากเหมือนเดิม
วองโซเริ่มอ้วนแววตาแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา เพราะขาดอิสรภาพที่เคยออกวิ่งอย่างร่าเริงเคียงคู่นายฝึกระหว่างที่ยังรับราชการอยู่ในกองทัพเรือ
หาก 'วองโซ' พูดได้คงบอกว่า 'ตรากตรำงานหนักมาตลอดชีวิตจวบจนวันเกษียณ ด้วยการขังลืม ช่างเป็นบำเหน็จบำนาญที่เสือกไสมาให้อย่างน่าเอน็จอนาถยิ่งนัก'

​

​

วันหนึ่ง คุณหมอธาดา เวสารัชชนันท์ รองผอ.โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ มาพบเข้า เกิดความสงสารและหดหู่ในชะตากรรมของวองโซ จึงทำเรื่องขอไปเลี้ยง วองโซได้รับอิสรภาพอีกครั้ง ก้าวแรกที่เดินออกจากกรงขัง วองโซเดินไม่ไหว เพราะขาแข้งไร้เรี่ยวแรงเนื่องจากขาดการออกกำลัง กะปลกกะเปลี้ย ไม่สามารถรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มพูนขึ้นอย่างมากมายระหว่างที่กินนอนอยู่แต่ในกรง จนคุณหมอธาดาต้องหาไม้กระดานมาทำทางลาดไปยังเบาะที่นั่งในรถ และลากวองโซขึ้นรถกลับบ้านไปด้วยกัน
ชีวิตของวองโซเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คุณหมอธาดาให้การรักษาอย่างเอาใจใส่ และพาวิ่งออกกำลังกายที่ชายหาด วองโซได้เริงร่า เล่นน้ำทะเลทุกวัน ได้วิ่งไปวิ่งมากระโดดโลดเต้นอย่างอิสระ และได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจากคุณหมอผู้เป็นนายคนใหม่ วองโซในวันนี้น้ำหนักลดลงแล้ว สุขภาพแข็งแรงดังเดิม ที่สำคัญคือหัวใจที่เหี่ยวเฉาหมดอาลัยตายอยากจากเมื่อครั้งที่เศร้าซึมอยู่ในกรงขัง ได้รับการเยียวยาจนกลับมาเป็นวองโซตัวใหม่ที่มีความสุข และพร้อมที่จะรักนายใหม่ของมันอย่างสุดหัวใจตราบจนอายุขัย

เรื่องของวองโซจบลงแล้วอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ท่ามกลางการเอาใจช่วยของหลายๆ คน
...แต่ยังมีเพื่อนร่วมรุ่นของวองโซอีก 8 ตัว ที่ยังรอคอยวันนี้อยู่ในกรง พวกเขาคงจะยินดีกับวองโซ ที่มีผู้มารับอุปการะ ส่วนชะตากรรมของเขาเหล่านั้น ใครจะเป็นผู้กำหนด เขาจะต้องกินแล้วนอน เดินอยู่ในกรงแคบๆ ไปอีกนานเท่าใด เขาจะต้องโศกเศร้าใจไปกับชีวิตบั้นปลายที่ต้นสังกัดไม่เห็นประโยชน์จากเขาไปจนวันตายหรือ
เพื่อนผู้รักหมา อาจจะมีคนอยากไปเยี่ยมเพื่อนๆ อีก ๘ ตัวของวองโซ ก็สามารถไปเยี่ยมได้ที่ฐานทัพเรือสัตหีบในเวลาราชการ พวกเขาจะดีใจทุกครั้งที่เห็นคนเดินผ่าน จะเห่าทักทายอย่างมีความหวัง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาที แต่ก็เท่ากับได้เติมน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้กับสุนัขทหารของชาติผู้มีคุณต่อแผ่นดิน
จะดีไปกว่านั้น ถ้าคุณมีกำลังพอที่จะพาเขากลับบ้านด้วยได้ มีกำลังทรัพย์ที่จะดูแลสุนัขชั้นดีมีการศึกษา มีวินัย วัย ๘ ขวบ ที่รอความรักความเอาใจใส่จากคุณอยู่ทุกลมหายใจ คุณสามารถขอรับไปอุปการะได้ทันทีโดยไม่มีค่าตัว
ที่มา : Forward mail

<TD width=5></TD><TR><TD colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid" vAlign=top></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อนุโมทนาบุญกับท่านมูริญโญ่ ที่กำลังจะได้ไปเยือนครับ อ่านแล้วเป็นปลื้มแทน และ เกิดความใฝ่ฝันว่าสักวันชีวิตจะได้ประสบการณ์ปีติอย่างที่ได้อ่านนั้นบ้าง
แต่แหม โรตีจิ้มแกง ทุกมื้อนี่ก็คิดหนักนะครับ เคยกินอาหารอินเดีย เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบางมื้อ แต่ให้กินแบบนั้นทุกมื้อนี่ อืม...

และสำหรับวันนี้ ผมก็ขอกราบขอบพระคุณท่าน nanodent อีกครั้งครับ ผมได้รับพระที่ท่านส่งมาให้แล้วครับ ไม่มีสภาพแตกหักแม้แต่น้อยครับ
ขณะเดียวกัน พระที่แตกหักนั้น ผมก็ได้นำไปมอบถวายให้กับหลวงพ่อ พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ให้ท่านฟังครับ เพราะตอนแรกท่านจะไม่ยอมรับเนื่องจากท่านบอกว่าเป็นพระดี
น่าเก็บไว้ใช้ พร้อมทั้งแนะนำให้ผมนำไปต่อ แต่ผมเรียนท่านว่านี่เป็นเจตนาที่จะทำบุญ และ ผมก็ได้เรียนผู้ใหญ่ที่มอบให้ผมแล้วว่าจะนำมามอบให้กับทางวัด
ท่านจึงรับพระไปครับ
พร้อมกันนั้นผมเองก็รู้สึกว่าการนำพระแตกไปมอบให้เพียงอย่างเดียวนั้น มันก็รู้สึกกระไรกันอยู่ จึงได้นำพระร่วงนั่ง กรุม่วงค่อมไปถวายด้วย
แต่ยืนยันเท่าไรหลวงพ่อก็ไม่รับครับ สุดท้ายท่านจึงนำไปตั้งอธิษฐานจิต แล้วก็ส่งคืน พร้อมกับบอกว่าหลวงพ่อรับแล้ว แต่พระขอคืนให้หมอครับ

ดังนั้นผมจึงมาเรียนท่าน nanodent เพื่อจะได้ทราบถึงบุญที่ได้ร่วมทำกันในครั้งนี้ และขอขอบพระคุณท่านมาอีกครั้ง ณ ที่นี้ครับ

 

อ้าวมีเหรอ งั้นถ้าถ้วนๆ ก๊อ ส่งมาได้เลย

 

พระพิมพ์ไกเซอร์ครับ


นำมาให้ชมกัน ผมคิดว่า จะนำองค์(ล่าง ขวา) นำมามอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญอยู่ครับ

.

 

สำหรับชุดนี้ เคยนำมามอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญแล้ว
พระพิมพ์ อุ้มบาตรเล็กรวม 5 พระธรรมทูต


.

 

ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแต่ช่วงนี้งานรัดตัวมากๆ รีบๆดู แล้วก็ต้องรีบๆไป ครั้นจะมาตอบ ก็ต้องใช้เวลาในการพิมพ์ และคิดคำพูด
อันนี้ต้องเข้าใจนิด ผมเป็นน้องของตาลุง "น้องหนู,ตั้งจิต,สิทธิพงษ์" อ้อน้องคนสุดท้องด้วย ผมยกให้คุณทองอ้วน คุณมูริญโญ่ และคุณ...เป็นพี่
ขอเป็นน้องดีกว่าจะได้หนุ่ม ตลอดกาล คิ.คิ.คิ

 

สำหรับพิมพ์นี้ ผมเคยให้เพื่อนท่านนึงไป เป็นเนื้อปัญจสิริ เพื่อนท่านนี้นำไปห้อยคอ ปรากฎว่า มีพระธาตุเสด็จมาเกาะที่องค์พระพิมพ์ครับ

.

 

เงียบๆกันตาลุง(ชอบโชว์) ฝากมาอีกล่ะ เห็นเค้าพูดถึงหลวงปู่โต๊ะ ก็มีกะเค้าเชียว (เฉพาะพี่น้องเพื่อนๆวังหน้าเท่านั้นครับ)

 

เป็นพิมพ์ปิดตาปลดหนี้เกสรหลังยันต์นะ ตระกรุดเงิน2 ดอก

 

หมายถึงแจกคนละองค์หรือฮะคุณลุง

 

(||)(||)(||) 555

 

เก็บกรุไปแล้วท่านตั้งใจ ผมชอบที่หายากๆมีน้อยๆอ่ะครับ เช่น พระร่วงหลังรางปืนฐานสูงของคุณตั้งใจนี่ ตรงสเป็คเลยครับ หุ หุ หุ

 

ของผมก็มีแค่ที่ลุงปาทาน ลุงเพชร ลุงน้องหนูเมตตาให้มานี่ละครับ ไม่มากเหมือนลุงน้องหนูนึกถึงองค์ใดก็มีหมด ข่าวว่าบางพิมพ์เซียนเคยได้ยิน(ด้วยหู) แต่ยังไม่เคยได้เห็น(ด้วยตา)ก็ยังมีเลย ว่าแต่ตอนนี้อยากเห็นพระร่วงรางปืนของลุงข้างบ้านบ้างแล้วสิ หงิๆ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
จะเอากรุใหม่เหรอ กรุเก่าองค์ละล้านม่ายสนหรือครับ หุ หุ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

นี่หงะ ยังไม่ส่งมาเลย เอาแต่รูปมาดูนะลุง แต่ถ้า0.00บาท ถ้วนๆ อย่างนี้ก็ส่งองค์จริงมาได้เลย

 

อย่าไปยุ่งกับลุงแกเลยครับ น่าหมั่นไส้ครับ เห็นบอกวันอาทิตย์จานำอารายมาโชว์อีกหล่ะ หุ หุ;aa21

 

แวะมาดูผู้ใหญ่คุยกันครับ คุยแต่เรื่องที่ผมเอื้อมไม่ถึง อ่านอย่างเดียวก็สนุกแล้วครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo
เป็นพิมพ์ปิดตาปลดหนี้เกสรหลังยันต์นะ ตระกรุดเงิน2 ดอก
</TD></TR></TBODY></TABLE>
หึ..หึ..คนสูงอายุ ๒ คนจ้อกันทั้งวัน คนหนึ่งมีเยอะ และมีกั๊ก คนหนึ่งอยากมีเยอะ แต่ไม่กั๊ก เลยมีเรื่องชวนหัวไม่เว้นแต่ละวัน.....5555

 

อ่านเล่นหนุกๆครับ คุยกันด้วยก็ยิ่งหนุกนะคุณake จริงๆแล้วไม่มีอะไรหรอกเป็นเรื่องเด็ก (คือผม )ฟังตาแก่(ลุงน้องหนู) โม้และโชว์รูปพระของลุงข้างบ้านบ้างไปเอาของคนอื่นมาบ้าง แล้วเด็กก็แซวไปบ้างโม้กลับบ้าง อิอิโม้กันสนุกไปวันๆครับ แต่พอมีโอกาส ถึงเวลาเราก็ร่วมบุญกัน ร่วมกันสร้างบารมี แล้วสิ่งดีๆก็มาเอง ไม่เอื้อมก็ถึงครับ
อ้อ . ความจริง ผมม.3 เอง เพียงแต่ชอบคุยกะคนแก่น่ะ
;20

 

อ้าว...ก้มหน้าก้มตาพิมพ์พอเงยหน้ามา เจอลุงตัวจริงกลับมาจากแขมร์แล้ว
ลุงท่านนี้มีเยอะ กั๊กบ้าง ไม่กั๊กบ้าง แต่ไม่มีกิ๊กนะ ;8