วิปัสสนาญาณ เกิดขึ้นได้อย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิมุตติ, 20 พฤษภาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    มีทั้ง แห้ง และ เปียก ตามจริต ของตน ที่ปฏิบัติ ตามๆกัน

    ตามธรรมชาติ ของตนเอง (คุยเรื่องเดียวกันป่าว..หว่า..เริ่มงง??)
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณจร ถูกแล้วที่จะต้องสัมผัส กับนิโรธ หรือ นิพพานก่อน แต่การจะทำให้แจ้งนั้น ต้องอาศัยมรรค

    หากว่าเราไม่เคยเจอกับ ความดับไปทั้งหมด เราจะรู้ได้อย่างไรว่า จะทำอย่างไร เป้าหมายตรงไหน เราก็ไม่มีทางเห็น

    ข้อนี้ พระพุทธองค์ เรียงตามลำดับแล้ว

    ปุถุชนจึงต้องเห็น โคตรภูญาณก่อน โคตรภูนี้แหละ คือ นิโรธ ครั้งแรก ของการเห็นอริยสัจ
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ผึ้ง เธอสังเกต คำสอนของเรา ของฝั่งเรา นะ ดูดีๆ

    ไม่ว่า เธอปฏิบัติ อยู่ตรงไหน เราจะชี้ให้เห็น กิเลส ในขั้นนั้นๆ ได้เสมอ

    กรณีที่ จุดปฏิบัติ ไม่ตรง เพราะติดข้องคำอธิบาย การสื่อสาร แต่ถ้า
    ปรับความเข้าใจได้แล้ว เราก็ ชี้ กิเลส ให้เธอดูได้อีก ให้สังเกตได้อีก

    เราชี้ได้ เพราะว่ามันเป็น นามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม ไม่เหมือน พวกทำ
    สมถะ เธอมาถึงขั้นไหน เขาจะชี้ไม่ได้ จะ งง ต้องชี้แบบ ต่อหน้าต่อ
    ตาเท่านั้น

    นามธรรม นี้ ดูให้ดี เราชี้ความรู้สึก การชี้ แบบนี้ ไม่มีทางทำให้เธอคิด
    ไปก่อน ทำให้เธอติดข้องกฏเกณฑ์ เพราะอะไร เพราะเธอต้อง รู้สึก เอา
    ถ้า ความรู้สึก นั้นไม่เกิด ก็ไม่เข้าใจ แต่ถ้า ความรู้สึกนั้นเกิด หรือ ระลึก
    ได้ เธอจะเข้าใจ และเห็นทาง

    ดังนั้น การชี้ความรู้สึก ไม่มีทางทำให้เธอผิดทาง เพราะถ้าเธอไม่รู้
    สึกถึงสภาวะนั้น ก็ไม่มีทางจะเข้าใจ -- คือ ไม่เผลอตัดสินใจเข้าใจ
    ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่า ไม่มีทางทำให้เธอเดินผิดทาง

    ต่อให้เธอเห็นนิมิต เห็นอะไรเป็นของดี ซึ่งคนอื่นนิยมว่าดี ก็ดีไปตามใจเขา
    หรือเรา แต่ผมก็จะชี้ให้ดู กิเลส อยู่ดี ชี้ ทุกข์ อยู่ดี เพราะอะไร เพราะผม
    ต้องการถ่วงไม่ให้คุณได้ดีหรือ จึงชี้ ทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  4. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    **********

    นั่นขึ้นอยู่ที่ผึ้งแล้ว ว่าทางไหน
     
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เอกวีร์ เดี๋ยวนี้ เธอกะเราเเทนตัวเอง กะ นู๋ผึ้งแล้วหรอ เดี๋ยวนี้?

    ...มีแซว...นิดนึง....นะเอย..นะเอย
     
  6. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ผึ้งเท่านั้นที่จะตอบได้เอง แต่ขอไม่ตอบนะคะ และได้รู้แล้วว่าอย่างไร
     
  7. seng sun dan

    seng sun dan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +5
    โคตรภูญาณ เป็นยังไง รู้ได้ยังไง ให้ปัญญาด้วย
     
  8. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    *****

    ถูกต้อง เพราะความว่าง เราไปกำหนดมันเอง มันไม่ได้ว่างอย่างแท้จริง
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ที่ คุณ จร เห็นเช่นนั้นยังไม่ถูกต้อง
    เป็น ปุถุสัจ ไม่ใช่ อริยสัจ

    เราคาดเอาเองว่า ดับ ทุกข์ไป มันจะเบาไปเรื่อยๆ แต่ผมจะบอกว่า หากไม่ได้โคตรภู แม้ดับทุกข์ไปเท่าไร มันจะไม่เบาไปเลย เปรียบกับ เราไม่รู้ว่าความว่างเป็นอย่างไร แล้วจะดับมันให้วิ่งไปสู่ความว่างนั้นได้อย่างไร

    คนทุกคน อาจจะละความทุกข์ได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่อาจจะถอน ไม่อาจจะทำให้ทุกข์นั้นเบาบางได้เลย หากไม่ได้เห็น สัจธรรม ตัวนี้
     
  10. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อ้าว ก็ไม่มีอะไร

    เพื่อให้คำบรรยาย ไม่มี เพศ มาเกี่ยวข้อง

    ท่านว่าอย่างนั้น เราก็พยายามทำตามระเบียบอันดีงาม
    ไม่ได้เจตนาไปประชิด สนิทสนม
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    โคตรภู คือ ญาณประจักษ์แจ้ง ในการดับสมมติทั้งปวง
    ถ้าใครยังไม่อ๋อว่า นีหรือธรรม ในขั้นแรก หรือ ใครยังติดสมมติอยู่ ก็เรียกได้ว่ายังไม่เห็น
     
  12. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ผึ้ง สมมติว่าเธอมาทางเราได้

    เราขอชี้ อุปสรรค บางประการ

    ถ้ายกวิปัสสนาญาณได้ หรือ กำลังยก จะมีอาการแน่นหน้าอก
    ที่ไม่รู้สาเหตุ

    นั่นเป็นผลวิบากที่จะเกิดขึ้นเป็นธรรมดา เพราะว่า ได้เคยปฏิบัติ
    มาผิดๆ การปฏิบัติผิดๆ หมายถึง การทำสมถะที่มีเจตนาในการ
    หวังผลปฏิบัติ คือ ทำด้วยราคะ ไม่ใช่ ฉันทะ ทำแล้วก็ไปพอ
    ใจในผลการปฏิบัติ ไปยินดีกับผลที่เกิด ก็มีราคะอีก ไม่ใช่ วิมังสา
    เธอจะต้องเจอ อาการแน่นหน้าอก ก็ให้รู้ไป เป็นกรรมที่ต้องชดใช้

    นาน ยาว บอกไม่ได้ แล้วแต่กำลังของวิปัสสนา ถ้า ยกได้ไว กรรม
    นั้นก็จะเป็นของนอกๆ ที่เธอไม่ใส่ใจ แถมจะเป็นครูเสียอีก

    อย่าเผลอไม่ชอบใจ จนละการปฏิบัติ -- เสียงที่จะเกิดขึ้น นอกจาก
    นั้น ก็อาจจะเป็นภาพก็ได้ อย่าได้ไปสนใจ ติดข้อง ให้ทำใจไปว่า
    ก็แค่ ของถูกรู้ ถูกดู แค่นั้น มัจจุราชก็หาเธอไม่เจอ
     
  13. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ***************

    ถูกต้องอีก บางคนติดนิมิต ก็ผิดทาง ติดความว่าง แต่ไม่รู้ว่าว่างจริง ก็ผิดทาง เพราะในความว่างคือความไม่ว่าง ความว่าง ในความว่าง นั้นยาก ที่จะเข้าใจ แต่ ณ ขณะนี้ ได้เดินมา แล้วและคิดว่า ไม่ผิดทาง หนทางข้างหน้า คือนิพพาน จะช้าจะเร็ว ขึ้นอยู่ที่ตัวเองแล้ว เท่านั้นจริง ๆ
     
  14. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ตามความเห็นผมนะครับคุณสูญ
    ผู้รู้คือจิต จิตเป็นผู้พบจิตผู้รู้ จิตที่ว่า เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ต่างๆ
    สติเป็นผู้ทำลายจิต เมื่อจิตผู้รู้เกิด ให้มีสติดูที่อาการของจิตที่เป็นไป
    แต่ไม่มาดูที่ผู้รู้ เพราะจะเกิดเป็นผู้รู้ขึ้นมาอีก ไม่จบไม่สิ้น
    เมื่อมีสติตามดูอาการของจิต อาการของจิตก็จะถูกทำลาย เพราะสติเข้ามาแทน
    ตรงนี้ต้องดูว่า จิต หมายถึงอะไร ซึ่งแบ่งได้เป็นสอง คือ ตัวที่เข้าไปรู้ไปดู
    กับสิ่งที่ถูกดูหรืออาการของจิต
    ที่หลวงปู่กล่าวคือ เมื่อเราปฏิบัติไปแล้ว จะมีอัตตา หรือ ผู้รู้เกิดขึ้นมา
    นั่นก็ถือว่าผิดทาง เพราะการปฏิบัติต้องเป็นไปเพื่อ ปล่อยวาง
    ถ้ายังมีตัวผู้รู้ ก็หมายความว่า ยังปล่อยวางไม่ได้
    ดังนั้น ท่านจึงว่า พบผู้รู้ก็ให้ทำลายเสีย คืออย่าไปยึดติดกับตัวผู้รู้ ไม่ว่าผู้รู้จะรู้อะไรก็ตาม มันเป็นไตรลักษณ์ทั้งหมด ยึดมั่นไม่ได้ รวมถึงธรรมที่ได้ด้วย
    เพราะการยึดว่าธรรมเป็นเรา ก็เท่ากับว่ามีเราที่เป็นผู้มีธรรม ยังวางอัตตาไม่ได้
    ส่วนพบจิตให้ทำลายจิต คือ เห็นอะไรก็ยึดมั่นไม่ได้ เด๋วจะมีตัวผู้รู้ขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันเป็นไปตามกฏของพระไตรลักษณ์ แล้วมันก็ดับไปเอง หรือ ทำลายไปเอง
     
  15. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ************

    ขั้นที่ว่าแน่นหน้าอก หายไปแล้ว และมุดอุโมงค์ก็หายไปแล้ว มาถึงจุดนี้จะเล่าให้ฟัง พอเริ่มหลับตา และยกระดับจิตขึ้น ความรู้สึกเหมือนขึ้นยาน วืดขึ้นสูง จากนั้นจะเริ่มเกิดความว่าง และจะทำการพิจารณาสังขารเลย เพราะเกิดเร็ว เราไม่ได้กำหนด แต่ใช้ความรู้สึกเอา ไม่ได้กำหนดให้ว่าง เมื่อใดที่กำหนดให้ว่าง จะมุดอุโมงค์ทันที อันนี้เราน้อมมาที่ใจ เมื่อพิจารณาสังขารณ์จะเห็นว่า มีอะไรบางอย่าง มาให้เราเห็น ในมโนจิต อันนี้หลอก ถ้าเราคิดไปตาม ถามตามว่าอะไรหนอ ตามดู หันตาม เอะ อะไรหนอ อันนี้หลง ทำให้เราติดอยู่แค่นั้น จะไม่เกิดอะไรขึ้นเลย แต่เราไม่เอา เราขอเฉย ๆ อยู่เฉย ๆ ซักพัก มันดับพลึบ เหลือแต่ดวงแก้ว ใสกิ๊ง มันดับไปเลยค่ะ จากนั้น ว่างเลยค่ะ ว่างจริง ๆ แต่ไม่ได้เช็คว่าว่างจริงหรือเปล่า เพราะออกจากสมาธิก่อน ดูนาฬิกา ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
     
  16. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    พูดถึงทำลายตัวผู้รู้ อันนี้ก็ มันส์ ทั้งๆที่ ได้เคยสดับนะ ว่า
    อย่าไปจ้องตัวผู้รู้ ก็เผลอทำจนได้ มันทำของมันเอง ( แต่มีผู้บงการนะ )

    โชคดีที่ เผลอไปดูตัวผู้รู้ ขณะฟังเทศน์หลวงพ่อ ท่านก็เทศน์เข้ามาตรงภาวะ

    ตอนแรกยังไม่รู้ ท่านก็เทศน์วน จนเราเอะใจ และตอนนั้น เริ่มปวดหัวแล้ว
    มันจะปวดหัวนะ เมื่อไปจ้องตัวผู้รู้

    ที่เผลอไปจ้องตัวผู้รู้ เพราะท่านเทศน์คำว่า ให้ทำลายตัวผู้รู้ เราก็เลยควาน
    หา เสร็จแล้วก็ไปเห็นอะไรตรงนั้น ก็เลยจ้องจะทำลาย(ไปรู้สึก ไปเอามาดู)
    โดยไม่รู้ว่านั่นคือผู้รู้ แต่พอน้อมคำเทศน์มาได้ ก็หลุดออกไป

    ท่านก็เทศน์ไปให้ญาติโยมฟังนะ แต่เราเอามาต่อธรรมได้ ท่านชี้ว่าที่ไป
    เผลอหยิบโดยไม่รู้ตัว เพราะหนึ่งมันไม่ใช่เรา และสอง มันมีตัณหา ยัง
    คิดอยู่ว่า จะทำอะไรจึงดี จึงไปเผลอปรุงเจตนาจะหลุดพ้น ก็เลยทำให้
    มันหยิบของมาให้ดู พอหลุด แล้วเข้าใจ ท่านก็เทศน์ว่า เมื่อรู้ธรรมอัน
    หนึ่งก็จะมีความสุขที่ได้เห็นทางธรรม นั้นแหละสุขที่ไม่อามิส ไม่ได้อาศัย
    อะไรเลย เป็นเพียงภาวะรู้ที่แจ่มขึ้นมา ถ้าปัญญามีอยู่ในเจตสิก ก็มีสุข
    และเบาสบายคู่เสมอ เสร็จแล้ว ก็หลุดไปที่ ว่าง แบบ คุณผึ้ง มันเข้าไป
    เอง ไปสว่าง


    ท่านก็เทศฯให้อีก ว่า ไปประครองเอาไว้ อยากมีความสุขอย่างนั้นนานๆ
    เลยไปความหาอีก สุขมันหายไปแล้ว ก็ยังอยากมีอยู่ อวิชชา เลยปรุง
    ว่างมาให้แทน เราก็ไม่ทัน ท่านก็เทศน์วน จนเราเอะใจ อ้าวนั้น โลภะ
    เจตนาปรุงว่างอยู่จริงๆ ก็หลุดออกมาเมื่อรู้ทันมัน

    น้ำตาซึม ญาติโยมที่ฟังธรรมไม่รู้สภาวะที่เราเป็น แต่เขาก็ได้ธรรมแบบ
    พรรณาโวหาร แต่เราได้ธรรมฤทธิ์สกิดใจ

    - เล่าเพื่อความบันเทิง -

    แล้วก็ใช่ว่า ผึ้งคนเดียวที่ติด เราก็ติดเป็น ว่าง

    แต่ตอนนี้ มันหรอกผมไม่ได้(นาน)แล้ว
     
  18. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อ้าว ทำไมเงียบ หรือพิมพ์อยู่คะ
     
  19. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ซับซ้อนดี สงสัยต้องให้ อ.ขันธ์ ชี้ธรรม ไม่เช่นนั้นของเราจะพร่อง

    เพราะเราเป็นแบบ แห้งแล้ง ไม่ชุ่มชื่นใจ ต่างกันก็ตรงนี้

    เราพอเห็นนิมิต ไม่ว่าอะไร จะเห็นหน้าผี หัวกะโหลก กองกระดูก จะ
    รู้สึกไปทันทีว่า เห็นนิมิต แล้วก็วางใจไม่ยินดี ยินร้าย ตัณหาอยากรู้
    มันจะดับ ทำให้ภาพนิมิตหายไป หรือ อาจเปลี่ยนเป็นภาพอื่น แต่ไม่
    นานก็หายไปหมด

    บางครั้งก็เผลอสลัด ข่ม มัน ให้มันหาย อันนี้ไม่ทำละ เพราะยังมีการ
    จงใจกดข่ม แปลว่า มีไม่ชอบใจ มันจะคอยเลือกของให้ดูนะ มันจะ
    หาของที่เราเผลอยินดี หรือ ปฏิเสธ ถ้าหลงตามมันเมื่อไหร่ ก็เสร็จมัน
    โดนกิเลสหลอกเข้าให้แล้ว ร้ายจริงๆ เจ้าจิต !

    * * * ยังทุกข์ อยู่เลย * * * นี่คือคำหลวงพ่อ ที่ตอบมาสั้น เมื่อ
    เราเอาไมค์มาถามโดยตรง แค่นี้แหละ คำเทศน์ที่ได้รับตรงๆ แต่
    สุดยอด แทงตลอดสายได้ทั้งหมดในผลการปฏิบัติที่ได้ทำมา ณ จุด
    นั้น ก่อนจบด้วย * * * อย่าไปคาดหวัง * * * อันนี้ ก็คือ สาเหตุ
    ทั้งหมดที่เป็น ง่ายๆ แต่แจ่มแจ้ง --- คนอื่นได้ยินคง งง นะ ตื้นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤษภาคม 2008
  20. อวิโรธนะ

    อวิโรธนะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +6
    สมถะ แล้วลงมาวิปัสนา แต่มีสติไม่สุด ยังติดคุณวิเศษ
    ที่เป็นอยู่เรียกว่าสร้างภพมาพิจารณา
    ถ้าอยากสุด เลิกคาดหวังในผลวิเศษ ให้สักว่ารู้ทุกขณะจิต
    สักว่า สักว่า สักว่า ไม่ต้องไปเพ่งยกอะไรมาดู
    แต่ให้รู้สิ่งที่เกิดตรงปัจจุบัน เหมือนส่องกบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...