ข่าวสารจากจิตจักรวาล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 12 มกราคม 2007.

  1. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    วิธีสร้างมหาสติในชีวิตประจำวัน
    1.ทำจิตใจให้แจ่มใส
    -ไม่หวั่นไหวไปตามสิ่งเร้า
    -ไม่กระทำ เพราะว่าอยาก หรือ ไม่อยาก
    2.พยายามจดจำความดีงามของผู้อื่นไว้
    -ช่วยให้เราอดทน อดกลั้น และให้อภัยกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น
    3.รู้ดีรู้ชั่ว
    -คือคุณธรรม ช่วยให้ทุกคนลดการกระทำหรือแสดงออกที่ไม่เหมาะสมต่อกัน ไม่เป็นเงื่อนไขทางอารมรณ์ด้านลบต่อกัน ซึ่งจะทำให้ใครต่อใครขาดสติได้นั่นเอง
    4.รู้ผิดรู้ถูก
    -ควรมองหาเหตุผลของความถูกผิด ไม่ใช่คอยแต่จะมองหาว่าใครถูกใครผิด
    5.รู้เหตุแห่งความผิดถูกนั้น
    -คือการพิจารณาอย่างรอบคอบทุกสิ่งทุกเรื่องทุกราว ก่อนตัดสินใจทำสิ่งนั้นหรือเรื่องนั้นอย่างมั่นใจ มันเป็นการไม่ใช้อารมณ์หรือกิเลสนำหน้า แต่เป็นการใช้สติปัญญาเป็นผู้นำการกระทำนั่นเอง เป็นการยกระดับสติปัญญา หรือพัฒนาเซลล์สมองนั่นเอง
    -การคิดเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับมนุษย์ คือ การคิดรู้ในสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่มีเหตุผลที่เป็นสมการเส้นตรง ไม่ใช่การคิดคำนวณ ไม่มีระเบียบวิธีคิดวิเคราะห์ ไม่ต้องอาศัยระบบปราสาทสัมผัสทั้งห้าเข้าช่วยเหลือเพื่อรับรู้พิสูจน์รู้ ให้คิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเรื่องเดียว คิดด้วยความมุ่งมั่น คิดได้เป็นเวลานาน และคิดด้วยความเบิกบานใจ จึงจะกระตุ้นเซลล์สมองกลุ่มนี้ได้
    6.รู้กระทำในสิ่งถูก
    7.รู้กฎทางกายภายของสากลจักรวาล
    พลังอำนาจของแก่นแท้ หรือ ของจิตวิญญาณมีอยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ สติปัญญาของจิตวิญญาณ และความรักบริสุทธิ์ที่ใช้ดึงดูดเหนี่ยวรั้งกันและกันไว้
    กฎของสากลจักรวาล เป็นเรื่องของพลังงานล้วนๆ
    กฎของจักรวาลโลก ที่เกี่ยวกับการยึดติดตัวตน ซึ่งจักรวาลสากลถือเป็นเรื่องของมายา ไม่ใช่แก่นแท้ คือ
    7.1 ความดีความชั่ว
    7.2 ความอยาก ความไม่อยาก
    7.3 การจูงใจ
    7.4 การตอบสนองเมื่อถูกจูงใจ
    ถ้ามนุษย์สามารถละเลิกการยึดติดสิ่งเหล่านี้ได้ มนุษย์ย่อมเข้าถึงแก่นแท้ของตนเอง และมนุษย์จะเกิดการสร้างสติสร้างธรรมชาติสมาธิให้แก่ตน ซึ่งจะเป็นผลด้านบวกต่อการเป็นเงื่อนไขให้มนุษย์คนอื่นๆที่ตนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ด้วย พลอยมีสติ และธรรมชาติสมาธิตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเรียกว่า การเกิดมหาสติ นั่นเอง

    (คัดลอกบางส่วนมาจากหนังสือจิตจักรวาลซีรีส์ 7 ครับ)
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
  3. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    มีข้อน่าสังเกตอย่างนึงครับว่า
    พายุนาร์กีสที่เกิดที่พม่า กับแผ่นดินไหวที่เกิดที่เฉิงตู ซึ่งเป็นเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน
    ทั้ง 2 แห่งนี้ เกี่ยวพันกันกับเรื่องอาหารครับ ตำแหน่งที่เกิดในพม่า เป็นแหล่งผลิตข้าวที่สำคัญ
    ส่วนเฉิงตู เป็นศูนย์กลางในการส่งออกอาหารของจีนครับ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    แหล่งผลิตอาหารโดนทำลายลงไปอีกแห่งแล้ว
    ความอดอยาก+ขาดแคลนก็คลืบคลานไปทั่วโลก
    เกาหลีเหนือและแถบเอทิโอเปีย คงได้รับผลอีกตามเคย
    ข่าวบอกว่าแถวนั้นเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหมีแพนด้าของจีนด้วย
    และมีชาวเขาจำนวน 60,000 กว่าคนที่ยังไม่รู้ชะตากรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2008
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ต่อไป....
    ยุทธศาสตร์ข้าวไทย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    ยุทธศาสตร์ข้าวไทย ก็ทั้งประเทศซิคะ
     
  7. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    อจ.ปริญญา นำภาพแผนที่จิตจักรวาล มาเปรียบเทียบพม่าในปจัจุบัน
    (ตอนบรรยายวันที่ 11 พ.ค.)
    เราก็ขอเรียนแบบมาให้ชมกัน ว่าช่างเทคนิคเขาร่างไว้ยังไง
    พร้อมด้วยแผนที่สหรัฐฯ โดนทอร์นาโด ถล่ม 4 รัฐ 4 ลูก ที่
    1. GEORGIA
    2. OKLAHOMA
    3. MISSURI
    4. NORTH CAROLINA
    อจ.เล่าว่าใช้เวลาเขียนแผนที่สหรัฐฯ เป็นเดือน อยากจะอาเจียน
    คลื่นใส้ เพราะพลังลบเยอะมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Map jit.jpg
      Map jit.jpg
      ขนาดไฟล์:
      245.1 KB
      เปิดดู:
      559
    • MapUSA.jpg
      MapUSA.jpg
      ขนาดไฟล์:
      257.4 KB
      เปิดดู:
      376
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เข้าใจทำลาย
     
  9. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
     
  10. Joypor

    Joypor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +1,024
    รอคุณแม่นายมล มาสรุปเรื่องที่อาจารย์สื่ออยู่คะ
     
  11. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ตราบใดก็ตาม ทีการใช้เหตุผล หรือสมองอันวิเศษที่สุดของมนุษย์บนโลกตนใดก็ตามในขณะที่จิตยังไม่สงบเป็นสัมมาสมาธิ (บนพื้นฐานกำลังของฌาน 4) สิ่งนั้นย่อมคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้ ดังนั้นสิ่งที่ได้จะเกิดจากการจำเอา คิดเอา ด้นเดา และ ปรุงแต่งเอา เจตสิกล้วน ๆ อย่าหวังว่าจะเที่ยงตรง

    ที่เขียนี้ไม่ใช่เหตุผลเพื่อค้าน หลายสิ่งหลายอย่างการใช้เหตุผลแบบโลก ๆ มีประโยชน์อยู่มาก แต่ที่เขียนนี้ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายอย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ แต่จะต้องสืบค้นด้วยตนเองจนกว่าจะเห็นสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ไม่ใช่จากการปรุงแต่งหรือการชักชวนของคนอื่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2008
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ใช่ครับ การจะได้ความรู้พิเศษเหล่านี้ด้วยตนเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปครับ เคล็ดลับคงอยู่ที่การหล่อหลอมดวงจิตให้เป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะต้นกำเนิด หรือสภาวะจิตเดิมแท้ ที่ทุกคนล้วนมีอยู่เท่าเทียมกันให้ได้มากที่สุด โดยมีความบริสุทธิ์สูงสุดเป็นที่ตั้ง ส่วนเทคนิควิธีการสามารถเลือกกันได้ ที่ขาดไม่ได้คือต้องมีสติสัมปชัญญะอันคมชัด ทำให้เราสามารถจดจ่อข้อมูลนั้นได้อย่างชัดเจน...ถ้าลองฝึกอย่างจริงจังถูกทางรับรองว่าสามารถรับ-ส่งข้อมูลจากองค์ความรู้สากลได้เช่นเดียวกันครับ

    อ่านข้อความต่อไปนี้น่าจะช่วยกระตุ้นพวกเราให้เข้าใจมุมมองของจิตวิญญาณยิ่งขึ้น (y)

    "ฉันคือพลังงานซึ่งปราศจากร่างกายแต่เต็มไปด้วยบุคลิกภาพ ฉันเลิกหลงไหลผูกพันกับวัตถุธาตุ มันทำให้ฉันมีสติสัมปชัญญะที่สามารถล่วงรู้ถึงความเป็นจริงแห่งธรรมชาติ ซึ่งเธอทั้งหลายไม่อาจรู้ได้ เพราะเธอมัวแต่ใช้สติจดจ่ออยู่กับร่างกายและวัตถุธาติรอบตัวของเธอ นอกเหนือไปจากโลกที่เธอรู้จักนี้ มีโลกแห่งความเป็นจริงอันกว้างใหญ่ไพศาล เป็นทางใหม่สู่การเป็นอิสระจากความปรารถนา ฉันอยู่เหนือการเป็นตัวตนที่ถูกจำกัดด้วยแรงดึงดูดของโลก กฎเกณฑ์แห่งระยะทาง ช่องว่างและกาลเวลา ฉันรู้จักใช้ชีวิตโดยปราศจากร่างกายและตัวตนจำเพาะ"


    "ฉันจึงเป็นได้ทั้งต้นไม้ ใบหญ้า สายลม แสงแดด สายรุ้ง ดาวฤกษ์ ภูเขา เมฆ ผีเสื้อ เม็ดทราย แม้แต่ลมหายใจของเธอ เป็นส่วนหนึ่งของเธอหรือทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล"


    "ฉันจึงเป็นอิสระจากความปรารถนาที่จะอยู่รอด เพราะฉันไม่เกิด-เสื่อมสลายหรือตาย ฉันเพียงแต่ดำเนินชิวิตด้วยความปรารถนาที่จะถ่ายทอดความรู้ ความรู้สึกนึกคิดอยู่ตลอดเวลา

    "ความรู้ที่เป็นของกลางในจักรวาล ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีการครอบครอง
    มีแต่การถ่ายทอดแลกเปลี่ยนโดยตรงด้วยจิตวิญญาณ"

    "เธอทั้งหลายไม่ใช่มนุษย์ผู้ใฝ่หาประสบการณ์ในมิติของจิตวิญญาณ
    แต่เธอคือจิตวิญญาณผู้มาหาประสบการณ์ในมิติของมนุษย์ "

    เธอและฉันจึงไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรเลย..เพียงแต่ฉันได้เรียนรู้สะสมประสบการณ์มามายมาย จนในที่สุดฉันก็ได้พบแล้วว่า ฉันคืออะไร และอะไรมาเป็นฉัน"

    "หากเธอมัวแต่สงสัยอยู่เพียงว่า เธอคือใครและใครมาเป็นเธอ อย่าเสียเวลากับคำถามเช่นนี้อยู่เลย เมื่อเธอตั้งคำถามผิดเธอจะไม่มีวันได้คำตอบที่ถูกต้อง"

    @@@ โนวา อนาลัย @@@
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2008
  13. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
  14. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    บทที่ 1 วิญญาณไม่ใช่จิตวิญญาณ

    แห่งที่มาของข้อมูล หนังสือจิตจักรวาลซีรี่ส์ 18 เรื่องจิตวิญญาณวิทยา

    ถ่ายทอดเคลื่นความคิดจากจักรวาลโดย ปริญญา ตันสกุล MBA.,M.S.[/b] เป็นหนังสือประเภทนิวเอจ แนวอภิปรัชญา ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่อยู่นอกกรอบความรู้ของวิชาฟิสิกส์ และเป็นแก่นความรู้ของวิชาปรัชญา

    คำนำผู้นิพนธ์บางตอน
    แท้แล้วทุกตัวอักษรและแก่นความรู้ภายในคัมภีร์จิตจักรวาลเล่มนี้ คือ อักษรและแก่นความรู้ของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณทั้งสิ้น จึงเป็นความจริงแท้ที่ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่ผู้นิพนธ์ซึ่งเป็นผู้รับการถ่ายทอดคลื่นความคิดรู้นี้เองก็ตาม
    กราบพระบาทขอบพระทัยพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ ที่ทรงประทานความรู้อันยิ่งใหญ่เหล่านี้มาให้เพื่อบันทึกไว้เป็นสมบัติของโลกยุคพลังงานใหม่สืบไป
    ปริญญา ตันสกุล
    1 มิถุนายน 2546

    มีผู้ที่ยังเข้าใจและสับสนกันอยู่มาก ในระหว่างความหมายของคำว่า "จิตวิญญาณ" กับ "วิญญาณ" โดยส่วนใหญ่มักจะเข้าใจเป็นว่าทั้งสองคำนี้มีความหมายเหมือนกัน และเป็นสิ่งเดียวกัน ซึ่งแท้จริงแล้วมันเป็นคนละเรื่องกันต่างหาก เนื่องจากความจริงที่จริงแท้นั้น
    วิญญาณ ก็คือ วิญญาณ
    จิตวิญญาณ ก็คือ จิตวิญญาณ
    ทั้งสองสิ่งนี้มิใช่สิ่งเดียวกันอย่างที่คิดเลย

    วิญญาณ คืออะไร?
    มนุษย์โดยทั่วไป มักรู้จักคำว่า "วิญญาณ" จากความรู้ในเรื่องของ ขันธ์ 5 เสียเป็นส่วนใหญ่
    ขันธ์ 5 หรือ ขันธ์ทั้งห้า ก็คือ คำอธิบายถึงกระบวนการสั่นสะเทือนทางจิตของมนุษย์ในมิติทางพลังงานรวม 5 ระดับ ขั้นตอน อันเป็นพฤติกรรมสำคัญที่เกิดขึ้นภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมรุปธรรมมนุษย์ซึ่งสองตาเปล่ามองไม่เห็น ดดยกระบวนการสั่นสะเทือนของจิตหรือพฤติกรรมทางจิตที่ว่านี้มันเกิดจะเกิดทันทีที่มีสิ่งเร้ามากระตุ้นให้มีการ รับรู้ เกิดขึ้นเสมอ
    การรับรู้สิ่งเร้าแวดล้อมของมนุษย์ทุกคนนั้น จะกระทำผ่านช่องทางประสาทสัมผัสทั้งหกอันเป็นกลไกอวัยวะของเครื่องยนต์แห่งกรรมแห่งกรรมรุปประธรรมมนุษย์นั่นเอง คือ ตา หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และการนึกคิดของจิตเอง ไม่ว่ามนุษย์จะสัมผัสรู้ดูเห็นผ่านช่องทางกลไกอวัยวะทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น หรือกายสัมผัสทางใดทางหนึ่งก็ตาม กลไกดังกล่าวต่างจะต้องทำหน้าที่ถ่ายคลื่นรหัสสัญญาณที่ตนรับรู้นั้นส่งผ่านต่อไปยัง จุดศูนย์กลางแห่งการรับรู้ อีกทอดหนึ่งซึ่งเป็นจุดเดียวกันเสมอ ทั้งนี้เพื่อแปลความหมายคลื่นรหัสสัญญาณที่ได้รับมานั้นว่า

    ที่กำลังแลเห็นอยู่นั้นเป็นสิ่งใด
    ที่กำลังได้ยินได้ฟังอยู่นั้นเป็นเสียงอะไร
    ที่กำลังได้กลิ่นอยู่นั้นเป็นกลิ่นใด
    ที่กำลังรับรสอยู่นั้นเป็นรสใด
    ที่กำลังสัมผัสด้วยกายอยู่นั้นร้อนเย็นหรือว่าเป็นเช่นใด

    ลำพังเพียงแค่กลไกอวัยวะทั้งห้าของเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์ซึ่งทำหน้าที่รับรู้นั้น จะไม่สามารถบอกได้ด้วยกลไกใดๆ ในตัวของมันเองหรอกว่า สรรพสิ่งที่ตนได้สัมผัสรับรู้จากอวัยวะนั้น เป็นอะไร เป็นสิ่งใด หรือเป็นอย่างไร ต่อเมื่อคลื่นรหัสสัญญาณการรับรู้จากอวัยวะทั้งห้านี้ถูกส่งถ่านทอดไปยัง จุดศูนย์กลางแห่งการรับรู้ แล้วเท่านั้น สภาวะแห่งการรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงจะบังเกิดขึ้น

    ดังนั้น สองตาเนื้อของมนุษย์จึงมีหน้าที่เพียงแลเห็นเงาของสรรพสิ่งอันเกิดจากการสะท้อนของคลื่นแสง สองหูของมนุษย์จึงมีหน้าที่เพียงรับฟังคลื่นความถี่แห่งสรรพเสียง จมูกของมนุษย์จึงมีหน้าที่เพียงรับสัมผัสกลิ่นอันเป็นคุณสมบัติหนึ่งของคลื่นความถี่ทางพลังงาน ลิ้นของมนุษย์จึงมีหน้าที่เพียงรับสัมผัสรสชาติอันเป็นคุณสมบัติหยาบๆ ทางกายภาพของสรรพสิ่งต่างๆ และผิวกายของมนุษย์ก็มีหน้าที่เพียงรับรู้อุณหภูมิซึ่งเป็นอีกคุณสมบัติหนึ่งของคลื่นพลังงานเท่านั้น โดยที่กลไกอวัยวะทั้งห้านี้ตามลำพังของตนเองแล้ว มิได้มีหน้าที่และไม่มีอำนาจที่จะบอกได้ด้วยตนเองว่า ที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นมันอยู่นั้นอะไรเป็นอะไร จุดศูนย์กลางแห่งการรับรู้ต่างหาก คือ ผู้ซึ่งทำหน้าที่บอกมนุษย์แต่ละคนว่ากำลังสัมผัสรู้เห็นอะไร

    ตาที่สาม
    ถ้าจะเรียกชื่อนามกลไกชิ้นนี้ให้เป็นที่สอดคล้องกันกับความรู้เดิมที่มนุษย์มีอยู่แล้ว จุดศูนย์กลางแห่งการรับรู้นี้ก็คือ ต่อมไร้ท่อต่อมหนึ่งซึ่งมีนขาดเล็กมากเท่าเมล็ดถั่วเขียวที่เร้นตนเองอยู่ภายในกะโหลกศรีของมนุษย์ มีชื่อเรียกขานว่า "ต่อมไพนีล" นั่นเอง ดังนั้นหากจะกล่าวสรุปว่า

    ตาที่สามของมนุษย์ คือ ต่อมไพนีล ก็ไม่ผิดนัก

    ด้วยเหตุนี้เอง มนุษย์จึงต้องรู้ว่าไม่เพียงแต่ต่อมไพนีลนี้เท่านั้น กลไกต่อมไร้ท่ออื่นๆ ที่มีอยู่ภายในเครื่องยนต์แห่งกรรมของตน นอกจากมันจะทำหน้าที่สำคัญๆ ในมิติทางกายภาพเท่าที่ค้นพบคุณสมบัติกันได้แล้ว มันยังมีหน้าที่จะต้องกระทำในมิติทางพลังงานอีกด้วย

    นี่จึงเป็นเครื่องบ่งชี้การเป็น "คนสองมิติ" ของมนุษย์แต่ละคนได้อย่างหนึ่ง

    จากความจริงที่จริงแท้ดังกล่าวมาทั้งหมดนั้น ทำให้มนุษย์เรียนรู้ได้ว่ากระบวนการของขันธ์ 5 มันเริ่มต้นที่ต่อมไพนีลหรือตาที่สามวึ่งเป็นจุดศูนย์รวมแห่งการรับรู้ของมนุษย์นี่เอง..... มีความรู้ใหม่ๆที่คุณ/มนุษย์ทั่วไปยังไม่รู้อีกมากมายค่ะ ซึ่งเรากำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ เราอยากให้มนุษย์ทุกคนได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย

    ติดตามได้ในซีรี่ส์ 18 เรื่องจิตวิญญาณวิทยาได้(หนังสือที่มนุษย์ทั้งโลกควรอ่าน)

    ที่มา http://amornunjitwattana.spaces.live.com/
     
  15. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในปี 2551 บ้าง

    มีคำถามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในปี 2551หลั่งไหลเข้ามาหาผู้เขียนค่อนข้างมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 อันเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น ขยับตัว และซ้อนเกยกันบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยประมาณ 400 กิโลเมตร มีอัตราการสั่นไหว 9 ริกเตอร์ เป็นเหตุให้ประเทศไทยได้รับความสูญเสีย โดยได้คร่าชีวิตผู้คนที่พักอยู่อาศัย และมาท่องเที่ยวใน 6 จังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามัน โดยพบศากศพมากกว่า 5,000 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 10,000 คน และยังสูญหายอีกมากกว่า 3,000 คน โดยมีผู้คนของประเทศต่างๆอีกหลายประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล เมื่อนับจำนวนซากศพผู้ที่เสียชีวิตในคราวเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งนี้ ก็มีจำนวนมากกว่า 220,000 ศพ ทั้งนี้เนื่องจากในปี 2534 ผู้เขียนเคยเขียนเตือนเกี่ยวกับคลื่นยักษ์ซูนามิ ที่จะเกิดขึ้นโดยมีผลกระทบต่อประเทศไทย ( คำที่ถูกต้องในปัจจุบัน เรียกว่า สึนามิ) และได้เขียนบทความอีกครั้งในต้นปี2539 รวมทั้งผู้เขียนได้เคยออกรายการให้สัมภาษณ์คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ itv 2 เสาร์ติดกันในรายการ
     
  16. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ผอ.สำนักธรณีวิทยาเตือนว่า ในเมืองไทยพื้นที่ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงเกิดแผ่นดินยุบตัว หลังเกิดแผ่นดินไหว มีมากถึง 49 จังหวัด

    จังหวัดที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินยุบสูงมี 23 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี นครราชสีมา เพชรบูรณ์ สระแก้ว ขอนแก่น นครสวรรค์ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย ฉะเชิงเทรา น่าน ระนอง สุราษฎร์ธานี ชัยนาท ปราจีนบุรี ราชบุรี อุดรธานี ชุมพร พะเยา ลำปาง อุทัยธานี เชียงใหม่ พัทลุง และ เลย

    จังหวัดที่มีโอกาสเกิดแต่ไม่ถึงกับเสี่ยงสูง มี 26 จังหวัด คือ กระบี่ ตาก สตูล นครศรีธรรมราช เพชรบุรี กำแพงเพชร แพร่ สระบุรี จันทบุรี นราธิวาส ยะลา สุพรรณบุรี ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ปัตตานี ลพบุรี อุตรดิตถ์ เชียงราย พังงา ลำพูน ตรัง สงขลา และพิษณุโลก

    นอกจาก
     
  17. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ตัวอย่างความดีต่าง ๆ ที่ว่ามานี้ เป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ ของการมีชีวิตของคนเรา

    หากเราคิดได้ พูดชักชวนคนอื่นได้ และทำได้ ก็นับว่าได้สร้างให้สังคมของเรา เป็นสังคมที่มีคุณธรรมแล้ว
    ในชีวิตของคนเรา ในระหว่างมีสติอยู่ เรามักวนเวียนอยู่กับการคิด การพูด และการกระทำเกือบตลอดเวลา แม้ในเวลาหลับ ซึ่งเราไม่มีสติกำกับ บางครั้งกระแสแห่งการคิดก็ยังทำงานต่อ แต่ถ้าในขณะที่เรามีสติ ในขณะที่เราตื่นอยู่ เรามาหยุดคิด หยุดพูด และหยุดทำทุกสิ่ง วันละ 5-10 นาที อาจช่วยท่านเติมพลังงาน หรือเติมประจุใหม่ ให้ท่านมีพลังแห่งความสดใส ชื่นบานด้วยจิตใจที่ผ่องใส เราอาจมานั่งจับความคิดของเราดูก็ได้ ว่า 5-10 นาที เราจับความคิดได้กี่เรื่อง เอาเทปเล็ก ๆ มาอัด หรือเอากระดาษมาจด เมื่อความคิดมันวิ่งผ่านเข้ามา เราอาจจะได้แง่คิด หรือแนวคิดที่มีประโยชน์อย่างมากก็ได้ จิตใจของเราก็จะผ่องใสด้วย

    สำหรับ
     
  18. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ผมมีโอกาสได้กลับไปพบปะกับบรรดาญาติๆต่างอำเภอ เขาเล่าว่าปู่ทวด (พ่อของตาผม) เคยกล่าวไว้อย่างเคร่งเครียดว่า .."ต่อไปอีกไม่นานพวกเอ็งก็จะได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น สิ่งที่ไม่ควรมีก็จะมี สิ่งที่ไม่คิดว่าจะรุนแรงก็จะบังเกิด โรคภัยไข้เจ็บแปลกๆก็จะได้มีและรักษาไม่ได้โดยง่าย พายุไฟโลกันต์จะเกิดอยู่ทั่ว เสียงฟ้าถล่มแผ่นดินทลายก็จะมี เหล่าสัตว์จะล้มตาย คนก็จะตายเป็นเบลือ เมืองใกล้ๆที่คิดว่าไม่ปลอดภัยก็จะปลอดภัยคือเขมร".. ที่เหลือป้าผมซึ่งเป็นคนเล่าก็จำไม่ได้แล้ว ป้าผมบอกว่ายังมีอีกเยอะครับ แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อก็เลยไม่ได้จดจำกัน
    ลืมบอกไปว่าปู่ทวดผมเป็นจอมขมังเวทย์ เดินไปต่างอำเภอด้วยระยะทางราว 40 กม. โดยมีเมฆติดตามตลอด (อันนี้ผมเคยรองมาหลายครั้งแล้วทั้งเดินทั้งวิ่งไม่เกิน 2 กม.ก็โดนเมฆแซงแล้ว) ท่านแยกร่างได้จนเป็นที่กล่าวกันมาระยะหนึ่ง พอก่อนท่านเสียคาถาคำภีร์ควรตกเป็นของลูกหลานแต่เนื่องจากมันเป็นมนต์ดำจึงยังหาผู้คู่ควรไม่ได้เพราะต้องเป็นผู้ต้องเลิกจากกามกิเลส และถือศีลเท่านั้น ท่านจึงนำไปมอบให้คนๆหนึ่งแต่มีข้อแม้ว่า ถ้าลูกหลานของปู่ทาดผมไปทวงคืนจะต้องให้คืน หลายปีต่อมามีคนไปทวงแต่เขาไม่ให้ คนที่ครอบครองคนนั้นจึงเสียสติในเวลาต่อมา (คนที่ครอบครองคาถาต่างๆไปนี้สามารถเดินบนไฟเผาขี้เลื่อยได้โดยไม่เป็นอะไรทั้งที่ยังบ้า-ไม่มีการจัดฉากครับเพราะโรงเลื่อยไม้เขาจะเผาขี้เลื่อยอยู่เสมออยู่แล้ว)
    แต่อีก 10 ปีข้างหน้าผมว่ามีโอกาสเป็นไปได้ครับแม้จะไม่ 100% แต่ผมเชื่อ 60% ด้วยเหตุที่เชื่อคือ

    - สภาพอากาศทุกวันเปลี่ยนแปลงเร็วและคาดเดายากกว่าเดิม Supercomputer ที่ว่าแน่สามารถทำนายสภาพอากาศทั่วไปล่วงหน้าได้ถึง 1 เดือน ตอนนี้เหลือแค่อาทิตย์เดียวแล้ว ต่อไปอาจเป็น 24 ชม. ก็เป็นได้

    - โรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะโรคที่ไม่เคยมีมานานแล้วก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในแต่ละปี คงอาจเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนนั่นเอง มนุษย์มักกำหนดฤดูเป็นสิ่งที่แสดงถึงความแตกต่างของสภาพอากาศ แต่สัตว์หรือแม้แต่พืชผมว่ามันไม่ได้คิดเช่นนั้น สิ่งมีชีวิตพวกนี้ดำรงค์อยุ่และจะปรับตัวได้ด้วยสภาพอากาศที่มันสามารถรู้สึกได้เท่านั้นอาจเพราะวงจรชีวิตมันสั้นเลยไม่ต้องมัวกำหนดฤดูให้วุ่นวาย

    - แผ่นดินพิโรจก็เริ่มมีเห็นถี่ขึ้นรุนแรงขึ้น ภูเขาไฟที่ดับไปนานก็กลับมาประทุขึ้นอีก (ดูจากข่าวต่างประเทศ) แบบนี้แล้วยังจะมีพวกหาทางออกไม่ได้จะให้สร้างโรงงงานไฟฟ้าปรมณูอีก แล้วชาวบ้านแถวไหนจะให้ทำกัน

    - สิ่งที่กลัวที่สุดก็สงครามโลกครั้งที่ 3 นี่แหล่ะ อย่าได้เกิดขึ้นเลย ไม่อยากไปฆ่าแกงใครโดยตัวเองไม่เต็มใจ สงครามแย่งชิงพื้นที่และทรัพยากรณ์ สหรัฐฯนี่ตัวดีเลย คอยยุแยงประเทศอื่นให้ไม่ไว้วางใจกัน โดยเฉพาะประเทศที่มีทรัพยากรณ์มากๆเพื่อให้ปลดปล่อยทรัพยากรณ์นั้นออกมาในขณะที่ตัวเองสะสมไว้มากที่สุด และประเทศที่กำลังคิดจะสะสมอาวุธเพื่อค้าอาวุธที่กำลังจะตกรุ่นให้

    ประเทศมหาอำนาจเหล่านี้ต่อไปจะเป็นผู้กุมชะตาโลกใบนี้ จะสามารถสั่งประเทศอื่นให้ซ้ายหัน-ขวาหันได้ สหรัฐฯธุรกิจอสังหาฯทรุดตัวลงแต่ยังสามารถควบคุมได้ แต่ถ้าจีนฟองสบู่แตกจะเกิดอะไรขึ้น สหรัฐฯมี supercompuer ต่อพ่วงกันหลายร้อยเครื่องเพื่อช่วยคิด จีนยังดีที่ยังมี PC computer ถูกๆต่อพ่วงกัน ส่วนไทยเพิ่งเริ่มคลาน ระบบ AI ก็ยังไปไม่ถึงไหน ซึ่งไม่จำเป็นต้องมองไปที่ Tecnology เลย มองแต่สภาพสังคม การเมือง เศรษฐกิจ และศีลธรรมแล้ว ยังไม่ไปถึงไหนเลย การที่จะผันตัวมาเป็นครัวโลกก็ต้องผลิตแต่ของดีๆแล้วส่งออก ส่วนของไม่ดีก็กินกันภายในประเทศ นอกจากอาหารจะแพงขึ้นแล้วยังต้องรับแต่สารอาการด้อยคุณภาพอีกเลย (คนรวยๆตอนนี้ก็เริ่มสั่งอาหารดีๆจากต่างประเทศเข้ามากินกันแล้ว) ยิ่งไปกันใหญ่เลยทีนี้
    ที่กล่าวมาทั้งหมด แม้เป็นเพียงตวามคิดเห็นและเหตุผลอันน้อยนิด แต่มันเริ่มมีมูลเหตุให้เกิดกระแสอารยะแบบย้อนกลับบ้างแล้ว (คนฆ่ากันอย่างไร้เหตุผลมากขึ้นทุกวัน) มันจะไม่ถอยหลังแต่มันจะค่อยๆเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยทั้งหมดที่จะเกิดล้วนมาจากกฎแห่งธรรมชาติโดยแท้ คนที่เข้าใจธรรมะเท่านั้นที่จะออกมาบอกมาเตือนมนุษย์ให้กลับมามองที่รากแท้ของตัวตนที่แท้จริง ถ้ายังเพิกเฉยก็แล้วแต่บุญกรรมสร้างกันมาก็แล้วกันครับ..

    ที่มา http://amornunjitwattana.spaces.live.com/blog/
     
  19. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ผู้ใดพูดตรง ผู้ใดสอนตรง?????????????????????????????????????

    มีแต่ท่านที่หมดกิเลสแล้วเท่านั้น ในทางธรรมจะไม่ผิเพี้ยนแม้แต่เทียบเท่ากับเอาเส้นผมมาผ่าให้ได้หนึ่งในพันซีกแล้วเอาหนึ่งซีกมาขึงให้ตึง ธรรมที่ท่านพูดท่านสอนจะไม่ผิดไปจากธรรมชาติของความเป็นจริงเลย

    ผู้ที่ยังไม่หมดกิเลส จิตใจยังมีธุลี ย่อมขุ่นมัว การสอนจะด้วยเหตุผล หรือlogic อะไรก็ตาม มันคือการปรุงแต่ง คือการสมมติทั้งสิ้น

    ผู้ที่ตั้งตนเป็นเจ้าลัทธิ เจ้าคำสอน เจ้าตำราใด ๆ ทั้งที่ตนเองยังมีกิเลสอยู่เต็มหัวใจแล้วจะสอนสาวกให้หมดกิเลสนั้นยาก ทำให้ยิ่งห่างไกลจากความเป็นจริงไปมากยิ่งขึ้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2008
  20. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันครับ แต่เกี่ยวพันกับเรื่องของปัญญาญาณครับ จึงรีบนำมาเล่าสู่กันฟังครับ (กันลืมจ๊า)
    เมื่อคืนนี้ ฝันไปว่า
    มีเมืองๆนึง ซึ่งเจ้าเมืองนั้นเป็นคนดีมาก คอยสอดส่งอดูแล และปกป้องลูกเมืองอยู่เสมอ แม้ลูกเมืองบางคนอาจจะไม่เห็นถึงความห่วงใยก็ตาม และท่านก็กลุ้มใจว่าเราจะป้องกันอุทกภัยที่จะมาถึงจากทางเหนือได้อย่างไร ท่านก็นั่งคิดคำนึงอยู่นาน และก็เห็นวัตถุธาตุที่อยู่บนโต๊ะทำงานของท่าน จะมีหลายอย่างด้วยกัน คุณสมบัติของวัตถุธาตุเหล่านั้นจะมีแต่แรงดึงดูดเข้ามาทั้งนั้น มีอยู่ที่สิ่งเดียวเท่านั้นที่มีแรงผลักออกอย่างมหาศาล ก็คือสิงห์ที่ทำจากหยกขาว จากนั้นท่านก็ระดมความคิดจากหลายๆส่วน กับคนที่เห็นคุณค่าในการปกป้องเมือง มาช่วยกัน ถึงแม้จะแค่หยิบมือเดียว
    โดยในฝันนั้นทุกคนต้องเสียสละอย่างสูง ห้ามคิดถึงแต่ชีวิตตนเอง ให้คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนรวมอย่างเดียว
    จากนั้นเมื่อน้ำเริ่มไหลบ่ามาทางเหนือ ทุกคนก็จะรวมสิงห์ขาว มาช่วยกันต้านกระแสน้ำที่ไหลเข้ามาในเมืองอย่างเชี่ยวกราก ซึ่งก็พอบรรเทาไปได้บ้าง ถึงจะไม่มากก็ตาม
    และก็จะมีอีกทิศที่ต้องไปทำ นอกจากทางเหนือแล้ว (ในส่วนนี้จำไม่ได้ครับ)

    ตื่นมาก็ลองคิดดูว่าในฝันจะสื่อถึงอะไร
    ผมตีความได้ว่า สิงห์ขาว น่าจะหมายถึงการนำปัญญาญาณของแต่ละคนมาใช้ คิดถึงส่วนรวม ไม่ให้คิดแต่ตนเอง น่าจะหมายถึงให้ร่วมมือร่วมใจกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...