พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรื่องของการจะบอกว่า ใช่หรือไม่ อย่างไร กับพระวังหน้า หรือพระวังหลวง (ที่รวมๆแล้วเรียกว่า กรุวัดพระแก้ว) และพระพิมพ์ที่สร้างขึ้นและได้รับการอธิษฐานจิตจากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ก่อน ปี พ.ศ.2415

    จะไม่มีสิ่งใดเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า ใช่หรือไม่ เนื่องจากคนในยุคนี้ ไม่มีใครที่จะเกิดทันในยุคนั้นแม้แต่คนเดียว และหนังสือต่างๆที่เขียนกันขึ้นมาและมีการตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ ก็มาจากคนกลุ่มเดียวคือกลุ่มที่ค้าขายพระพิมพ์

    จากหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น ดีมานด์และซับพลาย เมื่อสร้างความต้องการซื้อจากคนกลุ่มใหญ่ได้เป็นจำนวนมาก จะทำอย่างไรให้ราคาพุ่งขึ้นสูงมาก ก็ต้องสร้างซับพลายโดยจำกัดเนื้อหาทรงพิมพ์ ว่ามีกันแค่ 3 วัด มีเนื้อหาทรงพิมพ์เท่านี้ เมื่อพระพิมพ์มีน้อย แต่ความต้องการของคนมีมาก ย่อมทำให้ราคาพุ่งสูงขี้นอย่างที่เราๆท่านๆ คงไม่มีวาสนาได้ครอบครอง อีกทั้งผู้ที่เขียนหนังสือและค้าขายพระ ก็ไม่ต้องเสียภาษีให้กับประเทศชาติ ซึ่งเป็นการเอาเปรียบกับสังคมด้วย

    หรืออย่างเรื่องของมวลสาร "ปูนเพชร" หรือ "ปูนเปลือกหอย" ก็อีก คนที่เขียนตำราว่า ต้องมีมวลสารแบบนี้ เนื้อหาทรงพิมพ์แบบนี้ ยังไม่มีความรู้เกี่ยวกับปูนทั้งสองประเภทนี้เลย แล้วจะเขียนให้คนเชื่อถือได้อย่างไร

    หรืออย่างเรื่องของการลบผง คนที่เขียนตำรา ไม่มีคนไหนเลยที่ลบผงเป็น แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า การลบผง ใช้อะไรลบ วิธีการลบนั้นลบอย่างไร ผงที่ได้มาในแต่ละครั้งเรียกว่าอะไร ใช้บทสวดอะไรในการลบผง

    หากมองดูกันในปัจจุบันนี้ ที่คุณเพชรเคยมาบอกก็คือ หลวงพ่อคูณ พระพิมพ์และวัตถุมงคลของท่าน ที่ท่านอธิษฐานจิตมีจำนวนมากมาย แต่ในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระองค์ท่านเป็นผู้ที่คนทั้งหลายในแผ่นดินให้ความเคารพนับถือเป็นจำนวนมาก จะอธิษฐานจิตเพียงแค่ 3 วัดกระนั้นหรือ

    อีกทั้งการตรวจสอบพระพิมพ์นั้น ผมเองเคยบอกไว้ในกระทู้นี้จนจำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแล้วว่า หากจะนำพระพิมพ์ไปตรวจสอบ ขอให้นำไปให้พระวิปัสนาญาณ(เช่น สายพระอาจารย์มั่น ตามดอยต่างๆ) ไม่น้อยกว่า 5 องค์ท่านตรวจสอบดูให้ว่า เป็นพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรหรือสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี พระองค์ท่านอธิษฐานจิตหรือไม่ และผลที่ตรวจสอบนั้น ต้องตรงกันทั้งหมด จึงจะเชื่อถือได้

    ผมเคยไปที่วัดแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อไว้ แต่หากอยากทราบว่าเป็นวัดไหน ผมเคยบอกในกระทู้นี้ ลองค้นหาดูครับ) ผมนำไปให้หลวงปุ่...ท่านดูให้ ท่านเอ่ยปากขอพระพิมพ์กับผม ทั้งๆที่ท่านเป็นลูกศิษย์ของ.... สายธรรมยุต แต่ลูกศิษย์ท่านที่อยู่ใกล้เคียงกัน บอกว่า พระสมเด็จองค์ที่เขาห้อยอยู่นี้องค์ละ 3 ล้าน หลวงปุ่.....ท่านยังไม่ชายตามองเลย

    ท่านผู้อ่าน ตื่นแล้วหรือยัง ท่านจะตื่นหรือไม่ตื่นก็เป็นเรื่องของท่าน ผมและผู้คนอีกมากพอสมควร ตื่นแล้ว ตื่นจากฝัน มาสู่ความเป็นจริง

    ของจริงย่อมพิสูจน์ได้เสมอ

    โมทนาสาธุครับ

    .


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
     
  2. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    สวัสดิครับพี่ sithiphong วันนี้ผมได้รับพระพิมพ์ครบทุกองค์แล้วครับ*พระสวยทุกองค์ครับอนุโมทนาสาธุ
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?t=126206

    <TABLE class=tborder id=post1158422 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 09:04 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>yokusta<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1158422", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:04 AM
    วันที่สมัคร: Oct 2007
    สถานที่: สมุทรสาคร
    ข้อความ: 237 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 537 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 1,410 ครั้ง ใน 224 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 114 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1158422 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] ใครใช้ DTAC เข้ามาดูหน่อยนะ....
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ตั้งกระทู้ไว้ที่ห้อง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้วค่ะ แต่กลัวว่าจะเข้าไปดูกันน้อย เลยขออนุญาตเว็ปมาสเตอร์ มาตั้งกระทู้ในห้องนี้ด้วยนะคะ
    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- sig -->
    ____________________________________________________________
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    องค์ต่อไปนี้ ให้ทายกันครับว่าด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้า "ด้านหลังเป็นรูปของผู้ใด กับผู้ใด"

    เงื่อนไขคือ

    หากมีผู้ที่ตอบถูกทั้งหมด ผมจะมอบ"พระสมเด็จองค์ปฐม(ด้านหน้า) พระพุทธเจ้าปางพระนิพพาน(พระวิสุทธิเทพ)(ด้านหลัง)" ให้ท่านละ 2 องค์

    หากมีผู้ที่ตอบถูกเพียงข้อเดียว ผมจะมอบ"พระสมเด็จองค์ปฐม(ด้านหน้า) พระพุทธเจ้าปางพระนิพพาน(พระวิสุทธิเทพ)(ด้านหลัง)" ให้ท่านละ 1 องค์

    แต่จำกัดเวลาเพียงเวลา 12.00 น. วันพรุ่งนี้ครับ เพื่อให้เพื่อนๆที่เล่น net ช่วงเช้า และช่วงค่ำได้ร่วมสนุก และมีสิทธิเท่าเทียมกันครับ จำกัดมอบให้เพื่อนๆที่ตอบถูกทั้ง 2 กรณีรวมกันเพียง 10 องค์ครับ

    พระรุ่นนี้เป็นการนำมวลสารของสมเด็จองค์ปฐมทั่วประเทศเพียงเท่าที่รวบรวมไว้ ณ เดือน ตุลาคม 2549 และมวลสารอื่นๆอีกมากมายครับ

    พร้อมแล้วร่วมสนุกกันได้เลยนะครับ หากสะกดชื่อยศตำแหน่งผิดไม่นับครับ
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    มีข้อมูลมาเพิ่มเติม

    เชิญทัศนาครับ

    ************************************************

    ภาพปริศนา ? "พระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก" ความเข้าใจผิดอันคลาดเคลื่อน
    [​IMG]

    ใครก็ตามที่ผ่านสายตาไปยังหนังสือซึ่งรวบรวมเรียบเรียงเรื่องราวของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม มาบ้างแล้ว อย่างน้อยต้องพบภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเด็ก

    ภาพที่เข้าใจกันว่าเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)

    อันเป็นภาพที่ปรากฏบนหน้าหนังสือเกี่ยวกับอัตโนประวัติสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) อยู่บ่อยๆ จนมีบางท่านเข้าใจคลาดเคลื่อนตลอดมา แท้จริงภาพนี้มีการเข้าใจผิดมาอย่างเนิ่นนาน

    ในนิตยสาร "ชุมนุมจุฬาฯ" ปีที่ 14 เล่มที่ 3 ฉบับ 23 ตุลาคม พ.ศ.2503 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพนี้ทั้งบรรยายว่า

    "พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปิยมหาราช เมื่อทรงพระเยาว์กำลังทรงพระอักษรกับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (โต) วัดระฆังโฆสิตาราม

    ภาพโดยความเอื้อเฟื้อของ พล.ร.ต.หลวงสุวิชาแพทย์"

    หากสังเกตจะพบว่าสมณศักดิ์ของท่านนั้นผิด สมณศักดิ์ของท่านซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระธรรมกิติ" ในปี พ.ศ.2395 ขณะนั้นท่านมีอายุได้ 64 ปีแล้ว

    ในปี พ.ศ.2397 ทรงแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ "พระเทพกวี" จนกระทั่งปี พ.ศ.2407 ทรงสถาปนาเป็น "สมเด็จพระพุฒาจารย์"

    ขณะเดียวกัน ในคำแถลงจากสาราณียกรของหนังสือ "ชุมนุมจุฬาฯ" ดังกล่าว ก็ว่า "พระบรมฉายาลักษณ์ขององค์สมเด็จพระปิยมหาราชในสมัยยังทรงพระเยาว์อันเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่หาดูได้ยาก อัญเชิญมาประดับเป็นศรีแก่เล่ม เนื่องในวาระสำคัญนี้ด้วย" ยิ่งเสริมความเชื่อเป็นอันมากว่า คือ พระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ครั้งทรงพระเยาว์

    แท้จริงภาพนี้มีที่มาในนิตยสาร "ศิลปวัฒนธรรม" ปีที่ 2 ฉบับที่ 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2524 หน้า 33 ปรากฏการตีพิมพ์ภาพใบนี้ พร้อมคำอธิบายจาก "นิวัติ กองเพียร" ว่า รูปนี้ไม่ใช่รัชกาลที่ 5 กับสมเด็จพระพุฒาจารย์ เหตุผลประกอบดังนี้

    1. รูปนี้ได้มาจากหนังสือฝรั่งชื่อ "SIAM"

    2. พัดรองที่วางพิงผนังอยู่นั้น เป็นพัดที่นิยมทำก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาไม่มีความนิยมในการทำพัดรองอีกเลย

    3. ถ้ารูปนั้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์จริง ท่านต้องห่มดองและรัดประคดอก มิใช่อย่างที่เห็นในรูป แม้แต่พระรุ่นเก่าที่วัดระฆังโฆสิตาราม ที่เคยเห็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ก็ยืนยันว่ามิใช่สมเด็จแน่

    4. เจ้านายหลายพระองค์ ที่เป็นพระธิดาหรือพระโอรสก็ยืนยันว่า มิใช่พระราชบิดาแน่นอน

    หนังสือฝรั่ง "SIAM" ที่ว่า ก็คือ หนังสือชื่อยาวเฟื้อยว่า "TWENTIETH CENTURY IMPRESSION OF SIAM : ITS HISTORY, PEOPLE COMMERCE, INDUSTRIES, AND RESOURCES WITH WHICH IS INCORPORATED AN ABRIDGED EDITION OF TWENTIETH CENTURY IMPRESSIONS OF BRITISH MALAYA"

    แปลชื่อเป็นไทยว่า "เรื่องน่ารู้ของสยามในศตวรรษที่ 20 ว่าด้วยประวัติศาสตร์ พลเมือง พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม และทรัพยากร รวมเรื่องน่ารู้ของบริติชมลายาในศตวรรษที่ 20 โดยสังเขป" อันเป็นหนังสือที่ตีพิมพ์จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในปี พ.ศ.2452 อันเป็นช่วงปลายรัชกาลที่ 5 ทั้งยังให้คำอธิบายรูปนี้ไว้ว่า "Buddhist Priest and Disciple"



    นอกจากนี้ ในการจัดทำหนังสือเล่มดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระกรุณาประทานภาพส่วนพระองค์ อันเกี่ยวเนื่องกับประเทศสยามให้กับผู้จัดทำหนังสือเล่มนี้ด้วย

    อย่างไรก็ตามแต่ ในหนังสือที่ระลึกงานสงกรานต์ชลบุรี ประจำปี พ.ศ.2507 ในเรื่อง "สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต)" อันเขียนโดย อธึก สวัสดิมงคล ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ภาพพระสงฆ์สอนหนังสือเป็นภาพที่เข้าใจผิดและคลาดเคลื่อน ดังในหน้า 11 ที่ให้ข้อมูลความเป็นมาของภาพใบนี้จากลายพระหัตถ์หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ว่า

    "สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) นั้นไม่ช้าจะเป็นอะไรๆ สักร้อยอย่างเป็นเรื่องหากินทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ใครอยากรู้อะไร ก็นั่งวิปัสสนาเอาได้ ไม่ช้าคงต้องร้อนถึงทางการเข้าเล่นด้วยเป็นแน่ มีผู้เอาภาพพระแก่กับเด็กลูกศิษย์สอนหนังสือกัน ฉันจำได้ว่า "โรเบิร์ต เลนส์" ขอประทานให้เสด็จพ่อทรงช่วยทำโปสการ์ดเผยแพร่เมืองไทย และท่านได้ถ่ายรูปฉันแต่งลาวน่าน หญิงเหลือส่องกระจก พร้อมกับทำรูปนี้ด้วย แต่บัดนี้กลายเป็นรูปสมเด็จโตสอนหนังสือพระพุทธเจ้าหลวง แย่จริงๆ น่ากลัวพงศาวดารจะเลอะเทอะกันใหญ่เสียแล้ว"

    สำหรับ โรเบิร์ต เลนส์ เป็นช่างภาพชาวเยอรมัน เจ้าของห้องถ่ายรูปโรเบิร์ต เลสน์ ดำเนินธุรกิจถ่ายรูป เมื่อ พ.ศ.2437 ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นช่างภาพราชสำนักรัชกาลที่ 5

    นอกจากนี้ ยังมีผู้กล่าวว่า พระภิกษุในภาพคือ พระครูวิมลคุณากร (ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งภาพดังกล่าวอาจจะไม่ได้ถ่ายที่ชัยนาท ถ้าหากเป็นหลวงปู่ศุขจริง อาจจะถ่าย ณ ตำหนักเหลืองในวังพลเรือเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ก็เป็นไปได้

    ทั้งนี้ เพราะหลวงปู่ศุข จะมาพำนักที่ตำหนักเหลืองเป็นประจำทุกปี เพื่อมาร่วมงานในพิธีไหว้ครูประจำปีของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งทรงเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข

    อย่างไรก็ตาม ไม่อาจสรุปได้ว่าเป็นภาพของหลวงปู่ศุข ทั้งนี้ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิสกุล เมื่อครั้งทรงตอบคำถามของ อธึก สวัสดิมงคล ก็มิได้เอ่ยถึงว่าเป็นพระภิกษุรูปใด

    .......บทความคัดลอกจาก มติชนสุดสัปดาห์ วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปีที่ 25 ฉบับที่ 1302


    *********************************************

    [​IMG]
    อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นำมาให้คุณเพชรและทุกๆท่าน เพื่อความเป็นสิริมงคล ครับ
     
  6. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% <HR align=left width="95%" color=#768696 SIZE=1>
    โดย Post Digital วันที่ 1 พฤษภาคม 2551

    ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) อีก 0.25% สู่ระดับ 2.00% และลดอัตราดอกเบี้ยประเภทมาตรฐาน (discount rate) อีก 0.25% สู่ระดับ 2.25% ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้


    อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน

    เฟดได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดรวบรวมได้เมื่อเร็วๆนี้บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัวลง โดยตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนและการใช้จ่ายในภาคธุรกิจยังคงปรับตัวลดลง และตลาดแรงงานยังคงซบเซา นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังคงผันผวน ตลาดสินเชื่อยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว และตลาดที่อยู่อาศัยยังคงตกต่ำลง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะสกัดกั้นการเติบโตของเศรษฐกิจในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า"

    "ส่วนในด้านเงินเฟ้อนั้น เฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวปานกลางในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่เนื่องจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อยังคงไม่แน่นอน เฟดจึงต้องจับตาดูสถานการณ์เงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดและระมัดระวัง"
    "อย่างไรก็ดี เฟดคาดหวังว่าหลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพเข้าสู่ระบบการเงินหลายครั้งในช่งที่ผ่านมา จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวปานกลางและลดความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจได้ ทั้งนี้ เฟดจะติดตามความคืบหน้าทางเศรษฐกิจและการเงินต่อไป และจะใช้ "มาตรการที่จำเป็น" เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน" แถลงการณ์ของเฟดระบุ


    จากหนังสือพิมพ์ posttodayครับ
    อดไม่ได้ที่จะนำข่าวเศรษฐกิจมาลงให้เพื่อนๆทราบครับ เอาที่สำคัญจริงๆ ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยลงอีก ร้อยละ0.25 จาก 2.25 สู่ ร้อยละ2.0ครับ อีกเรื่องเราได้บริโภคน้ำตาลแพงขึ้นแล้วครับเมื่อวานนี้ ครม.ได้อนุมัติให้ปรับราคาน้ำตาลทรายอีกกิโลละ5บาทเป็น กิโลละ23บาทแล้วครับ โชคดีถนอมตัวทุกท่านครับ
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    งานบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


    ชุดพิเศษ 2

    1.ครั้งแรกในเดือน มกราคม 2550
    ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้ว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    2.ครั้งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
    ผมนำพระพิมพ์เข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่สองว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(หลังแบบ)
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 2 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) หมดแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว


    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว



    [​IMG]
    พระสมเด็จหลังเบี้ย
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จไกเซอร์
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว(รอส่งเพิ่มเติม)

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อกรมท่า)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) รอส่งพระพิมพ์

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์
    (คุณพรสว่าง 2008 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จ(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 7 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 5 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว



    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(สองหน้า)
    พระปิดตาวังหน้า สีดำ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    พระปิดตาวังหน้า สีขาว/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระปิดตาสี่กร (เนื้อปัญจสิริและเนื้อกรมท่า)
    พระปิดตาสี่กร เนื้อปัญจสิริ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว (รอส่งเพิ่มเติม)
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว


    พระปิดตาสี่กร เนื้อกรมท่า/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว(รอส่งเพิ่มเติม)
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) รอส่งพระพิมพ์เพิ่มเติม

    [​IMG]
    พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักแดงหรือชาด)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 10 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 9 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 8 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 7 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) รอส่งพระพิมพ
    (คุณonlyboon จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    หมายเหตุ คุณพรหมประกาศิต ร่วมทำบุญ 5,000 บาท

    โมทนาทุกบุญกับทุกๆท่านครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, ซักวันจะคิดออก</td></tr></tbody></table>
    ท่านผู้อ่านกระทู้พระวังหน้าฯ ผมจะบอกว่าเรื่องราวของวงการพระเครื่อง ต้องใช้สติ ใช้ปัญญา หมั่นศึกษาให้รู้จริงๆ บางเรื่อง(ส่วนใหญ่) จะีมีการวางเรื่อง(ยา) ให้ผู้คนทั้งหลาย(ที่ไม่รู้เรื่อง) ให้เดินตามทางที่กำหนด

    และระวังเรื่องของการปรามาสไว้ให้จงหนักครับ

    โมทนาสาธุครับ


    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคนไทยเรา คนโดยส่วนใหญ่ของประเทศเป็นคนระดับกลางและระดับล่าง เงินกว่าจะหากันมาได้ ต้องลำบากกันมาก เศรษฐกิจของบ้านเราไม่ค่อยดีในตอนนี้ บริษัทปิดตัวก็มีค่อนข้างมาก บัญชีเดินสะพัดก็มีปัญหาอยู่พอสมควร เรื่องของอาชญากรรมต่างๆ มีมากขึ้น ใช้กลวิธีที่ซับซ้อนขึ้น ควรระวังตนเองให้มาก

    ผมมีคาถาอยู่บทหนึ่งที่สามารถใช้ในเรื่องนี้ได้ดี "อย่าโลภ" เรื่องความโลภ เป็นเรื่องที่นำพาไปสู่ความเป็น "เหยื่อ" ได้เป็นอย่างดี องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสมานานหลายปีแล้ว อีกทั้งหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ก็รณรงค์กัน แต่ผมว่ายังไม่ได้ผลเท่าที่ควร เรื่องอะไรพอทราบกันไหมครับ
    "เศรษฐกิจพอเพียง" ไงครับ


    ผมจะยกตัวอย่างเรื่องของ "ความโลภ" ความโลภเป็นสิ่งหนึ่งที่อยู่กับคนในยุคปัจจุบัน เมื่อเช่าพระมารุ่นนึง ซึ่งกลุ่มคนที่ค้าขายพระที่ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา ในราคาแพง
    ก็หวังว่า จะสามารถขายพระได้ในราคาที่แพงกว่า แต่ในความเป็นจริง ผู้ที่เช่าพระมา (โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่ค้าขายพระที่ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมา) ไม่สามารถที่จะปล่อย(ขาย) พระที่ตนเองซื้อมาในราคาที่สูงกว่านั้นอีก


    เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง หากเราพอเพียงในสถานะภาพที่เราเป็นอยู่ ความสุขไม่ได้อยู่ที่วัตถุรอบข้าง แต่อยู่ที่ "จิตใจ" ของเราเอง

    โมทนาสาธุครับ


    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เศรษฐกิจพอเพียง
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- / icon and title --> <!-- message -->
    เศรษฐกิจพอเพียง

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%...B8%A2%E0%B8%87



    เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517<sup id="cite_ref-king-words-2517_0-0" class="reference">[1]</sup> และพูดถึงอย่างชัดเจนในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540 (ภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540) เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไขเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในกระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ<sup id="cite_ref-CSE-phil_1-0" class="reference">[2]</sup> ในทางการเมืองของไทยแล้ว เศรษฐกิจพอเพียงมีบทบาทสำคัญในการสถาปนาอำนาจนำด้านอุดมการณ์ โดยเฉพาะอุดมการณ์กษัตริย์นิยมในสังคมไทย ในฐานะ "กษัตริย์นักพัฒนา" ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตของอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียง สิ่งเหล่านี้ถูกตอกย้ำและผลิตซ้ำโดยสถาบันทางสังคมต่าง ๆ เช่น สถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการ สื่อมวลชน ส่งผลให้เศรษฐกิจพอเพียงมีบทบาทต่อการกำหนดอุดมการณ์การพัฒนาของประเทศ<sup id="cite_ref-prachatai-se-king-20071127_2-0" class="reference">[3]</sup> และการพยายามตีความเพื่อสร้างความชอบธรรมในการพัฒนาโดยปัญญาชนอย่าง ประเวศ วะสี, เสน่ห์ จามริก, อภิชัย พันธเสน และ ฉัตรทิพย์ นาถสุภา ซึ่งเชื่อมโยงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเข้ากับอุดมการณ์วัฒนธรรมชุมชน ที่ถูกเสนอมาก่อนหน้าโดยองค์กรพัฒนาเอกชนจำนวนหนึ่งตั้งแต่พุทธทศวรรษ 2520 ก็ได้ช่วยให้อุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียงขยายครอบคลุมส่วนต่าง ๆ ของสังคม<sup id="cite_ref-prachatai-se-king-20071127_2-1" class="reference">[3]</sup> สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิในทางเศรษฐกิจและสาขาอื่น ๆ มาร่วมกันประมวลและกลั่นกรองพระราชดำรัสเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อบรรจุในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549)<sup id="cite_ref-CSE-phil_1-1" class="reference">[2]</sup><sup id="cite_ref-3" class="reference">[4]</sup> และได้จัดทำเป็นบทความเรื่อง "ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" และได้นำความกราบบังคลทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2542 โดยทรงพระกรุณาปรับปรุงแก้ไขพระราชทานและทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำบทความที่ทรงแก้ไขแล้วไปเผยแพร่ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติของสำนักงานฯ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนโดยทั่วไป เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542
    ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ได้รับการเชิดชูสูงสุดจากองค์การสหประชาชาติ ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ<sup id="cite_ref-un-secretary-2006_4-0" class="reference">[5]</sup> และสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาแบบยั่งยืน<sup id="cite_ref-un-news_5-0" class="reference">[6]</sup> ในขณะที่นักวิชาการและสื่อจำนวนหนึ่งตั้งคำถามถึงการยกย่องนี้ รวมทั้งความน่าเชื่อถือของรายงานศึกษาและท่าทีของสหประชาชาติ (ดูเพิ่มที่ การวิพากษ์วิจารณ์)
    [​IMG]

    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...-chart01-1.jpg
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    แนวคิด

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะให้พสกนิกรชาวไทยได้เข้าถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้ซึ่งทฤษฏีของการพัฒนาที่ยั่งยืน ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่าง สังคมระดับท้องถิ่นและตลาดระดับสากล จุดเด่นของแนวปรัชญานี้คือ แนวทางที่สมดุล โดยชาติสามารถทันสมัย และก้าวสู่ความเป็นสากลได้ โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวัฒน์
    หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีความสำคัญในช่วงปี พ.ศ. 2540 เมื่อปีที่ประเทศไทยต้องการรักษาความมั่นคงและเถียรภาพเพื่อที่จะยืนหยัดในการพึ่งตนเองและพัฒนานโยบายที่สำคัญเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยการสร้างแนวคิดเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้ ซึ่งคนไทยจะสามารถเลี้ยงชีพโดยอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า มันไม่ได้มีความจำเป็นที่เราจะกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ (NIC) พระองค์ได้ทรงอธิบายว่าความพอเพียงและการพึ่งตนเอง คือทางสายกลางที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงของประเทศได้
    เศรษฐกิจพอเพียงเชื่อว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมของชมชุนให้ดีขึ้นโดยมีปัจจัย 2 อย่างคือ
    1. การผลิตจะต้องมีความสัมพันธ์กันระหว่าง ปริมาณผลผลิตและการบริโภค
    2. ชุมชนจะต้องมีความสามารถในการจัดการทรัพยากรของตนเอง
    ผลที่เกิดขึ้นคือ
    • เศรษฐกิจพอเพียงสามารถที่จะคงไว้ซึ่งขนาดของประชากรที่ได้สัดส่วน
    • ใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม
    • รักษาสมดุลของระบบนิเวศ และปราศจากการแทรกแทรกจากปัจจัยภายนอก
    ปัจจุบันแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้มีการนำไปใช้เป็นนโยบายของรัฐบาล

    [แก้] หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

    <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td style="padding-right: 10px; padding-left: 10px; padding-top: 10px;" valign="top" width="20">[​IMG]</td> <td style="padding-top: 10px;">“...คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างเขาจะว่าเมืองไทยล้าสมัย ว่าเมืองไทยเชย ว่าเมืองไทยไม่มีสิ่งใหม่แต่เราอยู่ อย่างพอมีพอกิน และขอให้ทุกคนมีความปรารถนาที่จะให้เมืองไทยพออยู่พอกิน มีความสงบ ช่วยกันรักษาส่วนร่วม ให้อยู่ที่พอสมควร ขอย้ำพอควร พออยู่พอกิน มีความสงบไม่ให้คนอื่นมาแย่งคุณสมบัตินี้ไปจากเราได้...”</td> <td style="padding-left: 10px; padding-right: 10px;" valign="bottom" width="20">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="text-align: right; padding-right: 20px; padding-bottom: 10px; font-size: 90%;">พระราชกระแสรับสั่งในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแก่ผู้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแต่พระพุทธศักราช 2517<sup id="cite_ref-king-words-2517_0-1" class="reference">[1]</sup></td> </tr> </tbody></table> <table style="border-collapse: collapse;" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td style="padding-right: 10px; padding-left: 10px; padding-top: 10px;" valign="top" width="20">[​IMG]</td> <td style="padding-top: 10px;">การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง</td> <td style="padding-left: 10px; padding-right: 10px;" valign="bottom" width="20">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td colspan="3" style="text-align: right; padding-right: 20px; padding-bottom: 10px; font-size: 90%;"> — พระราชดำรัส "เศรษฐกิจแบบพอเพียง" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2540
    </td> </tr> </tbody></table> เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่ยึดหลักทางสายกลาง ที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัวไปจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง มีความพอเพียง และมีความพร้อมที่จะจัดการต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งจะต้องอาศัยความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง ในการวางแผนและดำเนินการทุกขั้นตอน เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เพียงการประหยัด แต่เป็นการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อให้สามารถอยู่ได้แม้ในโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการแข่งขันสูง
    ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ทรงปรับปรุงพระราชทานเป็นที่มาของนิยาม "3 ห่วง 2 เงื่อนไข" ที่ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำมาใช้ในการรณรงค์เผยแพร่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผ่านช่องทางต่าง ๆ อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยความ "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน" บนเงื่อนไข "ความรู้ และ คุณธรรม"
    อภิชัย พันธเสน ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม ได้จัดแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็น "ข้อเสนอในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามแนวทางของพุทธธรรมอย่างแท้จริง" ทั้งนี้เนื่องจากในพระราชดำรัสหนึ่ง ได้ให้คำอธิบายถึง เศรษฐกิจพอเพียง ว่า "คือความพอประมาณ ซื่อตรง ไม่โลภมาก และต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่น"<sup id="cite_ref-6" class="reference">[7]</sup>
    ระบบเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งเน้นให้บุคคลสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน และใช้จ่ายเงินให้ได้มาอย่างพอเพียงและประหยัด ตามกำลังของเงินของบุคคลนั้น โดยปราศจากการกู้หนี้ยืมสิน และถ้ามีเงินเหลือ ก็แบ่งเก็บออมไว้บางส่วน ช่วยเหลือผู้อื่นบางส่วน และอาจจะใช้จ่ายมาเพื่อปัจจัยเสริมอีกบางส่วน (ปัจจัยเสริมในที่นี้เช่น ท่องเที่ยว ความบันเทิง เป็นต้น) สาเหตุที่แนวทางการดำรงชีวิตอย่างพอเพียง ได้ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางในขณะนี้ เพราะสภาพการดำรงชีวิตของสังคมทุนนิยมในปัจจุบันได้ถูกปลูกฝัง สร้าง หรือกระตุ้น ให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเกินตัว ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินกว่าปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่น การบริโภคเกินตัว ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ความสวยความงาม การแต่งตัวตามแฟชั่น การพนันหรือเสี่ยงโชค เป็นต้น จนทำให้ไม่มีเงินเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ส่งผลให้เกิดการกู้หนี้ยืมสิน เกิดเป็นวัฏจักรที่บุคคลหนึ่งไม่สามารถหลุดออกมาได้ ถ้าไม่เปลี่ยนแนวทางในการดำรงชีวิต

    [แก้] การนำไปใช้

    ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ถูกใช้เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจมหภาคของไทย ซึ่งบรรจุอยู่ใน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า "สังคมสีเขียว" ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเมืองและชนบท<sup id="cite_ref-leeatham-2006_7-0" class="reference">[8]</sup>
    ปัญหาหนึ่งของการนำปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ก็คือ ผู้นำไปใช้อาจยังไม่ได้ศึกษาหรือไม่มีความรู้เพียงพอ ทั้งยังไม่กล้าวิเคราะห์หรือตั้งคำถามต่อตัวปรัชญา เนื่องจากเป็นปรัชญาของพระมหากษัตริย์<sup id="cite_ref-economist-20070111_8-0" class="reference">[9]</sup>. สมเกียรติ อ่อนวิมล เรียกสิ่งนี้ว่า "วิกฤตเศรษฐกิจพอเพียง"<sup id="cite_ref-matichon-somkiat-20070226_9-0" class="reference">[10]</sup> โดยสมเกียรติมีความเห็นว่า ผู้นำไปใช้อาจไม่รู้ว่าปรัชญานี้แท้จริงคืออะไร ซึ่งอาจเพราะสับสนว่า เศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้เข้าใจผิดว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการปฏิเสธอุตสาหกรรมแล้วกลับไปสู่เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังมีความไม่รู้ว่าจะนำปรัชญานี้ไปใช้ทำอะไร กลายเป็นว่าผู้นำสังคมทุกคน รวมถึงนักการเมืองและรัฐบาล โดยวิจารณ์โครงการในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้คำว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นข้ออ้างในการทำกิจกรรมใด ๆ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีว่าได้สนองพระราชดำรัส หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ "เศรษฐกิจพอเพียง" ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และได้วิจารณ์ว่ารัฐบาลยังไม่ได้ใช้อะไรเลยเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง แต่พูดควบคู่กับการเอาทุนนิยม 100 เปอร์เซ็นต์ลงไป ซึ่งรัฐบาลควรต้องปรับทิศทางใหม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้เอาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาและเป็นนโยบายทางวัฒนธรรมและสังคม สมเกียรติยังมีความเห็นด้วยว่าความไม่เข้าใจนี้ อาจเกิดจากการสับสนว่าเศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ทำให้มีความเข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการปฏิเสธอุตสาหกรรมแล้วกลับไปสู่เกษตรกรรม ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด.
    สิ่งที่สมเกียรติเสนอนี้ สอดคล้องกับที่ ชนิดา ชิตย์บัณฑิตย์ เสนอเช่นกันว่า เศรษฐกิจพอเพียงมีความหมายที่ลื่นไหลไปมา ไม่ผูกติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง อาจกล่าวได้ว่ามีนัยยะทางการเมืองแฝงอยู่ในการนำเสนอเสมอ ดังนั้น ถ้าพิจารณาในแง่อุดมการณ์ จำเป็นต้องดูบริบทของกลุ่มที่นำมาใช้หรือตีความ ว่าสร้างความชอบธรรมให้กับการพัฒนารูปแบบใด หรือมีนัยยะทางการเมืองอะไรอยู่เบื้องหลัง<sup id="cite_ref-chitbundit-20071120_10-0" class="reference">[11]</sup>
    นายสุรเกียรติ เสถียรไทย ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ได้กล่าวเมื่อวันที่ 24 พศจิกายน พ.ศ. 2547 ในการประชุมสุดยอด The Francophonie Ouagadougou ครั้งที่ 10 ที่ Burkina Faso ว่า ประเทศไทยได้ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับ "การพัฒนาแบบยั่งยืน" ในการพัฒนาประเทศทั้งทางด้านการเกษตรกรรม เศรษฐกิจ และการแข่งขัน ซึ่งเป็นการสอดคล้องเป้าหมายแนวทางของนานาชาติในประชาคมโลก โดยยกตัวอย่างการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ซึ่งเมื่อยึดหลักปรัชญาในการแก้ปัญหาสามารถทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยโตได้ถึงร้อยละ 6.7<sup id="cite_ref-mfa-20041124_11-0" class="reference">[12]</sup>

    [แก้] นอกประเทศไทย

    การประยุกต์นำหลักปรัชญาเพื่อนำพัฒนาประเทศในต่างประเทศนั้น ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยน ผ่านทางสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) โดย สพร.มีหน้าที่ คอยประสานงานรับความช่วยเหลือทางวิชาการด้านต่าง ๆ จากต่างประเทศมาสู่ภาครัฐ แล้วถ่ายทอดต่อไปยังภาคประชาชน และยังส่งผ่านความรู้ที่มีไปยังประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น สพร. ถ่ายทอดมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) และคณะอนุ กรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งต่างชาติก็สนใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพราะพิสูจน์แล้วว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่งแต่ละประเทศมีความต้องการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิต สภาพภูมิศาสตร์ ฯลฯ เช่น พม่า ศรีลังกา เลโซโท ซูดาน อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ ภูฏาน จีน จิบูตี โคลัมเบีย อียิปต์ เอธิโอเปีย แกมเบีย อินโดนีเซีย เคนยา เกาหลีใต้ มาดากัสการ์ มัลดีฟส์ ปาปัวนิวกินี แทนซาเนีย เวียดนาม ฯลฯ โดยได้ให้ประเทศเหล่านี้ได้มาดูงาน ในหลายระดับ ทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบาย จนถึงระดับปลัดกระทรวง รัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ<sup id="cite_ref-suthasinee-20070326_12-0" class="reference">[13]</sup>
    นอกจากนั้นอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ได้กล่าวว่า ต่างชาติสนใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง<sup id="cite_ref-suthasinee-20070326_12-1" class="reference">[13]</sup> เนื่องจากมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใยราษฎรของพระองค์ และอยากรู้ว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงได้นำมาเป็นนโยบาย ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้วก็ต้องการศึกษาพิจารณาเพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศอื่น
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การวิพากษ์วิจารณ์

    ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ได้รับการเชิดชูสูงสุดจากองค์การสหประชาชาติ (UN) โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ว่าเป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทยและนานาประเทศ<sup id="cite_ref-un-secretary-2006_4-1" class="reference">[5]</sup> และสามารถเริ่มได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นในที่สุด<sup id="cite_ref-un-chronical-2006_13-0" class="reference">[14]</sup> โดยที่องค์การสหประชาชาติได้สนับสนุนให้ประเทศต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเป็นแนวทางสู่การพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน<sup id="cite_ref-un-news_5-1" class="reference">[6]</sup>
    อย่างไรก็ตาม นายเควิน ฮิววิสัน อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา ที่แชพเพลฮิลล์ ได้วิจารณ์รายงานขององค์การสหประชาชาติโดยสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ที่ยกย่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง<sup id="cite_ref-undp-thailand-2007_14-0" class="reference">[15]</sup> ว่า รายงานฉบับดังกล่าวไม่ได้มีเนื้อหาสนับสนุนว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็น “ทางเลือกที่จำเป็นมากสำหรับโลกที่กำลังดำเนินไปในเส้นทางที่ไม่ยั่งยืนอยู่ในขณะนี้” (น. v ในรายงาน UNDP) เลย โดยเนื้อหาแทบทั้งหมดเป็นการเทิดพระเกียรติ และในส่วนของการอ้างอิงซึ่งน้อยมากนั้นก็แทบไม่มีงานสังคมศาสตร์จริง ๆ เลย และอันที่จริงแล้วราชสำนักเป็นผู้ผลิตรายงานฉบับนี้เอง (จากส่วน "กิตติกรรมประกาศ" น. vii ในรายงาน UNDP) ทำให้ที่สุดแล้ว รายงานฉบับนี้ก็มีค่าเพียงเป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อภายในประเทศเท่านั้น และผู้วิจารณ์เห็นว่า UNDP ควรทำการค้นหาตัวตนของสถาบันอย่างจริงจังเพื่อจะเข้าใจว่าเหตุใดจึงถูกใช้ในลักษณะนี้ หรือมาร่วมมือเชิดชูรัฐบาลที่มาจากทหารได้อย่างไร<sup id="cite_ref-prachatai-kevin-20071204_15-0" class="reference">[16]</sup>
    นิตยสารวิเคราะห์เศรษฐกิจรายสัปดาห์ The Economist ได้วิพากษ์รายงานฉบับดังกล่าวว่าเป็นรายงานที่ไม่สมดุล ("unbalanced report") เกี่ยวกับทฤษฎีที่ไม่เคยทดสอบในระดับชาติ และละเลยการวิเคราะห์ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงไม่ลำเอียง (objectivity) อย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ รายงานฉบับนี้ยังมอบความชอบธรรมให้กับระบอบที่ได้อำนาจมาจากการใช้กำลัง<sup id="cite_ref-economist-20070111_8-1" class="reference">[9]</sup>
    ส่วน Håkan Björkman รักษาการผู้อำนวยการ UNDP ในประเทศไทย กล่าวว่า "UNDP ต้องการที่จะทำให้เกิดการอภิปรายพิจารณาเรื่องนี้ แต่การอภิปรายดังกล่าวนั้นเป็นไปไม่ได้ในประเทศไทย เพราะทฤษฎีพอเพียงเป็นปรัชญาของพระมหากษัตริย์ และอะไรก็ตามที่วิพากษ์มันแม้เพียงห่าง ๆ ก็อาจจะถูกมองว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีโทษถึงจำคุก"<sup id="cite_ref-economist-20070111_8-2" class="reference">[9]</sup>

    [แก้] อ้างอิง
    1. ^ <sup>1.0</sup> <sup>1.1</sup> พระราชกระแสรับสั่งในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแก่ผู้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแต่พระพุทธศักราช 2517, อ้างใน ว.วชิรเมธี, ความสับสนเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง, เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 763 วันที่ 12-18 มกราคม พ.ศ. 2550
    2. ^ <sup>2.0</sup> <sup>2.1</sup> ศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจพอเพียง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
    3. ^ <sup>3.0</sup> <sup>3.1</sup> ประชาไท, “เศรษฐกิจพอเพียง” กับ “การสถาปนาพระราชอำนาจนำ”: เสวนาที่ ม.อุบลราชธานี, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
    4. ^ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, เอกสารสรุปสาระสำคัญ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๙
    5. ^ <sup>5.0</sup> <sup>5.1</sup> UN Secretary-General office. THAI KING’S DEVELOPMENT AGENDA, VISIONARY THINKING INSPIRATION TO PEOPLE EVERYWHERE, SAYS SECRETARY-GENERAL TO BANGKOK PANEL
    6. ^ <sup>6.0</sup> <sup>6.1</sup> UN News Center. With new Human Development award, Annan hails Thai King as example for the world
    7. ^ อภิชัย พันธเสน, พุทธเศรษฐศาสตร์: วิวัฒนาการ ทฤษฎี และการประยุกต์กับเศรษฐศาสตร์สาขาต่าง ๆ, สำนักพิมพ์อมรินทร์, 2547.
    8. ^ พิสิฐ ลี้อาธรรม, 2549 ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคการเงินการคลัง
    9. ^ <sup>9.0</sup> <sup>9.1</sup> <sup>9.2</sup> The Economist, Rebranding Thaksinomics, January 11, 2007
    10. ^ วิกฤต"เศรษฐกิจพอเพียง" สมเกียรติ อ่อนวิมล "ปรัชญา" ไม่ใช่ "ทฤษฎี", มติชน, 26 ก.พ. 2550, น. 11
    11. ^ ชนิดา ชิตย์บัณฑิตย์, “มองเศรษฐกิจพอเพียงผ่านแว่นหลากสี: “เศรษฐกิจพอเพียง” กับ “การสถาปนาพระราชอำนาจนำ” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”, การประชุมเชิงวิชาการ เหลียวหลังแลหน้าการเปลี่ยนแปลงสังคมชนบทอีสานช่วงทศวรรษ 2540-2550 กรณี “เศรษฐกิจพอเพียง: ความรู้และความไม่รู้”, คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550. อ้างผ่าน ประชาไท, “เศรษฐกิจพอเพียง” กับ “การสถาปนาพระราชอำนาจนำ”: เสวนาที่ ม.อุบลราชธานี, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550
    12. ^ Statement by H.E. Dr. Surakiat Sathirathai, Minister of Foreign Affairs of Thailand at the Luncheon held at upon the occasion of Ministerial Meeting of the Tenth Summit of the Francophonie Ouagadougou, Burkina Faso, 24 November 2004
    13. ^ <sup>13.0</sup> <sup>13.1</sup> สุทธาสินี จิตรกรรมไทย, สหประชาชาติ กับ "เศรษฐกิจพอเพียง" ของ"ในหลวง", หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10607
    14. '^ Håkan Björkman, Honouring the World's 'Development King, UN Chronical Online
    15. ^ UNDP, Thailand Human Development Report 2007: Sufficiency Economy and Human Development, United Nations Development Programme, 2007
    16. ^ ประชาไท, วิจารณ์รายงาน UNDP ประจำปี 2550 ว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพียง, 4 ธันวาคม พ.ศ. 2550. แปลบางส่วนจากบทความ “Royalist propaganda and policy nonsense”, Journal of Contemporary Asia, 38, ฉบับที่ 1 ปี 2008 และเรียกดูได้จาก New Mandala, Interview with Professor Kevin Hewison - Part One, 16 August, 2007
    [แก้] ดูเพิ่ม
    [แก้] แหล่งข้อมูลอื่น
    <!-- NewPP limit report Preprocessor node count: 368/1000000 Post-expand include size: 2946/2048000 bytes Template argument size: 2012/2048000 bytes Expensive parser function count: 0/500 --> <!-- Saved in parser cache with key thwiki:pcache:idhash:10613-0!1!0!!th!2 and timestamp 20080429222614 --> ดึงข้อมูลจาก "http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%...B8%A2%E0%B8%87".
    หมวดหมู่: เศรษฐกิจ | เศรษฐกิจของประเทศไทย | แนวพระราชดำริ
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=1012
    <table id="post2932" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="9" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(224, 224, 224) -moz-use-text-color rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 09-24-2005, 09:24 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" rowspan="2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(224, 224, 224); border-width: 0px 1px;" width="175"> ศากยบุตร <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2932", true); </script>
    คนคุ้นเคย
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    เป็นสมาชิกเมื่อ: Aug 2005
    โพส: 1,299
    ขอบคุณ: 23
    ได้คำขอบคุณ 53 ครั้งจาก 43 โพส
    ขอบคุณ: 23


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2932" style="border-right: 1px solid rgb(224, 224, 224);"> โทษของการกล่าวโทษพระอริยะ ๑๐
    <hr style="color: rgb(224, 224, 224);" size="1"> โทษของการกล่าวโทษพระอริยะ ๑๐

    ๑. ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ

    ๒. เสื่อมจากธรรมที่บรรลุแล้ว

    ๓. สัทธรรมย่อมไม่ผ่องแผ้ว

    ๔. เป็นผู้เข้าใจว่าตนได้บรรลุในสัทธรรมทั้งหลาย

    ๕. ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์

    ๖. ต้องอาบัติเศร้าหมองอย่างใดอย่างหนึ่ง

    ๗. ย่อมถูกโรคอย่างหนัก

    ๘. ถึงความเป็นบ้ามีจิตฟุ้งซ่าน

    ๙. เป็นผู้หลงไหลกระทำกาละ (ตายอย่างขาดสติ)

    ๑๐. เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก

    (พระไตรปิฎก เล่ม ๒๔ ข้อ ๘๘)




    ทิศ ๖

    จะทำสิ่งใดต่อพระสงฆ์ ก็ทำด้วยเมตตา

    จะพูดสิ่งใดต่อพระสงฆ์ ก็พูดด้วยเมตตา

    จะคิดสิ่งใดต่อพระสงฆ์ ก็คิดด้วยเมตตา
    </td></tr></tbody></table>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=832
    <table id="post2267" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="9" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(224, 224, 224) -moz-use-text-color rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 09-18-2005, 01:06 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224) rgb(224, 224, 224) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #1 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" rowspan="2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(224, 224, 224); border-width: 0px 1px;" width="175"> viBe <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2267", true); </script>
    เเอดมิน
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
    เป็นสมาชิกเมื่อ: Aug 2005
    สถานที่อยู่: ดินเเดนหิมะ
    โพส: 1,774
    ขอบคุณ: 408
    ได้คำขอบคุณ 544 ครั้งจาก 273 โพส
    ขอบคุณ: 408


    </td> <td class="alt1" id="td_post_2267" style="border-right: 1px solid rgb(224, 224, 224);"> กรรมบถ ๑๐ และ อานิสงส์
    <hr style="color: rgb(224, 224, 224);" size="1"> กรรมบถ ๑๐

    ๑. ไม่ฆ่าสัตว์หรือไม่ทรมานสัตว์ให้ได้รับความลำบาก

    ๒. ไม่ลักทรัพย์ คือไม่ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นที่เขาไม่ให้ด้วยความเต็มใจ

    ๓. ไม่ทำชู้ในบุตรภรรยาและสามีของผู้อื่น
    (ขอแถมนิดหนึ่ง ไม่ดื่มสุราและเมรัยที่ทำให้มึนเมาไร้สติ)

    ๔. ไม่พูดวาจาที่ไม่ตรงความเป็นจริง

    ๕. ไม่พูดวาจาหยาบคายให้สะเทือนใจผู้ฟัง

    ๖. ไม่พูดส่อเสียดยุให้รำตำให้รั่ว ทำให้ผู้อื่นแตกร้าวกัน

    ๗. ไม่พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล

    ๘. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์ของผู้อื่นที่เจ้าของเขาไม่ยกให้

    ๙. ไม่คิดประทุษร้ายใคร คือไม่จองล้างจองผลาญเพื่อทำร้ายใคร

    ๑๐. เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่านด้วยดี

    อานิสงส์กรรมบถ ๑๐

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ ท่านเรียกชื่อเป็นกรรมฐานกองหนึ่งเหมือนกัน คือ ท่านเรียกว่า สีลานุสสติกรรมฐาน หมายความว่าเป็น ผู้ทรงสมาธิในศีล

    ท่านที่ปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ประการได้นั้น มีอานิสงส์ดังนี้

    ๑. อานิสงส์ข้อที่หนึ่ง จะเกิดเป็นคนมีรูปสวย ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บรบกวน มีอายุยืนยาว ไม่อายุสั้นพลันตาย

    ๒. อานิสงส์ข้อที่สอง เกิดเป็นคนมีทรัพย์มาก ทรัพย์ไม่ถูกทำลายเพราะโจร ไฟไหม้ น้ำท่วม ลมพัด จะมีทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ขั้นมหาเศรษฐี

    ๓. อานิสงส์ข้อที่สาม เมื่อเกิดเป็นคนจะมีคนที่อยู่ในบังคับบัญชาเป็นคนดี ไม่ดื้อด้าน อยู่ภายในคำสั่งอย่างเคร่งครัด มีความสุขเพราะบริวาร และการไม่ดื่มสุราเมรัย เมื่อเกิดเป็นคนจะไม่มีโรคปวดศีรษะที่ร้ายแรง ไม่เป็นโรคเส้นประสาท ไม่เป็นคนบ้าคลั่ง จะเป็นคนมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด

    เรื่องของวาจา

    ๔. อานิสงส์ข้อที่สี่, ข้อห้า, ข้อหก, และข้อเจ็ด เมื่อเกิดเป็นคนจะเป็นคนปากหอม หรือมีเสียงทิพย์ คนที่ได้ยินเสียงท่านพูดเขาจะไม่อิ่มไม่เบื่อในเสียงของท่าน ถ้าเรียกตามสมัยปัจจุบันจะเรียกว่าคนมีเสียงเป็นเสน่ห์ก็คงไม่ผิด จะมีความเป็นอยู่ที่เป็นสุขและทรัพย์สินมหาศาลเพราะเสียง

    เรื่องของใจ

    ๕. อานิสงส์ข้อที่แปด, ข้อเก้า, และข้อสิบ เป็นเรื่องของใจ คืออารมณ์คิด ถ้าเว้นจากการคิดลักขโมยเป็นต้น ไม่คิดจองล้างจองผลาญใคร เชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสอนของท่านด้วยความเคารพ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์จะเป็นคนมีอารมณ์สงบและมีความสุขสบายทางใจ ความเดือดเนื้อร้อนใจในกรณีใดๆ ทุกประการจะไม่มีเลย มีแต่ความสุขใจอย่างเดียว
    อานิสงส์รวม

    เมื่อกล่าวถึงอานิสงส์รวมแล้ว ผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานในขั้นนี้ ถึงแม้ว่าจะทรงสมาธิไม่ได้นานตามที่เรียกว่า ขณิกสมาธิ นั้น ถ้าสามารถทรงกรรมบถ ๑๐ ประการได้ครบถ้วน ท่านกล่าวว่า เมื่อตายจากโลกนี้ไปแล้วไม่ต้องไปเกิดในอบายภูมิอีกต่อไป บาปที่ทำไว้ตั้งแต่สมัยใดก็ตาม ไม่มีโอกาสนำไปลงโทษในอบายภูมิมีนรกเป็นต้น อีกต่อไป

    ถ้าบุญบารมีไม่มากกว่านี้ ตายจากคนไปเป็นเทวดาหรือพรหม เมื่อหมดบุญแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ จะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้น แต่ถ้าเร่งรัดการบำเพ็ญเพียรดี รู้จักใช้ปัญญาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถบรรลุมรรคผลเข้าถึงพระนิพพานได้ในชาตินี้


    แนะวิธีรักษากรรมบถ ๑๐
    การที่จะทรงความดีเต็มระดับตามที่กล่าวมาให้ครบถ้วนให้ปฏิบัติตามนี้

    ๑. คิดถึงความตายไว้ในขณะที่สมควร คือไม่ใช่ทุกลมหายใจเข้าออก เมื่อตื่นขึ้นใหม่ๆ อารมณ์ใจยังเป็นสุข ก่อนที่จะเจริญภาวนาอย่างอื่น ให้คิดถึงความตายก่อน คิดว่าความตายอาจจะเข้ามาถึงเราในวันนี้ก็ได้ จะตายเมื่อไรก็ตามเราไม่ขอลงอบายภูมิ ที่เราจะไปคือ อย่างต่ำไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหม ถ้าไม่เกินวิสัยแล้ว ขอไปนิพพานแห่งเดียว คิดว่าไปนิพพานเป็นที่พอใจที่สุดของเรา

    ๒. คิดต่อไปว่าเมื่อความตายจะเข้ามาถึงเราจะเป็นในเวลาใดก็ตาม เราขอยึดพระพุทธเจ้า พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต คือไม่สงสัยในความดีของพระพุทธเจ้า ยอมเคารพด้วยศรัทธา คือความเชื่อถือในพระองค์ ขอให้ปฏิบัติตามคำสอน คือกรรมบถ ๑๐ ประการโดยเคร่งครัด ถ้าความตายเข้ามาถึงเมื่อไรขอไปนิพพานแห่งเดียว

    เมื่อนึกถึงความตายแล้วตั้งใจเคารพ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวก แล้วตั้งใจนึกถึงกรรมบถ ๑๐ ประการว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจจำและพยายามปฏิบัติตามอย่าให้พลั้งพลาด คิดติดตามข้อปฏิบัติเสมอว่ามีอะไรบ้าง ตั้งใจไว้เลยว่าวันนี้เราจะไม่ยอมละเมิดสิกขาบทใดสิกขาบทหนึ่งเป็นอันขาด เป็นธรรมดาอยู่เองการที่ระมัดระวังใหม่ๆ อาจจะมีการพลั้งพลาดพลั้งเผลอในระยะต้นๆ บ้างเป็นของธรรมดา แต่ถ้าตั้งใจระมัดระวังทุกๆ วัน ไม่นานนัก อย่างช้าไม่เกิน ๓ เดือน ก็สามารถรักษาได้ครบ มีอาการชินต่อการรักษาทุกสิกขาบท จะไม่มีการผิดพลาดโดยที่เจตนาเลย เมื่อใดท่านทรง
    อารมณ์กรรมบถ ๑๐ ประการได้ โดยที่ไม่ต้องระวัง ก็ชื่อว่าท่านทรงสมาธิขั้น ขณิกสมาธิ ได้ครบถ้วน เมื่อตายท่านไปสวรรค์หรือพรหมโลกได้แน่นอน

    ถ้าบารมีอ่อน เกิดเป็นมนุษย์อีกชาติเดียวไปนิพพานแน่ ถ้าขยันหมั่นเพียรใช้ปัญญาแบบเบาๆ ไม่เร่งรัดเกินไป รักษาอารมณ์ใจให้เป็นสุข ไม่เมาในร่างกายเราและร่างกายเขา ไม่ช้าก็บรรลุพระนิพพานได้แน่นอน เป็นอันว่าการปฏิบัติขั้นขณิกสมาธิจบเพียงเท่านี้

    (จบขณิกสมาธิ)
    คัดจากหนังสือ "วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ" หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    </td></tr></tbody></table>
     
  15. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    การวางยานี้ ไม่ใช่โดยวิสัญญีแพทย์นะครับ แต่โดย...นักค้าพระตัวฉมัง กิกิกิ
    หากไม่อยากเจอ ต้องอ่านมากๆ จากหลายๆแหล่ง ฟังให้มาก จากหลายๆคน แล้วพิจารณาให้แยบยล แยกแยะ จริงเท็จด้วยเหตุผล ความจริงเทคโนโลยีปัจจุบัน ใช้ให้ดี เราก็สามารถหาบุคคลพึงเชื่อได้ ที่สำคัญ บุคคลพึงเชื่อ(คนดี)นั้น ผู้ใดชำนาญด้านใด รู้ด้านใดดี ก็ต่างกัน แยกแยะถูก ท่านก็จะได้บุคคลพึงเชื่อได้ ขอให้โชคดีครับ
    ด้วยความปรารถนาดี(ping)
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ

    #1191
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1162971#post1162971

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    <TABLE class=tborder id=post1155897 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 0px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid">วันนี้, 12:29 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 0px solid; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid" align=right>#15971 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 0px solid; BORDER-LEFT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 0px solid" width=175>ชวภณ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1155897", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:30 PM
    วันที่สมัคร: Mar 2008
    อายุ: 45 ปี
    ข้อความ: 30 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 6,510 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 280 ครั้ง ใน 30 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1155897 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid"><!-- message -->ได้รับพระแล้วนะครับ สวยงามมากทุกองค์ แต่ไม่มีพระปิดตาสี่กร ทั้งสองเนื้อ คือเนื้อปัญจสิริ และเนื้อกรมท่า มาด้วยครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ชวภณ [​IMG]
    ได้รับพระแล้วนะครับ สวยงามมากทุกองค์ แต่ไม่มีพระปิดตาสี่กร ทั้งสองเนื้อ คือเนื้อปัญจสิริ และเนื้อกรมท่า มาด้วยครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ต้องขอโทษด้วยนะครับ
    ไว้ผมส่งไปเพิ่มเติมให้ครับ

    โมทนาสาธุครับ


    <TABLE class=tborder id=post1156953 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px">วันนี้, 06:39 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid" align=right>#1183 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid" width=175>pucca2101<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1156953", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 09:30 PM
    วันที่สมัคร: Mar 2008
    ข้อความ: 134 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 278 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 832 ครั้ง ใน 129 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 15 [​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1156953 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid"><!-- icon and title -->[​IMG] พระสมเด็จไกเซอร์
    <HR style="COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีค่ะ
    วันนี้ได้รับพระแล้ว แต่ขาดพระสมเด็จไกเซอร์ 1 องค์ค่ะ คุณ Sithiphong ส่งมาให้แต่ พระปิดตา 2 หน้า กับ พระเก๋งจีนค่ะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ***********************************************

    วันพรุ่งนี้ ขอยังไม่จัดส่งให้นะครับ ขอส่งพระให้ในวันศุกร์นะครับ

    ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

    .



    <TABLE class=tborder id=post1157127 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px">วันนี้, 07:55 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid" align=right>#15986 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid" width=175>เชน<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1157127", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:59 PM
    วันที่สมัคร: Dec 2006
    ข้อความ: 149 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 951 ครั้ง ใน 276 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 121 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1157127 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid"><!-- message -->พรุ่งนี้เงินออกแล้วจะโอนร่วมทำบุญแต่เช้าเลยนะครับ ทั้งหมด 1500

    สุชีพ ฉิพิมาย
    741/31 ม.1 ถ.ราชสีมา-โชคชัย ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    30000

    พระที่จองไว้ มี 3องค์คือ
    - พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อกรมท่า)
    - พระปิดตาสี่กร (เนื้อกรมท่า)
    - พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักแดงหรือชาด)

    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เชน : วันนี้ เมื่อ 07:58 PM.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เชน [​IMG]
    พรุ่งนี้เงินออกแล้วจะโอนร่วมทำบุญแต่เช้าเลยนะครับ ทั้งหมด 1500

    สุชีพ ฉิพิมาย
    741/31 ม.1 ถ.ราชสีมา-โชคชัย ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    30000

    พระที่จองไว้ มี 3องค์คือ
    - พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อกรมท่า)
    - พระปิดตาสี่กร (เนื้อกรมท่า)
    - พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักแดงหรือชาด)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    โมทนาสาธุครับ

    *********************************************

    วันพรุ่งนี้ ขอยังไม่จัดส่งให้นะครับ ขอส่งพระให้ในวันศุกร์นะครับ

    ขอบคุณและโมทนาสาธุครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ผมต้องขอโทษนะครับ ขอส่งพระให้ในสัปดาห์หน้านะครับ

    ช่วงนี้ยุ่งๆหลายเรื่องครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อกี้นี้ ผมไปคุยเรื่องของธนาคารมา หลายๆเรื่องผมว่าจะเขียนเพื่อเตือนสติและข้อควรระวังในบัญชีเงินฝากและเงินกู้ แต่ว่ายังไม่ได้เริ่มซักกะที

    palungjit.org > ทั่วไป
    จักรวาลคู่ขนาน

    กระทู้ อย่าลืมไปอัพบุ๊คแบงก์ กันบ้างนะ
    http://palungjit.org/showthread.php?t=126418

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของกลโกงต่างๆ ที่ผมได้มาจาก Fwd Mail ครับ

    รู้ไว้ป้องกันกลโกง : กลโกงบัตรเครดิตโดยใช้บัตรหมดอายุ
    กลโกงที่ 1

    เพื่อนคนหนึ่ง ไปใช้บริการ fitness เขาเอากระเป๋าเสื้อผ้า รวมทั้งกระเป๋าเงินใส่ไว้ในล็อกเกอร์ เมื่อออกกำลังการเสร็จกลับมาที่ล็อกเกอร์ ก็พบว่า ล็อกเกอร์เปิดอยู่ เขาคิดว่า "เอ ก่อนออกไปก็ดูว่าปิดดีแล้วนี่หน่า"

    เพื่อนรีบใส่เสื้อผ้าแล้วรีบเช็คดูของในกระเป๋าเงิน เงินก็อยู่ครบ บัตรเครดิตมีกี่ใบก็อยู่ครบ เพื่อนก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าคงลืมปิดล็อกเกอร์เองจริงๆ ถ้ามีคนมางัดมันคงเอาเงินเอาบัตรไปแล้ว

    หลายอาทิตย์ต่อมา เมื่อ statement บัตรเครดิตมาถึง ปรากฎยอดใช้จ่ายแสนสี่เท่านั้นเอง หา แสนสี่ !!! เพื่อนรีบโทรหา แบงก์ทันทีแล้วก็โวยวายทันที่ว่า เกิดมาไม่เคยคิดฝันจะใช้จ่ายได้ขนาดนั้น ทางแบงก์ก็เช็คดูก็เห็นว่า system ไม่มีอะไรผิด มียอดใช้จ่ายเข้ามาจริงๆ แล้วก็บอกให้เพื่อนเช็คดูว่าบัตรโดนขโมยหรือเปล่า เพื่อนก็บอกสวนไปเลยว่า "เปล่าบัตรยังอยู่เลย" ว่าแล้วก็เปิดกระเป๋าควักบัตรมาดู นั่นเลย บัตรที่บอกว่าอยู่มันบัตรคนอื่นนี่หว่า บัตรแบงก์เดียวกันเลย หน้าตาเหมือนกันเลย แต่มันเป็นของคนอื่น แล้วก็หมดอายุแล้วด้วย ไอ้ขโมยมันเปิดล็อกเกอร์ แล้วก็เอาบัตรหมดอายุมาไว้แทน แล้วก็เอาบัตรของเพื่อนไปใช้ และในเมื่อเพื่อนก็ไม่ได้แจ้งอายัติบัตรกับทางแบงก์ แบงก์ก็ไม่บันทึกเข้าไปในระบบบัตรหาย เวลาขโมยไปรูดที่ไหน

    เดื๋ยวนี้ก็รู้กันว่าร้านค้า เวลาเช็คลายเซ็นก็ไม่ดูมาก เซ็นคล้ายๆ ก็ผ่านแล้ว ขโมยมันค่อยๆ รูด วันละนิดวันละหน่อย (มีเวลานานนี่ ตั้งหลายวัน บาง Case หลายอาทิตย์ กว่า statement จะมา) รวมกันหลายวันก็เป็นแสนได้ แบงก์ก็แจ้งว่า ในข้อตกลงของบัตรเครดิต ถ้ามีการใช้บัตรขโมย โดยเจ้าของบัตรไม่ได้แจ้งอายัติบัตร เจ้าของบัตรจะต้องรับผิดชอบชดใช้ยอดนั้นๆ

    บทเรียนจากกรณีนี้ ไอ้ที่บอกว่าให้เช็คบัตรดูให้ดี มันของแน่อยู่แล้ว ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำเพิ่มเติม

    1. อย่าถือบัตรเครดิตหลายๆ ใบ เลือกเอาเจ้าที่คิดว่าบริการดีที่สุด 1-2 ใบ แล้วยกเลิกบัตรที่เหลือไปซะ ถึงขโมยมันจะเปลี่ยนบัตรไป เมื่อคุณเอาบัตรมาใช้คราวต่อไป (อาจจะเป็นวันเดียวกันหรือวันถัดไป) คุณก็จะรู้ว่าบัตรโดนขโมยไป ถ้าถือบัตรหลายใบ ขโมยมันแค่ดูที่รอยรูดก็รู้ว่า บัตรใบนั้นใช้บ่อยหรือไม่ มันจะเลือกใบที่ไม่มีรอยรูด เพราะรู้ว่าคุณไม่ค่อยได้สนใจใช้

    2. พยายามทำบัตรเครดิตของตัวให้มีข้อสังเกตพิเศษ ไม่เหมือนใคร เช่น PhotoCard มีรูปตัวเอง รูปหมา รูปแมวบนบัตร, บัตรมีรอยบิ่นนิดหน่อย, บัตรมี sticker ส่วนตัวแปะอยู่ (เดี๋ยวอ่าน กรณีที่ 2 จะเห็นว่ามีประโยชน์)

    3. ในเมืองไทย ถ้าขโมยได้บัตรเครดิตไป โดยเจ้าของบัตรรู้และแจ้งอายัติ จะเอาไปใช้ในเมืองไทยไม่ค่อยได้ ขโมยจึงต้องการช่วงเวลา ก่อนที่เจ้าของบัตรจะรู้ตัวให้นานที่สุด และปัจจุบันเครือข่ายบัตรเครดิตปลอมมันเป็นพวก Inter มัน copy ข้อมูลบัตรไปให้พวกมันในประเทศอื่นช่วยกันใช้ได้ด้วย

    กลโกงที่ 2

    เพื่อนอีกคนไปกินอาหารในภัตตาคารแล้วก็จ่ายค่าอาหารด้วยบัตรเครดิต โดยมอบให้บ๋อยภัตตาคารเอาไปรูด เมื่อบ๋อยเอาบัตรเครดิตมาคืน โดยปกติเพื่อนก็จะเก็บเข้ากระเป๋าเลยไม่เช็คมาก แต่วันนั้นโชคดี เพื่อนดันสังเกตว่าบัตรที่บ๋อยคืนมามันเป็นบัตรของคนอื่นที่หน้าตาของบัตรเหมือนกันเด๊ะ แต่หมดอายุแล้ว ตอนแรกเพื่อนก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นความผิดพลาดของ Cashier จึงเรียกบ๋อยมาบอกว่าหยิบบัตรผิดมาให้ แต่มันน่าสังเกตุว่า บ๋อยไม่มีท่าทีประหลาดใจอะไรเลย มันหยิบบัตร ขอโทษ แล้วเดินกลับไปหา Cashier ทำมือโบกบัตรให้ Cashier ดู Cashierก็ไม่ทำท่าประหลาดใจใดๆ รีบหยิบบัตรของเพื่อนเปลี่ยนให้แบบเฉยเมย ไม่พูดอะไรกันสักคำ บ๋อยก็เอาบัตรของเพื่อนมาคืนให้แล้วขอโทษ ใช่แล้ว มันเป็นพวกขโมยบัตรเครดิต ถ้าเราไม่เช็คบัตรแล้วกลับไป มันอาจมีเวลาถึง 24 ชั่วโมงในการใช้บัตรของคุณ

    ก่อนที่คุณจะใช้บัตรครั้งต่อไปแล้วพบว่าวงเงินเต็ม บทเรียนจากกรณีนี้

    1. เช็คบัตรเครดิตที่คืนมาทุกครั้ง แม้ว่าบัตรจะพ้นสายตาของเราไปเพียงแค่แวบเดียวก็ตาม
    2. พยายามทำบัตรเครดิตของตัวให้มีข้อสังเกตพิเศษ ไม่เหมือนใคร เช่น PhotoCard มีรูปตัวเอง รูปหมา รูปแมวบนบัตร, บัตรมีรอยบิ่นนิดหน่อย, บัตรมี sticker ส่วนตัวแปะอยู่ื่
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...