เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันอังคาร แรม ๒ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู
ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

คนโง่ คนพาล ไม่ให้ทาน เพราะ #กลัวจน
วิสัยของบัณฑิตชน กลัวยากจน #จึงให้ทาน

#พระสิ้นคิด
-----
วันนี้ได้ร่วมทำบุญ 2 วัดค่ะ

1)ร่วมบุญถมดิน วัดป่าบ่อน้ำพระอินทร์ จ.อุบลราชธานี = 600 บาท (ดิน2คันรถ)
2)ร่วมบุญหล่อพระ และบูรณะกุฏิหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี = 500 บาท

บุญกุศลใดที่เกิดขอจงถึงแก่คุณอาวัน..และกัลยาณมิตรทุกท่านในกระทู้นี้ด้วยค่ะ

สาธุๆๆ

 

เหรียญสร้างปี 51 ในยุคจตุคามกำลัง "พีค" สุดขีด จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงขาลงเวลาต่อมา ก็เลยเลียนแบบเทวดาเมืองใต้มาพอแรง แต่ก็เป็นบารมีหลวงพ่อโบสถ์บนล้วนๆ ผมเช่ามาหลายสิบปีก่อนร้อยเดียวเห็นว่าน่าเป็นเหรียญทำน้ำมนต์ได้ แต่ในหม้อน้ำมนต์ประจำบ้านมีเหรียญหลวงปู่คำพันธ์รุ่น "จันทร์เพ็ญสมปรารถนา" สำหรับทำน้ำมนต์แช่ประจำอยู่แล้วกับพระกริ่ง2-3 องค์ จึงรักษาท่านมายาว

ยินดีที่ท่านอัครฯรับช่วงสืบต่อไป เก็บไว้นำส่งช่วงกลางเดือนดีกว่า โมทนาครับ

 

อังคารสดใสไร้มลภาวะ
ความประทับใจไร้ปรุงแต่ง...

ครามระคน....มนต์เมฆฟ่อง
ทุ่งชวนท่อง...ผองบุปผา
ภูผาโล้น.......โพ้นนัยนา
สรรพสิ่งพา....ลดาแลนด์!

หมายเหตุ...ลดา=ไม้เลื้อย,เครือเถา

 

แม่ค้าใส่บาตรกับหลวงพี่ยามเช้า เห็นชัดว่าเธอก็อัตคัดหาเช้ากินค่ำกับรถเข็นที่ไม่ดีเด่ แต่ก็ยังเจียดน้ำพักน้ำแรงเพื่อเนื้อนาบุญพระศาสนา ขออนุโมทนาให้ขายดีเทน้ำเทท่าทุกวันเถิด

 

อนุโมทนาอีก 2 บุญดีที่น้องนางจิ้งจอกบอกกล่าวเผื่อแผ่มาให้ บุญถมดิน-สร้างพระ-บูรณะกุฏิ ช่างทำได้ดีแท้ ไม่ต้องใช้เงินมากก็ร่วมได้ ส่วนเราอนุโมทนาตาม ยิ่งไม่ต้องใช้เงินสักบาท แต่สุขใจหลายร้อยบาท

ขอบคุณแม่น้องนางจิ้งจอกมากๆ

 

เลขจัดส่งวันนี้
--ED 7072 3895 5 TH นางรอง
--ED 7072 3896 4 TH นครราชสีมา
--ED 7072 3897 8 TH พลิ้ว

 

เหรียญ"ปราบกบฏ" -ปี 2476
บันทึกประวัติศาสตร์มโหฬาร
~~~~~~~~~~~~~~~~

88 ปีที่เหรียญนี้กำเนิดขึ้นมา เพื่อเป็นเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำของคนไทยตลอดไป เป็นเหรียญเล็กๆแต่บรรจุ "ความหลัง-ประวัติศาสตร์ชาติ" ชนิดน่าทึ่ง!!!

เหรียญ"ปราบกบฏ"หรือ "พ ร ม"(พิทักษ์รัฐธรรมนูญ) ซึ่งมีขึ้นหนแรกของประเทศในปี 2475 โดย 'คณะราษฏร์' จากการล้มล้างการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า-รัชกาลที่ 7 ทรงสละราชสมบัติ

ต่อมา 'คณะราษฏร์' อันมี พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศในระบอบประชาธิปไตย ก็เผชิญหน้ากับการชิงอำนาจคืนโดย พลเอกพระองค์เจ้าบวรเดช ในปี 2476 เป็นการสู้รบ'ไทยฆ่าไทย'ดุเดือดเลือดพล่านเป็นเวลา 13 วัน จากวันที่ 11-24 ตค.2476 สิ้นสุดลงด้วยการพ่ายแพ้ราบคาบของฝ่ายเจ้า...พลเอกพระองค์เจ้าบวรเดช

"ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร"!!!

ประโยคที่ลอกเลียนมาจากหนังจีนมีให้เห็นในเมืองไทยไม่น้อย เมื่อ"ฝ่ายเจ้า" ปฏิวัติไม่สำเร็จ ก็กลายเป็น "กบฏ"...ถูกเรียกขานว่า "กบฏบวรเดช" จารึกถึงวันนี้

พระองค์เจ้าบวรเดชหนีไปเวียตนาม แต่ก่อนหน้านั้น "พันเอกพระยาศรีสิทธิสงคราม (ดิ่น ท่าราบ)" แม่ทัพฝ่ายหน้า-กองระวังหลังฝ่ายพระองค์เจ้าฯ ถูกสังหารที่สมรภูมิ หลักกิโลเมตรที่ 141-144 สถานีรถไฟหินลับ-สระบุรี โดยหน่วยทหารของ "ว่าที่ร้อยตรีตุ๊ จารุเสถียร" (จอมพลประภาส-ในเวลาต่อมา)

พันเอกพระยาศรีสิทธิสงคราม ท่านคือ"คุณตา" ของ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่24 ปัจจุบันเป็นประธานองคมนตรี

จะเห็นได้ว่า จาก 'กบฏบวรเดช' ครั้งแรกในระบอบประชาธิปไตยมีรัฐธรรมนูญหนแรกนั้น ประเทศไทยต้องประจันหน้ากับการ "กบฏ-ปฏิวัติ" แทบนับหนไม่ถ้วน หากเป็นบทเรียนก็คร้านจะท่องจำทำข้อสอบ...

ดังนั้น นี่จึงเป็น "วิถีไทย" ที่มิใช่ "วิถีธรรม" ที่เกือบแนบแน่นอยู่ในสังคมไทยส่วนหนึ่ง ในภาค'การทหาร-การเมือง' เวทีแห่งการช่วงชิงอำนาจผลประโยชน์เพื่อตัวกูและพวกพ้อง...ส่วน"ประชาชน" คือผู้ถูกกล่าวอ้างยกมาบังหน้าเท่านั้น ใครชนะ ประชาชนก็ "มาทีหลัง"เสมอ...

การปฏิวัติ'ชนะ'-กบฏ'แพ้' ยังต้องมีให้เราเห็นอีกมากครั้ง จะเป็นคราครั้งไหนก็ตามแต่ ใครจะมีวาสนาได้อยู่ในห้วงเวลาตรงนั้น

ตอนนี้ชมเหรียญ"ปราบกบฏ" ที่อีกไม่กี่ปีก็จะกลายเป็นวัตถุโบราณไปก่อน ให้ชมและอ่านเป็นความรู้ ไม่อนุญาตให้เคาะเพราะเป็นมรดกของตระกูล

เหรียญทรงข้าวหลามตัดขยักมุมงดงามด้วยองค์ท้าวสยามเทวาธิราช ท่วงท่าที่แปลกตาถือศาตราออกศึก คงไม่มีการสร้างพระสยามเทวาธิราช ลีลานี้อีกแล้ว อักษร 'ปราบกบฏ-พ.ศ.๒๔๗๖' ชัดเจน ส่วนเหนือเหรียญแถบตุ้งติ้งประทับประโยคเด็ด...'พิทักษ์รัฐธรรมนูญ' (ซึ่งถูกฉีกทิ้งมากที่สุดในโลก ในเวลาต่อมา)!

สำหรับเหรียญที่สมบูรณ์เต็มร้อยจะมีริ้วผ้าสีธงชาติร้อยประดับ แต่ส่วนใหญ่ผ้าจะเปื่อยยุ่ยไปก่อน ที่สวยงามเดิมๆนั้น ผ้าเย็บใหม่ทั้งสิ้น เหรียญนี้ก็เหลือผ้าเดิมๆที่ขาดลุ่ยเกือบหมดแล้ว

พานรัฐธรรมธูญล้อมด้วยมาลาร้อยเรียงกับประโยคด้านบน "สละชีพเพื่อชาติ"ในการศึกที่ล้มตายทั้งสองฝ่ายไม่น้อย และเป็น 'เลือดไทยด้วยกัน' ทั้งนั้นที่หลั่งรินทาผืนดิน!

ฝากไว้เป็น สิ่งเตือนใจสำหรับคนไทย ใครก็ตามที่คิด แบ่งแยกแผ่นดิน และคิดนำคนไทยห้ำหั่นกันเอง บทเรียนเก่าแก่มีมากมาย แผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์ ปกปักรักษาคุ้มครองโดย...พระสยามเทวาธิราช!

เห็นไหมเล่า แม้แต่'คณะราษฏร์'ยุคโบราณ ชนะศึกก็ยังต้องยกพระสยามเทวาธิราชมาเป็นขวัญกำลังใจ ก่อนที่ทุกคนในคณะราษฏร์จะมีอันเป็นไปถ้วนหน้า เมื่อหันมาตะกละตะกราม ละโมบแย่งชิงอำนาจห้ำหั่นกันเองด้วยผลประโยชน์ แข่งกัน "ปล้นแผ่นดิน-ปล้นประชาชน" ผิดเจตนารมณ์ที่ให้ไว้กับฟ้า-ดิน-พระสยามเทวาฯ

แต่ละคนมีจุดจบน่าอนาถ สามารถหาอ่านได้ไม่ยากในยุคสมัยที่ความรู้อยู่ที่ปลายนิ้วจิ้ม!

 

คำขอบคุณและข่าวสารเล็กๆจากบ้านสวนรัก งวดนี้มาล่าเพราะสะพานบุญติดงานตจว.หลายมื้อ แต่งานบุญทานบารมีสี่ขา-สองขา กว่า200ชีวิตก็ยังสำเร็จลุล่วงประสา สะพานคสล.(คอนกรีตเสริมเหล็ก)

ร่วมโมทนากันอีกสักครั้งก็ยังสบายๆ

 

สวัสดีครับพี่วัน ท่านบก. และสมาชิกทุกท่าน
แจ้งการโอนร่วมบุญ และแจ้งว่าไปรษณีย์มาถึงแล้ววันนี้
พระกริ่งพระอาจารย์ศรีเงิน เขย่าดังปกติดีลงกล้องแล้วดูงามมากครับ

 

'สมเด็จพระญาณสังวร'-80พรรษา
ประทับนั่งเต็มองค์1ใน9พิมพ์-ปี36
=================

วาระสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประมุขแห่งสงฆ์ซึ่งมีพระชนม์ยืนยาวที่สุดของกรุงรัตนโกสินทร์!

80 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ 3 ตุลาคม 36 วัดบวรฯจัดสร้างพระพิมพ์สำคัญเพื่อมอบแด่พุทธศาสนิกชนที่เข้าเฝ้าถวายพระพรล้นหลาม ส่วนหนึ่งก็ไว้จำหน่ายเป็นทุนทำนุบำรุงพระศาสนาซึ่งสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงอุปถัมภ์วัด-โรงเรียนมากมายทั่วแผ่นดิน

ครั้งนั้นจัดสร้างพระพิมพ์ถึง 9 พิมพ์ และที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ พิมพ์ที่นำมาให้ร่วมบุญนี้...

พิมพ์รูปเหมือนพระองค์ท่านนั่งประทับเต็มองค์ ซึ่งไม่มีการสร้างบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงหรือครึ่งพระองค์เสียมากกว่า

เนื้อหานั้นเล่า นำผงเก่าที่รวบรวมไว้มาก เช่น ผงสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่า,ผงสมเด็จพระศาสดายุคต้นปี 16 ผงสมเด็จจิตรลดาที่ได้รับมอบจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระจิตรลดาที่สร้างกันต่อมาอีกหลายวาระ ไม่นับมวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าอริยสงฆ์-ครูบาอาจารย์ทั่วสารทิศนำมอบให้องค์สมเด็จพระสังฆราชเพื่องานมหามงคลยิ่งใหญ่วงการสงฆ์ไทย

พิธีอภิมหาพุทธาภิเษกก็อุโบสถวัดบวรนิเวศน์ฯ พระองค์ท่านทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และพระสงฆ์เชี่ยวชาญเวทย์-พุทธมนต์หลายสิบรูปร่วมอัญเชิญมหาบารมีพระพุทธองค์กับบรรจุพลัง

พระผงพิมพ์นี้มีโทนสี ขาว,เทาอ่อน,น้ำตาลอ่อน และสีเข้ม แต่พิมพ์ทรงนั้นสวยงามมากเป็นที่สุดพิมพ์หนึ่ง

ราคาไม่แพงรุนแรงกระเป๋าฉีก ไม่ถึงกับหายากเย็นเข็นครกขึ้นตะนาวศรี แต่ก็หาดูไม่ง่ายนักเพราะสร้างน้อยที่สุดในจำนวน 9 พิมพ์ นำองค์สวยมากๆมาให้ร่วมบุญ

เก็บเพื่อบูชาเป็นศิริมงคลชีวิต&ครอบครัวก็เยี่ยมหาที่ติไม่ได้ เก็บเป็นทุนวันหน้าก็ยอด ไม่มีตรงไหนขาดทุน...

=======800=======


สีน้ำตาลอ่อน ขอบผิวด้านบนสุดหลุดไปแค่เศษธุลี แต่พระงามจัด ตำหนิเล็กเพียงปลายเข็มจึงสามารถมองเห็น เนื้อหาเป็นที่สุดของมวลสารอีกรุ่นหนึ่ง องค์นี้โทนสีน้ำตาลอ่อน

ทุกส่วนสัดลีลา ขอปล่อยให้ภาพบรรยาย

มาตรฐานของ
4เหลี่ยมชิ้นฟัก

 

ท่านอัครฯรวบรวมแจ้งม้วนเดียวทั้งโอนและการเดินทางถึงที่หมายของวัตถุมงคล

กริ่งพระอจ.ศรีเงินนั้นต้องขอเรียนเพิ่มเติมอีกหน่อยว่า ศูนย์พระเครื่อง คุณศ. โคลีเซี่ยม เมื่อสมัย30ปีก่อนนั้นเป็นลูกศิษย์สายตรงของท่าน นำเฉพาะของที่ท่านปลุกเสกจริงๆมาจำหน่ายในราคาเอากำไรนิดเดียวเป็นการช่วยวัดด้วย และพระอจ.ศรีเงินก็เมตตามาที่ศูนย์นี้หลายครั้ง ไม่ใช่เป็นศูนย์ที่สร้างพระขาย หรือไปเที่ยวกว้านพระตามวัดมาเอากำไรอย่างสมัยใหม่ เขาทำด้วยความเคารพรักในครูบาอาจารย์ส่วนหนึ่ง ส่วนการค้าขายเพื่อดำรงชีพก็ว่ากันไป ไม่ถึงกับแหกคอกรุนแรงเยี่ยงคนบางคนสมัยนี้ ที่ขอให้ขาย ขาย และขาย ลูกเดียวทุกกรรมวิธีื...ต้มตุ๋นพระ หลอกลวงวัด คดโกงลูกค้า หาพระมายัดวัด-ผียัดกรุ เอามันทุกอย่างขอให้ได้เงินอย่างเดียว

เปรตปากรูหอย...เอ้ย เข็ม -สัมภเวสีผีทะเลเหล่านี้มีเกลื่อนปฐพีืจนดูไม่ออกเลยว่า "คนดี" อยู่ตรงไหน? เพราะบางทีถูกกลืนหายไปในทะเลน้ำเน่านั้นด้วย

โมทนาท่านอัครฯ สามารถนำทำน้ำมนต์ได้ทันทีสำหรับกริ่งชุดนี้ ผมรับมาจากศูนย์นั้นแหละ ผ่านพลังพระอจ.ศรีเงิน ผ่านพิธีครบถ้วนกระบวนยุทธ ...เหรียญบารมีหลวงพ่อโบสถ์บน จัดส่งกลางเดือนครับ

 

เหรียญ "ท้าวสหัมบดีพรหม"!
มหาเงิน แช่มสาคร สร้างปี22
===============

ก่อนนอนพบกับเหรียญดี ปีลึก ลับเล็กๆ ไม่ถึงกับมาก เป็นยอดเหรียญเก่าที่รักษามานาน หาประวัติจนเบื่อควาน แต่ในที่สุดโลกโซเชี่ยลก็ทำให้พบจนได้ว่า...

เหรียญ "ท้าวสหัมบดีพรหม"-มหาเงิน แช่มสาคร สร้างสมนาคุณ ปี22...ซึ่งเคยลึกลับหนักหนาด้วยคำถาม

ท่านมหาเงิน แช่มสาคร คือพระเกจิวัดไหน? หรือพระลูกวัดแห่งหนตำบลใด?

ก็พบว่า ท่านมหาเงิน แช่มสาคร เป็นชาวกระทุ่มแบน มีความสนิทสนมกับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เป็นลูกศิษย์ท่านหรือไม่?ไม่ขอยืนยัน

แต่ท่านเป็นผู้เขียนประวัติ หลวงพ่อรุ่ง ผู้เกรียงไกรแห่งสมุทรสาครในหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงของหลวงพ่อรุ่ง !

แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และความรู้ลึกซึ้งในตัว หลวงพ่อรุ่งกับท่านมหาเงิน แช่มสาคร ที่อยู่เลยระดับธรรมดาดาดๆทั่วไป

ท่านมหาเงิน แช่มสาคร เมื่อสิกขาลาเพศจากผ้าเหลือง ก็เปิดร้านโกมารภัทรโอสถ (โกมารภัทรก็คือองค์ปู่ชีวกฯแพทย์เทวดาของพระพุทธองค์) ความที่ไม่เคยทิ้งคราบทางธรรมเลย จึงมีคนเรียกท่านว่า "มหาเงิน" ไม่เคยเป็นอื่น

ร้านของท่านมหาเงิน แช่มสาคร ตั้งอยู่ริมคลองภาษีเจริญ ปัจจุบันจะยังคงอยู่หรือไม่? ไม่ขอยืนยัน และน่าจะไม่ไกลวัดประดู่ฉิมพลี-หลวงปู่โต๊ะ ซึ่งเป็นอดีตศิษย์ท่านหนึ่งของหลวงพ่อรุ่ง

(((ที่เขียนโยงให้เห็นนี้ มิใช่จะจับแพะชนแกะว่า เหรียญนี้เสกโดยหลวงปู่โต๊ะ แต่จะให้เห็นเส้นทางของท่านมหาเงินว่า มิได้อยู่เลยแวดวง หลวงพ่อรุ่ง ไปไกลนัก)))

ท่านสร้าง เหรียญเสมา 'ท้าวสหัมบดีพรหม" ซึ่งเป็นท้าวมหาพรหมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาเป็นที่สุด มิใช่พระพรหมของทางด้านพราหมณ์-ฮินดู

ท้าวสหัมบดีพรหม เป็นพระพรหมที่ถูกสร้างในรูปแบบ "พระเหนือพรหม" ไว้มากรูปหนึ่ง

เหรียญท่านท้าวสหัมบดีพรหมเพื่อเป็นการสมนาคุณในปี 22 นี้ เมื่อผู้สร้างคืออดีตนักธรรมห่มผ้าเหลืองระดับ "มหา" ผูกพันกับยอดเกจิยิ่งใหญ่หลวงพ่อรุ่ง ก็เชื่อได้ว่า พิธีการปลุกเสก-อธิษฐานจิต ต้องผ่านมือครูอาจารย์ระดับเบ้งๆของประเทศยุคนั้นมากมาย

ที่น่าสนใจคือท่านมหาเงิน แช่มสาคร ระบุชัดเจนว่า สมนาคุณ หมายถึงท่านแจก แจก และแจกอย่างเดียว ส่วนจะเป็นวาระอะไรก็มิทราบได้

ด้านหน้าเหรียญองค์ "ท้าวสหัมบดีพรหม" เทวะบิ๊กเบิ้มผู้ค้ำจุนพระพุทธศาสนา ด้านหลังยันต์ นะ โม พุท ธา ยะ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ล้อมรอบด้วยมหายันต์อักขระพระเวทย์ขลัง หัวใจพระศาสนา

ในเมื่อเหรียญนี้ ท่านมหาเงิน แช่มสาคร ผู้มีนามมงคล สกุลเย็นชื่นรื่นสายน้ำ สร้างแจก ก็ขอนำทำบุญอย่างเบาหวิวเป็นมงคลให้นอนหลับฝันดี ลืมบอกไปว่าเนื้ออัลปาก้าชุบนิกเกิ้ลแต่ยุคนั้น ชุบสวยสะเด็ดเหมือนกะหลั่ยเงินทีเดียว...

=======300=======
เหรียญสามใบแดง แต่ค้นประวัติมาเขียนให้อ่านเหมือนราคาสามพันตำลึงทอง ทว่า คุณค่าท้าวสหัมบดีพรหม ซึ่งยิ่งใหญ่ในอิทธิฤทธิ์-มหิทธิเดชไม่เป็นรองเทพใดใน 3โลก ยกเว้นพระพุทธองค์...เหรียญนี้อาจสูงค่ากว่าสามพันตำลึงทอง!

ความงามด้านหลัง จุดประสงค์สร้าง-ปีพ.ศ.ที่ผ่านมาเกิน 40 ปี กับความงามที่รักษาไว้ยอดเยี่ยม

เสมาขนาดแจ่ม
หู-ห่วงอยู่ครบ!

 

ขอร่วมบุญครับ...

 

ล้างหน้าหยอดตากำลังจะปิดเครื่องเพื่อนิทราราตรีสวัสดิ์

มอบท่านท้าวสหัมบดีพรหม องค์เทพผู้ยิ่งใหญ่ใน 3 โลกให้กับน้องคัมภีร์เป็นการราตรีสวัสดิ์ทรงคุณค่า สวัสดีทุกท่าน ขอให้ฝันดี ฝันเด็ด (ถ้า 'ฝันดี-ฝันเด่น' จะเป็นดูโอพี่น้องนักร้องยุคปีพ.ศ.40-50)

ฝันเลขดีมีชัย องค์ท้าวมอบลิขิตเลขสวยๆก็แจ้งข่าวกันบ้างเด้อน้องคัมภีร์-ฮ่า

 

วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ตรงกับวันพุธ แรม ๓ ค่ำ เดือน ๕ ปีฉลู
ใส่บาตร ๔ รูปในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล