มีผู้กล่าวว่า ถ้าจิต เกิดความคิดอะไรขึ้นมา เกิดความรู้อะไรขึ้นมา ให้พิจารณา สิ่งนั้น

๑. ภวังคุบาท จิตรวมลงในขณะเดียวแล้วก็ถอนออกมาลักษณะคล้ายกันกับขณิกสมาธิ คือ ก่อนจิตจะรวมไม่ได้คิดว่าจิตจะรวมหรือไม่ เมื่อจิตรวมแล้วแลถอนออกมาแล้วจึงรู้ ถ้ารู้ว่าจิตรวมอยู่เรียกว่า ขณิกสมาธิ

๒. ภวังคจารณะ จิตจะรวมลงไปแล้วมีอาการส่งส่ายอยู่ภายใน ไม่ได้ส่งออกไปภายนอกเหมือนกับคนที่เฝ้าบ้านเฝ้าเรือนแล้วปิดประตูหมด มีแสงไฟสว่างเห็นสิ่งของทั้งปวง ภายในบ้านในเรือน ของภายนอกจะไม่เห็นได้เรียกว่า ภวังคจารณะ

๓. ภวังคุปัจเฉทะ จิตรวมเด็ดเดี่ยวลงไป นิ่งแน่วสู่อารมณ์อันเดียว ตัดขาดหมดจากอารมณ์ภายนอก บางทีไม่สามารถที่จะรู้ว่าตนมีหรือไม่ มีแต่ใจเป็นผู้รู้อยู่เท่านั้น

หลวงปู่เทสก์ อธิบาย

อ่านต่อที่นี่ https://purewhitejade.wordpress.com/2014/02/19/การฝึกหัดกรรมฐาน-หลวงป/

 

เลิกแปะเพลง มาแปะธรรม แล้วให้เขียนมากๆ จะดีกว่า
พยายามเว้นวรรค คำศัพท์ และ วรรคตอน ให้มันถูกต้อง
ไม่อย่างนั้น ธรรมะที่สื่อออกมา จะเป็น มิจฉาธรรม

 

จุดพักแต่ละคนไม่เหมือนอ่าครับหาเองถึงเป็นปัจจัตตัง

 

รู้แล้วละ
ถึงได้ประโยชน์
ดีกว่าสร้างอุปทานให้เค้ากรรมคนเราไม่เหมือนกัน

 

เพลงมาดีกว่าแปบบนี้555
อร็ายเก็บทรงไม่อยู่

 

พรหม กับ อรูปพรหม ก็ยังเป็น มิจฉามรรค อยู่
ใครฝึกได้ ก็ยัง ติดอยู่ในโลก ไม่สามารถพ้นโลกได้
แต่ ถ้ามองเห็นความไม่เที่ยงในญานของพรหม ได้
จะเปลี่ยนมาเป็น สัมมามรรค ทันที

 

ขอบคุณคับ และขอบคุณสุรีย์บุตรด้วยคับ
ลงใต้แล้ว ดีหน่อยเดี่ยวนี้ทำงานและประชุมผ่าน Microsoft Teams โควิทช่วยพลักดันสิ่งนี้

 

ผมนิเซงมากต้องได้เข้า กทม อีก

 

ใช่แล้ว ในชาติแรก จิตเราเป็นดั่งอรูปพรหม
ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ไม่ต้องเสวยอะไร
กินแต่ของทิพย์อย่างเดียว แล้วก็วิวัตนาการลงต่ำเรื่อยๆ
จนกลายมาเป็น มนุษย์ธรรมดาที่ต้องเสพกาม กินข้าว

 

ถ้าจะไปนิพพาน จะต้องเปลี่ยนจาก จิตผู้รู้ มาเป็น จิตผู้ดู ครับ
หากยังทำไม่ได้ถึง จิตผู้ดู แสดงว่า ยังไม่ถึงพระนิพพาน
เป็นแค่ พระอริยะเจ้าชั้นหนึ่ง เท่านั้น

 

ประเด็นนี่น่าสนใจฮับ เหมือรตอนเหงคนที่มีออร่า ใจจะจดจ่อดูเขาจะพูดอะไร ตอนเหงพระพุทธเจ้า รูปลักษณ์มหาบุรุษ ชวนใจให้เลื่อมใส จิดก้จดจ่อตั้งมั่น พระพุทธเจ้าทรงชี้สัจธรรมไปตรงไหนจิดก็เหงตามตรงนั้น อย่างนั้นมั้งฮับ

 

หมูไม้ละ5ใช้กูลต้าแทนออร่าน่าจะพอได้นะผมว่านะ55
อบโอโซนรัยงี้ไม่รู้เหมือนกันหรือป่าว55

 

ตอนสาวๆสวยๆพูดกะผง ใจผงนี้จดจ่อเลยฮับ ชวนทำงานผ่านเนตซะงั้น อิอิ

 

ล้ำมากชาวโลก55

 

ถึงบอกแต่เจ้ปราบรู้เฉยๆไม่ทันชาวโลกต้องโยกซ้ายโยกขวามั้ง

 

ใช่แล้ว ยิ่งจมแช่ในอารมณ์ ได้มากเท่าไหร่ ก็แสดงว่า
เราฝึก การทรงอารมณ์ ได้ดีเท่านั้น
แต่ส่วนมาก ทำ 5 - 10 นาที ก็หลุดไปคิดแล้ว
เพราะฉนั้น เวลาทำ ให้ฟังเทศน์ไปด้วย
เทศน์เรื่องการทรงอารมณ์นั้น จะไม่หลุดง่ายๆ

 

เปงแต่ผู้รู้พอนะฮับ อย่าเปงผู้ดูผู้เฝ้าดู จิดจะผูกติดอารมณนะฮับ

 

ใช่แล้ว เป็น การทรงอารมณ์ของพระอรหันต์
โดยที่เราก็จะต้องรู้ว่า อารมณ์ของพระอรหันต์ มีอะไรบ้าง
หากไม่รู้ก็จะทรงอารมณ์ไม่ได้ เป็นแค่ การจมเเช่ธรรมดา เท่านั้น

 

คุงการ้องหล่อไม่ใช่หรอฮับ กลูต้าคงไม่ต้อง

 

แรกๆ ก็ฝึกเป็น ผู้รู้ ก่อนครับ
จากนั้นเมื่อชำนาญดีแล้ว หรือเป็น พระอานาคามี แล้ว
จึงจะเปลี่ยนมาเป็น ผู้ดู ได้ ไม่อย่างนั้นจะตามดูไม่ทัน
เพราะ จิตยังไม่ได้ถูกฝึกให้ควรค่าแก่การเป็นผู้ดูที่ดี