ปกิณณกะธรรม

ท่านบอกว่าท่านเป็นพระศึกษาพระธรรมคำสอน
ของพระพุทธเจ้ามาแจกแจงให้ลูกศิษย์
ใครจะรับได้มากได้น้อยแล้วบุคคล
ไม่ได้คิดดันเดาขึ้นมาเอง

 

ฉันเคารพในธรรม
ไม่ใช่บุคลคล

 

อย่าไปคิดเยอะ มันอาจจริงหรือมันอาจหลอกก็ได้ ทำไมเพราะ คนที่เคยเห็นพระศาสดาจริงย่อมเรียนรู้เรื่องแบบนี้อย่างง่ายดาย สงวนคำว่า อย่างง่ายดายไว้ สุราแค่กุลี ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก แต่ว่ามันไม่ดี ถ้ารู้นะ ไม่มีใครทำไมหรอก ทุกๆภพ เราทำตัวเราเอง อย่าโทษใคร

 

บอร์ดแสดงความคิดเห้น

ไม่มีใครสอนใครหรอก

ใครกะแสดงความเห็นได้

เป้นแต่ความเห้น

 

ต้องไปดูเจตนาแระ หากจะการจะให้คู่สนทนาเชื่อตาม ก็ประมาณว่าจะสอนให้เขาเชื่อตามแระ
ออกความเป็นไปแบบใสๆ ถูกผิดไม่สนใจ คือมีความเข้าใจแบบนี้ อันนี้ก็เป็นการแสดงความคิดเห็น

 

จะสอนคนต้องคุมกำลังใจให้เป็นเมตา
เค้าฟังกะสอนต่อเค้าไม่ฟังกะอุเบกขา
นี้ยังฟุ้งซ่านอยู่เลยพาเดือด55

 

ใครจะไปยัดเยียดใครให้เชื่อได้

คนที่เชื่อใครง่ายๆโดยไม่มีวินิจวิเคราะห์ ก้ควรฝึกหัดให้รู้จัก

วิเคราะห์พิจารณา ว่าจริงไม่จริง

ยิ่งเป้นวิธีการฝึกปฎิบัติด้วยแล้ว

มีแต่ ลองดูก่อน

แต่หากยังไม่ได้ลอง แล้วอย่างนั้นอย่างนี้ ก้ว่ากานปาย

เชื่อโดย ไม่มีสมองตนเอง
ไม่ต่างจากโดนสนตะพาย

 

ไม่ได้โดนใครหลอกอะไรแค่ไม่อยากเห็นทะเลาะกันเจอแทบทุกทีผมเลยสุรุปเอาง่ายทะเราะกะเราดีกว่าสะบายใจ55มันยังแก้ง่าย

 

การที่เราจะสนทนากับใคร เราต้องมองออกจากใจเรานี้แระ
ส่วนมากผู้สอนก็จะมีการคาดหวัง บางคนไม่ทันสังเกตุใจตัวเองก็มีนะ
อันนี้ก็แล้วแต่กรณี
อย่างคุณร่อนจ้อน นี่ไม่บังอาจไปสอนเขาหรอก เมื่อถึงเวลาร่อนเขาจะสอนตัวเองได้
มันก็เหมือนจะมีเหตุุการให้คิดได้ สายไม่สายก็แล้วแต่ร่อนน่ะ

 

ชายสอนชายยังพอได้ แต่เป็นหญิงคิดสอนชายนี้ควรพินิจให้ดี ถ้าไม่มีค่าน้ำนมม หรือหน่มน้มมาเกี่ยวก็อย่าหวัง แต่ ถ้าถิกษุณีสอนพระภิกษุได้เมื่อไรเมื่อนั่นหญิงก็คงสอนชายได้ด้วย

 

พูดแบบนี้ ชัดเลย ยังไม่ได้ กดฟัง

พระท่านว่า

"คนเราเกิดมา พร้อมกับการเป็น สวะ.... ฯลฯ"

พอเราจะปฏิบัติ ยกจิตขึ้นสูง สวะ มันก็สูง
ตามด้วย เหมือนกับ สวะ ลอยบนน้ำ

ดังนั้น

ทั้งชีวิตกี่อสงไขย มันไม่มีใครหลอกใคร

แต่ ตัวเองนั่นแหละ หลอกตัวเอง ตลอด
แม้นกระทั่ง บรรลุ ก็ยังหลอกเลย

เว้นแต่ จะ อรหันต์เท่านั้น ถึงจะหยุด
หลอกตัวเอง

แต่ถ้าเป็น ป๋ม ป๋มจะกล่าวเพิ่มด้วยว่า

อรหันตสาวกทุกองค์ ก็ ยังหลอกตัวเอง
จะต้องไป ตัดสิน ตอน ปรินิพพานอีกที
ว่า มี อุปาธิ ไหม ( พระสมัยพุทธการ
เวลา อรหันต์มรณะภาพ ก็จะต้องไป
ถาม พระศาสดาว่า ยังมี อุปาธิ ไหม
ยัง โอ้ละพ่อ ไหม )

ทั้งนี้ หลักการวัด สังโยชน์ ก็แค่ บัญญัติ
ที่ทำให้ สะดวกแก่การปฏิบัติ เอาเข้าจริงๆ
ยังต้อง พินา ลึกซึ้งกว่านั้น

พระป่าที่ท่านแม่นๆ ท่านก็ แย๊บเอาพวก
บรรลุด้วยคำว่า " ประจบ สอพลอ " ทั้งนี้
เพราะ สัทธาเจตสิก มันสามารถ สร้างภาพ
ให้เหมือนเด๊ะๆ ได้ เจียไต๋ยังแพ้ ทุกเม็ด

 

งั้นเป็นหญิง หยุดสน หยุดแคร์ก็ได้
ทำไมเพศชายมันชั่งสูงส่งจริงๆ สาธุ

แอบอ่านเงียบๆ คนเดียว..(ต้องทำนองเแบบ Birds Birds) ด้วย

 

ถ้าอ่านแบบกลางๆ หลายคนก็ให้ คห. ดีอยู่นะ

..........

ยก ตย ที่กะร่อนบอกจะบรรลุธรรม อันนั้นอาจไม่ใช่ก็ได้นะ จะว่าคล้ายๆ นิมิตก็ได้อยู่ ถึงจะบอกไม่ติดนิมิต แต่เราไม่ได้ทันเจตสิกทุกตัว สภาวะมันก็เลยหลอกให้เราเชื่อ

 

ผมก็พูดความจริง ไม่ได้พูดตามอารมณ์ส่วนตัว ส่วนตัวผมให้หญิงสอยได้อยู่แล้ว ขอแค่เลี้ยงกาแฟสักแก้วสองสามสี่แก้วก็พอ

 

ผู้หญิง กะสอนชายได้
ผู้ชายกะสอนหญิงได้
เสมอกัน

แต่ในทาง สิกขาบทของ
ศาสนา ศาสนาจะอยู่ได้นาน
จึงห้ามภิกษุณีสอนพระสงฆ์

 

สอนได้ แต่โดยธรรมชาติแล้ว ใมันคงหายากที่ชายจะยอมเชื่อหญิงนะครับ

 

ตอนโดนเตะลงมามันกะแทกกจากจิต
หลังๆเลยชะเลียขอนอนเป็นครั้งคราว55

 

ต่อให้เป็น อาการตัดสังโยชน์ อาการตัดกิเลส โลกธาตุสั่นไหว

อะไรพวกนี้ โดยเนื้อของมัน มันเป็น ปัจจัยการ หรือ สามัญผล(ของโลกๆ)

หากยังเอา สังโยชน์ หรือ พวก สามัญผลใดๆ มาเป็น ตัววัด
โอกาส โอ้ละพ่อ ไม่ได้ บรรลุฮ่าน อะไรเลย ยังมีอยู่

ดังนั้น

คำว่า "กิจเดียว รสเดียว" "มรรค มีหนึ่งเดียว"
หรือ "ฉลาดในสัญญาอันเดียว(สำนวนแปลไทย ในไตรปิฏก สยามรัฐ)"

จะต้องเป็น สรพงษ์ เข้ามา

ไม่เช่นนั้น ............................. <----
เพราะ ตาของโลก ไม่อยู่แล้ว(แต่ไม่ได้หายไปไหน)