*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง...รายการ 906, 944 และ945 ครับ
     
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่948 กำไล พญาเหล็กไหล วรรณะท้องปลาไหล หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์
    ***วิชาการทำเหล็กไหล หลวงพ่อหวล ท่านเรียนมากจาก ศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
    " เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว
    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่
    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ, พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ, พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครองนะครับ ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครองครับ

    ... มหาอำนาจ บารมี โชคลาภ วาสนา พุทธคุณ 108 เหนือคำบรรยาย
    ... มหาอำนาจ บารมี โชคลาภ วาสนา พุทธคุณ 108 เหนือคำบรรยาย
    ... มหาอำนาจ บารมี โชคลาภ วาสนา พุทธคุณ 108 เหนือคำบรรยาย

    วิธีบูชาและการต้อนรับเข้าบ้าน
    1. จุดธูป 12 ดอก บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางที่บ้าน
    2.ชุดบายศรีหรือถ้าไม่สะดวก ดอกไม้ 1-3 อย่างก็ได้(ดอกมะลิ)
    3.น้ำผึ้งถวาย 1 ถ้วย วางด้านข้างไม่ต้องแช่ องค์พญาเหล็กไหลจะเสพกลิ่น เสพรส
    4.บูชาทุกๆวันพระจันทร์เต็มดวง นำออกมาอาบแสงจันทร์เพื่อเพิ่มพลัง แล้วให้เสพน้ำผึ้ง
    คาถาบูชา "เหล็กไหล"
    (ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่าตามนี้) *พุทโธเมนาโถ ธัมโมเมนาโถ สังโฆเมนาโถ
    *สะกะพะจะ บูชาจะมหาบูชา *ขอบูชาท่านผู้ดูแลรักษาธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงฤทธิ์อานุภาพนี้
    *อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา
    เหล็กไหลเจริญมา เจริญยิ่ง เจริญดี สิ่งดี ๆ ทั้งหลายจงหลั่งไหล เข้ามาหาแก่ตัวข้าพเจ้า
    *สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมะ มะอะอุ
    *นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ
    (บูชาอย่างน้อย 3 จบ ทุกๆวัน ก่อนออกจากบ้านเสมอ!)

    บูชา 1550 บาท

    IMG_25620525_211937.JPG
    IMG_25620525_211810.JPG 1506458_971875792823923_488082738942106306_n.jpg
     
  3. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่949 ลูกอมเทียนชัย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เลี่ยมเดิมจากวัด
    บูชา 350 บาท
    IMG_25620525_213731.JPG IMG_25620525_213443.JPG IMG_25620525_213310.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2020
  4. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่950 สมเด็จพระพุทธเจ้า หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต (ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น) เนื้อผงพุทธคุณ พ.ศ.๒๕๕๒ แห่งที่พักสงฆ์สวนทิพย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ เป็นชาวท่าอิฐ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๗ ปีขาล มีชื่อเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรของ หลวงพินิจจินเภท และ คุณแส (บุญสืบ จันทรสมบูรณ์)

    โยมแม่เป็นผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก และเป็นผู้ใฝ่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ที่บ้านจึงมีตู้หนังสือ มีหนังสือต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะหนังสือธรรมะ และบทสวดมนต์ต่างๆ ทำให้หลวงปู่มีนิสัยชอบการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เยาว์วัย

    เมื่อเด็กๆ หลวงปู่มีผิวขาว ใบหน้าคล้ายคนฝรั่ง ผมสีแดง จนชาวบ้านชอบล้อท่านว่า เป็นลูกครึ่งฝรั่ง พอโตขึ้นมา ผมสีแดงนั้นค่อยๆ กลายเป็นสีดำ

    พอโตขึ้นมาหน่อย หลวงปู่ถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สามเสน ได้เลขประจำตัว ๗๒๒ ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่จึงมีความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส เป็นอย่างดี มาตั้งแต่เด็กๆ

    ต่อมาท่านได้สอบชิงทุน ก.พ. ไปเรียนวิชาโบราณคดีที่ฮานอย เวียดนาม พอเรียนจบแล้วได้เดินทางกลับเมืองไทย เข้าทำงานที่ห้องสมุดแห่งชาติ (เก่า) โดยมี พระยาอนุมานราชธน เป็นหัวหน้า และหลวงวิจิตรวาทการ เป็นอธิบดีกรมศิลปากร

    หลังจากนั้นไม่นาน ท่านได้สอบเข้าทำงานที่กองการต่างประเทศ (สมัยนั้นขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย) ตำแหน่งล่ามภาษาฝรั่งเศส ทำงานอยู่ได้ระยะหนึ่ง ได้รับคำสั่งให้ไปประจำที่ จ.พระตะบอง (สมัยนั้นยังเป็นของไทย ปัจจุบันอยู่ในเขมร)

    ช่วงนั้นกำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ หลวงปู่ทำงานอยู่ได้ ๖ เดือนก็ย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ ๑ ปีต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ จ.พระตะบอง อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับทำหน้าที่ล่ามประจำจังหวัดหนองคาย

    และที่นี่เอง ที่หลวงปู่ได้รู้จักกับ คุณนายละเมียด สัชฌุกร ได้สนทนากันเรื่องพระพุทธศาสนา ซึ่งหลวงปู่กำลังสนใจในเรื่องนี้อยู่ และได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพระสูตรที่สำคัญสุดในการภาวนา คือ สติปัฏฐานสูตร แต่หลวงปู่ไม่รู้จักการภาวนา และการปฏิบัติก็ยังไม่มี

    คุณนายละเมียด ท่านนี้เป็นลูกศิษย์ของ พระอาจารย์กู่ ธัมทินโน วัดป่าทุ่งสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ผู้เป็นศิษย์รุ่นแรกของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่หลุย หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ลี ฯลฯ

    พร้อมกันนั้น คุณนายละเมียดได้พาหลวงปู่ไปหาพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าทุ่งสว่าง วัดเล็กๆ มีศาลาอเนกประสงค์หลังน้อยๆ หลังคามุงสังกะสีผุๆ ไม่มีฝา ขณะนั้นมีชาวบ้านกำลังนั่งฟังเทศน์จากพระอาจารย์กู่ หลวงปู่ก็เข้าไปนั่งฟังด้วย

    พอท่านเทศน์จบ หลวงปู่ได้สอบถามปัญหาธรรมะต่างๆ อย่างพรั่งพรู โดยหลวงปู่บอกว่า...เหมือนยิงลูกศรไปในอากาศ...มีแต่ความว่าง พระอาจารย์กู่ ท่านไม่มีอารมณ์เลย ท่านไม่มีขัดข้องอะไร มีแต่ความเมตตา ใจเย็นสม่ำเสมอ สบาย นี่ถ้าเป็นพระบางรูป คงจะโกรธแล้ว นึกในใจว่า... พระรูปนี้ไม่ใช่พระธรรมดาเสียแล้ว

    ตรงนี้ทำให้หลวงปู่มีความประทับใจพระอาจารย์กู่มาก จึงได้ไปสนทนากับท่านบ่อยๆ จนเกิดศรัทธาอยากจะบวชขึ้นมาทันที ขณะนั้นเป็นปี ๒๔๘๙ โดยประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทที่วัดศรีเมือง จ.หนองคาย มีท่านพระครูเจ้าอาวาสวัดศรีเมือง และเจ้าคณะจังหวัด (ธรรมยุต) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาท่านพระครูรูปนี้ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ เจ้าคณะภาค)

    หลังจากนั้น หลวงปู่ซึ่งเป็นพระบวชใหม่ได้ไปอยู่จำพรรษากับพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าอรุณรังษี อยู่หลังเรือนจำ นอกเมืองหนองคาย อันเป็นอีกวัดหนึ่งที่พระอาจารย์กู่ปกครองดูแลอยู่ในสมัยนั้น

    หลวงปู่เริ่มปฏิบัติธรรมภาวนาทันที โดยมีพระอาจารย์กู่คอยให้คำแนะนำ และเมื่อปฏิบัติบ่อยๆ เข้าก็เกิดความปีติ มีความรู้สึกว่า การปฏิบัติธรรมภาวนา ทำให้จิตสงบ เป็นความสุขที่หาไม่ได้ง่ายนัก

    มาถึงตรงนี้ หลวงปู่คิดว่า เราสบายแล้ว ไปเที่ยวธุดงค์ดีกว่า ไปนานหรือไม่นานก็ไม่เป็นไร ช่วงนั้นหลวงปู่มีอายุ ๓๑ ปี ใจก็คิดอยากบวชไปนานๆ เลยทำหนังสือขอลาออกงานราชการ

    เรื่องราวของหลวงปู่บุญฤทธิ์ น่าสนใจและน่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชีวิตในสมณเพศของท่าน ที่ได้มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมภาวนา แบบถวายชีวิตต่อพระพุทธศาสนา จนได้พบกับพระคณาจารย์สำคัญๆ ที่ล้วนเป็นพระป่า ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลายท่านด้วยกัน

    ตลอดเวลาที่หลวงปู่บวชเป็นพระกว่า ๖๐ ปี มีเรื่องอันน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรมภาวนา การเดินธุดงค์ไปทั่วทุกแห่งหนในเมืองไทย รวมทั้งการเป็นพระธรรมทูต ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ รวมทั้งอบรมการปฏิบัติธรรมภาวนา เริ่มจากออสเตรเลีย (พ.ศ.๒๕๑๗) เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน เบลเยียม ฯลฯ

    ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา หลวงปู่ได้ทำบันทึกไว้อย่างละเอียด และได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือ เสียงจากปากเกร็ด หนากว่า ๓๐๐ หน้า จัดพิมพ์มาแล้ว ๘ ครั้ง โดยคณะศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ร่วมบริจาคปัจจัยเป็นทุนการจัดพิมพ์เผยแพร่

    หลวงปู่ได้กลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อ ๕ ปีก่อน จนถึงทุกวันนี้ โดยพำนักอยู่ที่ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

    บูชา 550 บาท

    IMG_25620219_145032.JPG
    IMG_25620219_145005.JPG
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่951 พระรอด หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง (หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสก) หลังกากหมาก ปี05
    เนื้อดินผสมสีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระ ลักษณะ เป็นพระเนื้อดินผสมสีผึ้งเขียว พุทธคุณ อานุภาพสุดยอดด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม คงกระพัน แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย มวลสารส่วนผสม

    1.ผงวิเศษเก่าของหลวงพ่อทาบ
    2.สีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบ
    3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร
    4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงพ่อทาบ
    5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี
    6.ผงดินมงคลของหลวงพ่อทาบ
    7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง

    ปลุกเสกครั้งที่ 1 หลวงพ่อทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม

    ปลุกเสกครั้งที่ 2 รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง 1.หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี2.หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก 3.หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง 4.หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิมอิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ และท่านได้นั่งปรกปลุกเสกรวดเดียว 8 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพักฉันน้ำชา (ปกติจะลั่นฆ้องทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้พระคุณเจ้าได้ถอนสมาธิพักผ่อนอิริยาบถและฉันน้ำชาประมาณ 30 นาที) ในบรรดาพระเครื่องเมืองระยอง ในยุคที่ก่อนจะมีการจัดสร้างพระชุดเนื้อผงพรายกุมาร ของ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถ้าถามนักสะสมรุ่นเก่า หลายท่านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าอยากเจ้าชู้ มีเสน่ห์ต้องหา สีผึ้งเขียว หรือ พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ผสมสีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้งมาบูชา รับรอง เรื่องเสน่ห์ เมตตามหานิยมนั้น สุดๆจริงๆ แต่เนื่องด้วยจำนวนการจัดสร้างมีไม่มาก เลยทำให้มีจำนวนพระหมุนเวียนเปลี่ยนมือน้อยมาก อีกทั้งคนระยอง แท้ๆ หวงแหนมากๆ ครับ. หลวงพ่อทาบ เจ้าตำรับสีผึ้งเขียวอันโด่งดังได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ รวมอายุได้ ๘๙ ปี พรรษาที่ ๖๗ นับว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่โด่งดังของภาคตะวันออก อีกรูปหนึ่งครับ

    บูชา 850 บาท

    IMG_20180407_154409.jpg
    IMG_20180407_154359.jpg IMG_20180407_154350.jpg
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    สวัสดีครับ...โอนตามบัญชีนี้ครับ...
    ..............................................................
    ชำระเงินโดยการโอน ธ. กรุงไทย(ปกติ)
    หรือ เน็ตแบงค์ธ. กรุงไทย
    หมายเลข บช.982-4-04009-9
    ชื่อบช.ว่าที่ร้อยตรี ปิติพัฒน์ ภัทรรัฐเจริญสิน
    โทร 081-9151824
    ...............................................................
     
  7. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่952 ลูกอมชานหมากชาตรี (เนื้อล้วน) มีเกศา หลวงพ่อ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เก่าเก็บอย่างดี ทางลูกศิษย์นำมาเลี่ยมพลาสติกไว้ครับ ใส่เกศาพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) และปิดทองคำเปลว
    ลูกอมชานหมากชาตรี เป็นชานหมากที่หลวงพ่อสร้าง หมากคำไหนอร่อยท่านจะเก็บไว้ตามที่พระท่านคุมท่านจะบอก และปลุกเสกสามเดือนเต็มนำมาผสมและพุทธาภิเษกใหญ่อีกหนึ่งครั้ง ชานหมากหลวงพ่อสร้างครั้งแรกที่จันทบุรีหลังจากนั้นมาสร้างที่วัดต่อ ชานหมากชาตรีจะมี2เนื้อ คือ แบบเนื้อชานหมากล้วนและแบบเนื้อชานหมากบดผสมมวลสาร
    หลวงพ่อท่านบอกไว้ว่า ชานหมากชาตรีนี้จะเป็นเรื่องลาภก็ได้ รักษาโรคก็ได้ ป้องกันก็ได้ ถ้าเก็บไว้ให้ดีต่อไปอาจจะเป็นพระธาตุ พุทธคุณเรื่องการป้องกันอันตรายต่างๆ ดีและที่ได้ผลคืออาราธนาในการติดต่อพูดคุย คล่องตัวทุกประการ สวดพร้อมพระคาถาเงินล้าน
    คาถาเงินล้าน
    (ตั้ง นะโม ๓ จบ )
    สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันต ุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
    วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
    (บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)
    หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม เล่มที่ 11 หน้า 81 มีเนื้อความประมาณว่ามีลูกศิษย์ท่านหนึ่ง ท่านได้กราบเรียนหลวงพ่อว่า ชานหมากที่หลวงพ่อท่านคายไว้ที่ท่าลานนั้นกลายเป็นพระธาตุ แล้วจึงเกิดข้อสงสัยว่าทำไมจึงเกิดเป็นพระธาตุได้ ทั้งๆที่หลวงพ่อท่านยังทรงขันธ์อยู่ ปรกติต้องรอมรณะภาพเสียก่อน ถึงจะเกิดเป็นพระธาตุภายหลัง พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจึงได้เมตตาตอบข้อสงสัยว่า... อำนาจ พุทธานุภาพ ท่านสงเคราะห์ละมั้ง คือมันเป็นเรื่องแปลกตอนฉันจะลุกกลับ ตามธรรรมดาฉันไม่เคยคายชานหมาก วันนั้นเคี้ยวๆเลยคาย มีเด็กหนุ่มๆ 3 คน และเด็กสาวๆ 2 คนอายุประมาณ 20 กว่าๆมากราบ บอกหลวงพ่อครับของที่เป็นมงคลผมขอนะครับ...บอกเอาไปเถอะลูก เท่านั้นแหล่ะ แล้วแกก็เอาไป และเป็นขึ้นมาได้ยังไงก็ไม่รู้...และหลวงพ่อท่านก็ตอบต่อว่า ชานหมากที่เป็นพระธาตุนั้น ค่อยๆเป็นทีละน้อยๆ ขึ้นมาและจนกระทั่งเดี๋ยวนี้เป็นหมดแล้ว....
    เรื่องถัดมา มีลูกศิษย์ อีกท่านหนึ่งได้กราบเรียนหลวงพ่อท่านว่า ชานหมากที่หลวงพ่อเมตตาให้ ที่วัดเขาไผ่จังหวัดระยอง ลูก ศิษย์ท่านนี้นำไปบูชาเพียง 1 วันก็กลายเป็นพระธาตุ อีก 1 องค์หลวงพ่อท่านกล่าวชมและบอกต่อว่า ความจริงน่าจะได้มากกว่านั้น.... และท่านได้กล่าวต่อไปว่า การที่ชานหมากจะกลายเป็นพระธาตุช้าหรือเร็วนั้น เกี่ยวกับการบูชาตามกำลังใจ อยู่ที่กำลังใจนะ....
    คราวนี้มาถึงการแจกชานหมากของหลวงพ่อที่สายลมบ้าง หลวงพ่อท่านเล่าว่า...
    เมื่อเช้านี้ที่ปทุมธานีตอนเช้าตรู่ หลวงพ่อปานท่านมาบอกว่าให้ขอสมเด็จองค์ปฐมว่า ชานหมากนี่ขอเป็น ชาตรี นำหน้า สมเด็จองค์ปฐมท่านมาบอก เมื่อขณะหมอให้น้ำเกลือท่านบอก ความจริงฉันก็ซุกทุกอย่างแล้วนะ คราวนี้ขอนำหน้าก็ขอให้อยู่หน้า ฉะนั้นอย่างพระหางหมากนี่ ท่านก็ซุกไว้แล้วใช่ไหม และมีเรื่องของคนที่อยู่ที่พิษณุโลกขับรถปิคอัพชนรถ 10 ล้อ ก็ปรากฎว่าแคล้วคลาดปลอดภัยไม่มีอันตรายใดๆ แม้แต่รอยถลอกครับ
    ส่วนอีกท่านหนึ่งท่านป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับการปวดขา ตอนแรกท่านอาราธนามาทำน้ำมนต์ก็กลัวจะหายช้าก็เลยจัดการ เคี้ยวชานหมากหลวงพ่อหมดทั้งเม็ดเลย ปรากฎว่าเห็นผลทันตาสามารถเข้าส้วมงอขาได้ ขางอได้และเจ็บเพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง.... และหลวงพ่อท่านได้กล่าวอีกว่า ชาน หมากชาตรีนี้...จะเป็นเรื่องลาภก็ได้ รักษาโรคก็ได้ ป้องกันก็ได้ ถ้าเก็บไว้ให้ดีในที่ใสๆ ต่อไปอาจจะเป็นพระธาตุ (อันนี้เป็นอย่างเบา) ถ้าเต็มที่จะกลายเป็นพระธาตุแก้ว
    ผู้ถามจึงเรียนถามหลวงพ่อว่า ชานหมากคราวนี้จึงมีผลสมบูรณ์แบบ
    หลวงพ่อท่านตอบว่า ใช่ๆ ท่านทำแรงมาก ไม่เคยทำไว้เลย และถ้ากลัวว่ากินเพื่อรักษาโรคจนหมดก็จะเสียดายกัน ท่านจึงตอบว่า ให้เอาพลาสติกห่อซะ แล้วก็แช่ทำน้ำมนต์ ถ้าทางที่ดีนะหุ้มพลาสติกห้อยคอหน่ะดีมาก ใส่ไว้นะจะมีประโยชน์ ประโยชน์หลายอย่าง....

    บูชาลูกละ 750 บาท เหลือมี 4 ลูกครับ

    IMG_25620131_221352.JPG
    IMG_25620131_215244.JPG IMG_25620131_215401.JPG
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่953 ลูกแก้วมณีรัตนะ(เล็ก) ลูกแก้วมะเฟืองรุ่นแรก (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
    หลวงพ่อรับบัญชาจากพระท่าน ให้สร้างลูกแก้วสารพัดนึกขึ้นเพื่อสงเคราะห์ลูกหลานให้มีความคล่องตัว โดยลูกแก้วมะเฟืองนี้ถือเป็นลูกแก้วมณีรัตนะรุ่นแรกที่หลวงพ่อพุทธาภิเษก เมื่อปี2517 จะมีทั้งที่เป็นลูกใหญ่และลูกเล็ก

    (คัดลอกจากหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒-๑๒๔) …ลูกแก้ว นี้มีประวัติมาจากไหน คือแก้วอาตมา มีอยู่ลูกหนึ่ง ไม่ทราบว่ามาจากไหน ทราบแต่ว่าเป็นของต้นตระกูลสืบต่อกันมาหลายชาติ ก็ขึ้นไปหาโยมท่านที่ดาวดึงส์ ไปถามโยมผู้ชายว่าโยมทราบประวัติของลูกแก้วนี้ไหม ท่านบอกว่า ท่านทราบประวัติแต่ไม่เคยใช้มาก่อน คนที่เคยใช้จริงๆ คือโยมผู้หญิง โยม ผู้หญิงท่านบอกว่า ท่านใช้มาแล้วหลายสิบชาติ และก็สมัยครองราชย์ ท่านบอกว่า เรามีแก้วลูกเล็กลูกเดียวประชากรในประเทศของเรายังไม่มีใครจนเลย ท่านเลี้ยงพอ ก็เลยถามประวัติความเป็นมา ท่านบอกว่า เดิมทีเป็นลูกแก้วลูกยอดของพระเจ้าจักรพรรดิ์ เลยถามท่านว่า เวลานี้แก้วของพระเจ้าจักรพรรดิ์อยู่ที่ไหน ท่านบอกว่า อยู่ที่พระจุฬามณี จึงพาไปดู ความจริงสมัยของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่มีแก้วมณี มีพระขรรค์แก้ว มีเกือกแก้ว มีจักรแก้ว แต่ว่าทั้ง ๔ อย่างนี้อยู่คนละที่ มีเทวดารักษาอยู่ ถ้าใครจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ เทวดาก็จะนำทั้ง ๔ อย่างมามอบให้ แต่ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์คนนั้นตาย คนอื่นจะรับมรดกแทนไม่ได้ …เทวดาต้องเอาของเขากลับคืนไป เทวดาท่านต้องหวงแหน เพราะว่าของ ๔ อย่างนี้ ต้องเป็นของคนที่มีบุญพอจึงจะครองไว้ได้ สร้างวัดท่าซุงในตอนแรก หลวงปู่ชุ่มท่านเอามาให้ เมื่อวันที่ท่านจะกลับท่านขึ้นไปหาบนห้อง ท่านบอกว่า “น้อง ไม่ช้าพี่ก็ตาย อยู่ไม่ได้ แต่ว่าน้องจะต้องอยู่อีกนาน” ประวัติเดิม เคยเกิดเป็นพี่น้องกันมา ท่านก็เลยนำแก้วออกมา บอกว่า “แก้วลูกนี้เป็นของต้นตระกูล สืบต่อกันมาหลายชาติ น้องจงรักษาไว้ เมื่อมีลูกแก้วนี้แล้ว จะทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง” ในช่วงนั้นสร้างเงินเป็นหมื่นก็เป็นหนี้เขาแต่ว่าต่อมาเมื่อได้ลูกแก้วนี้ ขึ้นมา สร้างอะไรต่างๆ ทางด้านโบสถ์ สร้างทั้งหมดใช้เวลา ๓ ปี โบสถ์หลังเดียวใช้เวลา ๓ ปี ยังไม่ยากจะเสร็จเลย แต่ว่าสิ่งก่อสร้างทางด้านโบสถ์นะ เมื่อได้ลูกแก้วนี้มาแล้วใช้เวลาสร้างทั้งหมด ๓ ปี และก็ ๓ ปีนะ อาตมาไม่ได้ปั๊มเงินเองนะ ก็ได้เงินจากท่านพุทธบริษัททั้งหมดนี่และช่วยสร้าง และต่อมาปี ๒๕๒๐ ท่านก็สั่งให้สร้างสถานที่ใหม่ ท่านบอกว่า สถานที่นี้ควรจะเป็นที่เพราะพระอริยะเจ้า ท่านมาสั่งสร้าง แล้วท่านก็ออกแบบของท่านเอง ก็เลยคิดตามท่าน ว่าถ้าเป็นแบบนี้จะต้องใช้เงินเดือนหนึ่ง ๖ แสน กับ ๘ แสน สลับกัน ถ้าเดือนไหนใช้ต่ำไปหน่อยอีกเดือนหนึ่งก็จะใช้เกินไป ถามท่านว่า ถ้าจำเป็นแบบนี้แล้วจะไปเอาเงินที่ไหน ท่านบอกว่า “แกทำไปเถอะ ฉันไม่ให้เป็นหนี้มาก ถ้าเป็นหนี้ก็ใช้ง่าย” พอเริ่มลงมือทำเข้าจริงๆ ก็ต้องใช้เงินเดือนละ ๖ แสน กับ ๘ แสน สลับกันมา พอหลังจากน้ำท่วมปีที่แล้ว (ปี ๒๕๒๓) เข้าเดือนธันวาคม ปรากฏว่าค่าใช้จ่ายกลายเป็นเดือนละล้านเศษ แต่ว่าเงินให้เขาไม่พอ ได้จากญาติโยมเท่าไหร่ พวกเจ้าหนี้ก็มาเอาไปหมด แต่เราได้วัตถุคืนมานะ ก็เป็นอันว่า แก้วนี้ถ้ารับไปเพื่อใช้ให้ทำเป็นกรรมฐาน ทุกวันและทุกวันที่บูชา ใช้บูชาด้วยคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า และควรอธิฐานว่า ขอความปรารถนาทุกอย่างจงสำเร็จทุกประการ เท่านั้นแหละ

    ลูกแก้วทั้งหมดทุกแบบทุกรุ่น หลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกโดยใช้ลูกแก้วจักรพรรดิ์องค์จริงเป็นประธาน พระท่านบอกกับหลวงพ่อท่านว่า ผลจะได้ถึง 99%ของลูกแก้วองค์จริง

    การอาราธนาลูกแก้วท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า “ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ”

    เพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ใช้ท่องกับคาถาเงินล้านครับ การเงินจะคล่องตัว

    คาถาเงินล้าน

    (ตั้ง นะโม ๓ จบ )

    สัมปจิตฉามิ
    นาสังสิโม
    พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน )
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันต ุเม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตภาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา
    วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
    (บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)

    บูชาลูกละ 950 บาท มี 3 ลูกครับ

    IMG_25620131_221319.JPG
    IMG_25620131_215123.JPG C37E2A60-203C-4424-A0B1-1284DE54F99F.jpeg
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่954 ตะกรุดพญายันต์สาริกาคู่ ยุคต้น หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น ขนาด 2.5 ซม.
    ตะกรุดสาริกาครูบาวัง พุทธคุณโดดเด่นด้านเมตามหานิยม ดึงดูเพศตรงข้าม เหมาะกับงานเจรา เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ ดีมากๆครับ ทำมาหากินคล่องตัว เปรียบเสมือนม้าอาชานัยวิ่งไปข้างหน้า เจริญอุดมโภคทรัพย์ เมตตาค้าขาย เจริญก้าวหน้าใครก็ฉุดไม่อยู่ บางคนถูกหวย บางคนเจ้านายรัก ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

    ตะกรุดพญาสาลิกาคู่เมตตามหาเสน่ห์ หลวงพ่อครูบาวัง วัดบ้านเด่น ชนิดนี้สร้างน้อยมากครับน้อยกว่าจำปาสี่ต้นและเก้ากลุ่มอีก โดยส่วนมากท่านจะใส่ห้อยกับยันต์หนีบเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในสมัยนั้นหลวงพ่อชอบแจกให้กับเด็กหนุ่มและแม่ค้าที่มาทำธุระกับท่าน สมัยนี้หาให้เห็นได้ยากแล้วครับ ส่วนมากอยู่ในกระป๋องตังส์แม่ค้าในตลาดอำเภอเมืองตากหมดครับ ท่านว่าเป็นเมตตาในการพูดเจรจาค้าขายดีครับเหมือนต้องมนต์สะกด ทำให้คนเชื่อถือ ก็เปรียบว่า “คารมณ์เป็นต่อรูปหล่อเป็นลองครับ” มีอยู่คู่เดียวครับ
    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_25620527_133754.JPG IMG_25620527_133722.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2019
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่955 ลูกอมมหาเสน่ห์ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ เลี่ยมเดิม
    สุดยอดลูกอมมหาเสน่ห์ เนื้อผงอิทธิเจ หลวงพ่อสวงน วัดไผ่พันมือ (ยุคต้น)
    หลวงพ่อสงวนได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำผง(ลบ ผง)อิทธิเจได้ขลังไม่เป็นสองรองผู้ใด
    ... งานเข้าทุกรายกับผู้ใช้ลูกอมของท่าน หลายคนนำไปใช้แล้วมีประสบการณ์แปลกๆเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ...

    หลวงพ่อสงวน ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ จ.สุพรรณบุรี ท่านสำเร็จและเจนจบวิชาการทำผงต่างๆ นาๆ ผงเขียนลบของท่านมีประสบการณ์อภินิหารมากมายเป็นที่ทราบกันดี อาทิ ผงตรีนิสิงเห, อิทธิเจ, มหาราชฯ ท่านทำได้หมดและทำได้เข้มขลังมาก โดยเฉพาะผงทาง "เมตตามหาเสน่ห์ชั้นสูง" นั้นถือว่าท่านทำได้ "ขึ้น" เลยทีเดียว

    แม้แต่หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ยังเอ่ยปากชมท่านและบอกกับลูกศิษย์เลยว่า..."เรื่องเสน่ห์ต้องยกให้อาจารย์หงวนเค้าโน่น!" กระทั่ง "ปู่เสือมเหศวร" จอมโจรคนจริงในยุคเก่าก่อนยังยอมลงให้ท่านเลย

    คาถากำกับ : นะโม 3 จบ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ ตามด้วยอธิฐานขอ...

    คุณshaj ปิดครับ
    IMG_25620527_133128.JPG IMG_25620527_133027.JPG IMG_25620527_132931.JPG 1403637944-00365338-o.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2019
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่956 รูปหล่อพระสีวลีจกบาตร ก้นอุดผงและฝังพลอยเสก หลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) ปี 2554
    ❖ สิ่งที่ปรากฎจริง ตามคำครูหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ

    “เสียดาย..เราสร้างน้อย วันหน้าคนจะหากัน...”
    คำของหลวงปู่หงษ์ พูดถึงวัตถุมงคล ของท่าน ณ สุสานทุ่งมน อันมีประสบการณ์ที่ปรากฎแก่ศิษย์ กับคนดีมีศีล


    แม้ศิษย์ธรรมดาเราๆ ได้ประสบการณ์วัตถุมงคลนี่ ก็ยังถือว่าไม่แปลก คนมีบุญ มีวาสนาคงไม่ต้องพูดถึง ขนาดคนลำบาก หาเกินค่ำ บูชาแล้วมีแต่ดีขึ้น มีประสบการณ์ไปต่าง ๆ ดังคำว่า “พระหลักร้อยแต่ พุทธคุณหลัก ล้าน” ก็คงจะเปรียบกับวัตถุมงคลหลวงปู่หงษ์ได้จริง ท่านช่วยของท่านได้จริง ๆ ประจักษ์แล้วซึ่งพุทธคุณอธิฐานด้วยบารมีมหาโพธิสัตว์ มิได้อาศัยโฆษณาชวนเชื่อ หวังสร้างกระแสหรือหาค่าประโยน์จากเงินทองท่านผู้อ่านแต่อย่างใด

    บ่อยครั้งที่ผู้เขียนจะได้ยินหลวงปู่หงษ์ท่านกล่าว ก่อนประสิทธิ์ประสาทมอบให้ว่า “วันหน้าถ้าเขาให้ไม่ถึงล้านอย่าให้เขาเด้อ..” คำครูบาอาจารย์ห่วงใยฝากฝัง แทนคำพูดมากมาย ให้เห็นค่าพุทธคุณที่สูง ให้เรามีศรัทธามั่นคง เคารพรู้คุณค่า บูชารักษาไว้ แล้วจะรู้เองเห็นเองว่าดีอย่างไร ดังคำโบราณว่า “ทองก็ย่อมเป็นทอง”

    วัตถุสิ่งของอันเป็นมงคลบารมีอธิฐานของพระโพธิสัตว์ยิ่งใหญ่ เสมอภูมิธรรมแห่งความเมตตาที่หวังช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้ไม่มีประมาณ เป็นที่พึ่งที่ระลึกได้จริง ชาวบ้านศรัทธาของเค้าจริง ๆ พอเข้าหน้าหนาวหลังเก็บเกี่ยว ศิษย์คนธรรมดา ผ้าเก่า ๆ นี่แหละ มาหาหลวงปู่ มาบูชาวัตถุมงคลกันทีละมาก ๆ เรียกว่ายินดีทำบุญมาก ๆ ไม่มีคำว่าเสียดาย

    โดยมากชาวบ้านว่ากันตรง ๆ ก็คิดว่าได้เป็นการถวายทำบุญกับหลวงปู่ครูบาอาจารย์ที่เขาเคารพนับถืออีกทางหนึ่ง ทั้งได้วัตถุมงคลเป็นไว้เป็นหลักฐาน ประจักษ์พยานอนุสติระลึก ก็เป็นจัดบุญ เหมือนกัน ทั้งมอบต่อมรดกคุ้มครองลูกหลานด้วย ใช่จะมองว่าเป็นความงมงายไม่รู้จักคิด แต่จิตใจเขาสะอาดไม่มีเล่ห์เลี่ยมสละได้แม้จะหาเงินมาด้วยลำบาก อุตสาหะ ในการประกอบสัมมาอาชีพ หลวงปู่หงษ์ก็มีเมตตาหวังสงเคราะห์กลับด้วยจิตใจที่เมตตาเต็มเปี่ยม ความเป็นผู้ให้ก่อนของหลวงปู่หงษ์ ด้วยเมตตา ปรารณา ช่วยเหลือเกื้อกูล ยังศรัทธาให้เกิด หลวงปู่ช่วยปัดเป่า คุ้มครอง ชีวิตทั้งหลาย คน สัตว์ ให้ร่มเย็นเป็นสุข ได้ วัตถุมงคลที่ ช่วยปัดเป่า คุ้มครอง ค้ำชูชีวิตทั้งหลาย กับผู้ปฎิบัติตนดี บูชาวัตถุมงคลเป็นอนุสติ เป็นบุญกุศลประดับตน.....

    สาธุ ๆ ขอยอ ยกคุณ พระพรหมปัญโญ (หงษ์) มหาโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ด้วยเศียรเกล้า

    นะเมติ นะเมติ นะเมติ
    พระศุภกิจ ปภัสฺสโร

    คุณรักคุณเท่าฟ้า ปิดครับ
    IMG_25620527_133542.JPG IMG_25620527_133457.JPG IMG_25620527_133520.JPG IMG_25620527_133432.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2019
  12. รักคุณเท่าฟ้า

    รักคุณเท่าฟ้า สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +69
    ขอจอง รายการที่ 947--956
     
  13. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,883
    ค่าพลัง:
    +6,810
    ขอจองครับ
     
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,883
    ค่าพลัง:
    +6,810
    ขอจองครับ
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ...ขอบคุณครับ
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองรายการ 954,955 ครับ...ขอบคุณครับ
     
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่957 พระผงรูปเหมือน รุ่นแรก หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ เนื้อขมิ้นเสก ปี 2541
    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์ ถือได้ว่าเป็นสุดยอดเกจิขมังเวทย์ เก่งทางไสยเวทย์มากที่สุดรูปหนึ่งของภูมิภาคนี้ ท่านเป็นพระที่เดิมทีถือธุดงควัตรอยู่แต่ในป่า ตามแนวชายแดนไทย แต่เมื่อท่านอายุมากขึ้นลูกศิษย์จึงได้นิมนต์เข้าจำพรรษาที่วัด ของที่ท่านปลุกเสก ทุกรุ่นล้วนมีประสพการณ์กับผู้ใช้ทั้งสิ้น พระรุ่นนี้เป็นเนื้อผงสร้างน้อยมาก เพราะมวลสารมีจำกัด สร้างหลัก ร้อยองค์เท่านั้น พุทธคุณเด่นทุกด้านครับ
    บูชา 300 บาท
    IMG_25620528_211926.JPG IMG_25620528_211901.JPG
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่958 พระลีลาเม็ดขนุน กรุลานดอกไม้ จ.สุโขทัย
    พระกรุลานดอกไม้ จ.สุโขทัย เป็นพระเครื่องที่แตกกรุออกมาเมื่อประมาณปี 2520 เนื่องจากทำการปรับพื้นที่ เพื่อสร้างลานอุทยานเผาเทียนเล่นไฟในปัจจุบัน ว่ากันว่ามีการพบพระขึ้นมาเป็นจำนวนมากประมาณ 2 คันรถกระบะ มีมากกว่า 4-50พิมพ์ที่แตกต่างกัน แต่พิมพ์แปลกๆ คนมักเล่นเป็นที่อื่นเสีย เพื่อค่านิยม เลยกลายเป็นว่ากำลังจะสูญหายไปหมดแล้ว(โดนย้ายบ้าน)

    พิมพ์ ของพระ มีมากมายหลายแบบด้วยกัน ซึ่งทุกพิมพ์ล้วนเป็นศิลป์สุโขทัยทั้งสิ้น มีทั้งแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และที่ล้อหรือมีความใกล้เคียงกันกับพระกรุกำแพงเพชร

    จุดน่าสังเกตอย่างหนึ่งคือ พระกรุนี้ไม่มี่การตัดปีกด้วยของมีคม แต่ใช้มือคลึงๆเอาตอนกดพิมพ์จากด้านหลัง บ่งบอกถึงความปราณีตในการจัดสร้าง ปีกพระจึงมีกว้างบ้าง แคบบ้าง ตรงบ้าง เบี้ยวบ้าง ไม่แน่นอนแล้วแต่ผู้สร้าง จึงไม่มีขนาดมาตรฐานที่แน่นอน บางองค์เป็นพิมพ์เดียวกันมีความเล็กใหญ่ต่างกันมากๆ ด้านหลังมีลายมือผู้กดพิมพ์ทุกองค์ ลักษณะของ พิมพ์ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนูนต่ำ มีเส้นสายรายละเอียดที่เล็กมาก ยากที่จะทำตามอย่างได้ และแม้ว่าพระจะมีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ๆละพิมพ์อย่างเช่นพิมพ์นั่ง หรือพิมพ์นางที่พบมาก ก็ยังมีแม่แบบแม่บล็อคอยู่อีกหลายตัว อย่างน้อยๆก็ 4-5 บล็อคที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถสร้างพระจำนวนมากได้ในเวลาที่ไม่นานนัก และยังแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการของพิธีสร้าง ว่าไม่ใช่คนธรรมดาตาสีตาสาสร้างแน่นอน ต้องเป็นพิธีใหญ่ใช้ทุนทรัพย์มากทีเดียว จึงจะสร้างพระได้มากพิมพ์ขนาดที่ว่านี้

    ลักษณะเนื้อพระ เป็นพระกรุเนื้อดินที่มีเนื้อหาเนียนละเอียด ผ่านการกรองอย่างดีไม่มีกรวดทรายเลยสักเม็ด ผิวมีตั้งแต่แบบแห้งแกร่ง จนถึงละเอียดนุ่มแบบกำแพง มีความมันจัด

    สี ของพระจะมีทั้งเหลืองพิกุล น้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม สีส้มหรือแดงหม้อใหม่ แดงเข้ม เขียว ไปจนถึงดำ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เผา เหมือนกับพระเนื้อดินเผาปกติทั่วไป คราบไคล และสิ่งที่อยู่บนผิว บนผิวหน้าของพระหลายๆองค์จะมีรอยว่านหลุด ซึ่งเป็นปกติของพระเก่า ที่มวลสารส่วนประกอบภายในที่เป็นอินทรีย์สารเช่นว่านต่างๆจะยุบตัวหายไป(บาง ทีก็เกิดจากการเผา) ทำให้เกิดโพรงในองค์พระ นานเข้าโพรงนั้นจะยุบตัว ทำให้เป็นร่องบนผิวพระ
    พระสภาพเดิมๆจะมีคราบน้ำว่านติดอยู่ตามซอก หรือลายนิ้วมือด้านหลัง สีน้ำตาลเข้มอมเขียวหรือสีแดงเข้ม มีเหมือนกันที่ลงรัก แต่พบน้อยมาก องค์ไหนที่แห้งๆไม่ผ่านการจับต้อง ส่องแล้วจะเห็นคราบมุกระยิบระยับ นั่นก็คือแคลเซี่ยมในอากาศภายในกรุนั่นเอง
    ดิน กรุที่อยู่มาคู่กับพระที่บรรจุกรุอยู่เป็นเวลานาน สีมักจะออกเขียวขี้ม้า น่าจะเกิดจากตะไคร่ที่จับตัวอยู่กับเจดีย์ หรือเกิดขึ้นเพราะความชื้นภายในกรุ ต่อมาทับถมกันเข้าเป็นเวลานาน กลายเป็นดินสีเขียวๆจับองค์พระ

    บูชา 650 บาท
    IMG_25620528_211725.JPG IMG_25620528_211700.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่959 พระสมเด็จรุ่นแรก พิมพ์พระประธาน วัดเลียบ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน ปี 2516 ด้านหลังติดจีวร
    พระสมเด็จ ปี 16 นี้ สร้างโดยหลวงพ่อสร้อย ในปี 2516 ด้านหน้าเป็นรูปของ องค์พระประธาน ที่ประดิษฐานในพระอุโบสถวัดเลียบราษฎร์บำรุง มวล สาร ที่นำมาสร้าง เป็นผงพุทธคุณล้วน ๆ ที่หลวงพ่อสร้อยทำการลบผงเอง โดยวิธีการลบผงของท่านพิศดารมาก นอกจากนั้น ยังได้ผงวิเศษ ที่หลวงปู่สรวง ได้พาหลวงพ่อสร้อยกลับไปยังประเทศเขมร เพื่อนำผงวิเศษต่าง ๆ กลับมาสร้างพระสมเด็จพิมพ์นี้โดยเฉพาะ หลวงปู่สรวง และหลวงพ่อสร้อย เสี่ยงภัยอันตราย เดินผ่านแนวกระสุนของทหารเขมร เพื่อไปเอาผงวิเศษ ท่านๆคิดดูนะครับว่าท่านตั้งใจสร้างขนาดไหน ที่สำคัญ พระสมเด็จรุ่นนี้ หลวงพ่อสร้อย ผสมมวลสาร และ กดพิมพ์ด้วยตัวท่านเอง จนสำเร็จได้พระสมเด็จที่สวยงามยิ่งนัก จากนั้น หลวงปู่สรวงและหลวงพ่อสร้อยได้ทำการอธิษฐานจิต เสกพระสมเด็จนี้เป็นการเฉพาะให้เป็นระยะเวลานาน หลายเดือน เสกอย่างเต็มที่แล้ว หลวงพ่อสร้อยได้นำพระสมเด็จเกือบทั้งหมด ( บางส่วนออกแจก ) บรรจุกรุใต้องค์พระประธาน ในพระอุโบสถวัดเลียบราษฎร์บำรุง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา จนกระทั้งปี 2519 วัดเลียบได้เกิดอุทกภัย ทำให้พระอุโบสถเกิดความเสียหาย จึงได้ทำการบูรณะ ทำให้ได้พบพระสมเด็จรุ่นนี้ใต้ฐานพระประธาน หลวงพ่อสร้อยจึงได้ทำการออกแจกจ่าย และหมดอย่างรวดเร็ว พระสมเด็จนี้มีอานุภาพสูงมาก ๆ ผู้ที่ได้บูชาไป ต่างเจอประสบการณ์มากมาย ทั้งยังโดดเด่นเรื่อง มหาลาภ มหาโชค ค้าขาย ร่มเย็นเป็นสุข ทั้งยังแคล้วคลาดปลอดภัยนานาประการ

    ประวัติหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดิน ตอนที่ 83 ( พระสมเด็จรุ่นแรกพิมพ์พระประธานวัดเลียบ)
    ตอนหลวงปู่ไปบิณฑบาตร
    เห็นหลวงตาบิณฑบาต
    ครั้งแรกในป่าลึกบนเขาเขตอำเภอกันทรลักษ์
    ครั้งที่2ในป่าบนเขาลึกเขตอำเภอน้ำยืน
    ทั้ง2ครั้งนี้หลวงตาออกบิณฑบาตในพื้นที่ซึ่งไร้ผู้คน

    ท่านพาลูกศิษย์ไม่เต็มบาทไปด้วยคนหนึ่ง อีกคนก็คุณบุญเลิศซึ่งถือว่าเต็มบาท
    รอนแรมอยู่ในป่าเขาหลายวันจนเสบียงหมด หิวแสบไส้จนตาลาย

    หลวงตาได้บอกคุณบุญเลิศในตอนเช้าวันหนึ่งว่าให้คอยอยู่ที่นี่ ท่านจะไปบิณฑบาต
    องค์ท่านหายไปไม่นานเกินรอก็กลับมา พร้อมกับอุ้มบาตรใบใหญ่ มีอาหารเต็ม
    ไม่ทราบว่าท่านไปเอาบาตรมาจากไหน ไม่รู้ว่าใครใส่บาตรให้ท่าน อาหารนั้นมีพอฉันและพอกินทุกคน

    เป็นอาหารคาวหวานพื้นๆเหมือนที่เคยกินกันทุกวัน แต่อร่อยมากจนเห็นว่าผิดปกติ
    ดูใบตองที่เย็บห่อก็ปรานีตกว่าที่เคยเห็นชินตา กินครั้งเดียวอิ่มไปทั้งวัน กระทั่งน้ำก็ไม่รู้สึกกระหาย แปลกดี ทั้ง2แห่งที่หลวงตาออกบิณฑบาต เหตุเกิดเหมือนกันทุกประการ

    พระสมเด็จวัดเลียบ กทม รุ่นแรก เป็นพระที่หลวงพ่อสร้อยสร้างในปี 2516 เมื่อสร้างเสร็จแล้วเก็บไว้ในกล่องไม้ที่ศาลาสวดมนต์หลังเก่า เมื่อโบสถ์สร้างเสร็จจึงย้ายกล่องไม้ที่เก็บพระไปทำพิธีปลุกเสกและฉลองโบสถ์ในปี 19 และเก็บพระไว้ที่โบสถ์เลย
    พระได้ผ่านการปลุกเสกในพิธีเสาร์ห้าในปี 23 และในปีนี้ที่วัดได้ทำพิธีสวนภานยักษ์ด้วยในปี 26 ทางวัดทำพิธีสวดภานยักษ์อีกทีและในปีนี้ศาลาหลังใหม่สร้างเสร็จได้ย้ายกล่องใส่พระมาเก็บไว้ที่ศาลาหลังใหม่และเริ่มเอาพระออกให้ประชาชนเช่าบูชาและพระชุดนี้ที่เหลือยังเช่าบูชาไม่หมดได้นำเข้าพิธีปลุกเสกในปี 35 ปี 39

    พระชุดนี้น่าใช้มากๆเพราะผ่านพิธีปลุกเสกหลายพิธีมาก
    พระมี 1 พิมพ์ 2 สีคือสีเทาและสีดำสีดำพระมีจำนวนน้อยแค่หลักสิบหลักร้อยเท่านั้น
    แต่เนื่องจากการเก็บหลายปีและหลายสภาพภูมิอากาศ พระจำมีหลายสภาพ
    (พระบางส่วนโดนน้ำท่วม )

    พระของหลวงปู่ว่ากันว่าโดดเด่นหลายทางตามคำอธิษฐานดังนี้
    1. บูชา 1 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี
    2. บูชา 2 อาทิตย์ เห็นฤทธิ์ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสาย
    3. บูชา 3 อาทิตย์เห็นฤทธิ์ ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนัน เสี่ยงดวง หวยล็อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอนหากผู้นั้นบูชาด้วยความศรัทธาแน่วแน่
    4. เรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง
    5. ขอได้ดังใจนึกทางด้านค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเวลาเดือดร้อนทางการเงิน ให้ทำพิธีบอกกล่าวจุดธูปบอกท่านและอาราธนาขอพรเช้าเย็น 9 จบ ท่านจะช่วยให้เห็นผลได้รับความสำเร็จสมหวังมามากแล้วไม่เชื่อทดลองเถิด
    6. คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ
    7. ป้องกันคุณไสย์แก้อาถรรพณ์ ป้องกัน ผีสางนางไม้ เจ้าที่เจ้าทางได้
    8. เสริมดวงหนุนดวงชะตา
    9. ป้องฟ้าผ่า ไฟไหม้ ได้

    ปิดครับ
    IMG_25620528_211833.JPG IMG_25620528_211809.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2021
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่960 ตะกรุดลูกปืน 3K.รุ่นเมตตา มหาอุด อ.ตี๋เล็ก สำนักปฏิบัติธรรมเขาสุนะโม ปี 2556 ขนาดความยาวประมาณ 6 ซม.
    บูชา 350 บาท

    IMG_20181108_222106.jpg IMG_20181108_222125.jpg IMG_20181108_222115.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...